ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : [KiKuro] My Sweet Kurokocchi เจ้าแมวแสนรัก
บนปกหนังสือนิตรสารวัยรุ่นขายดี คือ รูปของเด็กหนุ่มผมสีเหลืองผู้มีใบหน้าคมคาย ดวงตาสีทองเต็มไปด้วยชีวิตชีวา และรอยยิ้มมีสเน่ห์แฝงไปด้วยความลึกลับในชุดลำลองขนาดพอดีตัวเน้นสัดส่อนร่างกายที่สวยงามผูกด้วยผ้าพันคอราคาแพง หากได้เปิดดูด้านในก็จะพบรูปของนายแบบหนุ่มในชุดต่างๆ รวมถึงชุดกีฬาและบทสัมภาษณ์ซึ่งเล่าถึงชีวิตอันสวยงามที่เลิศเลอเพอร์เฟ็คด้วยหน้าตาและพรสวรรค์ทางกีฬา
เด็กหนุ่มรูปงามมาดมั่นและเป็นมิตรกับทุกคน
นั่นคือภาพลักษณ์ของนายแบบวัยมอต้น คิเสะ เรียวตะ
แต่ในความเป็นจริงแล้ว
"คุโรโกจจี้~~~~ ฉันกลับมาแล้ว My Sweet Heart"
ทันทีที่กลับถึงบ้าน เด็กหนุ่มก็พุ่งเข้าชาร์จไปกอดร่างเจ้าของชื่อทันที
"คุโรโกจจี้ คุโรโกจจี้~~~~ คิดถึงที่สู้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด" นายแบบหนุ่มร้องพร้อมเหวี่ยงร่างนั้นไปมาอย่างแรงด้วยความตื่นเต้น จนกระทั่งอีกฝ่ายที่ทั้งถูกรัดและเหวี่ยงทนไม่ไหว "โอ๊ย!! คุโรโกจจี้ ไหงตีฉันแบบเนี่ยล่ะ"
ใครหลายคนอาจฝันสลายเมื่อรู้ว่านายแบบหนุ่มมาดเท่เป็นคนที่ง้องแง้งอย่างร้ายกาจ
ร่างเจ้าของชื่อร่อนลงพื้นห้องอย่างนุ่มนวลในขณะที่นายแบบหนุ่มคร่ำครวญ คิเสะ เรียวตะมองร่างของเจ้าแมวสีขาวผ่องเกือบเต็มวัยซึ่งยกอุ้งเท้าที่เพิ่งโชว์แรงตบมหาศาลบนใบหน้าของเขาขึ้นมาเลียทำความสะอาดราวกับว่าไม่อยากให้มีกลิ่นของนายแบบผู้เป็นเจ้านายมาติด เมื่อเจ้าแมวคิดมาถึงตรงนั้นก็เหมือนนึกขึ้นได้ว่ามันคงต้องเลียตัวใหม่ทั้งหมด
นายแบบหนุ่มผู้รู้เท่าทันความคิดของแมวเลี้ยงแสนรักก็คร่ำครวญต่อราวกับจะเป็นจะตายเสียให้ได้
"ทำไมคุโรโกจจี้ทำท่ารังเกียจฉันขนาดนั้นล่ะ ฉันทำอะไรผิดตรงไหน" นายแบบหนุ่มครวญ "ฉันรักนายตั้งขนาดนี้นะ รัก รัก รัก เลิกงานเสร็จก็อุตส่าห์กลับมาหาโดยไม่แวะไปไหน ไหนล่ะเสียงทักทายต้อนรับ ไม่มี! เลียหน้าทักทายก็ไม่มี! กลับมาให้ฉันกอดแน่นๆอีกทีเดี๋ยวนี้นะ"
คิเสะอ้าแขนออกด้วยความหวังว่าเจ้าเมี้ยวจะสำนึกผิดแล้วโผเข้าหา แต่เจ้าแมวขาวกลับกรอกตาอย่างเหนื่อยหน่าย คิเสะก็บีบน้ำตา
"ทำไมอ่ะ ทำไมๆๆๆๆๆๆๆๆ ทั้งๆที่ตอนเจอกันครั้งแรก คุโรโกจจี้ยังอ้อนฉันอยู่เลย พอมาอยู่ด้วยกันฉันก็ดูแลคุโรโกจจี้อย่างดีแท้ๆ ทั้งอาบน้ำให้ ทั้งแปรงขนให้ อาหารก็อย่างดี นมก็อร่อย รสวานิลลาของโปรดก็ซื้อมาให้ ฉันทำให้ตั้งขนาดนี้ คุโรโกจจี้น่ะต้องเข้ามาอ้อนฉัน ทำดีกับฉันบ้างสิ!!"
ครั้งนี้เจ้าแมวเสหน้ามองไปทางอื่น เมินเฉยโดยสิ้นเชิง
"วันนี้ฉันอุตส่าห็ซื้อวานิลามิลเชคมาฝากแท้ๆ" พอเด็กหนุ่มใช้ไม้ตายล่อด้วยของโปรด เจ้าแมวก็หันกลับมาหาอย่างรู้ภาษา คิเสะมองดวงตาโตสีฟ้าที่เป็นประกายและหางที่ส่ายไปมาด้วยความตื่นเต้นอย่างขบขัน "คุโรโกจจี้ต้องฟังที่ฉันพูดก่อนสิ ฉันถึงจะให้"
เมื่อได้ยินอย่างนั้น เจ้าแมวก็ทำท่าคล้ายกับถอนหายใจ คิเสะมองท่าทีนั้นด้วยตาละห้อย เขาทรุดตัวลงนั่งกับพื้นมองเจ้าแมวหน้านิ่งอย่างสิ้นหวัง
"โธ่~~~ คุโรโกจจี้... ช่วยรับฟังฉันหน่อยสิ วันนี้ฉันเศร้ามากๆเลยนะ"
เจ้าแมวเงยหน้าขึ้นสบกับดวงตาสีทองที่มองมาอย่างอ่อนโยนปนเศร้าสร้อย มันรับรู้ได้ว่าร่างนั้นไม่ได้จะมาโอดครวญหรือออดอ้อนพร่ำเพรื่อด้วยเรื่องเล็กน้อยอย่างทุกที สำหรับคิเสะแล้ว แม้ดวงตาสีฟ้าจะไม่บ่งบอกอารมณ์ แต่ทุกครั้งที่สบตากันนานๆ เขากลับรู้สึกว่าดวงตาสีฟ้านั้นขุดลึกเข้าไปในข้างในตัวเขาจนแตะถึงแก่นวิญญาณเขาได้อย่างง่ายดายและไม่เคยมีใครคนไหน มองเขาได้แบบนั้นมาก่อน มองทะลุตัวตนของเขาที่ผู้คนมองเห็น เข้าไปถึงตัวตนของเขาที่เขาเป็นจริงๆ เขารู้สึกเหมือนจ้องตากันอยู่นานทั้งที่ผ่านไปไม่ถึงนาที แล้วเจ้าแมวก็ลุกขึ้นและก้าวเท้าเข้ามาหาเขา ทันทีที่เท้าที่มันก้าวมาข้างหน้าแตะพื้น ร่างของเจ้าแมวสีขาวตาสีฟ้าก็กลายเป็นเด็กหนุ่มเรือนผมสีฟ้าอ่อน ผิวขาวนุ่มราวกับน้ำนม และดวงตาสีฟ้ากลมโตก็ยังไม่ละไปจากตัวเขาเลย ถ้าเป็นเมื่อก่อน คิเสะคงคิดว่ากำลังฝันไป ที่แมวจะกลายร่างเป็นคน แต่หลังจากที่เขาเก็บแมวตัวนี้มาอยู่ด้วยกันกว่าสามเดือนแล้ว แมวตัวนี้คือทุกอย่างที่เขาต้องการ
"คิเสะคุง..." เสียงของเด็กหนุ่มที่เอ่ยเรียกชื่อเขาอย่างอ่อนโยนนั้นปราศจากอารมณ์ ไม่มีความดีใจ เห็นอกเห็นใจ หรือตื่นเต้น ไม่รู้ว่าสำหรับคนอื่นๆแล้วเขาจะคิดว่าเสียงนั้นเป็นอย่างไร แต่สำหรับคิเสะ เสียงนั้นไม่ตัดสินอะไรทั้งนั้น เสียงเรียบๆที่เป็นกลาง ไม่เคยทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองเป็นคนน่าสมเพชที่ควรจะได้รับความสงสาร และเป็นเหมือนน้ำทิพย์ที่ชะโลมลงมาบนผิวดวงดาวที่แห้งผาก ร่างผอมบางของเด็กหนุ่มที่มีหูและหางสีขาวปีนขึ้นมาบนตักเขาด้วยท่าทีอย่างแมวโดยไม่ละดวงตาไปจากเขาเลย และคิเสะก็นั่งนิ่งอย่างต้องมนตร์ มือขาวข้างหนึ่งยกขึ้นมาลูบผมสีเหลืองทองเบาๆ ก่อนร่างนั้นจะอ้าปากเอ่ยถ้อยคำที่สัมผัสหัวใจของเขาอย่างอบอุ่น
"ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะครับ คิเสะคุง"
และนั่นคือเรื่องราวของเด็กหนุ่มและแมวแสนรักของเขา
-=-=-=-=-=-=-=
เขาคือคิเสะ เรียวตะ เด็กหนุ่มชั้นมอต้นผู้เกิดมาหน้าตาดีจนได้เป็นนายแบบและทั้งยังมีพรสวรรค์ด้านกีฬา ชีวิตของเขาช่างเลิศเลอและรายล้อมด้วยผู้หญิงหน้าตาดีมากมาย และเวลาที่เขามีความสุขที่สุด
"คุโรโกจจี้~~ มามะ มาทางนี้เร็ว อ่ะ ไปทางโน้นแล้วนะ"
คือเวลาที่เขาอุทิศตัวให้แมวของเขานั่นเอง
คิเสะมองเจ้าแมวสีขาวตาสีฟ้าที่ไล่ตามก้อนขนปลายเบ็ดที่เขาลากไปทางโน้นทีทางนี้ทีอย่างเอาเป็นเอาตาย ดวงตาสีฟ้าซึ่งปกติมักดูไร้อารมณ์และบุคลิกนิ่งๆจนเกือบจะดูขี้เกียจของมันจะเปลี่ยนไปทันทีเมื่อเขาแกว่งเบ็ดซึ่งเป็นเกมโปรดของมัน ดวงตาสีฟ้าจะส่องประกาบสดใส ขาหน้าของมันจะย่อลงต่ำพร้อมจะกระโจน และเมื่อได้กระโจนไล่ตามเป้าหมายแล้ว หางยาวสีขาวของมันก็จะตั้งตรงขึ้นด้วยความตื่นเต้น
หากไม่ได้นึกอยากพักผ่อน เขาจะหยิบสารพันของเล่นแมวขึ้นมาเล่นกับแมวแสนรักของเขา
เขาไม่เคยต้องแกว่งจนเบื่อสักครั้ง เพราะเจ้าแมวตรงหน้าช่างออกแรงเล่นได้น้อยอย่างน่าตกใจ หลังจากวิ่งไล่จับก้อนขนปลายเบ็ดอย่างสุดกำลังหวังจะพิชิตความเร็วของเด็กหนุ่มให้ได้อยู่พักหนึ่ง เจ้าแมวก็หมดแรงข้าวต้ม ทิ้งตัวลงนอนอย่างสิ้นท่า เมื่อเป็นอย่างนั้นแล้ว เด็กหนุ่มก็จะกอด จูบ ลูบ คลำ(!?) มันได้อย่างเต็มที่
แต่การเล่นกอด จูบ ลูบ ฟัดเจ้าแมวของเด็กหนุ่มไฮเปอร์นั้นก็มากเกินกว่าที่แมวตัวไหนจะทนไหว ดูๆแล้ว เขาควรจะเลี้ยงหมามากกว่า แต่ถ้าตอนนี้มีใครมาชวนนายแบบหนุ่มคิเสะ เรียวตะให้เลี้ยงหมาแทนแมวตัวนี้ เขาจะต้องปฎิเสธแน่นอน เพราะว่า..
"หยุดเดี๋ยวนี้นะครับคิเสะคุง" แมวในอ้อมแขนคืนร่างกลายเป็นเด็กหนุ่มทันทีเมื่อตนถูกเล่น(?)จนทนไม่ไหว คุโรโกะ เท็ตสึยะคือเด็กหนุ่มต้องสาปที่กลายร่างเป็นแมวได้ซึ่งนายแบบวัยมอต้นเก็บมาเลี้ยงเมื่อสามเดือนก่อน ซึ่งโดยมากคุโรโกะจะชอบใช้ชีวิตอยู่ในร่างแมว ทั้งยังมีพฤติกรรมแบบแมวไม่ว่าจะร่างแมวหรือมนุษย์ก็ไม่ต่างกัน จนเหมือนกับว่าเขาเกิดมาเป็นแมวมาตั้งแต่แรก หูแมวสองข้างบนเรือนผมสีฟ้าอ่อนกระดิกอย่างไม่พอใจ กระทั่งหางยาวสีขาวก็ส่ายแรงไปมาด้วยความหงุดหงิดที่อีกฝ่ายแตะต้องร่างแมวเขาจนเกินความพอดี มือข้างหนึ่งยันใบหน้าของเด็กหนุ่มวัยไม่ต่างกันให้ออกห่างจากร่างเปลือยเปล่าของตนเอง
"โห่~~~~ คุโรโกจจี้ใจร้ายยยยยยย ฉันยังอยากลูบขนแมวนุ่มๆต่ออีกนิดเดียวเอง" คิเสะยังไม่ยอมปล่อยมือซึ่งก่อนหน้านี้จับเอวเจ้าแมวขาวแต่ตอนนี้กลายเป็นเอวของเด็กหนุ่มหูแมวแทน หลังจากอยู่ด้วยกันมานาน คิเสะก็เคยชินกับร่างเปลือยของมนุษย์แมว เหมือนกับที่แมวทุกตัวบนโลกก็เดินไปมาโดยไม่ใส่เสื้อผ้านั่นแหละ
"ปล่อยนะครับ คุณลูบผมนานเกินไปแล้ว ผมไม่ชอบ"
"แต่ฉันเพิ่งลูบไปได้นิดเดียวเอง!"
"ปล่อยครับ ไม่งั้นผมจะไปใส่เสื้อ" ถ้าเล่นกับเขาในร่างแมวมากเกินไป แมวของเขาก็จะต่อต้านด้วยการเดินไปมาในบ้านเขาด้วยร่างมนุษย์แทน
"ไม่! คุโรโกจจี้นั่นแหละที่ต้องคืนร่างเป็นแมว"
"ปล่อยครับ!!"
"ไม่!!!"
โป๊ก!!!
แล้วในที่สุดนายแบบหนุ่มก็ต้องปล่อย
"คุโรโกจจจจจจจจี้ ทำไมต้องเขกหัวเขาด้วยอ่ะ ใจร้าย!! หัวรุนแรง!!!" เด็กหนุ่มโอดครวญและเบะปากกยื่นอย่างไม่พอใจ
"ก็คิเสะคุงพูดไม่รู้เรื่องนี่ครับ"
"#$@%^&"
"บ่นอะไรงึมงำของคุณน่ะครับ คุณไม่คิดจะทำการบ้านหรือไงครับ เอาแต่เล่นอยู่นั่นแหละ ถ้าเกรดตกจะโดนดุเอานะครับ"
"ห๊ะ?"
นี่เขาเป็นคน กลับต้องมาโดนแมวสั่งสอนเหรอเนี่ย! คิเสะแอบคิดในใจ
"คิเสะคุง ขอมือหน่อยครับ"
"โฮ่ง!" เหมือนถูกกดสวิตช์ คิเสะทำตามอย่างว่าง่ายทันที
"เป็นเด็กดีแล้วนั่งทำการบ้านนะครับ ผมจะไปหยิบขนมกับน้ำหวานมาให้ ถ้าทำเสร็จค่อยเล่นด้วยกันต่อนะครับ"
บางครั้งชีวิตก็น่าสับสนว่าใครเป็นเจ้านาย ใครเป็นสัตว์เลี้ยง
เด็กหนุ่มผมสีเหลืองก็กระวีกระวาดกลับไปที่โต๊ะซึ่งกองการบ้านเอาไว้อย่างดีอกดีใจที่แมวของเขารู้จักเอาใจใส่เจ้าของ(?) คุโรโกะลอบถอนหายใจเบาๆที่ตัวป่วนละความสนใจที่จะเล่นกับเขาไปได้สักที คุโรโกะเดินเข้าห้องครัวก่อนคืนร่างเป็นแมวและนอนขดบนพื้นเย็นสบายของห้องครัว
...อีกซักพักค่อยลุกไปเตรียมน้ำเตรียมขนมให้ก็แล้วกัน.... คุโรโกะคิดเงียบๆในใจ
และนั่นคือวันๆหนึ่งของเด็กหนุ่มกับแมวแสนรักของเขา
-=-=-=-=-=-=-=
ชีวิตของคิเสะ เรียวตะไม่ได้ดำเนินไปอย่างมีความสุขซะทีเดียว เขามีทุกอย่างที่เด็กทุกคนอยากจะเกิดมามี มีพ่อและแม่ฐานะดี ร่างกายแข็งแรง ใบหน้างดงาม และบ้านหลังใหญ่ ขาดก็แต่เพียงอย่างเดียว เขาไม่เคยมีเพื่อนจริงๆเลยสักคน
...แต่ไหนแต่ไรมา เด็กผู้หญิงรอบตัวก็อยากจะเป็นแฟนของเขา อยากเป็นแฟนมากเสียจนเขาไม่อาจสนิทกับเด็กผู้หญิงคนไหนได้จริงๆสักที
...ส่วนพวกเด็กผู้ชายก็อิจฉาในตัวเขา อิจฉาที่เด็กผู้หญิงห้อมล้อมตัวเขา อิจฉาที่ผู้ใหญ่ส่วนใหญ่รักใคร่ในตัวเขา อิจฉาที่เขามีพรสวรรค์ด้านกีฬา อิจฉาเพราะว่าเขาเป็นดาวเด่นในทุกๆอย่าง จนไม่มีที่หายใจให้พวกเขา อิจฉาแม้กระทั่งความร่ำรวยและรูปลักษณ์ของพ่อแม่ที่ดูดีน่าอวด ทั้งๆที่พวกเขาไม่รู้ความจริง
..ไม่เคยรู้ว่าบ้านหลังใหญ่ เมื่อต้องว่างเปล่าจะเหงาได้มากขนาดไหน
...ไม่เคยรู้ว่าแม้มีอยู่มากมาย ก็ยังซื้อตัวพ่อแม่ไปจากเขาได้ ไม่ว่าเมื่อไหร่ เงิน บริษัท ชื่อเสียงก็สำคัญกับพ่อแม่เขาเสมอ
..เหตุผลที่เขารับงานเป็นนายแบบ ไม่ใช่เพราะเงิน หรือ ชื่อเสียง หรืออยากอวดหน้าตาให้โลกรู้ แต่ก็เพื่อที่เขาจะกลับไปผจญความเหงาที่บ้านน้อยลง
..การเป็นนายแบบทำให้ได้รู้จักคนมาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะมีเพื่อนมากขึ้นเลย อย่างน้อย เขาก็ยังได้ใช้เวลากับคน
เขาเสียเวลาเกือบทั้งหมดในชีวิตเป็นจุดเด่นสนองความพอใจของคนอื่น เหมือนรูปปั้นหน้ายิ้มที่ใครๆก็อยากมาชม แต่ใครล่ะที่เสียเวลาของตัวเองเพื่อมานั่งค้นหาแก่นในตัวตนของรูปปั้น และมอบความสุขให้เขากลับ
"เมี้ยววว~"
เสียงร้องของแมวทำให้คิเสะสะดุ้งออกจากความคิดและพบว่าตัวเองนั่งอยู่ในสวนสาธาณณะนานเสียจนฟ้ามืดโดยไม่รู้ตัวแล้ว เจ้าแมวขาจรสีขาวสะอาดนั่นเองที่ส่งเสียงทัก ดวงตาสีฟ้าของมันสวยราวกับว่ามีท้องฟ้าที่สดใสยามกลางวันอยู่ภายใน ใครๆก็คิดว่ามันเป็นแมวราคาแพงที่มีเจ้าของเพราะมันใส่ปลอกคอสลักชื่อของมัน แต่ทว่ามันกลับอาศัยกินนอนอยู่ในสวนสาธารณะโดยไม่ยอมให้ใครจับ มันจึงกลายเป็นเป้าหมายไล่จับของเหล่าเด็กๆ เพราะไม่เคยมีใครเคยได้ลูบขนนุ่มแสนสวยที่ขาวสะอาดของมันสักคน
แต่ตอนนี้เจ้าแมวที่ใช้ชีวิตเหมือนแมวข้างถนนที่ไม่เชื่องกับใคร กำลังเคล้าแข้งเคล้าขาเขาราวกับว่าขาของเขาคือที่สำหรับสีตัวชั้นดีที่สมควรจะเป็นของมันตัวเดียว จากนั้นมันก็กระโดดขึ้นมาบนตัก ล้มลงนอนเกลือกกลิ้งด้วยท่าทีออดอ้อน เชิญชวนให้เขาลูบมัน
..แมวไม่เข้าใจหรอกว่ามนุษย์คนไหนหน้าตาดี คนไหนร่ำรวย มนุษย์ทุกคนล้วนเหมือนกันหมด
เขาเอื้อมมือไปลูบมัน เจ้าแมวก็หลับตาอย่างไว้ใจและพอใจ จากนั้นก็ครางออกมาด้วยเสียงครางหวานๆอันแสนสำคัญ ที่แมวมักจะเก็บซ่อนให้เจ้าของที่มันรักได้ยินเท่านั้น
..น่าประหลาดที่เจ้าแมวจรจอมหวงตัวยอมมอบทุกอย่างของมันให้ เหมือนกับรับรู้ได้ถึงความเศร้าและอยากจะปลอบประโลม
..ทั้งๆที่มีคนมากมายผ่านเข้าออกชีวิตของมัน แต่มันกลับมอบสิทธิพิเศษให้กับเขา...
น้ำตาหยดลงบนตัก เป็นครั้งแรกที่เด็กหนุ่มรูปงามร้องไห้โดยมีแมว สัตว์สี่ขาตัวน้อยๆ ซับน้ำตาให้
"ขอบใจนะ"
นั่นเป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่าได้พบสิ่งที่เขาใฝ่หา
นั่นคือการพบกันของเด็กหนุ่มและแมวแสนรักของเขา
-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-
"อ้อ ถ้าเป็นช่วงนี้ก็คงเป็นอาการติดสัดน่ะ"
"หา!?" นั่นเป็นคำพูดเดียวที่คิเสะ เรียวตะพูดได้ หลังจากกังวลแทบบ้าที่แมวของเขามีพฤติกรรมเปลี่ยนไปจนต้องโทรหาเพื่อนร่วมทีมผมสีเขียวที่หน้าตาฉลาดที่สุด
"แมวตัวผู้จะไม่ติดสัดก็จริง แต่ถ้าในละแวกบ้านมีตัวเมียเป็นสัดอยู่ มันก็ต้องงุ่นง่านบ้างแหละ แมวตัวผู้อาจจะไม่อยากอาหาร เดินงุ่นง่านไปมา หรือร้องหาคู่ทั้งคืน เป็นสัญชาตญาณเพื่อการสืบพันธ์น่ะ"
"ติดสัดเนี่ยนะ!"
"ทำอะไรไม่ได้หรอก ถ้าไม่อยากยุ่งยากก็พามันไปตอนซะ"
"ตอนเนี่ยนะ!!"
"แกตกใจเป็นอย่างเดียวหรือไง เจ้าโง่คิเสะ! ..ช่างมันเถอะ แมวน่ะจะผสมพันธุ์หลายครั้งและหลายวัน ตัวเมียตัวหนึ่งติดสัดได้นานเกือบหนึ่งอาทิตย์ แล้วมันได้ปลดปล่อยบ้างไปแล้ว หมดช่วงมันก็จะกลับมาเหมือนเดิม ถ้าเป็นช่วงหน้าร้อน แมวตัวเมียก็จะติดสัดได้บ่อยๆ ถ้าไม่อยากหาคู่ให้มันปลดปล่อยก็พามันไปตอนซะ แค่นี้นะ ฉันจะนอน เจ้าโง่คิเสะ" พูดเสร็จฝ่ายนั้นก็ติดสายทันที
"มิโดริมิจจี้ใจร้ายยยยยยย ฉันไม่เคยเลี้ยงแมวมาก่อนจะไปรู้ได้ยังไงล่ะ" นายแบบและนักกีฬาบาสประจำโรงเรียนมองโทรศัพท์ที่ถูกตัดสายอย่างเศร้าใจ
แล้วแมวของเขาก็ไม่ใช่แมวธรรมดา แต่เป็นมนุษย์ต้องสาปที่กลายร่างเป็นแมวอีกต่างหาก
"ฉันจะทำยังไงดีล่ะ คุโรโกจจี้ ถ้าพาไปตอน ร่างคนของนายก็เป็นหมันไปด้วยน่ะสิ"
หูสีขาวของเจ้าแมวกระดิกและหยุดหันมามองร่างเจ้าของที่เอนหลังอยู่บนโซฟาเมื่อได้ยินเสียงเรียกชื่อ เมื่อเห็นว่าร่างนั้นไม่ได้จงใจเรียกมัน เจ้าแมวจึงกลับไปทำสิ่งเดิมที่มันทำก่อนหน้า มันเดินไปมารอบห้องตั้งแต่เด็กหนุ่มกลับมาเหมือนกระวนกระวายกับอะไรสักอย่าง ไม่ยอมให้จับ ไม่ยอมเล่นด้วย ไม่ยอมกินอาหาร ไม่มีพฤติกรรมอะไรสักอย่างเหมือนที่มันเคยเป็น นั่นทำให้คิเสะกังวล
ตอนนี้คิเสะเข้าใจแล้วว่าร่างกายของมันกำลังเดือดพล่านไปด้วยความต้องการที่ปล่อยออกไม่ได้ เขาเพิ่งเคยเห็นเด็กหนุ่มต้องสาปที่กลายร่างเป็นแมวที่ต้องผจญกับอาการติดสัดเป็นครั้งแรก หากไปมีอะไรกับแมวตัวเมีย ใจส่วนที่เป็นคนก็คงอึดอัดน่าดู แต่ถ้าจะไปหามนุษย์ผู้หญิงก็ใช่ที ก็คุโรโกจจี้มีหูกับหางที่ดึงไม่ออกแบบนั้น ถ้าใครรู้เข้าอาจจะโดนประณามว่าเป็นตัวประหลาดแล้วโดนจับไปทดลองก็ได้ แล้วที่สำคัญที่สุดถ้าเกิดมีลูกขึ้นมาจะได้ลูกคนหรือลูกแมว!!!
ไม่ว่าจะได้ลูกแมวจากท้องคนหรือลูกคนจากท้องแมว คิดแล้วก็น่ากลัวพอๆกัน ใครที่ไหนจะรับได้!!!
ยิ่งคิดก็ยิ่งสับสน คิเสะไม่เคยรู้สึกสิ้นหวังอับจนหนทางขนาดนี้มาก่อน เลี้ยงแมวตัวเดียวก็ยังช่วยไม่ได้ นี่มันบ้าๆๆๆๆๆๆ บ้าที่สุดเลย
"คุโรโกจจี้....เราจะทำไงกันดีล่ะ"
เจ้าแมวยังคงเดินย่ำอย่างตั้งอกตั้งใจราวกับกำลังพยายามจดจ่อกับการเดินให้มากที่สุด
"นี่....คุโรโกจจี้อยากออกไปข้างนอกหรือเปล่า"
เจ้าแมวไม่ได้ตอบ
"นี่คุโรโกจจี้ ทรมานหรือเปล่า... กังวลหรือเปล่า... ไม่สบายใจหรือเปล่า อึดอัดใจหรือเปล่า พูดกับฉันทีเถอะคุโรโกจจี้ เห็นนายเป็นแบบนี้ฉันไม่รู้จะทำยังไงดี ช่วยบอกฉันที" คิเสะเอ่ยออกมาพร้อมกับที่น้ำตาเม็ดโตร่วงลงมาจากดวงตาสีสวย ทำให้เจ้าแมวที่เดินงุ่นง่านไปมาหยุดชะงัก
"ขอร้องล่ะ คุโรโกจจี้ บอกฉันทีว่าฉันควรทำอะไร ฉันทำอะไรได้บ้าง ถ้ารู้สึกอึดอัดอยากพูดอะไรก็พูดออกมาได้นะ ให้ฉันรับฟังนายก็ได้ ทุกทีมีแต่ฉันเอาแต่พูดๆๆ ให้นายรับฟัง ตอนนี้นายเจ็บปวด นายทรมาน ฉันก็อยากจะช่วยแบ่งเบาความเจ็บปวดของนายเหมือนกันนะ" ขณะที่พูดไปเด็กหนุ่มก็พยายามปาดน้ำตาออกเพื่อที่จะได้มองเห็นเจ้าแมวได้ชัดๆ แต่น้ำตานั้นมีมากเกินไปจนเขามองเห็นได้เพียงสีขาวๆที่เลือนลางเท่านั้น
"...คิเสะคุง.." เสียงของคุโรโกะในร่างมนุษย์แหบพร่าปนไปด้วยความทรมาน แม้จะมองไม่เห็น แต่คิเสะก็รู้สึกได้ว่าร่างนั้นอยู่ตรงหน้าเขานี่เอง
สองมือเล็กประคองใบหน้าของร่างสูงกว่าไว้ก่อนช่วยจูบซับน้ำตา
"อย่าร้องไห้เลยนะคิเสะคุง ผมไม่เป็นไร"
และนั่นคือ เรืิ่องวุ่นวายของเด็กหนุ่มและแมวแสนรักของเขา
-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-
"คิเสะคุง เอาแมวมาด้วยเหรอเนี่ย น่ารักจังเลย"
หลังจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่ทำให้คนและแมวได้ใช้เวลาช่วงเป็นสัดร่วมกัน ก็มีบางอย่างในบรรยากาศที่ดูเปลี่ยนไปเล็กน้อย แม้ทั้งคู่จะยังทำตัวเหมือนปกติ แต่คิเสะก็อดสังเกตไม่ได้ว่าเจ้าแมวสีขาวตาสีฟ้าก็ดูจะเป็นฝ่ายเข้าหาเขามากยิ่งขึ้น บางทีอาจเป็นเพราะสัญชาตญาณของการมีคู่ที่ทำให้เจ้าแมวเริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมไป ชอบมาวนเวียนหรือนอนขดใกล้ๆโดยไม่รู้ตัวล่ะมั้ง ทั้งที่ปกติจะชอบมีระยะห่างนิดหน่อยแท้ๆ เมื่อเห็นสายตาที่มาจ้องมองส่งเขาไปเรียนตอนเช้า คิเสะก็อดไม่ได้ที่จะลองชวนมาโรงเรียนด้วย
อยู่ตัวเดียวในบ้านทั้งวันก็คงมีเหงาบ้างล่ะนะ
แล้วเจ้าแมวสีขาวก็กระโจนไต่ขึ้นมาอยู่บนไหล่เขาอย่างดีใจ
ยังไงก็เป็นมนุษย์แมวต้องสาปที่พูดกันรู้เรื่องอยู่แล้วนี่เนอะ เอาไปด้วยก็คงไม่มีปัญหาหรอก
คิเสะมองเหล่านักเรียนหญิงรอบตัวที่เล่นกับแมวอย่างสนอกสนใจ เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่สายตาของผู้คนจะจับจ้องไปยังสิ่งอื่นที่ไม่ใช่ตัวเขาบ้าง ปกติคุโรโกะออกจะหวงเนื้อหวงตัวไม่ชอบให้ใครมาจับก็ยอมให้พวกเด็กผู้หญิงลูบหัวอย่างอารมณ์ดี
"เรียวตะ นั่นนายเอาแมวมาทำไม"
เสียงเฉียบขาดของกัปตันทีมบาสดังขึ้นทันทีที่เห็นแมวสีขาวพันตัวอยู่รอบคอของลูกทีมซึ่งก้าวเท้าเข้าไปในโรงยิม
"อ๊าาา อาคาชิจจี้ นี่คุโรโกจจี้ของฉันเอง ถ้าอยู่บ้านตัวเดียวเดี๋ยวมันจะเหงาน่ะ ไม่ต้องห่วงว่ามันจะทำเลอะเทอะนะ คุโรโกจจี้พูดรู้เรื่อง รับรองว่าไม่มีปัญหาแน่นอน"
คิเสะเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม
"เฮ้ คิเสะ นายจะไปเปลี่ยนชุดได้หรือยัง พวกเราจะเริ่มซ้อม-" เด็กหนุ่มผิวแทนที่ก้าวเท้าเข้ามาหาดูตกตะลึงอย่างมากที่เห็นแมวสีขาวบนไหล่ของเพื่อนร่วมทีม คิเสะเองก็รู้สึกว่าร่างบนไหล่เองก็สะดุ้งจนตัวเกร็ง และคิเสะก็ไม่คิดว่าเป็นเพราะเด็กหนุ่มผิวแทนโหวกเหวกเสียงดัง
"...เท็ตสึ..."
ชื่อที่สลักอยู่บนจี้ปลอกคอของแมวสีขาววาวโรจน์ขึ้นมาในความคิดของคิเสะ
คุโรโกะ เท็ตสึยะ
และเรื่องราวชีวิตที่ไม่ง่ายของเด็กหนุ่มและแมวแสนรักที่อยู่ด้วยกันมาสามเดือนก็เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้นเอง
=-=-=-=-=-=-=-=-=-THE END?=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=
ถ้าถามว่าทำไมถึงจบแบบนี้ ก็เพราะว่าจบตรงๆไปเลยมันไม่สนุกคะ ชีวิตทุกคนยังมีตอนต่อไปเสมอนะคะ
ขอโทษที่หนูหื่นนะคะ หายไปนานเลย รู้สึกว่าเขียนเรื่องยาวไม่ไหวแล้วล่ะค่ะ เลยมาแบบสั้นพอเป็นกระไส เรื่องนี้ยังไม่ดีเท่าไหร่ ติได้ค่ะ
ตอนนี้เรียนจบแล้ว รู้สึกเหมือนชีวิตหลุดจากวงโคจรสู่ความเวิ้งว้างอันว่างเปล่าเลยค่ะ
ชีวิตเหมือนหลงทาง งานก็ยังหาไม่ได้
หวังว่าทุกคนจะสู้
=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-
กลับเข้ามาตัดฉากไม่เหมาะสมค่ะ คิดว่าจะรอดซะอีก เว็บเด็กดีเข้มงวดเหมือนกันนะเนี่ย (ฮา)
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น