ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : [SF] Runaway - Minho x Taemin version
Title : [SF] Runaway
Author : Choco Bar (featheraee)
Couple : Minho x Taemin
Talk to you : เป็นการเอาอันเก่ามาลงเด็กดีคะ เป็นทูมิที่เขียนมาสามปีแล้วคะ ถ้านับไม่ผิด แล้วเอาไปแปลงเป็นชานแบคแล้ว ^_^
Song :
http://www.youtube.com/watch?v=okfS5nmJxnA
เคยไหมครับ ...ที่คิดจะหนีตามใครบางคนไป...
Say it's true, there's nothing like me and you
พูดถูก.. สิ่งเหล่านั้นมันไร้ความหมายราวฉันและเธอ
I'm not alone, tell me you feel it too
ฉันนั้นไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวบอกฉันทีว่าเธอก็รู้สึกเหมือนกัน
“คบกับพี่นะเทมิน”
And I would run away
แล้วฉันจะหนีตามเธอไป
I would run away, yeah..., yeah
จะหนีตามเธอไป…
ใจของผมเต้นเร็วเพียงเสี้ยววินาทีนั้น....มันเร็วจนห้ามไม่อยู่
เสียงกีต้าโปร่ง และกลองคลอเคล้าเป็นเสียงดนตรีแสนไพเราะพร้อมแล้วเสียงหวานๆของนักร้องก็ เริ่มประสานคลอไปกับเสียงดนตรีเมื่อจบท่อนแรก เพลงหวานๆที่คลอเบาๆอยู่ในหูของเทมินมันช่างหวานซึ้งทั้งเนื้อหาเสียงร้อง และทำนองเพลง
แต่บางครั้งมันก็หวานไม่เท่าเทียบกับสิ่งนั้น และมันก็ยังทำให้หัวใจก้อนนี้ไม่หยุดเต้นเสียทีดวงหน้าหวานหันอย่างรวดเร็ว ไปจ้องตาโตที่มองเข้ามานัยตาเขาอย่างจริงจัง หลังจากมือเรียวนั้นเกี่ยวเอาหูฟังไอพอตสีขาวออกเบามือ
ท่ามกลาง เครื่องยนต์ที่ขับไปบนถนนอย่างเงียบเชียบกลางดึกคืนหนึ่งหลังจากที่เด็ก หนุ่มทั้งห้าทำงานเสร็จ บรรยากาศที่เหมือนจะเงียบเพราะผู้คนบนรถที่นั้นมิได้พูดคุยปฏิสัมพันธ์กัน แต่อย่างใดกลับแต่มีเสียงเพลงที่เปิดในวัตถุทรงสี่เหลี่ยมอัจฉริยะมีชื่อล
อดผ่านออกมาจึงทำให้บรรยากาศไม่ได้เงียบกริบ
“อ่า...ฮะๆ ล้อเล่นกันเหรอฮะมินโฮฮยอง...คึคึ ...ตลกฝืดอะไรของพี่เนีย”
ถึง แม้เจ้าตัวจะเอ่ยทัดทานออกไปแสร้งเผลอไผลหัวเราะเป็นเรื่องตลก แต่ใจกลับเต้นและสั่นจนบอกไม่ถูก .... คนเป็นพี่ข้างกายที่สีหน้าแลดูจริงจังในห้วงเสี้ยววิของความคิดของอีแทมิน ตอนนั้นเขากลับเห็นนัยแต่ที่ดูวูบเศร้า ไม่รู้เขาคิดไปเองหรืออย่างไร จู่ๆก็คลี่ยิ้มแล้วทำหน้าตลกขบขันพลางหัวเราะคิกคักจนอีแทมินถึงกับหน้าเหวอ ไปเลย
“อ่า...ฮ่าๆ พี่..คือพี่แค่ลองซ้อมบทนะ..อย่าใส่ใจ...ล้อเล่นนะล้อเล่น”
ตอบไปก็ว่าแกล้งแสร้งตบหลังลูบไหล่ราวหัวเราะเยาะน้อยๆให้น้องชายที่หน้าเหวอกลับมายิ้มตามอีกครั้งเหมือนกับจะไม่คิดอะไร
...แต่ผมก็ใจเต้นเพราะพี่ไปแล้วนะมินโฮฮยอง...
เคยคิดอยากจะปล่อยหัวใจให้ตามใครบางคนบ้างไหมครับ...
ผมคิดว่าผมไม่ได้หลงรักมินโฮฮยองแบบเกินเลย...
ตอน เด็กๆผมเคยถามทุกคนว่าความรักคืออะไร เพราะไม่เข้าใจมันซักนิด เฝ่าแต่ถามรุ่นพี่ที่โตกว่าผมเพราะ้วยเหตุผลหลายๆอย่างแต่สุดท้ายก็แค่แกล้ง ทำเป็นเข้าใจ
แต่เมื่อเวลาผันผ่านไป พอโตขึ้นผมก็เริ่มเข้าใจ ...เข้าใจเพราะทุกคนรอบกายรักผมและผมก็รู้จักที่จะรักตอบ
แต่คำว่ารักในรูปแบบนั้น...ผมกลับไม่เคยรู้จัก
จนไม่รู้ตั้งแต่วันไหนที่ใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะ...เพียงแค่ได้เจอหน้า...
“อีแทมิน นายคิดอะไร!”
สติ ที่เหม่อเมื่อครู่กลับลงมาจุติ ณ ดวงจิตน้อยๆของคนนั่งเหม่ออีกครา จะไม่ให้ตกใจได้ไง หน้าหล่อๆของมินโฮฮยองห่างจากหน้าผมไม่ถึงฝ่ามือบางๆกั้นด้วยซ้ำ เกือบจะถอยห่างไม่ทัน แต่เสียใจโยกหัวออกไม่ได้เพราะหัวมันเอนพิงบานกระจกซะชิดเงี้ย จะให้ผมถอยไปทางไหนนอกจากไหลตัวไปด้านข้างออกห่าง...
“อ..อะไรฮยอง จะเข้ามาใกล้ทำไมเนี๊ย!” มือบาง กั้นอกหนานั้นออกแต่คนที่ถอยกลับเป็นร่างบาง ถอยจะนอนไปกับพื้นแล้วเนียไอ้พี่ตัวยักษ์
ก็ยังไม่เลิกแกล้ง....ยังจะมาทำหน้าเข้มทำเป็นดุ
“ก็นาย!....”
“เฮ้ย!! ก..ใกล้ไป ใกล้ไป” อยู่ดีๆก็พรวดหน้าเข้ามาใกล้ สะดุ้งถอยเองแต่เสียใจ...นอนติดพื้นไปละ ฮือ....
“....ไม่ ตอบพี่นิหว่า ก๊ากๆๆ....ดูหน้ามันตลกวะ ฮาๆๆๆ” ชเวมินโฮก็เลยดันตัวออกมานั่งหัวเราะเอาเป็นเอาตายกะการได้แกล้งอีแทมินผู้ หายใจหายคอรวยริน(?) ….เอิ่มมม ก็มันตกใจนิฮะ
“นี้...เดี๋ยวนี้เป็นอะไร มัวเหม่อนะเรา ไปซ้อมได้แล้ว”
ใจผมเต้นเร็ว...
รอย ยิ้มหวานนั้นส่งมาให้ผมเป็นกิจวัติยามเราคุยกัน รอยยิ้มธรรมชาติของพี่ชายที่ได้เรียกว่าสนิท...ผมชินนะ ชินที่จะรับมัน ...ผมชอบรอยยิ้มพี่เค้านะ
“อ่า...ฮะ”
มือนั้นเอื้อมออกมาขยี้หัวผมเบามือ...สิ่งนี้ผมก็ชินเหมือนกัน...ชินจริงๆนะฮะ
I would run away
จะหนีตามเธอไป
I would run away with you
จะหนีตาม…ไปกับเธอ
แล้วเคย...อยากจะแค่ปล่อยให้ทุกอย่างมันเป็นไป เพียงแค่ใครคนนั้นอยู่ข้างกายไหม...
ตากลม กระพริบปริบยามเมื่อได้เห็นอาหารวางอยู่ตรงหน้า สารพัฒบุฟเฟ่คาวหวาน …หลังเลิกงานยักษ์ประจำปีและคอนของตัวเองที่ผู้จัดการใจดีมาเลี้ยงเพิ่ม อีกรอบหลังจากงานต่างๆ ผู้จัดการเลยซื้อมาเลี้ยงซะยกใหญ่... อีแทมินเดินมามองของบนโต๊ะแล้วตาวาวร้อง ว๊าว!!!!
“ส...สุดยอดเลยฮะ ชเวจินฮยอง สุดยอด!!!”
ก็อาหารมันเยอะและน่ากินจนเกินอีแทมินจะพรรณาว่ามันสุดยอดระดับไหน
“มันสุดยอด สุดยอดเท่า...โตเกียวทาวเวอร์เลยละฮะ”
...อ่า~ ช่างหาคำเปรียบเปรยจริงๆเด็กต๊องคนนี้ ก็แค่นั่งดูหนังญี่ปุ่นกับเขาเมื่อกี้ มันมีโตเกียวทาวเวอร์และก็อตซิลล่านี้สิ...
ชเว มินโฮหันไปมองเด็กเห็นแก่กินแล้วก็ได้แต่ยิ้มขำๆ กับอาการที่ของเด็กแก้มป่องพุงป่องที่ร้องตะโกนโวยวายทุกครั้งยามเห็นของ กิน…แต่หน้ากล้องเด็กคนนี้มันไว้ฟอร์มนะฮะ มันไม่แสดงออกเหมือนตอนนี้หรอก ฮะๆ แต่น่ารักชะมัดเลย
มองแล้วมันเพลินดีนิฮะ คนน่ารักแบบนี้นะ...
“ผมจะกินนี้ๆ นี้ๆ ๆๆๆๆๆๆ!”
“หมดแล้วไหมนะ พี่ๆไม่ต้องกินกันพอดี” พี่ชเวจินร้องทักพลางยืนค้ำเอวหันมายิ้มให้
“ได้กินฮะ แทมินจะแบ่งให้...คนละนิดละหน่อย นอกนั้นแทมินจะกินหมดเลยละ”
“ฮะๆ พี่จะคอยดูว่าเราจะทำได้อย่างที่ปากว่าไหม...วันนี้ยังมีอีกเยอะ ...”ชเวจินเอามือตบอกปั๊กๆ!
“...เพราะพี่เป็นอาเฮียใหญ่~!” พร้อมกับทำหน้าภาคภูมิใจที่จะต้องเสียเงิน
เจ้าเด็กบ๊องมองตามพรางทำเลียนแบบชเวจินฮยองอย่างไว เอามือทุบอกอั๊กๆ!
“...ผมอาเฮียน้อยคนนี้ก็จะไม่เกรงใจ ทุกสิ่งตรงหน้าผมจะกินให้หมดเลยละฮะ!”
ประกาศกร้าว ทำหน้ามุ่งมั่น...แล้วพลันเสียงหัวเราะก็ดังสนั่นไปทั่วห้องพักก่อนฝ่ามือ หนาของพี่ชเวจินจะโยกคลอนหัวอีแทมินด้วยความเอ็นดู
กับทุกสิงที่มัน เกิดขึ้นอย่างไหลลื่น...ผมเห็นมันทุกอย่าง...ผมรู้สึกดีจังที่มันยังคงเป็น แบบนี้ไปเรื่อยๆในห้องเล็กๆที่เรียกว่าหอพักของชายนี่แห่
งนี้...
“น่า สนุกจังนะฮะคืนนี้”ชเวมินโฮที่เดินออกมานั่งมองคนทั้งสองกับพี่จินกิที่ กำลังจัดไก่ใส่จานไป ...กินไป ก็ยิ้มตาหยีให้กับน้องชายที่เอ่ยพูด
“อืม...พี่ ก็ว่างั้น...มินโฮเอาซักชิ้นไหมละ...” ว่าพรางก็หยิบชิ้นไก่ราดซอสให้คนข้างๆหน้าตาเฉย มินโฮก็ได้แต่ยิ้มรับก่อนจะบอกว่าไม่เอาแล้วก็หันไปนั่งพร้อมเปิดขวดน้ำ มะนาวแถวนั้นกระดกเข้าปากแทน
“อ่า..~พี่มินโฮกินของแทมินทำมาย ผมยังไม่อนุญาติเลยนะ” เจ้าตัวทำสีหน้าท่าทางจริงจัง ก่อนมินโฮจะยกน้ำมะนาวออกจากปากแล้วทำหน้าเหรอหรางงงวย แล้วหันไปชี้จินกิที่ยังมีชิ้นไก่อยู่ในปาก
“พี่อนยูเป็นกรณียกเว้น...ผมไม่ถือ” ก่อนจะยิ้มแป้นให้อีจินกิอย่างรู้กัน
“ลำเอียงแฮะคนเรา” มินโฮทำหน้าไม่พอใจก่อนจะแอบบ่นเล็กๆกับตัวเอง
“ผม ป่าวลำเอียงนะ เมื่อกี้ผมเพิ่งประกาศเองว่าทุกอย่างเป็นของผมนิหน่า พี่ก็ต้องเชื่อฟังสิฮะ” อีแทมินยิ้มหยีอย่างอ้อนๆ ดูก็รู้ว่ากำลังแกล้งเขาอยู่ เจ้าตัวก็เลยเออออตามน้ำไป
“อ่า~เจ้าชายอีแทมินผู้เอาแต่ใจต้องให้ผู้ติดตามชเวมินโฮคนนี้ทำอะไรก็สั่งมาได้ตามสะดวกเลยพะยะค่ะ”
เขา ก็แค่เรียกตามพี่ชายที่รัก”ชิมชางมิน”ผู้ให้สรรพนามน่ารักๆแก่เด็กน้อยตรง หน้า พร้อมย่อตัวคุกเข่าข้างเดียวลงราวกับอัศวินผู้สวามิภักดิ์ต่อผู้เป็นใหญ่ใน โลกล่า ผายมือออกไปจับฝ่ามือน้อยๆนั้นยกขึ้นราวขอความรัก แต่เขาก็แค่หยอกเย้าและยืมมุกพี่ชายมาเล่นก็เท่านั้น...
แต่รู้สึกมันแปลกๆไหมละเนีย เมื่ออยู่ดีๆเจ้าตัวเล็กของเขาก็หยุดกึก ทำหน้านิ่งมองเขาอย่างงงๆก่อนจะวิ่งหนีออกไป...ซะอย่างงั้น
ชเว มินโฮผู้หล่อเหลาและมีความมั่นใจสูงในทุกๆเรื่องเป็นอันต้องหยุดชะงัก แล้วหันไปด้านหลังมองตากับพี่จินกิที่ได้แต่ส่งตากระพริบปริบๆให้เขา...หรือ มุกเราจะปัญญาอ่อนเกินไปจนน้องตกใจวิ่งหนีวะ
แล้วก็เอามือที่ข้างไว้มาเกาหัวตัวเองแกรกๆ ยิ้มแหยๆให้กับชะตากรรม แถมยังไม่ลืมหัวเราะแฮะๆด้วยแนะ
ชเว มินโฮก็งงเหมือนกันนะฮะ...อยู่กันมาเล่นแรงกว่านี้อีกไอ้เด็กนั้นก็ยังไม่ เห็นมีทีท่าประหลาดๆแบบเมื่อกี้...ตบหัวลูบหลังกันเป็นกิจวัตรเผลอๆอิเ
ด็ก บ้านั้นมันจะตบหัวผมเล่นเสียอีก....อ่า~ พูดถึงตอนนั้นก็เสียวหัว...มันตบทีเจ็บนะ ใครว่ายั้งมือ ฟาดลงมาทำยังกะผมเป็นตัวตุ่นในตู้เกมส์...อูย ตอนนั้นคงเล่นเกมส์ชิงขนมอะไรซักอย่างนิละ ลืมแล้วอะ
ชเว มินโฮที่รำลึกความหลังก็เดินไปพร้อมเกาท้องไปด้วยอย่างนึกหิว...คงต้องหา อะไรเข้าปากก่อนเด็กตะกระคนนั้นจะกลับมาซะแล้วสิเนีย...ว่าไปก็หันไปจัด
จาน เอาของกินลงจานพร้อมกับจับเข้าปากตัวเองไปพลาง กว่าจะเสร็จเกือบทุกคนก็ช่วยกันทำเกือบจะเรียบร้อยแล้วเว้นเสียแต่คีย์กุน ที่เดินหายไปไหนไม่รู้และเจ้าตัวยุ่งที่หนีกายเขาไปเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน
...นี้เจ้าตัวยังไม่โผล่หัวมากลั่นแกล้งเขาต่อเลย ไปไหนของมันเนีย
“เด๋วผมออกไปตามเจ้าเด็กลิงมาช่วยงานก่อนนะ”หันไปบอกจงฮยอนที่ยืนดูปลาหมึกหลอดในปากเพราะยืนอยู่ข้างๆก่อนจะพยักเพยิดทำเป็นรับทราบ
~ทำเป็นหนีแล้วชิ่งหนีช่วยงาน แบบนี้ต้องลงโทษเด็กดื้อนะเนีย~
ว่าพลางก็จับลูกชิ้นไปสองไม้เผื่อเอาไปล่อเด็กบ้าของกินซะหน่อย กลัวมันหิวแล้วอาละวาด
ขา ยาวๆก้าวไปก็ไปแต่หูกลับได้ยินเสียงหัวร่อต่อกระซิกที่ฟังก็รู้เลยว่าเป็น ใคร เจ้าตัวเลยโผล่หัวเข้าไปกะจะไปดูเจ้าตัวอู้งานซะหน่อย ก็เห็นสองคนนั้นกำลังถ่ายรูปเล่นกันอย่างสนุกสนาน พร้อมกับหัวเราะคิกคักก่อนจะโน้มตัวเข้าใกล้กันอีกครั้ง
มินโฮกะจะไปร่วมวงซะหน่อยก็ต้องชะงักเท้าทันทีเมื่ออยู่ดีๆเจ้าตัวดีดันหอมแก้มคีย์ตอนถ่ายรูปซะงั้น...เฮ้ย!
เฮ้ย! ….เฮยยยย...เห้ยยยยยย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ผม ก็ได้แต่ยืนทำตาโตมองคีย์ตบตีแทมินอย่างเขินๆที่เจ้าเด็กร้ายมันก็ได้แต่ หัวเราะร่าเริงใจอยู่แบบนั้นก่อนสายตาน้องเล็กน่ารัก(?) จะหันมาจ้องเขาแล้วส่งยิ้มให้ พร้อมกับสีหน้าของคีย์ที่ดูก็รู้ว่ามันเขินจนอยากแทรกแผ่นดินหนีพร้อมกับทำ หน้ากระเง้ากระงอดหันมาทางมินโฮพลางถาม
“เมื่อกี้แกไม่เห็นอะไรใช่มะ มินโฮ”
ผมก็ได้แต่ทำหน้า...บอกไม่ถูกอะครับ...คือบอกไม่ถูกจริงๆนะ
“ไม่เห็น...มั้ง แฮะๆ”
“เห็นไหม อีแทมินอ่า เล่นอะไรของเราเนียพี่เขินนะ คนอื่นมาเห็น*&(^&*^(&)*&)(*~”
แล้ว ก็บ่นไปไม่หยุดอีกยาววิ่งหนีไล่ตีกันอ้อมตัวผมซะหนึ่งรอบก่อนจะวิ่งหายเข้า ห้องอื่นไป...ปล่อยให้ผมยืนอึ้งๆอย่างงงๆ ...เดียวนี้อีแทมินมันชักร้ายไปหน้าแล้วแฮะ
แต่ทำไม รู้สึกอยากเป็นคีย์ขึ้นมาซะอย่างงั้น...สงสัยเราชักจะคิดแผลงๆเกินไปแล้ว แฮะ...อ่า...ผมยอมรับก็ได้ครับว่าเมื่อกี้ที่ผมเห็น ผมรู้สึกอิจฉาคีย์ที่ทำแบบนั้นกับน้องได้...ก็ประมาณถ่ายรูปเซลฟ์คากันนะ... ผมนะเป็นคนชอบถ่ายรูปตัวเองมากไม่ว่าจะโมเมนต์ไหนก็ตาม มันก็ปฏิเสธได้ยากว่าคนอย่างผมมันทำแบบนี้แล้วมันน่าหัวเราะก็เถอะนะ ฮะๆ แต่อีแทมินกับผมก็ยังไม่เคยถ่ายรูปแบบแทมินทำกับคีย์เลยซักครั้งเลยนะ
จะเข้าไปชวนมาถ่ายก็แลดูจะเขินๆกันไป...สุดท้ายก็ไม่กล้า ใช่ว่าผมไม่คิดนะ
อ่า...อิจฉาคีย์แฮะ
“อยากโดนแบบนั้นบ้างแฮะ~”
ก็แค่รำพึงกับตัวเองเบาๆแล้วยิ้มกว้างพลางมองลูกชิ้นสองไม้ในมือ...
“ม้ายซะแล้วสิเจ้าลูกชิ้น เจ้าของที่ตั้งใจเอามาให้สนใจไปกินแก้มคนอื่นแล้วสิ”
ว่าพลางก็คิดไป...นี้คำพูดตูจะล่อแหลมเกินไปไหม...
ว่าไปก็อิจฉาคีย์ ฮ่ะๆ
I would runaway with you
แล้วฉันจะหนีตามไปกับเธอ...
ทำไมความคิดผมมันชักแปลกๆไม่เหมือนก่อนซะแล้วแฮะ...
บางครั้งคุณเคยหลับตาฝันแล้วปล่อยให้หัวใจล่องลอยเป็นอิสระกับความคิดของคุณบ้างไหม
ตากลม กลมกระพริบเป็นจังหวะหลังจากหยิบหูฟังออกจากหูของตัวเองก่อนจะไปสนใจรุ่นพี่ ตัวใหญ่ที่นอนมึนๆหน้าแดงอยู่บนพื้นข้างตัว...อีแทมินก็รู้สึกมึนเ
หมือนกันนะ ...แต่เพราะกินนิดเดียวเพราะมันไม่อร่อย ก็เลยไม่หนักเท่าพวกคุณพี่ๆก๊งเหล้ากันจนดึกดื่น
หลัง จากที่เก็บจานเก็บอะไรเสร็จสรรพก็กะว่าจะมาพาร่างของพี่มินโฮกะพี่จงฮยอนไป สลบต่อที่เตียง แต่เพราะพี่จงฮยอนพี่คีย์และพี่จินกิจัดการกันอยู่แล้ว อีแทมินผู้หลบไปหยิบไอพอตคลาสสิคของชอบเผื่อมานั่งฟังแก้หงวงหงาวหาวนอนก็ เป็นอันต้องมาทำหน้าที่ใหม่ต่อจากการเก็บกวาด
...คือการยกร่างยักษ์กลับถ้ำ...
ตากลม จ้องอย่างเหนื่อยหน่ายก่อนจะถอนหายในหนึ่งพรืด~พอเป็นพิธีแสดงความหนักใจ แล้วจัดการวางไอพอตลงบนโซฟา ก่อนจะเยื้องย่างเท้าเล็กๆแล้วย่อตัวเล็กพยายามฉุดไอ้พี่บ้าหนักห้าร้อยนี้ ขึ้น ฮึบ!...แต่ก็ต้องล้มเหลวตามคาด
...ก็อีแทมินผู้หญิงตัวบางๆยัง จะทำล้มเลยนะ ฮือๆ แล้วผู้ชายหนักกว่าผู้หญิงสาวสวยคนอื่นตั้งสองเท่ามันจะไหวได้ไงฟระ ...ว่าไปก็พลางโงหัวขึ้นสอดส่ายสายตาหาตัวช่วยแต่กลับไร้ชีวิตมนุษย์
ทำไมพี่มินโฮต้องหนักด้วยวะ โอ้ยยย กินเหล็กลงท้องรึไงกัน
ก่อน จะกลายร่างเป็นหมีหาผึ้งกิน(?)ไปซะก่อน อีแทมินก็ต้องพยายามพยุงตัวช้อนแขนบึ๊กๆของพี่มินโฮที่ไปเล่นกล้ามเตรียม โชว์ความแมนต่อหน้าพี่สาวน้องสาวเพื่อนสาว...เอิ่มนั้นละ ทุกอย่างที่ผมพูดมาพี่มินโฮกะโชว์หมด แล้วดูท่าก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวังซะด้วย...แต่มันกลับสร้างปัญหาให้กับผม
...ตอนนี้และ ฮือ~ TT TT หนักเว้ย!
บ่นในใจไปก็พยายามยกพี่มินโฮลุกขึ้นจนจะสำเร็จละ จะแล้วนะ...จะแล้ว~
“เหวอออออ~~!!!!!!!!!!”
ล้มอั๊กๆเต็มๆรักทับอีแทมินแทบหักกันเลยทีเดียวก่อนจะรู้สึกเจ็บที่มุมปาก แล้วได้รส...คาวเลือด
อี แทมินค่อยๆเปิดตาออกมองแล้วก็พบว่ามินโฮเอาหัวเถิกมาชนปากตนจนปากแตก...ก็ จมูกมันได้กลิ่นหอมของแชมพูเต็มจมูกเลยนี้สิ...อ๊ากกกก เจ็บเว้ยยยยย!!!
ก่อน จะร้องตะโกนพลักไอ้พี่บ้านี้ออกกลับรู้สึก...แปลกๆที่ซอกคอ...เมื่ออยู่ดีๆ ไอ้หัวทุยที่พิฆาตปากเมื่อกี้กลับเอียงองศาหาความสบายแล้วย้ายลงซอกค
อพอดี...เป๊ะ!!!!
หายใจระรินรดซอกคอเค้าไม่เกรงใจร่างน้อยๆที่มันชักหวิวๆปนขนลุก
“เฮ้ยๆๆไอ้คิงคองนี้ชักเอาใหญ่ ออกไปนะเว้ย!” ก็ไม่รู้จะด่ามันยังไง ยืมสัตว์ประหลาดยามเที่ยงจากหนังมาด่าพอให้หายคันปากซักหน่อยเฮอะ
มือบางก็พยายามดันก็แล้วทำอะไรก็แล้วก็ยังเอาตัวหนักๆที่ทับเขาออกไปได้เลยแม้แต่ครึ่งมิล ...แต่หน้านั้นมันกลับ...ซุก
อีแทมินขนลุ๊ก~!!!!!!!!!!!!!!!
“ฮะ...เฮ้ย~มินโฮฮยองจะไซร้ทำโตเกียวทาวเวอร์รึไงวะ โอ้ยยยขนลุกนะ”
เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องธรรมดาสามัญต้องโดนนะเว้ยคราบ~~~~~ ถึงแม้จะโดนโอบโดนกอดเป็นกิจวัตรชเวก็เถอะ
ผม ก็รู้ตัวนะว่าโดนพี่มินโฮกอดเล่นหัวบ่อยอะ...ใกล้กันกอดกันตามประสาพี่น้อง แต่นี้ชักไม่ใช่...ผมไม่ใช่หมอนข้างนะจะมาซุกไซร้...ห..หยุดไซร้ ..ไซร้คอโผมมม!!!
ชักร้อนๆที่หน้าแบบไม่รู้ตัว อีแทมินรู้สึกแปลกๆ...เมื่อคอรู้สึกว่าโดนไซร้แต่ผิวหนังเจ้ากรรมดันสัมผัสได้ถึงผมหายใจร้อนๆที่รดต้นคอ
...จะ...จะเป็นลม ใครก็ได้มายกไอ้พี่บ้าออกไปจากตัวผมซักทีสิฮ๊ะ~~!!!
“จินกิฮยอง ออมม่าช่วยผมด้วย” จะตะโกนออกไปดันเจ็บปาก งือ...ไอ้ฮยองบ้ามาทำผมเจ็บได้อีกนะ
“แจ๊บๆ อีแทมินวันนี้เนื้ออร่อยเน๊อะ~” เสียงงุนงัวมัวเมามันสะท้อนอยู่บนตัวผมนี้และ ได้ยินชัดเลย ชัดๆเลย...
...เออสิ อร่อย...คนเราก็ยังมาละเมอหากันอีกนะ ...แล้วทำไมรู้สึกแฉะๆที่คอวะ หรือว่า....น้ำลาย
อยากจะกรีดร้องเป็นภาษาตุระกี....แต่ก็ทำได้แต่เบะปากด้วยความรังเกียจ
อีแทมินรับไม่ได้ แหวะ..
“อ้าปากๆ พี่จะเอาให้กินนะแทมินนะ อ๊า~!!!”
...พูดอะไรของไอ้คุณท่านพี่วะครับ...จะป้อนผมหรอ...ตอนกลางวันแย้งผมยังกะขาดอาหาร...
“อ้ำ~!”
“อ๊ะ!...จ...เจ็บ”
รู้สึก หยุ่นๆที่คอและก็อะไรคมๆงับเนื้อ...อีแทมินถึงกับใจวูบไปเสี้ยววิ ก่อนจะรู้สึกหน้าแดงๆแข็งเป็นหิน...มารู้สึกรู้สาอีกทีก็ตอนที่รู้สึกเหมือน ว่าบนตัวหนักกว่าเก่าแล้วโดนงับรอบสองพร้อมกับเหมือนโดนดูดคอ….ใจหล่นวูบไป ถึงตาตุ่ม...
“กูไม่ใช่ปลากหมึกหลอดนะเว้ย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
ตะโกน ลั่นก่อนจะถีบพี่ชายตัวเองหงายหลังไปชนโต๊ะรับแขกดังอั๊ก!แล้ววิ่งหายหนี เข้าไปซุกผ้าห่มบนเตียงจนพี่ๆที่ตื่นอยู่วิ่งมาดูเกือบไม่ทัน
เสียง คีย์ที่ไถ่ถามอย่างเป็นห่วงแต่ก็ไม่เป็นผล อีแทมินก็ได้แต่เงียบกริบอยู่ใต้โปงผ้าห่มก่อนออมม่าจะเหนื่อยใจเดินออกไป ช่วยพี่จินกิยกยักษ์ตามเสียงเรียก
เมื่อรู้สึกได้ว่าไม่มีใครแล้วอี แทมินก็ได้แต่ดิ้นคลุกคลักเอามือที่แปะตรงต้นคอแล้วลูบไปอย่างขนลุกขน พอง...พลางอีกมือกุมที่อกซ้ายที่หัวใจที่มันต
ีระรัวปานกลองแต็กลิงตีไขลานที่เคยเห็นในยูทูป....
เฮือก! แล้วก็เพิ่งมาระรึกได้ว่ามัน...เจ็บอะ ฮือออ
“เจ็บอะ...ฮือ เจ็บอะ”
ก็จะไม่ให้บ่นได้ไงกัน เอามือไปสีคอยามแผลเพิ่งเกิดใหม่...จะไม่ให้มันเจ็บได้ไง
อีแทมินคิดในใจ...ปากกูก็เจ็บงะ...
กูจะกล้าลุกไปเผชิญหน้ากับเหล่าบรรดาพี่ๆพร้อมรอยแดงบนคอได้ไงวะ...ถึงไม่เห็นก็รู้ว่ามันชัด...ชัดแน่ๆชัดชัวร์
อยากจะกรีดร้องเป็นภาษาก็อตซิลล่า..ฮือ ว่าแต่มันกรีดร้องยังไงวะ...ฮือออ
เช้า ย่ำร่ำร้องเรียกว่าใกล้เที่ยง...อีแทมินที่รู้สึกตัวตั้งแต่เก้าโมงเช้าไม่ กล้าลุกเมื่อยังรู้สึกว่าพี่คีย์เดินวนอยู่ในห้อง...ต่อมาเมื่อรู้ว่
าพี่คีย์ ของเขาเดินออกจากห้องไปหาไรกินแล้วเหลือแต่บูดูเต้าหู้เน่านอนกกกอดหมอนหมู ก็ย่างเท้าลงพื้นอย่างเงียบเชียบก่อนจะไปยืนหน้ากระจกยาวเอียงคอ
ดูรอยจารึกจากปากฮยอง(เวร)...
แดง แจ๊งแว๊งไร้เมคอัพเสริมแต่ง...รอบรอยดูเขียวม่วงแดงยังกะมะเขือม่วงทาลิ ปแดง...ปลายนิ้วเอื้อมแตะนิดๆก็ต้องสะดุ้งนิ้วออกเพราะมันเจ็บ...แล้วเปล
ี่ยน มาดูแผลที่มุมปากแทน...ยังมีรอยเลือดอยู่เลย...อีแทมินก็ได้แต่รำพึงร้องไห้ ฮือๆในใจแล้วก็ลากขาไปค้นๆหาผ้าพันคอผืนยาวมาพันคอจัดตกแต่งปิดไปถึ
ง
ปากเลยเฮอะ...ดีที่ช่วงนี้มันเป็นหน้าหนาวนะ
...เห็นแล้วก็นึกแค้นในใจ แค้นนี้จะต้องเอาคืน...!!!
อีแทมินผู้เหลือแต่ตาให้คีย์แลก็เดินออกมาจากห้องผ่านไปเข้าห้องน้ำอย่างว่อง...ก่อนจะกลับมาสภาพเดิม
“แท มินทำอะไรนะ...จะรัดหน้าอะไรเยอะแยะขนาดนั้นกัน”ว่าไปก็เดินไปจะเอามือไปจับ จัดๆให้น้องซะหน่อย แต่เจ้าเด็กบ้าดันจับมือออกห่างแถมยังเอี่ยวตัวออกข้างอย่างไวไม่ให้คีย์จับ
“ป...เปล่าฮะคือผมรู้สึกแสบคอหน่อยๆก็เลยหาผ้าพันคอมาพันไว้ให้อบอุ่น...อ่าพี่คีย์เด๋วงั้นผม ...ผมไปปลุกมินโฮฮยองจงฮยอนฮยอง...”
“เรียกกันทำไมวะแทม”จงฮยอนที่โผล่ออกมาจากมุมฝ้าเพดานราวกับเสกได้นั้นเดินทุบหัวตัวเองโป๊กๆทำหน้าเหยเก ดูก็รู้ว่าพิษเหล้ากำเริบ
“เปล่าๆ ผมนึกว่าฮยองยังไม่ตื่น งั้นมินโฮฮยองก็...”
“เออๆ ฝากไปปลุกไอ้หมียักษ์ขี้เซานั้นด้วยเว้ย ดูท่ามันเหมือนจะหลับยาวเลยวะ...คีย์กุนอ่า พี่ปวดหัวอ่าช่วยหน่อยสิ~”
อีแทมินได้ยินแบบนั้นก็วิ่งเร็วจากตัวคีย์อย่างว่องไม่รอดูฉากหมาน้อยอ้อนซักนิด...คิดได้แบบนั้น ก็ต้องแก้แค้น ฮาๆๆๆๆๆๆๆๆ
ร่างหนาหลับอุตุไม่รู้สึกรู้สาจากรังสีอำมหิตซักนิด ...อีแทมินรู้สึกเหมือนมีชัยไปกว่าครึ่ง(เมื่อเหยื่อไม่รู้สึกตน...)
ก่อนจะย่องเบา(?) แล้วกระชากผ้าห่มอย่างแรงดังฟึ่บ!
รอดูปฏิกิริยาของคนตัวหนา...หนาวสั่น
“บรึยยย หนาววว~”
กร๊ากกกกก สะใจเว้ย!!!
ยังไม่พอ ต้องต่อด้วยไม้สองเอาหมอนพี่จงฮยอนฟาดที่นอนขนาดควีนไซน์นั้นแล้วแหกปากโวยวายกรอกหู
“ตื่น โว้ยพี่มินโฮ ตื่นๆๆๆๆๆ สายแล้ว อย่ามาหลับเป็นหมีจำศีลให้เสียเวลาออกมาหากินผึ้งกินอ้อย(?) ลุกๆๆๆๆๆ(*E()*)(*%()%*R()*)%(*)($)($)$”
ไปอีกยืดยาวจนเจ้าคนโดนรบกวนถึงกับนิ่วหน้าแล้วเด้งตัวขึ้นนั่งมองพร้อมกับด่ากลับเสียงรำคาญแล้วเอามือปิดหู
“อีแทมิน หยุดๆๆๆ พี่ปวดหัว โอ้ยยย!!หยุด!”
“แบ ร๊~! ก็ไม่รู้จักลุกเอง” เจ้าตัวบางที่นั่งขย่มเตียงเมื่อคู่แลบลิ้นปริ้นตาก่อนจะรีบลุกไปแต่กลับ สะดุดสายผ้าพันคอตัวเองพันมาหน้าคะมำเตียงจนชเวมินโฮถึงกับหัวเราะกร๊ากอย่
างลืมปวดหัวไปเลยทีเดียว
ก่อน เจ้าตัวจะกระวีกระวาดคว้าหมอนใหล้มือมาฟาดๆๆๆๆ ชเวมินโฮผู้น้ำตาเล็ดแต่กลับโดนคว้าหมอนเอาไว้ได้ก่อนจะดึงอย่างแรงแล้วเกิด ช่องอากาศกั้น...ร่างทั้งร่างของอีแทมินหล่นใส่ตัวชเวมินโฮเต็มรัก...ก่
อนที่ร่างบางจะเด้งตัวออกทันแต่สายตาว่องวัยปานเหยี่ยวกลับเห็นรอยแดงๆที่ต้นคอน้องและมุมปากสีช้ำ
คว้า ข้อมือบางก่อนที่เจ้าตัวจะหนีทันแล้วกระชากเบาๆ แต่เจ้าตัวก็เซถลามาล้มตรงหน้าเขา...สายตาคมพินิจพิเคราะห์แล้วแทมินก็รู้ ว่ามินโฮเห็นอะไร ก่อนจะเอามือตะปบคอ
“แทมินไปโดนอะไรมา...ไหนๆ เอาออกซิ นี้ จะมาบังไว้ทำไมให้พี่ดูหน่อย”
“เปล่า นิฮะ...พี่มินโฮอย่ายุ่งน่า...ผมแค่ล้มคอฟาดพื้นเป็นรอยเอง” แถสีข้างก็ไม่เนียนซะงั้น ...เพิ่งมาคิดได้ตอนพี่มินโฮมองหน้า...สีหน้าจริงจัง...นี้จะย้ำเตือนว่า เค้าไม่เนียนใช่ไหม ก็เห็นละครมันใช้บ่อยยามเข้าตาจนนี๊~ ฮือ ใครจะกล้าบอกคนทำก็พี่และ
“แทมินนี้พี่จริงจังนะอย่ามาล้อเล่น...ปาก เราก็อีกมันช้ำเนียเห็นไหม..บอกพี่มาใครทำให้แทมินเจ็บพี่จะไปจัดการ...แล้ว เนี้ยเจ็บมากไหมเนีย...”ว่าพลางก็เอาปลายนิ้วโป้งเกลี่ยเบามือนิ้วชี้ก็ เกี่ยวคางน้องไม่ให้หลบหน้ายามเค้าแตะแผล...แต่มือที่คอก็ยังไม่เอาออก
“แทมินพี่ขอดูคอหน่อย”
“ไม่นะฮะ ไม่มีอะไร ผมบอกแล้วไงว่าคอฟาดบันไดเลยเกิดแผล”
“ไหนเมื่อกี้บอกล้มฟาดพื้น”
แทมินถึงกับสะอึกก่อนจะอ้าปากแถต่อ
“ก็ตอนแรกมันฟาดพื้นแล้วเลยลื้นไปชนบันไดถไลตกพื้นก็แค่นั้นเองนะฮะ ไม่มีอะไรซักหน่อย”
คิดตามภาพตามน้องพูดไป...แบบนั้นก็คอหักตายแล้วละแทมิน
“...จริงๆนะฮะ เปล่าโดนอะไรกัดคอนะ”
ยังจะมาทำหน้าตาบ๊องแบ๊วให้เค้าเชื่ออีก...
“อี แทมินพี่ถามอีกรอบจะยอมให้พี่ดูคอไหม”พูดแค่นั้นอีแทมินก็ปากเบะส่ายหัว พัลวันก่อนจะเกิดความชุลมุนชุลเกยื้อแย้งข้อมือออดจากคอแล้วแทมินก็โดนผลัก กดลงเตียง...สุดท้าย ชเวมินโฮก็เป็นฝ่ายชนะ...ก่อนที่เจ้าตัวหัวไว(ไปไหมวะ) เอียงคอมาด้านที่มีแผลบังแผลไว้...บางครั้งก็อยากเตะน้องซักป๊าบ!ด้วยความ ขัดใจ...มันจะฉลาดเป็นกรดไปไหมไอ้เรื่องเอาตัวรอดเนีย
“อี – แท - มิน หยุดลูกเล่นกะพี่เดี๋ยวนี้นะ จะให้พี่ดูดีๆหรือว่าต้องให้พี่ใช้กำลัง”แต่ไอ้เรื่องอยากเอาชนะเนียชเวมิ นโฮคนนี้มีอยู่เต็มอก
“ผมไม่ให้ดู...พี่มินโฮอย่ามาบังคับขู่เข็นกันนะฮะ ถ้าพี่มินโฮแกล้งผมกว่านี้ผมจะฟ้องจินฮยอง ออมม่า และทุกๆคนว่าพี่แกล้งผมนะ”
“แต่นายก็ฟ้องตลอดยู่แล้วนิ เจ้าเด็กดื้อ!”
“ฮยองบ้า! ปล่อยผมนะ ผมไม่ให้ดู”
เจ้า ตัวทำหน้ายู่ก่อนจะจ้องตาเขียวปั๊ดเขม็งท้าทาย...ชเวมินโฮเห็นแบบนั้นก็ฉุน ใหญ่หันซ้ายหันขวาวิธีเอาชนะ แต่สองมือก็จับแขนเด็กนี้มันกดไว้แล้วปล่อยไม่ได้ด้วย ไอ้รึจะยกเท้ามาเขี่ยก็เอาขากดขาไว้แล้ว(เอ่อ...นี้กูก็คิดไป) ...เลยเอาว๊ะ! มันอยากจะดื้อเองทำไมก็เหลืออย่างเดียวให้ใช้เนี้ยและ
ผม ตกใจตื่นก่อนจะหลับตามิดแล้วรู้สึกได้ถึงอะไรนิ่มๆแตะอยู่ที่ปลายคางและ เนื้อผิวเย็นๆของหน้าฮยองมาแนบหน้าผมอยู่...ฮยองบ้าพยายามเอาหน้ามาดันหน้
าผมให้เปิดคอออก...
“พี่มินโฮบ้า ทำอะไรนะ ออกไปนะ...อ๊ากๆๆไอ้คิงคองบ้า...”
ผม กร่นด่าไปหลายสิบคำด่าจนไม่รู้จะด่าอะไร ใจมันก็ระรัวอยู่ได้หยุดซักทีสิวะไอ้ใจบ้า...แต่ผมก็สู้หลังชนเตียงนะ(?) ไม่มีทางที่ฮยองจะชนะผมได้หรอก!
เอาหน้าดันกันไปดันกันมามินโฮก็เป็นฝ่ายเหนื่อยซะเอง...
เฮือก!!!!! ไอ้เด็กลิงแรงควาย
ละหน้าขึ้นมาจ้องอีแทมินที่หลับตาปี๋และอยู่ในท่วงท่าเดิมและดูจะแน่นกว่าเดิมอีก...ไม่กลัวคอเคล็ดรึไงวะ
“อีแทมิน...พี่ชักเหนื่อยแล้วนะ!”
“เหนื่อยก็เรื่องของพี่สิ...ปล่อยผมนะตาลุงหมีคิงคองกอริลล่า!”
อ๊า...สรรพนามผมชักจะเยอะไปหน้าแล้วสิ
“ฉันปล่อยนายไปฉันก็แพ้สิ”
“ผมให้พี่ดูผมก็แพ้สิ”
รู้สึกเหมือนกระแสการแข่งขันจะเริ่มขึ้นอีกครา แล้วมินโฮก็เอาหน้างัดหน้ารอบสอง…เสียงโวยวายดังขึ้นอีกระรอก พี่น้องสองหน่อผู้ได้ถือว่าการเอาชนะเป็นใหญ่หาได้คิดคดเรื่องอื่นไม่นอกจาก การงัดคอ(?) ตอนแรกก็กะว่าจะไม่ทำไปมากกว่านี้นะ แต่คนอย่างชเวมินมีรึจะยอมแพ้ จมูกโด่งๆของคนเป็นพี่พยายามช้อนแล้วดันจมูกคมของอีแทมินขึ้นอย่างเอาเป็น เอาตาย...แล้วก็ได้ชัยมาสิบเปอร์เซ็น..อีแทมินเอียงหน้าเพียงนิดเพราะเจ้า
ตัวเผลอก่อนเจ้าตัวจะใช้จมูกงัดอีกรอบก่อนที่จะรู้สึกตัวว่าอยู่ในช่องว่างที่มันแปลกๆ
...ทั้งคู่เลยเฮอะ...
มิ นโฮหยุดชะงักทันควันก่อนที่ร่างบางจะตาเบิกโพลงแล้วนิ่งงันจ้องตาคนเป็นพี่ แล้วรู้สึกเต็มๆว่ามีอะไรหยุ่นๆอยู่ที่ปากของตัวเอง...แทมินเผยอปากด้ว
ยอารามใจตกไปถึงปลายเท้า
ค้าง ปากกันได้ครึ่งวิ มินโฮที่เหมือนความรู้สึกตัวจะกลับมาก่อนก็เผลอทำบางสิ่งที่ไม่ทันให้สมอง คิด ...แต่ร่างกายมันทำไปเอง...ขยับริมฝีปากเพียงนิดแล้วเสียงประหลาดก็เกิดขึ้น กลางห้องเงียบ
ริมฝีปากหลุดออกจากกันเมื่อแทมินพยายามหันหน้าหนี แต่กลับโดนนิ้วเรียวแทรกเข้าทางท้ายทอยช้อนกดให้หน้านั้นหันหนีไม่ได้ แล้วตามต่อด้วยริมฝีปากของคนด้านบนที่เบียดชินจนอีแทมินเผลอเผยอปากด้วยความ ตกใจ หลับตาพลันแล้วกลีบปากของคนด้านบนงับกลีบปากล่างดูดชิมคลอเคลียอยู่แบบนั้น จนคนเป็นน้องร้องครางอย่างห้ามปราม แต่หน้าคมทำเพียงแค่ละออกมาเพียงผิวเผินก่อนจะดูดเม้มริมฝีปากแล้วแทรกปลาย ลิ้นชื้นผ่านกลีบปากอิ่มที่เริ่มตึงแน่นเพราะโดนขบ
อีแทมินไม่รู้จะทำยังไงได้แต่หลับตาปี๋รับความรู้สึกที่คนด้านบนมอบให้...
มัน เริ่มรุนแรงและแนบแน่น เขารู้สึกว่าคนเป็นพี่เริ่มจูบเขาหนักขึ้นยรื่อยๆ ปลายลิ้นร้อนเล็มเลียเก็บกินความหวานของโพรงปากอิ่มโดยไม่สนใจเสียงครางทัด ทาน เสียงจูบสะท้อนผ่านไปทั่วทั้งห้องโดยไม่สนใจอายสิ่งใด
เจ้าตัว พยายามเล็มเลาะริมฝีปากนั้นที่เขาไม่คิดว่ามันจะหวานจนเกินห้ามใจแบบนี้ ปากนั้นเริ่มบดขยี้ริมฝีปากของคนด้านล่างหนักขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายร่างบางก็หมดแรงต้านทานมือบางที่ตอนแรกนั้นตบตีและปัดป่ายอย่างไร้ จุดหมายตอนนี้กลับวางลงบนท้ายทอยของคนด้านบน ขยับปลายนิ้วไล้ไปบนกลุ่มผมสั้นทุกครั้งที่เขาเพิ่มแรงดูดดึง
แล้วเจ้าตัวก็ค่อยๆกลืนกินลมหายใจของร่างบางจนเขารู้สึกได้ถึงอาการสั่นและตื่นกลัวที่อีแทมินมีให้...ชเวมินโฮจึงละหน้าออกมา
อี แทมิเบือนหน้าหนีฉับพลันทันด่วนไปอีกทางหนีความใกล้ชิดเมื่อครู่ หอบโกยอากาศที่โดนแย่งชิงอย่างเอาเป็นเอาตายก่อนจะค่อยๆลดผ่อนลง เมื่อกี้เกือบถีบออกไปแล้วแต่โดนกดแน่น...และเหมือนคนด้านบนก็ยิ่งจะรู้ดี กว่าเขาอีก ก็มันเหมือนเพิ่มแรงกดเนียสิ
แล้วเจ้าตัวก็ได้แต่กลั้นใจครางฮือพยายามดิ้นให้หลุด ดิ้นสองสามทีแต่ชเวมินโฮก็ยังนิ่ง
ชเว มินโฮยังค้างอยู่ท่านั้น...ลมหายใจรดรินข้างแก้มขาวจนมันขึ้นสีแดงทั้งสอง ข้างอย่างเงียบกริบแล้วที่นิ่งอยู่ดีเจ้าตัวกลับกดหน้าลงให้ริมฝีปากแล
ะปลาย จมูกชิดแก้มนวลอย่างลืมตนและลดลงตามแรงต้านของโลกลงเรื่อยๆราวกับจะจมหายไป ในหวงแก้มแดงก่อนจะได้สติคืนกลับมาเพราะเสียงครางของคนเป็นน้อง
“อื้อออ พี่มินโฮ หยุดลวนลามผมเลยนะ!”
เสี้ยวของความความเสียดายหล่นวูบภายในจิตใจจะได้สติว่ากำลัง...คิดลึกกว่าจูบ
เฮ้ย!!!!...นี้กูคิดอะไรเนี๊ย~
แต่ กลับรู้สึกได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองและเสียงหัวใจของอีกคนมันระรัว หนัก...เขาถึงกับพูดไม่ออก ก่อนสายตานั้นจะต้องเข้ากับรอยบนซอกคอ
แล้วก็เห็นว่ามันเป็นรอยสองรอยที่ไม่ธรรมดา...เกิดมาสามชาติกบไม่ต้องเคาะกะลาให้แตกแล้วออกสู่โลกกว้างก็รู้ว่ารอยสองรอยนี้มันรอยอะไร
“คิสส์มาร์ค”
เจ้าตัวหล่นเสียงออกมาจากลำคออย่างตกใจ...แล้วก็นึกไปใครมาทำก่อนกูวะ (เฮ้ย! ไม่ช่ายยย)
“อีแทมิน...รอยพวกนี้ใครทำนะ”
เจ้าตัวกัดปากอย่างนึกเจ็บใจแต่ก็ไม่พูด
“อีแทมิน”
เจ้า ตัวพยายามคิดไปเองรำลึกความหลัง เมื่อวานก็ไม่เห็น เง้ต้องเมื่อคืนแน่เลยตอนกินโซจู...หรือว่าไอ้พี่ๆนั้นจะมือไวใจเร็วจับน้อง เค้าดูดคอ...อีจินกินี้ไม่น่าใช่ พี่แก่ไม่ใช่คนหื่นกาม คิบอมก็อีก...รายนั้นน่าจะโดนอีแทมินกดซะมากกว่า...ก็เหลือรอดอย่าตัว เดียว...เป็ด!
“พี่จงฮยอนทำนายใช่ไหม...ไอ้เป็ดนรก มันได้เห็นดีกัน”
ว่า พลางก็ลุกพรวดออกจาพตัวแทมินแล้วดิ่งไปกระชากประตูกระชากคออิพี่เป็ดที่มัน ทำหน้าไม่ประสีประสาเอาไก่ยัดปากอยู่ก่อนจะโดนผมถล่มโวยวายใส่จนเสียง
เอะอะมะเทิ่งวุ่นวาย!
จะ ไม่รู้ด้วยอารมณ์ไหน ผมก็โกรธจนไม่อยากให้อภัยคนที่ทำแบบนี้กับอีแทมิน...ก่อนที่ผมจะโดนแรงย่อยๆ กระชากอย่างแรงจนเซถลาแล้วล้มลงกับพื้นไปอีกครั้งด้วยแรงหมัดหลุนๆจากปล
ายมือเล็ก...
“ไอ้ฮยองบ้า ฮยองนั้นและที่เป็นคนทำ...ไอ้ฮยองงี่เง่า!”
ว่าเสร็จอีแทมินก็วิ่งหนีเข้าห้องล็อคกลอนกระแทกประตูเสร็จสรรพ ...ปล่อยความเงียบเข้าครอบงำภูมิอากาศทั่วพื้นทวีปชายนี่
ก่อนจะโดนฝ่ามือเป็ดๆนี้และตบหัวเรียกสติ
ป๊าบ!!!
“สมมันดีไอ้หมีงี้เง่าเอ้ย! ถึงเป็ดตัวนี้จะไม่รู้อะไรก็ขอสรรเสริญสมน้ำหน้าแกไปอีกสิบรอบ..”
เขาบอกว่าคนล้มห้ามเหยียบไม่ใช่เหรอครับ...
“ไอ้คิสมาร์คบ้าบออะไรฉันไม่รู้เรื่องหรอกนะเว้ย ตื่นมาก็ยักไม่เห็นแม้แต่คอแทมิน ไม่เชื่อก็ถามคนอื่นๆดูก็ได้”
ทุกคนต่างตอบเป็นเสียงเดียวพร้อมกับทำหน้าว่าไม่รู้เรื่องเลยซักนิด...เป็นคีย์นี้อีกที่อยากรู้จนถามออกไป
แต่มินโฮก็รู้เต็มๆอกซะแล้วสิว่าเขาพลาดอย่างจัง!!
แล้วคุณเคยที่เดือดเนื้อร้อนใจยามเมื่อเห็นใครบางคนไม่สบายใจบ้างไหม...
เสียงนาฬิกาตีบอกเวลา..บ่ายสองโมงโดยประมาณ แต่ประตูบ้านนั้นที่โดนมือหนาทุบตีเมื่อสองชั่วโมงก่อนก็ยังไม่เปิดออก
ชาย ร่างหนาที่ตอนแรกตบตีประตูราวกับมันไปฆ่าคนเราเขาตอนนี้กลับนั่งเหนื่อยพิง มันอย่างไม่รู้สึกผิดที่ไปทำร้ายประตู...เอ่อ..ก็แค่หมีมันเหนื่อยแล้
วโหยหวนเรียกชื่อเด็กในสังกัดนะ
“แท มิน...พี่ขอโทษ ออกมาคุยกันเถอะนะ...น๊ะ นี้ไม่หิวรึไง พี่คีย์อุตส่าห์ย่างเนื้อสเต็กให้กินเลยน้า..~ อ๊า หอมจัง อืม นุ่มลิ้นอร่อยจริง~”
ไม้แข็งไม่ได้ก็ต้องไม้อ่อนๆนี้และครับ...ใครก็รู้ว่าน้องของผมพ่ายแพ้ต่อของกิน...ใช่ไหม ฮะๆ
แต่ ตอนนี้ผมคงต้องพ่ายแพ้ต่อน้องแล้วและ เพราะทำยังไงขู่เข็นอ้อนวอนอะไรน้องมันก็ไม่แม้แต่จะตอบรับผมซักคำ...แม้แต่ เสียงยุงผมยังไม่ได้ยินเล็ดลอดมาจากห้องนี้เลยครับ ฮือออ สี่ชั่วโมงแล้วนะครับ ผมเหนื่อยอะ ฮืออ
ร่างหนาของชเวมินโฮนั่ง หมดอาลัยตายอยากราวกับคนไม่ได้กินข้าวมาเจ็ดวัน นั่งหงอยเป็นหมีงอยเอาแต่เคาะกระตูเรียกกชื่ออีแทมินอยู่แบบนั้นคนเป็นพี่ และเพื่อนเห็นแล้วก็ละเหี่ยใจ...คมจงฮยอนที่ยืนดูมันอยู่นานก็เลยเดินหายไ
ปจากตรงนั้นแล้วกลับมาพร้อมสิ่งสำคัญบางอย่างที่ทุกคนคาดไม่ถึง
“ชเว มินโฮ อย่าลืมทดแทนบุญคุณฉันซะละ” คนเป็นพี่ยิ้มให้อย่างเจ้าเลห์ก่อนจะชูพวงกุญแจขึ้นให้ดูแล้วลุกขึ้นไขประตู ห้องนอนที่แทมินไปสถิตอยู่
ร่างหนาได้แต่มองตามตาละห้อย...ก่อนจะยิ้มให้พูดขอบคุณก่อนจะนึกอะไรขึ้นได้
“ฮยอง...นี้ฮยองรู้แต่แรกแล้วใช่ไหมว่ามีกุญแจ”
“เออสิ..” จงฮยอนยิ้มให้ตามสไตล์ก่อนจะกลั้นขำ
“ได้เห็นแกเป็นหมีเหงานี้มันสะใจดีวะ ก๊ากกกกกกกกกกกก”
ชเวมินโฮสุดท้ายก็ได้แต่เข่นเขี้ยวในใจ...
ผมก้าวเข้าไปในห้องนั้นก่อนจะพบแผ่นหลังของใครบางคนที่นั่งกอดเข่าอยู่บนพื้นพรม...
Close the door, lay down upon the floor
ปิดประตูบานนั้นแล้วหย่อนตัวลงบนพื้นแสนกว้าง
And by candlelight, make love to me through the night
แล้วด้วยแสงเที่ยนที่สาดส่อง ความรักนั้นได้็ก่อกำเนิดผันผ่านห้วงเวลาแห่งค่ำคืน
ด้วย ที่ห้องนี้มันเป็นมุมอับแสง ห้องทั้งห้องจึงทั้งเงียบและมืดสนิทเพราะเจ้าตัวไปเปิดม่านแม้กระทั่งไฟซัก ดวงก็ยังไม่มี แต่ก็ไม่ได้มืดมากจนมองไม่เห็นใครเลย
ขายาวๆก้าวเดิน ไปตรงหน้าแล้วนั่งลงข้างๆร่างเล็กที่ซุกหน้าลงกับตักที่ชันเข่าขึ้นมา ร่างหนาเห็นแบบนั้นก็ไม่รู้จะทำอย่างไรสุดท้ายมือเรียวก็เพียงเอื้อมออกไป เกลี่ยไล้ลูบหัวเบามือ
“อีแทมินให้อภัยพี่เถอะนะ...พี่ขอโทษ ยกโทษให้พี่ได้ไหมครับ?”
ร่างบางก็ทำแค่หันไปอีกทางหนีคนเป็นพี่ที่ได้แต่ทอดถอนใจ
“นี้เราจะโกรธพี่จริงๆหรอ พูดตามตรงพี่ยังงงอยู่เลยนะว่า...ทำไมรอยนั้น...พี่เป็นคนทำ”
เจ้า ตัวรู้ดีรอยแบบนั้นไม่ใช่จะแค่เอาปากแตะแล้วมันก็เกิด มันต้องกดน้ำหนักอย่างแรงแล้วก็...อ่านะ นั้นและ คนมีสติอย่างเขาคงไม่ทำเรื่องบ้าๆแบบนั้นกับคนเป็นน้องอย่างอีแทมินได้ หรอก(เหรอ?)
เงียบไปอึดใจใหญ่ แล้วสุดท้ายแทมินก็ยอมพูด
“เมื่อคืนพี่เมา”แล้วก็เงียบชวนให้คนฟังอึดอัดเสียนี้กระไร
“ผมจะยกพี่...ไปนอนห้อง...แล้วผมยก..ไม่ไหว...”พูดติดๆขัดชวนให้หายใจลำบากแต่เพราะเป็นแทมินเขาก็ทนรับฟัง
“พี่ล้มใส่ผม...แล้วก็ละเมอกินเนื้อย่าง...”
“ละเมอกิน?”
“อืม...ละเมอกิน ...แล้วพี่ก็กัดคอผม...สองครั้ง...แล้วเมื่อคืน ยังเอาหัวมาชนปากแตกอีก”
แล้วก็เงียบไปอีกครา ชเวมินโฮถึงกับอึ้งไปไม่เป็น...นี้เพราะเราเมาใช่ไหมเนีย
“อีแทมิน...พี่ขอโทษ...คือพี่ไม่ทันได้ระวังตัว”
“ผม...ผมกะจะไม่ถือก็เพราะพี่เมา...แต่วันนี้พี่ทำให้ผมคิด”
ชเวมินโฮเริ่มใจไม่ดีกับประโยคที่จะได้รับในอนาคต...หรือเพราะเรื่องนั้นบนเตียง
“พี่จูบผม...ทำไม”
Cause I have run away
เพราะว่าฉันจะหนีตามเธอไป
I have run away, yeah..., yeah
ฉันจะหนีตามเธอไป
I have run away, run away
ฉันจะหนีตามเธอไป
I have run away with you
ฉันจะหนีตาม…ตามเธอไป
กับคำถามที่น้องถาม...ผมตอบมันไม่ได้
Cause I am falling in love (falling in love) with you
เพราะฉันตกหลุมรักเธอ(ตกหลุมรัก)เธอ
No never I'm never gonna stop
ไม่มีทางเลยซักนิด...ฉันไม่เคยหยุดมันได้เลย
“อีแทมิน...นายรู้ไหมว่าวันนั้นพี่ไม่ได้ซ้อมบทละครบนรถตู้”
ผม นั่งตัวสั่นอย่างห้ามไม่อยู่หลังจากเปล่งถามออก...ผมเริ่มไม่เข้าใจกะท่าที ของคนเป็นพี่ที่เป็นอยู่..และตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ที่ผม...ใจเต้นไม่เป็
นจังหวะเพราะพี่มินโฮ
เรื่องเมื่อวานก็เหมือนกัน...ที่ต้องวิ่งหนีออกมาแบบนั้นเพราะใจของผมมันเต้นเสียงดัง...กลัวว่าอีกคนจะได้ยิน
ร่าง หนาเริ่มขยับเบียดชิดตัวร่างบางที่เริ่มเขยิบนีไปอีกทาง แต่สุดท้ายร่างบางก็เขยิบไปชนขอบเตียง ในอกซ้ายของร่างบางรู้สึกและสัมผัสได้ทันทีว่ามันเริ่มปะทุหนัก...หนักขึ้น หนักขึ้น จนรู้สึกได้ถึงกระแสร่างกายของอีกคนที่โอบรอบตัว
“นายก็หัวใจเต้นเร็วเหมือนพี่เลย...”
มือ เรียวนั้นกอดกระชับไปทั้งตัวของร่างบางที่เบียดตัวกอดเข่าตัวเองแน่นกว่า เดิม...มันและดูช่างง่ายดายเหลือเกินสำหรับคนร่างใหญ่อย่างชเวมินโฮที่จ
ะครอบคลุมตัวทั้งตัวของร่างบางตรงหน้าด้วยเพียงสองแขนและสองมือนี้
...เจ้า ตัวซุกหน้าลงกับไหล่แล้วซุกลงไปบนกลุ่มผมสีสว่างของคนเป็นน้องที่นุ่มลื่น ราวเส้นไหม...ความรู้สึกดีๆที่บอกใครได้ยาก...และอาจไม่มีโอกาสได้
ทำ
“นาย..ก็รู้สึก...เหมือนที่พี่รู้สึกใช่ไหม?”
ก็เพียงเพราะใจผมมันก็เข้าใจความหมายนั้นโดยไม่ต้องเอ่ยอะไรมากกว่านี้
Falling in love with you...
การได้ตกหลุมรักเธอ
เพราะตอนนี้หัวใจของผม...มันได้หนีตามใครคนนั้นไปซะแล้ว
With you...
ได้รักเธอ...
คุณพูดถูก...
เมื่อก่อนนั้นทุกๆอย่างช่างดูไร้ความหมายราวกับตัวผมและเขาคนนั้น
และตอนนี้...ผมก็รู้สึก เหมือนที่เขาก็รู้สึกเช่นกัน
แล้วคุณเคยคิด...ที่อยากจะหนีตามใครซักคนไปบ้างไหม?
END
Special thing!
ณ ห้องพักของชายนี่ที่ทุกคนต่างทำงานกันเสร็จแล้วเตรียมเก็บของ...แล้วสุดท้าย ก็เหลือแค่ห้าคนในห้องที่ต้องนั่งรอเพื่อฟังว่าถ่ายรายการเสร็จสมบูรณ์ห
รือไม่ ระหว่างที่ว่างๆกันชเวมินโฮควักอาวุธประจำตัวขึ้นมาถ่าย...กล้องขนาดเล็กเหมาะมือ
เจ้าตัวหันซ้ายหันขวาพอเป็นพิธีก่อนจะหามุมเหมาะๆทางใบหน้าถ่ายรูปตัวเอง...แล้วอารมณ์ชั่ววูบหนึ่งก็ประกาย...
ตาโตมองตรงไปยังร่างบางที่นั่งเล่นเกมส์ผ่านไอแพดเครื่องแบนที่มีนูน่าใจดีซื้อให้แล้วเดินเข้าไปหา
“นี้แทมิน...มาถ่ายรูปกันไหม?”
อี แทมินถึงกับลืมหยุดเกมส์เงยหน้าขึ้นมามอง..ก่อนจะสบถกับตัวเองหนึ่งทีแล้ว หันไปสนใจเกมส์ที่หน้าจอป่าวประกาศว่าอัศวินผู้มีชัยในอดีตได้ดับสิ้นใน
สมรภูมิล่าแมวน้ำแล้ว
“เห็นไหมเพราะพี่ผมเลยตายเลยอะ!”เจ้าตัวบ่นหัวเสียก่อนจะปิดเกมส์แล้ววางไอแพดไว้ข้างๆก่อนจะหันมาบ่นคนเป็นพี่นั่งมองเขาตาละห้อย
“อ่ะๆ ถ่ายก็ถ่าย...ร้อยวันพันปีไม่เห็นพี่มาขอถ่ายกับผม ทำไมวันนี้ถึงอยากมาถ่ายกับผมซะละ?”
“ก็...”
เจ้าตัวพูดแค่นั้นก็เงียบไปเสี้ยววิก่อนเพราะตอนนี้ในหัวของคนเป็นพี่มันคิดถึงตอนที่แทมินถ่ายรูปกับคีย์
“เอาเถอะ ถ่ายๆ”
แล้ว ทั้งสองก็เอียงหัวเข้าหากันแล้วมองกล้องที่อยู่บนมือของชเวมินโฮ ....อีแทมินยิ้มกว้างให้กับกล้องก่อนจะถ่ายไปได้สองสามภาพ...แล้วในจังหวะ เดียวกันชเวมินโฮก็เพียงเหลือบสายตาไปมองคนข้างๆที่ไม่๋รู้สึกตัว
“นี้พี่...หยุดถ่ายทำไมกำลังสนุกเลย”
ว่าพลางก็หันไปมองคนข้างๆแต่ก็ชะงักหน้าออก
“มองอะไรเนีย?”
คนถูกถามทำหน้าเหรอหราปากบอกว่าเปล่าแต่ปากกลับฉีกยิ้มอยู่แบบนั้นโดยมืออีกข้างก็ยังไม่วายโอบไหล่บางให้หันมาถ่ายรูปต่อ
อีแทมินพยายามทำเป็นไม่สนใจ..แต่แล้วบางอย่างก็ต้องทำให้เขากลับมาสนใจ
แชะ!
“เฮ้ย! พี่มินโฮหอมแก้มผมทำไม(ว่ะ)?”ว่าแล้วเจ้าตัวก็กระเถิบหนีหันไปว่าทอ มองตาดุอย่างคาดโทษ
“นายยังหอมคีย์ได้เลย พี่อยากหอมบ้าง...ผิดเหรอ?”
สายตาคาริสม่านั้นกรุ่มกริ่มเกินไปจนอีแทมินอยากจะเอานิ้วตัวเองเนียจิ้มตานี้ให้พลุนซะ ...นี้ไปเอานิสัยพี่จงฮยอนมาใช่ไหมเนีย!
“ผิด! เพราะผมไม่ได้อนุญาติ เลิกถ่ายได้แล้ว บ้าๆ”
ก่อนที่เขาจะหลุดจากอ้อมแขนนั้นได้เขากลับได้รับข้อความบางอย่างจนไม่รู้จะทำอะไรได้นอกจากเดินหนีออกจากห้องนั้นไป
เสียงกระซิบเพียงเสี้ยววิที่ร่างหนานั้นดึงร่างบางเข้ามากอดแล้วลอบพูดให้คนในอ้อมกอดเท่านั้นที่รู้
“อยากหอมแก้ม “แฟน” พี่ผิดเหรอครับ?”
ณ ห้องพักของชายนี่ที่ทุกคนต่างทำงานกันเสร็จแล้วเตรียมเก็บของ...แล้วสุดท้าย ก็เหลือแค่ห้าคนในห้องที่ต้องนั่งรอเพื่อฟังว่าถ่ายรายการเสร็จสมบูรณ์ห
รือไม่ ระหว่างที่ว่างๆกันชเวมินโฮควักอาวุธประจำตัวขึ้นมาถ่าย...กล้องขนาดเล็กเหมาะมือ
เจ้าตัวหันซ้ายหันขวาพอเป็นพิธีก่อนจะหามุมเหมาะๆทางใบหน้าถ่ายรูปตัวเอง...แล้วอารมณ์ชั่ววูบหนึ่งก็ประกาย...
ตาโตมองตรงไปยังร่างบางที่นั่งเล่นเกมส์ผ่านไอแพดเครื่องแบนที่มีนูน่าใจดีซื้อให้แล้วเดินเข้าไปหา
“นี้แทมิน...มาถ่ายรูปกันไหม?”
อี แทมินถึงกับลืมหยุดเกมส์เงยหน้าขึ้นมามอง..ก่อนจะสบถกับตัวเองหนึ่งทีแล้ว หันไปสนใจเกมส์ที่หน้าจอป่าวประกาศว่าอัศวินผู้มีชัยในอดีตได้ดับสิ้นใน
สมรภูมิล่าแมวน้ำแล้ว
“เห็นไหมเพราะพี่ผมเลยตายเลยอะ!”เจ้าตัวบ่นหัวเสียก่อนจะปิดเกมส์แล้ววางไอแพดไว้ข้างๆก่อนจะหันมาบ่นคนเป็นพี่นั่งมองเขาตาละห้อย
“อ่ะๆ ถ่ายก็ถ่าย...ร้อยวันพันปีไม่เห็นพี่มาขอถ่ายกับผม ทำไมวันนี้ถึงอยากมาถ่ายกับผมซะละ?”
“ก็...”
เจ้าตัวพูดแค่นั้นก็เงียบไปเสี้ยววิก่อนเพราะตอนนี้ในหัวของคนเป็นพี่มันคิดถึงตอนที่แทมินถ่ายรูปกับคีย์
“เอาเถอะ ถ่ายๆ”
แล้ว ทั้งสองก็เอียงหัวเข้าหากันแล้วมองกล้องที่อยู่บนมือของชเวมินโฮ ....อีแทมินยิ้มกว้างให้กับกล้องก่อนจะถ่ายไปได้สองสามภาพ...แล้วในจังหวะ เดียวกันชเวมินโฮก็เพียงเหลือบสายตาไปมองคนข้างๆที่ไม่๋รู้สึกตัว
“นี้พี่...หยุดถ่ายทำไมกำลังสนุกเลย”
ว่าพลางก็หันไปมองคนข้างๆแต่ก็ชะงักหน้าออก
“มองอะไรเนีย?”
คนถูกถามทำหน้าเหรอหราปากบอกว่าเปล่าแต่ปากกลับฉีกยิ้มอยู่แบบนั้นโดยมืออีกข้างก็ยังไม่วายโอบไหล่บางให้หันมาถ่ายรูปต่อ
อีแทมินพยายามทำเป็นไม่สนใจ..แต่แล้วบางอย่างก็ต้องทำให้เขากลับมาสนใจ
แชะ!
“เฮ้ย! พี่มินโฮหอมแก้มผมทำไม(ว่ะ)?”ว่าแล้วเจ้าตัวก็กระเถิบหนีหันไปว่าทอ มองตาดุอย่างคาดโทษ
“นายยังหอมคีย์ได้เลย พี่อยากหอมบ้าง...ผิดเหรอ?”
สายตาคาริสม่านั้นกรุ่มกริ่มเกินไปจนอีแทมินอยากจะเอานิ้วตัวเองเนียจิ้มตานี้ให้พลุนซะ ...นี้ไปเอานิสัยพี่จงฮยอนมาใช่ไหมเนีย!
“ผิด! เพราะผมไม่ได้อนุญาติ เลิกถ่ายได้แล้ว บ้าๆ”
ก่อนที่เขาจะหลุดจากอ้อมแขนนั้นได้เขากลับได้รับข้อความบางอย่างจนไม่รู้จะทำอะไรได้นอกจากเดินหนีออกจากห้องนั้นไป
เสียงกระซิบเพียงเสี้ยววิที่ร่างหนานั้นดึงร่างบางเข้ามากอดแล้วลอบพูดให้คนในอ้อมกอดเท่านั้นที่รู้
“อยากหอมแก้ม “แฟน” พี่ผิดเหรอครับ?”
end again~
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น