ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สัตยะธารา

    ลำดับตอนที่ #5 : เรื่องแปลกๆ

    • อัปเดตล่าสุด 17 มี.ค. 54


             

    ปรัศวินทร์เฝ้ามองเหตุการณ์ตรงหน้ามาโดยตลอด  จนตอนนี้เมื่อแม่จันทร์หันหลังวิ่งออกไป เขาก็ยังเห็นว่าชายหนุ่มผู้นั้นยังมองตามอย่างอาวรณ์ระคนแปลกใจในตัวเอง ที่ใจของตัวเองอาลัยหญิงสาวผู้นั้นเหลือเกิน ทั้งที่เพิ่งพบเจอกันครั้งแรกและพบกันเพียงไม่กี่เสี้ยวนาที

                “ พ่อนิล ยืนมองอันใดอยู่รึ ” เสียงชายหนุ่มอีกคนเรียก ซึ่งชายหนุ่มที่ยังมองตามนางที่จากไปหันขวับไปทันที ทำให้ปรัศวินทร์ค่อนข้างแน่ใจว่าชายหนุ่มคนนี้...ชื่อ นิล

                “ มิมีอันใดดอกพ่อสิงห์ ” พ่อนิลแก้ตัวด้วยสีหน้าเรียบเฉย หากในใจประหวัดไปถึงใบหน้าสวยหวานในกรอบผมดำยาวสีดำสนิท

                ปรัศวินทร์หันไปมอง หากเมื่อสายตาสายตาสะดุดกับผู้ที่พ่อนิลเรียกว่า พ่อสิงห์นั้น ถึงกับทำให้เขาตะลึงงัน เพราะชายหนุ่มหน้าเข้มผู้นั้นหน้าตาเหมือนกับธนัส หรือเจ้าสิงโตเพื่อนเขาอย่างกับแกะ!

                แต่เมื่อปรัศวินทร์หันไปเห็นใบหน้าของพ่อนิลที่กำลังพูดคุยกับเพื่อนอีกสองคนที่เดินมาสมทบได้ชัดถนัดตา  เขาถึงกับตัวชา

                ร่างสูงกำยำ ใบหน้าคร้ามคมงามแลดูขึงขังเข้มแข็ง อันประกอบด้วยดวงตาดำจัดสมชื่อ  จมูกโด่งคมเป็นสัน  ริมฝีปากหยักได้รูป  เหมือนจะยิ้มแย้มอยู่ตลอดเวลานั้น งามแบบคนโบราณ  แต่ถ้าหากพ่อหนุ่มยุคโบราณผู้นี้ก้าวข้ามมายุคปัจจุบัน  ก็คงจะเป็นนายแบบอันดับหนึ่งของหน้าปกนิตยสารดังๆได้อย่างสบายๆ

                แต่ที่เขาต้องตกใจ  ก็เพราะหน้าของชายหนุ่มผู้นั้นดันมาเหมือนกับหน้าของปรัศวินทร์อย่างไม่มีผิดเพี้ยน!

                ชายหนุ่มทั้งสามเดินหัวเราะจากไป  ปล่อยให้ปรัศวินทร์ยืนนิ่งขึงตะลึงงันอยู่เพียงลำพังตามเดิม

                ปรัศวินทร์สะดุ้งตื่นเมื่อรู้สึกว่ามีคนเขย่าตัวเขาโดยแรง  เมื่อรู้สึกตัวตัวเขาก็ชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อ  แต้วยืนอยู่ข้างเตียง สีหน้าโล่งใจ  เช่นเดียวคำพูด

                “ โธ่ พี่วินทร์ แต้วคิดว่าพี่วินทร์จะไม่ตื่นซะแล้ว ” แต้วชะงักเล็กน้อย “ พี่วินทร์ละเมอล่ะ  พูดว่าแม่จันทร์ แม่จันทร์อะไรก็ไม่รู้ ”

                “ ช่างเถอะแต้ว พี่แค่ละเมอ วันนี้ลาครึ่งวัน เดี๋ยวพี่ต้องรีบกลับกรุงเทพแล้วล่ะ นี่ก็สายแล้ว พี่คงต้องรีบไป เดี๋ยวไว้พี่จะมาเยี่ยมใหม่นะ ” ปรัศวินทร์พูดรวดเร็ว เขารีบอาบน้ำกินข้าวและกลับมาเก็บกระเป๋าเพื่อกลับกรุงเทพ  งานที่โรงพยาบาลยังมีอีกเยอะ

                *******************************************************************

                “ สวัสดีค่ะ คุณหมอ ” เสียงใสร้องทักเมื่อเขาก้าวเข้าไปในห้องอาหารแพทย์หลังจากที่ตรวจคนไข้เสร็จ

                “ อ้าวปิ่น สวัสดีครับ ”เขายิ้มรับคำทักทายของเพื่อนพยาบาลสาว

                “ คุณธารโทร.มาหาปิ่นเมื่อตะกี้แน่ะค่ะ  เธอบอกว่าโทร.เข้ามือถือของคุณหมอกี่รอบๆก็ไม่ติด ” ปิ่นพูดแล้วรีบลุกไปทำงานต่อเมื่อเพื่อนพยาบาลอีกคนเข้ามาตามเธอและแพทย์อีกคนอย่างหน้าตาตื่น “ ไปก่อนนะคะ คนไข้อาการทรุด อ้อ คุณธารบอกว่าให้โทร.กลับด้วยนะคะ ”

                ปรัศวินทร์มองตามอย่างงงๆ เป็นไปได้หรือที่ธารรินจะโทร.หาเขาไม่ได้ มือถือของเขาก็อยู่ติดตัวเขาตลอดเวลา  เขาจึงรีบหยิบโทรศัพท์มือถือแล้วกดเบอร์ของนางแบบสาวสวยผู้นั้นทันที

                “ ฮัลโหล วินทร์เหรอคะ ” เสียงหวานตอบมาตามสาย “ ธารโทรหาเป็นร้อยรอบตั้งแต่ธารกลับจากบ้านวินทร์ที่อยุธยาแล้ว  ทำไมถึงติดต่อวินทร์ไม่ได้เลยก็ไม่รู้  วันนี้ธารกับพริมไปหาวินทร์ที่บ้านได้มั้ยคะ  พริมเขามีของจะให้วินทร์ช่วยดูค่ะ”

                “ เอ่อ ก็ได้ครับธาร แค่นี้ก่อนนะครับ ”

                เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่  อย่างน้อยธารก็ไม่ติดใจโกรธเขา

                ปรัศวินทร์ทานอาหารเที่ยงอย่างรวดเร็วเพื่อที่จะได้รีบกลับไปทำงานต่อ

                เขาเดินเข้าไปในห้องของคนไข้ที่เป็นหญิงชราร่างผอมบางคนหนึ่งที่เพื่อนของเขาโยนมาให้เขาเป็นเจ้าของไข้ด้วยเหตุผลว่า แกยืนยันว่าเจ้าของไข้ของแกต้องเป็นนาย ไอ้วินทร์   แม้นางจะชรามากแล้วหากใบหน้าเหี่ยวย่นนั้นยังมีเค้าความงามในอดีต  เครื่องวัดอัตราการเต้นหัวใจนั้นส่งเสียงเป็นระยะ ชีพจรของหญิงชราเริ่มเต้นอ่อนลง

                “ สวัสดีครับ คุณยาย  เป็นยังไงบ้างครับ ” เขาทักทายเหมือนทักทายญาติผู้ใหญ่  หากเมื่อหญิงชรานั้นเงยหน้าขึ้นมองหน้าเขา  นางก็รีบลุกขึ้นไหว้ทันทีเหมือนเด็กไหว้ผู้ใหญ่

                “ คุณยาย อย่าไหว้ผมเลยครับ  เดี๋ยวผมจะอายุสั้นเอา ” เขาพูดติดตลกพลางจับมือเหี่ยวย่นไม่ให้พนมไหว้เขาต่อ

                “ อิฉัน...คงหมดหน้าที่เสียที คุณยายทวดของอิฉันคงไร้ห่วง เพราะเชื่อคำคุณพระ...ถึงตามหามาตะเมื่อกรุงแตก กำชับนักกำชับหนา... ” นางพูดเบาๆ ช้าเนิบนาบเท่าที่เสียงแหบแห้งจะทำได้   พลางควานหาที่โต๊ะข้างเตียง  แล้วหยิบม้วนกระดาษสองม้วนส่งให้ปรัศวินทร์  ก่อนล้มตัวลงนอน

                “ อิฉันขอลาเจ้าค่ะ  คุณพระ ”

                เสียงสัญญาณจากเครื่องวัดอัตราการเต้นหัวใจส่งเสียงปี๊บ...ยาว พยาบาลหลายคนรีบวิ่งเข้ามาในห้องและปั๊มหัวใจของหญิงชราทันที หาก...ลมหายใจของนางไม่กลับมาอีกแล้ว

                ปรัศวินทร์เดินออกมาอย่างอ่อนระโหย  ชีวิตปลิดปลิวไปอีกหนึ่งในวันนี้ หากเมื่อเขาทบทวนคำพูดที่หญิงชรานั้นพูด บวกกับท่าทางแปลกๆ ทำให้เขาคลี่กระดาษในมือออกดู

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×