ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ลุ้นรักพนันหัวใจ คุณชายขี้เก๊ก

    ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่ 7+++แปลงโฉม (100%)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 528
      1
      27 พ.ค. 49

    ตอนนี้ที่หน้าผับแห่งหนึ่งกำลังมีผู้หญิงสองคนที่ท่าจะไม่ค่อยเต็มบาทเท่าไหร่ยืนฉุดกระชากลากถูกันอยู่ โดยอีกคนพยายามจะวิ่งหนี และอีกคนก็พยามดึงให้เข้าไปในผับ และตอนนี้คนก็เริ่มมองเธอทั้งสองคนอย่างสนุกสนาน และหนึ่งในสองคนนั้นก็คือฉันเอง

    ตาย บอกได้คำเดียวว่าตายดีกว่า

    "นี่อย่าดื้อซิ" ชินอาพยายามจะลากฉันเข้าไปในผับแห่งนึง

    "ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนซิ" ฉันร้องลั่น แถมส่งสายตาแบบอ้อนวอนสุดๆ ก็คิดดูซิ ตั้งแต่เกิดมาฉันเคยแต่งตัวแบบนี้ที่ไหนเล่า

    เสื้อแขนกุดสีขาวที่คอล่วงลึกจนฉันกำลังคิดว่าฉันแจกจ่ายนมสดให้ชาวบ้านอยู่ ส่วนกระโปรงหนังสีดำนี่ก็อีก ทั้งสั้นทั้งคันมันอะไรจะขนาดนี้ ถ้าไม่เพราะปากบ้าๆ นี่ฉันคงไม่ต้องแต่งตัวแบบนี้หรอก แถมหน้าที่ถูกแต่งนี่อีก ถึงมันจะถูกแต่งแบบอ่อนๆ ตามคำแนะนำของเจ๊เจ้าของร้านเสริมสวย แต่ยังไงมันก็ไม่ใช่หน้าฉัน แล้วไหนจะไอ้ผมที่รุงรังอยู่ตรงหน้าฉันอีก ปกติฉันจะต้องรวบผมเป็นหางม้าไว้ข้างหลังเสมอ เพราะผมฉันมันยาวแล้วมันก็มักจะเกะกะตอนที่ฉันกำลังสู้ด้วย แต่วันนี้ผมฉันถูกดัดเป็นลอนใหญ่ๆ คลอเคลียให้จั๊กจี้เล่นอยู่ข้างหูฉัน แต่ที่หนักสุดของเป็นรองเท้าส้นสูงที่ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยแม้แต่คิดจะลองใส่

    "เธอดูดีออก ไม่เอาน่า ไม่รู้ป่านนี้เฮมีมารึยังก็ไม่รู้" ชินอาพยายามจะลากฉันอีก

    นี่ถ้าเป็นเวลาปกติล่ะก็ฉันจะจับยัยนี่มัดแขนมัดขาแล้ววิ่งหนีซะเลย แต่นี่มันไม่ปกตินี่ เวลาจะก้าวทีก็กลัวจะเปิดหวอให้ใครดู แถมยังส้นสูงที่พอใส่แล้วฉันก็เดินเป็นเป็ดเลยอ่ะ

    "นี่!!!!อยากแพ้เฮมีใช่มั้ย" ชินอางัดไม้เด็ดขึ้นมาใช้

    และอยากนึกว่ามันจะไม่ได้ผล เพราะคำว่าแพ้ไม่เคยถูกบันทึกในหัวของโอซากะ วายะ อยู่แล้ว

    ฉันสะบัดมือจากชินอาแล้วตั้งหน้าเชิดเดินตรงเข้าไปในผับทันที (แต่ฉันก็เดินแบบตลกสุดๆ เพราะฉันเดิน 2 ก้าวก็ต้องสะดุดลมซักครั้งหนึ่ง) ทันทีที่พวกเราก้าวเข้าไปในผับดูเหมือนสายตาทุกคู่จะมาหยุดที่พวกเราทันที

    "มองอะไรว่ะ!" ฉันด่าผู้ชายที่ใกล้ที่สุด และก็เป็นชินอาที่ตีต้นแขนฉันอีกแล้ว

    "พูดดีๆ หน่อยซิ"

    เธอเป็นแม่ฉันรึไงเนี่ย ฉันเลยต้องหันไปยิ้มแหยๆ ให้ผู้ชายคนที่ฉันเพิ่งด่าไป

    "ชื่ออะไรล่ะน้องสาว" ผู้ชายคนนั้นเดินมาหาฉัน

    "ฉันเป็นน้องสาวนาย...โอ้ยยย เธอตีฉันอีกแล้วนะ" ฉันหันไปโวยชินอา

    "ขอโทษนะ แต่พวกเรามาหาคังชินจีนะ" พอชินอาพูดชื่อนายชินจีขึ้นมา เขาก็หน้าซีดแล้วหลีกทางแต่โดยดี

    "ใช้มุขนี้ได้ก็ไม่ใช้ตั้งแต่แรก ฉันเกือบจะเหยียบนายนั่นให้จมดินอยู่แล้ว" ฉันบ่น แต่ชินอากับไม่สนใจลากฉันไปต่อ

    ทำไมยัยนี่ชอบลากฉันเรื่อยเลยนะ ชาติที่แล้วฉันติดค้างอะไรยัยนี่รึเปล่าเนี่ย

    ชินอาลากฉันขึ้นมาที่ชั้นสองของร้าน แล้วก็หยุดซักประมาณ 10 วินาที ก่อนเธอจะออกแรงลากฉันต่อ แล้วฉันก็เห็นพวกเขาอยู่ที่นั่น พวกเขาอยู่กันครบทุกคนเลย รวมทั้ง ยัยเฮมี แล้วก็ฝาแฝดนรกอย่างจีนากับจียาด้วย

    "เข้าไปเลย" ชินอากระซิบฉัน

    "เธอก็เข้าไปด้วยกันซิ" ฉันร้องค้าน

    "เธอก็เดินไปก่อนซิ" ชินอาผลักหลังฉันใหญ่

    "ทำไมเธอ เฮ้ยยยยยยยย" ฉันร้องเสียงหลงทันทีที่ชินอาออกแรงผลักหลังฉันอีก และเพราะไอ้รองเท้าเฮงซวยฉันเลยเสียหลักเซถลาก่อนจะล้มลง

    ตุ๊บ

               

    "โอ้ยยยยยยยยยยยยยย" ฉันร้องลั่น ก็ขาข้างที่แพลงเมื่อกี้นะซิ มันดันไปกระแทกกับโต๊ะอีก

    "วายะ!!!" มินโซร้องก่อนจะมาช่วยพยุงฉันให้ลุกขึ้น

    "วายะเป็นอะไรมั้ย" ชินอาก็เข้ามาช่วยพยุงฉันอีกคน

    "เจ็บซิถามได้ ฉันบอกเธอแล้วว่าฉันไม่เคยใส่ส้นสูงงี่เง่านี่" ฉันว๊ากชินอา ตอนนี้ฉันทำเป็นไม่สนใจนายชินจี

    "แก แกกล้าดียังไงถึงมานั่งตักชินจี แถมยังจูบเขาอีก" ยัยเฮมีที่โกรธจนควันออกหูผลักชินอาจนเธอล้มลงไปกองกับพื้นก่อนจะผลักมินโซที่พยุงฉันอยู่ เลยทำให้ฉันที่ยึดทั้งสองคนเป็นหลัก ล้มลงไปนั่งตักนายชินจีอีกรอบ

    "กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด" ยัยเฮมีกรี๊ดอีก

    ฉันมองหน้านายชินจีที่อยู่ห่างจากหน้าฉันแค่คืบ แล้วหัวใจมันก็พานเต้นแรงจนแทบจะออกมาเต้นแดนซ์ข้างนอกอยู่แล้ว

    "ลุกเดี๋ยวนี้นะ!!!" ยัยเฮมีกระชากแขนฉันให้ลุกขึ้น แต่เพราะมือของใครบางคนยึดเอวฉันไว้ ฉันเลยยังนั่งอยู่บนตักของใครคนนั้นต่อ

    "ปล่อยนะ" ฉันร้องบอกเขา

    "ชินจี เธอทำอย่างนี้ได้ไง!!" ยัยเฮมีทำท่าเหมือนจะร้องไห้

    "เธอไม่เห็นรึไงว่าเขาเจ็บขาอยู่ แล้วเธอยังจะดึงให้เขาลุกอีกงั้นเหรอ" ชินจีหันไปถามเฮมีเสียงเย็น

    ยัยเฮมีที่ทำท่าจะร้องกรี๊ดอีกเลยได้แต่หุบปากไปตามระเบียบ

    "เธอเป็นอะไรรึเปล่า?" ฉันได้ยินเสียงมินโซถาม ตอนแรกฉันก็กะจะตอบ แต่ดีที่ไม่ตอบเพราะไม่งั้นหน้าแตกระเอียดเพราะมินโซไม่ได้ถามฉัน เขาถามชินอา

    "ไม่เป็นไร แต่วายะ" ชินอารับมือของมินโซด้วยอาการหน้าแดงสุดๆ ก่อนจะรีบตรงมาหาฉันที่ยังคงนั่งอยู่บนตักของนายชินจี

    "เธอเป็นอะไรรึเปล่า?" ฉันถามชินอา

    "เธอซิ เจ็บมากมั้ย ขอโทษนะเพราะฉัน" ชินอาขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่

    "เจ็บซิ เจ็บมากด้วย" ฉันบอกชินอา แล้วเธอก็ถึงกับหน้าเสีย "ล้อเล่นนะ" พอฉันพูดต่อ เธอก็ยิ้มขึ้นมาได้

    "แน่ใจนะว่าไม่เจ็บมาก" มินโซถาม

     "อืม โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย" ฉันแหกปากด้วยเสียงแปดหลอด เพราะจู่ๆ มือใครก็ไม่รู้จับหมั่บที่ข้อเท้าฉันอย่างแรง

    ทั้งชินอาและมินโซมองหน้ากันก่อนจะหันมามองหน้าฉันกับชินจีสลับกันไปมา

    "ปากเก่งไปเหอะ อย่างนี้เดินไม่ได้แน่ๆ" นายชินจีก็คือเจ้าของมือที่บีบหมั่บที่ข้อเท้าฉัน

    "ก็ถ้านายไม่บีบแรงอย่างนั้นมันจะเจ็บเหรอ!" ฉันว่าเขาพลางพยายามจะดิ้นให้หลุดจากมือเขาที่ยังรวบเอวฉันอยู่

    "จะดิ้นทำไม เดี๋ยวก็หล่นตุ๊บไปอยู่กับพื้นอีก คราวนี้ขาเธอคงหักไปเลยแหละ" นายชินจีพูดขึ้น ฉันเลยหยุดดิ้น

    "ปล่อยซิ ฉันจะกลับบ้าน" ฉันบอกเขาเสียงอ่อย

    "กลับบ้านนะได้กลับแน่ แต่ต้องไปโรงพยาบาลก่อน" นายชินจีสั่ง

    นายเป็นพ่อฉันรึไงยะ สั่งอยู่ได้

    "ทำไมฉันต้องเชื่อนาย"

    "คงไม่ใช่เพราะฉันเป็นพ่อเธอหรอก" เขาพูดแล้วก็พยุงให้ฉันลุกก่อนที่เขาจะลุกตาม

    "ฉันไปกับชินอาก็ได้" ฉันบอกเขา

    "เธอคิดว่าจะเดินได้รึไงขาสภาพนี้นะ"

    "เอ่อ ฉันว่าเธอเชื่อชินจีดีกว่านะ" ชินอาพูดขึ้น

    ฉันเห็นนะชินอา สายตาที่เจ้าเล่ห์ของเธอนะ ถ้าเธอวางแผนไว้ล่ะก็ ฉันจะฆ่าเธอให้ตายเลย

    "ฉันอาจจะไม่กลับมาแล้วนะ ไว้เจอกันที่มหาลัยแล้วกัน" นายชินจีหันไปบอกพวกเพื่อนๆ เขาที่ตอนนี้ได้แต่ทำหน้าเอ๋อ เหมือนยังเรียบเรียงเหตุการณ์ไม่ทัน

    "ฉันไปด้วย ยังไงวายะก็อยู่บ้านฉัน" มินโซรีบร้องบอกทันที

    "ฉันไปด้วย" เสียงยัยเฮมีดังขึ้น และฉันก็แทบหัวเราะก๊ากออกมาเมื่อสองหนุ่งฮอตหันไปหาเธอและถามขึ้นพร้อมกัน

    "เธอจะไปทำไมนะ?"

               

    โรงพยาบาล

    "คงเดินไม่ถนัดซักสองสามวัน แต่ถ้าจะให้ดี ไม่ควรเดินมากจะดีกว่านะ" คุณหมอหันไปบอกชินจี

    "ขอบคุณครับคุณลุง" ชินจีพูด แล้วทั้งเขาและนายมินโซก็โค้งให้คุณหมอก่อนที่คุณหมอจะออกไป

    "รู้จักกันด้วยเหรอ?" ฉันถามทันทีที่คุณหมอออกไป

    "พ่อของจุนซองนะ" มินโซเป็นคนตอบคำถามฉัน ขณะที่นายชินจีได้แต่ยืนมองฉัน

    "นายจะมองฉันให้สึกไปเลยรึไง"

    "อย่างเธอนะ ไม่มีสึกหรอง่ายๆ หรอกออกจะบึกบึนขนาดนั้น" นายชินจีพูดก่อนจะเดินออกไปจากห้อง

    "อย่าสนใจหมอนั่น ชินไม่เคยพูดดีกับผู้หญิงคนไหนนอกจากมินอีกับนายอง" มินโซอธิบายก่อนจะช่วยฉันให้นั่งรถเข็น

    พอฉันออกจากห้องมาฉันก็เห็นชินอานั่งอยู่ด้านนอก

    "ทำไมเธอยังอยู่อีก!" ฉันร้องถามเธอ

    ชินอาเงยหน้ามองฉันแล้วก็ยิ้มให้

    "ไม่ต้องมายิ้ม เธอมันเจ้าเล่ห์นัก"

    "ฉันไม่ได้อยากให้เธอเจ็บตัวนะ แต่ถ้าเธอไม่เป็นไรแล้ว ฉันก็จะกลับแล้วล่ะ เจอกันที่มหาลัยแล้วกัน แล้วอย่าลืมแต่งตัวดีๆ มาล่ะ" ชินอาบอกก่อนจะเดินออกไป

    "นี่มินโซยัยนั่นเป็นผู้หญิงนะ ไปส่งหน่อยซิ" ฉันร้องบอก

    "นั่นซิ เดี๋ยวฉันจะบอกให้ชินไปส่งเธอแล้วกัน เพราะยังไงหมอนั่นก็มีรถ" มินโซรีบเดินตามชินอาไปทันที

    จะดูดีๆ นายนี่ก็สุภาพบุรุษเหมือนกันแฮะ

    ซักพักฉันก็เห็นนายชินจีเดินตรงมาที่ฉัน

    "นายมาทำไมนะ?" ฉันถามทันที บ้านช่องไม่มีกลับรึไง

    "อย่าหาเรื่องน่า" เขาพูดก่อนจะช้อนตัวฉันขึ้นอุ้ม

    "นายจะทำอะไรนะ!!!" ฉันโวยลั่นโรงพยาบาลทันที

    "เงียบน่า กว่าจะเข็นไปก็เสียเวลา สู้อุ้มไปเลยดีกว่า ง่ายกว่ากันเยอะ" เขาพูดเสร็จก็ออกเดินทันที

    แล้วไหนว่าตัวฉันหนักไง

              

    เมื่อเช้าฉันมาเรียนพร้อมนายชินจี เพราะมินโซโทรไปบอกให้เขามารับฉันมามหาลัย เพราะฉันยังเดินได้ไม่ถนัด แต่พอถึงมหาลัยฉันก็รู้สึกถึงสายตาแปลกๆ ของพวกผู้ชายที่จ้องมายังฉัน มันอาจจะแปลกเพราะตอนนี้ฉันเดินได้เพราะมีนายชินจีค่อยพยุงอยู่ แต่มันก็ไม่น่าจะเป็นสายตาหื่นแบบนั้น

    "เธอไปทำอะไรไว้นะ?" นายชินจีถามขึ้น

    "ฉันไปทำบ้าอะไรที่ไหน!" ฉันร้องบอก

    "แล้วทำไม..." ยังไม่ทันที่ชินจีจะพูดจบ ฉันก็เห็นชินอาวิ่งมาพร้อมกับอะไรบ้างอย่าง มันคล้ายๆ กระดาษแผ่นใหญ่หรือโปรเตอร์หรืออะไรทำนองนั้น

    "แย่...แล้ว...นี่...มัน...แย่...แน่...แน่..." ชินอาพูดคำหอบคำทำเอาฉันต้องรีบห้ามเธอเมื่อเธอจะพูดต่อ

    "หายใจก่อนแล้วค่อยพูด ฉันไม่รีบ"

    "โอ้ยยยย เธอแย่แน่" ชินอาร้องก่อนจะยื่นกระดาษแผ่นนั้นให้ฉัน

    ฉันรับมาแล้วก็แทบช็อก ก็มันเป็นภาพฉัน เฉพาะหน้านะที่เป็นฉัน ก็เพราะไอ้ส่วนลำตัวเนี่ยดูยังไงมันก็ไม่ใช่ฉัน ภาพที่ว่าก็คือภาพผู้หญิงคนนึงที่ใส่ชุดว่ายน้ำสุดสยิว โดยมีหน้าเป็นหน้าของฉัน

    ฉันหันหน้าไปสบตานายชินจีแบบไม่ได้นัดหมาย แล้วสีหน้าเขาก็มองไล่ไปจนถึงหน้าอกฉัน มันทำให้ฉันต้องเอาโปรเตอร์ตีหน้าเขาดังป๊าบ

    "เธอตีฉันทำไมเนี่ย?" เขาเอามือลูบหัวตัวเองปอยๆ

    "ก็นายมองอะไรล่ะ!!" ฉันหันไปถลึงตาใส่เขา นายนี่ไว้ใจไม่ได้จริงๆ แล้วฉันก็กลับมาสนใจโปรเตอร์ต่อ

    "ใครทำเนี่ย เธอไปสร้างศัตรูที่ไหนอีกรึเปล่า?" นายชินจีพูดขณะที่อีกมือลูบหน้าตัวเอง อีกมือก็ประคองเอวฉันไว้

    "ฉันเพิ่งย้ายมาได้ไม่ถึงเดือนเลยนะ" ฉันพูดขึ้น

    "แต่เธอก็มีเรื่องไปสองรอบแล้วนี่"

    นายนี่ถ้าทางจะหาที่ตาย

    "จะทำไงดี รูปถูกติดไปทั่วมหาลัยเลย" ชินอาที่ทนไม่ไวกับอาการไม่ทุกข์ไม่ร้อนของฉันพูดขึ้นอย่างร้อนใจ

    "ไม่ทำไงหรอก ปล่อยไปซิ ความจริงมันก็น่าเก็บไว้นะ" ฉันพูดอย่างอารมณ์ดี ส่วนชินอากับชินจีมองหน้าฉันอย่างงงๆ

    พวกเธออย่ามางงพร้อมกันซิ มีอะไรน่างงซักหน่อย

    "เธอจะปล่อยให้โปรเตอร์ถูกติดไว้แบบนั้นเหรอ?" นายชินจีถาม

    "อืมมม แล้วไงล่ะ ดูก็รู้ว่ามันตัดต่อ ดูซิฉันมีที่ไหนล่ะไอ้ลูกแตงโมสองลูกเนี่ย" ฉันพูดพลางชี้ไปที่ภาพ

    "เธอต้องบ้าแน่ๆ" ชินอาครางอย่างหมดแรง

    "เธอไม่กลัวทางมหาลัยว่าเอาเหรอ?"

    "กลัวทำไม มันไม่ใช่ฉันซะหน่อย ถึงหน้าจะใช่ก็เถอะ ฉันนะคัพบียังใส่ไม่ได้เลย นับภาษาอะไรกับแตงโมสองลูก แต่ความจริงมันน่าจะเก็บไว้เป็นที่ระลึกนะเนี่ย" ฉันพูดพลางรีบม้วนโปรเตอร์กลับใสกระเป๋า

    ส่วนสองชิน (ชินอากับชินจี) ก็ได้แต่ยืนมองฉันอย่างงงๆ


              

    และก็เป็นอย่างที่นายชินจีพูดทันทีที่ฉันหย่อนก้นลงนั่ง ฉันก็ถูกเรียกไปที่ห้องพักอาจารย์ทันที

    "นี่มันอะไรกัน?" อาจารย์หยิบโปรเตอร์มาวางตรงหน้าฉัน

    "หนูไม่รู้คะ" ฉันตอบตามตรง

    "เธอไม่รู้แต่นี่มันรูปเธอนะ"

    "หนูยอมรับว่าหน้านี่เป็นหน้าหนูแต่ไอ้แตงโมสองลูกนี่ไม่ใช่ของหนูนะ" ฉันตอบ

    "อะไรของเธอแตงโมสองลูก?" อาจารย์ทำหน้างง

    "โธ่ อาจารย์ค่ะ ก็ดูอกหนูกับอกผู้หญิงในภาพซิมันเหมือนกันที่ไหน ถ้าหนูมีขนาดนั้นก็ดีนะซิ แล้วอีกอย่างนะคะ ต่อให้โง่แค่ไหนมันก็ต้องดูออกว่ามันเป็นภาพตัดต่อ เพราะฉะนั้นอาจารย์ไม่ต้องกังวลนะคะ หนูไม่เอาเรื่องคนที่ทำหรอกคะ" ฉันพูด แต่ฉันก็ไม่รู้ว่าฉันพูดผิดตรงไหน เพราะอาจารย์ที่ว่าฉันเมื่อกี้เป็นลมหงายหลังตกเก้าอี้ไปแล้ว

    โครม!!!!

    "อาจารย์!!!!!" ฉันร้องลั่น แล้วอาจารย์ในห้องก็รีบมาช่วยปฐมพยาบาลกันเป็นการใหญ่

    "ได้ยินว่าเธอทำอาจารย์เป็นลมเหรอ?" ยูจิถามขึ้นเมื่อฉันเปิดประตูห้องศิลปะ

    "ฉันไม่ได้ทำนะ แกเป็นลมเองต่างหาก" ฉันตอบ ฉันไม่ได้ทำอะไรซักหน่อย ฉันก็แค่ตอบตามตรงเท่านั้น

    "เอาเหอะ ถึงอย่างไงเธอก็คงไม่ยอมรับว่าผิด ขานะไม่เจ็บแล้วเหรอ?" ยูจิยิ้มก่อนจะชี้ไปที่ข้อเท้าฉัน

    "โอ้ยยย นิดหน่อยน่า มันเจ็บก็จริงแต่จะทำไงได้ล่ะ" ฉันพูดก่อนจะนั่งลงข้างๆ เขา เขากำลังวาดภาพผู้หญิงคนนึงอยู่เธอสวยมากๆ เลย แต่มันดูคุ้นๆ นะ

    "รูปใครนะ?"

    "รูปมินอีนะ รุ่นพี่ซูยองขอให้ฉันวาดให้" เขาตอบ

    "เธอหน้าตาคุ้นๆ เหมือนฉันเจอเธอที่ไหนนะ"

    "ไม่เจอหรอก พอเธอมามินอีก็ไปพอดี" ยูจิพลางมองหน้าฉันขำๆ

    "ฉันไม่ได้ล้อเล่นนะ ฉันเคยเจอเธอจริงๆ แต่มันจำไม่ได้นี่ซิว่าที่ไหน" ฉันพึมพำ

    "สนามบินนะ วันที่เธอปารองเท้าใส่หัวฉัน ผู้หญิงที่อยู่กับฉันที่สนามบินไง" นายชินจีที่มาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้พูดขึ้น

    "ผู้หญิงคนแรกที่เตี้ยกว่าฉันนี่เอง" ฉันนึกออกจนได้

    "ผู้หญิงคนแรกที่เตี้ยกว่าเธองั้นเหรอ?" ยูจิถามอย่างสงสัย ขณะที่นายชินจีเริ่มหัวเราะ

    "ก็วันนั้น นายนี่ด่าว่าฉันเตี้ย แล้วก็ว่าคงไม่มีผู้หญิงคนไหนเตี้ยกว่าฉัน แต่เขาไม่ได้ดูเลยว่าผู้หญิงที่ยืนข้างๆ เขาเตี้ยกว่าฉันตั้งเยอะ" ฉันอธิบาย พอฉันอธิบายจบยูจิก็หัวเราะอีกคน

    "นั่นซิ เธอเองก็สูงใช่เล่นเลยนะ ในบรรดาพวกเรามินโซเตี้ยที่สุด แต่หมอนั่นก็สูงตั้ง 183 เซนฯ" ยูจิพูดขึ้นหลังจากพยายามกลั้นหัวเราะ

    "นี่พวกนายต้องเป็นญาติเป็นเสาไฟฟ้าแรงสูงแน่ๆ" ฉันตอบ และก็ทำให้พวกเขาหัวเราะอีก

    และจู่ๆ คำพูดหนึ่งของชินอาก็ลอยเข้ามาในหัวฉัน

    เธอบ้ารึไง เจ้าชายอ่ะนะจะเป็นคนแบบนั้น เขาออกจะเงียบๆ ขรึมๆ แต่ถ้าเห็นเขายิ้มล่ะก็...อ๊า ให้ตายก็คุ้ม

    ฉันเลยต้องหันไปมองนายชิจีที่ตอนนี้หัวเราะจะเป็นจะตายอยู่กับยูจิ เขาก็มีรอยยิ้มที่ชวนใจละลายเหมือนกันแฮะ คงจริงอย่างที่ชินอาพูด ตายก็คุ้มถ้าได้เห็นหมอนี่ยิ้ม

    "เธอจ้องหน้าฉันทำไม?" เหมือนเขาจะรู้ตัว เพราะเขาหันมาถามฉัน เล่นเอาฉันแทบหลบสายตาไม่ทัน

    "ปะ เปล่า ฉันแค่เห็นว่าเวลานายยิ้มมันดีกว่าตอนนายทำหน้าบูดๆ นะ" ฉันตอบเขา

    "ว่าแต่ นึกยังไงเมื่อวานถึงแต่งตัวแบบนั้นนะ" ยูจิถามขึ้นท่ามกลางความเงียบอันน่าอึดอัด

    "ฉันไม่ได้อยากแต่งแบบนั้นนะ แต่ชินอานะซิบังคับฉัน" ฉันร้องเสียงหลง

    "แล้วทำไมคนอย่างเธอถึงยอมให้คนอย่างยัยนั่นบังคับล่ะ?" นายชินจีถามขึ้นอีก

    ฉันเป็นนักโทษของพวกนายรึไง ทำเป็นตำรวจเล่นสอบสวนผู้ร้ายไปได้

    "ไม่มีอะไรหรอก ชินอาบอกว่าฉันควรทำตัวให้เหมือนผู้หญิงหน่อยก็เท่านั้น แต่ยัยนั่นก็เป็นเพื่อนที่ดีนะ" ฉันรีบตอบทันที

    "ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่" นายชินจีพูด

    "แต่ฉันว่าเราน่าจะมาลุ้นกันนะ มันน่าสนุกดีออก" ยูจิพูดพลางยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

    "ลุ้นอะไร?" ฉันกับนายชินจีถามพร้อมกัน

    "ก็ลุ้นว่าเพลย์บอยอย่างมินโซกับคุณหนูอย่างเพื่อนเธอจะเป็นอย่างไงนะซิ" จบคำอธิบายของยูจิฉันก็ถึงกับอึ้ง

    ใครให้เขาคิดอะไรที่เป็นไปไม่ได้อย่างนี่เนี่ย มันเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติเลยนะถ้าจะให้ผู้หญิงที่เรียบร้อย (ถึงจะไม่ถึงกับผ้าพับไว้) อย่างชินอากับสุดยอดกะล่อนอย่างมินโซให้ชอบกันเนี่ยนะ

    รอให้ฟ้าถล่มดีกว่า

    ………………………………………………………………………

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×