คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Open Arms...ที่พักพิง
Those Bygone Years。。。那些年
ตอนที่ 3
เสียงกระดิ่งหน้าร้านคาเฟ่เล็กนี้ยังดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ร่างสูงที่ยังนั่งรอใครอยู่ที่โต๊ะไม่ได้สนใจแม้แต่จะหันไปมองตามเสียงนั้นอีกแล้ว เพราะตอนนี้เค้านั่งชะโงกหน้ารอใครบางคนมาเป็นเวลาเกือบชั่วโมงแล้ว แต่คนๆนั้นยังไม่เห็นจะโผล่มาสักที แต่ในที่สุด
“ฮวางจือเทาๆๆ ขอโทษๆ เมื่อกี๊ให้พี่คริสมาส่งรถติดมากเลย” ร่างบางที่เพิ่งเดินเข้ามาในร้านเอ่ยแก้ตัวทันทีที่เดินมาถึงโต๊ะที่อีกคนนั่งรออยู่ แต่แทนที่ร่างสูงนั้นจะดีใจเมื่อคนที่รอมาถึงแล้ว เค้ากลับเอาแต่ก้มหน้าแล้วใช้นิ้วจิ้มเล่นกับน้ำที่ระเหยออกมาจากแก้ว
“จือเทา..โกรธจริงๆหรอเนี่ย” ร่างบางที่เพิ่งนั่งลงกับเก้าอี้ตรงข้ามอีกคนเอ่ยถามขึ้นอีกครั้งเมื่ออีกคนยังไม่มีท่าทีตอบสนองอะไร
“...นี่!! นายเป็นคนนัดฉันออกมาเองนะ อย่ามานั่งเงียบสิ” ไม่พูดเปล่าขาเรียวนั้นเตะไปที่หน้าแข้งของคนตรงหน้าทันที
“โอ๊ย!! เตะมาซะเต็มแรง ขอสิทธิ์งอนบ้างไม่ได้รึไง” ร่างสูงที่เพิ่งโดนทำร้ายเอ่ยขึ้นพร้อมกับก้มลงไปลูบหน้าแข้งของตัวเอง และในขณะที่ยังก้มอยู่ใต้โต๊ะนั้น ร่างสูงก็จัดการดึงรองเท้าและถุงเท้าของอีกคนออก ทำให้ร่างบางที่โดนแกล้งต้องสะดุ้งเข่าชนโต๊ะเสียงดังจนตกเป็นเป้าสายตา
“ฮวางจือเทา!! เลิกเล่นอย่างนี้ได้แล้ว ฉันจะฟ้องคุณยาย” ร่างบางพูดใส่อีกคนเสียงดัง ในขณะที่ตัวเองก็พยายามใส่ถุงเท้าและรองเท้ากลับเข้าเหมือนเดิม โดยที่ยังมีเท้าของอีกคนคอยมาขัดความตั้งใจของเค้าอยู่เป็นระยะ
“ฟ้องไปคุณยายก็ช่วยอะไรนายไม่ได้แล้วตอนนี้ ฮ่าๆ”
“คุณยายครับ คืนนี้ช่วยมาปรากฏตัวให้หลานของคุณยายเห็นด้วยนะครับ”
2009: Qingdao, China
“แม่ครับ ผมไปแล้วนะ” แบคฮยอนตะโกนบอกจากหน้าประตูในขณะที่ยังก้มใส่รองเท้า มือบางรีบเปิดประตูออกไปทันทีแต่ยังไม่ทันได้ก้าวออกจากประตูบ้านแบคฮยอนก็หยุดยืนอยู่เฉยๆ ก่อนที่จะก้าวออกจากประตูไปช้าๆแล้วปิดประตูตามหลังเบาๆ
“ทำไมมานั่งอยู่ตรงนี้ เดี่ยวก็ไปโรงเรียนสายกันพอดี” ขาเรียวที่เดินมาหยุดยืนข้างๆอีกคนที่เอาแต่นั่งก้มหน้าอยู่ตรงขั้นบันไดหน้าบ้านเค้า
“เป็นอะไรเนี่ย?” กระเป๋าที่สะพายอยู่ถูกวางลงกับพื้นพร้อมกับร่างบางที่นั่งลงข้างๆอีกคนที่ยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาคุยกับเค้าสักที
“ฮวังจือเทา...” มือเรียวเขย่าเบาๆไปที่ไหล่กว้างหวังจะให้อีกคนหันขึ้นมาคุยกับเค้าสักที แต่ทันทีที่มือสัมผัสไปที่ไหล่ร่างสูงนั้นก็หันมารวบเอาแบคฮยอนเข้าไปกอดทันทีพร้อมกับซุกหน้าลงที่อกบางนั้น แม้จะไม่ได้ยินเสียงอะไร แต่ไหล่กว้างที่สั่นเทาก็แสดงให้เห็นว่าร่างสูงนั้นกำลังเสียใจมากแค่ไหน
แบคฮยอนที่โดนกอดอย่างไม่ได้ตั้งตัว รวบรวมสติของตัวเองกลับมา ก่อนที่คุกเข่าขึ้นนั่งเพื่อที่จะให้ระดับใบหน้าของอีกคนอยู่ตรงกับหน้าอกของเค้าพอดี ก่อนที่จะใช้แขนรวบไว้ที่ท้ายทอยของอีกคนและมืออีกข้างที่คอยลูบผมเบาๆ
ฮวางจือเทาที่ใครต่อใครมองว่าเป็นคนเข้มแข็ง น้อยคนนักที่จะได้เห็นอีกด้านของคนร่างสูงนี้ ด้านที่อ่อนโยนหรือด้านที่อ่อนแอแบบนี้
เวลาผ่านไปสักพักไหล่ที่เคยสั่นเทาก็เริ่มนิ่ง มือที่กำเสื้อนักเรียนของแบคฮยอนไว้ถูกคลายออก ร่างสูงดันตัวเองขึ้นมาจากหน้าอกบางนั้น แต่กลับยังก้มหน้าต่ำโดยไม่หันขึ้นมามองแบคฮยอนที่นั่งจ้องอยู่
“บอกได้ยังว่าเป็นอะไร” แบคฮยอนที่ยังนั่งคุกเข่าอยู่ยื่นมือทั้งสองข้างไปจับไว้ที่แก้มทั้งสองข้างของอีกคนก่อนที่จะเชยหน้านั้นขึ้นให้หันมาคุยกับเค้า
“ง่วงนอน” คือสองคำที่หลุดออกมาจากปากร่างสูงนั้นทำให้แบคฮยอนถึงกับถอดใจ
“แล้วโรงเรียนล่ะ” แบคฮยอนเอ่ยตอบกลับไปพร้อมกับก้มลงมองนาฬิกาข้อมือที่ใส่อยู่
“ไม่ไปได้ไหม ง่วงนอน” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นมาอีกครั้งก่อนที่จะซุกหัวลงไปกับไหล่บาง
“จือเทา...”
“ง่วง...”
“ฮวางจือเทา...”
“...”
“เฮ้อ..ง่วงก็ขึ้นไปนอน” แบคฮยอนถอนหายใจก่อนที่จะดันหัวของอีกคนออกจากไหล่ของตัวเอง จากนั้นก็ลุกขึ้นหยิบกระเป๋าที่วางอยู่ตรงบันไดอีกขั้นก่อนที่จะยื่นมือไปดึงคนขี้เซาให้ลุกขึ้น
“แม่ครับ...วันนี้ผมขอลาหยุดนะ” ร่างบางเอ่ยบอกแม่ตัวเองก่อนที่จะเดินเบี่ยงขึ้นไปบนห้องนอนที่อยู่อีกชั้น
“พอดีเลยเมื่อกี๊ลู่ฮานเพิ่งโทรมาบอกว่าคุณยายของอาทะ....”คุณแม่ที่เพิ่งวางหูโทรศัพท์เมื่อกี๊หยุดคำพูดของตัวเองกลางคันหลังจากที่เห็นว่ามีร่างสูงอีกคนกำลังเดินตามลูกชายตัวเองขึ้นไปข้างบน
“เดี่ยวแม่โทรไปหาทางโรงเรียนให้นะจ๊ะ”
............................................................................................
“ตื่นมาแล้วต้องเล่าให้ฟังนะว่าเป็นอะไร” แบคฮยอนเอ่ยบอกก่อนจะเปิดประตูห้องนอนตัวเองแล้วเดินนำเข้าไป ส่วนอีกคนที่เดินตามหลังมานั้นหลังจากที่ก้าวผ่านประตูเข้ามาก็เดินตรงไปที่เตียงนอนของแบคฮยอนทันที ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนอย่างเคยชิน
“ถอดถุงเท้าก่อนได้ไหมเล่า” คนเป็นเจ้าของห้องบ่นเสียงเบาก่อนจะยกเท้าขึ้นเขี่ยไปที่เท้าของอีกคนบนเตียง แต่ไร้ซึ่งการตอบสนองใดๆ แบคฮยอนจึงจัดการดึงถุงเท้าทั้งสองข้างออกให้อีกคน พรางบ่นไปเรื่อยๆ
“ขอบใจ” เสียงทุ่มเอ่ยออกมาเบาๆขณะที่หน้ายังซุกอยู่กับหมอน
“ชิ...นอนไปเลย” แบคฮยอนเอ่ยกลับไปก่อนที่มือเรียวนั้นจะเปิดประตูห้องออกไปเพื่อจะลงไปหาอะไรกิน แต่ยังไม่ทันได้ก้าวออกจากห้องดีเสียงทุ้มของคนบนเตียงก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง
“ไปไหน” เสียงของจือเทาเอ่ยขึ้นมาในขณะที่ตาก็ยังหลับอยู่
“หิว...จะไปหาอะไรกิน”
“อย่าเพิ่งไป...มานี่ก่อน” ไม่เอ่ยเปล่า แขนยาวนั้นกลับยกขึ้นมากวักเรียกอีกคนให้กลับเข้ามาหา
“อะไรอีกเล่า...ก็นอนไปสิ” แม้ปากจะบ่นไปอย่างนั้น แต่ขาเรียวก็ยังก้าวเดินไปหาคนบนเตียงอยู่ดี
“อยู่นี่ก่อน...ฉันหลับแล้วค่อยไป” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นก่อนจะดึงเจ้าของห้องให้กลับมานั่งที่ขอบเตียงแล้วจึงเขยิบตัวเองเพื่อให้อีกคนมีพื้นที่นั่งได้สบาย
“นายนี่เรื่องมากจริงๆ...เห็นว่ามีเรื่องไม่สบายใจหรอกนะถึงยอมตามใจเนี่ย” แบคฮยอนบ่นให้กับคนที่ยังนอนหลับตาอยู่บนเตียงแต่มือนั้นกลับยังไม่ยอมปล่อยจากมือของเค้า
“อือ..” เสียงทุ้มครางในลำคอก่อนที่ทั้งห้องจะถูกปกคลุมด้วยเสียงหายใจที่ดังสม่ำเสมอ
แบคฮยอนที่ยังนั่งอยู่ที่เดิมยังไม่ขยับเขยื้อน สายตาจับจ้องไปที่ใบหน้าของคนที่นอนหลับอยู่บนเตียงนอนของเค้า ใบหน้าที่คุ้นเคย ในตลอดเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมาก็มีแต่เจ้าของก็มีแต่ใบหน้าคมนี้ที่โผล่มารอรับเค้าหน้าบ้านทุกวันเพื่อที่จะเดินไปโรงเรียนด้วยกัน คนๆนี้ที่คอยนั่งอยู่ข้างๆเค้าในห้องเรียน คอยช่วยอธิบายให้เค้าฟังเวลาที่เค้าฟังครูไม่รู้เรื่อง คนๆนี้ที่ชอบลากเค้าไปนู่นไปนี่ด้วย บังคับให้เค้าอยู่รอซ้อมวูซูหลังเลิกเรียนเพื่อที่จะได้เดินกลับบ้านด้วยกัน คนๆนี้ที่เป็นเพื่อนสนิทคนแรกและคนเดียวของเค้า
เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรียกให้แบคฮยอนหลุดออกจากภวังค์ของตัวเอง ร่างบางเตรียมตัวจะลุกขึ้นจากเตียงนอนของตัวเองแต่กลับต้องหยุดชะงักเพราะมือข้างซ้ายที่ยังอยู่ในกุมมือของคนที่นอนหลับอยู่ตอนนี้ แบคฮยอนใช้มืออีกข้างแกะมือหนานั้นออกเบาๆโดยที่ไม่ให้อีกคนรู้สึกตัวตื่นก่อนที่จะเดินไปเปิดประตู
“ครับแม่” แบคอยอนเอ่ยทักผู้เป็นแม่ทันทีที่เปิดประตูออกมา
“อาเทาล่ะลูก”
“หลับไปแล้วครับ” ผู้เป็นลูกตอบก่อนที่จะหันไปมองคนที่ยังนอนหลับอยู่
“แม่ขอคุยด้วยหน่อย” ผู้เป็นแม่บอกก่อนที่จะเดินนำลงบันไดไปข้างล่าง
“มีอะไรหรอครับแม่” แบคฮยอนเอ่ยถามทันทีที่เดินมาหยุดในห้องครัว
“เมื่อกี๊อาลู่โทรมาหาแม่” ผู้เป็นแม่เริ่มพูดก่อนที่จะมองออกไปข้างนอกหน้าต่าง
“...เกิดอะไรขึ้นครับ” แบคฮยอนเริ่มสงสัยเมื่อสังเกตเห็นอาการเศร้าหมองของผู้เป็นแม่
“คุณยายเสียแล้วลูก..เมื่อตอนเช้ามืด”
ความเงียบเข้าปกคลุมแบคฮยอนไม่ได้พูดอะไรตอบหลังจากที่ได้ยินข่าวร้ายนั้น ผู้เป็นแม่ค่อยเดินเข้ามาเรื่อยๆและรวบร่างบางเข้าไปกอด ถึงแม้ว่าแบคฮยอนและแม่ของเค้าเพิ่งจะย้ายมาอยู่ที่ประเทศจีนนี้ได้ไม่ถึงสองปี แต่สองแม่ลูกนี้กลับสนิทกับครอบครัวฮวางมาก ไม่ใช่แค่จือเทาหรือลู่ฮานแต่รวมถึงคุณยายฮวางที่เป็นคนใจดีคอยดูแลช่วยเหลือ และห่วงใยแบคฮยอนและแม่ของเค้าตลอดมา
การจากไปครั้งนี้คนที่เสียใจมากคงไม่พ้นจือเทา หลานรักที่คุณยายเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก เมื่อนึกได้เช่นนั้นแบคฮยอนจึงค่อยๆผละออกจากอ้อมกอดของผู้เป็นแม่ ก่อนที่จะเดินขึ้นไปที่ห้องนอนของเค้าเช่นเดิม
แบคฮยอนเปิดประตูเข้าไปในห้องตัวเองอย่างช้าๆเพราะไม่ต้องการที่จะปลุกคนที่กำลังนอนหลับอยู่ ขาเรียวก้าวเดินไปยังเตียงนอนก่อนจะนั่งบริเวณขอบเตียงที่เดิม จากนั้นมือเรียวก็สัมผัสไปที่ฝ่ามือหนาที่วางหงายอยู่บนเตียง ก่อนที่นิ้วเรียวนั้นจะค่อยๆประสานไปกับมือของอีกคน แบคฮยอนค่อยๆเอนตัวลงเรื่อยๆจนกระทั่งศีรษะนั้นสัมผัสกับหน้าอกที่กำลังเคลื่อนไหวขึ้นลงตามจังหวะการหายใจ ร่างบางนอนอยู่อย่างนั้นสักพักก่อนที่ตาทั้งคู่จะหลับลงเพราะความง่วงที่ครอบงำ
..............................................................................................
ร่างสูงที่นอนราบอยู่กับเตียงตอนนี้เริ่มรู้สึกเมื่อยจากการนอนในท่าเดียวเป็นเวลานาน จึงเริ่มขยับตัวหวังว่าจะเปลี่ยนเป็นท่านอนตะแคงข้างโดยที่ตาก็ยังหลับอยู่เช่นเคย แต่ในขณะนั้นเองบนบริเวณหน้าอกของเค้ากลับรู้สึกหนักอึ้งเหมือนมีอะไรมาทับอยู่
จือเทาลืมตาขึ้นมาเพื่อมองบางสิ่งที่ทับอยู่บนบริเวณหน้าอกของเค้า และสิ่งที่ได้พบก็คือศีรษะที่มีเส้นผมสีดำเงาซึ่งเค้าก็รู้ดีว่าเป็นศีรษะของใคร ร่างสูงพยายามยกมือขวาของตัวเองขึ้นเพื่อสัมผัสสิ่งที่กำลังนอนน้ำลายยืดอยู่บนตัวเค้าแต่กลับต้องมาพบว่ามือด้านขวาของเค้าตอนนี้นั้นยังมีมือของอีกคนประสานไว้อยู่ จือเทาจึงเปลี่ยนเป็นยกมืออีกข้างขึ้นมาแล้วใช้นิ้วจิ้มไปที่หัวของคนที่กำลังนอนหลับอยู่
“...อือ...” เสียงครางดังมาจากคนที่ตอนนี้ยังหลับไม่รู้เรื่อง
เมื่อได้เห็นปฏิกิริยาตอบสนองของร่างบาง คนขี้แกล้งอย่างจือเทาจึงรู้สึกสนุกใช้นิ้วจิ้มไปเรื่อยๆ จากหัวเป็นแก้มจนเลื่อนลงมาถึงคอ และทันใดนั้นคนที่กำลังหลับอยู่ก็สะดุ้งลุกขึ้นนั่งทันที
สิ่งที่เกิดขึ้นเรียกเสียงหัวเราะให้จือเทาไม่น้อย ต่างจากอีกคนที่โดนแกล้งตอนนี้กลับทำได้แต่นั่งง่วงขยี้ตาตัวเองอย่างไม่รู้เรื่องอะไร
“ขำอะไร” แบคฮยอนที่เพิ่งตั้งสติได้ถามออกไปเสียงแข็ง
“ขำนายไง”
“ไม่ต้องเลย” ไม่พูดเปล่ากำปั้นเล็กนั้นกลับทุบไปที่หน้าอกของคนที่ยังนอนเขาอยู่บนเตียงอย่างเต็มแรง
“โอ๊ย! ทุบมาได้ซะเต็มแรง” ร่างสูงพูดก่อนจะลูบไปที่บริเวณที่โดยทุบเมื่อกี๊
“ใครใช้ให้มาแกล้งก่อนล่ะ” แบคฮยอนเอ่ยเสียงอ่อนก่อนจะลุกขึ้นยืน แต่มือข้างหนึ่งนั้นกลับยังถูกอีกคนดึงไว้อยู่
“จะไปไหน” เสียงทุ้มเอ่ยถาม
“ไม่ได้จะไปไหน” แบคฮยอนเอ่ยตอบพร้อมกับมองไปที่มือของตัวเองที่ยังอยู่ในกุมมือของอีกคน
“เย็นนี้ไปงานศพคุณยายด้วยกันนะ” เสียงทุ้มเอ่ยออกมาเบาๆก่อนกระชับกุมมือของตัวเองเบาๆ
แบคฮยอนไม่ได้พูดตอบอะไร เพียงแต่มองจ้องไปที่ตาคู่นั้นแล้วพยักหน้ารับรู้
………………………………………………………………………….
Talk:
แวร๊คคคคค ห่างหายไปเกือบ2อาทิตย์ มีใครคิดถึงเจนบ้างไหม (ก้มหลบเกิบบิน)
ต้องขอโทษด้วยนะค่ะ ช่วงนี้เจนยุ่งมากใกล้จะสอบมิดเทรม แต่สัญญาว่าไม่เกินเดือนนี้ ฟิคเรื่องนี้ถึงตอนจบแน่นอนค่ะ (อีกประมาณสองตอน)
ขอบคุณทุกคนที่ยังติดตามนะค่ะ ยังไงก็อย่าลืม คอมเม้นท์ ติ-ชม กันได้ตามสบายเลยค่ะ หรือใครจะเข้ามาทำความรู้จัก หรือจะเข้ามาด่าเจนก็ติดต่อได้ที่ Twitter : fc_jenny ค่ะ~~~~
ความคิดเห็น