ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ลุ้นรักพนันหัวใจ คุณชายขี้เก๊ก

    ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 4+++ทำไมนายต้องอยู่ทุกที่ที่ฉันอยู่นะ(100%)

    • อัปเดตล่าสุด 27 พ.ค. 49


    ปวดหัว

    ความรู้สึกแรกที่ฉันรู้สึก แถมมันไม่ใช่ปวดหัวธรรดา มันปวดมาก ปวดแบบหัวจะระเบิด และฉันก็รู้สึกว่ามันมีอะไรบางอย่างอยู่พันอยู่รอบหัวด้วย

    แล้วไอ้เสียงคุยที่น่ารำคาญรบกวนเวลานอนของฉันเนี่ย มันกล้าดียังไง ทำไมไม่ออกไปคุยข้างนอกวะ

    "นายว่าเธอเป็นอะไรรึเปล่า?" เสียงคุ้นแต่ชวนอยากหนีดังขึ้น

    "ไม่รู้ซิ เลือดออกเยอะมากเลย ว่าแต่นายจะบอกอานายยังไงนะ" เสียงอีกเสียงเป็นเสียงของคนที่ทำให้ฉันรู้สึกหมั่นไส้

    "ก็ไม่เห็นยากเลย ก็บอกว่าเธอไปมีเรื่องและเซ่อทำให้ตัวเองโดนตีหัวไง" เสียงผู้หญิงดังขึ้น

    ยัยนี่เป็นใครกัน ใครทำตัวเซ่อจนทำให้ตัวเองโดนตีหัว ฉันนะโดนไม้หล่นใส่หัวต่างหาก

    "งั้นทำไง..." เสียงผู้หญิงดังขึ้นอีก

    "ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น ออกไปให้หมดเลยไป๊!!!" ฉันหมดความอดทนเลยแหกปากขึ้น

    ใครที่ไหนเขาจะมานอนฟังพวกเธอนินทาตัวเองระยะเผาขนแบบนี้

    "ฝื้นแล้วเหรอ" เสียงชวนหมั่นไส้ดังขึ้น

    "..." ฉันมองหน้าเขาแล้วก็มองหัวคนที่อยู่รอบๆ แล้วก็ต้องตกใจ ทำไมทุกคนต้องยื่นหัวมาอยู่เหนือเตียงฉัน

    "เป็นอะไรเปล่า ให้ฉันตามหมอมั้ย?" เขาพูดขึ้นอีก

    ตอนนี้ฉันกำลังมองไปรอบๆ และด้วยภาพคุ้นตา (ตอนอยู่ญี่ปุ่นมีเรื่องบ่อย แล้วโรงพยาบาลไม่ว่าที่ใดในโลกก็เหมือนกัน กำแพงที่ขาวกับกลิ่นยาที่ชวนอ้วก)  นี่มันโรงพยาบาลนี่หว่า ทำไมฉันมาอยู่ที่นี้ได้ล่ะ ฉันกระเด้งลุกขึ้นมาทันที และก็ต้องล้มลงไปสู่อ้อมแขนใครบางคนที่มารับฉันทันก่อนที่ฉันจะเอาหัวตัวเองกระแทกเตียงอีก

    "ทำอะไรนะ ลุกพรวดขึ้นมาแบบนั้น" เขามองฉันอย่างโมโห

    ฉันมองหน้าเขาอย่างตกใจ ก็หน้าเราใกล้กันนิดเดียวเอง แถมนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ฉันมองตาเขาใกล้แบบนี้ ตาของเขามันก็ไม่เชิงสีเขียวนะ มันออกจะเป็นสีน้ำเงิน หรือว่า...ฉันว่ามันคล้ายน้ำทะเลมากกว่า หมอนี่มีความสามารถในการเปลี่ยนสีตาตัวเองด้วย

    "มองฉันทำไม?" เขาพูดแล้วก็ค่อยๆ วางฉันลงบนเตียง

    "โรงพยาบาลเหรอ?" ฉันถามเขาทันที

    "แสดงว่าสมองเธอไม่ได้เสื่อม" เขาพูดขึ้นก่อนจะถอยหลังไปนั่งที่เก้าอี้

    นายนี่ถ้าจะอยากโดนฟาดปากจริงๆ แหะ

    "เธอไม่เจ็บใช่มั้ย?" นายมินโซเสนอหน้าเข้ามาซะใกล้ เล่นเอาฉันตกใจหมด

    "โอ้ยยย ออกไปห่างๆ นะ นายคิดว่าการโดนไม้หน้าสามหล่นใส่หัวเนี่ยมันไม่เจ็บใช่มั้ย งั้นเดี๋ยวฉันจะเอาไม้ตีหัวนาย แล้วนายบอกฉันด้วยนะว่านายเจ็บรึเปล่า" ฉันพูดอย่างรำคาญ

    "ไม่เอาดีกว่า" นายมินโซพูดหน้าจ๋อย ขณะที่เพื่อนๆ เขาพากันหัวเราะ

    "ฉันมาอยู่ที่นี้ได้ไง?" ฉันหันไปถามผู้ชายที่ฉันจำได้ว่าเขาชื่อยูจิ

    "ชินอุ้มเธอมา ชินเห็นเธอหายไปนานเลยบอกว่าจะไปตาม แต่พอเขากลับมา เขากลับอุ้มเธอที่หมดสติไปแล้วมาแทน แถมหัวยังมาเลือดออกด้วย แต่โชคดีที่ชินเอาผ้าเช็ดหน้าของเขาห้ามเลือดให้เธอ แล้วเขาก็อุ้มเธอมาถึงโรงพยาบาลนี่แหละ" ยูจิอธิบาย

    แต่ฉันรู้สึกว่าในห้องนี่มันร้อนขึ้นมากระทันหันแหะ แต่ดูจากคนรอบข้างคงไม่รู้สึกเหมือนฉัน ฉันเหลือบไปมองนายชินจีที่ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม

    "เธอโชคดีนะ ที่ชินไปเจอถ้าไม่งั้นเธอแย่แน่" ผู้หญิงคนเดียวในห้องพูดขึ้น

    เธอเป็นเจ้าของเสียงเมื่อกี้ซินะ

    "ฉันคงโชคดีกว่านี้ถ้าไม่ทำตัวเซ่อเอาหัวไปฟาดกับไม้หน้าสาม" ฉันตอบเธอกลับ แล้วเธอก็ถึงกับหน้าแดง ขณะที่ผู้ชายที่อยู่ข้างเธอจับไหล่เธอไว้แน่น

    "ถึงเธอไม่ได้เซ่อที่เอาหัวไปฟาดไม้ แต่เธอคิดยังไงถึงไปมีเรื่องกับผู้ชายที่ตัวโตกว่าเธอแบบนั้น" นายชินจีรีบพูดทันที

    อย่านึกว่าฉันไม่รู้ว่านายกำลังปกป้องเธอนะ

    "ฉันไม่ได้หาเรื่องนายนั่นก่อน นายนั่นต่างหากที่หาเรื่องฉันก่อน ก็เขาดันพูดถึงสองคนนั่น" ฉันตอบอย่างไม่ทันคิด แล้วก็ต้องอยากตบปากตัวเอง

    "สองคนนั่น ใครนะ?" นายมินโซถามทันที

    "แล้วมันเกี่ยวกับนายตรงไหนนะ" ฉันตอกกลับ

    "ฉันว่าถ้าเธอไม่เป็นอะไรแล้ว พวกเรากลับกันเถอะ" ผู้ชายที่ฉันจำได้ว่าเขาชื่อจุนซองพูดขึ้นขณะที่โอบผู้หญิงคนนั้น

    "เธออย่าจ้องจุนซองให้มากนัก เขาเป็นของฉัน!" นายองพูดขึ้นทันที

    "ฉันไม่สนเขาหรอก เขาเหมาะกับเธอดี แล้วอีกอย่างฉันไม่ชอบคนที่เขามีคนอื่นอยู่แล้วหรอก" ฉันพูดเสียงเย็น

    แต่แทนที่เธอจะโกรธ เธอกลับเดินเข้ามาใกล้ฉันแล้วก็ยิ้มหวานให้ฉัน ฉันว่าถ้าฉันเป็นผู้ชายล่ะก็ฉันจะพาเธอหนีไปให้ไกลเลยล่ะ

    "เธอคิดงั้นเหรอ?"

    "นายอง ไม่เอาน่า" จุนซองส่ายหัวขณะที่คนอื่นเริ่มหัวเราะ

    "ใช่ซิ เซอิจิถึงไม่หล่อ ไม่ฉลาด แต่เขาก็เป็นคนใช่ได้ แต่..." ฉันหยุดพูดทันทีที่รู้ว่าตัวเองพูดอะไรออกไป

    "เซอิจิเหรอ?" นายองมองหน้าฉันอย่างตั้งคำถาม

    "ไม่มีอะไรหรอก" ฉันปฏิเสธแล้วก็เอาผ้าห่มขึ้นมาคลุมหัวทันที

    "นี่ เธอ เดี๋ยวซิ" นายองโวยวายลั่น

    "ไม่เอาน่า พอเหอะนายอง วายะเขาคงอยากพักผ่อน" จุนซองพูดขึ้น

    "แต่..."

    "เอาเป็นว่าเรากลับกันให้หมดเลยแล้วกัน ส่วนนายก็เฝ้าเธอไปล่ะกัน แล้วอย่าลืมโทรบอกทางบ้านล่ะ" ฉันได้ยินเสียงนายชินจีพูดก่อนที่ทุกอย่างจะเงียบลง

    "ให้มันได้อย่างนี้ซิ มาถึงวันแรกก็สร้างปัญหาเลย อย่างนี้ฉันจะดูแลเธอไหวได้ยังไง" ทันทีที่ยัยป้ามาถึงเธอก็เอาแต่บ่นไม่หยุดปาก

    "เอาน่า มันไม่ใช่ความผิดเธอนะ ความผิดผมที่ดูแลเธอไม่ดีต่างหาก" นายมินโซพูดอย่างออกตัว

    ใครใช้ให้นายมาออกรับแทนฉัน ฉันไม่ต้องการเลยซักนิดย่ะ

    "ถึงอย่างนั้นก็เถอะ แล้ววันนี้จะไปมหาลัยได้ยังไงกัน" ยัยป้าพูดขึ้นอีก ดูท่าทางเธอจะอ่อนลงแล้ว

    "ฉันไปไหวคะ แค่หัวแตก ไม่ได้เป็นอะไรมากซักหน่อย"

    "มันก็แน่อยู่แล้ว เธอนะดีแต่หาเรื่อง ควรรู้ซะบ้างนะว่าแม่เธอส่งเธอมานี่เพราะเธอนะมันน่าเบื่อ" ยัยป้าพูดขึ้นอีก แต่คราวนี้มันจี้ใจฉันนะ

    "พอเถอะน่า วันนี้เธอจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น เธอต้องนอนที่นี้จนกว่าแผลจะหาย เรื่องเรียนผมจะไปจัดการให้ เอกสารเธออยู่ไหน?" นายมินโซพูดขึ้นเสียงดัง ทำเอายัยป้าหงอไปเลย

    "อยู่ที่โต๊ะข้างหัวเตียงที่ห้องฉัน มันมีแค่นั้นแหละ ไม่รู้จะพอรึเปล่า?" ฉันพูด

    "อืม งั้นก็ดี เธอนอนพักซะ ส่วนคุณก็กลับบ้านกับผม เดี๋ยวผมจัดการเรื่องเรียนของวายะเอง" นายมินโซพูดอย่างเด็ดขาด

    ยัยป้าได้แต่มองหน้าฉันอย่างอาฆาตก่อนจะเดินตามนายมินโซออกไป

    เฮ้ออออ ออกไปได้ซักที ไม่ใช่ฉันไม่สังเกตนะว่าทุกคนในบ้านไม่แค่ไม่กล้าขัดใจนายมินโซเท่านั้น แต่ดูเหมือนนายมินโซเนี่ยจะเป็นเจ้าของบ้านซะงั้น ก็เขาสั่งทุกคนได้หมดเลยนี่

    แต่เอาเถอะ อย่างน้อยตอนนี้ฉันก็จะได้นอนซักที

    หลังจากที่ต้องนอนโรงพยาบาลตั้ง 2 วัน (เพราะนายมินโซไม่ยอมให้ฉันออกจนกว่าเขาจะแน่ใจว่าฉันไม่เป็นไรแล้ว) วันนี้ฉันก็สามารถมาเรียนได้

    "นักศึกษาปีหนึ่งต้องเรียนวิชาหลัก 3 ตัวด้วยกัน ส่วนวิชาอื่นๆ จะแยกตามสาขาหรือคณะที่เรียน มีกิจกรรมชมรมให้เลือกมากมาย อันนี้ก็แล้วแต่เธอจะเลือกอะไร" อาจารย์อธิบายขณะพาฉันมาที่ห้อง

    ครืดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

    "เอาล่ะ เธอเข้าไปหาที่นั่งได้" อาจารย์สั่งฉันทันที

    ฉันมองไปรอบๆ ห้องแล้วก็เห็นเก้าอี้ด้านหลังสุดที่ว่างอยู่ฉันจึงเดินไปนั่งทันที

    "เธอเป็นเด็กใหม่ใช่มั้ย?" ทันทีที่ฉันนั่งผู้หญิงที่นั่งอยู่ก่อนแล้วก็ถามฉัน

    "จะว่างั้นก็ได้"

    "เธอมากับคองมินโซจริงเหรอ?" เธอถามฉันอีก

    "อืม"

    "เธอรู้จักพวกเขาทุกคนเลยเหรอ ทั้งคิง ควีน เจ้าชาย แล้วก็อัศวินนะ" เธอถามฉันอย่างตื่นเต้น

    แต่คราวนี้กลับเป็นฉันที่ตกใจ คิง ควีน เจ้าชาย อัศวิน เนี่ยนะ สมัยนี้เนี่ยนะ

    "นี่เธอไม่รู้อะไรเลยเหรอ?" เธอทำตาโต

    แล้วมันเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องรู้รึไง เธอถึงได้ทำหน้ายังกับว่าโลกจะแตก

    "ตายแล้ว เป็นไปได้ไงเนี่ยยยยยย ช่างเถอะ เพราะเธอเป็นเด็กใหม่ หรืออาจจะเพราะเธอรู้จักพวกเขาเลยไม่สนใจเท่าไหร่ แต่ต่อไปนี้เธอต้องระวังตัวไว้นะ เพราะผู้หญิงคนอื่นคงไม่คิดแบบฉันหรอกนะ" เธอพูดขึ้นอีก

    "ฉันชื่อวายะ เธอชื่ออะไรนะ?" ฉันตัดบททันที นี่ยัยนี่คุยเรื่องนายพวกนั้นกับฉัน โดยไม่คิดจะถามชื่อฉันเลยรึไง

    "โอ้ยยย ลืมไปเลย ฉันชื่อลีชินอา ฉันเรียนคณะศิลปกรรม" เธอทำหน้าตกใจก่อนจะแนะนำตัวเอง

    "ฉันก็เรียนศิลปะ งั้นเราคงได้เรียนด้วยกัน" ฉันตอบเธอ ฉันดีใจจริงๆ ถึงจะไม่ค่อยชอบเวลาที่เธอพูดด้วยท่าทางเพ้อฝันเวลาคุยเรื่องคิง ควีน เจ้าชาย แล้วก็ไอ้อัศวินงี่เง่าอะไรนั่น

    "เธอควรรู้นะว่ามหาลัยนี้มีหนุ่มฮอตทั้งหมด 7 คน แถม 1 สาวฮอตอีกหนึ่ง แต่ถ้านับยัยนั่นด้วยก็เป็น 2 นะ แต่สำหรับฉันไม่นับหรอก" เธอพูดพลางชี้ไปที่ผู้หญิงคนนึงที่นั่งข้างผู้ชายคนนึงที่ชวนให้รู้สึกคุ้นตา

    "ทำไมเธอคิดฉันต้องรู้ว่าใครหล่อ ใครแฟนใคร หรือใครสวยกว่าใคร" ฉันถาม ไม่ว่าจะเกาหลีหรือญี่ปุ่น พวกผู้หญิงก็คิดกันแต่เรื่องแบบนี้ซินะ แต่สำหรับฉันนะ ความคิดที่สนุกที่สุดคือวันนี้จะไปตีกับใครดี

    "ก็เพราะมันจำเป็นมาก เพราะเธอมากับ 1 ใน 4 อัศวินนะ" เธอพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

    "1 ใน 4 อัศวิน ฉันมากับเขาเมื่อไหร่ ฉันมากับนาย...อย่าบอกนะว่า" ฉันถามอย่างตกใจ

    "ใช่ เขาเป็น 1 ใน 4 อัศวิน คิงก็คือคิมจุนซอง แต่คนนี้เธอหมดสิทธิไปได้เลยเพราะเขามี ควีนของเขาอยู่แล้วก็คือยูนายอง เธอสวยมากๆ เลยนะ เธอเป็นผู้หญิงที่ทำให้ผู้หญิงทุกคนอิจฉาได้ เธอมีคิงเป็นแฟน แถมพี่ชายเธอก็ยังติด 1 ใน 7 หนุ่มฮอตด้วย แต่เพราะเขาค่อนข้างน่ากลัวนะ เลยไม่ค่อยมีใครเข้าใกล้เขาเท่าไหร่ ส่วน 4 อัศวินก็คือ คองมินโซ อันโซ ยูจิ จีอึนโซ อันซูจิน พวกเขาเก่งคนล่ะด้าน มินโซมีชื่อเรื่องเพลย์บอยสุดๆ ยูจิเป็นอัฉริยะเรื่องเรียน อึนโซเป็นนายแบบชื่อดัง ซูจินเป็นอัจฉริยะด้านกีฬา ส่วนหนึ่งเจ้าชายก็คือ คังชินจี เขาเป็นคนที่ทำให้ผู้หญิงทุกคนอยากเป็นเจ้าหญิง" จบคำบรรยายสดของชินอาฉันก็แทบหัวเราะ

    ก็มีที่ไหนตั้งตำแหน่งบ้าๆ บอๆ อย่างคิง ควีน เจ้าชาย อัศวิน แล้วคิดดูซิ มีทั้งคิงกับควีน แล้วนี่นายชินจีนั่นเป็นลูกของคิงกับควีนรึไง ใครเป็นคนคิดเนี่ย โอ้ยยยยย จี้ชะมัดเลย

    "เธอขำอะไรนะ?" ชินอามองหน้าฉันงงๆ

    "พวกเธอคิดได้ไงเนี่ย มันต้องสู้เก่งๆ บู้ๆ มันส์ๆ อย่างนั้นซิควรจะเป็นหนุ่มฮอต"

    "พวกเขาเป็นนักสู้อันดับหนึ่งแน่ๆ โดยเฉพาะจุนซองรายนั้นน่ากลัวสุดๆ ถ้าเธอแตะต้องนายองอ่ะนะ" ชินอายังคงพูดด้วยเสียงจริงจัง

    "เอาล่ะ ฉันเชื่อก็ได้ แต่ว่าไอ้เจ้าชายเนี่ย มันเหมาะกับหมอนั่นตรงไหน?"

    "ก็เพราะนิสัยของเขาไง สุขุม เย็นเยือก แต่เวลาสู้ก็น่ากลัวสุดๆ"

    "ก๊ากกกกก ฮ่ะ ฮ่า" พอสิ้นคำอธิบายที่มาของตำแหน่งเจ้าชาย ฉันก็หลุดหัวเราะก๊ากออกมา โดยลืมไปเลยว่าเรายังอยู่ในห้องเรียน

    "บทเรียนของฉันมีอะไรให้น่าหัวเราะ" เสียงอาจารย์ที่ดังขึ้นทำเอาฉันต้องหุบปากโดยด่วน

    "ขอโทษคะ "

    "อย่าคิดว่าเธอจะได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เพียงเพราะเธอรู้จักกับบ้านของคองมินโซนะ" อาจารย์พูดเสียงเย็น

    และพออาจารย์พูดทุกคนในห้องก็หันมามองฉันเป็นตาเดียว

    "หนูก็คิดอย่างนั้นคะ ถ้าเพียงเพราะคองมินโซ หนูคงไม่อยากนั่งเรียนที่นี้ต่อ" ฉันพูดก่อนจะหยิบของแล้วเดินออกจากห้องไป โดยมีเสียงเรียกของชินอาดังตามหลังมา

    อาจารย์งี่เง่า บ้าที่สุด ทำไมต้องพูดแบบนั้นด้วย ต่อให้ฉันต้องโดนไล่ออกจากบ้านวันนี้ฉันก็ไม่สน ฉันไม่ได้อยากเรียนที่นี้นักหรอกนะ แล้วถ้าฉันเข้าเรียนที่นี้ได้เพราะคนอื่นล่ะก็ฉันก็ไม่อยากเรียนที่นี้นักหรอก (ทำอย่างกะตัวเองจะมีปัญญาสอบเข้ามหาลัยอย่างนั้นแหละ)

    "เธอนี่สุดๆ ไปเลยนะ" เสียงผู้ชายคนนึงดังขึ้น ฉันหันไปมองหน้าเขาทันที

    "นายตามฉันออกมาทำไม?" ฉันถามทันที

    เขามาทำบ้าอะไรที่นี้ เขาควรจะอยู่ในห้องเรียนเซ่

    "ฉันมาตามเธอกลับไป เธอทำให้อาจารย์แทบเป็นลมไม่รู้รึไง" เขาพูดเหมือนมันเป็นเรื่องธรรมดา เมื่อกี้ฉันเพิ่งตอกหน้ายัยอาจารย์นั่นต่อหน้านักศึกษาทั้งห้องนะ

    "ทำไมฉันต้องกลับ"

    "ก็เพราะเธอจะหนีอย่างนี้ไม่ได้ พิสูจน์ซิว่าเธอทำได้ เดี๋ยวอาจารย์ก็รู้เองแหละว่าเธอนะมีความสามารถ" เขาพูด สีหน้าเขาไม่ได้บ่งบอกว่ากำลังล้อเล่นเลย

    นายจะมีรู้ดีได้ไง นายคิดว่าหัวอย่างฉันนะจะสามารถจบมหาลัยได้จริงๆ เหรอ ขนาดมัธยมฉันยังแทบกระอักเลือดตาย

    "ไง เธอจะปล่อยให้คนอื่นเขาดูถูกแบบนี้นะเหรอ" เขาถามอีก

    "ใครว่า" ฉันพูดเสร็จก็เดินย้อนกลับไปทางห้องเรียนทันที

    เอาซิ คนอย่างฉันฆ่าได้หยามไม่ได้ แต่ตายได้หากเรียนหนังสือ

    "เธอรู้จักพวกเขาทุกคนเลยเหรอ!!!!" ชินอาถามเสียงดังพร้อมทำตาโต

    "อืม ฉันอยู่บ้านเดียวกับนายมินโซ ส่วนคนอื่นๆ ฉันก็รู้จัก โดยเฉพาะนายชินจีฉันเจอเขาตั้งแต่วันแรกที่ฉันเหยียบเกาหลี" ฉันพูดอย่างไม่ใส่ใจ พร้อมก้มลงกินอาหารตรงหน้าต่อ

    "ว้าววววว ดีจัง เธอรู้มั้ยฉันยินดีทำอะไรก็ได้ ถ้าได้คุยกับเจ้าชาย" ชินอาทำหน้าเพ้อฝัน

    "โชคร้ายซิ นายนั่นปากเสีย แถมนิสัยแย่สุดๆ ถ้าเป็นเจ้าชายล่ะก็ ต้องเป็นต้องเป็นเจ้าชายในคาบปิศาจแน่ๆ"

    "เธอบ้ารึไง เจ้าชายอ่ะนะจะเป็นคนแบบนั้น เขาออกจะเงียบๆ ขรึมๆ แต่ถ้าเห็นเขายิ้มล่ะก็...อ๊า ให้ตายก็คุ้ม"

    ตายคนเดียวเหอะ

    "เธอนี่ถ้าจะบ้า นายนั่นปากจัดจะตาย อีกอย่างนะ ถ้าลูกรักแม่ตัวเองเนี่ยมันน่าสงสารออก" ฉันพูดแล้วก็ต้องหมั่นไส้ ทำเป็นผู้ชายเสียสละ โธ่เอ๊ย รู้ตัวว่าแพ้ตั้งแต่ต้นเลยถอยมากกว่า

    "ลูกรักแม่?  อะไรของเธอ" ชินอาทำหน้าสงสัย

    "ช่างเหอะ นี่จะหมดเวลาพักอยู่แล้ว เรายังไม่ได้เลือกกิจกรรมเลยนะ" ฉันพูดพลางมองนาฬิกา

    "ใช่" ชินอาพยักหน้าก่อนก้มลงกินอาหารที่มันเย็นชืดไปแล้ว

    "เราจะเลือกกิจกรรมอะไรดี?" ฉันถามชินอา

    "ดนตรี กิจกรรมดนตรี" ชินอาบอกฉันอย่างกระตือรือร้น

    "บ้าเหรอ เราเรียนศิลปะ แต่จะให้เลือกกิจกรรมดนตรี" ฉันมองเธออย่าสงสัย

    "ก็เพราะพวกเขาอยู่ที่นั่นนี่น่า" ชินอาพูดเสียงอ่อย

    นี่เองคือเหตุผลที่เธอเลือก โธ่เอ๊ยยยยยย ไอ้เราก็นึกว่าอยากเล่นจริงๆ

    แต่พอเรามาถึงหน้าห้องกิจกรรมดนตรี หน้าห้องก็เต็มไปด้วยพวกผู้หญิงเต็มไปหมด

    "ทำไงดี เรามาสายแบบนี้สมาชิกต้องเต็มแล้วแน่ๆ เลย" ชินอาบ่นอย่างเสียดาย

    มันน่าเสียดายตรงไหน แค่ต้องเจอหน้านายมินโซทุกวัน ฉันก็แย่แล้ว

    "คอนนิจิว่ะ วายะจัง" เสียงของนายมินโซดังลั่นมาแต่ไกล คราวนี้พวกผู้หญิงที่อยู่หน้าห้องกิจกรรมหันมามองทางพวกเราเป็นตาเดียว

    "เขาทักเธอล่ะ" ชินอาพึมพำอย่างกับคนบ้า

    "เธอมาได้ไงนะ อยากเข้าชมรมนี้เหรอ ได้เลย เดียวพี่ชายคนนี้จะตามในสาวน้อยคนสวยเอง" นายมินโซพูดพลางเอามือมาโอบไหล่ฉัน

    ป๊าบ

    "เธอตีฉันทำไมนะ!" นายมินโซร้องเสียงหลง เมื่อฉันตีมือเขาดังลั่น เขายืนลูบมือตัวเองใหญ่

    "ก็นายเอามือมาถูกตัวฉันทำไม ฉันไม่ชอบ แล้วฉันก็ไม่ได้อยากเข้าชมรมนี่ ยัยนี่ต่างหากที่อยากเข้า ฝากนายไว้ด้วยนะ" ฉันพูดจบก็ดันหลังชินอาให้ไปยืนข้างๆ นายมินโซ แล้วก็เดินออกมาทันที

    จะให้ฉันยืนอยู่ท่ามกลางสายตาอาฆาตของยัยพวกนั่นอ่ะนะ ฝันไปเหอะ

    ฉันเดินมาเรื่อยๆ จนมาหยุดที่หน้าห้องศิลปะ

    "มีใครอยู่มั้ยคะ?" ฉันร้องถามก่อนจะเปิดประตูเข้าไป แต่ก็ไม่มีใครซักคน

    หายไปไหนกันหมด แล้วทำไมไม่มีใครอยู่รับสมัครสมาชิกใหม่นะ

    ฉันเดินสำรวจไปรอบๆ แล้วก็ต้องหยุดที่รูปๆ หนึ่ง มันสวยมาก มันเป็นรูปนกตัวหนึ่งบินอยู่เหนือท้องทะเล แต่มันให้ความรู้สึกอ้างว้างมากๆ มันทั้งเหงา ทั้งเศร้า รู้สึกเหมือนมันโดดเดี่ยว

    "น่าสงสารจังเจ้านกน้อย" ฉันพึมพำ แล้วฉันก็เห็นตัวอักษรใต้รูป

    Alone

    โดดเดี่ยวงั้นเหรอ คนที่วาดภาพนี้จะเป็นคนอย่างไงนะ

    "จะเข้าชมรมนี้งั้นเหรอ?" เสียงๆ นึงดังขึ้น ทำเอาฉันที่กำลังจะจับภาพต้องสะดุ้ง

    "อ่ะ เอ่อ...นาย!!!" พอเห็นว่าเป็นใครฉันก็ต้องตกใจซ้ำสอง

    "เธอ...อยากเข้าที่นี้งั้นเหรอ?" เขาถามอีก

    "ตอนแรกนะใช่ แต่พอรู้ว่านายอยู่ก็ชักอยากเปลี่ยนใจ"

    "กลัวงั้นซิ หรือว่ามีแต่ความอยากแต่ไม่มีฝีมือ"

    ไอ้บ้า นายนี่มันน่าจะตายตั้งแต่โดนรองเท้าฉันตกใส่หัวแล้วนะ

    "กำลังนินทาฉันในใจล่ะซิ"

    เฮือกกกกกกกกกกกก ไอ้รู้ดี

    "ฉันจะสมัครเข้าชมรมนี้ นายไม่มีใบสมัครรึไง" ฉันถามเสียงดัง

    เขายิ้มก่อนจะยื่นใบสมัครให้ฉัน

    ...........................................................................................................................................

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×