คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Those Bygone Years...จากวันนั้น ถึงวันนี้ (100%) -END-
Those Bygone Years。。。那些年
ตอนที่ 7
2013 Seoul, Korea
ทันทีที่พนักงานเดินจากไปพร้อมกับออร์เดอร์ของพวกเค้า ร่างสูงก็รีบหยิบน้ำขึ้นมาจิบ มือหนานั้นเคาะลงไปกับโต๊ะรัว และเท้าก็กระดิกเป็นจังหวะเดียวกัน จือเทายื่นหน้าออกไปมองเคาท์เตอร์ที่มีพนักงานยืนอยู่ก่อนที่จะหันกลับมาที่ร่างบางตรงข้ามอย่างเดิม แต่สายตานั้นกลับหลบลงต่ำไม่ยอมมองหน้าอีกคน
“เป็นอะไร” แบคฮยอนเอ่ยถามออกมาหลังจากที่สังเกตเห็นอาการผิดปกติของร่างสูง
จือเทาที่นั่งก้มหน้าอยู่สะดุ้งเงยหน้าขึ้นมามองร่างบางทันทีที่อีกคนเปล่งเสียงออกมา
“หื้อ มีอะไร” ร่างเอ่ยถามกลับพร้อมกับยกน้ำขึ้นมาจิบอีกครั้ง
“นายนั่นแหละ ตื่นเต้นอะไร” แบคฮยอนเอ่ยพรางยื่นมือไปกุมมือหนานั้นไว้ให้หยุดเคาะกับโต๊ะ จือเทาหยุดการกระทำของตัวเองก่อนจะหันขึ้นมามองเข้าไปที่ตาของร่างบางนั้นแล้วก็รีบหลบสายตาทันที
“ตื่นเต้นอะไร เปล่าสักหน่อย ก็ปกติดี” ร่างสูงตอบไปเสียงนิ่งก่อนจะใช้มือข้างที่ยังอิสละอยู่ไปจับแก้วน้ำแก้วเดิมแต่ก่อนแก้วนนั้นจะถูกยกขึ้นมามือบางก็ยื่นมากุมมือของร่างสูงไว้เพื่อหยุดการกระทำของร่างสูงไว้อีกครั้ง
“ไม่ตื่นเต้นแล้วจิบน้ำทำไมบ่อยๆ”
“ตอแห้ง”
“ฮวังจือเทา” ร่างบางเอ่ยเสียงนิ่งพร้อมกับหรี่ตามองอีกคน
“เข้าห้องน้ำแปป เดี่ยวมา” ร่างสูงพูดรัวก่อนจะรีบลุกขึ้นแล้วเดินไปทันที ทิ้งให้แบคฮยอนมองตามตาค้าง
“เป็นอะไรของเค้า”
“เรียบร้อยยัง” ร่างสูงเอ่ยถามขึ้นทันทีที่เดินเข้ามาในห้องครัวของร้าน คยองซูที่กำลังจัดเตรียมเค้กใส่จานอยู่จึงรีบหันขึ้นมามองร่างสูงที่ยังอยู่บริเวณประตู
“หยุดอยู่ตรงนั้น ใครปล่อยให้นายเข้ามา” คยองซูเหลือกตาโตแล้วชี้นิ้วสั่งอีกคน
“จงอินบอกว่าเข้ามาได้” จือเทาตอบพร้อมกับชี้นิ้วออกไปทางเคาท์เตอร์ที่มีบุคคลที่พึ่งเอ่ยถึง
“คิมจงอิน” คยองซูเอ่ยชื่ออีกคนเสียงเบา ก่อนจะหันกลับไปสนใจเค้กตรงหน้าต่อ
“ใกล้เสร็จยัง” จือเทาถามขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนพยายามจะยื่นหน้าไปดูเค้กที่อีกคนกำลังจัดอยู่บนจาน
“อย่าเร่งได้ไหม” ร่างบางเอ่ยออกมาทั้งที่มือยังยุ่งอยู่กับการแต่งหน้าเค้ก
“ก็แค่วางๆมันลงไปก็เสร็จแล้ว”
“แล้วทำไมไม่มาทำเองหละ”
“ก็นายเป็นคนทำเค้ก”
ร่างบางหันขวับมามองอีกคนแล้วถลึงตาใส่ เมื่อเห็นอย่างนั้นจือเทาจึงยกมือทั้งสองข้างขึ้นอย่างยอมแพ้แล้วก้าวถอยหลังเดินออกไปจากบริเวณนั้นทันที
เมื่อจือเทาเดินกลับมาถึงโต๊ะร่างบางที่ก้มหน้าเล่นโทรศัพท์อยู่ในตอนแรกก็หันขึ้นมา ก่อนที่จะจ้องหน้าอีกคนที่เพิ่งเดินมา แล้วก็ก้มลงไปสนใจโทรศัพท์ต่อ
“ทำอะไร” ร่างสูงเอ่ยถามทันทีที่นั่งลง
“คุยกับชานยอล” แบคฮยอนตอบกลับทั้งที่สายตายังจ้องอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์
“คุยอะไรกัน” เสียงทุ่มเอ่ยถามอีกครั้ง
“เรื่อยเปื่อย” แบคฮยอนตอบกลับก่อนที่จะยิ้มออกมาที่มุมปากเล็กน้อย เรียกให้จือเทายิ่งสงสัยไปใหญ่
ร่างสูงไม่ได้ถามอะไรตอบ ได้แต่พยายามชะโงกหน้าไปเพื่อที่จะแอบดูหน้าจอของอีกคน แต่เมื่ออีกคนรู้สึกได้ว่าร่างสูงนั้นกำลังแอบมองหน้าจอของเค้าแบคฮยอนก็รีบกดปุ่มปิดหน้าจอทันทีก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองร่างสูงที่ยังยื่นหน้าค้างอยู่กลางโต๊ะ
“อะไร” ร่างบางเอ่ยถามเสียงนิ่ง
“อะไร ดุแค่นี้ไม่ได้” จือเทาตอบกลับก่อนจะนั่งกลับลงไปดีๆอย่างเดิมแล้วก็หยิบน้ำที่วางอยู่ขึ้นมาจิบ
แบคฮยอนไม่ได้ตอบกลับอะไร เพียงแค่ยิ้มให้อีกคนเท่านั้น
...........................................
“อาหารที่สั่งได้แล้วครับ” จงอินเอ่ยขึ้นเบาๆก่อนที่จะวางถาดที่ถือมาลงบนโต๊ะแล้วจัดการวางแก้วน้ำไว้บริเวณฝั่งซ้ายของทั้งคู่และวางเค้กไว้ตรงกลางโต๊ะ เมื่อเสร็จเรียบร้องจงอินก็หันไปยิ้มให้แบคฮยอนก่อนที่จะหันไปทางจือเทาแล้วขยิบตาให้หนึ่งที จือเทาจะรีบยกขาขึ้นมถีบไปที่ก้นของพนักงานตัวแสบทำให้จงอินต้องเดินหัวเราะกลับไปที่เคาท์เตอร์เหมือนเดิม
“หือ...วันนี้คยองซูแต่งหน้าเค้กแปลกๆ” ร่างบางเอ่ยเสียงเบาก่อนจะยกส้อมขึ้นมาเตรียมจะจิ้มลงไปที่เค้กตรงหน้า แต่ก็มีเสียงของอีกคนดังขึ้นห้ามไว้ก่อน
“เดี่ยวๆ อย่าเพิ่งกิน” ร่างสูงรีบพุดขึ้นมาเสียงดังพร้อมกับยื่นเอามือไปจับมืออีกคนที่กำลังจะจิ้มลงไปที่หน้าเค้ก
แบคฮยอนไม่ได้พูดหรือถามอะไรตอบกลับเพียงแต่เหงยหน้าขึ้นไปมองเจ้าของมือหน้าชุ่มเหงื่อที่กำลังกุมมือเค้าไว้อยู่ จือเทาถอนหายใจเสียงดังหนังครั้งก่อนจะหลับตาลงไปแล้วบ่นอะไรสักอย่างกับตัวเองเป็นภาษาจีนที่แบคฮยอนเองก็ไม่เข้าใจ
“ไบ๋เฉียน...” จือเทาเริ่มเอ่ยขึ้นเสียงเบาก่อนที่จะโดนอีกคนพูดตัด
“โบ๋ว์เฉียน...ไม่ใช่ไบ๋ฉียน” ร่างบางบอกก่อนที่จะทำหน้าดุใส่อีกคน
“ก็วันแรกนานแนะนำตัวเองว่าไบ๋เฉียน” จือเทาถียงกลับ
“จำผิดเข้าใจไหม จำผิด”
“อาๆ ก็ได้ๆ โบ๋ว์เฉียนก็โบว์เฉียน อย่าเพิ่งขัดได้ไหมอารมณ์กำลังมา” จือเทาเอ่ยอย่างยอมแพ้ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าอีกเฮือก
“มีอะไร ว่ามา” ร่างบางเอ่ยก่อนจะเอนตัวไปข้างหน้าแล้วใช้คางวางอยู่บนแขนทั้งสองข้างที่ตั้งชันขึ้นมา สายตาจ้องมองร่างสูงตรงหน้าล้อเลียนเพราะเค้ารู้ว่าตอนนี้คนตรงหน้านั้นกำลังตื่นเต้นมากแค่ไหน
“เรา..สองคน...ก็รู้จักกันมานานแล้วนะ” ร่างสูงเริ่มพูดออกมาก่อนจะกลืนน้ำลายอึกใหญ่ แบคฮยอนที่นั่งฟังอยู่และนั่งจ้องหน้าอีกคนไปด้วยได้แต่พยักหน้าเล็กน้อยไม่ได้ตอบกลับอะไร
“ถึงแม้บางครั้งนายจะน่ารำคานไปบ้าง แต่เราก็เข้ากันได้ดี” ประโยคที่เอ่ยตามมาทำให้แบคฮยอนถึงกลับต้องขมวดคิ้วเข้าหากันแล้แกล้งยกมือขึ้นเหมือนจะต่อยอีกคนแต่เมื่อได้ยินประโยคต่อมา มือนั้นก็หยุดค้างอยู่กลางอากาศทันที “เป็นแฟนกันนะ”
น้ำเสียงหนักแน่นพร้อมกับสายตาที่มั่นคงจ้องลึกเข้าไปที่ดวกตาคู่ตรงข้ามในขณะที่พูดออกมา แต่อีกคนกลับไม่มีปฏิกิริยาใดๆ
“ห๊ะ...หา...อะไรนะ” แบคฮยอนหยุดค้างก่อนจะเอ่ยถามอย่างตะกุกตะกัก
“เรา...เป็นแฟนกัน...นะ” แต่ละคำถูกเอ่ยออกมาอย่างเชื่องช้า คนตรงหน้าตอนนี้ที่เริ่มฉีกยิ้มก่อนที่เสียงหัวใสๆนั้นจะตามมา
“หัวเราะอะไรเล่า” น้ำเสียงฟังออกได้ชัดว่าร่างสูงนั้นกำลังงอนอีกคน
“ฮ่าๆ กว่าจะพูดออกมาได้...นึกว่าฉันต้องเป็นพูดก่อนซะอีก” ร่างบางเอ่ยออกมาก่อนจะยื่นมือไปบีบจมูกอีกคนที่ทำหน้าบูดงอนอยู่
“ตกลงยังไง เป็นไม่เป็น” ร้ำเสียงดุถูกส่งไปยังคนที่ยังนั่งขำอยู่ตรงหน้า
“ตกลงสิ ทำไมต้องดุ” เสียงตอบชัดเจนก่อนที่ร่างบางนั้นจะยกส้อมขึ้นมาตักเค้กตรงหน้ากินโดนที่ไม่ได้ฟังอีกคนที่กำลังบ่นกับตัวเอง “ก็ลองไม่ตกลงดูสิ”
“ห๊า เมื่อกี้พูดอะไร?”แบคฮยอนถามกลับไปเพราะได้ยินอีกคนไม่ถนัดแต่ร่างสูงกลับส่ายหน้าแล้วยื่นมือไปหมุนจานเค้กตรงหน้าทำให้แบคฮยอนเห็นข้อความที่เจ้าหมีน้อยบนเค้กนั้นกำลังถืออยู่ “我爱你” ซึ่งก็เรียกร้อยยิ้มได้จากทั้งคู่
…………………..
……….
……
….
..
.
หลังจากเหตุการณ์ทีเกิดขึ้นเมื่อช่วงกลางวัน จือเทากับแบคฮยอนก็ยังทำตัวเหมือนเดิมปกติไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
ทั้งคู่เดินกลับมาที่หอพักพร้อมกัน
เมื่อเข้ามาถึงในหอพักจือเทาเลือกดีวีดีหนังมาเปิดหนึ่งเรื่องในขณะแบคฮยอนจัดการอบป๊อปครอนในห้องครัว ร่างสูงนอนเหยียดตัวบนโซฟาตัวเล็กหน้าทีวีเพื่อรออีกคน ไม่กี่นาทีผ่านไปร่างบางนั้นก็เดินกลับมาในห้องนั่งเล่นพร้อมป๊อปครอนโถใหญ่ในมือ
พอเห็นอีกคนเดินมาหยุดหน้าโซฟา จือเทาก็พลิกตัวนอนตะแคง เว้นที่ว่างให้อีกคนสามรถนั่งได้
แบคฮยอนเลือกที่จะนั่งอยู่ตรงบริเวณกลางโซฟา แผ่นหลังบางแนบชิดกับหน้าท้องแกร่งของรางสูงที่นอนตะแคงหันหน้าไปทางทีวีที่กำลังฉายหนัง
ทุกอย่างดำเดินไปตามปกติ ทั้งคู่ดูหนังไปพูดคุยกันไป แขนยาวเอือมมาหยิบป๊อบครอนในโถเข้าปากบ้างเป็นครั้งคราว หนังเล่นไปได้ครึ่งเรื่อง ร่างบางที่นั่งถือป๊อปครอนอยู่บนตักก็วางโถนั้นบนโต๊ะกาแฟข้างหน้า ก่อนที่จะค่อยๆเอนตัวลงนอนซ้อนกับร่างสูงบนโซฟาอย่างที่เคยทำ แผ่นหลังแนบแน่นกับหน้าอกอีกคน แขนแกร่งถูกยกมาพาดไว้บนเอวบางก่อนที่แบคฮยอนจะขยับตัวเองเข้าไปในอ้อมกอดนั้น
หลังจากทีวีขึ้นจอสีดำมืด แบคฮยอนค่อยๆลุกขึ้นนั่งก่อนทีจะเอ่ยของตัวไปอาบน้ำแล้วเดินหายเข้าไปในห้องนอนของเค้าเอง
จือเทานอนเล่นอยู่บนโซฟาเช่นเดิมจนกระทั้งได้ยินเสียงอีกคนปิดน้ำจึงลุกขึ้นเดินเข้าไปในห้องนอนของตัวเองบ้าง ก่อนทีจะเดินออกมาพร้อมกับผ้าขนหนูหนึงผืนพาดอยู่บนไหล่ก่อนที่จะเดินหายเข้าไปในห้องนอนของร่างบางที่อยู่ข้างๆกัน
แบคฮยอนที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จเดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับผ้าขนหนูแค่ตัวเดียวที่พันอยู่รอบเอวบาง ร่างบางหยุดชะงั้นเมือเห็นอีกคนนั่งจ้องเค้าจากบนเตียง แต่แบคฮยอนเลือกที่จะหลบสายตานั้นแล้วเดินตรงไปหยุดที่หน้าตู้เสื้อผ้าของตัวเองก่อนจะเปิดออกเลือกชุดนอน มือเรียวเอ้อมไปหยิบเสื้อยอนแขนยาวสีฟ้ามาใส่เพราะอากาศตอนกลางคืนช่วงนี้ค่อนข้างหนาว
ในขณะที่ร่างบางนั้นกำลังติดกระตุมเสื้อของตัวเอง “เสื้อมีกระดุม ถอดยาก” เสียงทุ้มจากคนบนเตียงก็ลอยขึ้นมาทำให้ แบคฮยอนหัวควับมามองเจ้าของต้นเสียงนั้นทันทีก่อนที่หน้าของเค้าจะเริ่มมีสีแดงขึ้น
“ทะลึ่ง” ร่างบางเอ่ยกลับในลำคอ มือบางเร่งติดกระดุมเสื้อแล้วหยิบกางเกงขายาวอีกตัวมาใส่ทันที โดยไม่สนใจอีกคนที่ได้เดินหายเข้าไปในห้องน้ำของเค้าแล้ว
ไม่ถึงสิบนาทีร่างสูงนั้นเดินออกมาพร้อมกับผ้าขนหนูผืนเดียวที่พันอยู่รอบเอว ก่อนจะเดินไปนั่งอยู่บนเตียงของแบคฮยอนเช่นเดิม จนเจ้าของเตียงที่นั่งทำการบ้างอยู่อีกมุมห้องต้องหันไปมอง
“ทำไมไม่รีบไปแต่งตัว” ร่างบางเอ่ยถามก่อนจะจ้องอีกคนที่ยังนั่งเฉยอยู่บนเตียงของเค้ากับผ้าขนหนูผืนเดียวที่พันต่ำอยู่บนเอว
“เดี่ยวก็ถอด” ร่างสูงตอบสั้นกอนจะทิ้งตัวลงนอนกับเตียง เรียกให้แบคฮยอนต้องถลึงตาและอ้าปากค้างก่อนที่จะกลืนน้ำลายอึกใหญ่
“เฮ้ย!! อย่างเพิ่งนอนนะ ไปแต่งตัวก่อน” ร่างบางตะโกนขึ้นมาพร้อมกับปายางลบก้อนเล็กใส่คนบนเตียง
“ใส่ทำไม มานอนได้แล้ว” เสียงทุ้มตอบกลับพร้อมกับออกคำสั่งตบท้าย
เมื่อเห็นท่าจะไม่ได้การแบคฮยอนจึงรีบลุกขึ้นแล้วเดินหายออกไปจากห้องนอนของตัวเองจากนั้นก็เดินกลับเข้ามาพร้อมกับชุดนอนอีกคนในมือ
“ใส่เสื้อผ้าก่อน” มือบางยื่นเสื้อผ้าในมือให้คนที่นอนอยู่บนเตียง แต่ไม่มีท่าทีว่าร่างสูงนั้นจะทำตามอย่างที่เค้าบอกแต่อย่างใด มิหนำซ้ำยังทำเป็นหลับตานิ่งและพลิกตัวหันหลังให้เค้า
“จือเทา ลุกขึ้นมาใส่เสื้อผ้า แล้วก็กลับไปนอนห้องตัวเอง” ร่่างบางออกคำสั่งอย่างเฉีบยขาดจนคนที่แกล้งหลับอยู่ต้องลุกขึ้นนั่งเพราะรู้ว่าอีกคนนั้นกำลังเอาจริง
“โห่~ อ่าๆ ใส่ก็ใส่” จือเทายอมทำตามอย่างยอมแพ้ เพราะเค้ารู้ดีว่าถ้าคนตรงหน้านี่โมโหมันน่ากลัวแค่ไหน
มือหนาเอื้อมไปหยิบเสื้อผ้าจากมือของร่างบางตรงหน้า ก่อนที่จะสวมมันใส่อย่างรวดเร็วแล้วทิ้งตัวนอนลงบนเตียงอีกครั้ง แต่ไม่ทันไรเจ้าของเตียงนั้นก็เอ่ยเสียงท้วงเค้าทันที
“กลับไปนอนห้องตัวเองเลย” ไม่ใช่แค่เอ่ยเฉยๆ มือบางทั้งสองข้างยังยื่นไปจับแขนแกรงของอีกคนก่อนที่จะพยายามดึงร่างที่ใหญ่กว่านั้นขึ้นมาจากเตียงของตัวเอง
“ทำไมอะ เมื่อก่อนก็ยังนอนได้เลย” ร่างสูงเอ่ยขัดขึ้นมาแต่ก็ยังยอมลุกขึ้นนั่งตามแรงดึงของอีกคน
“ก็เมื่อก่อน...มันไม่เหมือนตอนนี้” ร่่างบางบ่นอู้อี้กับตัวเองก่อนที่จะออกแรกดึงอีกคนให้ลุกขึ้นจากเตียง
“ก็นั้นไง ตอนนี้ยิ่งเป็นมากกว่าเมื่อก่อน แล้วทำไมจะนอนไม่ได้” ร่างสูงเอ่ยถามตามที่ตัวเองสงสัย
“ก็...ก็มันยังไมพร้อม” เสียงที่เปร่งออกมาฟังไม่ค่่อยได้ศัพท์เพราะหน้าที่แดงก่ำนั้นกดลงต่ำเพื่อปกปิดความอาการอายของตัวเอง
จือเทามองดูคนตรงหน้าก่อนจะยิ้มออกมา มือหนาเอื้อมไปขยี้ผมแบคฮยอนอย่างเอ็นดู
“อ่าๆ นอนเฉยๆไม่ทำอะไร”
“ไม่เอา”
“สัญญา...นอนเฉยๆไม่ทำอะไรจริงๆ"
“ไม่ได้” ร่างบางยืนยันคำเดิมจนอีกคนต้องอ่อนใจทำตามอย่างช่วยไม่ได้ เพราะตัวเค้าเองก็ไม่อยากเร่งรีบอะไรตอนนี้ มือหนาเอื้อมไปกุมไว้ที่แก้มทั้งสองข้างของอีกคน แล้วค่อยๆเชิดหน้าอีกคนขึ้นพร้อมกับฝังจูบลงไปที่หน้าผากบางอย่างอ่อนโยนแล้วกล่าวราตรีสวัสดิ์ก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องนอนของตัวเอง
แบคฮยอนนอนพลิกไปมาเพราะไม่ว่าจะพยายามข่มตายังไงก็นอนไม่หลับสักที อาจจะเป็นเพราะว่าตอนนี้เค้ารู้สึกไม่คุ้นกับการนอนคนเดียวเอาเสียแล้ว
ร่างบางตัดสินใจลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกจากห้องนอนของตัวเองไป มือบางเอื่อมไปจับไว้ที่ลูกบิดประตูห้องนอนตรงหน้าก่อนที่จะค่อยๆเปิดเข้าไป ขาเรียวก้าวเข้ามายืนในห้องนอนที่มืดสนืทก่อนจะปิดประตูตามหลังตัวเอง
ร่างบางนั้นยืนนิ่งอยู่หน้าประตูสักพัก จากนั้นเสียงหวานก็เอ่ยถามออกมาเบาๆ
“หลับหรือยัง”
ร่างสูงที่กำลังแกล้งทำเป็นหลับอมยิ้มกับตัวเองบนเตียงแล้วแกล้งเงียบต่อ
“เทา” ร่างบางเอ่ยเรียกชื่อคนบนเตียงก่อนที่ขาเรียวนั้นจะพาตัวเองมาหยุดยืนอยู่ข้างของเจ้าของชื่อนั้น
เมื่อรู้ว่าตอนนี้แบคฮยอนอยู่ข้างๆจือเทาจึงเขยิบตัวเองไปเตียงฝั่งกำแพงห้องก่อนที่จะเอื้อมมือไปดึงแขนบางนั้นให้นั่งลงบนเตียง
แบคฮยอนนั่งลงตามแรงดึงก่่อนที่จะทิ้งตัวลงนอนบนพื้นที่ว่างข้างๆร่างสูง
แขนแกรงยื้นไปโอบเอวบางก่อนจะออกแรงขยับให้อีกคนเขยิบเค้ามาชิดกับตัวเค้า คางแหลมวางซ้อนอยู่บนศรีษะของร่างบางก่อนจะเอ่ยถามออกมาเบาๆ “นอนไม่หลับหรอ?”
คนที่ถูกถามไม่ได้ตอบกลับอะไรเพียงแต่พยักหน้าไปมาอยู่กับอกของอีกคน
“ถามอะไรหน่อยสิ” ร่างบางเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ
“หื้ม"
“ทำไมนายถึงเลือกฉัน…ถึงแม้พวกเราจะสนิทกันมาก่อนก็จริง แต่ไม่ใช่ว่าฉันไม่รู้นะว่านายมีคนเข้าหาเยอะขนาดไหน” แบคฮยอนเอ่ยถามประโยคยาวออกมารวดเดียวก่อนจะนิ่งเงียบรอคำตอบจากอีกคน
“ก็เพราะความรักที่นายให้มา มันทำให้ฉันไม่สามารถรับรู้ความรู้สึกของใครได้เลยอีกเลย"
เสียงทุ้มตอบกลับก่อนแขนแกร่งนั้นจะกระชับอ้อมกอดของตัวเอง ทำให้ร่างบางในอ้อมกอดที่อบอุ่นนั้นค่อยๆคลี่ยิ้มออกมา แล้วทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบสงบอีกครั้ง
ดวงตาทั้งคู่ที่หนักอึ้งจนปิดสนิท ไม่มีใครเอ่ยคำพูดใดๆต่อ มีแต่เพียงเสียงหัวใจสองดวงที่เต้นแรงเป็นจังหวะเดียวกันภายใต้ห้องนอนที่เงียบสงบและแสงจากพระจันทร์ดวงใหญ่ส่องสว่างเหมือนความรักที่กำลังพองโตในใจของคนบนเตียงทั้งคู่
。。。。。。。。。。。。。。。 END 。。。。。。。。。。。。。。
แอร๊คคคคคคคคคคคคคคคค (เอาหน้ามุดดิน)
ในที่สุด!!!! ในที่สุดดดดดดดดด ก็จบสักที~~~~~( เป็นอะไรที่ทรหดมาก...อย่างไม่น่าจะเป็นไปได้)
เป็นยังไงบ้างคะทุกคน??!?!? อ่านจนจบเรื่องแล้ว รู้สึกยังไงกับฟิคเรื่องนี้บ้าง?? (คอมเม้นท์บอกกันด้วยนะคะ~~)
ฟิคเรื่องนี้ เป็นฟิคแนวหวานซึ้งใสๆเรื่องแรกของเจน และเป็นฟิคยาวเรื่องแรกด้วย!!! (เกือบไม่รอด ㅠ_ㅠ)
หวังว่าทุกคนจะชอบนะคะ~~~ (ตอนจบสั้นไปหน่อย แต่ไม่เป็นไร เนาะๆๆ) (ให้รอนานอีก) *ถีบ*
จบจากเรื่องนี้แล้ว เจนยังจะมีช๊อตฟิค/ฟิคยาวอีกหลายเรื่องตามมา (ตอนนี้พล๊อตล้นหัว แต่ไม่มีเวลาแต่งเลย เพิ่งเปิดเทรมง่า~~)
ติดตามฟิคเรื่องต่อๆไปได้ในโปรเจคหน้า *อะแฮ้ม!! Love Like Love Song project* และโปรเจคอื่นๆๆ
ยังไงก็ ติดต่อพูดคุยสอบถาม (ด่า) เจนได้ที่ ทวิตเตอร์ @fc_jenny นะคะ~~~~
ไว้เจอกันเร็วๆนี้ค่ะ~~~~
ป.ล. เลี่ยนไหมคะตอนจบ?!?!?!?! 555555 *มุดดินต่อ*
ความคิดเห็น