[Fic EXO] Live High (ChanYeol x BaekHyun) - [Fic EXO] Live High (ChanYeol x BaekHyun) นิยาย [Fic EXO] Live High (ChanYeol x BaekHyun) : Dek-D.com - Writer

    [Fic EXO] Live High (ChanYeol x BaekHyun)

    โดย fc_jenny

    เข็มนาฬิกาชี้บอกเวลาเที่ยงคืน โชคชะตาทำให้ฉันได้มายืนมองหน้าที่เปื้อนรอยยิ้มนี้ สายตาถูกสะกดให้จ้องไปที่ดวงตาคู่นั้น ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ไม่สามารถเปลี่ยนความรู้สึกนี้ของฉันได้

    ผู้เข้าชมรวม

    1,051

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    1.05K

    ความคิดเห็น


    6

    คนติดตาม


    6
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  29 มี.ค. 56 / 05:20 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้

    Live High
    ChanYeol x BaekHyun


    WARNING: 

    - ฟิคเรื่องนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับ ชาย x ชาย รับไม่ได้กรุณากด X
    - ฟิคเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดจากจินตนาการล้วนๆ กรุณาอย่าลอกเลียนแบบ
    - นักอ่านที่น่ารักทุกคนอ่านแล้วช่วยเม้นท์เป็นกำลังใจกันนิดนึงนะค่ะ~~~~

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      Live High
      ChanYeol x BaekHyun


       

       

       

      ก่อนที่พระอาทิตย์จะลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า,ฉันขอได้ไหม

      ขอมองหน้านายในยามที่หลับนี้อีกสักพัก...

       

      บรรยากาศยามเช้าเงียบสงบอย่างเช่นทุกวัน ร่างสูงบนเตียงรู้สึกตัวขึ้นมาขยับพลิกตัวเล็กน้อย ก่อนที่ตานั้นจะค่อยๆลืมขึ้นมา ท้องฟ้าข้างนอกเริ่มสว่างทำให้ตาทั้งสองข้างนั้นต้องกระพริบเล็กน้อยเพื่อปรับรับกับแสงที่กำลังส่องเข้ามาในห้องนอนเล็กๆของพวกเค้า มือหนายื่นไปหยิบผ้าห่มผืนบางขึ้นมาห่มเพื่อบรรเทาความหนาว ถึงแม้ตอนนี้จะเริ่มเข้าช่วงฤดูใบไม้ผลิแล้ว แต่อากาศในตอนนี้นั้นกลับยังคงหนาวอยู่ ร่างสูงขยับพลิกตัวอีกครั้งเพื่อหันหน้าออกไปหาเตียงนอนอีกฝั่งที่อยู่ห่างจากเตียงนอนของเค้าแค่หนึ่งช่วงขา

      สายตาจ้องนิ่งไปที่ร่างบางบนเตียงอีกฝั่ง ในหน้ายามหลับของร่างบางนี้ที่เค้ามักจะล้อว่ามันน่าเกลียดนักหนา... ใบหน้ายามหลับนี้ที่เค้ามักจะแกล้งเอาปากกาละเลงเขียนเพื่อแกล้งสนุก....

      ใบหน้ายามหลับนี้ที่เค้ามักจะทำเป็นแกล้งหลับก่อนทุกคืนแล้วรอเวลาเพื่อให้อีกคนนั้นหลับไปก่อนที่เค้าจะลืมตาตื่นขึ้นมาเพื่อจ้องมองใบหน้ายามหลับของอีกคนนั้นจนตัวเค้าเองเผลอหลับไป....

      ใบหน้ายามหลับนี้ที่ทำให้เค้ามักจะตื่นขึ้นมาตั้งแต่ก่อนฟ้าจะสว่างเพื่อที่จะจ้องมองหน้านั้นในยามหลับเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เจ้าของใบหน้าในยามหลับนั้นจะตื่นขึ้นมา....

      ใบหน้าในยามหลับนี้ ที่เค้าอยากเห็นเป็นสิ่งสุดท้ายก่อนนอน และสิ่งแรกที่อยากเจอในยามที่ตื่น

       

      ชานยอลหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างหมอนขึ้นมาเพื่อดูเวลา ก่อนที่จะปิดมันลงเมื่อเห็นว่าอีกในไม่กี่ชั่วโมงพวกเค้าก็ต้องเริ่มออกไปทำงานตามตารางของวันนี้แล้ว ร่างสูงนั้นค่อยๆเขยิบไปที่ของเตียงของตัวเองก่อนที่แขนยาวนั้นจะยื่นข้ามไปหาเตียงอีกฝั่งแล้วใช้นิ้วยาวจิ้มไปที่จมูกของคนที่ยังคงหลับอยู่บนเตียง

      ร่างบางที่ที่ถูกรบกวนจากการนอนขยับเล็กน้อยแต่ตานั้นกลับยังหลับสนิทโดยไม่มีท่าทีว่าจะตื่นขึ้นมาเลย นิ้วยาวนั้นจึงยื่นไปจิ้มที่จมูกของอีกคนอีกครั้งแต่ครั้งนี้กลับออกแรงหนักกว่าเดิมจนคนที่ถูกรบกวนนั้นต้องครางออกมาเสียงเบาก่อนที่จะพลิกตัวหันหน้าไปอีกฝั่ง

      ชานยอลนอนยิ้มให้กับปฏิกิริยาของอีกคน ก่อนที่จะพลิกตัวกลับมาจากขอบเตียงของตนเองแล้วก็นอนยิ้มอยู่อย่างนั้น รอเวลาเพื่อให้นาฬิกาที่ตั้งปลุกไว้ร้องดังขึ้นมา

      เวลาผ่านไปไม่ถึงสิบนาที เสียงนาฬิกาปลุกก็ดังขึ้นมาจากโทรศัพท์มือถือของร่างบางที่ยังคงหลับอยู่ ร่างบางปัดมือไปมาควานหาต้นเสียง ก่อนที่มือบางนั้นจะคว้าไปโดนโทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างหมอนก่อนที่จะใช้นิ้วกดไปไปตรงบริเวณด้านข้างของเครื่องเพื่อหยุดเสียงนาฬิกาปลุกนั้น ก่อนที่จะทิ้งมันลงที่เดิมพร้อมกับกระชับผ้าห่มผื่นบางของตัวเองขึ้นมาแล้วนิ่งหลับไปเหมือนเดิม

      ชานยอลที่นอนมองสถานการณ์จากเตียงอีกฝั่งแล้วหัวเราะออกมาเล็กน้อย เค้าเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเมื่อนาฬิกาปลุกแล้วยังจะกลับไปนอนต่อแล้วจะตั้งปลุกไว้ตั้งแต่แรกทำไม

      เมื่อได้ยินเสียงเมมเบอร์คนอื่นๆจากด้านนอก ชานยอลจึงคิดว่าคงถึงเวลาที่พวกเค้าต้องขึ้นมาเตรียมตัวออกไปทำภารกิจของวันนี้แล้ว เมื่อคิดได้อย่างนั้นร่างสูงจึงพลิกตัวไปที่ขอบเตียงของตัวเองอีกครั้ง ก่อนจะใช้ขายาวๆของตนจะยื่นข้ามไปถึงเตียงอีกฝั่งแล้วก็ถีบไปที่หลังของอีกคนที่ยังนอนนิ่งอยู่

      เมื่อรอบแรกไม่ได้ผลชานยอลพยายามอีกครั้งโดยที่ครั้งนี้ออกแรงหนักกว่าเดิมพร้อมกับเอ่ยเรียกชื่อของคนที่หลับอยู่ออกมาเบาๆ

      “แบคฮยอน” เสียงทุ้มเอ่ยเรียกอีกคนก่อนที่จะใช้ขายาวนั้นถีบไปที่หลังของเจ้าของชื่อที่ยังคงนิ่งอยู่

      “อืออ..” คนที่โดนปลุกครางในลำคอเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้มีท่าทีว่าจะลุกขึ้นมาเลย

      “ตื่นได้แล้ว”

      “อืออ...”

      “อืออะไร ลุกได้แล้ว”

      “อืออ...”

      เมื่อเห็นว่าถ้ายังรอต่อไปคงไม่มีทางที่อีกคนจะลุกขึ้นมาแน่ ชานยอลจึงตัดสินใจลุกขึ้นจากเตียงของตัวเองแล้วไปยืนอยู่ที่ข้างเตียงของอีกคนก่อนจะก้มลงไปใช้มือเขย่าไปที่ไหล่บางนั้น

      “แบคฮยอน” เสียงทุ้มเอ่ยเรียกชื่ออีกคนอีกครั้งพร้อมกับดึงไหล่อีกคนให้พลิกกลับมานอนหงาย และดูเหมือนมันจะได้ผลเพราะตอนนี้ร่างบางบนเตียงนั้นได้ลืมตาขึ้นมามองชานยอลที่ยืนยิ้มแฉ่งอยู่ข้างเตียง

      แบคฮยอนที่เพิ่งลืมตาตื่นขึ้นจ้องมองหน้าคนที่รบกวนการนอนของเค้าก่อนที่จะใช้มือข้างที่อยู่ใต้ผ้าห่มนั้นควานหาตุ๊กตาที่อยู่แถวนั้นแล้วรีบยกมันขึ้นมาตีไปที่หน้าของคนที่ยืนยิ้มอยู่

      “โอ้ย!! ตีมาซะเต็มแรง อย่างงี้ต้องเอาคืน” ไม่พูดเปล่า ร่างสูงที่ถูกรังแกเมื่อกี๊รีบหันกลับไปหาเตียงตัวเองก่อนจะหยิบหมอนใบใหญ่ที่ใช้นอนขึ้นมาตีแล้วตีไปกลางหัวของแบคฮยอนที่พยายามจะหลบอยู่ใต้ผ้าห่ม

      “โอ้ย!! ไอ้ยักษ์” แบคฮยอนตะโกนออกมาเสียงดังก่อนจะโผล่หัวออกมาจากผ้าห่มหยิบตุ๊กตาตัวเดิมขึ้นมาแล้วโยนใส่ชานยอลที่ยืนอยู่ข้างประตูห้องนอน แต่แทนที่ตุ๊กตาจะลอยไปโดนชายยอลที่ยืนหัวเราะอยู่มันกลับตกไปโดนอีกคนที่เพิ่งเปิดประตูห้องเข้ามา

      “....”  จงอิน บุคคลที่เพิ่งโดนลูกหลงไปนั้นยืนนึ่งแล้วหันไปมองเจ้าของห้องทั้งสองสลับกับไปมา ก่อนจะเอ่ยจุดประสงค์ของตัวเองเบาๆ “คยองซูเรียกไปกินข้าว” แล้วก็ปิดประตูห้องเดินจากไปในทันที

      ทันทีที่ประตูถูกปิดลงทั้งชานยอลและแบคฮยอนก็หัวเราะออกมาเสียงดัง

      ......................

      .........

      ....


      ในรถตอนนี้ถูกปกคลุมไปด้วยเสียงร้องของนักร้องดังชาวอเมริกัน Jason Mraz ที่ผู้จัดการส่วนตัวของพวกเค้าได้เอาไอพ๊อดมาเปิดในรถ รถตูสีขาวคันโตกำลังแล่นไปยังจุดหมายแรกและจุดหมายเดียวของวันนี้คือสตูดิโอแห่งหนึ่งในย่านคังนัม เพื่อถ่ายนิตยสารชุดนักเรียน ‘IVY Club’

      ในระหว่างการเดินทางซูโฮที่นั่งอยู่ข้างคยองซูอยู่เบาะแถวหน้ากำลังเปิดดูรายละเอียดในการถ่ายแบบในวันนี้ ในขณะที่คยองซูเองก็พยายามจะปัดมือของจงอินที่เอื้อมมาเล่นผมเค้าออกเป็นระยะๆ เซฮุนที่นั่งข้างๆจงอินอยู่เบาะแถวกลางก็เอาแต่ก้มเล่นโทรศัพท์อย่างไม่สนใจสิ่งรอบข้าง

      แบคฮยอนที่นั่งเบาะหลังกำลังนั่งฮัมตามเพลงที่กำลังเปิดอยู่แม้จะไม่รู้เนื้อเพลงเลยสักนิด ในขณะเดียวกันชานยอลที่นั่งอยู่ข้างๆก็หยิบเอากีต้าร์ออกมาเล่นตามและร้องคลอไปกับเพลงที่กำลังเปิดอยู่เช่นกัน

      เสียงทุ้มของชานยอลร้องเพลงคลอไปกับเสียงกีตาร์ของตัวเอง เรียกให้แบคฮยอนที่นั่งอยู่ข้างๆหันมามองก่อนที่จะส่งรอยยิ้มไปให้ มีน้อยคนนักที่จะได้เห็นชานยอลในลุคแบบนี้


      .................

      .......

      ..


      ตอนนี้ทุกคนกำลังอยู่ในช่วงพักจากการถ่ายแบบ แบคฮยอนเลือกที่จะมานั่งเล่นกีตาร์ที่ชานยอลถือติดมือมาด้วยเมื่อเช้านี้ ตากล้องที่กำลังตามถ่ายเบื้องหลังในการทำงานเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าแบคฮยอนก่อนที่จะบอกให้เค้าลองเล่นกีตาร์ให้ดู ถึงแม้ว่าความจริงแล้วตัวแบคฮยอนเองจะเล่นกีตาร์ไม่เป็นแต่ในเมื่อทีมงานของให้เค้าเล่น เค้าก็จะลองทำให้

      มือบางยื่นเอานิ้วไปทาบไว้ตรงคอร์ดก่อนที่จะใช้มืออีกข้างดีดไปให้เกิดเสียงตามที่ชานยอลเคยสอนเค้าไว้ เมื่อมาถึงจุดนี้แบคฮยอนก็แอบบ่นกับตัวเองในใจว่าเค้าน่าจะตั้งใจฝึกมากกว่านี้ในตอนที่ชานยอลสอน แต่ใครจะไปรู้ว่าจู่ๆเค้าจะต้องมาเล่นกีตาร์โชว์อย่างนี้ แบคฮยอนจึงได้แต่ภาวนาว่าทีมงานที่ทำการตัดต่อจะตัดช่วงนี้ออก

      ชานยอลที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่หลังกล้องเห็นว่าตอนนี้อีกคนคงจนมุมหาทางออกไม่ได้ จึงเลือกที่จะเดินเข้ามาแล้วใช้มือนั้นลูบไปที่ไหล่ของอีกคนก่อนที่จะนั่งลงข้างๆและนั่นก็เรียกรอยยิ้มจากแบคฮยอนได้ไม่น้อย

      “เล่นกีตาร์ให้หน่อยดิ” ทันทีที่ชานยอลนั่งลงข้างๆแบคฮยอนก็ยื่นกีตาร์ในมือให้ทันที

      “ไม่ได้ซ้อมเพลงนี้มานานละ” ร่างสูงพูดขึ้นหลังจากที่รับกีตาร์มาจากอีกคนก่อนที่จะเริ่มเล่นโน้ตแรกพรางหันไปมองแบคฮยอนที่เริ่มใช้เท้าทำจังหวะกับพื้นและมือบางที่ปรบเข้ากับจังหวะเสียงกีตาร์เบาๆ

      “I try to picture a girl through a looking glass.... ฮืม....” เสียงหวานเริ่มร้องเนื้ออกมาแต่ก็ต้องเปลี่ยนเป็นฮัมเนื้อตามจังหวะแทนเพราะเค้าจำเนื้อเพลงไม่ได้เลย

      ชานยอลที่ยังเล่นกีตาร์ไปเรื่อยๆเหลือบขึ้นมามองคนข้างๆก่อนจะยิ้มให้ และหัวเราะออกมาเมื่อเห็นว่าอีกคนร้องต่อไม่ได้ และในระหว่างนั้นเองเซฮุนที่กำลังถือกล้องโพลาลอยด์ผ่านมาก็กดชัตเตอร์ จับภาพของทั้งสองคนไว้ได้พอดี ก่อนที่จะรอให้ภาพเริ่มชัดขึ้นมาและยิ้มกับผลงานการถ่ายของตัวเอง แล้วก็เดินจากไป ทิ้งให้ทั้งชานยอลและแบคฮยอนต้องนั่งงงและหัวเราะออกมาเสียงดังพร้อมกัน

      .....................

      ............

      ....

       

      ขอเวลาให้ฉันนอนอยู่ข้างนายอย่างนี้อีกสักพัก

      เพื่อที่จะได้เอากลิ่นนี้ ใบหน้าที่สงบนี้ และไหล่ที่แสนอบอุ่นนี้ บันทึกไว้ในใจ

       


      ตอนนี้เป็นเวลาเกือบเที่ยงคืน เมมเบอร์ทุกคนต่างพากันแยกย้ายไปตามห้องนอนของตัวเองเพื่อที่จะพักผ่อนเอาแรงไว้สู้กับวันพรุ่งนี้

      ชานยอลนั่งดีดกีตาร์เล่นบนเตียง ตาทั้งสองข้างหลับลง นิ้วเรียวเคลื่อนไหวไปตามคอร์ดและสายกีตาร์บนตัก ปล่อยให้จิตใจของตัวเองล่องลอยไปอย่างไร้จุดหมาย จนกระทั่งแบคฮยอนที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จเดินเข้ามาในห้องนอนก่อนที่จะนั่งลงบนเตียงหันหน้าเข้าหาร่างสูงที่นั่งดีดกีตาร์

      มือบางหยิบผ้าขนหนูที่พาดอยู่บนไหล่ขึ้นมาขยี้ผมที่เพิ่งสระเสร็จ พร้อมกับโยกตัวไปมาตามเสียงกีตาร์

      เมื่อเช็ดผมเสร็จแบคฮยอนก็ลุกขึ้นเอาผ้าไปตากบนราวก่อนจะกลับมานั่งบนเตียงแล้วล้มตัวลงนอนบนหมอนทันที

      “จะนอนแล้วเหรอ” เสียงกีตาร์หยุดชะงักลงพร้อมกับเสียงทุ้มที่เอ่ยถามออกมา

      “อืม” ร่างบางตอบกลับจะค่อยๆหลับตาลง

      เมื่อเห็นอย่างนั้นชานยอลจึงลุกขึ้นจากเตียงของตัวเองเพื่อที่จะเอากีตาร์ไปเก็บ แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงของอีกคน

      “เล่นต่อได้ไหม” ร่างบางบนเตียงเอ่ยขึ้นมาเสียงเบาในขณะที่ตาก็ยังหลับอยู่

      “หืม..จะนอนแล้วไม่ใช่เหรอ??”

      “ไม่เป็นไร เล่นต่อเถอะ” ร่างบางที่นอนหลับตาอยู่ตอนแรกลืมตาขึ้นมาเพื่อมองหน้าอีกคนก่อนจะเอ่ยออกไปเสียงเบา

      ไร้คำตอบกลับใดๆ ขายาวก้าวกลับไปนั่งที่เตียงของตัวเองเช่นเดิมก่อนที่เสียงกีตาร์จะดังขึ้นอีกครั้ง พร้อมกลับร่างบางอีกคนที่ค่อยๆหลับตาลงปล่อยให้ตัวเองเข้าสู่ห้วงนิทรา

      เวลาล่วงเลยผ่านไปความง่วงเริ่มเข้าครอบงำบุคคลที่ยังนั่งดีดกีตาร์อยู่บนเตียง ร่างสูงลุกขึ้นยืนก่อนที่จะเดินเอากีตาร์ไปเก็บให้เข้าที่ก่อนที่จะเดินกลับมาที่เตียงนอน แต่แทนที่ชานยอลจะเดินตรงไปที่เตียงของตัวเอง ร่างสูงนั้นกลับเดินไปหยุดที่เตียงของอีกคนที่ตอนนี้กำลังนอนหลับนิ่ง

      ชานยอลยืนมองแผ่นอกที่เคลื่อนไหวขึ้นลงตามจังหวะการหายใจ มือหนายื่นไปปัดผมที่ปรกหน้าของอีกคนออกอย่างเบามือ

      “ราตรีสวัสดิ์...”เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นเบาๆก่อนที่จะก้มหน้าลงไปจุมพิตกับหน้าผากบางของคนที่หลับอยู่บนเตียง......

       

      เข็มนาฬิกาชี้บอกเวลาเที่ยงคืน

      โชคชะตาทำให้ฉันได้มายืนมองหน้าที่เปื้อนรอยยิ้มนี้

      สายตาถูกสะกดให้จ้องไปที่ดวงตาคู่นั้น

      ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ไม่สามารถเปลี่ยนความรู้สึกนี้ของฉันได้

       
       

       

      。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。

       

       

       

      สวัสดีค่ะ~~~~

      จบไปแล้วสำหรับช๊อทฟิคเรื่องแรกของคู่ ชานแบค

      ขอสารภาพว่าฟิคเรื่องนี้เป็นฟิคชั่ววูบค่ะ เป็นฟิคที่เกิดขึ้นจากความฟินชั่ววูบ ไม่มีการวางพล๊อต ไม่มีแก่นสารใดๆทั้งสิ้น แฮะๆๆ (หัวเราะแห้งๆ)

      เพราะฉนั้นถ้าไม่ถูกใจคนอ่านก็ขอโทษไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะค่ะ~~~ (อย่าปารองเท้ามานะ)

       

      อ่านจบแล้ว ชอบไม่ชอบยังไงก็คอมเม้นท์ ติ-ชม กันด้วยนะค่ะ เจนจะได้เอาคำแนะนำนั้นไปปรับปรุงในฟิคเรื่องต่อๆไปเนาะๆ


      ป.ล: พูดคุย/ติด่า เจนได้ที่ Twitter: @fc_jenny ค่ะ~~~~ ทวงฟิคก็ได้นะค่ะ 5555+

      ป.ล 2: ติดตามฟิคชานแบคเรื่องต่อไปได้ในอีกไม่ช้านี้

       

       
       

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×