ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักวุ่นๆ วัยรุ่นซ่าวัยเรียน

    ลำดับตอนที่ #1 : จดหมายฝันฉบับที่ 1 : เอิญที่รัก

    • อัปเดตล่าสุด 6 เม.ย. 55


    เฮ้ย เต็มที่ว่ะเพื่อนที่เดินขนาบไหล่ซ้ายเอ่ยพลางตบไหล่ผมหนัก ๆ เพื่อให้กำลังใจ

           ผมเดินอยู่ ณ ชั้นล่างสุดของอาคารเรียนประจำห้องโฮมรูมของรุ่นน้องมัธยมสาม อากาศเย้นเย็นสบายอารมณ์คนมีความรักอย่างผมเลยนะเนี้ย

    เออนา เอ็งไม่ต้องห่วงหรอก ข้าน่ะสบายอยู่แล้ว เอ็งดูนี่ ผมยกมือขวาขึ้นให้กล่องเล็กๆ เผยต่อหน้าเพื่อน

           นี่คือช๊อกโกแลตนมที่ข้าทำขึ้นมาเองกับมือ ส่วนผสมทุกอย่างลงตัว โดยเฉพาะความตั้งใจเว้ยผมกำหมัดเบา ๆ

          อยากจะบอกใครๆ ว่าผมภูมิใจมากมายขนาดไหน แต่ก็ทำได้แค่ยกมือที่กำกล่องช๊อกโกแลตนมไปทุบที่อกซ้ายของตัวเอเบา ๆ เฮ้ออออ ..... ชื่นใจอะไรขนาดนี้น้า เพื่อนก็พลอยเออออ ยักคิ้วหลิ่วไหล่ไปกับผมด้วย ดีดีเห็นด้วยกันหน่อย ข้าจะได้ไม่คิดไปเองคนเดียว ฮะฮ่า

           รุ่นน้องนั่งริมทางเดินทางซ้ายหลายกลุ่ม ส่วนมากเมื่อสังเกตเห็นผมก็จะหันมายิ้มให้ บางคนก็โบกมือส่ายไปมาเหมือนโบกให้ พี่ตูน บอดี้แสลมในคอนเสิร์ต (ไม่ได้ยกมือสูงขนาดพ้นหัวหรอกนะ)

     ผมก็โบกกลับไปบ้างพลางยิ้มไปด้วย โฮ๊ะ โฮ๊ะ เสน่ห์แรงจริง ๆ เรา

           ที่นั่งติดระเบียงที่เดินผ่านด้านซ้ายทำจากอิฐน้ำตาลอ่อนอย่างเป็นธรรมชาติ รวมทั้งอาคารนี้ด้วย สไตล์กรีกเลยนะเนี้ย เท่ห์เป็นบ้าเลย

           มีเด็กนักเรียนทั้งหญิง ชาย และรวมมิตรนั่งคุยกันอย่างสนุกสนาน เด็กผู้หญิงส่วนมาก ในมือแต่ละคนก็จะถือของขวัญหรือไม่อาจเป็นดอกกุหลาบ ขณะเดียวกันบางคนก็ยังคงนั่งเท้าคางหันหน้ามองไปนอกตัวอาคารเหมือนรอคอยอะไรบางอย่าง ผมก็คอยส่งกำลังใจไปให้เงียบๆนั่งอยู่เฉยๆ แล้วใครเขาจะรู้ว่าคุณมีใจ

           เดินผ่านเด็กผู้ชายท่าทางล๊อกแล๊กคนหนึ่งซึ่งมีเพื่อนคอยยกมือหลายคู่เพื่อดันเจ้าชายหินให้นำดอกไม้ไปให้เจ้าหญิงได้แล้ว ห้องถัดมาใกล้ๆ กันมีเด็กหญิงจับกลุ่มกันกลุ่มใหญ่ เมื่อผมเดินผ่านหลายคนก็ยิ้มตอบ ผมเดาได้ทันทีเลยนะ ว่าในนั้นต้องมีเจ้าหญิงของเจ้าชายล๊อกแล๊กอย่างแน่นอน ซึ่งกำลังรอเจ้าชายคนนั้นนำดอกกุหลาบมาให้ แต่เจ้าชายกลายเป็นหินไม่กล้าเขยื้อนซะนี่  โธ่ ผมล่ะสงสารนางจริง ๆผมคิดในใจ

           เสียงเพื่อนดังขึ้นตลอดทางเป็นระยะ ผมไม่ค่อยสนใจนักหรอก เพราะมุขแซวสาวที่มันนำไปใช้น่ะ มันก็คือมุขของผมนั่นแหละที่ใช้ประจำตอนยังไม่มีแฟน เพื่อนผมเมื่อเห็นสาวถือดอกกุหลาบ มันก็แซวประมาณว่า โห กุหลาบสวยจัง ไม่ทราบว่าสนใจจะรับหัวใจพี่สักดวงไหมจ๊ะเสี่ยวมากครับ ขอยอมรับ แต่ก็ทำให้รุ่นน้องเขิลจนอดยิ้มให้ไม่ได้ สุดท้ายก็จบด้วยคำว่า บ้า

           เหตุการณ์เหล่านี้ ปีหนึ่งๆ มีหนเดียว แต่ละปีก็ไม่มีอะไรแตกต่างกันเลย ถึงตอนนี้จะเป็นตอนเย็น ซึ่งก็กินเวลาวันวาเลนไทน์มาค่อนครึ่งวันและ แต่ก็ยังมีใครหลายๆ คนที่ยังไม่ได้รับของขวัญ มีทั้งคนที่รอคอย คนที่จะให้ และคนที่เฉย ๆ แต่ที่จริงแล้วในใจหวั่นไหวโคตร ๆ

           ทว่าตอนนี้ ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่า ...... ผมแค่คิดก็อดยิ้มไม่ได้ เพราะผมกำลังนำของขวัญในมือไปให้คนที่ผมรักนี่นา ใครมองหน้าผมตอนนี้ ก็คงหาว่าเป็นคนบ้า เพราะยิ้มแล้วทำหน้าเหม่อ ๆ คนเดียว เว้ยยยย ก็คนมันมีความโสกกกก

           ข้างหน้าเป็นห้องเรียนห้องหนึ่งที่ไม่แตกต่างอะไรจากห้องที่ผ่านมามากนัก แต่ก็นะ ไม่มีใครร๊อกที่รู้ ว่าผมน่ะรู้ดีเลยแหละ ว่ามีเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ชอบนั่งเรียนที่เก้าอี้แถวสอง ตัวที่สี่นับจากประตูทางเข้าไปกลางห้อง ตรงกับหน้าต่างฝั่งโน้นบานที่ห้านับจากทางขวา ทุกรายละเอียดถึงแม้คนคนนั้นเขาจะไม่รู้ว่าผมช่างจดจำเหมือนกับผู้หญิง แต่ก็นะ ขอให้คุณผู้หญิงรู้ๆ เอาใว้ว่า ผู้ชายอย่างเราๆ เนี้ย  ส่วนมากจดจำหมดแหละ แต่แค่ไม่แสดงออกมาเท่านั้นเอง วงเล็บ : ส่วนมาก

            อีกสองก้าวก็ถึงห้องห้องนั้นแล้ว เพื่อนผมหยุดปล่อยมุขโคตรเสี่ยวของมันเพราะรู้หน้าที่ว่าไม่ใช่เวลา

           ผมมาหยุดยืนอยู่หน้าห้องเรียนที่มีเลขเขียนใว้ 312 หัวใจเต้นอย่างแรงด้วยความชื่นใจเหมือนมีน้ำหวานเย็นมารดให้ฉ่ำชวยหลายๆ

           ห้องเรียนโต๊ะไม้ธรรมดา เป้าหมายนั่งหันหลัง เอ๊ะ ทำไมกัน เอิญไม่เห็นคุยกับเพื่อนเลยผมสงสัยนิดๆ เพราะแฟนผมที่นั่งข้างกลุ่มเพื่อนก้มหน้าเงียบบนเก้าอี้ สังเกตเห็นว่าบนโต๊ะด้านขวาของเก้าอี้มีของขวัญจำนวนมากตั้งแต่ตุ๊กตาหมีตัวเล็ก ช๊อกโกแลตคอริรอลโรสเชอร์กล่องเล็ก การ์ดสีชมพู และดอกไม้ในมือซื้อซ้ายที่วางบนตักโผล่ออกมาสองดอก ผมนึกภูมิใจ คนที่มาจีบเอิญก็ยังคงมากเช่นเคยนะ น่าภูมิใจจริงๆ แฟนเรามีแฟนคลับเยอะจริง ฮ่าฮ่า

           เอิญ เค้ามาแล้วพลางเสียงกระซิบจากเพื่อนที่เดินมาด้วยกันก็กระซิบข้างหูเบา ๆ ก่อนเอิญจะหันมา อย่าหวั่นๆ ดอกกุหลาบ และของขวัญที่เอิญได้มาใครก็ให้ได้ หาซื้อได้ทั่วไป ของเอ็งนี่แหละของจริงเอิญลุกขึ้นหันซ้ายเดินอ้อมเก้าอี้มาท่าทางเฉื่อยชาชะมัด สงสัยยังไม่ได้อาบน้ำอีกล่ะสิท่า แต่ยังคงก้มให้เส้นผมบังใบหน้านั้นใว้

           ผมเหลือบไปมองดอกกุหลาบในมือเอิญที่ตอนนี้กำลังย้ายจากในมือไปตั้งใว้บนโต๊ะรวมกับของขวัญอื่นๆ ผมยิ้มให้อย่างภูมิใจอีกครั้ง

           ภาพที่เอิญก้มหน้า และเงยหน้าขึ้นช้าๆ พร้อมเดินตรงมา เหมือนภาพสโลว และผมก็รู้สึกว่ามันช้าจริงๆ ด้วย ทำไมถึงรู้สึกเช่นนี้นะ พร้อมกับเสียงหัวใจที่รัวเหมือนปืนกลรุ่นใหม่ล่าสุด ทรงผมหน้าม้าปัดทางขวาสุดน่ารัก และเท่ห์ในสายตาผม ดวงตาใสแจ๋วค่อยๆ สบตากับผม ภาพเหล่านี้ฉายช้าได้ใจจริงๆ

           พี่ชเลย์มีอะไรรึเปล่าเอ๊ะแปลกมาก ที่จำความได้ เอิญไม่ถามว่า มีอะไรรึเปล่า มานานมากแล้วนะ คำถามนี้มันเป็นคำถามปฏิเสธทางอ้อม หรือ ไล่ดีดีนี่เอง

           “อ๋อ นี่ช๊อกโกแลตเอามาให้เอิญนะ อยากบอกว่าเค้าทะ.....” ! ทะ..ทะทำไมกัน ผมมองตามช๊อกโกแลตที่ปลิวไปตกอยู่บนพื้นริมประตู ..... เอิญปัดมือผมที่ยื่นช๊อกโกแลตให้!  รีบหันกลับไปมองหน้าเอิญที่บัดนี้ก้มหน้าลงเหมือนเดิม ผมไม่เข้าใจว่าเธอเป็นอะไรไป ที่แน่ๆ เอิญกำลังกัดฟันตัวเองเหมือนฝืนทำอะไรบางอย่างที่ร้ายแรงลงไป เอิญไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลยนี่นา มันต้องมีอะไรผิดปกติ ผมเชื่อเช่นนั้น

           พี่อย่ามายุ่งกับเอิญอีกจะได้มั้ย เอิญรำคาญมากเลยนะรู้บ้างเปล่าเอิญก้มหน้าตะโกนเสียงดัง ในลำเสียงอ่อนโยนที่แข็งกร้าวนั้นเจือไปด้วยความสั่นเครือ เอิญ….’ “พี่รู้มั้ย....พี่รู้มั้ยว่าพี่ทำให้เอิญลำบากใจแค่ไหน พี่ทำให้เอิญต้องร้องไห้ เพราะพี่จะ...ผมยืนนิ่ง มองเส้นผมดำขลับนุ่มของเอิญกำลังปกปิกใบหน้า มือสองข้างของเอิญกำแน่น

           พี่บีดีน พี่เลิกยุ่งกับเอิญเถอะ เอิญรำคาญผมไม่คิดอะไรถึงประโยคนี้เลย ผมรู้ดีว่าเอิญไม่มีวันพูดแบบนี้แน่ ๆ เสียงเอิญดูฝืน หรือผมเข้าข้างตัวเองเกินไป ผมเริ่มใจไม่ดี ในใจสรรค์หาคำปลอบใจที่ดีที่สุด แต่ก็คิดไม่ออก

           เอิญกำลังบอกเลิกผมจริง ๆ น้ำลายแสนขมในลำคอก่อตัวขึ้น ความรู้สึกนั้นค่อย ๆ ไต่ขึ้นมาทางลำคอ ผ่านหลอดลม เข้าไปอุดการหายใจ และปรากฏออกมายังใบหน้า มันร้อนมากจนผมรู้สึกได้

           เอิญเป็นอะไรไป เอิญมองหน้าเค้าดิผมจับไหล่บาง ๆ ของเอิญที่ก้มหน้า อุณหภูมิจากไหล่เอิญร้อนรุ่ม มันคืออะไรกันนะ ความรู้สึกนี้ ผมทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว เมื่อเห็นน้ำหยดใสใสหยดลงพื้นแนบเท้าเอิญ

           เอิญ!” ผมเรียกเสียงเบา ก้าวครึ่งก้าวโอบแขนกอดเอิญ...ผมหวัง หวังนะ เพียงแค่อยากรับความรู้สึกเศร้าของเอิญมาบ้าง ให้เธอได้บรรเทาลง

           ผมไม่สนอะไรทั้งสิ้น ไม่สนใจใครจะมองว่ายังไง สิ่งที่ผมแคร์ตอนนี้คือความรู้สึกของเอิญ เอิญไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ครั้งนี้ผมรู้สึกได้ เอิญกำลังเสียใจมาก ๆ ผมกอดเอิญใว้ มันเป็นกอดแรกที่ผมมอบให้เอิญ ผมไม่ได้คิดล่วงเกิน หรือหวังอะไรจากตัวเอิญ ผมแค่อยากระบายความอบอุ่นให้ไปละลายเยือกน้ำแข็งที่เกาะกุมใจเด็กหญิงเอิญที่ไร้เดียงสาข้างหน้า เอิญเป็นเด็กอารมณ์ดี ยากมาก ที่เอิญจะแสดงความเสียใจออกมามากมายขนาดนี้ นี่มันไม่ใช่เรื่องธรรมดาแล้วล่ะ

           เวลาผ่านไปไม่ถึงสิบวิที่เรากอดกัน ผมรู้สึกถึงเสียงสะอื้นของเอิญ เพียงสิบวินาทีทำให้เอิญสะอื้นได้ทีเดียว ผมกัดฟันกรอด พยายามข่มความรู้สึกเอาใว้ จะไม่ร้องไห้ และแสดงความอ่อนแอออกไปเด็ดขาด

           น้ำตาของเอิญอาบไหล่ซ้ายผมจนชื้น เขาไม่ได้ยกมือกอดผม ผมกำลังรู้สึกว่า อ้อมกอดนี้อาจจะเป็นอ้อมกอดสุดแรก และสุดท้ายที่ผมมอบให้เอิญ

           ปล่อยเอิญนะ จะไปไหนก็ไป รู้ไม๊ เพราะพี่ทำให้เอิญต้องเป็นแบบนี้ ต่อจากนี้ห้ามมายุ่งกับเอิญอีก และพี่จะไม่เป็นแม้แต่คนรู้จักเอิญผลักผมออกจากอ้อมกอดแล้วสบตา ใบหน้าเอิญเปื้อนน้ำตา หน้าใสใสบัดนี้เต็มไปด้วยอารมณ์เศร้ามากกว่าโกรธ

           ผมยืนช๊อก และนิ่งอึ้ง ความคิดหลายอย่างหลั่งไหลเข้ามา อยากจะเข้าไปปลอบเอิญ แต่ก็กลัวเขาจะเสียใจไปมากกว่านี้ ผมสบตากับเด็กหญิงตัวน้อยตรงหน้า สื่อความหมายผ่านสายตา เอิญ มีอะไรบอกกับเค้าสิ เค้ายอมรับฟังทุกอย่างนะ เราจะเดินไปด้วยกัน ปัญหาอะไร เราก็จะไม่หวั่น เอิญบอกเค้ามาเถอะ เค้ารักเอิญนะ

         เอิญปาดน้ำตา หันหลังขวับกลับไป เพื่อนเอิญแต่ละคนทำหน้างง และไม่เข้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไม่มีใครเคยคาดคิด หลังจากเอิญผละจากผมไป เพื่อนรักก็เข้ามาและกอดเขาอีกที ซึ่งก็แปลว่า เพื่อนเอิญก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาเป็นอะไรไป

           ผมข่มความขมใว้ และกลืนลงลำคอไปแล้ว ก้มลงหยิบช๊อกโกแลตที่ทำขึ้นเอง และเดินตรงไปยังโต๊ะริมประตูจากนั้นจึงตั้งของขวัญทำมือชิ้นนั้นลงกับโต๊ะ เดินออกมาท่ามกลางเสียงของเพื่อน ๆ ที่กำลังส่งกำลังใจ พร้อมถามอย่างเป็นห่วงเอิญที่ยังร้องไห้ไม่หยุด

          มืออันสั่น และแทบจะยกไม่ขึ้นห้อยอยู่ข้างตัว พยายามยกขึ้นอย่างช้า ๆ ระหว่างเดินออกจากห้องที่มีคนรักนั่งเสียใจโดยผมช่วยอะไรไม่ได้เลย มันไม่รู้จะอธิบายยังไงจริง ๆ

           ผมคลำช๊อกโกแลตในกระเป๋ากางเกงข้างขวา หยิบขึ้นมาดู และแกะออกเผยให้เห็นตัวอักษรที่เขียนเอาใว้ พลังงานหัวใจตัวโต ๆ ด้วยลายมือ และชื่อบีดีนกับเอิญเขียนซ้อนกันบนเนื้อช๊อกโกแลตตัวเล็ก ๆ ทางขวาเหมือนลายเซ็น

           ตอนนี้ผมมองเห็นเพียงช๊อกโกแลตสีดำในมือ เสียงต่าง ๆ ขาดห้วงไปเกลี้ยงยกเว้นเสียงสะอื้นของเอิญที่ยังไม่หยุด สายลมเย็น ๆ กระทบลำตัวข้างขวา ผมรู้ว่าเป็นเพื่อนรักคนนั้นได้วิ่งมายังสายฟ้าแลบแล้ว แต่ผมไม่พูดอะไรสักคำ ยกช๊อกโกแลตในมือแนบริมฝีปากอ้ากัดหนึ่งคำ และเคี้ยวอย่างเชื่องช้า นึกถึงตอนทำช๊อกโกแลตชิ้นนี้ขึ้นมา ผงโกโก้ชนิดพิเศษสูตรใหม่ของร้านอาหารค่อย ๆ บรรจงตัก และผสมกับนมสดคนจนเข้ากัน ทุกฉากตอนหลั่งเข้ามายังสมอง ภาพต่าง ๆ ไหลเวียน ความคิดที่จะแลกกันป้อนช๊อกโกแลตสองชิ้นนี้กับเอิญผุดขึ้นมา แต่ตอนนี้ ความคิด เป็นได้เพียงคามคิดตลอดไปแล้ว

           ไอเล เอ็งกินไม่แบ่งข้าอีกแล้วเพื่อนรักชื่อนัทเดินมาจับไหล่แรง ๆ พลางแย่งช๊อกโกแลตในมือไป ผมเหม่อลอย ไม่สนใจช๊อกโกแลตที่เพื่อนชิงไป เพราะความรู้สึกของช๊อกโกแลตส่วนหนึ่งอยู่ในปาก อีกส่วนหนึ่งอยู่กับช๊อกโกแลตนมอีกชิ้นที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ ที่ผมพยายามคิดว่าเอิญได้หยิบไป และกำลังจะวิ่งตามหลังผมมา แล้วบอกทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นว่า เป็นเรื่องเซอไพรท์ที่เอิญคิดขึ้นเองแหละ

           และแล้วผมก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของใครคนหนึ่งวิ่งมาทางด้านหลัง ผมยิ้มออกมา ใจชื้นขึ้นมาทันที ผมหันขวับกลับหลังไป คนที่วิ่งมาคือเด็กผู้ชายท่าทางล๊อกแล๊กคนเดิม ซึ่งบัดนี้ในมือถือกล่องเล็ก ๆ แทนที่จะเป็นดอกกุหลาบ ผมไม่ต้องคิด เพื่อนก็คิดแทนให้ เด็กนี้น่าจะได้ของขวัญตอบกลับจากสาวที่แอบรักเป็นแน่

           เพียงเดินห่างอาคารมาได้สักร้อยเมตร ผมเคี้ยวช๊อกโกแลตในปากช้า ๆ นึกถึงภาพวันก่อน ๆ วันที่ผมกับเอิญสบตากัน มันเป็นวันเมื่อสองปีที่แล้ว อากาศที่สดใสยามเช้าบวกกับเพลงของสถานีวิทยุประจำโรงเรียนที่เปิดคลอเบา ๆ ผมเจอเอิญที่กำลังยืนคุยกับเพื่อนเขา ดวงตาใสแจ๋ว ผมหน้าม้าปัด ด้านหลังผูก และปล่อยยาวลงไป รูปร่างที่บางเพรียวเข้ากับเสื้อนักเรียนสีขาว เน็กไทน์สีแดงยาวหนึ่งไม้บรรทัดอันเล็กเกาะอยู่ที่ปกเสื้อ

           แต่เมื่อเอิญหันมามองผมเขาก็ยิ้ม ผมก็ยิ้มตอบ มันเป็นรอยยิ้มที่แสนหวานเสียจริง ทำให้ผมนึกขอบคุณที่ โคลัมบัสบอกว่า โลกนี้แท้จริงมันกลม เลยทำให้โลกสามารถเบ่งบานได้

           ผมไม่รู้ว่าความขมขื่นไหลเข้าลงสู่ลำคออีกครั้งตั้งแต่เมื่อไหร่ เหมือนกับที่ผมไม่รู้ ว่าเอิญ ปฏิเสธรักผมทำไม ผมไม่รู้เหตุผลจริง ๆ ผมรู้สึกตัวหนักเป็นแสนกิโล ก้าวขายากมาก อยากจะล้มนอนลงกับพื้นตรงนี้

           ภาพเบื้องหน้าเป็นสีเทา ผมเห็นไม่ชัด น้ำอุ่น ๆ เอ่อคลอเบ้าตาจนเลอะเลือน แต่ก็พอเดาออกว่าเป็นห้องน้ำชาย ผมเดินตรงดิ่งไป จมูกที่หายใจสะดวกดีกลับคัดจนหายใจแทบไม่ออก

           ผมรู้สึกมีแขนอุ่น ๆ โอบข้ามไหล่ขวาไปแตะไหล่ซ้าย พลางเขย่า และพูดอะไรสองสามคำ แต่ผมไม่ได้ฟังมัน พลางแขนท่อนนั้นเลื่อยขึ้นมาและจับหัวผมเขย่า และลูบแรง ๆ ผมรู้ว่าเป็นมือของเจ้านัท แล้วมันก็พูดอะไรสองสามคำ แต่ผมก็ไม่ได้ยินเหมือนเดิม

           ผมเดินเข้าห้องน้ำกับเพื่อน เราเข้าไปห้องสุดท้ายด้วยกัน ผมเข้ามานั่งบนโถส้วมสำหรับนั่ง โดยมีเจ้านัทยืนข้าง ๆ เสียงเคี้ยวช๊อกโกแลตเต็มปากที่คงเพิ่งยัดเข้าไปสดสด และผมก็ได้ยินเสียงก้องกังวานในห้องน้ำ มันเป็นเสียงเพื่อนผม คราวนี้ผมได้ยิน และเข้าใจ

          มันพูดว่า เวลามีค่าเสมอเพื่อน ขนาดนาฬิกาที่ตาย เวลายังเดินต่อทำให้มันบอกเวลาได้ถูกต้องตั้งสองครั้งต่อวัน

    แล้วมันก็พูดต่อ แต่เสียงเบากว่าเดิมมากกกก และกู่ก้องในใจของผมเขารักมึงความทรงจำครั้งสุดท้ายในวันนี้ได้เผยออกมาแล้ว ผมไม่เข้าใจว่าหมายถึงอะไร แล้วผมก็รู้สึกเหมือนตัวเองลอย และไม่รู้สึกอะไรอีกเลย



    ...................................................................................................................................................................................................................

           โอ้ววว เปิดเรื่อง "พี่ชเลย์" ของเราก็เศร้าซะแล้ว แถมยังโดนบอกเลิกอย่างไม่รู้เหตุผลอีก อะไรกันแน่นะ ที่ทำให้ น้องเอิญบอกสิ่งนั้นกับรุ่นพี่ที่เขารักไป โอ้ ไม่นะ หรือว่าจะเป็นนนนนน.....

            โอ๊โอ ติดตามต่อกันเอาเองน้า ผู้หญิงที่อ่านนิยายเรื่องนี้ สามารถรู้สึกถึงความรู้สึกผู้ชายได้มากขึ้นก็ได้นะ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผู้ชายคนหนึ่งเขียนขึ้น ซึ่งนำชีวิตจริงหลายๆ ฉาก หลายๆ ตอนมายำรวมกัน ...... โหโอ้ แสดงว่าคนเขียนเนี้ย ประสบการณ์โชกโชนเลยสินะ ฮิฮิ... 55+
    .....
    ......
    ปล. อย่าลืม แวะมาอ่านแล้ว โพสนิยายของพวกเธอใว้มั่ง 55+ ไปแล้วคร้าบบบบ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×