คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : First Meeting...รักแรกพบ??
Those Bygone Years。。。那些年
ตอนที่ 1
เสียงกระดิ่งที่ดังขึ้นเป็นทุกครั้งที่มีคนเดินเข้าออกร้านกาแฟเล็กแห่งนี้ทำให้ร่างสูงที่กำลังอยู่ที่โต๊ะหัวมุมหลังร้านนั้นต้องชะโงกหน้าขึ้นมามองตามเสียงกระดิ่งนั้นเช่นกัน นิ้วยาวนั้นกำลังเล่นอยู่กับไอน้ำที่ระเหยออกมาจากแก้วน้ำที่ตั้งอยู่บนโต๊ะทั้งสองแก้ว ส่วนมืออีกข้างนั้นก็หยิบโทรศัพท์มือถืออกมาเช็คเวลาเป็นระยะๆเช่นกัน
“สายตลอด” ร่างสูงบ่นออกมาในขณะที่นิ้วนั้นก็ยังเล่นอยู่กับไอน้ำบนแก้ว จนกระทั่งเสียงกระดิ่งจากประตูนั้นดังขึ้นอีกครั้ง ร่างสูงจึงเงยหน้าขึ้นมองไปตามเสียงหวังว่าคนที่พึ่งเข้ามาในร้านนั้นจะเป็นใครอีกคนที่เค้ากำลังรอ....
2008: Qingdao, China
แบคฮยอนยืนตรวจสภาพความเรียบร้อยของตัวเองในกระจก ร่างบางยืนมองตัวเองที่กำลังสวมชุดนักเรียนชุดใหม่ที่พึ่งได้มาเมื่อวานนี้ พร้อมกับยิ้มให้กำลังใจตัวเองกับการใช้ชีวิตในโรงเรียนใหม่ ..เมืองใหม่ ..ประเทศใหม่...
หลังจากที่ตรวจเช็ความเรียบร้อยของตัวเองแล้วจึงหันหลังกลับเดินไปหยิบกระเป๋าสะพายที่วางอยู่บนเตียงนอนใหม่ของเค้าขึ้นมา พร้อมกับหันมายิ้มให้ตัวเองบนกระจกอีกครั้ง
“ไปแล้วนะครับแม่” แบคฮยอนวิ่งออกจากประตูบ้านแต่ก็ไม่ลืมที่จะตะโกนบอกแม่ตัวเองที่กำลังนั่งอ่านเอกสารบางอย่างอยู่ในครัว ร่างบางใช้เวลาเดินประมาณ 15 นาทีจากบ้านหลังใหม่ของเค้าไปยังโรงเรียนใหม่ ตลอดทางมีนักเรียนหลายคนที่หันมามองแล้วก็ทักทายแบคฮยอน ในขณะที่เค้านั้นทำได้เพียงแต่พยักหน้าเล็กน้อยพร้อมกับส่งรอยยิ้มกลับไปให้ ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้เค้าจะเคยเรียนภาษาจีนมาบ้างแล้ว แต่เอาเข้าจริงๆแล้วแบคฮยอนกลับไม่มีความมั่นใจพอที่จะใช้มัน ร่างบางจึงได้แต่เดินก้มหน้าบ้างก็มองไปบริเวณทุ้งหญ้าดอกไม้ริมถนนจนกระทั่งถึงโรงเรียน
เพราะเวลานี้ยังไม่ถึงเวลาขึ้นเรียน นักเรียนหลายคนจึงเลือกที่เดินแยกไปทำกิจกรรมยามเช้าของตัวเอง หลายคนเลือกที่จะเดินไปหาเพื่อนที่นั่งรออยู่ตรงม้านั่งแล้ว บ้างก็เลือกที่จะเดินเข้าไปในบริเวณลานโถงใหญ่ที่น่าจะเป็นโรงอาหาร บ้างก็เดินตรงเข้าไปในตึกเรียนเช่นเดียวกับแบคฮยอน
ร่างบางเดินขึ้นบันใดไปยังชั้นสามของตึก เพื่อที่จะไปหาครูประจำชั้นตามที่แม่เค้าได้บอกไว้เมื่อคืน
หลังจากที่เค้าคุยกับครูประจำชั้นได้ไม่นาน เสียงกระดิ่งก็ดังขึ้นทั่วโรงเรียน พร้อมกับเสียงนักเรียนมากมายที่กำลังทั้งวิ่งทั้งเดินไปยังห้องเรียนของตัวเอง เช่นเดียวกับแบคฮยอนที่ตอนนี้กำลังเดินตามหลังครูประจำชั้นของเค้าไปที่ห้องเรียน ริมฝีปากล่างที่ถูกกัดไว้อย่างติดเป็นนิสัยเหมือนทุกครั้งที่เค้ารู้สึกตื่นเต้น
“เอาหล่ะๆ ไปนั่งที่ตัวเองให้เรียบร้อย “ ครูประจำชั้นเอ่ยขึ้นทันทีที่เดินมาหยุดหน้าประตูห้องเรียนที่กำลังเปิดอยู่ นักเรียนหลายคนต่างพากันเดินไปนั่งประจำที่ตัวเองตามที่คุณครูสั่ง
“สวัสดีทุกคน วันนี้เรามีเพื่อนใหม่ที่พึ่งย้ายมาจากเกาหลี...ไบ๋เฉียน แนะนำตัวสิ” หลังจากที่อาจารย์พูดจบร่างบางก็เดินก้าวออกมายืนกลางห้องพร้อมกับส่งรอยยิ้มไปให้นักเรียนหลายคนที่นั่งอยู่หน้าห้อง
“สวัสดีครับ ผมชื่อแบคฮยอน ผมเป็นคนเกาหลี ชื่อภาษาจีนของผมคือไบ๋เฉียนครับ” เสียงปรบมือปนเสียงกรี๊ดดังขึ้นทันทีที่แบคฮยอนแนะนำตัวเองเสร็จ ถึงแม้ว่าเค้าจะไม่แน่ใจเลยก็ตามว่าเพื่อนร่วมห้องของเค้านั้นจะที่เค้าพูดไปเมื่อกี้หรือเปล่า
“เอาหล่ะ, ไบ๋เฉียนเธอไปนั่งข้างจือเทาแล้วกัน” หลังจากที่ครูประจำชั้นพูดจบแบคฮยอนก็เดินไปที่โต๊ะริมหน้าต่างหลังห้องตามที่ครูชี้บอก แต่พอเดินไปถึงโต๊ะที่ครูบอกนั้นร่างบางกลับยืนอยู่เฉยๆไม่ยอมนั่งลง จนกระทั่งคุณครูประจำชั้นเอ่ยบางอย่างขึ้นมา
“ฮวัง จือเทา เอาขาของเธอลงจากเก้าอี้เดี่ยวนี้ !” ทันทีที่สิ้นเสียงดุจากคุณครู ร่างสูงก็เลือนขาตัวเองลงมาจากเก้าอี้ตัวข้างๆที่เมื่อสามวินาทีที่แล้วเคยว่าง
“ขอบใจ” แบคฮยอนเอ่ยเบาๆก่อนจะเอากระเป๋าวางไว้ตรงพื้นข้างโต๊ะแล้วนั่งลงไปตรงเก้าอี้ข้างๆอีกคน ที่ตอนนี้กำลังจ้องหน้าเค้าอยู่อย่างไม่วางตา แต่ทันทีที่ครูเริ่มสอน คนร่างสูงก็ละสายตาจากอีกคนข้างๆหันไปหยิบหนังสือเล่มหน้าขึ้นมาเปิดตั้งชันไว้บนโต๊ะ แล้วก็ก้มหัวลงฟุบนอนกับโต๊ะทันที
เวลาผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วโมงคนร่างสูงที่นอนอยู่ก็ไม่มีท่าทีที่จะตื่นขึ้นมาสนใจโจทย์เลขบนกระดานเลย จนกระทั่ง
“จือเทา” เสียงคุณครูเรียกดังมาจากหน้าห้อง แต่คนที่กำลังฟุบหลับอยู่นั้นกลับไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองอะไร
“ฮวัง จือเทา” คุณครูพยายามจะเรียกชื่อร่างสูงอีกครั้งพร้อมกับเพิ่มระดับความดังของเสียงที่ดังอยู่แล้ว ให้ดังแสบแก้วหูขึ้นไปอีก
เมื่อแบคฮยอนเห็นท่าว่าคนร่างสูงข้างๆนั้นคงจะหลับจริง ร่างบางจึงตัดสินใจ ใช้ศอกของตัวเองไปสะกิดที่บริเวณหัวไหล่ของอีกคน แล้วก็เป็นอันได้ผลเพราะคนที่กำลังหลับอยู่นั้นได้สะดุ้งตื่นขึ้นมาทันที พร้อมกับหันหน้ามาจ้องแบคฮยอนที่นั่งตกใจอยู่ข้างๆ
“ฮวัง จือเทา คำตอบข้อสิบ” คุณครูเอ่ยขึ้นอีกครั้งพร้อมกับใช้ไม้เรียวเล่มยาวชี้ไปที่โจทย์เลขบนกระดาน ส่วนร่างสูงที่พึ่งตื่นขึ้นมานั้นก็มองไปยังโจทย์เลขบนกระดาน สักพักก็หันกลับมามองอีกคนที่นั่งก้มหน้าอยู่ข้างๆแล้วก็หันกลับไปที่โจทย์เลขอีกครั้ง
มือเรียวค่อยๆเลื่อนสมุดคำตอบของตัวเองไปที่โต๊ะของจือเทาพร้อมกับรีบชักมือกลับมากุมไว้ที่หน้าตักอย่างเดิมทันที ร่างสูงก้มลงมองสมุดคำตอบที่ถูกเลื่อนมาไว้บนโต๊ะเค้าเมื่อกี้เพื่อหาคำตอบ ก่อนที่จะเอ่ยคำตอบนั้นออกไป หลังจากนั้นก็หันมามองแบคฮยอนที่ยังก้มหน้าอยู่ข้างๆ แล้วก็เลื่อนสมุดของอีกคนกลับไป
“ขอบใจ” เสียงทุ่มนั้นเอ่ยออกมาเบาๆ สายตายังจับจ้องอยู่กับอีกคนที่ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาสักที
“อืม” ร่างบางเอ่ยออกมาเบาๆเช่นกัน แต่สายตานั้นก็ยังคงมองต่ำไปที่มือของตัวเองที่วางอยูบนตัก
“นายเก่งเลขหรือเปล่า” จือเทาเอ่ยถามออกไป ทำให้แบคฮยอนตกใจเล็กน้อยแล้วก็หยุดคิดสักพักเพื่อแปลคำถามที่ร่างสูงเอ่ยถามออกมาเมื่อกี้
“....ไม่แน่ใจ” ร่างบางเอ่ยตอบไปเท่าที่ความรู้ทางด้านภาษาจีนของเค้าจะสามารถ
“ อย่างน้อยก็คงจะเก่งกว่าฉัน “ ร่างสูงเอ่ยประโยคที่ยาวกว่าถูกเอ่ยออกมา ทำให้แบคฮยอนหันขึ้นมามองหน้าเจ้าของประโยคเมื่อกี้ทันที เพราะหวังว่าการมองหน้าอาจจะทำให้เค้าเข้าใจสิ่งที่อีกคนพุดมากขึ้น แต่มันก็ไม่ได้ผล ร่างบางจึงแค่พยักหน้าไว้ก่อน แม้จะไม่ค่อยเข้าใจเลยว่าอีกคนพูดอะไรกับเค้าเมื่อกี้
“ดีเลย” เมื่อเห็นอีกคนยืนยันในสิ่งที่เค้าพูด จือเทาจึงตัดสินใจฟุบหัวลงไปนอนกับโต๊ะอีกครั้ง ปล่อยให้แบคฮยอนที่นั่งอยู่ข้างๆถึงกับงงว่าคงคนหมายถึงอะไร
“ดีเลย...อะไรดี...โถ่...ไม่น่าโดดคาบภาษาจีนเลย” ร่างบางบ่นกับตัวเองเบาๆ
……………………………………………………………
ปุ๊ก...เสียงกระดาษที่โดนขยำหล่นมากระทบหัวของแบคฮยอนแล้วก็ตกลงไปบนโต๊ะของเค้า ร่างบางหันไปมองทางบุคคลที่พึ่งโยนเจ้าก้อนกระดาษนั้นมาโดนหัวเค้าเมือกี้แต่ก็ไม่ได้ทำอะไร แบคฮยอนก้มหน้าลงอ่านหนังสือของตัวเองต่อ แต่เวลาผ่านไปไม่นานก็มีกระดาษอีกก้อนลอยมาโดนหัวเค้าอีกครั้ง ครั้งนี้ร่างบางไม่แม้กระทั่งที่จะหันไปมอง เพราะเค้าได้เตรียมใจมาแล้วกับเรื่องแบบนี้ คงเป็นเพราะตัวเค้านั้นเป็นคนที่ตัวเล็กกว่าใครๆจึงทำให้ดูเป็นคนน่าแกล้งและตกเป็นเป้าอยู่บ่อยๆ
ร่างบางเก็บกระดาษก้อนที่สองนั้นมาวางข้างอีกก้อนที่อยู่บนโต๊ะ แต่ยังไม่ทันได้วางลงไปกับโต๊ะ กระดาษก้อนนั้นในมือของแบคฮยอนก็ถูกอีกคนมาแย่งออกไปจากมือ
จือเทาที่ตอนแรกกำลังฟุบหลับลุกขึ้นมา พร้อมกับรวบเอากระดาษทั้งสองก้อนที่อยู่บนโต๊ะร่างบางนั้นมารวมกันเป็นหนึ่งก้อน แล้วจัดการโยนมันกลับไปโดนหัวเจ้าของของมัน
“ถังขยะอยู่ตรงนั้น ฝากทิ้งด้วย” ร่างสูงเอ่ยออกมาโดยไม่สนใจเลยว่าเพื่อนร่วมห้องทีโดนปากระดาษใส่เมื่อกี้จะเจ็บขนาดไหน เพราะแรงที่เค้าใส่ไปเมือกี้ก็เยอะไม่ใช่น้อย
แบคฮยอนที่กำลังตกใจกับการกระทำของคนร่างสูงเมื่อกี้หันมามองหน้าอีกคน ที่ตอนนี้ก็จ้องเค้าตอบแต่ทั้งคู่ก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา จนคนร่างสูงนั้นฟุบลงไปกับโต๊ะอีกครั้ง
“ขอบใจ” ร่างบางเอ่ยออกไปเบา แต่ก็ดังพอทีจะให้อีกคนได้ยิน
เสียงออดดังขึ้นบอกเวลาพักเที่ยง นักเรียนทุกคนต่างพากันรีบวิ่งออกจากห้อง จนทำให้ตอนนี้เหลือเพียงแค่แบคฮยอนและร่างสูงอีกคนที่กำลังนอนฟุบหลับอยู่ข้างๆนี้ และไม่มีท่าทางว่าจะตื่นขึ้นมาซะด้วย
“คนอะไร เอาแต่นอน” แบคฮยอนบ่นออกมาเบาๆเป็นภาษาบ้านเกิดของตัวเองอย่างเคยชิน
“การซ้อมหนักทุกเช้ามันทำให้เหนื่อยรู้ไหม” เสียงทุ่มนั้นเอ่ยออกมาทำให้ร่างบางที่นั่งอยู่ข้างๆสะดุ้งเล็กน้อย แต่ที่ยิ่งทำให้ตกใจไปมากกว่านั้นคือเค้าเข้าใจทุกคำที่อีกคนเอ่ยออกมาเมื่อกี้ ถึงสำเนียงจะยังไม่เป๊ะก็ช่างเหอะ
“นาย...ทำไมนายพูดเกาหลีได้” ร่างบางเอ่ยออกมาด้วยสีหน้าตกใจ
“ตอนเด็กๆเคยอยู่ที่เกาหลี” เทาเอ่ยตอบออกไป แบคฮยอนก็ได้แต่พยักหน้ารับรู้โดยไมได้สักถามอะไรต่อ
“กินข้าวกัน” คนร่างสูงเอ่ยพร้อมกับยืนขึ้นทันทีโดยที่ไม่ลืมที่จะดึงแขนอีกคนให้ลุกขึ้นมาด้วย
เบคฮยอนที่กำลังงงอยู่กับทุกอย่างที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร ปล่อยให้อีกคนลากเค้าไปที่โรงอาหารอย่างที่ต้องการ
เมื่อทั้งคู่เดินมาถึงบริเวณโรงอาหาร สายตาหลายคู่ก็ต่างจับจ้องมาที่พวกเค้า ทำให้ร่างบางพึ่งรู้สึกตัวว่ามือของเค้านั้นกำลังถูกอีกคนจับแล้วจูงเค้าไปอยู่ แบคฮยอนจึงรีบดึงมือของตัวเองออกมาจากอีกคนทันที ทำให้คนที่กำลังเดินนำ อยุ่ข้างหน้านั้นหันมามองเล็กน้อย ก่อนจะมองไปรอบๆโรงอาหารทำให้ทุกคนก้มหลบสายตาคมนั้นทันที
“ทำไมทุกคนต้องมองพวกเราสองคนอย่างนั้นด้วยหล่ะ” แบคฮยอนที่ยังตื่นตากับทุกสิ่งทุกอย่างถาม
“ก็ฉันเป็นคนดังของโรงเรียน ไม่รู้รึไง” เทาตอบไปอย่างเรียบง่าย ก่อนที่มือหนานั้นจะกุมไปที่แขนของแบคฮยอนอีกครั้งแล้วดึงให้เดินไปนั่งที่โต๊ะอาหารด้วยกัน
“ทำไมนายถึงได้เป็นคนดังของโรงเรียนหล่ะ” แบคฮยอยถามขึ้นอีกครั้งหลังจากที่ทั้งสองเดินมานั่งที่โต๊ะในโรงอาหาร
คนร่างสูงไม่ได้ตอบอะไร เพียงแต่นั่งจ้องหน้าเจ้าของคำถามที่นั่งอยู่ตรงข้ามเค้าตอนนี้
“ถามเฉยๆไม่ได้รึไง ทำไมต้องจ้องหน้ากันขนาดนั้นด้วย” คนที่โดนจ้องบ่นงึมงำกับตัวเอง
“มองหน้าแล้วยังไม่รู้อีกหรอว่าฉันดังเพราะอะไร” เทาเอ่ยถามพรางจ้องหน้าแบคฮยอนอย่างไม่ละสายตา
“หน้าตาก็งั้นๆ ไม่เห็นจะหล่อตรงไหน”
“นี่!! คิดว่าก้มหน้าบ่นอย่างนั้นแล้วจะไม่ได้ยินรึไง” ไม่พูดป่าว ขายาวนั้นก็ยื่นไปเตะขาของอีกคนใต้โต๊ะเรียกสียงร้องจากแบคฮยอนทันที
“โอ้ย! ตัวก็โตแล้วน่ะ ทำไมชอบทำร้ายคนอื่นห๊ะ” คนถูกทำร้ายตะโกนออกมาเสียงดังโดยไม่ได้สนใจเลยว่าตอนนี้สายตาทุกคู่กำลังจ้องมาที่พวกเค้าทั้งสองคน
“ไหนบอกว่าหิวไง...ไปสั่งข้าวกินดีกว่า” แบคฮยอนเอยออกมาเบาๆก่อนที่จะลุกขึ้นเตรียมตัวเดินไปสั่งอาหาร
“เดี่ยว..รออยู่นี่แหละ เดี่ยวฉันไปสั่งให้” เทาลุกขึ้นยืนพร้อมกดไหล่แบคฮยอนให้นั่งลงไปอย่างเดิมแล้วก็เดินไปสั่งอาหารทันที ทิ้งให้แบคฮยอนที่นั่งอยู่ได้แต่มองตามอย่างสงสัย
“ยังไม่ทันได้บอกเลยว่าอยากกินอะไร”
。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。
จบไปแล้วหนึ่งตอน ฮุๆๆๆ เป็นยังไงบ้างค่ะ??
ตอนแรกเจนตั้งใจจะแต่งเรื่องนี้ให้เป็น SF แต่พอวางพล๊อตไปเรื่อยๆ เริ่มจะเยอะ จบไม่ลง 555+
เลยจัดหนัก ลงเป็นฟิคยาวเรื่องแรกของชีวิตเลย~~~
ชอบไม่ชอบยังไงก็ ติ ชม กันได้เลยน่ะค่ะ
อ่านจบแล้วอย่าลืมคอมเม้นท์บอกความคิดเห็นกันด้วยน้าาาา
ป.ล. ตอนหลังๆนู้นๆๆๆๆ มีคู่อื่นโผล่มาแน่นอน (คริสยอล อะแฮ่มๆๆ คริสยอล)
ความคิดเห็น