ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สัตยะธารา

    ลำดับตอนที่ #6 : เปลี่ยนมือ'เจ้าของ'

    • อัปเดตล่าสุด 21 มี.ค. 54


            สิ่งที่อยู่บนแผ่นกระดาษเก่าเหลืองทั้งสองแผ่นนั้น สร้างความแปลกใจและตกใจให้กับปรัศวินทร์เป็นอย่างยิ่ง

                กระดาษแผ่นแรก เป็นภาพวาดลายเส้นดินสอครึ่งตัวของชายหนุ่มผู้หนึ่งในชุดเสื้อผ้าป่าน  ดวงหน้าหล่อเหลาคมเข้ม ขึงขังแบบไทยโบราณนั้นค่อนข้างอ่อนจางด้วยกาลเวลา  หากใบหน้านั้นคล้ายกับปรัศวินทร์ราวใช้เขาเป็นแบบวาด  แต่ภาพต่อไปนั้นเขาตกใจยิ่งกว่า  เพราะเป็นภาพของแม่จันทร์ หญิงสาวที่เขามักเห็นในความฝันนั่นเอง!

                เขาจ้องภาพครึ่งตัวของหญิงสาวที่ห่มสไบแบบโบราณอยู่นาน...นานจนไม่รู้ว่าเวลานั้นผ่านไปเท่าไหร่  โสตประสาทคล้ายแว่วเสียงหวานละห้อยโหยหา

    “ จำแม่จันทร์ผู้นี้มิได้แล้วรึ ”

                ทันทีที่เสียงนั้นเงียบไป ทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า เขาก็สะดุ้งขึ้นสุดตัว

                “ บ้าน่ะ คิดไปเอง แค่...คนหน้าคล้าย ” เขาปลอบตัวเอง ทั้งที่รู้ดีลึกๆในใจ...นั่นเขา...

                ปรัศวินทร์หลับตา  หายใจเข้าลึก...ยาว...ก่อนใส่กระดาษทั้งแผ่นลงกระเป๋าเสื้อกาวน์สีขาวสะอาดตา  แล้วเดินกลับไปทำงานต่อ

    *************************************************

                เมื่อดวงจันทร์กลมโตสุกสกาวเริ่มลอยเด่นกลางผืนฟ้ายามค่ำคืนของเมืองหลวงที่แพรวพราวไปด้วยแสงไฟอย่างกรุงเทพมหานคร  ปรัศวินทร์ยังคงนั่งพิศดูแผ่นกระดาษที่มีรูปวาดหญิงสาวในห้องพักแพทย์  ความงุนงงสงสัยและไม่มั่นใจคล้ายจะบังเกิดในความคิด...ทำไมกะอีแค่ความฝันเราเอามาคิดเป็นเรื่องเป็นราวได้ขนาดนี้นะ  ทุกอย่างอาจจะแค่...บังเอิญ...

                เสียงริงโทนมือถือดังขึ้น  เมื่อปรัศวินทร์เห็นเบอร์ที่ติดต่อเข้ามาจากหน้าจอมือถือ  เขาจึงรีบกดรับสายทันที

                “ ฮัลโหล  วินทร์คะ  นี่ธารเองนะ  วินทร์อยู่ที่ไหนแล้วคะ ” น้ำเสียงธารรินมีแววออดอ้อนอ่อนหวานตามเคย

                “ หืม อะไรนะครับ ??? ” ปรัศวินทร์ถามอย่างงุนงง

                “ อ้าว ก็ที่ธารบอกว่าพริมเค้ามีของจะให้ดูน่ะค่ะ  วินทร์จำได้มั้ยเอ่ย ?? ธารใกล้จะถึงบ้านวินทร์แล้วนะคะ ”

                ปรัศวินทร์รีบผุดลุกจากโต๊ะ  นี่เขาลืมไปได้ยังไงนะว่านัดธารรินเอาไว้

    ***************************************************************************

                ปรัศวินทร์นั่งมองแหวนทองโบราณที่อยุ่ในกล่องบุกำมะหยี่สีแดงสดบนโต๊ะไม้สีน้ำตาลอ่อนอย่างครุ่นคิด  เพราะพริมโรส เพื่อนของธารรินบอกเขาว่า มียายแก่ๆคนนึงให้พริมมา เขาบอกว่าให้มาคืนคุณหมอค่ะ

                “ของโบราณจริงๆหรือคะ” พริมโรสถามอย่างอยากรู้อยากเห็น  เพราะถ้าใช่จริงเธอจะลองขอยืมจากแฟนผู้ใจดีของเพื่อนสนิทคนนี้ไปใส่เสียหน่อย  ก็แหม...แหวนวงนี้น่ะ  ถึงจะบอกว่าโบราณ  แต่มันก็ไม่ได้หนาเทอะทะหรือหนักแบบแหวนโบราณนี่นา  ทรงของแหวนแล้วก็ลวดลายออกจะสวย  พลอยสีแดงบนยอดน่ะก็เจียระไนเป็นลายกนกงามขนาดนั้น...พริมโรสคิด  หากเมื่อนางแบบสาวเหลือบไปเห็นกำไลที่วางอยู่ในตู้ไม้ริมฝาผนังข้างหลังปรัศวินทร์  เธอก็ต้องเปลี่ยนใจเพราะเหมือนกับกำไลนั่นจะมีเสน่ห์ดึงดูดใจพริมโรสอย่างประหลาด  ประกายระยิบระยับที่เกิดจากเหลี่ยมเพชรกระทบกับแสงไฟนั้นก็คล้ายจะชักชวนให้หญิงสาวนำมันไปประดับบนข้อมือเรียวขาวยิ่งนัก

                นายแพทย์หนุ่มปิดฝากล่องกำมะหยี่นั้นลง ก่อนเดินนำไปวางที่ตู้ไม้ข้างกำไลที่พริมโรสหมายจะได้ไปสวมใส่

                “ แหม คุณหมอคะ กำไลนั่นสวยจังเลยนะคะ ” พริมโรสพูดชมเพื่อที่จะวกเข้าแผนการของเธอได้

                “ อ๋อ  ครับ  ผมไปได้มาจากแม่...เอ่อ คนคนนึงที่อยุธยาน่ะครับ  กะว่าจะเอาไปให้กรมศิลป์เข้าพิพิธภัณฑ์แล้ว  เพราะเป็นกำไลสมัยอยุธยา  ถือว่าน่าจะให้คนที่สนใจได้ดู ดีกว่าเก็บไว้กับผม” ปรัศวินทร์กดลิ้นไว้ทันก่อนที่จะเผลอเอ่ยคำ แม่จันทร์ออกมา  เฉไฉว่าได้จากจังหวัดอยุธยาแทน

                “ อ้าว งั้นก็พอดีเลยค่ะ  พี่ชายของพริมเค้าทำงานอยู่ที่กรมศิลป์พอดีเลยค่ะ  ไหนๆวินทร์ก็ตั้งใจจะเอาไปให้พิพิธภัณฑ์  งั้นก้ฝากพริมเค้าไปก็ได้นี่คะ ” ธารรินเอ่ยเสียงใส  พริมโรสคิดในใจ...ดีมากเพื่อน  เข้าแผนฉันพอดี...ปรัศวินทร์ยืนอ้อยอิ่งอยู่ครู่หนึ่ง  ก่อนตัดใจหยิบกำไลนั้นส่งให้พริมโรสโดยที่ไม่เหลียวมอง  เพราะถ้าหากเขารีรอแม้แต่วินาทีเดียว  เขาอาจคว้ากำไลวงนั้นคืนมาจากมือเรียวของพริมโรสก็ได้

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×