ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SNSD] Why Got Married!!! จะแต่งไปทำม้าย!!! [YoonSeo]

    ลำดับตอนที่ #2 : ก็มันงานนิคะ....

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 617
      0
      8 เม.ย. 53

    คุยกันก่อน

    เป้นอีกเรื่องหนึ่งที่ยังคงหมกมุ่นอยู่กับ รายการเดิม ฮาๆๆๆ

    จะเบื่อแล้วก็ไม่ว่านะคะ

    ที่จริงมีฟิคยาวอยู่ เลยลงไปกับฟิคนั้นแทน

    แล้วฟิคสั้น ใช้ระบายเท่านั้น

    ฟิคนี้แค่อิงสถาณการณ์จริงเท่านั้นเองนะคะ

    ปล. ต้องเตือนก่อน นี้ออกแนวหวานๆ นะเอ่อ ถ้าเบื่อกนอย่าว่าล่ะเอ้อ

    **************


    “ทำได้ดีนะครับ”
    “ขอบคุณค่ะ”

    “ผมสนุกมากครับ”
    “เช่นกันค่ะ”

    ภาพของชายหนุ่มแลหญิงสาวที่ตบมือดัง ‘แป๊ะ’ ปรากฏขึ้นใต้หอพักโซนยอชิแด
    บทสนทนาเริ่มต้นอีกเล็กน้อยก่อนจะโบกมือลากันสักที


    อีกคนที่แอบมองอยู่บนหอพักก็มัวแต่คอยคนข้างล่าง
    ใบหน้าเรียวที่สวมใส่แว่นดำหันขวับกลับมาที่หน้าจอทันทีที่เห็นภาพบาดใจ
    มือเอื้อมไปขยับโน้ตบุคที่ช่วยแก้เหงาให้ห่างออกไป
    ก่อนจะรีบกุลีกุจรทำเป็นเผลอหลับฟุบกับโต๊ะแทนการเดินไปต้อนรับที่ประตูอย่างเคย

    ..........ก็คนมันน้อยใจ.......
    คิดแล้วน้ำตาจะซึมเอาให้ได้ ฮึกๆ..................



    เสียงประตูเปิดและปิดลงอย่างแผ่วเบาก่อนจะหันมา..........


    “พี่....ยุน.....”
    ตอนแรกก็คิดจะทักให้ได้ยิน
    แต่พอเห็นอีกฝ่ายฟุบหลับอยู่อย่างนี้เสียงจึงแผ่วลงเล็กน้อย


    เท้าค่อยๆก้าวย่องไปวางของ ก่อนจะเดินเบาๆกลับมานั่งข้างๆอีกฝ่าย
    จ้องมองใบหน้าเรียวคมอยู่สักพัก
    จึงตัดสินใจเลื่อนมือไปที่แว่นสายตาบนใบหน้าเรียวนั้น
    ซอฮยอนค่อยๆจับมันถอดออกอย่างระมัดระวัง

    คนที่แสร้งหลับขยับเล็กน้อยแล้วครางขึ้นในลำคออย่างเนียนๆ
    กิริยาแบบนี้ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นปิดปากแล้วหัวเราะเล็กๆ


    ซอฮยอนย้ายตัวของเธอมาอีกฝั่งเพื่อจะขยับโน้ตบุคตัวดีออกให้ยุนอา
    เธอเพ่งมองข้อความบนหน้าจอก่อจะปิดมันลง






    …………….ประชดประชันเก่งเป็นที่หนึ่งเลยพี่คนนี้เนี่ย.......................


    คิดได้แล้วก็แอบอมยิ้ม
    ใจที่คิดจะปลุกให้อีกคนเข้าไปนอนข้างในกับถูกเปลี่ยน
    ซอฮยอนราบใบหน้าลงกับโต๊ะกระจกนั้น แล้วหันมองมาที่ยุนอา

    ไม่ได้เห็นหน้าตอนหลับแบบนี้มานานแล้วสิเนอะ
    ไม่ค่อยมีเวลาอยู่ด้วยเลยตอนนี้
    ถ้าไม่ใช่พี่ไปอัดรายการ ก็เป็นที่ฉันต้องไป
    ……คิดถึงจัง...........


    “ไปอาบน้ำสิ....”
    เสียงอบอุ่นที่คุ้นเคยถูกเอ่ยขึ้นจากปากทั้งที่ยังหลับตาอยู่
    ซอฮยอนตกใจเล็กน้อยแต่ก็ตอบกลับมา

    “นึกว่าหลับไปแล้วซะอีก”
    เธอเปลี่ยนท่าทีมาเป็นการนั่งเกยคางแทน

    “ก็บอกแล้วว่ายังไงก็จะรอนิ”
    ยุนอาเงยหน้าขึ้นขยับแว่นนิดหน่อย ก่อนจะทำเสียงในลำคอ

    “กินอะไรมาหรือยัง?”
    ร่างเพรียวลุกขึ้นโดยไม่รอคำตอบแล้วเดินไปหย่งห้องครัว

    “ทานแล้วล่ะค่ะ”

    คำตอบนั้นทำเอาคนที่กำลังก้าวเท้าต้องหยุดลง

    “อ่อ....จริงสิเนอะ อือๆ”
    บหน้าหันกลับมายิ้มให้พร้อมสายตาที่สบมาแวบเดียว


    “สามีเหรอคะ?......”
    ซอฮยอนเพลินกับการเล่นโน๊ตบุคบนโต๊ะที่ไม่ถูกปิดสักที


    “หื้อ?? “
    ยุนอาทำเสียงเป็นเชิงถามกับซอฮยอน

    “ยอมรับแล้วเหรอคะ?”
    ซอฮยอนกำลังยิ้มในแบบของเธอ และเอ่ยถามอีกคนโดยไม่มองหน้า

    “ไม่มีทางซะล่ะ! ไปนอนซะ เดี๋ยวผิวไม่สวยนะ เร็วๆ อาบน้ำก่อนด้วยเดี๋ยวตัวเหม็นไม่มีใครอยากกอดนะเอ่อ”
    จู่ๆยุนอาก็เปลี่ยนเรื่องแล้วเดินเข้ามาปิดโน้ตบุคเจ้ากรรมสักที


    ในคืนนี้ก็เป็นอีกคืนที่พี่ยุนส่งฉันเข้านอนอีกแล้วสินะ
    เขาห่มผ้าห่มให้ฉันและดูแลฉันเหมือนทุกวัน
    ต่างก็เพียงแต่วันนี้พี่เขาสบตาฉันน้อยลงก็เท่านั้น
    ฉันสังเกตได้หรอก รู้นะว่าคิดอะไรอยู่


    *****************************************

    และแล้วในที่สุด Black Soshi ก้ออกมาปรากฏโฉมต่อสายตาทุกคนสักที
    การเปลี่ยนลุคใหม่ของซอฮยอนครั้งนี้ แทบจะทำให้ทุกคนหยุดหายใจ
    สายตาจิกแบบดุๆถูกส่งมาสะกดผู้ชมทกคน รวมถึงผู้ชมคนนี้ด้วย

    “อ้อหือ ดูน้องแกสิไอ้ยุน น้องแกเลยเนี่ย เด็กแกเลยเนี่ยเด็กแก
    เดี๋ยวนี้แรงนะเนี่ยคนนี้”
    เสียงแซวของฮโยยอนดังขึ้น ในขณะที่ได้ดูวีทีอาร์เอมวี
    สาวหน้าเรียวคมมัวแต่อมยิ้มแล้วรีเพลย์เฉพาะส่วนของซอฮยอนซ้ำไปซ้ำมา

    “พอๆ เจ้ายุนพอเลย จะเอาให้คอมพังเลยไหมเนี่ย”
    พี่สาวฝาแฝดเองก็ร่วมวงมาแซวอีกคน

    “เอ้ะ แล้วซอฮยอนไปไหนน่ะ ทำไมวันนี้ไม่เห็นเลย นึกว่าจะอยู่ดูเอมวีด้วยกัน”
    แม่ ญ เจส ประจำวงเอ่ยถามถึงน้องสาว

    มันอดไม่ได้ที่ยิ้มของยุนอาจะหุบลงในทันที

    “ก็คงไปกับสามีอีกแล้วล่ะค่ะ ....” พูดจบก็ลุกขึ้นเดินหนีไปจากโต๊ะซะเฉยๆ

    “นั้นไง .....เอาแล้ว หมาหัวเน่าไหมล่ะ” ลีดเดอร์ตัวน้อยจอม(ไม่)แคร์สื่อ(แล้วนะเอ่อ) ก็ออกมาอีกคน

    ‘เพียะ!!!!’

    “เอ๊งงง!!!” ฝ่ามือหมีตะปบตบเข้าให้ที่แขนซ้าย จนต้องร้องลั่นป็นภาษาหมาออกมา
    สายตาดุๆส่งไปหยั่งอีกฝ่ายที่ได้แต่ทำหน้าตาเป็นหมาขี้กลัวใส่


    ก็ตั้งแต่ที่เจ้าแทไม่แคร์สื่อเลยนี้ล่ะนะ มันทำให้ฟานี่ยิ่งเหนื่อยขึ้นไปใหญ่น่ะสิ
    ไหนจะความซนครบ 24 ชม. หลุดมันทุกวินาที
    ขนาดบนเวทียังไม่เว้นไปล้วงอะไรโชว์ชาวบ้านอีก
    อยากจะถามจริงๆเลยว่าล้วงแล้วเจออะไรบ้างไหมห้ะ!!!!!


    “เฮ้อ~”
    เสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ดังไปทั่วหอพัก ทำให้ทุกคนได้แต่มองตาละห้อยอย่างกลุ้มใจแทน

    ************************************


    ดีใจจังวันนี้จะได้อยู่กันพร้อมหน้าสักที
    ไม่ได้เจอพี่ยุนมากี่วันแล้วนะ
    จะขอนั่งตรงข้ามมองหน้าให้หนำใจเลยคอยดูสิ
    คิดได้ดังนั้นก็เอาแต่ขบขันอยู่กับตัวเอง

    รายการวิทยุ Star Night ดำเนินไปด้วยความวุ่นวาย
    และเมามันส์กันสุดๆ


    ถ้าไม่ถูกเบรกด้วยคำถามบางคำถามซะก่อน


    “ระหว่าง Johnny Depp กับ Jung YongHwa เธอเลือกใคร”


    “ห้ะ!”
    ฉันตกใจมาก เรียกได้ว่าช็อคเลยล่ะ
    ไม่คิดมาก่อนเลยว่าพี่ดีเจจะถามอะไรอย่างนี้
    ฉันเหลือบตามองพี่ยุนน้อยๆ

    ในขณะนี้ดูพี่ๆจะสนุกไปกับการแซวฉันยกใหญ่
    พี่ยุนก็ดูไม่ต่างไปมาก อีกทั้งยังมาคะยั้นคะยอให้ฉันตอบคำถามพวกนี้อีก

    “แต่ว่า....”

    “ไม่มีแต่ อย่ามาแต่ เลือกเลย ใช่ หรือ ไม่”
    นั้นคือเสียงของพี่ยุน

    ในตอนนี้ที่ฉันฟังคนอื่นไม่รู้เรื่องแล้ว
    ฉันได้แต่นั่งมองหน้าพี่ยุนอย่างไม่เข้าใจนัก

    “ทำไมอ่า...”
    ฉันตั้งใจตั้งคำถามไปหยั่งคนที่นั่งตรงข้ามฉัน
    ฉันมองตรงไปที่เขาแล้วถามมันออกไป

    เสียงเชียร์ยังคงยายามเร่งเร้าให้ฉันตอบมัน
    ฉันจ้องมองพี่ยุนตาไม่กระพริบ
    แม้พี่จะทำสีหน้าระรื่นไปกับคำพูดของพี่คนอื่นๆ
    แต่ไม่ใช่ว่าฉันไม่รู้หรอกนะ ฉันทำไม่ได้หรอก จะให้ประชดเหมือนพี่น่ะ

    “ฉันจะทำได้ยังไงกันคะ?”
    สายตาฉันยังคงจับจ้องที่เดิม
    ราวกับว่าฉันกำลังคุยกับเขา ไม่ได้คุยกับคนอื่น


    “นี้! มันจะทำให้ความสัมพันธ์ของเธอค้างคาอยู่อย่างนี้นะ”

    คำพูดนี้ของคนตรงหน้าฉันมันทำให้ฉันอดที่จะกำมือให้แน่นขึ้นๆ ไม่ได้จริงๆ
    แต่ฉันก็ยังคงยิ้มสู้อยู่
    สุดท้ายที่ฉันตัดสินใจเลี่ยงคำถามเหล่านั้นไป

    “ขอโทษนะคะ”
    พี่ยุนก้มหน้าลงแทบจะในทันทีที่ฉันจบเรื่องทั้งหมดด้วยคำขอโทษ
    ไม่รู้ว่าพี่ของฉันกำลังคิดน้อยใจหรือโล่งใจกันแน่
    แต่คำที่ฉันพูดไป อีกความหมายหนึ่งก็คืออยากจะขอโทษคนตรงหน้านี้จริงๆ

    ...........ขอโทษที่ปฎิเสธอะไรไม่ได้เลย
    ขอโทษที่ต้องทำตามสคริปส์นั้น
    ขอโทษที่ต้องให้ผู้ชายคนอื่นสัมผัสมือ............

    ก็ไม่แน่ใจหรอกนะคะ ว่าผิดไหม แต่ก็อยากขอโทษ...........
    ...............ที่ทำให้เป็นห่วง............

    หลังจากนั้นตลอดทั้งรายการที่พี่คนนี้ไม่ได้มองหน้าฉันอีกเลย


    **********************************


    วันนี้เป็นอีกวันที่นานๆครั้งเราจะมีเวลาอยู่ด้วยกัน
    ไม่มีใครอยู่หอพักอีกแล้ว
    พี่แทยอนไปโรงพยาบาล มีพี่ทิฟฟานี่ไปเป็นเพื่อน
    พี่ฮโยยอน พี่ยูริ และพี่เจส ก็ไปอัดรายการ
    พี่ซันนี่และพี่ซูยองก็ไม่อยู่

    วันนี้ที่เราไม่ได้ไปไหน
    ไม่ว่าจะเป็น We Got Married หรือ Family Outing ก็ตาม

    ฉันเดินตามหลังพี่ยุนอยู่ไม่ห่างนัก
    อีกคนที่เดินนำหน้าได้แต่ย่างเท้าแบบเอื่อยๆก้มหน้าก้มตาบ้าง
    มองนู้นมองนี้ที แต่ไม่ได้หันมาสนใจฉันเลยแม้แต่น้อย

    ฉันพยักหน้าให้ตัวเองเล็กน้อยก่อนจะตัดสินใจสาวเท้าเข้าใกล้เป้าหมาย
    แล้ว ‘หมับ’ มือของฉันคว้ามือของอีกคนมาจับไว้มั่น
    เขาคนนั้นหันขวับมองมาที่ฉันอย่างรวดเร็ว
    และดูจะตกใจเล็กน้อยซะด้วย
    ฉันยิ้มให้ในแบบของฉัน

    “หนาวจัง~ “
    ก็คิดอะไรไม่ออกแล้วนิ เอาไม้นี้ละกันนะคะ

    พี่ยุนกระชับมือของฉันแน่นขึ้น
    ทำให้สิ่งที่ฉันอยากจะถามถูกกลืนหายไปชั่วคราว

    แสงไฟสีส้มค่อยๆเปิดไล่ขึ้นตามทางที่เราเดินผ่าน
    ดูอะไรๆก็เป็นใจเกินกว่าจะหาเรื่องมาทะเลาะกันวันนี้
    ฉันเอนหัวลงกับไหล่กว้างแล้วปล่อยให้เขานำทางไปเรื่อยๆ

    “ฮยอน~ “

    แต่ก็สุดท้ายสินะที่ชื่อเรียกแบบนี้อดไม่ได้ที่จะทำให้ฉันหงุดหงิดขึ้นมา
    นั้นมันเป้นแค่ชื่อที่ใช้ใน WGM อย่าเอามาเรียกกันสิคะ

    “ทำไม...พี่ยุนเรียกชื่อฉันอย่างนั้นล่ะคะ”
    ฉันขมวดคิ้วมองอย่างเอาแต่ใจเล็กน้อย


    “หื้อ...มันเป็นชื่อของเธอตั้งแต่เมื่อไรกันน่ะ”
    เขาหันมาทำหน้าเหรอหร๋าใส่ในแบบของเขา

    ฉันปล่อยมือที่จับกันไว้ในทันที
    ก็บรรยากาศกำลังดีใครให้ทำเสียล่ะ


    “นี้..จะไปไหนน่ะ ไหนเคยบอกว่าจะจับมือกันตลอดไปไง
    หา.... จูฮยอน ซอจูฮยอน มักเน่น้อย เด็กกบของฉัน~~~”
    เสียงตะโกนไล่หลังมันทำให้ฉันหันกลับไปมอง

    “ต้องเรียกอย่างนี้ใช่ไหมล่ะ ต้องใช่สินะ
    เพราะมันเป็นชื่อของเธอที่ฉันเรียกได้คนเดียวนิ
    เด็กกบของฉัน”
    รอยยิ้มกว้างถูกส่งมา

    ฉันตีความความหมายของสิ่งที่เขาพูดได้ไม่ยากนัก
    ต้องขอบคุณสมองไอสไตน์ของฉัน
    ที่สามารถทำให้ฉันเข้าใจได้ว่า
    ฮยอน~ น่ะ ไม่ใช่ชื่อของฉันสักหน่อย คิๆๆๆ

    ในขณะที่ฉันมัวแต่หมกมุ่นอยู่กับความปราดเปรื่องของตนเอง
    มือของฉันก็ถูกอีกคนฉุดให้เดินไปตามทางถนนสายยาว

    “ไปกันเถิด ไปกินต๊อกรอบดึกกัน
    ไม่ว่าเจ้านั้นจะพาเธอไปไหน ฉันจะพาเธอไปอีกรอบเอง
    ฉันจะทำให้สมองของเธอสับสน จำได้แต่เรื่องของฉันดีไหมล่ะ”
    คำพูดเด็กๆของเขาทำให้ฉันอดหัวเราะออกมาไม่ได้
    ความรู้สึกอยากแกล้งคนๆนี้กลับมาอีกครั้ง

    “พี่กำลังดูถูกฉันเหรอคะ ไอคิวของฉันน่ะสูงเท่าไอสไตน์เลยนะ
    ไม่ลืมง่ายๆหรอก คิๆๆ”
    ฉันหัวเราะออกมาทั้งแอบมองคนที่เริ่มทำหน้ามุ้ยอีกครั้ง

    “โอ๋ๆๆ ฉันไม่ลืมว่า ฮยอน~ ไม่ใช่ชื่อของ ฉัน
    และไม่ลืมว่าฉันเคยไปกินต๊อกตอนกลางคืนกับพี่ยุนอาของฉันคนเดียวเท่านั้น”


    เสียงหัวเราะของเราดังไปทั่วละแวกนั้น
    ดีนะที่ไม่มีชาวบ้านโยนหม้อออกมาให้ใช้เล่นๆ
    ฉันวิ่งหนีพี่ยุนไปตามทางถนนใต้แสงไฟสีส้ม
    ผ้าพันคอผืนใหญ่ถูกสวมเข้าด้วยกัน เราหันกลับมาจับมือกันอีกครั้ง


    ............ไม่ต้องมีคำบรรยายใด เพื่อขยายความอีกต่อไป

    ไม่ว่าใครจะมองเห็นยังไง....................

    ................ไม่ว่าในจอหรือนอกจอ

    แค่เข้าใจกันสองคนก็มีความหมายเกินพอแล้ว..........................



    ****************************

    จบไปแล้ว ค่ะ เรื่องนี้ความรู้สึกส่วนตัว

    ไม่น่าประทับใจและไหลลื่นเท่าเรื่องเก่าแฮะ

    ฮาๆๆๆๆ พลอตไม่เท่าไร ฮาๆๆๆ วิจารณ์เองซะงั้น

    ใครอยากอ่านเรื่องเก่า ก้ที่ยูสเลยนะเออ



    อ่อ!!!!!! แล้วส่วน

    รายการวิทยุเจ้ากรรม

    เข้าบ้านละกันนะคะ

    http://forums.soshifanclub.com/index.php?showtopic=34817&view=findpost&p=4952757

    ปล. -*- ทำไมมันโพสแล้ว งง ต้องมาแก้เลยดูดิ






    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×