[Fic EXO] 난 니가 싫어。。。I Hate You (SeHun x LuHan) - [Fic EXO] 난 니가 싫어。。。I Hate You (SeHun x LuHan) นิยาย [Fic EXO] 난 니가 싫어。。。I Hate You (SeHun x LuHan) : Dek-D.com - Writer

    [Fic EXO] 난 니가 싫어。。。I Hate You (SeHun x LuHan)

    ผมไม่เคยเรียกร้องอะไรจากพี่... แค่ต้องการความรักที่จริงใจ... แม้กระทั่งในตอนนี้... สิ่งที่ผมต้องการไม่ใช่ตัวพี่... แต่เป็นความรักจากพี่......

    ผู้เข้าชมรวม

    3,954

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    3.95K

    ความคิดเห็น


    26

    คนติดตาม


    19
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  27 ม.ค. 56 / 13:34 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น


    by: fc_jrenny
    นิยายแฟร์ 2024
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      니가 싫어。。。I Hate You

       

      ผมไม่เคยเรียกร้องอะไรจากพี่

      แค่ต้องการความรักที่จริงใจ

      แม้กระทั่งในตอนนี้

      สิ่งที่ผมต้องการไม่ใช่ตัวพี่

      แต่เป็นความรักจากพี่

       

      ไฟทั่วร้านถูกหรี่ลงให้เหลือเพียงแค่แสงสลัวๆ ร่างบางปรากฏตัวอยู่บนเวทีพร้อมกับหน้าที่ก้มลงหลับตาเพื่อทำสมาธิ ก่อนมือนั้นจะยกไมค์ขึ้นมาจ่อกับปากทันทีที่เสียงดนตรีโน้ตตัวแรกดังขึ้น

      ร่างสูงนั่งเอาหลังพิงกับเคาท์เตอร์บาร์ สายตาจับจ้องคนร่างบางบนเวทีราวกับอีกคนนั้นคือภาพวาดอันสวยงามที่ถูกแขวนโชว์ไว้ในแกเลอรี่ มือหนายกแก้วใสในมือขึ้นมาจิบ แต่สายตาก็ยังไม่ละไปจากอีกคนที่ยืนอยู่บนเวที มุมปากนั้นผุดรอยยิ้มขึ้นมาเมื่อสายตาของทั้งคู่ประสานกัน  เสียงหวานนั้นที่ทำให้ใครหลายคนอยากจะครอบครอง ตากลมโตที่ไม่ว่าใครมองก็ต้องหยุดหายใจ ใบหน้านั้นที่ถ้าได้เห็นก็ไม่อาจละสายตาออกไปได้ ศิลปะชิ้นเลิศที่ชื่อว่าลู่ฮาน บุคคลที่เป็นที่หมายปองของใครหลายๆคน และหนึ่งในหลายคนนั้นก็คือโอเซฮุนคนนี้

       

      เมื่อเสียงเพลงจบลงเสียงปรบมือและเสียงโห่ร้องมากมายก็ตามออกมา ลู่ฮานยิ้มให้กับผลตอบรับนั้นก่อนขาเรียวจะเดินก้าวลงไปจากเวที แต่ไม่ทันที่จะเหยียบพื้นได้ดี เอวบางนั้นก็ถูกแขนแกร่งคู่หนึ่งรวบไปกอด คนที่ถูกรวบเอวไปทำท่าตกใจเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร ในทางกลับกัน ใบหน้านั้นกลับมีรอยยิ้มเปื้อนไว้ตลอดเวลา

      เซฮุนนั่งมองเหตุการณ์ตรงหน้าจากเคาท์เตอร์บาร์ที่เดิมด้วยสายตาที่ชินชา ถึงแม้ว่าข้างในแล้วเค้าอยากจะเดินเข้ากระชากลู่ฮานออกมาจากอ้อมกอดของคนๆนั้นขนาดไหน แต่เซฮุนก็รู้ตัวดีว่าเค้าไม่มีสิทธิ์อะไรที่จะทำอย่างนั้น เพราะยังไงแล้ว เค้าก็เป็นได้แค่หนึ่งในหลายๆคนที่ได้แต่ยืนชื่นชมและสัมผัสศิลปะชิ้นเลิศชิ้นนี้ แต่ไม่มีทางที่จะได้ครอบครองไว้เป็นของตัวเองคนเดียว

      ร่างสูงละสายตาจากสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นข้างเวที สายตาคมก้มลงต่ำมองไปที่แก้วที่ถืออยู่ในมืออย่างไร้จุดหมาย จนเมื่อเวลาผ่านไป ขาเรียวคู่หนึ่งก็เดินมาหยุดตรงหน้า เซฮุนจึงเงยหน้าขึ้นมาหาอีกคนที่พึ่งเดินมา

      “มาคนเดียวหรอครับ หนุ่มน้อย” ลู่ฮานเอ่ยขึ้นพร้อมกับพาตัวเองขึ้นไปนั่งเก้าอี้ที่ว่างข้างๆ

      “เลิกเรียกผมว่าหนุ่มน้อยได้แล้ว” คนร่างสูงเอ่ยออกมาอย่างไม่พอใจ แต่อีกคนกลับได้หัวเราะออกมาเล็กน้อยก่อนจะหันไปสั่งเครื่องดื่มของตัวเองกับบาร์เทนเดอร์คนสนิท

      “อยู่รอจนดึกขนาดนี้ หมดไปกี่แก้วแล้วเรา” ลู่ฮานที่พึ่งรับเครื่องดื่มของตัวเองมา หันมาพูดกับอีกคนที่เอาแต่นั่งเงียบอยู่ข้างๆ

      “ไม่ได้นับ” เสียงทุ่มนั้นเอ่ยออกมาเบาๆ ก่อนที่จะยกแก้วใสนั้นขึ้นมาจิบอีกครั้ง

      “ดื่มเยอะขนาดนี้ จะไปต่อกันไหวไหมหละ...หืม?”  ลู่ฮานเอ่ยถามพร้อมกับหน้าที่ยื่นเข้าไปใกล้อีกคน แต่แทนที่จะได้คำตอบจากร่างสูงตรงหน้ากลับเป็นริมฝีปากของเค้าเองที่ถูกอีกคนครอบครองอยู่ในตอนนี้ จูบอันดูดดื่มอย่างเช่นทุกครั้งทำให้คนทั้งสองลืมไปว่าตัวเองกำลังอยู่ในสถานที่ที่มีผู้คนอยู่รอบกาย จนกระทั้งชายคนหนึ่งที่ที่นั่งถัดไปจากเซฮุนนั้นตั้งใจกระแทกแก้วในมือของตัวเองลงกับเคาท์เตอร์แรงๆหนึ่งที  เรียกให้คนทั้งสองผละออกจากกันในที่สุด ก่อนที่ร่างบางจะมองผ่านไหล่ของเซฮุนไปแล้วยิ้มให้ชายที่นั่งอยู่หลังร่างสูง

      “ไปกันเถอะ”  ลู่ฮานเอ่ยกระซิบที่ข้างหูของอีกคน ก่อนมือเรียวนั้นจะหยิบเอาแก้วในมือของตัวเองและของอีกคนไปวางบนเคาท์เตอร์ ก่อนที่จะลุกขึ้นยืนแล้วดึงแขนให้เซฮุนเดินตามเค้าเดินออกประตูร้านไป ภายใต้สายตาหลายคู่ที่กำลังมองการกระทำของพวกเค้าทั้งสองคนอยู่

       

       

      หัวใจที่มีบาดแผลของผม

      ความหลังที่แปะเปื้อนของพี่

      สายตานั้นที่มองมาแค่ผม

      ผมไม่ชอบมัน

      และผมก็เกลียดพี่

       

      ...ติ๊ดๆ...ติ๊ดๆ.....

      เสียงจากสัญญาณระบบล๊อคประตูดังขึ้นติดต่อกัน เซฮุนที่ตอนนี้ถูกอีกคนใช้แขนทั้งสองข้างรวบคอโน้มเข้าไปจูบในขณะที่เค้ากำลังพยายามควบคุมมือตัวเองให้กดรหัสปลดล๊อคประตูห้องตัวเอง แต่ลู่ฮานกลับไม่ให้ความร่วมมือด้วยแต่อย่างใดแถมยังร้องครางออกมาด้วยความขัดใจเมื่อเซฮุนพยายามจะผละตัวเองออก

      “..อือ...”

      “ผมกดรหัสไม่ถนัด”  เซอุนเอ่ยขึ้นทันที่ที่อีกคนยอมถอนจูบออก

      “ให้สามวิ..1...2...3” ลู่ฮานที่พึ่งโดนขัดจังหวะกระซิบเบาๆที่ข้างหู ในขณะที่มือก็ยังเลื่อนเลื้อยขึ้นลงแผ่นหลังหนาของเซฮุน

      ...กึก....ประตูถูกปลดล๊อคออก พร้อมกับแขนแกร่งที่รวบเอวบางเข้ามาหาตัวแล้วผลักเข้าไปในห้องคอนโดของตัวเองทันที

      ขายาวนั้นก้าวเดินไปเรื่อยๆดันให้อีกคนที่อยู่ในอ้อมกอดนั้นก้าวถอยหลังไปจนขากระทบกับขอบเตียง

      ลู่ฮานทิ้งตัวลงนอนบนเตียงพร้อมกับใช้แขนทั้งสองข้างเกี่ยวคออีกคนลงมานอนทับตัวเอง เซฮุนใช้มือยันตัวเองกับเตียงเพิ่มระยะห่างออกมาจากคนบนเตียงเล็กน้อยเพื่อที่ทั้งสองนั้นจะได้จูบกันได้สะดวก แต่คนร่างบางที่กำลังนอนราบอยู่กับเตียงนั้นกลับใช้ขาของตัวเองเกี่ยวเอวร่างสูงลงมาให้ท่อนล่างของทั้งสองแนบกันอีกครั้ง

      จากจูบที่ประทับอยู่บนปาก ก็เลื่อนลงมาเป็นบริเวณคอ ทำให้ร่างบางนั้นต้องเอียงคอรับรอยจูบของอีกคน มือหนาที่ใช้ยันอยู่กับเตียง ก็เปลี่ยนมาเป็นลูบอยู่ตรงบริเวณหน้าท้องใต้เสื้อของคนที่นอนอยู่บนเตียง

      “...อื้อ...เซฮุน” ลู่ฮานครางออกมาเมื่ออีกคนถอนปากออกเพื่อถอดเสื้อของตัวเองและร่างบางออก ในขณะที่เซอุนกำลังพยายามเปลืองผ้าท่อนบนของตัวเอง แขนเรียวจากคนที่กำลังนอนอยู่บนเตียงก็ได้แต่ยื่นมาดึงขอบกางเกงของร่างสูงลงไป เพื่อที่ทั้งสองจะได้จัดการในสิ่งที่ทั้งสองทำค้างไว้ให้เสร็จ

      เวลาผ่านไป ลู่ฮานที่เคยนอนราบอยู่บนเตียงตอนนี้กลับกำลังนอนทับอยู่บนตัวของอีกคน เสียงหายใจหอบดังประสานกัน เหงื่อที่ไหลโชกไปทั่วร่างของทั้งสองทำให้ตอนนี้ไม่มีใครคิดที่จะขยับออกจากตำแหน่งของตัวเองเลย

      เซฮุนยกมือขึ้นมาปัดผมที่ปกอยู่หน้าของคนที่นอนทับอยู่บนตัวเค้า ลู่ฮานจับมือของอีกคนที่กำลังปัดผมเค้าอยู่นั้นออก แล้วเลื่อนมันลงมาลูบบริเวณแก้มของตน ก่อนที่จะเลื่อนลงมาเรื่อยๆจนถึงบริเวณปาก แล้วจึงประทับรอยจูบลงไปบนมือของเซฮุนเบา

      “เซฮุน...ฉันชอบหน้าของนายมากเลยรู้ไหม” ลู่ฮานเอ่ยออกมาในขณะที่ตาก็จ้องอยู่ที่ใบหน้าของอีกคน

      “จริงหรอครับ...ผมนึกว่าพี่จะชอบร่างกายผมมากกว่าซะอีก” เซฮุนตอบกลับ พร้อมกับมือลูบไปตรงบริเวณเอวทั้งสองข้างของอีกคน

      “นั่นก็ด้วย...ชอบเหมือนกัน” ร่างบางเอ่ย ก่อนที่จะโน้มตัวเองมาประทับจูบบนจมูกของร่างสูง แล้วก็เลื่อนมาตรงที่บริเวณปาก

      เซฮุนรู้ดีว่าสิ่งที่ดึงดูดลู่ฮานให้เข้ามาหาเค้าในตอนแต่แรกนั้นคงไม่ใช่อะไร นอกเสียจากหน้าตาของเค้า  เพราะตั้งแต่ครั้งแรกที่เซฮุนได้ไปผับที่ลู่ฮานร้องเพลงอยู่ก็เป็นลู่ฮานเองที่เดินเข้ามาทักเค้าก่อน หลังจากที่ทั้งสองคนได้บังเอิญสบตากันในขณะที่ร่างบางนั้นร้องเพลงอยู่บนเวที

      หลังจากคืนแรกของทั้งคู่ เซฮุนก็บอกกับตัวเองว่าความสัมพันธ์ระหว่างเค้ากับลู่ฮานนั้นไม่มีอะไรมากไปเกินกว่าแค่การเร่วมรักกันเท่านั้น แต่เมื่อเวลาผ่านไป เซฮุนกลับรู้สึกว่าตัวเค้าเองต้องการมากกว่านั้น เซฮุนไม่ได้ต้องการแค่ร่างกายของลู่ฮาน แต่เค้าต้องการหัวใจของอีกคนด้วยเช่นกัน

      ถึงแม้ว่าเซฮุนจะเป็นคนเดียวที่ลู่ฮานปฏิบัติด้วยเหมือนคู่รัก แต่เค้าก็รู้ดีว่าในการกระทำนั้นไม่ได้มีความรักของอีกคนปนอยู่ในนั้นเลย

      ทักครั้งที่เซฮุนได้บอกรักอีกคนไปในขณะที่นอนกอดกัน ลู่ฮานกลับให้กลับมาแค่รอยยิ้มโดยไม่ได้เอ่ยอะไรตอบ และทุกครั้งที่ทั้งสองนั้นร่วมรักกันเสร็จ ไม่ว่าจะดึกแค่ไหน แต่คนร่างบางนั้นก็ไม่เคยจะอยู่ค้างคืนเลย  และคืนนี้ก็เช่นกัน

      “ทำไมพี่เคยอยู่ต่อเลย” เซฮุนเอ่ยออกไปเบาๆในขณะที่ลู่ฮานกำลังหยิบเสื้อของตัวเองที่กองอยู่บนพื้นขึ้นมาสวมใส่

      “...ฮือ...ไม่รู้สิ” ร่างบางตอบกลับในขณะที่มือก็ดึงรูดซิบกางเกงของตัวเองขึ้นมา ก่อนที่จะเดินไปหยุดตรงบริเวณของเตียงที่ของคนที่กำลังนอนตะแคงหันมาทางเค้า ก่อนที่จะโน้มตัวลงไปประทับจูบบนขมับของอีกคน

      “ไว้เจอกัน” ลู่ฮานเอ่ยออกมาเบาๆ ก่อนที่ขานั้นจะก้าวจากไป.....

       

       

      ความรักที่แสนจะอึดอัดของเรา

      ผมที่พยายามจะรักษามันไว้

      กลับต้องมารู้สึกเสียใจกับทุกอย่าง

      ผมที่ไม่รู้ประสาอะไร

      ผมที่เกลียดพี่...

       

      มือหนายกแก้วใสขึ้นมาจิบพรางหมุนมือถือที่วางอยู่บนเคาท์เตอร์เล่นไปเรื่อยเปื่อยอย่างคนที่สติร่องรอย คิดไปถึงบทสนทนาเมื่อเช้าระหว่างเค้ากับผู้เป็นพ่อที่ต้องการจะส่งเค้าไปเรียนต่อต่างประเทศ เซฮุนรู้อยู่แล้วว่าสักวันเค้าต้องทำตามคำสั่งของพ่อหลังจากที่เค้าดื้อหลีกเลี่ยงการไปต่างประเทศนี้มาหลายปี

      ร่างสูงถอนหายใจออกมาเสียงดัง ถึงแม้ว่าตอนนี้ในผับจะมีเพลงเปิดเสียงดังแต่ลักษณะการเคลื่อนไหวของร่างกายเค้านั้นก็พอจะทำให้จงอิน บาร์เทนเดอร์คนสนิทเดาออกว่าเซฮุนนั้นกำลังมีเรื่องกลุ้มใจ

      “เป็นไรว่ะ...เห็นนั่งเหม่อ แล้วก็เอาแต่ถอนหายใจ” จงอินที่กำลังยืนชงเครื่องดื่มอยู่ตะโกนถามออกมาจากหลังบาร์

      “...อีกสามวันต้องไปจากเกาหลีแล้วอ่ะดิ..ยังไม่อยากไปเลยว่ะ” ร่างสูงตอบกลับพร้อมกับยกแก้วขึ้นมาจิบอีกรอบ

      “ยังไม่ล้มเลิกโปรเจคนี้อีกหรอว่ะ...เห็นบอกจะส่งไปตั้งแต่ยังเรียนไม่จบมัธยม” จงอินที่เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมเอ่ยขึ้น พร้อมกับวางเครื่องดื่มแก้วใหม่ให้ไว้ตรงหน้าร่างสูง เซฮุนไม่ได้พูดอะไรตอบ เพียงแต่ยกแก้วที่จงอินพึ่งวางให้นั้นขึ้นมาจิบ

      “แล้วคนนั้นหล่ะ รู้ยัง” จงอินถามพร้อมกับพยักหน้าไปทางที่ลู่ฮานกำลังยืนคุยอยู่กับเลย์ มือกีตาร์

      “...รู้ไปแล้วจะเปลี่ยนอะไรได้ว่ะ ....ยังไงเค้าก็ไม่สนใจอยู่แล้วว่ากูจะอยู่หรือไป” ร่างสูงเอ่ยขึ้นพร้อมกับสายตาที่หันไปมองลู่ฮานที่ยังคุยอยู่กับเลย์เช่นเดิม จงอินที่สังเกตเหตุการณ์ของทั้งคู่ก็ได้แต่ถอนหายใจ และหันกลับไปทำงานของตัวเองต่อ

       

      ลู่ฮานเดินตรงเข้ามาหาเซฮุนทันทีที่ลงมาจากเวที แม้ระหว่างทางจะโดนฉุดและรั้งไว้หลายครั้งก็ตาม แขนเรียวยื่นไปโอบคออีกคนที่กำลังนั่งจิบเครื่องดื่มอยู่ที่บาร์ พร้อมกับบรรจงจูบลงไปทบนริมฝีปากนั้น

      “ ฮือ...วันนี้อารมณ์ไมดีเหรอ” ลู่ฮานเอ่ยขึ้น นิ้วชี้ใช้จิ้มไปบริเวณระหว่าคิ้วของคนร่าสูงตรงหน้าที่กำลังขมวดอยู่

      “..เปล่า..”คนถูกถามตอบกลับสั้นๆพลันใช้แขนรวบเอวร่างบางเข้ามายืนระหว่างขาของตน

      “...หืม...งั้นไปกันเถอะ...ไปก่อนน่ะจงอิน” ร่างบางเอ่ยให้คนตรงหน้าได้ยิน ก่อนที่จะหันไปตะโกนบอกบาร์เทนเดอร์คนสนิทที่ตอนนี้กำลังยุ่งอยู่กับการชงเครื่องดื่ม

       

      เมื่อมาถึงคอนโดของเซฮุน เหมือนเช่นทุกครั้ง ร่างกายของคนทั้งสองไม่อาจจะแยกกันออกแม้แต่วินาทีเดียว แขนเรียวของลู่ฮานที่โอบคอของคนร่างสูงไว้ เช่นเดียวกับเซฮุนที่โอบเอวคนร่างบางไว้เช่นกัน

      เมื่อมาถึงบริเวณห้องนอน เซฮุนก็จัดการถอดเสื้อผ้าของตัวเองทันที พร้อมกับจัดการเปลื้องผ้าอีกคนทันทีในเวลาต่อมา และนั้นก็สร้างความแปลกใจให้ร่างบางไม่น้อย

      “..อือ..จะรีบไปไหน” ร่างบางเอ่ยขึ้นหลังจากที่อีกคนยอมถอนปากออกเปิดโอกาสให้เค้าหายใจได้  จูบครั้งนี้ของเซฮุนทำให้เค้ารู้สึกตกใจไม่น้อย เพราะทุกครั้งที่ทั้งสองจูบกัน ไม่ว่าร่างสูงนั้นจะต้องการมากแค่ไหน เซฮุนก็มันจะปล่อยให้ลู่ฮานเป็นคนควบคุมจังหวะของคนทั้งคู่  ทุกครั้งที่จูบลู่ฮานมักจะสัมผัสได้กับความนุ่มนวลความโหยหวนหรือแม้กระทั่งความรักจากคนร่างสูงแต่ครั้งนี้กลับต่างกัน จูบของเซฮุนนั้นเต็มไปด้วยความโหยหาที่ไร้ซึ่งความนุ่มนวล กลายเป็นจูบที่เต็มไปด้วยอารมณ์ความรุนแรงอย่างที่อีกคนไม่เคยเป็นมาก่อน

      “..เดี่ยวก่อน...เซฮุน” ร่างบางเอ่ยออกมาอีกครั้งเมื่อตัวเองนั้นถูกผลักลงไปกับเตียงพร้อมแขนทั้งสองข้างที่ถูกกดตรึงอยู่ข้างตัว

      “...เซฮุน..” ร่างบางครางเรียกชื่ออีกคนที่ตอนนี้กำลังบรรจงจูบไปทั่วร่างกายของเค้า ลู่ฮานรู้สึกได้ว่าจากแรงจูบและแรงสัมผัส ของร่างสูงนั้นคงทิ้งร่องรอยไว้บนร่างกายของเค้าไม่น้อย

       

      สองกายนอนชิดตัวติดกัน แขนแกร่งโอบเอวบางไว้แน่ ปลายจมูกโด่งจุดลงไปบนหน้าผากของร่างบางในอ้อมกอด

      “คิดอะไรอยู่ครับพี่” เซฮุนเอ่ยถามออกมาเมื่อเห็นอีกคนที่เอาแต่นอนเงียบหลังจากที่ร่วมรักกัน

      “...หืม..เปล่า...ไม่มีไร..เดี่ยวจะกลับหล่ะ” ลู่ฮานตอบกลับเสียงเบาพร้อมกับใช้มือดันเบาๆไปที่หน้าอกคนที่กำลังกอดเค้าอยู่ไม่ปล่อย

      ถ้าเป็นอย่างเมื่อก่อนทุกครั้ง แค่ลู่ฮานบอกว่าจะกลับเซฮุนก็จะยอมให้กลับโดยไม่เรียกร้องให้อยู่ต่อแต่อย่างใด เพราะร่างสูงนั้นรู้ดีว่าแม้ว่าจะรั้งไว้แค่ไหนเค้าก็คงรั้งได้เพียงแค่กายของอีกคน ส่วนหัวใจนั้น ไม่เคยอยู่กับเค้าอยู่แล้ว

      “คืนนี้อยู่ค้างที่นี่เถอะนะครับ” เซอุนเอ่ยออกไปพร้อมกับยื่นมือคว้าแขนของอีกคนที่กำลังลงจากเตียงไว้

      “...” คนที่ถูกรั้งไว้ไม่พูดอะไรเพียงแต่หันไปมองหน้าคนที่รั้งเค้าไว้แล้วจ้องตาคู่นั้น

      “อยู่ต่อนะครับ” ร่างสูงเอ่ยออกมาอีกครั้งพร้อมกับออกแรงดึงแขนบางนั้นเล็กน้อย แต่อีกคนกลับขืนตัวเองไว้กับที่

      “...เซฮุน..อย่าทำแบบนี้” ลู่ฮานเอ่ยออกมาเสียงเบา พร้อมกับพยายามแกะมือของอีกคนออกจากข้อมือของตัวเอง

      “ทำไมหละ!  ผมแค่ขอให้พี่อยู่ค้างต่อคืนนี้ ไม่ได้จะบังคับให้พี่มาแต่งงานด้วยซะหน่อย! ” ร่างสูงตะคอกออกมาเสียงดัง

      “..เซฮุนปล่อยพี่...พี่เจ็บ” ลู่ฮานเอ่ยออกมาอีกครั้งพร้อมกลับพยายามดึงข้อมือตัวเองออกจากกุมมือของอีกคน แต่ก็ไม่เป็นผล

      ร่างสูงกระชากร่างบางลงมาบนเตียงอีกครั้งพร้อมกับพลิกตัวไปค่อมอยู่บนร่างของอีกคน ขาทั้งสองข้างคุกเข่าอยู่ข้างๆลำตัวของลู่ฮาน มือหนานั้นยึดกดแขนบางนั้นตรึงไว้กับเตียง

      “ในเมื่อร่างกายของพี่คือสิ่งเดียวที่ผมสามารถรั้งไว้ได้...งั้นผมก็ขอใช้สิทธิ์นั้นเดี่ยวนี้เลยแล้วกัน”  เสียงเข้มเอ่ยก่อนที่จะก้มลงไปจูบไซ้ซอกคอขาวนั้น

      ลู่ฮานที่พยามจะดิ้นหนีตอนนี้กลับนอนแน่นิ่งปล่อยให้อีกคนตามที่ต้องการเช่นเดียวกับหยดน้ำตาที่ถูกปล่อยให้ไหลออกมาเช่นกัน

      ไม่มีเสียงโห่ร้องหรือเสียงสะอึกใดๆแต่น้ำตาที่หลั่งไหลอยู่นั้นกลับเป็นสิ่งที่เรียกให้เซฮุนดึงตัวเองกลับมา

      จมูกเรียวสัมผัสได้ถึงหยดน้ำที่ไหลลงมาตรงบริเวนแก้มใสนั้น  อารมณ์ร้อนที่เคยประทุอยู่ในใจตอนนี้กลับดับมอดหายไป ใบหน้าเรียวยังซุกอยู่กับซอกคอขาวอย่างแน่นิ่ง ลมหายใจร้อยถูกปล่อยออกมาอย่างสม่ำเสมอเพื่อสะกดอารมณ์ตัวเองในตอนนี้

      เซฮุนค่อยๆหันหน้าขึ้นมามองลู่ฮานที่กำลังนอนหลับตานิ่ง มือเรียวยกขึ้นมาลูบใบหน้าของคนที่ยังหลับตาอยู่  นิ้วโป้งนั้นใช้เกลี่ยหยดน้ำตาที่ไหลออกมา จูบบางเบาถูกกดลงไปบนหน้าผากบางก่อนที่จะเลื่อนลงมากดจูบลงไปบนจมูกเรียวนั่นและจบที่ริมฝีปากของร่างบาง

      ลู่ฮานเบี่ยงหน้าของตัวเองไปด้านข้างทันที่หลังจากที่เซฮุนถอนริมฝีปากออก ก่อนที่จะลืมตาขึ้นมาแล้วจ้องไปที่พนังห้องอย่างล่องลอย

      “ผมขอโทษ...”

      หลังจากที่เอ่ยคำสามคำนั้นออกไป เซฮุนก็ดันตัวเองให้ลุกขึ้นมาจากเตียง ก่อนที่จะเดินไปหยิบเสื้อคลุมมาใส่ แล้วเดินออกไปจากห้องนอนของตัวเองทันที

      ไม่นานหลังจากที่เซฮุนเดินออกไปจากลู่ฮานก็ตัดสินใจลุกขึ้นมาจากเตียงนอนของเซฮุน ก่อนที่จะขยับร่างของตัวเองให้มานั่งตรงขอบเตียงเพื่อมองหาเสื้อผ้าของตนที่ถูกถอดทิ้งไว้ทั่วห้อง ในขณะที่กำลังจะลุกขึ้นยืนสายตาของลู่ฮานกลับเหลือบไปเห็นตั๋วหนึ่งใบกับพาสปอร์ตหนึ่งเล่มที่ถูกวางไว้บนโต๊ะข้างหัวเตียง

      บนตั๋วระบุชื่อ SEHUN OH ไว้พร้อมบอกเวลาวันที่ออกเดินทางพรุ่งนี้ เมื่อเห็นอย่างนั้นลู่ฮานก็เริ่มเข้าใจเหตุผลที่เซฮุนอยากให้เค้าอยู่ต่อในคืนนี้ แต่ไม่ว่ายังไงเค้าก็ไม่อาจจะตอบสนองความรักของเซฮุนได้ เพราะตอนนี้ลู่ฮานรู้ตัวเองดีว่าใจของเค้ายังไม่เคยลืมใครอีกคน คนที่ทำให้เค้ากลายเป็นคนไร้หัวใจ เพราะอย่างนี้เค้าจึงไม่อยากทำร้ายเซฮุน แต่มันก็คงสายไปแล้ว....

      มือบางยื่นไปหยิบกระดาษโน้ตแผ่นเล็กพร้อมปากกาขึ้นมาหนึ่งด้ามแล้วเขียนข้อความบางอย่างลงไปบนกระดาษนั้นก่อนที่จะวางทิ้งไว้บนตั๋วของเซฮุน จากนั้นก็ลุกขึ้นเดินไปหยิบเสื้อผ้าของตัวเองมาใส่แล้วเดินออกไปจาห้องนอนของเซฮุนทันที  ลู่ฮานยืนมองอีกคนที่กำลังยืนดูดบุหรี่หันหลังให้เค้าอยู่ตรงระเบียงห้อง สายตาของร่างบางจ้องแผ่นหลังนั้นเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่มือบางจะดึงประตูให้ปิดลง......

       

      หัวใจที่ปิดสนิท

      ความสัมพันธ์ที่ไม่อาจหวนกลับมา

      ช่วงเวลาที่เราต่างทำร้ายกัน

      ผมเกลียดช่วงเวลานั้น

      ผมเกลียดตัวเอง

      เซฮุนตัดสินใจพาตัวเองออกมายืนที่ระเบียงห้อง มือหนาที่ยังสั่นไม่หายหยิบบุหรี่ขึ้นมาคาบไว้ที่ปากแล้วจุดไฟทันที ในหัวสมองของเค้าตอนนี้มีแต่ภาพใบหน้าของอีกคนที่เต็มไปด้วยน้ำตา ดวงตาคู่นั้นที่เค้าหลงใหลกลับเอ่อล้นไปด้วยหยดน้ำใส  ควันบุหรี่จางๆถูกพ่นออกมพร้อมกับใบหน้าที่แหงนขึ้นมองไปบนท้องฟ้าเพื่อห้ามน้ำตาตัวเอง เค้าไม่เคยคิดที่จะทำร้ายลู่ฮาน เค้าไม่เคยอยากทำให้ลู่ฮานร้องไห้ แม้กระทั้งคืนนี้ คืนสุดท้ายของพวกเค้า เซฮุนก็ไม่ได้อยากเห็นลู่ฮานเสียใจเพราะเค้า  แต่เค้าก็ทำพลาดไปแล้ว เซฮุนเลียดตัวเองที่เป็นอย่างนี้ เค้าเกลียดที่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ทั้งที่รู้ดีอยู่แก่ใจว่าไม่ว่ายังไงก็ไม่อาจรั้งหัวใจของลู่ฮานได้ แต่เซฮุนก็ยังพยายามจะทำมัน จนตอนนี้สิ่งที่เค้าทำมันกลับทำร้ายลู่ฮานและตัวเค้าเอง

       

      เซฮุนไม่รู้ว่าเค้ายื่นอยู่ตรงระเบียงนั้นนานเท่าไหร่ เมื่อมารู้สึกตัวอีกที พระอาทิตย์ก็กำลังลอยขึ้นมาแล้ว พาตัวเองกลับเข้าไปในห้องก่อนที่จะเดินตรงเข้าไปในห้องนอนอีกครั้ง  ขายาวหยุดเดินมาก้าวมาถึงบริเวณห้องนอน ก่อนที่สายตานั้นจะกวาดมองไปทั่วห้อง สายตามาหยุดที่เตียงกว้างที่ตอนนี้ถูกจัดเก็บเรียบร้อย จากนั้นสายตาของเซฮุนก็มาหยุดที่โต๊ะข้างหัวเตียงที่มีกระดาษแผ่นเล็กหนึ่งแผ่นวางอยู่บนตั๋วเครื่องบินของเค้า

      โชคดีน่ะ......

      ข้อความสั้นๆที่อีกคนเขียนทิ้งไว้ให้เค้า เซฮุนหยิบกระดาษใบนั้นขึ้นมาก่อนที่จะจ้องมันอยู่เป็นเวลานาน น้ำตาที่เคยกักกลั้นเอาไว้เริ่มไหลออกมา มือหนาขยำกระดาษแผ่นบางในมือ ก่อนที่ยกยกมือนั้นมาทุบที่หน้าอกของตัวเอง หัวใจของเค้าที่เต็มไปด้วยความรัก ความจริงใจ หัวใจของเค้าที่ต้องการความรัก ความรักที่จริงใจ หัวใจของเค้าที่เผลอไปรักใครบางคนอย่างหมดหัวใจ โดยที่ไม่สนใจว่าตัวเองจะเจ็บแค่ไหนเมื่ออีกฝ่ายไม่อาจตอบรับรักของเค้าได้

      ขายาวก้าวช้าๆไปตรงมุมห้อง ก่อนจะหยุดอยู่ที่ถุงขยะใบเล็กที่วางอยู่ แขนยาวยื่นไปอยู่เหนือถังเล็กนั้นก่อนมือที่กำอยู่จะคายออก ปล่อยให้กระดาษแผ่นเล็กที่ถูกขยำในกำมือนั้นหล่นลงไป....

       

      เมื่อเวลาผ่านไป

      เราทั้งสองนั้นจะเข้าใจกันไหม?

      แต่เมื่อถึงเวลานั้นจริง พวกเราอย่าเจอกันเลยจะดีกว่า

       

      คนมากมายเดินสวนกันไปมาตรงบริเวณผู้โดยสารขาออกของสนามบินอินชอนแห่งนี้  ขายาวเดินลากกระเป๋าเดินทางใบเล็ก พร้อมกับมองไปรอบๆเพื่อหา gate ของตัวเอง ระหว่างทางเซฮุนเห็นครอบครัวที่กำลังยืนบอกลากัน คู่รักที่กำลังยืนกอดกันร้องไห้ เพื่อนฝูงที่ยืนถ่ายรูปกันเป็นหมู่ใหญ่  เค้าได้แต่มองภาพเหล่านั้นแล้วก็อมยิ้ม ใช่ว่าเซฮุนจะไม่มีใครมาส่ง แต่เป็นเค้าเองต่างหากที่เลือกจะไม่บอกใคร เพราะเค้าเชื่อว่าเค้าจะทำใจได้ง่ายกว่าถ้าเค้าไปอย่างเงียบๆ เค้าคงทนไม่ได้หากต้องมีเพื่อนๆมายืนมองเค้าเดินจากไป.......

      “ฮัลโหล”

      “อยู่ไหนว่ะ พี่ลู่ฮานบอกว่ามึงออกเดินทางวันนี้” เสียงจงอินที่กึ่งพูดกึ่งตะโกนดังผ่านออกมาจากโทรศัพท์

      “อยู่สนามบิน กำลังจะขึ้นเครื่อง”

      “ทำไมไม่บอกว่ะว่าจะไปวันนี้ กูจะได้ไปส่ง”

      “คงไม่ทันแล้วว่ะ อีกห้านาทีเค้าจะเรียกขึ้นเครื่องหล่ะ”

      “เอ่อๆ ดูแลตัวเองดีๆแล้วกัน เรียนให้จบไวๆ จะได้รีบกลับมา” จงอินเอ่ยเสียงเบา

      “...ฝากดูแลทางนี้ด้วยแล้วกัน”

      “ถ้าหมายถึงพี่ลู่ฮานหล่ะก็ ไม่ต้องห่วง เดี่ยวกูเฝ้าให้” จงอินเอ่ยพร้อมกับขำออกมานิดๆ

      “กูยังไม่ได้บอกเลยว่าใคร” เซฮุนเอ่ยเสียงเบา

      “ก็กูรู้ว่ามึงหมายความถึงใคร”

      “เอ่อๆ...ต้องขึ้นเครื่องหล่ะ” เซฮุนเอ่ยขึ้นทันทีเมื่อได้ยินเสียงประกาศเรียกจากไฟล์บินของเค้า

      “เอ่อๆ โชคดีหล่ะกัน”

      “...อืม...แล้วเจอกัน” เสียงเข้มเอ่ยขึ้นก่อนจะกดตัดบทสนทนา แล้วปิดมือถือนั้นทันที.......

       

      ผมที่รักพี่อย่างจริงใจเสมอมา

      และเชื่อว่าในช่วงเวลานั้น พี่เองก็รักผมเช่นกัน

       

      ไฟทั่วร้านถูกหรี่ลงให้เหลือเพียงแค่แสงสลัวๆ ร่างบางปรากฏตัวอยู่บนเวทีพร้อมกับหน้าที่ก้มลงหลับตาเพื่อทำสมาธิ ก่อนมือนั้นจะยกไมค์ขึ้นมาจ่อกับปากทันทีที่เสียงดนตรีโน้ตตัวแรกดังขึ้น สองปีผ่านไป  เซฮุนได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง กลับมานั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวเดิม กับเครื่องแบบเดิมในมือ สายตาของเซฮุนนั้นยังจ้องมองคนบนเวทีอย่างไม่ละสายตาเช่นเดิม และเมื่อสายตาของทั้งคู่ประสานกันอีกครั้งก็ยังมีรอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้าของคนทั้งสองเช่นเดิม........

       。。。。。。。。。。。。。。END。。。。。。。。。。。。

      จบแล้ววววววววว
      ฮุๆๆๆ ฟิคฮุนฮานเรื่องแรก...ดราม่าไหมค่ะพี่น้อง??
      ฟิคเรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากเพลง I Hate you ของ วงUrban Zakapa ค่ะ เป็นเพลงที่ออกจะเศร้าๆนิด (ไม่นิดอ่ะเศร้ามาก) 
      เลยทำให้ฟิคของเจนออกมาเป็นอย่างนี้
      ฟิคเรื่องนี้เป็นอะไรที่จบไม่ลง (จบยากมากกกก) ใครหลายคนอาจจะไม่ชอบตอบจบ...ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

      ยังไงก็ ชอบ ไม่ชอบ ติชม คอมเม้นท์กันด้วยน่ะค่ะ เค้าจะได้มีกำลังใจและกลับไปปรับปรุงได้เนาะๆๆๆ
      P.S. โปรดติดตามฟิคเรื่องต่อๆไปที่กำลังจะตามมา และกดไปอ่านฟิคเรื่องอื่นที่เจนลงไปแล้วก็ได้น่ะๆๆๆ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×