ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] All about short fiction ☆☆

    ลำดับตอนที่ #12 : [SF] Chocolate Syndorme - ChanBaek : Part 4 - melting chocolate

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 93
      0
      16 ก.ย. 56

    Part 4 : melting chocolate


     

    อุณหภูมิ ร้อนๆค่อยจางหายเมื่อริมฝีปากของคนด้านบนถอนออกอย่างชั่งใจ คนตัวเล็กหลับตาแน่นและเผลอกลั้นใจเมื่อโดนเลียปาก และก็เกือบจะขาดใจตายกับช่วงเวลาแสนสั้นที่ดูอึดอัดและใจร้าย คนตัวเล็กสั่นสะท้านเมื่อรู้สึกถึงลมหายใจที่คลอเคลียอยู่ไม่ห่าง

     

    ปาร์คชานยอลปล่อยให้มือเขาเป็นอิสระ…

     

    คน ตัวเล็กเหมือนจะได้สติคืนมาแต่ก็ต้องตกหลุมอากาศอีกรอบเพราะรสจูบที่แสนลึก ล้ำ ความอยากจะขัดขืนและคิดต่อต้านวิ่งเข้ามาในหัวแต่แขนของเขากลับกอดคอหมอนั้น อย่างไม่รู้ตน แบคฮยอนขมวดคิ้วและเผลอขยำผมเมื่อรู้สึกถึงความเฉอะแฉะภายในปาก

     

    ความ รู้สึกวาบหวิวในวันที่โดนจูบครั้งแรกตีรวนเข้ามาในอกก่อนจะเผลอหลุดเสียง ประหลาดเมื่อรู้สึกว่าโดนสัมผัสในที่ต้องห้าม ทั้งสองจ้องตากันอยู่ชั่วขณะ เสียงทุ้มเอ่ยถ้อยคำด้วยเสียงแหบพร่า
     

    “ทำกันนะ!
     

     

     

     


    ทำกันนะ...ทำกันนะ...ทำกันนะ...ทำกันนะ...ทำกันนะ...ทำกันนะ !!!

     

    คำพูดชานยอลที่ทำให้เขาติดอึ้งสะท้อนก้องไปมาราวกับโดนพูดกรอกหู แต่ก็ได้สติเมื่อรู้สึกว่าโดนตัวเองโดนหอมแก้มก่อนจะด่าลั่น!

     

    “ไอ้เxยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!”

     

    สอง ขาถีบจนร่างสูงกระเด็นก่อนจะวิ่งออกมาอย่างไม่คิดชีวิต ปิดหน้าปิดตาไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น สะดุดขาตัวเองกลิ้งหลุนๆอยู่ข้างแปลงปลูกดอกเดซี่ ก่อนจะเห็นว่าข้อศอกตัวเองนั้นถลอกเลือดซิบ แบคฮยอนนั่งครางฮืออย่างไม่รู้จะทำยังไงต่อไปดี รู้สึกทั้งร้อนทั้งเขินและก็ตอนนี้ก็เจ็บข้อศอกด้วย เพราะไอ้บ้านั้นคนเดียว ไอ้ชานยอลคนบ้านั้นคนเดียว!

     

    เจ้าตัวกำลังจะยกมือมาเช็ดปากตัวเองอย่างหัวเสียก่อนจะสังเกตเห็นบางสิ่งติอยู่ที่ปลายนิ้ว
     

    ผ้าก็อชที่มีคราบเลือกและทิงเจอร์สีส้มเปรอะเปื้อน...

     

    แทบจะเป็นลม เมื่อเห็นว่าปลายเล็บตัวเองเหมือนมีหนังมนุษย์ติดมาด้วย พยอนแบคฮยอนตัวสั่นก่อนจะได้ยินเสียงที่เคยคุ้นหู
     

    “โป๋วเสี่ยน ...นั้นโป๋วเสี้ยนใช่ไหม?
     

    “จื่อเทา!!!


    .
    “โอ๊ะ โอยย เบาสิ!”  จื่อเทาค่อยๆประคองแขนคนตัวเล็กให้รองน้ำสะอาดเพื่อล้างแผลถลอดที่ ข้อศอก เขาทำสีหน้าขอโทษก่อนจะประคองคนตัวเล็กไปนั่งแล้วเอาผ้าเช็ดหน้าที่ติดตัวมา ซับแผลให้

     

    “ที่นี้มีห้องพยาบาลใช่ไหม? ผมว่าไปทำแผลดีกว่า”  พยอนแบคฮยอนอยากจะตบปากรับคำนะ แต่แค่คิดก็สติแตกแล้ว
     

    เขาไม่อยากไปเจอชานยอลตอนนี้!

     

    “พี่ว่าพี่ไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ นี่ทำไมมาเกาหลีไม่บอกพี่ล่ะ?”

     

    “เอ่อ คือ..มันกระทันหันนะครับ”  จื่อเทาลูบคอแล้วตอบอย่างเขินๆ

     

    “ไม่เจอกันนานเลย สบายดีไหมครับพี่แบคฮยอน?”

     

    แบ คฮยอนยิ้มกว้างแทนคำตอบ ขยี้หัวคนอายุน้อยกว่า คนนี้และครับเจ้าของช็อคโกแลตวาเลนไทน์กล่องแรกของผม หว่างจื่อเทาเป็นเด็กที่น่ารักมากและเป็นเด็กช่างสงสัย ตอนนั้นคงจะเข้าใจผิดว่าช็อคโกแลตในวันวาเลนไทน์เค้ามีไว้ให้กับคนรัก เขาคงคิดว่าผมเป็นรุ่นพี่ที่ดีมั้งครับ เลยซื้อให้มาตั้งกล่องใหญ่แน่ะ

     

    เมื่อไม่ได้เจอกันนานก็ต่างไถ่ถามสารทุกข์สุขดิบจนแบคฮยอนจับใจความได้ว่าที่มาเกาหลีก็เพราะตามพี่ชายมา เขามาหาแฟน

     

    “ฮืม? แฟน? ใครอะ?”

     

    “จุนมยอนฮยองครับ”

     

    “อ่อ! ที่เป็นครูพี่เลี้ยงอีกคนที่นี้ใช่ไหม?”

     

    “อือ นั้นและฮ๊ะ แต่ผมไม่คิดเลยนะว่าจะได้เจอพี่ที่นี้ บังเอิญจัง ดีจริงๆ” จื่อเทายิ้มกว้าง ติดจะเขินๆอยู่บ้าง แต่แบคฮยอนก็คิดว่าน่ารักดี

     

    “แล้วออกมาทำอะไรแถวนี้ล่ะ?”

     

    “ข้าง ในเด็กมันเยอะอ่ะครับ ผมไม่ค่อยชอบเด็ก” จื่อเทาตอบตรงๆอย่างใสซื่อ “แล้วอีกอย่างผมก็เอียนจะดูสองคนนั้นสวีทกันแล้วล่ะ ก็เลยออกมาเดินเล่น”

     

    “อ๋อ พี่จุนมยอนกับพี่คริส พี่ชายนายใช่ไหม? อ่า...”


    พยอน แบคฮยอนกำลังทำความเข้าใจ ...ใช่แล้ว กำลังทำความเข้าใจอยู่ เพราะจากสถานการณ์ที่กำลังได้ยินตอนนี้ ดูเหมือนว่าที่บอกว่าเป็นแฟนกันนะ...

     

    “พี่จุนมยอนที่เป็นผู้ชายนั้นใช่ไหม?”

     

    “อ่า...ใช่สิครับ ก็ผู้ชายนั้นและ”

     

    “พี่ชายนายเป็นผู้ชายใช่ไหม?”

     

    “...”

     

    คำถามนี้ถึงกับทำให้จื่อเทายืนเงียบมองเขาด้วยสีหน้ามึนงง เป็นแบคฮยอนเองที่อยู่ดีๆก็ยิ้มกว้างอย่างไม่มีปีมีขลุ่ยกลบบรรยากาศ
     

    “ก็ใช่สิครับ พวกเขาเป็นผู้ชาย”



    แบ คฮยอนไม่เคยใจแคบกับเรื่องแบบนี้เลยนะครับ จะถามใครก็ได้ เมื่อตอนประถมปลายแบคฮยอนยังเคยโดนเพื่อนผู้ชายสารภาพรักเลย แต่ตอนนั้นแบคฮยอนยังเด็กยังเล็กก็เลยไม่เข้าใจเท่าไร แต่สุดท้ายเจ้าเพื่อนคนนั้นมันหายไปไหนก็ไม่รู้ จนกระทั่งชื่อก็ยังจำไม่ได้เลย อุตส่าห์จะเก็บไว้เป็นเรื่องราวดีๆซักหน่อยว่าตัวเองก็เคยเนื้อหอมในสมัย เด็ก

     

    “ทำไมเหรอครับฮยอง? ฮยองไม่ชอบเหรอ?”

     

    “ไม่ใช่ ไม่ใช่! คือพี่แค่แปลกใจนิดหน่อย เอ่อคือหมายถึง พี่นายอยู่ตั้งจีนแนะ ไหงมาเป็นแฟนกับจุนมยอนฮยองได้ล่ะ?”

     

    ก็ แถไปให้สีข้างถลอกนั้นและครับ เห็นจื่อเทาหัวเราะ แล้วก็เล่าเรื่องสองคนนั้นให้ฟังก็รู้สึกจะสบายใจขึ้นมาหน่อยหนึ่ง อืม...ผมก็ทำได้แค่ยิ้มกว้าง พยักพเยิดเข้าใจ
     

     

    “เคยจูบกันยัง?
     

     

    กูถามออกไปทำม๊ายยยยยยยย!

     

    ผมกรีดร้องราวกับคนบ้า(ภายในใจ)เมื่อรู้สึกว่าตัวเองถามคำถามบ้าอะไรออกไป จื่อเทาก็ใสซื่อ ตอบออกมาตรงๆ

     

    “ได้กันแล้วครับ”

     

    “ห๊ะ!”

     

    “ผมคิดว่านะ...”

     

     

     

     

    [ =___________________ = ]

     

     

    เข้าใจคำว่าแดรกจุดกันไหมครับ เป็นสภาวะที่อึ้งกิมกี่จนพูดไม่ออกบอกไม่ถูก มีชีวิตก็ไปไม่เป็นเมื่อได้ฟังอะไรบางอย่างที่มันแบบ...

     

    “อืมม...พี่ว่านายภาษาเกาหลีดีขึ้นมากเกินไปแล้วนะจื่อเทา....”
    เจ้าตัวยิ้มเขินหัวเราะคิกคัก สงสัยจะเขินเพราะผมชม ...ผมอยากบอกว่าผมไม่ได้ชม..คือผมด่าอะครับ! มันคงไม่เข้าใจคำว่าประชด

     

    “ก็เพราะพี่นั้นและครับ ผมเลยเก่งภาษาเกาหลีขนาดนี้”
     

     



    แบคฮยอนได้ยินก็ยิ้มกว้างทันควันจนลืมไปเลยว่าตัวเองคิดร้ายอะไรกับน้องไว้ อายม้วนต้วนเป็นหมูแผ่นกันเลยทีเดียว

     

    “ปากหวานไปแล้วนะนายเนีย พี่ก็ไม่ได้สอนอะไรนายมากมายซักหน่อย ก็แค่เล็กๆน้อยๆ”

     

    “แต่ก็เป็นเพราะความกรุณาของศิษย์พี่แบคฮยอนนั้นและครับ ช่วงนั้นทำผมลืมไม่ลงเลย”

     

    “ไม่เอาน่า อย่ายอไปเลยศิษย์น้อง พี่เขินจนตัวลอยหมดแล้ว”
    เจ้าตัวรับมุกอย่างภูมิอกภูมิใจ จะว่าไปก็เพราะเขานั้นและที่เป็นพี่เลี้ยงเด็กแลกเปลี่ยนที่แสนดี ดูแล เอาอกเอาใจสารพัด นี้ไม่ได้โม้นะครับ ตอนนั้นไอ้ชานยอลมันงอนผมไปพักใหญ่เลย
    เอ๊ะ!
     

     

    “อะไรครับพี่แบคฮยอน?”

    คนตัวเล็กอึ้งไปชั่วขณะ คนเป็นน้องยืนมองอย่างงงๆก่อนจะโบกมือผ่านหน้าคนตัวเล็ก แล้วเรียกซ้ำอีกรอบ

     

    “แบคฮยอนฮยอง! แบคกี้ฮยอง!”

     

    “อือ อือ พี่...ได้ยินแล้ว” เจ้าตัวแก้มแดงจัดจนต้องยกมือขึ้นปิดแก้มก่อนจะคว้ามือจื่อเทาลากกลับห้อง เด็กเล็กด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้ จะว่ายังไงดีล่ะ

     

    แค่ คิดถึงหน้าหมอนั้นเขาก็รู้สึกเขินจนเงยหน้าไม่ขึ้นแล้ว แล้วยังมาได้ยินเรื่องราวของพี่ชายของเจ้ารุ่นน้องต่างชาตินี้อีกว่า...ได้ กันแล้ว...คืออ้อมค้อมเป็นไหม? แล้วอีกอย่างนะ คำนั้นของไอ้ชานยอลก็ยังไม่หลุดออกไปจากหัว
     

    ทำกันนะ!

    ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก โลกนี้มันพูดกันอ้อมค้อมไม่เป็นรึไงว่ะ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
     

     

    “อ่าว! แบคกี้ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ นี้แล้วขยี้หัวตัวเองทำไม หัวยุ่งหมดแล้ว ไม่น่ารักเลย”

    พี่จุนมยอนที่ยืนทำอะไรไม่รู้อยู่ด้านนอกอาคารถามขึ้นหน้าตาตื่นเมื่อเห็นสภาพของผม

     

    ผม ยืนหงอยมองพี่เขาอย่างเซงโลก ขี้เกียจอธิบายด้วยว่าทำมันไปทำไม ก็แค่อยากระบายอารมณ์แต่ไม่รู้จะทำยังไง ก็เลยบอกออกไปว่าคันหัว พี่จุนมยอนก็ได้ยืนทำหน้างง แต่อยู่ดีๆผมก็ต้องผงะถอยแล้วเอามือปิดตา ก็พี่เขายิ้มกว้างแล้วหัวเราะคิกเมื่อใครก็ไม่รู้มากระซิบ

     

    สวยมากครับ..สวย ระยิบระยับเป็นประกาย คนมีความรักเค้าเป็นกันแบบนี้ใช่ไหม?

     

    “นี้คริส อย่าว่าน้องเค้าสิ”

     

    ผมเงยหน้ามองไอ้คนตรงหน้าที่มองผมกลับด้วยสีหน้าประหลาด... เอาจริงนะครับ นี้ผมว่าผมหล่อมากแล้วนะ แต่ทำไมคนๆนี้ถึงได้หล่อได้ขนาดนี้!

     

    “แบคฮยอน นี้อู๋อี้ฝาน หรือเรียกว่าคริสก็ได้ ง่ายๆ ส่วนนี้พยอนแบคฮยอน รุ่นน้องจุนเอง”

     

    ผม ยืนมองอย่างงงงวย ในขณะที่พี่จุนก็กำลังจะแนะนำเทาให้รู้จัก แต่เจ้าตัวบอกว่าไม่ต้องแนะนำเพราะรู้จักกันแล้ว ก่อนจะเกิดวงสนทนาเล่าประวัติอันแสนดีงามของผมที่มีต่อเทาต่อ ผมเกิดความประหลาดใจเล็กน้อยว่าทำไมเด็กๆดูเงียบจัง

     

    ผม เลยขอแยกตัวเพื่อเข้าไปในห้องเด็กเล็กแล้วก็พบว่านี้มันบ่ายสองกว่าแล้ว เพราะเป็นเวลาที่เด็กเล็กจะต้องเข้านอนกลางวันนะสิมันเลยดูเงียบ ว่าจะย่องไปดูความน่ารักน่าชังใกล้ๆของเด็กๆซักหน่อยก็ต้องผงะ

     

    ปาร์คชานยอลที่นั่งอยู่มุมอับกำลังขึ้นสายกีตาร์เตรียมเล่นเพลงพอดี เจ้าบ้าเงยหน้าขึ้นเอานิ้วแตะปากก่อนจะดีดลงสายขึ้นเพลง I’m yours

     

    คลิกฟังดูได้เลยค่า
    http://www.youtube.com/watch?v=Z5a0S3jU9e0 ]

     



    เสียง กีตาร์โปร่งที่ลดจังหวะให้ช้าลงกล่อมเด็กน้อยให้หลับใหลไปกับอากาศเย็นกำลัง ดี เด็กตัวน้อยในชุดนักเรียนสีเหลืองหลับตาพริ้ม แก้มแดง อมยิ้ม ดูฝันดี ผมก็รู้สึกดี...


    ผมอมยิ้มแล้วเหลือบมองคนตัวเล็กที่ยืนมองผม อย่างอึ้งๆ ตอนแรกก็กลัวว่าจะโกรธกันจนไม่มองหน้า พอเขาเห็นผมแล้วจะวิ่งหนี แต่ก็แค่คิดว่าเขาคงจะเข้าใจความหมายของผมที่เล่นเพลงนี้


    นี่ คงเป็นหนึ่งในเพลงที่เราซ้อมด้วยกันบ่อยๆ เป็นเพราะแบคฮยอนไม่เก่งภาษาอังกฤษเลยซักนิด แต่เพราะความพยายามเจ้าตัวเลยท่องและทำความเข้าใจเพลงนี้จนขึ้นใจเลยล่ะครับ ก็เพราะมันทำให้คนตัวเล็กคว้ารางวัลที่สองของการประกวดร้องเพลงมาได้ มันจึงมีความหมายต่อแบคฮยอนและตัวผมเองเช่นกัน...


    รสขมปร่าติด เปรี้ยวในตอนแรกที่กัดเข้าปาก ผมยัดช็อคโกแลตใส่ปากก่อนจะมานั่งเตรียมใจรอรับผลที่จะตามมา และก็แจ็คพอตเจอชิ้นที่เป็นโกโก้ถึงแปดสิบเปอร์เซ็นซึ่งมันขมใช้ได้เลยจริงๆ ละเลียดมันภายในปากก่อนจะเผลอเลียริมฝีปากตัวเองเมื่อเห็นสีหน้าของคนตรง หน้าที่ยืนมองผมด้วยท่าทีเคอะเขิน


    ผมคงเป็นคนลามกอย่างที่แบ คฮยอนบอกจริงๆ เพราะรสจูบเมื่อครู่ยังคงติดอยู่บนริมฝีปาก พอเลียปากทีไรก็รู้สึกได้ถึงรสหวานๆจากปากหมอนั้นทุกที


    คงเสพติด เสพติดเสียแล้ว


    เมื่อ จบเพลง ผมเดินอ้อมเด็กๆอย่างเงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้ตรงไปหาคนตัวเล็กที่เอาแต่ ยืนนิ่งปิดหน้าตัวเองอยู่แบบนั้น ผมกอบแก้มนิ่มๆที่แดงจัดไว้ด้วยทั้งสองมือ ประคองใบหน้าน้อยๆที่แสนน่ารักน่าชังรอให้เจ้าตัวเงยหน้าขึ้นมาเอง  


    เจ้าตัวตะปบมือผมก่อนจะกดปลายคางลงกับอกตัวเองแน่นขึ้นไปอีก ผมก้มลงฟังเพราะเหมือนจะได้ยินเสียงอู้อี้ที่ไม่ได้ศัพท์


    “เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะ ไม่ได้ยิน”


    “ทำอะไร?” ตัวเล็กถามเสียงเบาและติดสั่น ผมยิ้มกว้าง


    “ผ่อนความร้อนจากแก้มนายไง”  ตัวเล็กได้ยินก็ดูท่าจะเขินจัด นิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะตอกกลับผมเสียน่ากลัว
    “อยากตายรึไง....?”


    “อยากให้เด็กๆตื่นขึ้นมารึไง? ฮืม?”


    ตัวเล็กเงียบยืนแข็งเป็นหินเลยครับ อยากจะฟัดมาก อยากฟัดมากจริงๆ ผมแทบจะสะกดอารมณ์ไว้ไม่อยู่
    “ออก..ออกไปจากตรงนี้เถอะ”


    คน ตัวเล็กบอกเสียงเบา แต่ตอนนี้ผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน เพราะก็ชักเขินพี่มินซอกที่มาแอบยืนมองติดชิดขอบเวทีขนาดนี้ ดีนะที่แบคฮยอนไม่รู้ ไม่งั้นอาจเขินจนฆ่าผมแน่ๆ แต่ก็ไม่เป็นไรหรอกครับ ก็เพราะพี่เขานั้นและที่ทำให้ผมกล้าจะเผชิญหน้าตรงๆกับแบคฮยอนหลังจากที่โดน ทำร้ายจนน้ำตาไหลพราก

     


    ผมยอมรับครับว่าผมกลัว ...กลัวมันกัดเข้าอีกข้างนะ





    ผม เดินนำหมอนั้นด้วยคำวามว่องไว เขินมากเลยครับ จะจับแก้มแน่นแค่ไหนผมก็ยังไม่หายเขินเลย ไอ้บ้านี้ทำไมถึงชอบทำให้ผมหัวใจเต้นแรงจังนะ


    เวลาที่ไอ้นี้ ชอบเลียบๆเคียงๆถึงเลยเถิดไปถึงขั้นลวนลามก็ไม่เคยจะอธิบายอะไรให้ผมเข้าใจ อะไรหรอกนะครับ ไอ้บ้านี่ ...คงได้ยินกันใช่ไหมล่ะไอ้สำนวนที่ว่าปากว่ามือถึงนะ ...แต่หมอนี้ไม่เคยปากว่าเลยครับ มือถึงก่อนตลอด
     

    แล้วผมยอมมันตลอดทำไมว่ะเนีย T____T


    “แบคฮยอนอ่า จะเดินไปไหนล่ะเนีย?”


    ฮือ...กูไม่รู้ กูแค่อยากเดินหนีมึงง่ะ ไอ้หูกางอาเลี่ยน!


    คงจะเพ้อเจ้อไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้วล่ะ เพราะข้างหน้ามันทางตันอ่ะครับ เป็นคอกกระต่ายแล้วก็สวนหลังตึก


    “อยาก ....กลับบ้าน” ผมตอบเสียงหงอย แต่ก็ยังไม่กล้าหันไปมองมันอยู่ดี ผมคิดออกเลย หน้าตาตอนนี้มันเป็นยังไง คงอมยิ้มแก้มเต่งหน้าเป็นโยดาอยู่แน่ๆ


    “จะไม่แจกช็อคโกแลตเด็กๆเหรอ? อีกชม.ก็ถึงเวลาแล้วนะ”


    ลืมไปเลยอ่ะ ลืมไปเลย...โอ้ย เพราะมันเลย เพราะมันคนเดียว!


    “อย่าบอกนะว่าลืม?”


    “เปล่านะ เปล่าลืม...แต่คือ...”  


    ผมเงียบ หาเหตุผลแถไม่ได้อ่ะ ก็เลยเงียบต่อ เลยเป็นหมอนั้นแทนที่ทำพูดขึ้นมา เสียงออดอ้อน (อีกแล้ว~~~~~~~ T_T)


    “แบคกี้อ่า นี้นายจะเอาแต่ยืนหันหลังให้ฉันรึไง?”


    ผมเงียบ แล้วก็เงียบ ก่อนมันจะเร่งเร้าเอาคำตอบจากผมอีกรอบ ผมเลยแถ ...แถแม่งเลยครับ


    “มันเป็นสไตล์”


    “ห๊ะ!? สไตล์”


    “ใช่! มันเป็นสไตล์ของฉัน ตอนนี้ฉันพอใจจะใช้สไตล์นี้พูดคุยกับนาย พอใจยัง?”


    “ไม่พอใจ!”


    หมอ นี้จะกวนประสาทผมใช่ไหมเนีย อยากหันไปกระทืบเท้ามันจริงๆ แต่สิ่งที่ได้กลับมาก็คือ มันเดินอ้อมมายืนตรงหน้า ผมจะหันหนีแต่กลับโดนยึดแขนไว้ซะอย่างนั้น ไม่วายทำแค่นั้นกลับเอาหัวมาพักไหล่ผมอีก


    “หันมาคุยกันดีๆก่อนสิ”


    โอ้ยยยยยยยยยยย T_T ช่วยผมที


    ผมยืนนิ่งแข็ง จะผลักจะอะไรก็ทำไม่ออกแล้ว รู้สึกถึงอะไรร้อนๆแชะๆบนไหล่ด้วย....


    “ก็...ไม่ได้หันหนีแล้วไง เอาหัวออกไปได้นะ!”


    “ไม่!”


    ฮรืออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออ


    ผม ควรทำยังไงดีอ่า ทำอะไรไม่ถูกแล้ว จากที่ยึดแขนไว้ ตอนนี้มันกอดผมแน่นเลยอ่า หน้าผมนี้ติดอกมันเลยอะครับ แล้วก็ยังได้ยินอะไรบางอย่างที่เต้นตึกตักในอกของมัน ยิ่งทำให้ผมรู้สึกเขินเข้าไปใหญ่...

    “คิดถึงตอนนั้นเนอะ”


    “อะไร?! วันไหน?!”


    “ก็ตอนที่ฉันขอของขวัญจากนายไง...”


    “...”


    “แล้วก็ตอนที่ฉันขอนายจูบไง...”


    “...”


    “แล้วก็วันที่ฉันได้จู...”


    “พูดมากไปแล้วนะ ปาร์คชานยอล”


    “ที่พูดมากก็เพราะรักมากไง...”


    ทนไม่ไหวแล้ว ...อยากจะผลักหมอนี้ออกแล้วจริงๆ อยากจะกระทืบ อยากจะตี อยากจะตบ...



    “นี้ไม่คิดถึงวันนั้นบ้างเลยเหรอ?


    ...เสียงทุ้มพูดออกมาแต่กลับติดออดอ้อนจนทำให้ใจสั่นไหว...


    ถามออกมาได้ยังไงกันว่าไม่คิดถึง...ก็เพราะคิดถึงอยู่ทุกวันไง ฉันเลยต่อต้านนายไม่ได้เลยซักครั้ง ...


    ก็เพราะคิดถึงอยู่ทุกวัน...

     

    ปาร์คชานยอล นายจะให้ฉันทำยังไง ....



     

     

     


    TBC

     

    Talk's : พูด จริงๆว่าอยากจบตอนนี้มากคะ แต่ดันเขียนได้ยาวมากอีกแล้วเลยต้องตัดจบ ฮรือ ขอโทษจริงๆคะ ที่เรื่องยืดอีกแล้ว แต่คิดว่าตอนหน้าน่าจะจบแน่ๆแล้วละ มีสเปด้วยนะ แง๊

     

    คิดถึงกันไหมง่า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×