ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Aria of Epic : The Song of Destiny

    ลำดับตอนที่ #1 : อารัมภบท

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 362
      1
      20 มี.ค. 49

                                                                    อารัมภบท



        ในอดีตครั้งโบราณกาล พระเจ้าได้ทรงเสกสรรค์ดินแดนให้แก่พวกเราชาวมนุษย์ได้อาศัย ณ ใจกลางของพื้นที่ร้างนั้น  " อาเคเซีย "  ต้นไม้ที่กล่าวกันว่าเป็นสิ่งมีชีวิตบนผืนแผ่นดินได้หยั่งรากลงใต้เปลือกโลก  และทุกครั้งที่ดวงจันทร์ทอแสงนวลต้องใบไม้สีเขียวของต้นไม้แห่งชีวิตนี้  มันก็จะปล่อยเมล็ดพันธุ์เล็กๆ หลายพันหมื่นเมล็ดลงบนพื้นพิภพ  ก่อกำเนิดเป็นสิ่งมีชีวิตมากมายหลายเผ่าพันธุ์บนพื้นโลก  ซึ่งล้วนแต่มีวัฒนธรรมและการดำเนินชีวิตที่แตกต่างกันไป…….



        มนุษย์   เป็นเผ่าพันธุ์ที่มีวิถีชีวิตความเป็นอยู่และวัฒนธรรมที่ค่อนข้างชัดเจน  แบ่งแยกเป็นหลายเชื้อชาติ  ดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยการเกษตรและกสิกรรม



        ภูติ หรือเรียกอีกชื่อว่า เทวดา  เป็นผู้ที่ทำหน้าที่ส่งสารจากพระเจ้า  มีพลังศักดิ์สิทธิ์  เป็นสัญญลักษณ์แห่งความดีงาม



        พหุภูติ  เป็นเผ่าพันธุ์ที่มีมาก่อนหน้าที่มนุษย์จะถือกำเนิด  มีทั้งพวกที่สิงสถิตย์อยู่ตามต้นไม้ ก้อนหิน  ดิน แม้กระทั่งแม่น้ำ  เรียกอีกชื่อว่า รุกขเทวดา  มีอายุไขราวๆหนึ่งร้อยปี ใกล้เคียงกับมนุษย์  อุปนิสัยแตกต่างกัน มีทั้งที่ดีและชั่วร้ายปะปนกัน



        ปีศาจ  เผ่าพันธุ์ที่ชื่นชอบความโหดร้ายทารุน  ป่าเถื่อน  มีพลังแห่งความมืด ที่สามารถชักจูงจิตใจของมนุษย์  เป็นตัวแทนของความชั่วร้าย



        สัตว์ประหลาด  เผ่าพันธุ์ที่มีมากที่สุดในโลกอาคาเดีย  มักถูกล่าโดยมนุษย์เพื่อนำเขา หรือเนื้อหนัง ไปใช้ประโยชน์  มีทั้งสัตว์ที่เป็นมิตรไม่ทำอันตรายก่อน  และพวกที่ดุร้าย



        เผ่าพันธุ์ทั้งหลายเหล่านี้ต่างก็อาศัยอยู่ในเขตของตนเองนั่นก็คือ  มนุษย์ซึ่งเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีมากและยังไม่ละทิ้งซึ่งกิเลสจะอาศัยอยู่บนผืนแผ่นดินซึ่งถูกเรียกว่า " อาคาเดีย " เช่นเดียวกับพวกสัตว์ประหลาดทั้งหลาย



        ฝ่ายพวกเทวดาซึ่งมีจิตวิญญาณที่สะอาดบริสุทธิ์นั้นจะอาศัยอยู่เหนือแผ่นดิน หรือสถานที่ที่ถูกเรียกว่า " เมลเฮฟเว่น " หรือ " สวรรค์ "



        และเผ่าพันธุ์ปีศาจผู้ซึ่งเต็มไปด้วยความชั่วร้ายก็จำต้องอาศัยอยู่ในดินแดนแห้งแล้งภายใต้ผิวโลก ดินแดนที่ต้องห้ามซึ่งถูกขนานนามว่า  " เฮมล์เฮล " หรือ " นรก "



        เหล่าเทวดานั้นจะไม่สามารถลงไปยังนรกได้ เช่นเดียวกับเผ่าปีศาจที่มิอาจขึ้นมายังสรวงสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ แต่ทว่ามนุษย์เผ่าพันธุ์ซึ่งเป็นที่รักของพระเจ้าผู้สร้างนั้นสามารถไปได้ทั้ง สวรรค์ และ นรก เผ่าพันธุ์ทั้งสามได้สร้างข้อตกลงที่จะไม่บุกรุกอาณาบริเวณของอีกฝ่าย  ซึ่งเรียกว่า "กฎแห่งอาคาเดียน "



        พวกเขาทั้งหลายต่างก็ปฏิบัติตามกฎนี้เรื่อยมาจนกระทั่ง  วันหนึ่งเหล่าปีศาจได้ลุกขึ้นมาเข่นฆ่ามนุษย์ที่อ่อนแอไร้หนทางสู้  ภายใต้การนำของจอมทัพปีศาจ " ทาทารัส"



        แต่ทว่าในหมู่คนเหล่านั้นก็มีวีรชนคนกล้าผู้เป็นเหมือนดั่งความหวังของมวลมนุษย์  พวกเขาซึ่งเป็นเพียงแค่เด็กหนุ่มสาวธรรมดา  ได้ลุกขึ้นต่อกรกับเหล่าปีศาจร้าย  ชื่อของพวกเขาเหล่านั้นได้แก่



        มิคาเอล  ทหารหนุ่มพเนจรผู้ซึ่งปรากฏกายพร้อมกับ " ดาบเพลิงอัคคี " เมื่อใดที่เขากวัดแกว่งดาบ  เมื่อนั้นเปลวเพลิงแห่งสวรรค์จะเผาผลาญเลือดเนื้อของปีศาจให้สูญสิ้น !!



        กาเบรียล  สาวงามเพียงคนเดียวในกลุ่มผู้กล้า  ผู้มีดวงตาสีเงินอันเย็นเยียบราวน้ำแข็ง  เธอจะปรากฏกายพร้อมกับ " ผลึกแห่งวารี " แหล่งกำเนิดพลังเวทศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถเยียวยารักษาบาดแผลได้



        ราฟาเอล  ชายหนุ่มผู้มีรอยยิ้มละไมอยู่บนใบหน้างดงามราวเทพบุตร  ผู้ซึ่งมี " อัญมณีแห่งห้วงนภา " ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถบังคับอากาศธาตุได้ดั่งใจ



        อุริเอล  วีรชนผู้แสนอ่อนโยน  ผู้ขับขานท่วงทำนองแห่งผืนแผ่นดิน เจ้าของ " แหวนแห่งพสุธา " ที่สามารถชักจูงใจมนุษย์ได้เพียงแค่เอื้อนเอ่ยวาจา



        การต่อสู้ของพวกเขาทั้งสี่ทำให้พระเจ้าผู้สร้างทรงตระหนักถึงความเข้มแข็งของมนุษย์  ณ  วันนั้นที่สุริยะเทพทอแสงแผดเผาพื้นบฐพี  พระองค์ก็ได้ส่ง "บุตรแห่งพระเจ้า " พร้อมพรั่งด้วยเทวดาทั้งหลายลงมายังโลกมนุษย์เพื่อให้ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับเลือดเนื้อของพระองค์  



        วีรชนคนกล้าทั้งสี่ได้ผนึกกำลังกันต่อสู้กับจอมปีศาจร้าย ทาทารัส  แต่ในขณะที่ความดีกำลังจะมีชัยเหนือความชั่วร้าย  เหล่าผู้กล้าต่างก็ได้มองเห็นถึงอนาคตอันมืดมิดที่รอคอยพวกตนอยู่  และได้ตระหนักถึง " ความจริง " ของภารกิจอันโหดร้ายในครั้งนี้  ไฟแห่งโทสะก็บังเกิดขึ้นในบัดดล  ราวกับเหวลึกดำมืดที่มิอาจมองเห็นจุดสิ้นสุด  ชั่วพริบตาเดียวที่สถานการณ์ได้พลิกผัน  โดยไม่มีใครคาดคิด  ความดีก็กลายเป็นฝ่ายปราชัย  ความชั่วร้ายได้ปกคลุมไปทั่วทั้งแผ่นดิน !!



        ไม่มีใครที่จะสามารถลืมวันสิ้นสุดของสงคราม ศักดิ์สิทธิ์ นั้นได้ลง  พื้นแผ่นดินลุกเป็นไฟ  ธารโลหิตไหลนองไปทั่วทุกแว่นแคว้น  ธงชัยของกองทัพปีศาจโบกสะบัดไปทั่วแผ่นดิน  ความโศกเศร้าระทมทุกข์ของผู้คนมีอยู่ทุกหย่อมหญ้า  เสียงกรีดร้องอย่างยินดีของเหล่าปีศาจดังระงมราวเสียงฟ้าร้อง เหล่ามนุษย์ต่างก็สิ้นหวัง !!



        เมื่อไม่มีทางเลือก  เหล่านักสู้ผู้ผ่านสงครามอันยากเข็ญจึงจำเป็นต้องผนึกวิญญาณของผู้กล้าทั้งสี่คนเอาไว้ในศาสตราวุธคู่ใจ  บุตรแห่งพระเจ้า ได้เสกสรรค์สถานที่แห่งหนึ่งขึ้นเพื่อให้กลายเป็นที่หลับไหลของเหล่าผู้กล้า  เวลาผันผ่านไปหลายร้อยทิวาราตรี   สถานที่ผนึกนั้นได้กลายมาเป็นโรงเรียนเพื่อสอนศาสตร์แห่งเวทย์และการต่อสู้  เพื่อเตรียมรับมือกับสงครามที่อาจจะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า…….



        ภายในอาณาบริเวณของโรงเรียนนั้นได้ถูกแบ่งแยกส่วนออกเป็นสี่เขตแดนตามศาสตราที่ถูกถ่ายทอดให้กับเด็กหนุ่มสาว  โดยที่มีม่านพลังเป็นตัวแยกห้วงมิติทั้งสี่มิให้มาบรรจบกัน  สายการเรียนที่ถูกถ่ายทอดนั้นได้แก่



        สายพลังจิต  เน้นที่สมาธิและความแข็งแกร่งของจิตที่มุ่งมั่น  ผู้ที่อยู่ในสายนี้จึงเป็นทั้งนักสู้ที่สุขุม และเป็นทั้งนักคิดวิเคราะห์ได้เยือกเย็น



        สายศิลปะการต่อสู้  เน้นที่พลังความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อ  และร่างกายที่ปราดเปรียวว่องไว  สร้างสรรค์เหล่าทหารนักสู้ผู้เข้มแข็ง



        สายเวทมนต์  เน้นการควบคุมพลังธรรมชาติอันยิ่งใหญ่โดยใช้การร่ายมนต์ตราคาถาเป็นตัวผนึกสมาธิและพลังเวทย์  ซึ่งถูกแตกแขนงออกไปเป็นเวทมนต์ศักดิ์สิทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้าที่ช่วยเยียวยารักษาบาแผล  เวทมนต์ดำของปีศาจที่มีพลังโจมตีอันรุนแรง   และเวทมนต์พิเศษที่คิดค้นพลิกแพลงโดยมวลมนุษย์ เป็นการรวมเอาศาสตราทั้งสองเข้าไว้ด้วยกัน



        สายนักเวทย์อัญเชิญ  สายการเรียนสุดท้ายที่ค้นหาเหล่าเด็กหนุ่มสาวผู้มีพลังพิเศษซึ่งหาตัวได้ยากยิ่ง  พวกเขาเหล่านั้นจะมีอำนาจในการอัญเชิญเทพหรือปีศาจมาสถิตย์ในร่างเพื่อขอยืมพลัง  โดยอาศัยอัญมณีคอยเป็นสื่อกลางในการเพิ่มพูนพลังสมาธิ



        เหล่าศาสตราจารย์ทั้งหลายในโรงเรียนต่างก็เป็นผู้ที่เคยร่วมรบในสงครามศักดิ์สิทธิ์มาแล้วแทบทั้งสิ้น  พวกเขาได้ใช้พลังเวทย์แห่งกาลเวลาชะลอความเสื่อมโทรมของกายมนุษย์เพื่อที่จะคอยร่ายมนต์ผนึกวิญญาณของจอมปีศาจเอาไว้



        แต่เมื่อกาลเวลาพ้นผ่าน พลังเวทย์ของพวกเขาเริ่มอ่อนแรง เป็นหนทางให้ความชั่วร้ายหวนคืนกลับมาได้อีกครั้ง  เหล่าเด็กหนุ่มสาวผู้ซึ่งสืบสายเลือดของผู้กล้าทั้งสี่จึงต้องร่วมมือกัน  เพื่อสะกดความชั่วร้ายมิให้มันทำลายสันติสุขของมวลมนุษย์……!!



            หากแต่ไม่มีใครล่วงรู้เลยว่าภาระหน้าที่ ที่พวกเขาแบกรับนั้นช่างลำบากยากแค้นแสนสาหัส - - - !!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×