นรสิงห์ - นรสิงห์ นิยาย นรสิงห์ : Dek-D.com - Writer

    นรสิงห์

    ละครช่องITV

    ผู้เข้าชมรวม

    5,221

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    8

    ผู้เข้าชมรวม


    5.22K

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    3
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  18 ส.ค. 49 / 16:13 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      นรสิงห์
      บทประพันธ์ แมนยู
      กำกับการแสดงโดย เอกภพ ตันหยงมาศกุล


      เรื่องย่อ


      การต่อสู้ระหว่างธรรมะ ที่นำโดยเหล่าเทพ และอธรรมที่มีเหล่าอสูรร้ายไม่เคยจบสิ้น ถึงแม้จะเป็นโชคดีของสิ่งมีชีวิตในสามโลกที่ในทุกครั้ง ฝ่ายธรรมะจะเป็นผู้พิชิต แต่เหล่ามารร้ายที่พ่ายแพ้และถูกจองจำตามดินแดนที่ลี้ลับบนโลกมนุษย์ก็มิได้สูญสลายไป ตรงกันข้าม ดวงจิตที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้นต่างเฝ้ารอวันคืนที่พวกมันจะฟื้นคืนชีพเพื่อเปลี่ยนสามโลกให้เป็นดินแดนมิคสัญญี

      นับว่าเป็นความไร้เดียงสาของมนุษย์ ผู้ซึ่งอหังการด้วยวิทยาการใหม่ของวิทยาศาสตร์และความเชื่อมั่นที่ว่าความก้าวหน้าทางวิทยาการทำให้พวกเขาหันหลังให้ทวยเทพที่ครั้งโบราณกาลคอยดูและ ปกป้อง และนำศีลธรรมและความสงบสุขมาสู่ทุกชีวิตบนโลก ดินแดนรกร้างว่างเปล่าที่ครั้งหนึ่งเป็นดินแดนลี้ลับที่เป็นที่จองจำของเหล่าปีศาจถูกค้นพบโดยน้ำมือของมนุษย์ และด้วยความโง่เขลาและความโลภในทรัพย์สมบัติล้ำค่าที่เป็นมรดกตกทอดของเหล่าเทพ มนุษย์ได้ปลดปล่อยอสูรร้ายให้กลับขึ้นมาผงาดอีกครั้งโดยไม่รู้ตัว และกามกิเลศอันได้แก่ความโลภ โกรธ หลง ในจิตใจของมนุษย์ที่ชั่วช้าบางคนเป็นประตูที่เปิดอ้าให้ปีศาจร้ายเหล่านี้เข้ามาสิงสถิตเพื่อก่อภัยให้กับสังคม



      คดีอาชญากรรมหลายต่อหลายคดีที่มีสาเหตุอันดำมืดจนทางราชการไม่สามารถสะสางได้ ต่างก็เป็นผลงานของเหล่าอมุษย์ที่เป็นอิสระและมุ่งมั่นที่จะสร้างโลกปีศาจบนพื้นพิภพ เงื้อมมือกฎหมายธรรมดาไม่อาจจัดการกับจอมมารเหล่านี้ได้

      ลักษมี   นักข่าวสาวสายอาชญากรรมไฟแรง สังเกตได้ถึงความแปลกประหลาดและลี้ลับเหล่านี้ เธอและ บูชา ตากล้องหนุ่มจอมกะล่อน อีกทั้ง ลุงเชื่อม คนขับรถตู้ทำข่าวที่มีความลุ่มหลงเรื่องไสยศาสตร์และโชคลาง รวมทั้งหมอดูทุกรูปแบบ ได้ร่วมกันทำรายการ คดีปริศนา รายการข่าวที่เจาะเรื่องอาชญกรรมที่เหล่าอาชญกรยังหนีรอดเงื้อมมือกฎหมาย และถึงแม้ว่าทั้งสามจะต้องเผชิญกับ สุบรรณ หัวหน้าข่าวเจ้าอารมณ์ที่ยังไม่เชื่อฝีมือ อีกทั้งยังถูก อัปสรา ผู้ประกาศข่าวสาวที่เต็มไปด้วยนิสัยแก่งแย่งชิงดีคอยขโมยผลงานอยู่ตลอดเวลา แต่พวกเขาก็ไม่ย่อท้อ ด้วยความเมตตาของ ร.ต.อ ปราบ นายตำรวจหนุ่มแห่งกองปราบฯที่แอบมีใจให้กับลักษมี ลักษมีจึงมีโอกาสที่จะเข้าถึงข้อมูลของคดีต่างๆได้โดยหารู้ไม่ว่าชีวิตของพวกเขาอีกทั้ง อิศร น้องชายจอมแก่นของลักษมีกำลังตกอยู่ในอันตราย

      แต่ฟ้าย่อมไม่ปล่อยให้คนดีหมดหนทาง  นรสิงห์   เทพผู้มีหน้าที่กำจัดเหล่ามาร สัญลักษณ์ที่ปรากฏอยู่ในอารยะธรรมโบราณทุกชาติทุกภาษาได้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาพร้อมๆกับการปรากฏกายของหิรันตะจอมอสูรเพื่อปราบยุคเข็ญที่กำลังจะเกิดขึ้นในโลกนี้    ด้วยความร่วมมือกันของ เทพ และมนุษย์อันประกอบไปด้วยนักข่าวหัวเห็ดและหนึ่งเด็กแก่น  เหล่ามารร้ายต้องวอดวายลงด้วยพลังแห่งความสามัคคีและความเด็ดเดี่ยว    ศีลธรรมและความยุติธรรมจึงกลับมาสู่มวลมนุษย์อีกครั้งหนึ่ง  เรื่องราวอันน่าตื่นเต้นของการล่าอสูรกายเริ่มต้นขึ้นในวันที่วุ่นวายที่นักโบราณคดีสาวที่กำลังมีชื่อเสียงจากการขุดค้นปรางค์ลึกลับชานกรุงฯหายตัวไป  ลักษมี  ลูกกำพร้าที่มาจากครอบครัวร่ำรวยและเป็นนักข่าวโทรทัศน์สาวไฟแรง   เจ้าของรายการ  คดีปริศนา   ที่มีนายบูชา  ตากล้องจอมกะล่อนผู้ทำหน้าที่สารถีขับรถข่าวไปพร้อม ๆ  กันต่างตัดสินใจที่จะตามข่าวใหญ่ข่าวนี้เพื่อให้เป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของเธอ   และในขณะที่นักข่าวทั่วไปต่างพากันมุ่งประเด็นเรื่องแก๊งค้าของโบราณ ลักษมีกลับเชื่อว่า คำตอบที่จะไขปริศนาทั้งมวลรอเธออยู่ที่ปรางค์ลึกลับนั้นเองโดยที่เธอไม่รู้ว่า  อิศร น้องชายสุดแสบของเธอถือโอกาสที่โรงเรียนปิดเทอมแอบตามเธอมาและซ่อนตัวอยู่ในรถข่าวของเธอ  เมื่อทั้ง 3 ไปถึงยังปรางค์ร้างในยามค่ำคืน  ทั้ง3ต้องพบกับเรื่องราวอันสุดแสนจะขนพองสยองเกล้าเมื่อพบกับความจริงที่ว่าข่าวอาชญากรรมที่ทีมงานของเธอต้องรับผิดชอบนั้น  เบื้องหลัง  กลับมีเงาอันลี้ลับและดำมืดที่เกิดจากเงื้อมมือของเหล่าอสูรกายและปีศาจร้าย 

      เริ่มต้นจากการพบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มารักษาการแหล่งโบราณคดีที่สำคัญของชาติที่เพิ่งถูกค้นและถูกกลายเป็นเหยื่อของความรุนแรงและพบกับความหวาดกลัวจนเกือบวิกลจริต  เห็นภาพหลอนของจอมอสูรที่เรียกตนเองว่า หิรันตะ
      ยิ่งไปกว่านั้น ในขณะที่เธอกำลังจะไปขอความช่วยเหลือเธอและทีมข่าวของเธอก็ถูกขัดขวางโดยแก๊งค์วายร้ายกึ่งคนกึ่งอมนุษย์จนแทบเอาชีวิตไม่รอด     นรสิงห์คนครึ่งสิงห์โตก็ปรากฏกายเข้าขัดขวางเหล่าร้าย  และในขณะที่เกิดการชุลมุนกันอยู่จนบูชาและอิศรหมดสติไป ลักษมีสามารถบันทึกภาพของนรสิงห์เอาไว้ได้
      เช่นเดียวกับนักข่าวทุกคนที่ในชีวิตต่างก็เฝ้าฝันถึงข่าวใหญ่ที่จะนำชื่อเสียงมาสู่อาชีพของตน ลักษมีคิดว่าการปรากฏตัวของนรสิงห์ จะเป็นข่าวใหญ่ในสายตาของสุบรรณ  หัวหน้าเธอ แต่กลับตรงกันข้าม สุบรรณกลับเห็นว่าเธอเสียสติและเกือบจะไล่เธอออก    ยิ่งไปกว่านั้น  สิงห์ ร่างมนุษย์ก็ปรากฏกายและติดตามเธอราวกับภูติพราย  ทั้งนี้ก็เพราะนรสิงห์รู้ดีว่าในขณะนี้ ถ้าเขาต้องการกำจัดหิรันตะ เขาต้องหาตัวให้เจอเสียก่อน  และลักษมีคือเป้าหมายที่หิรันตะคิดจะสังหาร   
      ด้วยความผิดหวัง  ลักษมีกลับไปปรางค์ร้างเพียงลำพังเพื่อหาหลักฐานกลับมายืนยันกับหัวหน้าของเธอ แต่แล้ว เธอเองก็พบกับนักโบราณคดีสาวที่หายตัวไปซึ่งอยู่ในสถาพที่กำลังเลอะเลือนและหวาดกลัวว่าจะถูกอสูรร้ายเอาชีวิต  ลักษมีที่พยายามปฐมพยาบาลเบื้องตนเพื่อช่วยเหลือก็ต้องพบกับความสยองขวัญเมื่ออสูรร้ายปรากฏกายขึ้นต่อหน้าเธอ  และเป็นตัวเธอเองที่ถูกไล่ล่าโดยยักษ์ที่น่าจะมีอยู่ในนิยายหลอกเด็กจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด      แต่ในนาทีวิกฤตินั้นเอง นรสิงห์ก็ปรากฏกายขึ้นอีกครั้ง  ลักษมีจึงได้รับรู้ถึงความผูกพันและความแค้นระหว่างหิรันตะและนรสิงห์ที่ย้อนเวลากลับไปนับพันปี  แต่ในการต่อสู้ครั้งนั้น ไม่ว่านรสิงห์จะพยายามมากเท่าใดก็ไม่สามารถโค่นหิรันตะลงได้ แต่ตัวเองกลับได้รับบาดเจ็บอย่างหนักที่หัวจนหมดสติไป  แต่ในขณะที่ความมืดกำลังจะหมดไปและแสงสว่างกำลังจะปรากฏ  หิรันตะกลับทิ้งโอกาสอันดีที่จะปลิดชีพของนรสิงห์และลนลานหนีไป  ปล่อยให้นรสิงห์ที่กลับคืนไปสู้สภาพของรูปปั้นมีชีวิตอยู่ต่อไป   ลักษมีตัดสินใจนำรูปปั้นนรสิงห์ใส่รถและนำไปเก็บรักษาไว้ในบ้านของเธอทันที

      และที่บ้านของเธอนี่เองที่นรสิงห์ได้ปรากฏกายขึ้นอีกครั้งและเล่าเรื่องของหิรันตะ จอมอสูรผู้เกรียงไกรที่เทพ เทวดา มนุษย์อีกทั้งสรรพสัตว์ใดใดในใต้หล้าก็ไม่อาจทำร้ายได้  ร่างกายของมันยังทานทนต่อศาสตราวุธทุกชนิด    และมันจะไม่มีวันตายในเวลากลางวันและกลางคืน    ซ้ำร้ายเจ้าแห่งความชั่วตัวนี้จะฟื้นคืนชีพขึ้นใหม่ทุกครั้งหากมีอันต้องดับชีพลงไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตามในถิ่นหรือนอกถิ่นที่เป็นที่สิงสถิตย์ของมัน      ลักษมี ถึงกับไม่กล้าคิดว่าอนาคตของมวลมนุษย์จะเป็นอย่างไรเมื่อต้องเผชิญหน้ากับจอมมารอมตะที่ไม่มีวันตาย  อีกทั้งนรสิงห์ที่บาดเจ็บที่หัวอย่างแรงนั้นก็ไม่อาจจะจำได้ว่าในอดีตนั้น     เขาใช้วิธีอะไรที่สามารถสยบและสะกดวิญญาณร้ายของหิรันตะเอาไว้ได้     แต่ความสงบสุขหากลับมาสู่โลกมนุษย์ไม่   การต่อสู้ของนรสิงห์และหิรันตะได้ก่อให้เกิดผลร้ายที่คาดไม่ถึง    และนั้นก็คือ  เหล่าบรรดาวิญญาณร้ายของเทพอสูรผู้แตกแถวทั้งหลายต่างหลุดรอดออกจากการถูกกักขังและเริ่มแผนร้ายที่จะเปลี่ยนโลกให้กลายเป็นแดนแห่งมิคสัญญี  ทางเดียวที่จะขจัดภัยร้ายที่จะบังเกิดขึ้นก็คือการนำซากชิ้นส่วนของประตูที่กระจัดกระจายสูญหายไปมาประกอบขึ้นใหม่อีกครั้งหนึ่งเท่านั้นซึ่งนรสิงห์และลักษมีต่างก็มุ่งมั่นที่จะทำหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่นี้ให้สำเร็จลงให้จงได้ไม่ว่าจะต้องใช้เวลานานแสนนานเท่าใดและทั้งสองไม่ต้องเสียเวลารอนานอย่างที่คิด  เพราะหลังจากกำจัดหิรันตะได้เพียงไม่ถึงอาทิตย์เท่านั้นเอง ข่าวที่เป็นที่กล่าวขวัญและสั่นสะเทือนสังคมก็คือการปรากฏตัวของอสูรร้ายในแผนกเด็กอ่อนของโรงพยาบาลมีชื่อย่านชานเมืองซึ่ง  มณี พนักงานไอทีวี และเป็นคุณแม่ลูกอ่อนที่ไปทำคลอด ณ.โรงพยาบาลแห่งนั้นได้พบเห็นเหตุการณ์ด้วยตนเองขณะที่แอบย่องไปหาลูกของเธอเพื่อเอายันต์ตรีนิสิงเห  ยันต์รูปท้าวเวสุวรรณ ผู้ยิ่งใหญ่ในหมู่ยักษ์ทั้งปวงมาติดให้กับลูกของเธอและยันต์นี้ในสมัยโบราณ คนไทยในอดีตนิยมปิดไว้ที่เปลเด็กอ่อนเพื่อขจัดปิศาจร้ายไม่ให้มาแผ้วพาลกับทารก 

       

      ข่าวนี้กระจายไปอย่างรวดเร็ว  ทางประชาสัมพันธ์ของโรงพยายามพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อปกปิดข่าวจนยอมแม้กระทั้งให้มณีเป็นคนไข้วีไอพี    แต่ความลับก็รั่วมาถึงหูของลักษมีผู้ที่ต้องพา อิศร น้องชายตัวแสบไปเข้าเฝือกเนื่องจากขาเดาะเพราะความซนต้อนรับปิดเทอมใหญ่และอาศัยช่วงเวลาว่างจากการดูแลน้องไปเยี่ยมมณี  จากการบอกเล่าของมณีคุณแม่ลูกอ่อนที่ขวัญเสีย   และด้วยวิญญาณนักข่าวของเธอ ลักษมีจึงขอให้บูชามาช่วยเธอเจาะข่าวนี้เพื่อออกในรายการคดีปริศนา ในยามราตรีของคืนแรกที่ลักษมีมานอนเฝ้าน้องชายของเธอ  เรื่องร้ายก็เกิดขึ้น   ในขณะที่ลักษมีได้แอบออกมาจากห้องของอิศรมาซุ่มดูปีศาจที่แผนกเด็กอ่อน และบูชาตากล้องในคราบของบุรุษพยาบาลก็อยู่เคียงข้างเธอ  ทั้งสองก็ได้ยินเสียงหวีดร้องด้วยความตกใจดังมาจากห้องของมณี  ทั้งสองจึงรีบพุ่งไปยังต้นเสียงแต่ก็ต้องพบเหตุการณ์อันหน้าขนพองสยองเกล้าเมื่อพบอสูรร้ายปรากฏกายขึ้นและทำร้ายพยาบาล หมอ และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของพยาบาลก่อนที่จะหายตัวไป  บูชารีบเข้าไปดูอาการของมณีและลูกน้องในขณะที่ลักษมีออกไล่ล่าปีศาจร้ายไปติดๆจนกระทั่งมายังดาดฟ้าชั้นบน 

      ณ ที่นั้นเอง  เธอได้เผชิญหน้ากับกุมภัณฑ์ ยักษ์ประเภทหนึ่งซึ่งตามปกติจะทำหน้าที่ลงโทษสัตว์นรกให้ได้รับทัณฑ์ทรมานสมกับที่ได้ก่อบาปไว้เมื่อครั้งยังมีชีวิต   มีรูปร่างอ้วนเตี้ยน่าเกลียด  เมื่อกุมภัณฑ์ตนนั้นเห็นเธอ มันก็ตรงเข้าทำร้ายหมายสังหาร และก่อนที่กุมภัณฑ์ตนนั้นจะฆ่าเธอ  นรสิงห์ก็ปรากฏกายขึ้นและต่อสู้กับกุมภัณฑ์ตนนั้น  แต่ด้วยความแปลกใจของลักษมี อสูรร้ายแสดงออกถึงความเกรงกลัวนรสิงห์และไม่กล้าต่อกรด้วย แต่กลับวิ่งหนีหายไป นรสิงห์และลักษมีรีบไล่ล่าทันทีจนมาถึงบริเวณห้องดับจิตที่ทำงานของ  คุณหมออัครเดช หมอนิติเวชประจำโรงพยาบาลที่มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ลึกลับ  ไม่คบค้าสมาคมกับผู้คนและเพื่อนหมอด้วยกัน  และในห้องเก็บศพของโรงพยาบาลนั้นเอง  นรสิงห์และลักษมีได้พบร่างของกุมภัณฑ์ในสภาพบาดเจ็บสาหัส  นรสิงห์ตรงเข้าเค้นความจริงแต่สายเกินไป  มารตัวนั้นตายและร่างได้สูญสลายลงทิ้งไว้แต่รอยจารึกด้วยเลือดสีคล้ำของตัวเองเป็นอักษรที่ลักษมีไม่เคยเห็นแต่นรสิงห์กลับวิตกเพราะคำๆนั้นหมายถึง รากษส อสูรร้ายครึ่งยักษ์ครึ่งสัตว์น่าสะพรึงกลัวที่น่าจะถูกทำลายล้างไปหมดสิ้นแล้วจากสามภพในสงครามครั้งยิ่งใหญ่ระหว่างเทพและอสูร  และที่ร้ายไปกว่านั้นก็คือ มณีในสภาพใกล้คลุ้มคลั่งจนหมอต้องให้ยาระงับประสาทยืนยันว่า อสูรร้ายที่ทำร้ายหมอและนางพยาบาลเป็นคนละตัวกับที่คิดจะขโมยลูกของเธอ  และในขณะเดียวกัน เด็กทารกรวมทั้งอิศรที่เกิดและเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลนั้นกลับพร้อมใจกันป่วยเป็นโรคติดเชื้ออย่างร้ายแรงซึ่งบรรดาหมอต่างก็ปวดเศียรเวียนเกล้าเนื่องจากไม่ทราบสาเหตุและที่มาของโรคร้ายในครั้งนี้ และก็ทำท่าว่าเด็กที่ป่วยด้วยโรคร้ายเหล่านี้อาจถึงกับต้องเสียชีวิต

      ไม่ว่านรสิงห์จะพยายามมากเพียงใดในการต่อสู้กับรากษส  ความพยายามของเขาก็ต้องเสียเปล่าเพราะรากษสเป็นปีศาจร้ายที่นรสิงห์ไม่เคยต้องประมือด้วยมาก่อน  อีกทั้งข้อจำกัดด้านฤทธิ์ของเขาก็ไม่อาจนำมาใช้ได้อย่างเต็มที่  ซ้ำร้าย  นรสิงห์เกือบต้องสังเวยด้วยชีวิตของตัวของเขาเอง   แต่นับเป็นโชคดีที่ลุงเชื่อม คนรถผู้งมงายในเรื่องลี้ลับเกิดนึกขึ้นมาได้ว่าแต่โบราณ เวลาที่มนุษย์ต้องการพาตัวเองให้พ้นภัยจาก รากษส  ยันต์ท้าวเวสุวรรณ  ราชันย์ให้เหล่าอสูรคือสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่จะปราบบรรดารากษสได้ แต่ทั้งๆที่รู้ความจริงข้อนี้  กว่าที่นรสิงห์จะหาทางกำจัดปีศาจร้ายรากษสนี้ลงได้ ตัวเขาและลักษมีนักข่าวสาวรวมทั้งทุกชีวิตที่สนิทกับคนทั้งสองก็แทบเอาชีวิตไม่รอด   ด้วยความกลุ้มใจที่ข่าวของเธอไม่ได้รับการอนุญาตให้ออกอากาศเนื่องจากหัวหน้าของเธอไม่เชื่อเรื่องเทพเจ้าและอสูร  และในขณะเดียวกัน  นรสิงห์  อมนุษย์ที่เธอเริ่มมีใจให้ต้องบาดเจ็บสาหัสจากการต่อสู้กับเหล่ารากษส  ลักษมี เริ่มท้อใจที่จะเอาตัวเองและคนที่เธอรักเข้าไปเกี่ยวข้องกับพวกปีศาจและตัดสินใจที่จะเปลี่ยนแนวทางในการทำงานของเธอให้เหมือนอย่างเช่นนักข่าวคนอื่นๆ   นั้นจึงทำเรื่องอาชญกรรมที่ถูกก่อขึ้นด้วยน้ำมือมนุษย์เท่านั้น    ดังนั้น เธอกับบูชาตากล้องคู่ใจจึงตัดสินใจที่จะเจาะเรื่องการต่อสู้ระหว่างทางการกับพวกแก๊งค้ายาเสพติด   และนับเป็นโอกาสอันดีที่ ร.ต.ท.ปราบ  หัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจปราบปรามยาเสพติดเป็นพี่ชายของ ติ้ว เพื่อนของอิศร น้องชายของเธอ  และ ปราบเพิ่งกวาดจับ 3 สายส่งยาเสพติดได้ซึ่งทางตำรวจเชื่อว่าจะสามารถสาวไปสู่ นายอนันต์ มาเฟียใหญ่เพื่อนำตัวมาลงโทษ

      แต่ในวันที่ลักษมีและทีมข่าว คดีปริศนา ไปที่โรงพักเพื่อที่จะทำสกู๊ปข่าวพิเศษนั้นเอง  เธอก็ต้องพบกับเหตุการณ์อันน่าระทึกขวัญ  1 ใน 3 ของสายส่งที่เป็นพยานปากเอกของทางราชการถูกทำร้ายอย่างโหดเหี้ยมในห้องขังที่ถูกระวังป้องกันอย่างแน่นหนา  สภาพเนื้อตัวไหม้เกรียมเหมือนถูกกรดอย่างแรง  และ 2 ผู้ต้องหาที่เหลือต่างตกอยู่ในอาการหวาดผวา ประสาทหลอนร้องเอะอะโวยว่าว่ามีคนบุกเข้ามาทำร้ายซึ่งไม่มีทางที่มนุษย์หน้าไหนจะสามารถย่างกรายเข้าไปในที่คุมขังได้  ยิ่งไปกว่านั้น ปราบ ที่น่าจะเป็นแหล่งข้อมูลของลักษมีกำลังถูกผู้ใหญ่เล่นงานที่ปล่อยให้พยานปากเอกบาดเจ็บสาหัสและถูกสื่อมวลชนรุมประณามถึงการใช้อำนาจอันไม่ชอบธรรมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ    ลักษมี และ บูชา จึงตัดสินใจที่จะแอบซุ่มดูเหตุการณ์ที่โรงพักในยามค่ำคืน  และในคืนนั้นเอง  ชายลึกลับสามคนก็ปรากฏกายขึ้นอย่างเงียบเชียบและหายตัวไปในบริเวณหลังโรงพักใกล้ๆกับหน้าต่างของห้องคุมขัง 



      เมื่อลักษมีสะกดรอยตามไปก็ต้องขนหัวลุกเพราะหนึ่งใน 3 คนนั้นได้ยืดร่างให้อ่อนราวกับไร้กระดูกและสามารถเลื้อยลอดลูกกรงเหล็กเข้าไปได้ บูชาซึ่งมัวแต่ช๊อคกับเหตุการณ์นี้ปล่อยให้กล้องตกลงสู่พื้นและเสียงนี้เองที่ได้เรียกร้องความสนใจของชายลึกลับที่เหลืออยู่อีก 2 ที่ทำหน้าที่คอยสังเกตการณ์ภายนอก   ทั้ง 2 ตรงเข้าเล่นงานทีมข่าวคดีปิศนาในทันที  เสียงต่อสู้กันดังเข้าไปถึงหูของเจ้าหน้าที่ตำรวจในโรงพัก ตำรวจที่เข้าเวรอยู่รีบออกมาช่วยเหลือแต่ก็ถูกชายลึกลับทั้ง 2 จัดการด้วยพิษร้ายจนล้มลง  และวินาทีคับขันที่ลักษมีเกือบจะเอาชีวิตไม่รอดนั้นเอง นรสิงห์ก็ปรากฏกายขึ้นและตรงเข้าต่อสู้กับชายลึกลับทั้ง2ในทันที   ในขณะเดียวกัน  ปราบที่กำลังสอบพยานที่เหลืออยู่ 1 ใน 2 คนที่ห้องสอบสวนก็ถูกจู่โจมจากชายประหลาดและในการต่อสู้นั้นถึงแม้เขาจะรอดชีวิตมาได้แต่พยานของเขาไม่โชคดีเหมือนเขา   พยานปากเอกของปราบถูกพิษร้ายอย่างจังจนตกอยู่ในอาการโคม่าทันที  แต่เสียงการต่อสู้ระหว่างนรสิงห์กับเพื่อนของมันอีก 2 ที่อยู่เบื้องนอกทำให้มันต้องละมือจากการจัดการปราบและรีบออกไปช่วยเหลือพวกของมันในทันที และเมื่อนรสิงห์ต้องรับมือกับตัวประหลาดทั้งสามตัวที่พ่นพิษร้ายราวน้ำกรด  นรสิงห์รู้ได้ในทันทีว่าเขากำลังเปิดศึกกับสมุนของพญานาค  อมนุษย์เช่นเดียวกับเขาที่มีความเป็นอยู่ที่ลึกลับแต่มีภพภูมิที่ใกล้ชิดกับมนุษย์มากที่สุด    ด้วยความเป็นห่วงลักษมีและบูชา เขาจึงจำต้องปล่อยให้พวกมันหนีไป

       แต่ก็หาใช่ว่าลักษมีกับทีมงานของเธอจะโชคดี  ปราบถูกเล่นงานอย่างหนักในฐานะไร้ความสามารถในการจัดการกับคดีนี้และลักษมีกับบูชากลับถูกควบคุมตัวเองในฐานะพยานปากเอกที่สามารถชี้ตัวคนร้ายที่พยายามฆ่าตัดตอนผู้ต้องหาทั้ง3คนของทางราชการได้    แต่เมื่อลักษมีบอกความจริงไป ทางการกลับไม่เชื่อคำให้การของเธอและคิดว่าเธอและทีมงานแอบปิดบังข้อเท็จจริงเอาไว้เพื่อประโยชน์ในการทำข่าวดังนั้นจึงจำต้องควบคุมตัวทั้ง 2 เอาไว้ก่อน   ในขณะเดียวกันทั้ง 2 ก็กำลังถูกหมายหัวโดยพวก นาค แตกแถวที่มาปกป้องมนุษย์ที่ชั่วร้ายอย่างนายอนันต์มาเฟียใหญ่

       ลักษมีและบูชาจะสามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองได้หรือไม่  นรสิงห์จะจัดการเหล่านาคนอกแถวนี้ได้อย่างไร     และถึงแม้นรสิงห์จะหาทางพิชิตเหล่านาคที่อาศัยฤทธิ์มาช่วยคนชั่วอย่างเช่นนายอนันต์  เขาและลักษมีจะสามารถรวบรวมซากประตูขังมารมาได้จนครบก่อนที่โลกมนุษย์จะกลายเป็นแดนแห่งมิคสัญญีได้หรือไม่    

      ติดตามชม “นรสิงห์”  ทุกวันจันทร์-อาทิตย์  เวลา 19.30-20.30 น. ทางไอทีวี เริ่ม 3 กรกฎาคมนี้  
       

                                                           ลักษณะตัวละคร

      นรสิงห์   กึ่งมนุษย์กึ่งสิงห์โต  (ร่างกายเป็นมนุษย์แต่หัวเป็นสิงห์โต) มีพละกำลังและความกล้าหาญ    อาวุธคู่กายคือกรงเล็บที่มีไว้เพื่อกำจัดเหล่าภูติพราย
      แสดงโดย…อรุชา     โตสวัสดิ์

      สิงห์  ร่างเทพมนุษย์ของนรสิงห์(ร่างเทวดาที่ร่างกายหน้าตาเหมือนมนุษย์)  หล่อ 
      ผมยาวเหมือนสิงห์โต(สีทอง) ตาสีทอง 
      แสดงโดย…กรวินท์    ประทุมศิริ

      ลักษมี  นักข่าวสาว ไฟแรง  23-25 ปี กล้าสละชีพเพื่อเสนอข่าวสารให้ประชาชนได้รับรู้  เธอแอบรักนรสิงห์ตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้เห็น
      แสดงโดย… น้ำฝน-กุลณัฐ    ปรียะวัฒน์

      อิศร  น้องจอมซนของลักษมี  ฉลาด  ชอบเรื่องวิทยาศาสตร์และเป็นนักประดิษฐ์ที่
      เครื่องมือส่วนมากที่ใช่มักไร้ประโยชน์  ชอบแอบตามลักษมีพี่สาวไปทำข่าว
      แสดงโดย…กฤชพล  จารุศักดิ์

      บูชา  ตากล้อง จอมกะล่อน เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว แต่มักพาตัวเองเข้าสู่ทางตัน
      เป็นประจำ  เจ้าชู้  แต่มักอกหัก
      แสดงโดย…สาริน   บางยี่ขัน

      สุบรรณ  หัวหน้าฝ่ายข่าวอาชญกรรมประจำสถานีโทรทัศน์ ไอทีวี อายุ 40-45 ปี เป็นคนดีในคราบคุณครูเจ้าอารมณ์  ซ่อนความเป็นห่วงและความรู้ในวาจาเชือดเฉือน
      แสดงโดย…สมชาย   เปรมประภาพงษ์

      อัปสรา  ผู้ประกาศข่าวสาว น่าลุ่มหลง  ฉลาด  แต่เจ้าเล่ห์  เธอไม่ชอบลักษมีและคอยกลั่นแกล้งอยู่เสมอเพราะเธอรู้ว่าลักษมีคือคู่แข่งที่จะขึ้นมาแข่งกับเธอได้ในอนาคต
      แสดงโดย…รุ้งนภัฐ    บริจินดากุล

      ปราบ  ตำรวจหนุ่ม หล่อ เก่ง  ปราดเปรียว  ฉลาดและช่างสังเกต เป็นหัวหน้า CSI ของตำรวจกองปราบที่ใช้การสืบสวนด้วยวิธีนิติวิทยาศาสตร์ อายุ 25-27 ปี (จะไม่ซ้ำกับนรสิงห์เพราะในขณะที่นรสิงห์ เงียบขรึม ดุดัน ร่างใหญ่และหนักแน่น)แต่ด้วยความรักที่ปราบมีต่อลักษมี และหึง สิงห์ ร่างแปลงของนรสิงห์  ทำให้หลายต่อหลายครั้งปราบตัดสินใจผิดพลาดในเรื่องที่ไม่น่าพลาด
      แสดงโดย…อุเทน    คชน่วม

      ลุงเชื่อม  คนรถผู้หลงใหลและหมกมุ่นในเรื่องไสยศาสตร์และบ้าหวย  กลัวผีเป็นชีวิตจิตใจแต่ชะตากรรมกลั่นแกล้งให้มารับใช้ลักษมีเลยต่อเจอผีเป็นกิจวัตร
      แสดงโดย…ตูมตาม   เชิญยิ้ม

      เจ๊เมี่ยง  จ่าตำรวจหญิงลูกน้องปราบที่แอบปลื้มเจ้านาย  อายุ 25 ปี แต่เนื่องจากรูป
      ร่างคล้ายนักทุ่มน้ำหนัก เธอจึงได้แต่ฝัน
      แสดงโดย…จารุณี   บุญเสก

      หมู่เจิม  มือขวาปราบ   อายุ 25 ปี เก่งการต่อสู้ในทุกรูปแบบไม่ว่าหมัดมวยหรืออาวุธทุกชนิด 
      แสดงโดย…อัศวิน    เมืองสุวรรณ


      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×