ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] All about short fiction ☆☆

    ลำดับตอนที่ #4 : [SF] Secret Session (ChanxBaek) 1/2 ll (NC-17)

    • อัปเดตล่าสุด 20 เม.ย. 56



    Title : [SF] Secret Session
    Author : choco bar
    Couple : Chanyeol x Baekhyun
    Rate : NC-17
    Talk to you :  ขอโทษนะคะ ร้างลามาจากเป็นซีได้เกือบสองปีแล้วจริงๆคะ TvT
    Song :  Tonight (오늘 밤) feat. Baechigi ( 배치기) -  Lyn (린)    (กดฟังจะดีมากเบยยยย)
    http://www.youtube.com/watch?v=fKoS7gktu54

    ปล. ตอนที่หนึ่งยังไม่มี NC นะคะ

    01






    ทุกคนต่างมีความลับ ...


    แสงแฟรชสาดกระทบเป็นจังหวะผสมเสียงตะโกนบอกให้เด็กหนุ่มทั้งหกจ้องมองกล้องตนเอง
    สื่อสำนักพิมพ์น้อยใหญ่ต่างระรัวกล้องเพื่อผลงานที่น่าพอใจ  แต่เมื่อมันจบลง มันกลับทำให้ผมเคืองตา

    “ไหวไหมชานยอล?”
    จุนมยอนฮยองเดินเข้ามาถามผมคนแรกเพราะอยู่ใกล้และสังเกตเห็นอาการบางอย่าง

    “แสบตามากไหม?”

    “ไม่เลยครับ ผมสบายดี”
    ผมบอกไปก่อนจะเดินตามทุกคนเข้าสถานที่ด้านใน
    โดยที่พยอนแพคฮยอนเดินผ่านผมไปไม่สนใจกันเลยซักนิด


    ...เล่นกันแบบนี้อีกแล้วสินะ พยอนแพคฮยอน...


    เสียงเชียร์เกรียวกราวเป็นปกติเมื่อพวกเขาปรากฏตัว ทุกคนวางตัวได้อย่างเหมาะสม
    ด้วยความเป็นมืออาชีพของแต่ละคนงานในวันนี้จึงถือว่าผ่านไปได้อย่างเสร็จสมบูรณ์
    ตอนนี้เสร็จงานแล้ว คงต้องเตรียมรับศึกหนักสุดท้ายนั้นคือเตรียมขึ้นรถกลับ

    ขายาวก้าวตามคนเป็นพี่ใหญ่ของวงแล้วเลียบเข้าเดินเคียงอย่างไม่ให้รู้ตัว
    ทำเป็นเข้าไปคุยกับพี่ใหญ่แต่สายตากลับเปลี่ยนไปจ้องคนข้างหน้าอยู่เนืองๆ

    “ทำไม?”
    จุนมยอนเหลือบตามองหลังจากรู้ว่าคนข้างตัวไม่ได้สนใจเขาเท่าใดนัก

    “ก็เปล่า เอ่อ...ตรงท่อนนั้นผมต้องร้องยังไงนะ ยังจำไม่ค่อยได้เลย?”

    “ถามฉัน? แน่ใจเหรอว่านายจะถามฉันนะ”
    คิมจุนมยอนถามกลับ แต่ก่อนทันจะได้แก้ตัวก็ต้องเตรียมตัวเดินเร็วกันซะแล้ว
    แฟนคลับยังมากมายเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน

    เด็กหนุ่มทั้งหกในชุดสุดเท่ห์เดินตรงกลับรถอย่างสงบโดยไม่พยายามสนใจเสียงเรียกรอบกาย
    ทุกอย่างมันไม่ได้วางแผนไว้หรอกนะว่าจะต้องนั่งตรงไหนอะไรยังไง คนเยอะแบบนี้มันเลยควบคุมยาก

    แพคฮยอนนั่งข้างเซฮุน ...ชานยอลคิดในใจ

    สามวันมาแล้วที่เจ้าตัวเพิกเฉยไม่คุย ไม่สนใจเขา ยิ่งอยู่ห้องเดียวกันมันยิ่งแย่
    ยังกะสงครามประสาท...อยากจะบ้า!

    “เป็นไง?” คยองซูยกยิ้มเจ้าเล่ห์ถามเมื่อชานยอลนั่งลง

    “ก็ไม่เป็นไง ก็อย่างที่เห็น”
    ร่างสูงเบ้หน้าแล้วยกโทรศัพท์ขึ้นมาจ้อง ดิสเพลที่เป็นความลับปรากฏเมื่อเขาสัมผัสหน้าจอให้สว่าง
    เซลฟ์คาของเจ้าบ้าบอที่งอนเขานั้นและ

    “รูปนี้หมอนั้นน่ารักนะ...” คยองซูพูด ร่างสูงเงียบแล้วนั่งสไลท์โทรศัพท์อย่างอารมณ์เสีย
    ร่างเล็กยืดตัวเล็กน้อย ปรับเปลี่ยนท่าทีให้นั่งสบายขึ้นแล้วพูดขึ้นมาเบาๆ

    “ก็อยากใจร้อนไม่ฟังฉันเอง...ช่วยไม่ได้...”
    เขาหันกลับไปมองด้านหลังแล้วสบตาเข้ากับคนตัวเล็ที่หลบตาเขาฉับพลันทันที แสร้งหลับตาฟังเพลง

    “ก็ใครบอกให้ทำตัวน่าโมโหก่อน”  
    ชานยอลตอบเสียงเบาก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะครึ้ม ฟังแล้วอารมณ์ขุ่นมากกว่าเดิม

    “ช่วยไม่ได้...ช่วยไม่ได้...”
    คนข้างๆอมยิ้มก่อนจะหลับตาหนีอารมณ์ขุ่นมัวของเพื่อนตัวดี แต่ก็นะ..
    เขาจะทำอะไรได้ ก็เจ้าชานยอลมันอารมณ์ร้อนเอง เตือนแล้วมันเคยฟังกันที่ไหน

    หูสองข้างได้ยินเสียงสบถรัวไม่เป็นศัพท์ มือสไลท์โทรศัพท์ไม่หยุด เขาเหลือบมอง...
    นี้มานั่งเปิดดูรูปแพคฮยอนเนียนะ

    “พยอนแพคฮยอน ...อย่าให้ฉันหมดความอดทนนะ” ชานยอลบ่นรอดไรฟัน


    สงสัยจะช่วยยากแล้วแฮะทีนี้



    .


    ร่างเล็กเดินมึนๆออกมาจากห้องเพื่อหาน้ำดื่มโดยไม่รู้ตัวเลยว่ามีใครบางคนกำลังออกมาจากห้องฝั่งตรงข้าม
    ชานยอลหน้าหงิก เขาคิดถึงเมื่อคืนที่จุนมยอนฮยองเอาแต่บ่นแล้วก็บ่น หลับไปแล้วยังจะสะดุ้งมาบ่น
    เพราะเจ้าตัวปัญหามันดันแลกห้องกับฮยองเพราะคยองซูไม่ยอมแลกเป็นวันที่สาม

    อ๊า...ง่วงชะมัด...

    ร่างสูงเกาหัวแรงๆไล่อารมณ์บูด มองตามร่างเล็กอยู่เงียบๆแล้วเดินตาม
    นี้ยังเดินมึนๆเกือบชนโต๊ะในครัว สงสัยจะไม่รู้ตัว ร่างเล็กอ้าปากกว้าง หาววอดๆ
    เปิดตู้เย็นหาน้ำกิน ... ดูสงบสุข นอนหลับเต็มอิ่มจริงนะไอ้ตัวเล็ก!

    “กินด้วยสิ!”

    “เห้ย!” ร่างเล็กสะดุ้งไปด้านหน้าจนชนตู้เย็นสะเทือน สบถคำหยาบออกมาเบาๆ
    ก่อนจะยืนจ้องเขานิ่งแล้วไม่พูดอะไร ตัวเล็กกว่าเขาเยอะยังเก่งเรื่องพองตัว ข่มขู่
    เอาสิ! จะเล่นสงครามประสาทจ้องตากันใช่ไหม เขาไม่ยอมแพ้หรอกนะ...

    “ถอยไป ไอ้โย่ง!” ร่างเล็กตะคอก
    ชานยอลหรี่ตามองก่อนจะเผยอปาก ยกแขนขึ้นคร่อมแล้วน้อมตัวเข้าหา

    “ยอมพูดกับฉันแล้วงั้นเรอะ!”  
    ร่างเล็กเงียบ ก่อสงครามประสาทต่อ มองกันแบบนั้นเป็นเวลาหลายนาทีก่อนชานยอลจะรู้สึกรำคาญใจจับเข้าที่ไหล่แต่ กลับต้องเด้งตัวร้องโอดโอยถอยหลังออกมา เจ้าบ้านั้นกระทืบเท้าเขาเต็มแรง

    “แพคฮยอน หยุดนะ! ย๊า!! แพคฮยอน!!”


    .

    Hidden Content



    “เอ๊า!! ทุกคน พักเที่ยง พอแค่นี้ก่อน”
    เด็กหนุ่มทั้งสิบสองนอนแผ่หลาตามมุมต่างๆของห้องซ้อมโดยมิได้นัดหมาย
    เพลงใหม่นี้ท่าเต้นเหนื่อยจนเกินบรรยาย หอบจนไม่รู้จะหอบยังไง

    ร่างสูงยันตัวขึ้นนั่งแล้วจ้องไปอีกมุมที่มีร่างเล็กๆของใครบางคน
    นอนอยู่ข้างคริสฮยองที่นั่งยันแขนไว้ด้านหลัง ทั้งคู่หัวร่อต่อกระซิก ร่างเล็กขำ
    พลิกหัวมาอีกด้านแล้วพลิกแขนขึ้นมาพักบนพุงตัวเองก่อนจะกลับมาหน้านิ่งเมื่อเห็นเขานั่งจ้องอยู่
    คริสฮยองก็มองตามแพคฮยอนมาที่เขา

    “พวกนายโกรธกันเหรอ?” อู๋อี้ฟานถามด้วยภาษาเกาหลีสำเนียงประจำกาย

    “ก็เปล่านิฮะ? ผมจะไปโกรธอะไรเขาได๊!” แพคฮยอนทำสีหน้าประชดประชันก่อนจะยันตัวลุกขึ้นยืน

    “งั้นฮยอง ผมไปหาน้ำกินก่อน ฮยองเอาไหม?”

    “อ่า ไม่ต้องล่ะ เดี่ยวฉันไปหากินเอง ไปเถอะ”

    ร่างเล็กเดินออกไปโดยไม่สนใจสายตาที่จ้องมองเขาเลยซักนิด
    เจ้าตัวคิดอยู่ในใจ น่ารำคาญชะมัด...มองกันอยู่ได้


    *เคร้ง!*

    เป็ปซี่หล่นลงมาที่ปลายช่องจ่ายน้ำ แต่คนกดสั่งกลับไม่ได้หยิบเนียสิ ...!

    “นี้นาย!!!”

    ก่อนจะว่าอะไรได้ เกลียวกระป๋องก็โดนดึงออกซะแล้ว ดื่มโดยไม่เกรงใจกันซักนิด นี้ตั้งใจยั่วโมโหเขาใช่ไหม!?


    ตากลมเหลือบลงมองขณะที่กำลังดื่มเป็ปซี่แคน ร่างเล็กโกรธจนสั่น จ้องเขานิ่ง ก่อนจะเดินกลับแล้วหันหลังหนี

    “เห!! หยุดคุยกันก่อน” เจ้าตัวก้าวยาวจนกระทั่งคว้าแขนเล็กทัน

    “พยอนแพคฮยอน เห!”

    “ปล่อยฉันนะ! เราไม่มีอะไรต้องคุยกัน”

    “แต่ฉันมีเรื่องจะคุยกับนาย!”
    ชานยอลฉุดกระฉากร่างเล็กจนไปถึงมุมอับ

    “ปล่อยนะ!! ปล่อยฉัน!”

    “ไม่ จนกว่านายจะหายโกรธ!”
    ร่างสูงกางแขนกันไว้ มองด้วยสีหน้าจริงจัง...สงครามประสาทเกิดขึ้นอีกรอบ ทั้งคู่จ้องตากันนิ่ง
    สายตาของแพคฮยอนมองเขายังกะจะกินเลือดกินเนื้อ เป็นเขาต้องอ่อนใจขอร้องเอง

    “แพคฮยอนอ่า...ฉันขอโทษ”
    ตากลมจ้องมองอย่างอ้อนวอน แต่ร่างเล็กกลับหลบตาแล้วหันไปอีกทาง
    ทำปากขมุบขมิบ สบถอะไรต่อมิอะไรไม่น่าฟัง
    ก่อนมือยาวจะคว้าเข้าที่แก้มแดงระเรื่อที่ไม่รู้ว่าเกิดจากการที่พึ่งซ้อมเต้นเสร็จ...หรือว่าเขินเขากันแน่
    ปลายนิ้วลูบเบาๆที่ปรางค์แก้มสีแดง

    “เอาออกไปนะไอ้บ้า”

    “หายโกรธกันนะ สัญญาว่าจะไม่ทำแบบนั้นอีก”

    เจ้าตัวปัดมือเขาทิ้ง “พูดแบบนี้ตลอด ฉันเกลียดคนอย่างนายที่สุด!”

    “แพคฮยอนอ่า...”

    ตาเรียวเงยขึ้นมาจ้องหน้าเขานิ่งอย่างเคืองๆก่อนจะผลักอกเขา
    ร่างสูงได้แต่ยืนมองร่างเล็กเดินจากไป นิ้วเรียวลูบปากตัวเอง คิดถึงช่วงเวลานั้นที่เป็นความลับ



    .


    *ตึง!*

    “อ๊ะ! ปล่อยนะ ไอ้บ้า!”

    “ไม่ปล่อยจนกว่านายจะเลิกตีฉัน”

    “ปาร์คชานยอล อยากตายเร็วใช่ไหม ห๊ะ! ปล่อย! ปล่อย!”
    ตะคอกเสียงหลงจนเจ็บคอ ร่างบางดิ้นพล่านใต้การควบคุมของร่างสูง โดนกดลงเตียง
    จับแขนไพล่หลังไว้แน่นหนา แต่แรงก็ยังมหาศาลไม่เปลี่ยน

    “ย๊า! หยุดดิ้นซักทีแพคฮยอน”

    “ไม่! โอ้ย! ไอ้บ้า เจ็บนะ!”

    ร่างเล็กยังดิ้นคลุกคลักไม่ยอม เขาก็ไม่ยอมเช่นกัน ครั้งนี้ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง

    “ย๊า! ปาร์คชานยอล ปล่อยฉัน! ปล่อย!”
    เจ้าตัวสะบัดอย่างแรงจนชานยอลล้มไปชนโต๊ะข้างเตียงจนข้าวของล้มกระจัดกระจาย
    เจ้าตัวรู้สึกเจ็บจี๊ดที่แขน

    คนที่อยู่ในหอต่างวิ่งกรูเข้ามาดูด้วยความโกลาหน
    มินซอกวิ่งเข้ามาคนแรกมองอย่าตกตะลึงเมื่อเห็นชานยอลเลือดไหล

    “ปาร์คชานยอลเจ็บมากไหม?”

    “ไม่เป็นไรครับฮยอง ผมไม่เจ็บหรอก อ๊าช!”
    ร่างเล็กนั่งหน้าซีดมองคนร่างสูงที่นั่งหน้ายุ่งด้วยความเจ็บ
    เขาเปล่าให้เจ้าบ้านั้นมันเลือดตกยางออกซักหน่อยนะ

    “ครั้งนี้นายทำเกินไปแล้วนะพยอนแพคฮยอน”
    คิมจุนมยอนเดินวิ่งกลับเข้ามาหลังจากออกไปเอากล่องประถมพยาบาล
    เป็นจังหวะเดียวที่พี่ผู้จัดการเดินเข้ามาอย่างหัวเสีย

    “พวกนายไปห้องนั่งเล่นเดี๋ยวนี้!”

    .

    รอบที่เท่าไรแล้วไม่รู้ที่เขาต้องโดนเทศ...พร้อมหมอนั้น

    “นี้ทะเลาะกันอีกแล้วใช่ไหม ห๊ะ!”

    ร่างสูงเหลือบตามองคนตัวเล็กด้านข้างที่ทำหน้าหงิก มือก็ยังกำแขนแน่นที่มีผ้ามัดไว้ห้ามเลือดไหล
    ทั้งคู่นั่งคุกเข่าตั้งเท้าขึ้นและควรที่จะยกแขนชูเหนือหัวด้วย
    แต่เพราะชานยอลที่บาดเจ็บก็เลยไม้ต้องทำ รวมทั้งแพคฮยอนเพราะชานยอลขอไว้

    “เล่ามาสิว่าครั้งนี้มีอะไร?
    พี่ผู้จัดการเหลือบมองด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่นิ่งเงียบ ใครๆก็รู้ว่าถ้าฮยองโกรธหรือโมโหอะไรก็เอาไม่อยู่

    “...เอ่า! เงียบ นี้กะจะไม่มีใครพูดอะไรใช่ไหม? งั้นแพคฮยอนเล่ามา..”

    “ผมไม่มีอะไรจะพูด...” เจ้าตัวหน้าหงิก  พี่ผู้จัดการเปลี่ยนท่านั่งผ่อนอารมณ์คุกรุ่น แต่ก็ยังดูใจเย็น

    “งั้นปาร์คชานยอลเล่ามาสิ..”

    “ไม่มีอะไรหรอกครับ...เราเคลียร์กันได้ครับ” ชานยอลพูดเสียงหงอย

    “งั้นเหรอ...” พี่ผู้จัดการนั่งนิ่ง ด้วยบรรยากาศที่เห็นมองก็รู้ว่าเรื่องไม่จบอย่างแน่นอน

    “แล้วนายล่ะ! ว่ายังไง?” เจ้าตัวหน้าหงิก พูดเสียงแข็ง

    “ผมไม่มีอะไรจะเคลียร์กับเขาครับ”

    “หมายความว่ายังไง? เรื่องนี้นายผิดนะพยอนแพคฮยอน
    นายทำเพื่อนเจ็บ...อันที่จริงนายก็รู้นะว่าควรจะต้องทำยังไง?”

    “ผมไม่ผิด” แพคฮยอนพูดเสียงนิ่ง

    “ไม่ผิด?” พี่ผู้จัดการขึ้นเสียงสูง

    “แต่นายทำชานยอลเลือดออกเลยนะ นี้ยังคิดว่าไม่ผิดอีกรึไง? ห๊ะ!”

    ทั้งห้องเงียบกริบ ก่อนพี่ผู้จัดการจะนั่งกอดอกนิ่ง แล้วสงบสติอารมณ์

    “โอเค ถ้าพวกนายต้องการแบบนั้นก็ตามใจ ฉันก็มีวิธีจัดการพวกนายเหมือนกัน”
     

    TBC



    Choco bar talk: ที่ตัดมาครึ่งแรกก่อนเพราะ ครึ่งหลังนี้คิดว่ายาวมากแน่ๆคะ เรื่องมันดราม่าจะคะ แล้วทุกคนคงมีคำถามว่าสองคนนี้ทะเลาะอะไรกัน ...อย่าถามเลยคะ เพราะไรเตอร์ก็ไม่รู้เหมือนกัน *หัวเราะ*
    ก็มันเป็นเรื่องของคนสองคนนี่หน่า ว่าไหม! >_<
    รออ่านตอนจบกันด้วยน๊าทุกคน
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×