ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic EXO] Those Bygone Years。。。那些年 ( Tao x BaekHyun)

    ลำดับตอนที่ #6 : Say Goodbye, I say so long...พบเพื่อจาก

    • อัปเดตล่าสุด 17 ก.ย. 56


    Those Bygone Years。。。那些年

    ตอนที่ 6

    เม็ดเหงื่อมากมายเกาะอยู่เต็มใบหน้าคม บ้างก็ไหลลงตามขมับจนตกลงไปบนพื้น เสียงหอบที่ดังอย่างต่อเนื่องแสดงให้เห็นว่าร่างนั้นเพิ่งผ่านานการให้งานมาหนักขนาดไหน มือหนายกมือขึ้นปาดเหงื่อมากมายนั้นออก ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นอีกครั้งหลังจากที่ได้ยินเสียงครูฝึกเรียกให้ไปประจำที่แล้วเริ่มฝึกใหม่ตั้งแต่ต้น

    ขายาวก้าวไปเดินไปยังบริเวณสุดมุมของโรงยิม ก่อนที่จะสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่ ขายาวก้าวออกตัววิ่งก่อนที่ร่างนั้นจะลอยขึ้นอยู่กลางอากาศแล้วลงมาสู่พื้นอีกครั้ง ไม้กระบองยาวที่วางเตรียมไว้กลางโรงยิมถูกหยิบขึ้นมา ก่อนจะเริ่มแสดงวิชาอู่ซูที่เค้าได้ฝึกซ้อมมาตั้งแต่เด็ก มือหนาจับไม้กระบองนั้นควงไปมาอย่างไม่ขัดเขิน แต่อีกไม่กี่วินาทีต่อมาไม้กระบองนั้นกลับพลาดตกลงไปกระทบพื้นเสียงดัง

    “ฮวัง จือเทา!!” หวังเหล่าชือ ตะโกนขึ้นเสียงดังทันที่ไม้กระบองนั้นตกลงสู่พื้น ร่างสูงนั้นก้มลงไปเก็บไม้กระบองขึ้นมาก่อนที่จะตัดสินใจทำสิ่งที่เค้ากำลังทำอยู่ก่อนหน้านี้ต่อ แต่กลับมีเสียงของหวังเหล่าชือดังขึ้นห้ามเค้าไว้อีกครั้ง

    “สมาธิอยู่ที่ไหน! อีกไม่กี่อาทิตย์ก็จะแข่งใหญ่ มาถึงตอนนี้แล้วห้ามพลาดให้ฉันเห็นอีก! วันนี้พอแค่นี้!

    หลังจากที่อาจารย์ผู้ฝึกเดินออกไป ร่างสูงก็เดินตรงเข้าไปที่ห้องล๊อคเกอร์เพื่อเก็บสัมภาระเตรียมกลับบ้านตามที่อาจารย์บอกทันที

    ที่วันนี้เค้าไม่มีสติแล้วทำพลาดจนโดนต่อว่าอย่างนั้น ก็เป็นเพราะตอนนี้สติของเค้าได้หายไปอยู่ที่สนามบินแล้วเรียบร้อย

    ร่างสูงรีบหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพายบนบ่าก่อนที่จะวิ่งออกจากโรงยิมไปอย่างรวดเร็ว แม้แต่ชุดก็ไม่ได้เปลี่ยน

     

     

     

    มือบางนั่งกำพาสปอร์ตของตัวเองแน่น ในขณะที่อีกข้างก็ถือโทรศัพท์เครื่องบางไว้ในมือ นิ้วเรียวขยับกดปุ่มเพื่อเปิดดูหน้าจอไปเรื่อยๆ รอสายของใครบางคนที่บอกว่าจะโทรมาหาเค้าก่อนที่เครื่องจะออก ในอีก10นาทีนี้

    “แบคฮยอน ไปได้แล้วลูก เค้าเริ่มต่อแถวกันแล้ว”

    “เดี่ยวก่อนครับแม่ ขอผมโทรหาเพื่อนก่อน” ร่างบางตอบกลับผู้เป็นแม่ไป ก่อนที่จะเดินเลี่ยงออกมาจากที่ๆนั่งอยู่ นิ้วเรียวกดหมายเลยที่คุ้นเคยลงไปในโทรศัพท์ก่อนจะกดปุ่มโทรออก แต่สิ่งที่ได้ตอบกลับมากลับเป็นแค่เสียงของโอเปอร์เรเตอร์บอกเค้ามาว่าคนที่เค้าพยายามโทรหาอยู่นั้นไม่ว่ารับสายในตอนนี้

    “ไม่โทรมา แล้วยังไม่รับสายอีก” ร่างบางบ่นออกมาเบาๆก่อนที่จะกดวางสายไป แล้วหันไปมองแม่ของเค้าที่ยืนต่อแถวอยู่กับลู่ฮานและอี้ชิงที่ช่วยลากกระเป๋าของเค้าอยู่ข้างๆแม่ของเค้า

    เมื่อเห็นว่าถึงเวลาบอร์ดดิ้งแล้วร่างบางจึงหันหลังกลับเพื่อเดินไปหาแม่ของเค้า แต่เดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็มีมือของใครบางคนมาจับที่ไหล่ของเค้าไว้

    ร่างบางหันกลับไปเพื่อที่จะดูบุคคลที่กำลังบีบไหล่เค้าแน่นในตอนนี้แล้วก็เจอกับร่างสูงที่ยืนก้มหอบที่ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมา ก่อนที่มือหนาค่อยๆคลายออกจากไหล่ของเค้า

    “นึกว่าจะไม่ทัน” เสียงทุ่มเอ่ยออกมา พร้อมกับรอยยิ้มที่ผุดขึ้นมาตรงมุมปาก

    “ไหนบอกว่าจะไม่มาไง โทรไปก็ไม่รับ แล้วจะมาทำไมไม่เปลี่ยนชุด” ร่างบางบ่นเมื่อเห็นว่าอีกคนเป็นใครและกำลังอยู่ในชุดอะไร

    “ก็คนมันรีบ โทรศัพท์อยู่ในกระเป๋า มาแล้วยังจะบ่น” ร่างสูงที่ยังหอบอยู่ตอบกลับทันควัน ก่อนจะทำหน้าแสดงอาการน้อยใจ

    “วิ่งมาทั้งชุดอย่างนี้ไม่อายเค้าหรอ ฮวังจือเทา ฮ่าๆ” ลู่ฮานที่พึ่งเดินมาเอ่ยขึ้นเสียงดัง พร้อมหัวเราะเยาะน้องชายตัวเองก่อนที่จะเดินกลับไปหาอี้ชิงที่กำลังเดินถือกาแฟมาสองแก้ว

    “ก็คนมันรีบ ทำไงได้”

    “หน้าไปโดนอะไรมา” มือบางยื่นไปจับบริเวณใต้โหนกแก้มของร่างสูง ก่อนที่จะใช้นิ้วโป้งเกลี่ยไปบริเวณที่เป็นรอยช้ำสีเขียวนั้นเบาๆ

    “เมื่อเช้ากระบองพลาดมาโดนหน้านิดหน่อย โอ๊ย! อย่ากดสิ” จือเทาร้องเสียงสูงเมื่ออีกคนตั้งใจกดลงไปบนแผลของเค้า

    “เล่นมากี่ปีแล้ว ยังให้พลาดจนเจ็บตัวขนาดนี้ ทีหลังก็หัดระวังบ้างสิ แล้วทำไมไม่หาน้ำแข็งประคบ” เสียงหวานบ่นไม่หยุดและมือนั้นก็ยังลูบอยู่บนแก้มของอีกคนอยู่เช่นกัน

    “รอนายเอามาประคบให้” ร่างสูงเอ่ยขึ้นเสียงเบาพร้อมกับมือที่ยกขึ้นเอามาทาบทับไว้บนมือบางที่อยู่บนแก้มของเค้า

    “ได้ยังไง ฉันจะไปแล้วนะ” น้ำเสียงเริ่มสั่น สายตานั้นมองจ้องขึ้นไปที่สายตาอีกคู่ที่กำลังจ้องเค้ากลับเช่นกัน

    “ไม่ไปไม่ได้หรอ” เสียงทุ่มเอ่ยขึ้นมาเพื่อทำลายความเงียบระหว่างคนทั้งคู่

    “จือเทา”

    “ถ้าอยู่เกาหลีมีคนมาแกล้งแล้วใครจะช่วยนาย”

    “ฉันจะเข้ามหาลัยนะ ไม่ใช่อนุบาล”

    “นั่นสินะ”

    “สัญญาว่าถ้ามีใครมาแกล้งฉัน ฉันจะโทรบอกให้นายมาจัดการทันที”

    “จริงๆนะ”

    “โป๋วเฉียน แม่นายเรียกแล้ว” อี้ชิงที่เพิ่งเดินมาถึงเอ่ยบอกร่างบาง

    “ดูแลตัวเองด้วยนะ” ร่างสูงดึงอีกคนเข้ามากอดแน่นก่อนสั่งลาคนในอ้อมกอด

    แบคฮยอนได้แต่พยักหน้าตอบอีกคน แม้ว่าร่าสูงนั้นจะมองไม่เห็นเพราะกำลังกอดเค้าอยู่ก็ตาม

    “นายเองก็ดูแลตัวเองด้วย” ร่างบางเอ่ยเสียงเบาก่อนจะกอดตอบอีกคนแน่นแล้วก็ผละออกในนาทีต่อมา มือเรียวยกขึ้นไปทาบบนแก้มทั้งสองข้างของร่างสูง ก่อนที่นิ้วโป้งนั้นจะลูบไปบริเวณที่ช้ำเขียว

    “อย่าลืมเอาน้ำแข็งประคบ แล้วทายาด้วยนะ”

    ร่างสูงจ้องเข้าไปในดวงตาคู่นั้นนิ่งโดยที่ไม่พูดอะไร ก่อนที่ตาคมนั้นจะค่อยๆหลับลงเพื่อรับสัมผัสจากอีกคนเป็นครั้งสุดท้ายแล้วตาคมนั้นก็ลืมขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับรอยยิ้มที่ผลุดขึ้นที่มุมปาก

    “ไปได้แล้ว” เสียงทุ่มเอ่ยขึ้นก่อนจะจับไหล่ทั้งสองข้างของอีกคนให้หันไปอีกทาง แล้วใช้มือผลักไปที่หลังให้อีกคนเดินไป

    แบคฮยอนเลือกที่จะเดินต่อไปโดยที่ไม่หันหลังกลับไปอีกคน แต่เมื่อเห็นว่าตัวเองนั้นเดินมาไกลพอที่ร่างสูงนั้นจะไม่สามารถมองเห็นน้ำตาที่คออยู่ ร่างบางจึงหันกลับไปอีกครั้งแล้วยิ้มออมามาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะเดินหายไป

     

    “น้ำแข็งครับคุณชาย” อี้ชิงที่ยืนอยู่ข้างหลังเอ่ยขึ้นพร้อมกับเอาถุงน้ำแข็งยื่นไปทาบไว้ที่แก้มของอีกคน ทำให้ร่างสูงนั้นสะดุ้งเล็กน้อย

    “ไปเอามาจากไหนเนี่ย”

    “ขอร้านกาแฟตรงนั้นมา”

    “พี่ลู่ฮานหละ”

    “เมื่อกี้เห็นเดินไปเข้าห้องน้ำ”

    “อืม” จือเทาพยักหน้ารับรู้ก่อนที่จะเอาน้ำแข็งประคบแก้มของตัวเองต่อไป

    .....................................................................

    ...................................

    ...........

    2011, Korea

    ร่างบางกำลังเดินวนรอบห้องนั่งเล่นเพื่อเก็บข้าวของที่วางกระจัดกระจายอยู่

    “ปาร์ค ชานยอล ไม่คิดจะช่วยกันเลยเหรอ” เสียงหวานเอ่ยถามอีกคนที่นอนขายื่นออกมาจากโซฟาตัวเล็กกลางห้อง

    “ตอนนี้ฉันย้ายออกไปแล้วจำไม่ได้เหรอ” บุคคลที่นอนเล่นโทรศัพท์อยู่เอ่ยออกมาเสียงเข้มก่อนจะยกขาข้างหนึ่งขึ้นเพื่อให้แบคฮยอนหยิบเสื้อที่พาดอยู่ตรงนั้นไป

    “ถ้าไม่คิดจะช่วยแล้วนานจะมานอนขวางทำไม”

    “วันนี้พี่คริสมีธุระที่ชมรม และอีกอย่าง ฉันอยากจะเห็นหน้ารูมเมทคนใหม่ของนายด้วย”

    “นี่มันเสื้อนายหนิ”  ร่างบางหยิบเสื้อตัวใหญ่ขึ้นมาก่อนจะโยนใส่หน้าอีกคน

    “ตัวนี้ของพี่คริส”

    “งั้นก็เอากลับไปคืนด้วย ยังไงก็อยู่ด้วยกันอยู่แล้วหนิ”

    “เหงาหละสิ ไม่มีฉันอยู่ด้วยทั้งคน”

    “คงจะไม่แล้วแหละ เพราะวันนี้จะมีรูมเมทคนใหม่มา ว่าแต่ ตอนนี้น่าจะมาถึงแล้วนะทำไมยังไม่ม..” ยังไม่ทันที่แบคฮยอนจะพูดจบเสียงออดหน้าห้องก็ดังขึ้นทันที ทำให้ร่างสูงที่กำลังนอนเล่นอยู่บนโซฟารีบเด้งตัวขึ้นแล้ววิ่งไปที่ประตูห้องทันที ก่อนที่แขนยาวนั้นจะยื่นไปเปิดประตูออก

    ..........50%...........

    ร่างสูงเดินมาหยุดนิ่งอยู่ที่หน้าประตูห้องหมายเลข 526 ของตึก มือหนานั้นยกขึ้นเพื่อจะกดออดหน้าประตู แต่ยังไม่ทันไรมือนั้นก็ถูกลดลงมาไว้ข้างตัวเหมือนเดิม ก่อนที่ริมฝีปากล่างจะถูกฟันขาวนั้นคบไว้เพื่อบรรเทาอาการตื่นเต้นที่เค้าเป็นอยู่ในตอนนี้

    การที่เค้ายอมที่จะเสียโอกาสการได้เข้าเรียนมหาลัยระดับต้นๆของจีนแลกกับการยื่นเรื่องขอย้ายมาเรียนที่มหาลัยระดับปานกลางของเกาหลีอย่างนี้ การที่เค้าตัดสินใจทิ้งบ้านเกิดของตัวเองมาเพื่อที่จะได้มาเจอกับบางคนอีกครั้ง การที่เค้าต้องทิ้งเพื่อนทั้งหมดของเค้ามา เพื่อมาหาแค่คนๆเดียว ตอนนี้จือเทายังไม่แน่ใจตัวเองเลยสิ่งที่เค้ากำลังอยู่นี้มันถูกไหม

    มือหนาถูกยกขึ้นมาอีกครั้งก่อนที่จะออกแรกกดไปที่ออดหน้าห้องนั้น และอีกไม่กี่วินาทีต่อมา ประตูนั้นก็ถูกเปิดออกแทนที่จือเทาจะเจอคนที่เค้าตั้งใจมาหาแต่กลับเจอร่างสูงอีกคนที่ยืนยิ้มอยู่หน้าประตู

    จือเทาขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วจ้องไปที่บุคคลที่ยังยืนยิ้มให้เค้าอยู่ 

    “นี่ห้องของแบคฮยอนหรือเปล่า” เสียงทุ่มเอ่ยถามก่อนที่จะพยายามมองผ่านไหล่ชานยอลเข้าไปในห้องเพื่อมองหาใครอีกคน

    ยังไม่ทันที่ชานยอลจะได้ตอบอะไรก็มีร่างบางอีกคนเดินออกมาจากด้านหลังของเค้า แต่หน้านั้นกลับก้มต่ำมองพื้นตลอดเวลา แต่เพียงแค่นั้นแขนยาวของจือเทาก็ยื่นออกไปอีกคนทันทีก่อนจะออกแรงดึงร่างบางนั้นเข้ามากอด ร่างบางที่ถูกดึงเข้าไปกอดเบิกตากว้างก่อนจะเรียกสติของตัวเองกลับมาแล้วกอดอีกคนกลับ

    ชานยอลที่ยืมมองเหตุการณ์อยู่ได้แต่ยืนอ้าปากค้าง ก่อนจะรีบเดินออกมาจากจุดที่ยินอยู่แล้วปิดประตูห้องทันที

     

     

    เวลาผ่านไปได้สักพักร่างสูงปล่อยแขนตัวเองที่โอบอีกคนไว้อยู่ ก่อนที่จะก้าวถอยห่างออกมาหนึ่งก้าวเพื่อที่จะได้มองหน้าร่างบางนั้นชัด

    แบคฮยอนได้แต่ยืนมองหน้าอีกคนอยู่อย่างนั้นเพราะตอนนี้ยังตกใจไม่หายที่จู่ๆร่างสูงนี้ก็มายืนอยู่ตรงหน้าห้องเค้าหลังจากที่ทั้งคู่ไม่ได้ติดต่อกันมาเป็นเดือน เหตุเพราะร่างสูงนั้นยุ่งทำธุระส่วนตัวอยู่ แต่แบคฮยอนก็ไม่เคยถามว่าธุระเรื่องอะไร

    “พูดอะไรหน่อยสิ” เสียงทุ่มเอ่ยออกมาเมื่อเห็นว่าอีกคนเอาแต่ยืนตาโตจ้องหน้าเค้าอยู่

    “มา..มาได้ไง” แบคฮยอนเอ่ยออกไปแบบตะกุกตะกะแต่สายนั้นก็ยังไม่ละไปจากอีกคน

    “นั่งเครื่องบินมาสิ ถามแปลก”ร่างสูงตอบกลับก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อร่างบางนั้นทำหน้าไม่พอใจกับคำตอบที่ได้

    “หิวน้ำ” ร่างสูงเอ่ยออกมาลอยๆก่อนที่จะพาตัวเองเดินผ่านอีกคนไปทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟากลางห้อง

    แบคฮยอนได้แต่ยืนมองตามอีกคนไปก่อนจะส่ายหน้ากับตัวเองแล้วเดินตรงเข้าไปที่ตู้เย็นเพื่อเอาน้ำมาแล้วตั้งมันลงบนโต๊ะกาแฟตรงหน้าโซฟา

    ทันทีที่แบคฮยอนตั้งนำน้ำมาให้ร่างสูงก็เงยหน้าขึ้นไปยิ้มให้อีกคนที่อยู่ตรงหน้าเค้าตอนนี้ทันทีแล้วยิ้มให้ก่อนที่จะยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่มอย่างสบายใจ ผิดกับอีกคนที่เอาแต่ยืนขมวดคิ้ว

    “เพื่อนมาหาทำไมต้องทำหน้าเครียดขนาดนั้น” ทันทีที่ดื่มน้ำหมดแก้วเสียงทุ่มนั้นก็เอ่ยถามอีกคนทันที

    “ยังจะมีหน้ามาถาม จะมาทำไมไม่บอกกันบ้าง”

    “เซอร์ไพรส์” ร่างสูงพูดขึ้นมาเสียงดังก่อนจะฉีกยิ้มกว้าง เรียกให้แบคฮยอนรีบยื่นนิ้วชี้ออกไปเพื่อจิ้มไปกลางหน้าผากร่างสูงแล้วออกแรงผลักให้อีกคนทิ้งตัวลงกับโซฟา ก่อนที่จือเทาจะจับมือเรียวนั้นไว้แล้วยื่นขึ้น พาแบคฮยอนเดินตรงไปทางประตูห้อง

    “ไปไหน” แบคฮยอนเอ่ยถามออกมาเมื่อจู่ๆอีกคนก็ลากเค้ามาที่ประตูห้องก่อนที่จะปิดประตูออกไป

    “เอากระเป๋าไง” จือเทาตอบกลับก่อนที่จะเปิดประตูออก แต่ยังไม่ทันได้เปิดประตูออกดีก็มีแรงดันจากร่างสูงอีกคนที่ยืนเอาหูแนบกับประตูอยู่ในตอนแรก

    จือเทายืนมองชานยอลที่ตอนนี้ล้มลงไปกองกับพื้นหลังจากที่ร่างสูงเปิดประตูออก ข้างหลังชานยอลนั้นปรากฏให้เห็นชายหนุ่มร่างสูงอีกคนที่ยืนหัวเรากับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น

    “ฮ่าๆ บอกแล้วว่าอย่าไปยุ่งกับเค้า” คริสเอ่ยขึ้นในขณะที่ยังหัวเราอยู่ก่อนจะเดินมายื่นมือดึงชานยอลให้ลุก

    ชานยอลได้แต่กรอกตาแล้วก็ยื่นไปให้อีกคนดึงเค้าขึ้น

    “คริสเก้อรู้จักเค้าด้วยเหรอครับ” จือเทาเอ่ยถามเป็นภาษาจีน คริสพยักหน้าตอบ

    “พี่รู้จักเค้าด้วยเหรอ” ชานยอลเอ่ยถามคริสที่ยืนอยู่ข้างๆ คริสจึงพยักหน้าตอบอีกครั้ง

    “ชานยอลนี่ฮวังจือเทาเพื่อนแบคฮยอน น้องชายของลู่ฮานเพื่อนสนิทพี่ที่จีน” คริสเอ่ย

     “จือเทานี่ชานยอลเป็น...”

    “แฟน!!” คริสพูดยังไม่ทันจบประโยคแบคฮยอนก็รีบตะโกนแทรกขึ้นมาทันที เรียกให้ทั้งคริสและชานยอลเกิดอาการหน้าแดงขึ้นมา จือเทาจึงได้แต่หลี่ตามองทั้งคู่อยู่อย่างนั้น

    “กระเป๋าผมหละครับ” จือเทาเอ่ยถามคริสที่ยังยืนอมยิ้มหน้าแดงอยู่

    “อ่อ...อยู่นั่น” คริสตอบพรางชี้ไปทางบริเวณข้างประตูทีมีกระเป๋าเดินทางใบใหญ่วางอยู่หนึ่งใบ

    “ขอบคุณนะครับที่ช่วยขนขึ้นมาให้ พี่ลู่ฮานบอกว่าให้พี่โทรหาด้วย แล้วพี่อี้ชิงก็ฝากถามว่ารองเท้าที่พี่บอกจะซื้อให้เมื่อไหร่จะได้ แค่นี้แหละครับขอบคุณมากที่ช่วยเป็นธุระให้ พี่กลับไปเถอะ” จือเทาพูดยาวรวดเดียวก่อนจะพลักคริสให้หันไปทางลิฟ

    “ไอ้พี่น้องคู่นี้เหมือนกันจริงๆ พอหมดประโยชน์แล้วไล่กันเลยนะ”

    “ผมรักพี่ครับ ไปได้แล้ว”

    “เอ่อ มีอะไรก็โทรมาแล้วกัน”

    “เดี่ยวก่อนพี่” จือเทาเรียกคริสให้หันมาอีกรอบ

    “เอาแฟนพี่ไปด้วย”

     
     

    ..........................................................................................................................................

    TALK:

    สวัสดีคะ (ไหว้งามๆ)เจนเอาตอนใหม่มาลงแล้วววววววว (มีใครดีใจไหม)
    ต้องขอโทษหลายๆรอบเลยนะคะที่เจนมาต่อช้า เพราะตอนนี้เป็นช่วงโค้งสุดท้ายก่อนสอบปลายภาค เลยไม่ค่อยมีเวลานั่งแต่งฟิคเท่าไหร่ ขอโทษจริงๆนะคะ~~~
    ตอนต่อไปจะเป็นตอนจบของเรื่องนี้แล้ว โปรดติดตามกันด้วยนะคะ ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×