คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Say Goodbye, I say so long...พบเพื่อจาก
Those Bygone Years。。。那些年
ตอนที่ 6
เม็ดเหงื่อมากมายเกาะอยู่เต็มใบหน้าคม บ้างก็ไหลลงตามขมับจนตกลงไปบนพื้น เสียงหอบที่ดังอย่างต่อเนื่องแสดงให้เห็นว่าร่างนั้นเพิ่งผ่านานการให้งานมาหนักขนาดไหน มือหนายกมือขึ้นปาดเหงื่อมากมายนั้นออก ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นอีกครั้งหลังจากที่ได้ยินเสียงครูฝึกเรียกให้ไปประจำที่แล้วเริ่มฝึกใหม่ตั้งแต่ต้น
ขายาวก้าวไปเดินไปยังบริเวณสุดมุมของโรงยิม ก่อนที่จะสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่ ขายาวก้าวออกตัววิ่งก่อนที่ร่างนั้นจะลอยขึ้นอยู่กลางอากาศแล้วลงมาสู่พื้นอีกครั้ง ไม้กระบองยาวที่วางเตรียมไว้กลางโรงยิมถูกหยิบขึ้นมา ก่อนจะเริ่มแสดงวิชาอู่ซูที่เค้าได้ฝึกซ้อมมาตั้งแต่เด็ก มือหนาจับไม้กระบองนั้นควงไปมาอย่างไม่ขัดเขิน แต่อีกไม่กี่วินาทีต่อมาไม้กระบองนั้นกลับพลาดตกลงไปกระทบพื้นเสียงดัง
“ฮวัง จือเทา!!” หวังเหล่าชือ ตะโกนขึ้นเสียงดังทันที่ไม้กระบองนั้นตกลงสู่พื้น ร่างสูงนั้นก้มลงไปเก็บไม้กระบองขึ้นมาก่อนที่จะตัดสินใจทำสิ่งที่เค้ากำลังทำอยู่ก่อนหน้านี้ต่อ แต่กลับมีเสียงของหวังเหล่าชือดังขึ้นห้ามเค้าไว้อีกครั้ง
“สมาธิอยู่ที่ไหน! อีกไม่กี่อาทิตย์ก็จะแข่งใหญ่ มาถึงตอนนี้แล้วห้ามพลาดให้ฉันเห็นอีก! วันนี้พอแค่นี้!”
หลังจากที่อาจารย์ผู้ฝึกเดินออกไป ร่างสูงก็เดินตรงเข้าไปที่ห้องล๊อคเกอร์เพื่อเก็บสัมภาระเตรียมกลับบ้านตามที่อาจารย์บอกทันที
ที่วันนี้เค้าไม่มีสติแล้วทำพลาดจนโดนต่อว่าอย่างนั้น ก็เป็นเพราะตอนนี้สติของเค้าได้หายไปอยู่ที่สนามบินแล้วเรียบร้อย
ร่างสูงรีบหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพายบนบ่าก่อนที่จะวิ่งออกจากโรงยิมไปอย่างรวดเร็ว แม้แต่ชุดก็ไม่ได้เปลี่ยน
มือบางนั่งกำพาสปอร์ตของตัวเองแน่น ในขณะที่อีกข้างก็ถือโทรศัพท์เครื่องบางไว้ในมือ นิ้วเรียวขยับกดปุ่มเพื่อเปิดดูหน้าจอไปเรื่อยๆ รอสายของใครบางคนที่บอกว่าจะโทรมาหาเค้าก่อนที่เครื่องจะออก ในอีก10นาทีนี้
“แบคฮยอน ไปได้แล้วลูก เค้าเริ่มต่อแถวกันแล้ว”
“เดี่ยวก่อนครับแม่ ขอผมโทรหาเพื่อนก่อน” ร่างบางตอบกลับผู้เป็นแม่ไป ก่อนที่จะเดินเลี่ยงออกมาจากที่ๆนั่งอยู่ นิ้วเรียวกดหมายเลยที่คุ้นเคยลงไปในโทรศัพท์ก่อนจะกดปุ่มโทรออก แต่สิ่งที่ได้ตอบกลับมากลับเป็นแค่เสียงของโอเปอร์เรเตอร์บอกเค้ามาว่าคนที่เค้าพยายามโทรหาอยู่นั้นไม่ว่ารับสายในตอนนี้
“ไม่โทรมา แล้วยังไม่รับสายอีก” ร่างบางบ่นออกมาเบาๆก่อนที่จะกดวางสายไป แล้วหันไปมองแม่ของเค้าที่ยืนต่อแถวอยู่กับลู่ฮานและอี้ชิงที่ช่วยลากกระเป๋าของเค้าอยู่ข้างๆแม่ของเค้า
เมื่อเห็นว่าถึงเวลาบอร์ดดิ้งแล้วร่างบางจึงหันหลังกลับเพื่อเดินไปหาแม่ของเค้า แต่เดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็มีมือของใครบางคนมาจับที่ไหล่ของเค้าไว้
ร่างบางหันกลับไปเพื่อที่จะดูบุคคลที่กำลังบีบไหล่เค้าแน่นในตอนนี้แล้วก็เจอกับร่างสูงที่ยืนก้มหอบที่ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมา ก่อนที่มือหนาค่อยๆคลายออกจากไหล่ของเค้า
“นึกว่าจะไม่ทัน” เสียงทุ่มเอ่ยออกมา พร้อมกับรอยยิ้มที่ผุดขึ้นมาตรงมุมปาก
“ไหนบอกว่าจะไม่มาไง โทรไปก็ไม่รับ แล้วจะมาทำไมไม่เปลี่ยนชุด” ร่างบางบ่นเมื่อเห็นว่าอีกคนเป็นใครและกำลังอยู่ในชุดอะไร
“ก็คนมันรีบ โทรศัพท์อยู่ในกระเป๋า มาแล้วยังจะบ่น” ร่างสูงที่ยังหอบอยู่ตอบกลับทันควัน ก่อนจะทำหน้าแสดงอาการน้อยใจ
“วิ่งมาทั้งชุดอย่างนี้ไม่อายเค้าหรอ ฮวังจือเทา ฮ่าๆ” ลู่ฮานที่พึ่งเดินมาเอ่ยขึ้นเสียงดัง พร้อมหัวเราะเยาะน้องชายตัวเองก่อนที่จะเดินกลับไปหาอี้ชิงที่กำลังเดินถือกาแฟมาสองแก้ว
“ก็คนมันรีบ ทำไงได้”
“หน้าไปโดนอะไรมา” มือบางยื่นไปจับบริเวณใต้โหนกแก้มของร่างสูง ก่อนที่จะใช้นิ้วโป้งเกลี่ยไปบริเวณที่เป็นรอยช้ำสีเขียวนั้นเบาๆ
“เมื่อเช้ากระบองพลาดมาโดนหน้านิดหน่อย โอ๊ย! อย่ากดสิ” จือเทาร้องเสียงสูงเมื่ออีกคนตั้งใจกดลงไปบนแผลของเค้า
“เล่นมากี่ปีแล้ว ยังให้พลาดจนเจ็บตัวขนาดนี้ ทีหลังก็หัดระวังบ้างสิ แล้วทำไมไม่หาน้ำแข็งประคบ” เสียงหวานบ่นไม่หยุดและมือนั้นก็ยังลูบอยู่บนแก้มของอีกคนอยู่เช่นกัน
“รอนายเอามาประคบให้” ร่างสูงเอ่ยขึ้นเสียงเบาพร้อมกับมือที่ยกขึ้นเอามาทาบทับไว้บนมือบางที่อยู่บนแก้มของเค้า
“ได้ยังไง ฉันจะไปแล้วนะ” น้ำเสียงเริ่มสั่น สายตานั้นมองจ้องขึ้นไปที่สายตาอีกคู่ที่กำลังจ้องเค้ากลับเช่นกัน
“ไม่ไปไม่ได้หรอ” เสียงทุ่มเอ่ยขึ้นมาเพื่อทำลายความเงียบระหว่างคนทั้งคู่
“จือเทา”
“ถ้าอยู่เกาหลีมีคนมาแกล้งแล้วใครจะช่วยนาย”
“ฉันจะเข้ามหาลัยนะ ไม่ใช่อนุบาล”
“นั่นสินะ”
“สัญญาว่าถ้ามีใครมาแกล้งฉัน ฉันจะโทรบอกให้นายมาจัดการทันที”
“จริงๆนะ”
“โป๋วเฉียน แม่นายเรียกแล้ว” อี้ชิงที่เพิ่งเดินมาถึงเอ่ยบอกร่างบาง
“ดูแลตัวเองด้วยนะ” ร่างสูงดึงอีกคนเข้ามากอดแน่นก่อนสั่งลาคนในอ้อมกอด
แบคฮยอนได้แต่พยักหน้าตอบอีกคน แม้ว่าร่าสูงนั้นจะมองไม่เห็นเพราะกำลังกอดเค้าอยู่ก็ตาม
“นายเองก็ดูแลตัวเองด้วย” ร่างบางเอ่ยเสียงเบาก่อนจะกอดตอบอีกคนแน่นแล้วก็ผละออกในนาทีต่อมา มือเรียวยกขึ้นไปทาบบนแก้มทั้งสองข้างของร่างสูง ก่อนที่นิ้วโป้งนั้นจะลูบไปบริเวณที่ช้ำเขียว
“อย่าลืมเอาน้ำแข็งประคบ แล้วทายาด้วยนะ”
ร่างสูงจ้องเข้าไปในดวงตาคู่นั้นนิ่งโดยที่ไม่พูดอะไร ก่อนที่ตาคมนั้นจะค่อยๆหลับลงเพื่อรับสัมผัสจากอีกคนเป็นครั้งสุดท้ายแล้วตาคมนั้นก็ลืมขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับรอยยิ้มที่ผลุดขึ้นที่มุมปาก
“ไปได้แล้ว” เสียงทุ่มเอ่ยขึ้นก่อนจะจับไหล่ทั้งสองข้างของอีกคนให้หันไปอีกทาง แล้วใช้มือผลักไปที่หลังให้อีกคนเดินไป
แบคฮยอนเลือกที่จะเดินต่อไปโดยที่ไม่หันหลังกลับไปอีกคน แต่เมื่อเห็นว่าตัวเองนั้นเดินมาไกลพอที่ร่างสูงนั้นจะไม่สามารถมองเห็นน้ำตาที่คออยู่ ร่างบางจึงหันกลับไปอีกครั้งแล้วยิ้มออมามาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะเดินหายไป
“น้ำแข็งครับคุณชาย” อี้ชิงที่ยืนอยู่ข้างหลังเอ่ยขึ้นพร้อมกับเอาถุงน้ำแข็งยื่นไปทาบไว้ที่แก้มของอีกคน ทำให้ร่างสูงนั้นสะดุ้งเล็กน้อย
“ไปเอามาจากไหนเนี่ย”
“ขอร้านกาแฟตรงนั้นมา”
“พี่ลู่ฮานหละ”
“เมื่อกี้เห็นเดินไปเข้าห้องน้ำ”
“อืม” จือเทาพยักหน้ารับรู้ก่อนที่จะเอาน้ำแข็งประคบแก้มของตัวเองต่อไป
.....................................................................
...................................
...........
2011, Korea
ร่างบางกำลังเดินวนรอบห้องนั่งเล่นเพื่อเก็บข้าวของที่วางกระจัดกระจายอยู่
“ปาร์ค ชานยอล ไม่คิดจะช่วยกันเลยเหรอ” เสียงหวานเอ่ยถามอีกคนที่นอนขายื่นออกมาจากโซฟาตัวเล็กกลางห้อง
“ตอนนี้ฉันย้ายออกไปแล้วจำไม่ได้เหรอ” บุคคลที่นอนเล่นโทรศัพท์อยู่เอ่ยออกมาเสียงเข้มก่อนจะยกขาข้างหนึ่งขึ้นเพื่อให้แบคฮยอนหยิบเสื้อที่พาดอยู่ตรงนั้นไป
“ถ้าไม่คิดจะช่วยแล้วนานจะมานอนขวางทำไม”
“วันนี้พี่คริสมีธุระที่ชมรม และอีกอย่าง ฉันอยากจะเห็นหน้ารูมเมทคนใหม่ของนายด้วย”
“นี่มันเสื้อนายหนิ” ร่างบางหยิบเสื้อตัวใหญ่ขึ้นมาก่อนจะโยนใส่หน้าอีกคน
“ตัวนี้ของพี่คริส”
“งั้นก็เอากลับไปคืนด้วย ยังไงก็อยู่ด้วยกันอยู่แล้วหนิ”
“เหงาหละสิ ไม่มีฉันอยู่ด้วยทั้งคน”
“คงจะไม่แล้วแหละ เพราะวันนี้จะมีรูมเมทคนใหม่มา ว่าแต่ ตอนนี้น่าจะมาถึงแล้วนะทำไมยังไม่ม..” ยังไม่ทันที่แบคฮยอนจะพูดจบเสียงออดหน้าห้องก็ดังขึ้นทันที ทำให้ร่างสูงที่กำลังนอนเล่นอยู่บนโซฟารีบเด้งตัวขึ้นแล้ววิ่งไปที่ประตูห้องทันที ก่อนที่แขนยาวนั้นจะยื่นไปเปิดประตูออก
..........50%...........
ร่างสูงเดินมาหยุดนิ่งอยู่ที่หน้าประตูห้องหมายเลข 526 ของตึก มือหนานั้นยกขึ้นเพื่อจะกดออดหน้าประตู แต่ยังไม่ทันไรมือนั้นก็ถูกลดลงมาไว้ข้างตัวเหมือนเดิม ก่อนที่ริมฝีปากล่างจะถูกฟันขาวนั้นคบไว้เพื่อบรรเทาอาการตื่นเต้นที่เค้าเป็นอยู่ในตอนนี้
การที่เค้ายอมที่จะเสียโอกาสการได้เข้าเรียนมหาลัยระดับต้นๆของจีนแลกกับการยื่นเรื่องขอย้ายมาเรียนที่มหาลัยระดับปานกลางของเกาหลีอย่างนี้ การที่เค้าตัดสินใจทิ้งบ้านเกิดของตัวเองมาเพื่อที่จะได้มาเจอกับบางคนอีกครั้ง การที่เค้าต้องทิ้งเพื่อนทั้งหมดของเค้ามา เพื่อมาหาแค่คนๆเดียว ตอนนี้จือเทายังไม่แน่ใจตัวเองเลยสิ่งที่เค้ากำลังอยู่นี้มันถูกไหม
มือหนาถูกยกขึ้นมาอีกครั้งก่อนที่จะออกแรกกดไปที่ออดหน้าห้องนั้น และอีกไม่กี่วินาทีต่อมา ประตูนั้นก็ถูกเปิดออกแทนที่จือเทาจะเจอคนที่เค้าตั้งใจมาหาแต่กลับเจอร่างสูงอีกคนที่ยืนยิ้มอยู่หน้าประตู
จือเทาขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วจ้องไปที่บุคคลที่ยังยืนยิ้มให้เค้าอยู่
“นี่ห้องของแบคฮยอนหรือเปล่า” เสียงทุ่มเอ่ยถามก่อนที่จะพยายามมองผ่านไหล่ชานยอลเข้าไปในห้องเพื่อมองหาใครอีกคน
ยังไม่ทันที่ชานยอลจะได้ตอบอะไรก็มีร่างบางอีกคนเดินออกมาจากด้านหลังของเค้า แต่หน้านั้นกลับก้มต่ำมองพื้นตลอดเวลา แต่เพียงแค่นั้นแขนยาวของจือเทาก็ยื่นออกไปอีกคนทันทีก่อนจะออกแรงดึงร่างบางนั้นเข้ามากอด ร่างบางที่ถูกดึงเข้าไปกอดเบิกตากว้างก่อนจะเรียกสติของตัวเองกลับมาแล้วกอดอีกคนกลับ
ชานยอลที่ยืมมองเหตุการณ์อยู่ได้แต่ยืนอ้าปากค้าง ก่อนจะรีบเดินออกมาจากจุดที่ยินอยู่แล้วปิดประตูห้องทันที
เวลาผ่านไปได้สักพักร่างสูงปล่อยแขนตัวเองที่โอบอีกคนไว้อยู่ ก่อนที่จะก้าวถอยห่างออกมาหนึ่งก้าวเพื่อที่จะได้มองหน้าร่างบางนั้นชัด
แบคฮยอนได้แต่ยืนมองหน้าอีกคนอยู่อย่างนั้นเพราะตอนนี้ยังตกใจไม่หายที่จู่ๆร่างสูงนี้ก็มายืนอยู่ตรงหน้าห้องเค้าหลังจากที่ทั้งคู่ไม่ได้ติดต่อกันมาเป็นเดือน เหตุเพราะร่างสูงนั้นยุ่งทำธุระส่วนตัวอยู่ แต่แบคฮยอนก็ไม่เคยถามว่าธุระเรื่องอะไร
“พูดอะไรหน่อยสิ” เสียงทุ่มเอ่ยออกมาเมื่อเห็นว่าอีกคนเอาแต่ยืนตาโตจ้องหน้าเค้าอยู่
“มา..มาได้ไง” แบคฮยอนเอ่ยออกไปแบบตะกุกตะกะแต่สายนั้นก็ยังไม่ละไปจากอีกคน
“นั่งเครื่องบินมาสิ ถามแปลก”ร่างสูงตอบกลับก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อร่างบางนั้นทำหน้าไม่พอใจกับคำตอบที่ได้
“หิวน้ำ” ร่างสูงเอ่ยออกมาลอยๆก่อนที่จะพาตัวเองเดินผ่านอีกคนไปทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟากลางห้อง
แบคฮยอนได้แต่ยืนมองตามอีกคนไปก่อนจะส่ายหน้ากับตัวเองแล้วเดินตรงเข้าไปที่ตู้เย็นเพื่อเอาน้ำมาแล้วตั้งมันลงบนโต๊ะกาแฟตรงหน้าโซฟา
ทันทีที่แบคฮยอนตั้งนำน้ำมาให้ร่างสูงก็เงยหน้าขึ้นไปยิ้มให้อีกคนที่อยู่ตรงหน้าเค้าตอนนี้ทันทีแล้วยิ้มให้ก่อนที่จะยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่มอย่างสบายใจ ผิดกับอีกคนที่เอาแต่ยืนขมวดคิ้ว
“เพื่อนมาหาทำไมต้องทำหน้าเครียดขนาดนั้น” ทันทีที่ดื่มน้ำหมดแก้วเสียงทุ่มนั้นก็เอ่ยถามอีกคนทันที
“ยังจะมีหน้ามาถาม จะมาทำไมไม่บอกกันบ้าง”
“เซอร์ไพรส์” ร่างสูงพูดขึ้นมาเสียงดังก่อนจะฉีกยิ้มกว้าง เรียกให้แบคฮยอนรีบยื่นนิ้วชี้ออกไปเพื่อจิ้มไปกลางหน้าผากร่างสูงแล้วออกแรงผลักให้อีกคนทิ้งตัวลงกับโซฟา ก่อนที่จือเทาจะจับมือเรียวนั้นไว้แล้วยื่นขึ้น พาแบคฮยอนเดินตรงไปทางประตูห้อง
“ไปไหน” แบคฮยอนเอ่ยถามออกมาเมื่อจู่ๆอีกคนก็ลากเค้ามาที่ประตูห้องก่อนที่จะปิดประตูออกไป
“เอากระเป๋าไง” จือเทาตอบกลับก่อนที่จะเปิดประตูออก แต่ยังไม่ทันได้เปิดประตูออกดีก็มีแรงดันจากร่างสูงอีกคนที่ยืนเอาหูแนบกับประตูอยู่ในตอนแรก
จือเทายืนมองชานยอลที่ตอนนี้ล้มลงไปกองกับพื้นหลังจากที่ร่างสูงเปิดประตูออก ข้างหลังชานยอลนั้นปรากฏให้เห็นชายหนุ่มร่างสูงอีกคนที่ยืนหัวเรากับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น
“ฮ่าๆ บอกแล้วว่าอย่าไปยุ่งกับเค้า” คริสเอ่ยขึ้นในขณะที่ยังหัวเราอยู่ก่อนจะเดินมายื่นมือดึงชานยอลให้ลุก
ชานยอลได้แต่กรอกตาแล้วก็ยื่นไปให้อีกคนดึงเค้าขึ้น
“คริสเก้อรู้จักเค้าด้วยเหรอครับ” จือเทาเอ่ยถามเป็นภาษาจีน คริสพยักหน้าตอบ
“พี่รู้จักเค้าด้วยเหรอ” ชานยอลเอ่ยถามคริสที่ยืนอยู่ข้างๆ คริสจึงพยักหน้าตอบอีกครั้ง
“ชานยอลนี่ฮวังจือเทาเพื่อนแบคฮยอน น้องชายของลู่ฮานเพื่อนสนิทพี่ที่จีน” คริสเอ่ย
“จือเทานี่ชานยอลเป็น...”
“แฟน!!” คริสพูดยังไม่ทันจบประโยคแบคฮยอนก็รีบตะโกนแทรกขึ้นมาทันที เรียกให้ทั้งคริสและชานยอลเกิดอาการหน้าแดงขึ้นมา จือเทาจึงได้แต่หลี่ตามองทั้งคู่อยู่อย่างนั้น
“กระเป๋าผมหละครับ” จือเทาเอ่ยถามคริสที่ยังยืนอมยิ้มหน้าแดงอยู่
“อ่อ...อยู่นั่น” คริสตอบพรางชี้ไปทางบริเวณข้างประตูทีมีกระเป๋าเดินทางใบใหญ่วางอยู่หนึ่งใบ
“ขอบคุณนะครับที่ช่วยขนขึ้นมาให้ พี่ลู่ฮานบอกว่าให้พี่โทรหาด้วย แล้วพี่อี้ชิงก็ฝากถามว่ารองเท้าที่พี่บอกจะซื้อให้เมื่อไหร่จะได้ แค่นี้แหละครับขอบคุณมากที่ช่วยเป็นธุระให้ พี่กลับไปเถอะ” จือเทาพูดยาวรวดเดียวก่อนจะพลักคริสให้หันไปทางลิฟ
“ไอ้พี่น้องคู่นี้เหมือนกันจริงๆ พอหมดประโยชน์แล้วไล่กันเลยนะ”
“ผมรักพี่ครับ ไปได้แล้ว”
“เอ่อ มีอะไรก็โทรมาแล้วกัน”
“เดี่ยวก่อนพี่” จือเทาเรียกคริสให้หันมาอีกรอบ
“เอาแฟนพี่ไปด้วย”
..........................................................................................................................................
TALK:
สวัสดีคะ (ไหว้งามๆ)เจนเอาตอนใหม่มาลงแล้วววววววว (มีใครดีใจไหม)
ต้องขอโทษหลายๆรอบเลยนะคะที่เจนมาต่อช้า เพราะตอนนี้เป็นช่วงโค้งสุดท้ายก่อนสอบปลายภาค เลยไม่ค่อยมีเวลานั่งแต่งฟิคเท่าไหร่ ขอโทษจริงๆนะคะ~~~
ตอนต่อไปจะเป็นตอนจบของเรื่องนี้แล้ว โปรดติดตามกันด้วยนะคะ ^^
ความคิดเห็น