ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] All about short fiction ☆☆

    ลำดับตอนที่ #3 : [SF] My lovely bro ☆ !! - TAO x Xiumin ll [2] พี่ชาย

    • อัปเดตล่าสุด 13 เม.ย. 56


    Chapter 2nd - พี่ชาย



     

     

    “ปากเปื้อนนะ”

    เสียงต่ำพูดขึ้นหลังจากลอบมองด้วยหางตา จื่อเทาพูดเสียงเบา  ตัวเล็กทำหน้าเหรอหราก่อนหาทิชชู่มาเช็ด แต่ช้าไป

    “ตรงนี้ซิ่วหมิ่น”  อู๋อี้ฟาน หรือ คริส...นั้นเองที่มือไวกว่าความเร็วแสง ทั้งโต๊ะมองตามอย่างอึ้งๆ แต่ก็นะ ....มินซอกก็เอาแต่ยิ้มขอบคุณ

    “ขอบคุณมากนะคริส ถ้านายไม่ช่วยเราคงแย่”

    “ไม่เป็นไร” เจ้าตัวอมยิ้ม ก่อนจะหันไปกินต่อ ลู่หานตีแขนร่างสูงเสียงดัง

    “ขี้โกงอี้ฟาน! นายแย่งหน้าที่ฉันทำไม ฉันเห็นก่อนนะ”

    “อ่าว...นายเซ็นจองกรรมสิทธิ์ไว้ตอนไหน ฉันไม่ยักรู้...”

    “เฉไฉนอกเรื่องนะนาย...” ลู่หานเปลี่ยนที่มานั่งแทรกระหว่างเทากะมินซอก ก่อนจะกอดแขนแน่น

    “มินซอกเป็นของเราไม่ต้องเขียนอะไรจองไว้หรอก เนอะ...ใช่ไหม? ฮวางจื่อเทา”

    เอาอีกแล้ว นี้รอบที่เท่าไรแล้วไม่รู้ที่เขาเห็นพี่คนนี้ อ่า...พี่ลู่หานเกาะแกะแขนของซิ่วหมิ่น เขาทำได้แต่ส่งยิ้มประหลาดๆไปให้

    “เฮ...พวกนายเล่นอะไรเนียดูน้องเทาเค้างงไปหมดแล้ว” อาเล่ย หรือ จางอี้ชิงทำแค่ห้ามปราบเบาๆ ก่อนจะกวักมือไล่ให้ลู่หานไปนั่งที่เดิมเพราะเครื่องเคียงกำลังมาเสริฟอีกรอบ

    “อาเล่ยอ่า นายก็อีกคน แย่งที่ฉัน”

    “ถ้าปล่อยให้ซิ่วหมิ่นนั่งกะนายไม่มีทางได้กินอย่างมีความสุขหรอก”

    ลู่หานทำหน้าบุ้ย ปาทิชชู่ใส่ “ทำเป็นรู้ดี”

    “หรือไม่จริง? ถ้านายนั่งข้างๆนะ ซิ่วหมิ่นคงได้แต่กินมือปลาหมึกของนายเท่านั้นและ” แล้วเจ้าตัวก็ทำท่าเกาะแขนมินซอกล้อเลียนลู่หานไปมา

    “เฮ! พวกนาย เนื้อมาแล้วกินต่อเถอะ” คนที่ห้ามทับความวุ่นวายได้ก็คงมีแต่พี่มินซอกสินะ

    “ซิ่วหมิ่น แก้มนายเปื้อนอีกแล้ว” เสียงทุ้มของอี้ฟานบอกก่อนจะยกปลายนิ้วเช็ดมุมปากอีกรอบโดยไม่สนใจอะไรเลยแม้แต่นิด

    “อี้ฟาน เอาอีกแล้วนะ!” ลู่หานดุเสียงลั่น แล้วก็วุ่นวายกันอีกรอบ คิมมินซอกหน้าตาตื่นที่พยายามห้ามทัพเพื่อนๆที่น่ารักของเขาโดยลืมสนใจคนข้างๆที่น้องจ้องนิ่ง  นิ่ง...แล้วก็นิ่ง...

     

     

    ร่างสูงฟาดกระเป๋าลงบนโซฟา ทิ้งตัวลงนั่งอย่างแรงหลังจากทั้งสองกลับมาบ้าน  คิมมินซอกหรือซิ่วหมิ่นยืนมองน้องชายด้วยสีหน้าอารมณ์งงๆ  เพราะตลอดทางที่กลับมาอาเทาไม่พูดกับเขาเลย ...ไปโกรธอะไรมาเนีย?

    เจ้าตัวเดินหายเข้าไปในห้องครัวก่อนจะโผล่ออกมาพร้อมขวดนมช็อคโกแลตสองขวด

    “แก้เลี่ยน” เจ้าตัวยิ้มกว้างก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งข้างๆจื่อเทาที่ยังคงนิ่ง ไม่พูดอะไร ไม่รับของด้วย ...มินซอกหน้ายุ่ง

    “ไม่เอาเหรอ เหลือสองขวดสุดท้ายแล้วนะ”

    เจ้าตัวทำเสียงสูงต่ำหลอกล่อเพื่อให้คนเป็นน้องสนใจ ก่อนจะต้องบู้ปาก เพราะน้องชายที่รักไม่สนใจเขาซักนิด

    “อ๊า...เจ้านมขวดน้อยที่น่าสงสาร ดูดิพี่ชายสุดหล่อเค้าไม่สนใจนายเลยซักนิด ทำไงกันดี? เจ้าตัวเหลือบมองแล้วครุ่นคิด

    “งั้นคง...ต้องกินเองสินะ!

    “เฮ! ฮยอง ...เดี๋ยวก็อ้วกหรอก ขวดเดียวพอ” จื่อเทาหันมาคว้าขวดนมแล้วสั่งเสียงดุ มินซอกยิ้มกว้าง

    “จื่อเทาคุยกับพี่แล้ว”  

    “ผมเปล่าไม่คุยซักหน่อย” เจ้าตัวเหลือบตามองก่อนแล้วทำเป็นสนใจทีวีตรงหน้า  เสียงวาไรตี้ชวนตลกหัวเราะลั่น แต่ทั้งสองคนกลับนั่งนิ่ง มินซอกไม่รู้จะทำยังไงก็ทำได้แค่เหลือบมอง

    “เอ่อ..รายการนี้สนุกดีเนอะ เมื่ออาทิตย์ที่แล้วอ่ะไปเยี่ยมบ้านไอดอลที่ชื่อจิงกิหรือจินกิอะไรนี้และ พี่คนนั้นเขาฮามากเลย อ่ะ! เทา จะไปไหนอะ..”

    เจ้าตัวเตรียมลุกจะตามไปแต่ก็ต้องโดนห้ามไว้

    “ห้องน้ำ ...ไม่ต้องตามมานะ”

    “อ่ะ! แต่...”

    *ปึง*

    หลังเสียงปิดประตู ร่างสูงขยี้ผมตัวเองอย่างขัดอกขัดใจก่อนจะทุบกำแพงระบายอารมณ์...

    อ๊า!’ ...เจ้าตัวกัดฟันกรอดๆมองดูตัวเองผ่านกระจกห้องน้ำ

    เขาไม่ได้โกรธนะ ไม่ได้โมโหหรืออะไรทั้งนั้น พูดจริงๆ แต่ก็แค่รู้สึกหงุดหงิด

    ความหงุดหงิดงุ่นง่านทำเขาทำอะไรไม่ถูก มือเรียวขยี้หัวตัวเองอีกรอบแล้วหล่นเสียงแห่งความขัดใจ ภาพที่เพื่อนของพี่มินซอก ชื่ออะไรนะ...ฟันฟาน หรืออะไร ...โอ้ย ช่างมันเถอะ ไอ้หน้าเหยี่ยวนั้น

    เอากันจริงๆ หน้าที่นั้นมันควรเป็นของเขาไม่ใช่เรอะ เพราะมินซอกจะกินอะไรก็ไม่เคยจะระวังตัวหรืออะไรก็เถอะ เอ๊ะ..หรือว่า มันทำทุกครั้งตอนที่เขาไม่อยู่วะ

    “เชี่ยล่ะ!  เจ้าตัวสบถ ตอนนี้อยากจะเดินไปลากตัวมินซอกแล้วเอามาเค้นให้มันได้ความกันไปข้างหนึ่งเลยด้วยซ้ำ แต่พอนึกถึงหน้าพี่ชายตัวดีของตัวเองว่าจะทำหน้ายังไงแล้วก็รู้สึกว่า อย่าทำดีกว่านะ...

     

     

    “เทา...อาเทา เป็นอะไรรึเปล่า เมื่อกี่พี่ได้ยินเสียงดัง? 

    “เปล่า! คือ...ผมทำขวดแชมพูตก”

    เจ้าตัวตอบเฉไฉไปเพื่อแก้ปัญหา ก่อนจะเปิดประตูพรวดพราดออกไปแต่ก็ต้องชะงักกับคนตัวเล็กตรงหน้า

    “เอ่อ..คือ”   ตาใสเงยมอง ริมฝีปากเผยอค้างเพราะอยากพูดมากกว่านี้ แต่ทำไม่ได้...

    “ผมบอกแล้วไงว่าไม่มีอะไร” หวางจื่อเทาทำหน้าเข้ม

    “แต่...คือ...นาย...”

    “อะไรอีก?” เจ้าตัวทำหน้าเข้มใส่ ก่อนจะเห็นว่ามินซอกมีสีหน้าแปลกๆ แล้วสะอึก...

    “อึก...เปล่า ...อึก...” มินซอกตอบคำสะอึกคำ เจ้าตัวหน้าเบะหน้าจนน่าสงสาร

    “นี้กินนมของผมไปใช่ไหม?

    “ก็นาย..อึก...นายไม่กินนิ ฉันสงสาร..อึก...เสียดาย ฮือ...อาเทา ..อึก...ฉันทรมาน ฮือ” หน้าหวานเบะปากทำหน้าจะร้องไห้ แล้วก็ยังสะอึกไม่หยุด ร่างสูงตบหน้าผากตัวเองอย่างระอา...

    อ๊า!.. ก็รู้ว่าตัวเองกินนมเยอะไม่ได้ยังจะตะกละไม่หาย เพราะสมัยเด็กๆมินซอกเคยกินนมเยอะจนป่วย จากนั้นร่างกายเจ้าตัวก็ต่อต้านนมมาตลอด เป็นเขานี้และต้องคอยห้ามคอยปราม แต่ก็ไม่เคยเชื่อกันเล้ย

    “ไหวไหม ฮยอง?” เขาประคองร่างบางให้ไปนั่งพักแต่เจ้าตัวก็ยังสะอึกไม่หาย แถมยังทำหน้าเบะเหมือนจะร้องไห้แล้วเอามือลูบท้อง

    “อึก...ปวดท้อง...อึก..ด้วย..” เจ้าตัวกุมท้องนั่งตัวงอ เขาไม่รู้จะทำไงให้มินซอกหายสะอึก ...อ่า กินน้ำเยอะๆใช่ไหม?

    “ซิ่วหมิ่น รอแปปนะ”

     

     

    น้ำในแก้วพร่องลงไปในคอร่างเล็กแก้วแล้วแก้วเล่า นี้ก็ แก้วที่สี่แล้ว ก็ยัง...

    *สะอึก*

    ตากลมกระพริบปริบ มองหน้าน้องชายแล้วส่ายหน้า...

    “กินไม่ไหวแล้ว อึก... เทา ฮือ...อึก”

    “อ่า...แปปนะ”

    ร่างสูงเดินหายไปในห้องครัวแล้วปล่อยให้มินซอกนั่งกอดแก้วแล้วสะอึกไม่หายอยู่อย่างนั้น  ชะเง้อมองก็แล้ว เรียกก็แล้ว ร่างสูงก็ยังไม่ออกมา มินซอกเลยเดินเข้าไปหาก่อนจะสะดุ้งตัวโยนหัวเราะลั่น

    “เทา...อย่า...ฮ่าๆๆๆ ไม่เอา อา ฮ่าๆๆๆ  หยุดนะ อาเทา” หลบเลี่ยงยังไงก็ไม่พ้น แขนยาวที่กอดร่างเล็กรอบเดียวก็มิด จักจี้ไปมาอยู่แบบนั้นไม่หยุดมือซักที มินซอกทำได้แค่เบี่ยงตัวหนี หัวเราะจนร้องไห้ อาเทาหัวเราะตาม

    “พอแล้ว พี่ไม่ไหวแล้ว...ฮ่าๆ..พอแล้ว”  ร่างบางทรุดลงบนโซฟาก่อนจะนั่งหอบอยู่แบบนั้น แล้วผลักมือน้องออก

    “เล่นบ้าอะไร...ฮะฮะ” เสียงหวานหัวเราะเบาๆ ผลักน้องไปหนึ่งทีก่อนจะมานึกออกว่ามีอะไรแปลกๆ...

    “เฮ้ย! พี่หายสะอึกแล้วอ่ะเทา” เจ้าตัวดีใจกระโดดกอดน้อง แต่สุดท้ายก็นั่งกุมท้องเหมือนเดิม... “อูย...”

    “เป็นอะไรอ่ะ ยังปวดท้องอยู่เหรอ?” อาเทาตาตื่น

    “อืม...ไม่น่ากินนมเยอะเลย” เจ้าตัวหน้ายุ่งกุมท้องแน่น ก่อนจะเขยิบตัวไปอีกด้านแล้วนอนลงบนตักร่างสูง จับมือเรียวมาลูบท้องตัวเอง

    “นี้พี่ทำอะไรเนีย! ร่างเล็กเด้งตัวขึ้นนั่งก่อนจะทำหน้างอน

    “อะไรกัน ตอนเด็กๆนายทำให้พี่ออกจะบ่อยนะ ”

    ใช่! เขาทำบ่อย เพราะตอนเด็กๆเค้าเห็นพี่มินซอกชอบทรมานเพราะตะกละบ่อยๆ ครั้งหนึ่งเขาเห็นคุณแม่บุญธรรมลูบท้องให้มินซอกแล้วเจ้าตัวอารมณ์ดีเลยเลียนแบบตาม

     

    แต่ตอนนี้เขาไม่อยากทำมันอีกแล้ว เพราะ...

    “ผมไม่ใช่เด็กแล้วนะ ซิ่วหมิ่น!  มือเล็กตบเข้าที่หัวอาเทาเบาๆอย่างโมโห

    “เอาอีกแล้วนะ ทำไมเรียกแต่ชื่อ บอกแล้วใช่ไหมว่าให้เรียกพี่ด้วย” อาเทาเงียบแต่กลับจ้องเขม็ง  “ตอนเด็กออกจะน่ารักเชื่อฟังแท้ๆ”

    “ผมก็บอกแล้วไงว่าผมไม่ใช่เด็ก”

    “โตแล้วนายก็ยังเป็นน้องพี่อยู่ดีนั้นและ ดังนั้นก็ต้องเรียกพี่ว่าฮยอง เข้าใจไหม! พูดสิ ซิ่วหมิ่นฮยอง! ซิ่วหมิ่นฮยอง”

     

    เจ้าตัวนั่งนิ่งมองจ้องเขม็งไม่พูดตามที่พี่ชายบอก ความรู้สึกโมโหเมื่อครู่เริ่มกลับมาอีกแล้ว

    “ทำไมนายถึงดื้อขนาดนี้ฮะ!” เจ้าตัวยืนค้ำเอวสั่ง ร่างสูงเมินหน้าหนีแล้วลุกขึ้นเดินหนี แต่มินซอกคว้าแขนไว้ก่อน

    “อาเทา พี่บอกให้พูดก็พูดสิ นี้ไม่เชื่อฟังพี่แล้วใช่ไหม? จะไม่นับถือกันเป็นพี่กันแล้วใช่ไหม?

    “มินซอก!” ร่างสูงหันมาพูดเสียงเรียบ คนตัวเล็กตาโตเพราะเทาไม่เคยเรียกชื่อจริงให้เขาได้ยินเลยตั้งแต่เขามีชื่อจีน

    “ถ้ายังอยากให้ผมนับถือ ห้ามทำแบบนี้อีก...”

    ร่างเล็กยืนอึ้ง มองแผ่นหลังกว้างที่เดินหนีเขาไปอย่างไม่สนใจใยดี  เขาไม่เคยเห็นเทาเป็นแบบนี้มาก่อนเลย นี้อาเทาเป็นอะไร? หรือเพราะเบื่อจะเป็นพี่น้องกันแล้ว?

     

    “เดี๋ยวสิ อาเทา ออกมาคุยกันให้รู้เรื่องนะ”เจ้าตัวทุบประตูหน้าห้องร่างสูงรัว

    “อาเทา พี่บอกให้เปิดประตูไง...อาเทา นี้ไม่ได้ยินพี่งั้นเหรอ ...พี่บอกให้เปิดประตู” เขารู้สึกโมโหมาก ตั้งแต่เป็นพี่น้องกันมา เทาไม่เคยทำตัวไร้เหตุผลแบบนี้

    “อาเทา ...นี้ได้ยินไหม? เทา...อาเทา เจ้าเด็กบ้า อาเทา หวางจื่อเทา!!  แต่ก็ยังเงียบ มินซอกหน้ายุ่งยืนมองประตูนิ่ง  ก่อนจะพูดเสียงดังลั่น

    “ถ้าเป็นแบบนี้ก็ไม่ต้องมาคุยกันเลย เจ้าบ้า.... เจ้าน้องบ้า!

    ร่างเล็กโมโหจนเหนื่อยก่อนจะเดินกลับห้องตัวเองเตะนู้นชนนี้เสียงดัง จนร้องโอดโอย มินซอกหันหลังกลับไปดูประตูน้องชายที่ไม่ว่าตอนไหนเวลาไหนที่เขาเจ็บ ก็มักจะเข้ามาช่วยเขาเสมอ แต่ตอนนี้กลับปิดเงียบ

    ร่างเล็กน้ำตาเล็ดเพราะเมือกี้เตะเข้าที่มุมประตูเข้าเต็มๆ

    “เอ่อ! จำไว้เลย”

    เสียงหวานบ่นกับตัวเองก่อนจะพยายามกลับห้องด้วยตัวเอง โดยไม่รู้เลยว่าคนในห้องนั้นพยายามสกัดกั้นอารมณ์มากแค่ไหน เกือบพูดมันออกไป เกือบทำมันออกไป

    ...เพราะเขาไม่อยากเป็นน้องชายอีกต่อไปแล้ว...

     

     

    .

    “เฮ! เพื่อน ...สบายดีไหม?” เจ้าบ้าหน้ายาวยังคงตามราวีเขาไม่ห่าง  แขนนั้นที่คล้องคอใช้ศอกเขี่ยออกอย่างว่องไว

    “เฮ้ย! ฉันเจ็บนะเว้ย! เจ้าตัวดึงร่างสูงไว้ก่อนจะต้องถอยมือออกเพราะดวงตาน่ากลัวชะมัด

    “ฉันไม่ได้จะทำร้ายนายนะเว้ย อย่าทำหน้าน่ากลัวใส่กันสิวะ”

    “ฉันเปล่า...” ร่างสูงตอบนิ่ง ก่อนโอเซฮุนจะเดินไปหลบหลังจงอินแล้วผลักให้ไปเจราจาแทน

    “เฮ่ย! นายนี้...” จงอินจิ๊ปากก่อนจะมายืนกันเจ้าจีนหน้าหยกที่เขาไม่ค่อยถูกชะตานัก

    “พวกนายต้องการอะไร?

    “ก็ของที่ฝากให้ขอเมื่อวานไง หรือว่านายลืมแล้ว? โอเซฮุนพูดออกไป

    “เบอร์พี่ลู่หานนะ นายได้ขอมาให้ฉันไหม?” อาเทาทำหน้างง 

    “ขอ? อะไร? ฉันรับปากนายตั้งแต่เมื่อไรว่าจะขอให้...” เจ้าตัวตอบหน้านิ่ง จนเกือบจะโดนจงอินพุ่งเข้าใส่ แต่โดนเซฮุนห้ามไว้ทัน

    “ห้ามทำไมว่ะ! ก็มันกวนทีนนี่หว่า..เซฮุน”

    “เอ้อ...ใจเย็นสิว่ะ...”

     

    “ถ้าหมดธุระแล้วฉันขอตัว...” เขาเดินออกไปอีกทางอย่างไม่สนใจใยดี เพราะความหงุดหงิดที่มันมีตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว เมื่อเช้าเค้าออกมา มินซอกไม่มองหน้าเขาเลย ถึงแม้อาหารเช้าจะวางอยู่บนโต๊ะเสร็จสรรพก็เถอะ

    มัน ....อึดอัด ...โคตรๆ

    แต่ก็ดีแล้วที่เมื่อเช้าไม่เจอกัน เพราะอะไรมากมายอาจจะหลุดออกมาก็ได้

     

    “หวางจื่อเทา ถ้านายก้าวไปอีกแม้แต่ก้าวเดียวแล้วจะเสียใจ” โอเซฮุนโยนปึกรูปถ่ายใส่ตรงหน้าเขา

    “ฉันคิดแล้ว ว่านายไม่ยอมช่วยฉันแน่นอน ..ฉันนะมันคนฉลาด” เจ้าตัวกระหยิ่มยิ้มย่อง  ก่อนที่เทาจะหยิบรูปถ่ายนั้นขึ้นมา เขาส่องดูอย่างตกตะลึง

    “ฉันรู้ความลับของนายหมดแล้วละ ฮวางจื่อเทา!

     

    .

     

    “ซิ่วหมิ่น วันนี้นายเป็นอะไรดูอารมณ์ไม่ดีเลย” เพื่อนหน้าหวานที่ดูติดจะสนใจมินซอกมากไปจนเพื่อนรอบข้างระอา แต่มินซอกชินชา เอ้ย! เคยชินนั้น กำลังไล่ต้อนถามคนเป็นเพื่อนด้วยความอยากรู้อยากเห็น

    “หรือวันนี้หมวกฉันไม่สวย นายเลยเบื่อ นี้เป็นแบบที่นายเลือกให้เลยนะ”

    “เปล่าหรอก ทะเลาะกะน้องนิดหน่อยนะ” เจ้าตัวทำหน้าเซง แล้วฟุบนอนลงบนโต๊ะ นอนบนหนังสือเล่มหนาอย่างเหนื่อยอ่อน

    “กับเทานะเหรอ?

    ร่างเล็กเงียบไม่ตอบ แต่อยู่ดีๆกลับครางฮือออกมาเสียยืดยาวจนเพื่อนแอบขำ

    “ฉันผิดอะไรอ่ะ” เจ้าตัวโพล่งขึ้นเสียงดังก่อนจะเด้งตัวนั่ง ทำหน้ายุ่งขัดอกขัดใจราวกับแฮมสเตอร์ขาดอาหาร

    “โกรธอะไรก็ไม่รู้ พอจะง้อก็เงียบ แค่จะให้ลูบท้องให้ก็โมโห...”

    “ลูบท้อง?” ลู่หานแย้งถาม

    “อือ...เมื่อคืนฉันท้องอืดเพราะกินนมเยอะไปนะ ก็มันทรมานนิ ตอนเด็กออกจะทำให้ออกบ่อย โตมาแล้วดื้อ มึน ...” มินซอกคอตก

    “เรียกชื่อฉันอย่างเดียวด้วย ...นายก็รู้เรื่องแบบนี้ที่เกาหลีซีเรียสนะ ฉันก็ซีเรียส” เขาก็แค่อยากให้เทาทำเรื่องแบบนี้เป็นนิสัย ไม่อยากให้มีปัญหาในอนาคต

    “ตอนเด็กออกจะน่ารัก เชื่อฟังกันแท้ๆ T_T” เจ้าตัวครางฮืออย่างทุกข์ใจ เพื่อนๆที่นั่งเห็นร่างเล็กหงอยก็พาลจะหงอยไปด้วย

    “แล้วไม่ได้คุยกันเลยเหรอ?” ลู่หานถาม

    “ไม่เลย...ฉันก็โกรธเป็นเหมือนกันนะ คิดว่าตัวเองโกรธเป็นคนเดียวรึไงกัน เจ้าเด็กบ้านั้น!

    ร่างเล็กถอนหายใจ “ฉันก็เลยมานั่งอึดอัดอยู่นี่ไง ฮือ..~~~~~~~~~~

    “คอยดูนะเย็นนี้จะแกล้งใส่พริกหยวกที่หมอนั้นเกลียดนักหนาให้เต็มจานเลย”

     

    “อะไรเนี่ย? ตั้งแต่รู้จักกันมาฉันก็พึ่งเคยเห็นสองพี่น้องนี่ทะเลาะกันนี่และ เห็นทุกวันบ่นชมนั่นชมนี่น้องชายจนฉันยังรู้สึกอิจฉาเลย” อาเล่ยพูดขึ้นแล้วเก็บของไปด้วย

    “นั้นดิ่...น่าอิจฮาอ่ะ ยังกะแฟนกันเลย”ลู่หานบ่นกระปอดกระแปดทึ้งหมวกตัวเองเล่นอย่างเซงๆ แต่ไม่ได้รู้เลยว่าทำเพื่อนตัวเล็กตัวเองอึ้งจนพูดไม่ออก

    “แฟน บ้าอะไรลู่หาน! นั้นน้องชายฉันนะ” มินซอกพูดแก้ตัวใส่ลู่หานจนเจ้าตัวยู่ปาก

    “ก็ไม่ใช่น้องชายแท้ๆมีซักหน่อยนี่!  มินซอกนั่งอึ้งพูดไม่ออก

    “ต...แต่ยังไงเขาก็เป็นน้องชายฉันนะ”

    “แล้วยังไงล่ะ งั้นนายก็รับฉันเป็นน้องชายบ้างดิ่ ฉันก็อยากให้นายเป็นห่วงทุกวัน คิดถึงทุกวัน พูดถึงทุกวัน หรือโดนโกรธบ้างอะไรบ้างแบบนี้อ่ะ...อีกอย่างฉันไม่เกี่ยงจะลูบท้องให้นายทุกวันเลยเถอะ!” ลู่หานพ่นออกมาด้วยสีหน้าจริงจังอย่างไม่คิดจนอี้ชิงต้องจับแขนปราม แต่เจ้าตัวสะบัดแขนทิ้ง

    “อะไรเล่า! หรือไม่จริง มันมีวันไหนบ้างที่ซิ่วหมิ่นไม่บ่นถึงน้องชายตัวเองเล่า” เจ้าตัวบ่นอย่างหัวเสีย

    “นายก็รู้ว่าฉันคิดยังไงกะนายนะซิ่วหมิ่น” เจ้าตัวยื่นหน้าไปใกล้เพื่อนตัวเล็กก่อนจะยิ้มกว้าง

    “คบกับฉัน...หะ เห้ย! อี้ชิง!

     

    “เห้ย โทษทีนะ! ลู่หานฉันหิวน้ำพาฉันไปซื้อที...” เจ้าตัวลากเพื่อนออกจากโต๊ะไปอย่างทุลักทุเล แต่ก็ไม่วายก็ยังเสียงดังไม่หาย ปล่อยให้มินซอกนั่งอึ้ง มองอย่างงงๆ ก่อนอยู่ดีๆก็หลุดหัวเราะออกมา

    “ฮะ ฮะ ...ลู่หานนี้ยังเป็นคนตลกไม่หายเลยนะ”

    เจ้าตัวนั่งบ่นกะเพื่อนตัวสูงที่นั่งนิ่งอ่านหนังสือ ไม่สนความวุ่นวาย เจ้าตัวนั่งมองคนตัวเล็กที่นั่งหน้ามึนๆดูสับสนจนน่าสงสาร คริสรู้สึกแอบขำความน่ารักของเพื่อนตัวดี แต่ก็ไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรออกมา

    “เปล่านะ ฉันกับอาเทาก็แค่พี่น้อง นี่นายเชื่อลู่หานงั้นเหรอ?” ตัวเล็กถามหน้าตื่น

    “ก็เปล่า...ฉันรู้ว่าลู่หานมันชอบเพ้อเจ้อ...” คริสตอบก่อนจะมองดูนาฬิกาข้อมือตัวเองแล้วพับขาแว่นแล้วเก็บเข้าที่

    “แต่ฉันเชื่อตัวเองมากกว่านะ”

    เพื่อนร่างสูงตอบเสียงเรียบก่อนจะลุกไปซื้อของโดยไม่ลืมที่จะถามร่างเล็กว่าจะเอาอะไรไหม...

    “เพราะฉันก็ไม่เคยเห็นน้องชายบ้านไหนเขามองพี่ชายด้วยสายตาแบบนั้นนะ”

    ปล่อยระเบิดลูกใหญ่แล้วลุกจากไป ปล่อยให้คนตัวเล็กนั่งคิดกับสิ่งที่ได้ยิน

    สายตา...งั้นเหรอ?

     

    .

     

    “เขาบอกว่าดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ”

    โอเซฮุนยืนหัวเราะอย่างผู้มีชัย เจ้าตัวจิ้มนิ้วไปที่รูปถ่ายหนึ่งในหลายสิบใบ รูปแอบถ่ายของหวางจื่อเทา

    “นายต้องการจะบอกอะไร? เทานั่งขบกรามอย่างแค้นเคือง ก่อนจะเห็นรอยยิ้มยิ้มเยาะแสนหน้าหมั่นไส้

    “แล้วเขาก็ยังบอก หัวใจเป็นดังหน้าต่างของความรัก..”

    เหมือนได้ยินเสียงเส้นเลือดขาดดัง  *ผึง*

    อาเทากระโจนเข้าหวังจะชกเจ้าหน้ายาวแสนโยกโย้นั้นด้วยความหมั่นไส้ แต่อนิจจาก็มีบอดีการ์ดตัวดำมาขวางไว้ทัน โอเซฮุนกระโดดหลบเกือบไม่ทัน เจ้าตัวโวยวาย

    “ไอ้เจ้าบ้า อย่าใจร้อนสิวะ!

     “ถ้าแกยังลีลาอยู่อีกนะ ปากนายจะได้กินขาฉันแน่”

    ร่างสูงกระโดดเตะแต่ก็ไม่ถึงโอเซฮุนเพราะเพื่อนแสนรักคิมจงอินล็อคตัวคนตรงหน้าไว้แน่นหนา ก่อนเจ้าตัวจะเลิกขู่แล้วเอารูปยิ้มหวานของพี่ชายยื่นมาให้ดู และต่อด้วยรูปอีกมุมมองแต่ในสถานการณ์เดียวกัน เป็นรูประหว่างเขากับมินซอกกำลังมองหน้ากันอยู่ และอีกหนึ่งรูป... คือมุมมองที่เขาจ้องมองคิมมินซอก

    “ฉันรู้ความรักมันเป็นเรื่องยาก...แต่ก็ไม่ยากไปที่จะได้หลงรักใครซักคน ..อ่าว เฮ้ย! เดี๋ยวสิว่ะ ไอ้นี้”

    โอเซฮุนวิ่งกระเถิบมาอีกทางเพราะร่างสูงเตรียมกระโจนใส่อีกรอบ

    “...จะพูดก็พูดมาไอ้สโตรกเกอร์...”

    โอเซฮุนได้ยินก็ทำหน้านิ่งจิกสายตาน่ากลัวใส่ แต่กลับแสยะยิ้ม

    “แอบรักมันเจ็บอะดิ่ คิก..” ร่างสูงตาโต

    “เท่าที่ฉันเฝ้าตามสังเกตนายกับกลุ่มพี่ชายนายอ่ะนะ ฉันยังไม่เห็นพี่ชายนายมีท่าทีแปลกๆ ก็เลยคิดได้ว่าคงยังไม่รู้ตัว” เจ้าตัวหยิบรูปมามองก่อนจะเงยหน้ามองเพื่อนด้วยสีหน้าเยาะเย้ยแล้วพล่ามต่อ เจ้าตัวควักกระดาษบางอย่างออกมาอ่าน

    “คิมมินซอก หรือมีชื่อจีนที่ทางบ้านหรือเพื่อนๆเรียกกันว่า ซิ่วหมินเกิดวันที่ 26 มีนาคม นักศึกษามหาลัย SN คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์สาขาธุรกิจและการท่องเที่ยว เป็นลูกชายคนเดียวของคุณแม่คิมมินซุก แต่งงานใหม่ตอนเจ้าตัวอายุได้สิบขวบกับนักธุรกิจชาวจีนที่มีลูกชายติดมาด้วยหนึ่งคนนั้นก็คือ หวางจื่อเทา.....ซึ่งก็คือนาย”

    ร่างสูงที่สะบัดตัวมายืนเป็นอิสระแล้วยืนหายใจแรง ยืนจ้องด้วยสายตาน่ากลัว กำมือแน่นอย่างโกรธจัด

    “ทั้งคู่เป็นพี่น้องบุญธรรม และสถานภาพทั้งคู่ตอนนี้ยังคงเป็นโสด...” มาถึงประโยคนี้โอเซฮุนพับเอกสารที่หยิบขึ้นมาอ่านข้อมูลร่ายยาวนั้นลงกระเป๋าก่อนจะอมยิ้ม

    “เหมือนตัวพี่ชายจะยังไม่เคยมีแฟนเลยในชีวิต แต่นายกลับมีมาแล้วมาหลายสิบครั้งแต่ก็ไม่เคยคบเกินหนึ่งเดือนเลยซักคน เอ??...เพราะอะไรกันนะ...”

    “เท่าที่เข้าใจเหมือนพี่ชายก็ยังสงสัยเหมือนกันว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น...”

    โอเซฮุนเดินวนจื่อเทาอย่างช้าๆด้วยความผยองใจ  “ถ้าพี่ชายรู้ว่า เหตุผล มันเพราะอะไร...”

    จะ เป็น ยัง ไง กัน นะ ?

    จื่อเทากระชากคอเสื้อเซฮุนจนเกือบลอยจากพื้น มองด้วยสายตากินเลือดกินเนื้อ ถึงแม้จะรู้สึกกลัวเล็กๆแต่กลับยิ้มเยาะกลับไปให้ แล้วตบไหล่คนตรงหน้าเบาๆ

    “ถ้ายังไง ก็ฝากด้วยนะ เพื่อน!



    .



     

    “สายตางั้นเหรอ...”

    มินซอกนั่งเหม่อกอดเข่า มองลูกแมวพี่น้องทั้งสองกินนมอย่างเร่งรีบและหิวกระหาย คนตัวเล็กเลยเทนมให้เพราะพวกมันร้องขออาหารกันดังมาก  เจ้าตัวใช้ข้อนิ้วลูบหัวเจ้าตัวสีดำเบามือ แมวตัวพี่สีขาวแต้มน้ำตาลอ่อนเงยหน้ามองส่งเสียงร้อง “มี๊ มี๊~

    ตากลมวาวสีเทาจ้องมองเขาอย่างใสซื่อ เจ้าตัวเล็กเลียแล้วขบนิ้วเขาเล่น ดวงตาของลูกแมวทำให้เขาคิดถึงสายตาของหวางจื่อเทาสมัยเด็ก

    ตอนที่เจอกันครั้งแรก สายตาของอาเทานั้นดูนิ่งเฉย น่ากลัวนิดๆและดูเข้าใจยาก แต่ในแววตาคู่นั้นกลับช่างดูว่างเปล่า และเงียบเหงา ตั้งแต่นั้นมาเขาก็ตั้งใจว่าเขาจะไม่ปล่อยมือนี้ไปไหน

    ...เพราะเขารู้ดีว่าความรู้สึกเหงามันเป็นยังไง...

     

     

    มี๊ มี๊ มี๊~~~~~~~~~”  เจ้าแมวร้องระงม มินซอกหลุดจากความคิดก่อนจะเห็นว่านมในถ้วยกระดาษมันพร่องเกือบหมด

    “อ่าว หมดแล้วเหรอ?” เจ้าตัวเทให้เกือบเต็มถ้วย มินซอกอมยิ้มก่อนจะรู้สึกเศร้าเพราะคิดถึงพ่อแม่แมวที่ไม่รู้ตอนนี้ไปอยู่ไหน เขาค่อนข้างอ่อนไหวกับเรื่องแบบนี้ แต่ก็นะ...

    “พ่อแม่ของพวกเจ้าไปไหนเนีย...” มินซอกพูดเบาๆกับตัวเองพลางลูบหัวแมวน้อยขนนุ่มเบามือ

    “อยากเอาไปเลี้ยงจัง...แต่อาเทาจะว่ายังไงนะ?” หน้ากลมส่ายหน้า คิ้วขมวดยุ่ง

    “ก็ช่างเจ้าน้องบ้านั้นสิ ฉันไม่สนใจแล้ว...”

    เจ้าตัวนั่งหน้ายุ่งตบตีกับตัวเองในใจ แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจว่าจะเลี้ยง ใช่! จะเลี้ยง!

    ก่อนจะคิดได้ว่าให้เจ้าพวกนี้อิ่มท้องก่อนค่อยอุ้มไปอีกที เขายิ้มกว้างเมื่อตัดสินใจได้ เพราะนานแล้วที่เขาอยากเลี้ยงแมวหรือว่าหมาตัวเล็กๆ แต่ที่เคยไม่ได้เลี้ยงเลยก็เพราะหวางจื่อเทาไม่ชอบ

    “มันหมดช่วงเวลาตามใจเจ้าเด็กดื้อคนนั้นแล้วละ!

    มินซอกคิดอย่างมุ่งมั่น คนตัวเล็กเลยเดินหากล่องหรืออะไรก็ตามที่พอจะบรรจุเจ้าพวกนี้ได้ เดินวนไปวนมาก็หาไม่เจอซักที โดยไม่รู้เลยว่ามีใครบางคนยืนมองอยู่

    .
     

    สายตาเรียวยืนมองคนตัวเล็กไม่ห่าง ถ้าทำเหมือนที่เคยทำ แค่เดินเข้าไปหามินซอกก็หันมายิ้มให้แล้ว แต่ครั้งนี้เขากลับไม่กล้า จื่อเทายืนหลับตา เขาไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้ามินซอกรู้ความจริงขึ้นมาทุกอย่างมันจะเป็นยังไง

    เขาไม่เคยแน่ใจอะไรเลย...

    สุดท้ายทำได้เพียงแค่ยืนมองอย่างเงียบๆไม่ให้คนตัวเล็กรู้ตัว แต่โชคชะตากลับไม่เข้าข้าง แมวตัวใหญ่สามสีที่เดินลากสายจูงมาจากไหนไม่รู้เดินมาเคลียคลอขาจื่อเทาจนทำให้มินซอกหันมามอง

     “อ..อ่าว อาเทา ทำไมมายืนอยู่ตรงนี้?

    “อ..เอ่อ คือ..”

    “เมี๊ยว เมี๊ยวววววว~~~~~ เมี๊ยว..” ก่อนจะเห็นว่าเจ้าลูกแมวสองตัวนั้นวิ่งตรงรี่มา เข้ามาคลอเคลียเจ้าแมวตัวใหญ่ ร้องเสียงเล็กระงมไปหมด ในจังหวะเดียวกันนั้นก็มีเสียงของหญิงสาวร้องเรียกชื่อของใครซักคน

    “เรโกะ เรโกะ อยู่ไหน?...ชิอุ ทาโอะ ลูกแม่!” เจ้าแมวทั้งสามวิ่งรี่ตรงไปหาหญิงสาวที่กำลังดีใจอย่างสุดๆ

     

     

    “ขอบคุณทั้งสองคนมากเลยนะคะที่ดูแลชิอุกับทาโอะให้ ถ้าไม่เจอดิฉันคงใจสลายแน่ๆ ไม่น่าเผลอตอนทำสวนเลย...”

    “อ...เอ่อ ไม่เป็นไรครับ ผมก็พึ่งเจอเจ้าสองตัวนั้นเมื่อตะกี้นี่เอง ไม่คิดว่าจะมีเจ้าของ เกือบเอาไปเลี้ยงแล้วด้วย” ประโยคสุดท้ายนี้เจ้าตัวพูดเสียงเบาเพราะจนแล้วจนรอดก็ยังเกรงใจเจ้าน้องชายตัวโย่งนั้นอยู่ดี อยากจะตบตีตัวเองจริงๆ

    “แต่ยังไงก็ขอบคุณมากนะคะ ขอบคุณมากจริงๆ ฉันหาเจ้าพวกนี้มาทั้งวันเลย”  หญิงสาวแสดงการขอบคุณเป็นการใหญ่ จับมือทั้งสองคนก่อนจะอุ้มเจ้าแมวจอมปัญหาทั้งสามตัวเดินจากไป แต่ก็ยังมิวายโค้งขอบคุณก่อนจะหายลับไป ปล่อยไว้แต่บรรยากาศประหลาดระหว่างคนทั้งสอง

    กระอักกระอ่วนพอดูเมื่อไม่มีอะไรมาคั่นกลาง แล้วจะเริ่มจากตรงไหนดีนะ...

    มินซอกกระชับสายกระเป๋าด้วยท่าทีประหม่า เขาเหลือบมองคนข้างตัวอย่างกล้าๆกลัวๆ อยากที่จะพูดก่อนเหมือนครั้งที่ผ่านๆมาเพราะทุกครั้งที่เคืองโมโหกัน เขาก็เป็นคนง้อเจ้าเด็กนี้ก่อนทุกครั้ง แต่ครั้งนี้อาเทาทำเกินไป แล้วเขาก็ไม่ได้ผิดด้วย

    ...จะง้อทำไมล่ะ!!!!!!!!!!!!!!...

    สองขาเดินตรงกลับบ้านด้วยอารมณ์บูดบึ้ง ไม่พูดไม่เออซักคำแล้วเดินนำลิ่วๆอย่างว่องไวด้วยความเคือง ร่างสูงมีสีหน้าช็อคเล็กๆเพราะไม่เคยเห็นพี่ชายตัวดีของตัวเองเป็นแบบนี้ ก่อนจะคิดอะไรไดร่างกายกลับพาเขาไปคว้ามือเล็กนั้นไว้ซะแล้ว

    “ทำไม?

    มินซอกหันหน้ามาถามด้วยสีหน้าเคืองสุดชีวิต แต่จื่อเทากลับคิดว่ามันยังกะแฮมสเตอร์โมโหหิวมากกว่า เจ้าตัวหลุดขำออกมาไม่รู้ตัว คนตัวเล็กอ้าปากหวอหัวคิ้วยุ่ง

    “ฮ..ฮ๊ะ เอ้อ หัวเราะเหรอห๊ะ! นี้นายตลกมากใช่ไหม มันน่าตลกมากสินะ!” เจ้าตัวผลักตีคนตรงหน้าไม่หยุดมือ ถึงแม้จะร้องโอดโอยจนน่าสงสาร แต่ก็ไม่อยากหยุดมือแล้ว ทำเขาโกรธแล้วยังจะมาหัวเราะกันอีกนะ

     

    “ผ...ผมเจ็บนะฮยอง พอแล้ว..พอแล้ว!

    “ไม่! ฉันจะตีนายให้ตายเลย นี้แน่ะ! นี้! นี้!นี้!” มินซอกยังคงไม่หยุดมือ เจ้าตัวทั้งตีทั้งว่าระบายอารมณ์ กะจะให้จำให้สำนึกแต่อยู่ดีๆอาเทาก็ล้มลงร้องโอดโอย

    “เทา...จื่อเทา เป็นอะไรไหม!?” ร่างสูงสะดุดล้มลงตรงพื้น มินซอกตาโตเมื่อเห็นแขนที่กระแทกพื้นเลือดไหล

    “เลือด! นายเลือดออก!” ร่างเล็กแตกตื่นอย่างหนัก เขาควานหาผ้าเช็ดหน้าแต่ก็หาไม่เจอ ลนจนคิดอะไรไม่ออก หน้าตาเหมือนจะร้องไห้ จนสุดท้ายก็เอาปลายเสื้อมาซับเลือดให้แต่ก็ยังไม่หายตระหนก

    “พี่ทำนายเลือดออก...พี่ขอโทษ..อาเทา”

    “ซิ่วหมินฮยองใจเย็น ผมไม่ได้เจ็บอะไรมาก ฮยองใจเย็น ก็แค่แผลหกล้ม...” อาเทาจับมือให้หยุดก่อนเจ้าตัวจะค่อยๆเลื่อนขึ้นมาจ้องหน้าเขา

    “นายไม่ได้เจ็บอะไรอีกใช่ไหม ไหนๆ พี่ขอดูหน่อย” เจ้าตัวพลิกหน้าพลิกหลังคนตัวสูงก่อนอาเทาจะปรามให้หยุด แล้วฉีกยิ้มบางส่ายหน้าให้

    “มันก็แค่หกล้มเองนะฮยอง!

    “เฮ้อ! โล่งอก” ร่างเล็กถอนหายใจก่อนจะยิ้มกว้าง แต่ครั้งนี้กลายเป็นจื่อเทาเองที่ต้องตระหนกตกใจเพราะอยู่ดีๆมินซอกก็น้ำตาไหลออกมา

    “ฮยอง เป็นอะไร...ร้องได้ทำไม?” มินซอกทำหน้าตกใจ หลังมือเล็กยกขึ้นเช็ดหน้าอย่างงงๆ เจ้าตัวฉีกยิ้มแล้วส่ายหน้ารัวแต่น้ำตาก็ยังไหลลงมาเรื่อยๆ

    “ฮะ ฮะ ไม่รู้อ่ะ ไม่รู้ ...ฉันไม่รู้” ร่างเล็กเอาแต่พูดว่าไม่รู้ แต่ก็ยังหัวเราะแล้วตลกตัวเอง เขาก็แค่โล่งอก ....โล่งอกที่อาเทาไม่เจ็บอะไร ...และก็โล่งอก ...โล่งอกที่กลับมาคุยกันอีกครั้ง

    “พี่เป็นห่วงนายมากรู้ไหมจื่อเทา รู้ไหมว่าเมื่อคืนพี่อึดอัดมากเลยนะ ที่นายไม่คุยกับพี่ไม่...”

    “ผมขอโทษ ฮยอง...ผมขอโทษ ผมจะไม่ทำอีกแล้ว” ฝ่ามือใหญ่กุมแก้มกลมแล้วเช็ดน้ำตาทั้งสองข้างที่ยังไหลไม่หยุด ดวงตากลมช้อนขึ้นมองด้วยสายตาตัดพ้อ

    “อย่าทำแบบนี้อีกรู้ไหม?” ตัวเล็กกัดปากอย่างเจ็บใจแล้วตีที่ไหล่ร่างสูงจนร้องโอย ตัวเล็กหน้าเปลี่ยนสีทันที

    “เจ็บเหรอ..ขอโทษ! เจ็บอีกเหรอ!?” จื่อเทายิ้มกว้างแล้วส่ายหน้า

    “เปล่า...” เจ้าตัวหลุดหัวเราะ ก็เลยโดนลงโทษตีไปอีกรอบ

    “นี้นายแกล้งพี่เหรอ?! เจ้าบ้านี่!” จื่อเทาเอาแต่หัวเราะแล้วก็ส่ายหัวหลบเลี่ยงการโดนตี ก็ตอนนี้มินซอกเอาแต่ทำหน้ายุ่งขัดอกขัดใจ จื่อเทาคิดในใจว่าเวลาโกรธนี้ก็น่ารักไปอีกแบบ

    “ฮยอง! ผมเจ็บนะฮยอง หยุดตีได้แล้ว”

    “จำไว้เลยนะ!” ร่างเล็กมองอย่างคาดโทษก่อนจะเควี้ยงเศษหญ้าแถวนั้นใส่ระบายอารมณ์ ร่างสูงเลยลุกขึ้นนั่งยองๆตรงหน้าก่อนจะเช็ดคราบน้ำตาที่ยังเหลืออยู่

    “อย่าร้องไห้อีกนะฮะ รู้ไหมว่าผมก็เป็นห่วง” สายตาที่จริงจังนั้นทำให้เขาต้องอึ้ง นัยน์ตาของร่างสูงที่ดูสื่อความหมายบางอย่างจนทำให้คนมองต้องใจเต้น แล้วคำพูดของเพื่อนร่างสูงก็ปรากฏขึ้นมาในหัว

     

    “เพราะฉันก็ไม่เคยเห็นน้องชายบ้านไหนเขามองพี่ชายด้วยสายตาแบบนั้นนะ”

     

    สายตา....งั้นเหรอ?

     

    TBC
     




    Talk : ยังจำพี่น้องคู่นี้กันได้ไหมคะ ฮ่าๆ นานเกินไปที่อัพเดทหรือเปล่าเนีย แต่ไรเตอร์ชอบคู่นี้อยู่ลึกๆและชอบเรื่องนี้มากยังไงก็ฝากไว้ด้วยนะคะ
    อีกอย่าง! สุขสันต์วันเกิดโอเซฮุนด้วย อยากจะหอมแก้มแก้แค้นจริงๆ 5555555

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×