ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Repeat and Try นายคือความทรงจำของฉัน

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 1 การกลับมาของเธอ

    • อัปเดตล่าสุด 30 ก.ย. 60


    “เราจะรักกันตลอดไปใช่มั้ย” เด็กสาวในตากลม เอ่ยถามเด็กหนุ่มตรงหน้า

                    “แน่นอนสิ เราจะรักกันตลอดไป

     

                    เสียงประโยคในวันวานยังคงดังก้องในสมองของเธอ เสียงรถที่แล่นไปมาบนท้องถนนไม่ได้ส่งผลให้เธอลืมความรู้สึกนั้น  ชายคนนั้น คือ รักครั้งแรก... ในสมัยมัธยมความรักเป็นเพียงสิ่งเล็กๆที่ยิ่งใหญ่มากในความรู้สึกของเธอ เธอคิดว่าวันเวลาและสภาพแวดล้อมจะสามารถดึงเธอออกจากอดีตที่ฝังตัวเธอให้จมอยู่กับความเจ็บปวดได้  แต่เปล่าเลยใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้มของเธอ กลับกลบเกลื่อน
    บาดแผลในใจของเธอได้ไม่หมด

                   

                    วันนี้เธอโดยสารรถเมล์ตามปกติ แม้ภายในจะเย็นฉ่ำจากเครื่องปรับอากาศของรถ แต่ภาพภายนอก ผู้คนจอแจ ไอร้อนระอุยังคงครอบคลุมทุกพื้นที่ของเมืองอันแสนวุ่นวาย เธอมีความสุขดีหลังจากวางสายจากแฟนหนุ่ม แต่สิ่งที่ทำให้เธอต้องสะดุด คือ ภาพความโหดร้ายในวันวานกลับมาอีกครั้ง เมื่อผู้โดยสารคนหนึ่งก้าวขึ้นมาจากป้ายหนึ่งเซมาชนเธอเข้า

     

    สายตาที่ประสานกัน แม้เพียงเสี้ยววินาที เธอก็รู้ทันทีว่า “เขา” คือคนที่เธอรอคอยมานานแสนนาน

                   “ตฤณ!” หญิงสาวเปรยชื่อเขาออกมาด้วยความประหลาดใจ แม้สีผมจะถูกไฮไลท์เป็นสีน้ำตาลสว่างดูแปลกตา แต่ไม่ได้ทำให้เธอจำเขาไม่ได้ ภาพเด็กนักเรียนหนุ่มผมรองทรงสูง สวมแว่น ที่มีรอยยิ้มอบอุ่นผู้นั้น ใบหน้าที่เธอไม่ได้เจอะเจอมานานแสนนาน ทำให้เธอถึงกับจ้องมองเขาอย่างลืมตัว ราวกับว่าเข็มของนาฬิกากำลังหยุดเดินอย่างไรอย่างนั้น ห้วงแห่งความรู้สึกมากมายวิ่งวนเข้ามาในหัวของเธอ รอยยิ้มที่แสนอบอุ่นของเขา ประโยคมากมายดังก้องในโสตประสาทของเธอ เสียงเขายังคงชัดเจนไม่มีผิด

                    “เอม!  เสียงเอ่ยเรียกของเขาบาดแทงใจของเธอ ปลุกเธอให้ตื่นจากภวังค์ ภาพๆหนึ่งแทรกเข้ามาในโสตประสาทของเธอ

                   

    ทั้งคู่คุยกันด้วยท่าทีเรียบเฉยแต่บทสนทนาในวันนั้นมันกลับยังคงตราตรึงในความรู้สึกของเธอเสมอมา

     

                    “เอมขอโทษนะถ้าเราจะขอพูดอะไรบางอย่าง คือว่าแววตาของเขาช่างไม่ใช่คนเดิมที่เธอรู้จัก

    “ เราต้องทำตามความฝัน แม่ขอให้เราทำเพื่อท่านก่อน เอมเข้าใจเราใช่ไหม ขอโทษนะที่เขาเห็นแก่ตัวแบบนี้ เราไม่สามารถทำอะไรหลายๆอย่างพร้อมกันได้ เราไม่สามารถดูแลเอมได้อย่างที่เอมหวัง” แววตาที่ดูจริงจังคู่นั้น ทำให้หัวใจดวงเล็กสั่นรัว ความรู้สึกปวดร้าวแผ่ซ่านไปทั่วร่าง เธอมองคนตรงหน้า ก่อนข่มเสียงสั่นเครือไว้ภายใน เอ่ยบอกกับคนที่รักตรงหน้าอย่างเข้าใจ

                    “ เอมเข้าใจ ทำตามความฝันของตฤณให้สำเร็จนะ เอมจะเป็นกำลังใจให้

    สายลมที่พัดมาปะทะใบหน้าที่เต็มไปด้วยความคราบน้ำตา หัวใจดวงเล็กเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ

     แผ่นหลังของเขาค่อยๆไกลออกไปทุกที ๆ  

     

    “ความคิดของฉันคงเป็นเพียงสายลมที่พัดแผ่วเบาเท่านั้น หัวใจของฉันอยากจะร้องอ้อนวอนบอกกับเธอ ได้โปรดอยู่ตรงนี้ ข้างๆกัน แต่…,มันคงเป็นเพียงความคิดที่ไม่มีเสียง”

     

                    เธอใช้เวลากับการไปเรียนและฝึกงานจนได้พบกับคนๆหนึ่งที่เข้ามาสนิทสนม จากการได้พบกันอย่างบังเอิญ ที่ร้านหนังสือ เขาคนนั้นตามตื้อจนเธอใจอ่อนคบกับเขา แม้ว่าเธอจะบอกเขาแล้ว ว่าเธอไม่สามารถลืมรักครั้งเก่าได้ แต่เขาก็ยังยินดีที่จะอยู่เคียงข้างเธอ  แต่ยิ่งวันเวลาผ่านเลยไป ภาพที่เคยเด่นชัดก็เริ่มเบาบางลงมาก จนวันนี้ที่เขาย้ายเข้าเรียนในกรุงเทพอีกครั้ง เมื่อต้องขึ้นศึกษาใน ปี 2
    เธอและเขาแวะเดินเล่นในสวนธารณะเล็กๆ ผู้คนบางตา เพราะอากาศที่ร้อนระอุ แต่ภายในสวน ต้นไม้ใบหญ้ายังคงเขียวขจี น้ำพุที่ตั้งตระหง่านมีน้ำพวยพุ่งออกมาอย่างสวยงาม พอช่วยให้อุณหภูมิที่ร้อนระอุลดลงได้บ้าง แม้บรรยากาศรอบกายจะดูสบายตา แต่ไม่ได้ทำให้คนทั้งคู่รู้สึกสบายใจตามไปด้วย

    “เอมเป็นยังไงบ้าง” คำถามของเขาช่างบาดแทงใจเธอเหลือเกิน เขาจะรู้รึเปล่า ว่าเธอเจ็บปวดมากแค่ไหน ที่ต้องใช้เวลากว่า 3 ปีเพื่อลบภาพมากมายทั้งหมด เพื่อเปิดใจรักใครคนใหม่ เขาจะรู้รึเปล่าว่าเธอทุกข์ทรมานแค่ไหน ที่ต้องเห็นภาพเก่าๆ ได้ยินเพลงเดิมๆที่มันทำให้เธอคิดถึงเขา เจ็บปวดมากแค่ไหน กับการรอคอยเขากลับมา

    แต่สุดท้ายทุกอย่างก็กลายเป็นเพียงความว่างเปล่า

     

                    “สำหรับเธอแล้วทุกอย่างมันเป็นเพียงอดีต แต่สำหรับฉัน ทุกอย่างระหว่างเรา มันคือ ความทรงจำ

                   

                    ในวันนี้คำถามที่เธอได้รับฟังมันจะตอบออกไปยังไงได้หมด เธอจึงเลือกตอบคำถามโดยการถามเขากลับ

    “แล้วตฤณล่ะเป็นยังไงบ้าง” เธอหลบตาเขาข่มความอ่อนแอในใจเอาไว้

    “ก็ สนุกดี ” เขาเอ่ยประโยคสั้นๆ

    “สนุกดี เป็นหมอน่ะเหรอ ไม่ได้เรียนหนักมากเหรอ หน้าตฤณดูออกจะโทรมกว่าเมื่อก่อนอีกนะ”  เธอจ้อมองแววตาว่างเปล่าของเขา

    “ขนาดนั้นเลยเหรอ”เขาว่าก่อนจะยิ้มเจื่อนๆกลับมา

    “เอ่อ เอมมีธุระน่ะคงต้องกลับก่อน โชคดีนะ เอมไปล่ะ” ประโยคสั้นๆ ที่เธอเองอยากเอ่ยมากที่สุด ในการพบเจอกันครั้งนี้

    ก่อนปล่อยทิ้งร่างใหญ่ให้ยืนอยู่ตรงนั้น

                   

                    เธอเดินออกมาตามทางเดินที่ผู้คนจอแจ เสียงรถราดังอึกทึกเป็นปกติของเมืองใหญ่ แต่สมองของเธอกลับสั่งให้ไม่ได้ยินเสียงเหล่านั้นแม้แต่น้อย ใจเธอเหม่อลอย ว่างเปล่าบอกไม่ถูก เธอตอบตัวเองไม่ได้เลยว่าดีใจรึเปล่าที่ได้เจอเขา ตอบไม่ได้เลยว่า เธอควรจะจัดการอย่างไรกับความรู้สึกของตัวเองในวันนี้

    ทุกอย่างที่เธอเฝ้าทำมาตลอดหลายปีเพื่อลบลืมเขา มันจะสูญเปล่า เพียงเพราะการได้พบเขาวันนี้รึเปล่า

    เสียงโทรศัพท์ที่ร้องดังนานหลายครั้ง ปลุกเธอให้ตื่นจากภวังค์

     แฟนหนุ่มที่เธอลืมนัดเขาเสียแล้ว เธอเอ่ยเพียงประโยคสั้นๆก่อนวางสายไป

     “เอมขอโทษนะ เอมไม่ค่อยสบาย คงไปไม่ได้แล้ว

     

             

                    เส้นทางของความรักเกิดขึ้นเพียงเพราะความรู้สึกเหงาของคนเราหรือเพียงเพราะโชคชะตาเล่นตลก

    ตฤณ เด็กหนุ่มนักเรียนม.ปลาย รูปร่างสูง สวมแว่น เด็กเรียนดี ห้องคิง เขาดูเป็นคนธรรมดาๆ แต่เธอกลับตกหลุมรักเขาเพียงเพราะว่าเขาเล่นแบตมินตันได้ดี เพียงเพราะมันเป็นกีฬาโปรดของเธอ  ชีวิตเด็กม.ปลายที่ต่างคนต่างมีคนรู้ใจกันเสียหมด ทำให้ทั้งคู่กลายเป็นคนเหงาที่เข้าใจกัน ทั้งคู่ตกลงคบกันเล่นๆ แต่ยิ่งได้รู้จักเขามากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งมองเห็นความเป็นสุภาพบุรุษในตัวเขามากเท่านั้น แถมเขายังเป็นคนที่ขี้เอาใจ และรู้ความรู้สึกของเธอไปซะทุกอย่าง ระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือน มันทำให้เธอพูดได้เต็มปากเต็มคำ  ว่า รักเขามาก แต่เส้นทางชีวิตของคนเราคงไม่ได้จบลงเพียงแค่เราเจอคนที่ใช่ และเขาจะอยู่กับเราไปตลอดชีวิต เพราะว่าความรัก เป็นเรื่องของคนสองคน ความรู้สึกของคนเพียงคนเดียวไม่สามารถหลอหลอมความรักให้ดำเนินตลอดไปได้

                    เธอกลับมายังห้องพัก รื้อกล่องกระดาษใบใหญ่ ปัดฝุ่นเขรอะที่เปรอะทั่วกล่องกระดาษสีทึม ภายในมีชิ้นส่วนในวันวานที่ยังคงเก็บไว้เป็นอย่างดี เธอเอื้อมหยิบกระดาษฟรอยสีทอง บนกระดาษมีรอยหมึกปากกาสีจางเขียนไว้ว่า “ครบรอบ 4 เดือน” ภาพในวันวานผุดขึ้นมา

               
      “เป็นอะไรไป ทำไมถึงทำหน้าแบบนั้นเล่า” ชายหนุ่มเดินเข้ามาหาเด็กสาวที่กำลังแก้โจทย์ปัญหาอย่างเคร่งเครียด ในมือ ถือดินสอกดสีสีชมพูอ่อนไว้อย่างหลวมๆ ปลายของด้ามมีขนนกบางนุ่มสีขาวประดับน่ารัก เขาหยิบดินสอจากมือเธอ ก่อนจรดข้อความขยึกยือลงบนสมุด เธอเอี้ยวตัวมองเขาอย่างประหลาดใจ ก่อนหันกลับมามองยังสมุด ที่เขากำลังง่วงอยู่กับการไขโจทย์

    “อธิบายหน่อยก็ดีนะ คุณหมอ” เธอว่าพลางยิ้มหวาน เขาเลิกคิ้วก่อนใช้ปลายด้ามดินสอขนนกปุยนุ่ม เคาะที่ศีรษะเธอเบาๆ

    “ดูก็รู้แล้วนี่นา ไม่เห็นต้องอธิบายเลย” เขาว่า เธอขมวดคิ้ว มองเขาอย่างไม่ชอบใจนัก

    “เอางั้นก็ได้” เธอว่าพลางดึงดินสอคืนจากเขา ก่อนก้มหน้าก้มตาอ่านลายมือหวัดๆนั้น

    “เข้าใจแล้ว” เธอสะบัดปลายดินสอราวกับว่ามันคือ คทาวิเศษ

    “ขอบคุณนะคะเจ้าชาย…^^ ” เธอยิ้มหวานให้กับเขา ก่อนก้มหน้าก้มตาอ่านโจทย์ข้อต่อไป เขาเขยิบตัวเล็กน้อยเข้ามาใกล้เธอมากขึ้น ร่างนั้นเงยหน้ามองแฟนหนุ่มอย่างสงสัย

    “มีอะไรน่ะตฤณ เข้ามาใกล้เชียว” เขาไม่ตอบแต่กลับยื่นห่อกระดาษฟรอยสีทองมาให้เธอ

    “ในนี้มี ช็อกโกแลต อยู่ 4 ชิ้น ” เขาว่า

    “ทำไมต้องเป็นช็อกโกแลต 4 ชิ้นล่ะ” เธอเลิกคิ้ว มองหน้าแฟนหนุ่มอย่างสงสัย

    เขาถอนหายใจ “เอม ลืมอีกแล้วเหรอ” เธอหน้ามุ่ยก่อนคว้าโทรศัพท์เปิดปฏิทินดู ร่างเล็กเงยหน้ามองเขาอีกครั้งก่อนส่ายหัวไปมาเบาๆ

    “จำไม่ได้งั้นไปแล้ว ไม่ต้องกินแล้วช็อกโกแลต” เธอฉุดมือเขาให้นั่งลงก่อนโอ๋เขายกใหญ่

    “ถ้างอนแบบนี้จะมีวันไหนได้อีกล่ะ นอกจากครบรอบวันที่เราคบกัน” เธอยิ้ม ก่อนแบมือให้เขา

    “หิวแล้ว เอาช็อกโกแลตมาชิมหน่อยเร็ว ” เธอว่า เขาใจอ่อนทุกทีเวลาที่เธอออดอ้อนเขา มันคงเป็นความน่ารักที่เขาเองก็หลงรักมันอย่างไม่รู้ตัว

     

                    “ตฤณกลับมาทำไม เรากลับมาเจอกันอีกทำไม”เสียงครวญเล็กๆออกมา มือเล็กบีบห่อกระดาษแน่น น้ำใสๆเผลอไหลออกมา เธอวางมันไว้ยังตำแหน่งเดิม ก่อนจะกวาดตามองยังวัตถุชิ้นอื่น เธอเอื้อมหยิบซองผ้าสีฟ้าใบเล็กภายในมีเสียงดัง กรุ๊ง กริ๊ง เสียงของวัตถุอะลูมิเนียมกระทบกันไปมา เธอเทวัตถุภายในออกจากซองใส่ฝ่ามือ วัตถุอะลูมิเนียมสีวาวแสบตา แหวนใหญ่วงหนึ่ง พวงกุญแจอักษรภาษาอังกฤษ ตัว T และสร้อยข้อมือเส้นเล็ก สิ่งของมากมายถูกเก็บรักษาเป็นอย่างดี ทำให้คิดถึงใบหน้าของเขา รอยยิ้มหวานและประโยคที่พูดว่า “ใช้คู่กันนะ”

    สิ่งของมากมายเหล่านั้นเปรียบเสมือนด้ายเส้นเล็กๆผูกโยงใจเขาและเธอให้อยู่คู่กันเสมอ ไม่ว่าเธอจะต้องเผชิญกับอุปสรรค มากมายแค่ไหนก็ตาม หัวใจของเธอยังคงอบอุ่น และมีพลังบางอย่างซ่อนอยู่ในตัวเสมอ มันคือความห่วงใยจากใครอีกคนที่เธอเชื่อเสมอว่า ไม่ว่าเธอจะต้องเผชิญกับเหตุการณ์เลวร้ายแค่ไหน เธอจะมีใครอีกคนที่พร้อมจะให้เธอพึ่งพึงได้เสมอ และเขาก็คือพลังเล็กๆที่เธอสามารถสัมผัสได้เวลาที่พบกัน

                    สิ่งที่ทำให้เธอร้องไห้มากที่สุดคงเป็นกล่องของขวัญกล่องเล็กมันคือกล่องของขวัญสีแดงวาวมีริบบิ้นสีเขียวคาดตัดกับสีของกล่องเป็นอย่างดี ราวกับของขวัญในวันคริสมาส เธอเปิดออก ภายในมีแหวนวงหนึ่งตรงกลางเป็นรูปไม้กางเขนกึ่งกลางของไม้กางเขนมีเพชรเม็ดเล็กๆฝังอยู่ ด้านหลังของแหวนมีส่วนหลังของตัวหนังสือสลักอยู่ แต่เธอก็ยังพอจำตัวอักษรเหล่านั้นได้เป็นอย่างดีตัวย่อชื่อเล่นของเธอและเขา แหวนถูกคล้องด้วยสร้อยเส้นเล็กอีกทีหนึ่ง มันคือของขวัญวันวาเลนไทน์ที่พิเศษที่สุดเท่าที่เธอเคยได้รับมา เขาสวมมันให้กับเธอและแหวนรูปไม้กางเขนอีกวงก็อยู่กับเขา ของสิ่งนี้คงเป็นสิ่งเดียวที่เธอและเขาต่างมี ของชิ้นอื่นๆที่เป็นคู่กัน เขาและเธอต่างเก็บมันลงกล่อง แต่สร้อยเส้นนี้ยังเป็นเหมือนคำมั่นสัญญาที่เขาและเธอต่างให้ไว้ เธอยังคงสวมมันบ้างในบางวัน แต่เวลาที่ผ่านไป มันทำให้เธอเลือกที่จะเก็บทุกๆอย่างลงกล่อง

                    เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น สายจากเพื่อนเก่าโทรเข้ามา เธอกดรับด้วยความประหลาดใจ ปลายทางแจ้งเรื่องงานเลี้ยงรุ่น ที่เธอพลาดโอกาสปีที่แล้วไป ปีนี้เธอคงต้องไปตามสัญญาเสียแล้ว ร่างเล็กเก็บทุกอย่างลงกล่องเช่นเดิม ก่อนสะบัดความคิดฟุ้งซ่านของวันนี้ให้หมด เขาจะไม่มีวันกลับมามีอิทธิพลต่อความรู้สึกของเธออีกแล้ว  เขาเป็นเพียงความทรงจำในวันวานเท่านั้น ขาดเขา เธอยังสามารถมีลมหายใจต่อไปได้ อย่าปล่อยให้เขาเข้ามาในความคิดของเธออีกเลย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×