ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Secret Of Creature แฟนซอคซี ฟาทานผจญภัย

    ลำดับตอนที่ #3 : เลือด และความตาย

    • อัปเดตล่าสุด 1 ก.ค. 56



     

                “ทหารทุกตัว เตรียมพร้อมมมมมมมม !!!!” พลเวหา พลกับดัก สหายปักษาแห่งฟากฟ้าป่าน้ำแห่งนี้ พลประชิด !!!! สู้ตายยยยยยยยยยยยยยยย

                เหล่าค้างคาวเวหา ปักษา พันธมิตร ดิ่งลงจากหน้าผาสู่ศตรูที่โฉบใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว งานนี้ ชีวิตที่สละย่อมแลกด้วยความอยู่รอด และศักศรี

                ฟากฟ้าที่มืดแสงยะยิบดาวเวลานี้ ผืนป่าสะท้อนแสงสีเขียวลอยลิ่ว หน้าผามีเงาตะคุ่มยืนเรียงขอบผาเป็นแถว มือทั้งสองถือหน้าไม้เล็งไปเบื้องล่าง

                    พลธนู ยิงงงงงงเบื้องบนหน้าผาเสียงหนึ่งตะโกนก้อง ลูกธนูอันจิ๋วจำนวนมหาศาลพุ่งไปยังเผ่าแมว พวกเขารู้การมาของห่าลูกธนู แสกอากาศมายังตัวมันอย่างรวดเร็ว ตรงมาข้างหน้า ใกล้เข้ามา พลันเท้าทั้งสี่ของแมวตัวหนึ่งผลักตัวเองหลบฉาดไปทางซ้าย มันกระโดดขึ้นวาดมือเป็นวงกลมทวนเข็มนาฬิกาช้า ๆ ระหว่างลอยตัว แสงสีเขียวปรากฏอย่างรวดเร็วตรงกลางวงที่วาด จากนั้นเจ้าตัวผลักลูกพลังสีเขียวอย่างแรงไปข้างหน้า พลังนั้นพุ่งแหวกอากาศไปยังลูกธนูที่แสกสวนมา และแสงสีเขียวอีกหลายร้อยลูกก็พุ่งตรงไปบนหน้าผาเช่นเดียวกัน บ้างก็สัมผัสกับลูกธนูจนแตกเสี่ยง ๆ บ้างก็หลุดพ้นไปโดนร่างค้างคาวผู้ง้างหน้าไม้อีกครั้ง ทำเอาหลายตัวร่วงลงจากผา ลูกศรหลายลูกที่หลุดพ้นการทำลายล้างของพลังสีเขียวเผ่าแมวปักเข้าลำตัว หน้าอกของสัตว์สี่ขาเบื้องล่างลูกเดียวนอนแน่นิ่ง

                    ใต้ผืนดินที่ปกคลุมด้วยหญ้าข้างหน้าที่พวกแมวกำลังถลาเข้าไป เตรียมพร้อมเสียงดุจน้ำแข็งกล่าวขึ้น ภายใต้นั้นมีแสงไฟริบหรี่อยู่ทั่วบริเวณ ทำให้เห็นเพิงใต้ดินขนาดไม่สูงมาก แต่ความกว้างนั้นสุดลูกกะตา มีหนูจำนวนมากกว่าร้อยยืนกระจัดกระจายกันไป ท่อนไม้ท่อนใหญ่ที่ค้ำเพิงดินไม่ให้พังครืนลงมานั้นปักอยู่ทั่วเช่นกัน

                    ฟ้าทะเลที่มีผ้าพันแผลตรงแขนซ้ายซึ่งเป็นจอมพลของเผ่าหนูในป่าน้ำแห่งนี้ยืนเคียงฟ้าธารลูกชาย

    ทุกตัวในที่นี้ต่างมีอาวุธเป็นของตัวเอง ส่วนมากจะเป็นอาวุธโจมตีระยะไกลสังเกตได้จากกระเป๋าใบจิ๋วที่สะพายหลังอยู่ มีบางตัวเท่านั้นที่ถือมีดสั้นสองเล่มจิ๋ว

                    เบื้องบนเสียงระเบิดพลัง เสียงปักของลูกธนู ไม่รู้ว่าโดนสิ่งมีชีวิต หรือแค่ปักธรณี และเสียงสนั่นราวฟ้าฟาดของก้อนหินจากพลเวหาหรือนกที่ทิ้งลงมาจากเบื้องบน

                    เสียงฝีเท้าอันเบาหวิวของเผ่าแมวที่เคลื่อนใกล้เข้ามาก็ดังชัดขึ้น ให้รู้ว่ามันใกล้เข้ามาแล้ว

    พลันบนหัวของเหล่าหนูที่เตรียมรับมือในเพิงใต้ดินมีฝีเท้าจำนวนมหาศาลกำลังเหยียบย่ำ

    ลุยยยยยยยยยย !!” เสียงแข็งกร้าวเต็มไปด้วยอำนาจคำรามลั่น หนูทุกตัวในที่นั้นเตะท่อนไม้ที่ค้ำเพิงผาจนล้มครืนลงทันที

                    บนหน้าผาสูงเป็นที่มาของลูกธนู บัดนี้ไม่เหลือผู้ปล่อยศรแล้ว เมื่อมองขึ้นไปบนฟ้า ค้างคาวจำนวนมาก ดำทมึนใต้แสงดาว โฉบลงหมายกำราบศตรูเบื้องล่าง หลายตัวที่เมื่อดิ่งลงไปแล้ว สิ่งที่ติดขาหลังของมันมา เป็นเงาของบางสิ่ง ทว่าอีกเช่นกันเมื่อพวกมันดิ่งลงไป เกิดแสงสีเขียวไหววาบ จากนั้นก็ไม่ได้กลับขึ้นมาอีกเลย

                    แมวจำนวนมหาศาลที่ใช้ทักษะสายลิ่วลอยขู่คำรามลั่นเมื่อผืนดินเบื้องล่างที่เหยียบยืนเกิดสนั่นหวั่นไหว พวกมันชะลอฝีเท้า เสียงดังดั่งธรณีพิโรธ แผ่นดินยุบตัวลงอย่างรวดเร็วกลืนเอาแมวทัพหน้าหลายร้อยชีวิตลงไปใต้ดินกินบริเวณเป็นทางยาวเฟื้อย ทัพหน้าของพวกมันตอนนี้กำลังปล่อยแสงสีเขียวปลิวว่อนอยู่ในหลุมดินกว้างใกล้ตีนผานี้ ในขณะเดียวกันผู้พังผืนดินก็ตีลังกาว่อนปาอาวุธลับสลับหลบสายพลังที่ยิงมายังตัว บ้างก็เข้าประชิดแมวเหล่านั้นแล้วใช้อาวุธเล่มเล็ก ๆ เมื่อยกขึ้นจ้วงแทงฝ่ายตรงข้ามก็เกิดแสงแวววาวจากการสะท้อนของแสงดาวไม่กี่ดวง ดูดูแล้วเหมือนการต่อสู้ของนักรบโรมันในอดีตกาลไม่มีผิด

                    เสียงพลังต่าง ๆ บวกกับเสียงร้องอย่างเจ็บปวดไม่เป็นภาษา เสียงกระพือปีก สนั่นเวิ้งฟ้าที่เริ่มสาง ดวงตะวันดวงเก่าที่สดใสกำลังมาเยือนแผ่นดินนองเลือดแห่งนี้อีกครั้ง

                    ท่านพ่อ ฟ้าธารเหลือบไปทางซ้ายเรียกพ่อตัวเองในใจที่กำลังตีลังกาห่างจากเขาไปไกลพอควร พลันหลบเส้นพลังสีขาวที่ว่อนผ่านใบหูเล็กเรียวอย่างหวุดหวิด และหลบอุ้งมือเล็บคมกริบที่พุ่งมา ดวงตาของศตรูที่เป็นแมวสีขาว ใช่ ผู้นี้คือแมว สีขาว ฟ้าธารเพ่งมองไปยังศตรูตัวสีขาวสง่าตรงหน้า แล้วปากของแมวผู้นั้นจึงขยับ

    เจ้าฟ้าธารสินะ ส่งของสิ่งนั้นมาให้ข้าซะจะดีกว่า พวกเจ้าทุกตัวจะได้รอดจากเงื้อมมือกองทัพของเรา

    คำพูดที่เปล่งออกมานั้นเชิงขู่ เป็นเสียงของหญิงสาวผู้เป็นแมว ดวงตาข้างขวาสีเหลือง ส่วนข้างซ้ายนั้นสีฟ้า ข้ายกให้เจ้าไม่ได้หรอก เพราะสิ่งนี้สำคัญสำหรับข้า และเพื่อน ๆ ของข้าทั้งคู่ยืนสง่าคุยกันท่ามกลางเสียงครึกโครมของการต่อสู้ เศษหินที่กระเด็นมาระหว่างคุย เพียงขยับตัวเล็กน้อยก็หลบได้แล้ว แมวขาวตาสองสีสาวก้าวเข้ามาช้า ๆ จนเกือบจะอยู่ในรัศมีการต่อสู้ระยะประชิด ฟ้าธารดึงมีดสั้นสีใสวาวจากด้านหลังด้วยมือขวาแล้วยกมีดสั้นขึ้นระดับหน้าอกปลายมีดหันไปทางขวาออกนอกตัว

                    แสงตะวันยามฟ้าสางเช่นนี้ทำให้ในนัยน์ตาของฟ้าธารมีเงาของศตรูที่ยืนย้อนแสงตะวันอยู่

    งั้นข้าก็จะไม่เกรงใจเจ้าแล้วล่ะ รับมือ!” ขาดคำ แมวสีขาวเบื้องหน้าถีบขาตัวเองพาตัวขึ้นกลางอากาศแล้วตีลังกากลับหลังเพื่อตั้งหลัก แสงสีขาวสว่างจ้าที่มือขวาของหล่อนปรากฏขึ้นทำให้การต่อสู้รอบตัวชะงักแล้วหันมามอง ทั้งแมว หนู ค้างคาว และนกหลาย ๆ ชนิดที่ฆ่าฟันกันอยู่นิ่งเงียบเพื่อดูการต่อสู้ของรองแม่ทัพของทั้งสองเผ่า

                    บัดนี้แสงตะวันส่องจ้า บริเวณหลังฟ้าธารเป็นเป็นหลุมยาวเหยียดกว้างใหญ่สีน้ำตาลอ่อนอยู่ตรงกลางระหว่างผืนป่ากับหน้าผามีแมวตัวสีขาวตาสองสี กับหนูวัยรุ่นขนสีเขียวอ่อนปนฟ้า

                    พลังสีขาวที่แตกต่าง เพราะมีความสามารถพิเศษไปกว่าพลังสีเขียวธรรมดา สว่างจ้าจนฟ้าธารจำต้องนำมือข้างที่ไม่ถือมีดมาป้อง นั่นแหละเป็นจังหวะที่ดีของอีกฝ่าย เมื่อฟ้าธารเสียเปรียบเช่นนี้ พลังสีขาวนั้นไหวเพื่อมบนมือขวาของแมวขณะห้อยข้างลำตัว พลันเจ้าของพลังกระโดดขึ้นตัวลอยในเสี้ยววินาทีแล้วผลักพลังดังกล่าวมายังฟ้าธารที่ป้องตาจากแสงสว่างจ้า ใบหูฟ้าธารขยับเล็กน้อย ตาสีฟ้าหรี่เล็กลง มือกระชับมีดแน่นบริเวณหน้าอก เสียงบางอย่างดังหวิวแหวกแสกอากาศมา สัญชาตญาณบอกให้เขาหลบไปทางซ้าย เขาไม่รอช้า เท้าขวาดันพื้นจนตัวลอยขึ้นเบา ๆ พลิกตัวเองไปทางซ้าย ฝุ่นดินฟุ้งจาง ๆ จากเท้าขวาที่ถีบ มืดจิ๋วของหนูฟ้าธารข้างซ้ายที่ไม่ได้ถือมีดรับน้ำหนักจากการพลิกตัวมาทางข้าง ตังคว้างกลางอากาศหัวของเขาชี้ลงดิน มือขวาถือมีดรับน้ำหนักของตัวเองพลางส่งตังเองให้กลับมายืนในต่ำแหน่งใหม่ เสียงขาดของอะไรบางอย่างแว่วมา ตามด้วยการหล่นของวัตถุสามเหลี่ยมอันจิ๋วจากถุงผ้าด้านหลังเขา บึ้มม! พื้นดินด้านหลังที่เป็นหลุมทางยาวอยู่แล้วฝุ่นตลบด้วยพลังพลาดเป้า ฟ้าธารไม่รอช้าหยิบอาวุธสามเหลี่ยมจิ๋วของตนจากหระเป๋าที่รั่วหวังใช้ประโยชน์ให้ได้มากที่สุด ทว่ากลับคลำไม่พบสิ่งใดจึงพุ่งตัวตรงไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว มีดแหวกอากาศเป็นเส้นสาย ขาที่วิ่งเร็วราวร้อยขาช่วยกัน แววตามุ่งมั่นสู่แมวตรงหน้าที่เริ่มร่ายพลังของตัวเองอีกครั้ง ศรสายลม!” แมวขาวเปล่งคำพูดออกมาพร้อมพลังหมอกสีขาวพุ่งเป็นศรธนูเรี่ยพื้นดินที่กระจุยคลุ้งออกตามแรงดันของสายพลัง ฟ้าธารตั้งสมาธิแน่แน่ว กระโดดพุ่งตัวออกไปข้างหน้ายังพลังสายนั้น เมื่อเกือบถึงศรสีขาวเขาผลักมีดสั้นออกไปสุดแรงพร้อมเปล่งคำพูดเบา ๆ ฟังไม่ได้ยิน แสงสีฟ้าเคลือบมีดของเขาใว้พร้อมกับแหวกศรสายลมออกเป็นสองส่วน พุ่งเลยไปปักพื้นด้านหลังแล้วสลายไป

                    ฮึ ฝีมือใช่เล่นนี่เด็กน้อยตาสีฟ้า และสีส้มเพ่งมาด้วยความชื่นชม อย่ามัวพูดให้เสียเวลาฟ้าธารพูดไปบ้าง ระหว่างที่การต่อสู้รอบข้างเริ่มขึ้นอีกครั้ง เสียงโลหะกระทบกันดังถี่อย่างสนั่นก้องป่า ไปกระทบกับตีนผาเสียงนั้นก็ย้อนกลับมา ทำให้ดูเหมือนมีการสู้รบเป็นสองเท่าของการรบจริง ๆ เมื่อมองจากมุมที่แมวขาว และหนูสีฟ้าอมเขียวต่อสู้กัน ทางซ้ายมีทั้งร่างของค้างคาว หนู และแมวนอนรวมกันอยู่ บางตัวยังมีแรงหยิบอาวุธของตัวเองแล้วกระเถิบไปยังศตรูที่นอนดิ้นข้าง ๆ จากนั้นจึงจ้วงแทงหน้าอกฝ่ายที่ไหวกระดิกแล้วหันมาแทงหน้าอกตัวเองจนนอนนิ่งไป ช่างเป็นภาพที่ไม่น่าชมอย่างยิ่ง นี่แหละหนาสงคราม

                    เสียงมีดสั้นสะท้อนแสงในมือหนูตัวเล็ก กระทบโซ่หมอกยาวสีขาวของแมวตาสองสีดังเหมือนจังหวะตีกลองมั่ว ๆ ของเด็ก ปลายของโซ่หมอกมีมีดเล่มเล็กห้อยอยู่ การตวัดแต่ละครั้งพาเอาสายลมไหวหวั่นฉีกกลางอากาศ บัดนี้ทั่วตัวฟ้าธารมีเลือดแดงสดไหลซึมออกจากขนของเขาหยดไปบนพื้น แผลเล็ก ๆ เมื่อมีมากขึ้นก็ทำให้อาการหนักได้เหมือนกัน ฝ่ายแมวขนสีขาวนั้นดูไม่ออกว่าเป็นสีขาวหรือสีแดงกันแน่ ท่าทางหอบเอาการอยู่เหมือนกัน ทั้งคู่พันตูกันได้สักพักก็เริ่มหอบหายใจเหนื่อยออกมา แต่ก็ยังไม่มีใครยอมใคร ยังคงฟาดฟันกันต่อไป

                    มีดสั้นในมือขวาของฟ้าธารตรงดิ่งไปยังแมวขาวที่ขุกเข่าหอบอย่างเหนื่อย เพราะแมวถนัดการต่อสู้ระยะห่างมากกว่าการประชิด ฟ้าธารจึงได้เปรียบไปเต็มประดา มีดสั้นยกขึ้นขนานหน้าอก ปลายมีดชี้ออกจากตัวไปทางขวา เป้าหมายอยู่เพียงแค่เอื้อมเท่านั้น อีกฝ่ายซึ่งเหนื่อยหอบยังไม่เท่าไหร่ แต่บาดแผลนั้นสาหัสนักยากที่จะต่อกลอนจากฟ้าธารตัวเล็กคล่องแคล่วนี้ได้ เมื่อมีดสั้นสีเงินใสคมกริบฉาบเลือดแดงสดใกล้บริเวณใต้คางของแมวขาว เสียงลมจากการหยุดวิ่งของฟ้าธารดังขึ้นเบา ๆ ข้างหูแมวขาวที่หลับตานิ่งรอความตาย

                    หล่อนลืมตาขึ้นช้า ๆ มือข้างขวาซึ่งเป็นทางซ้ายของฟ้าธารยังคงกำหมอกโซ่ใว้แน่น ทันใดนั้นเองในแววตาของแมวขาวผู้นี้ก็ปรากฏหยาดน้ำหยดหนึ่งกำลังจะเอ่ออกมา ในดวงตาบ่งบอกความรู้สึกสู่ฟ้าธารได้อย่างชัดเจน หัวใจทั้งสองเต้นเบาลง อาการเหนื่อยทุเลาลงแล้ว ฟ้าธาร และแมวขาวบอกไม่ถูกว่าความรู้สึกผูกพันธุ์นี้คืออะไร เพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้นความรู้สึกในดวงตาของแมวขาวก็มลายไปเหลือเพียงหมอกโซ่ที่ตวัดขึ้นมาโดยไม่ทันตั้งตัวปักเข้ากับแขนซ้ายของฟ้าธาร เขาร้องเสียงดังลั่นฟ้า มีดปลายโซ่แม้จะใหญ่แต่ก็ไม่มากนักโดนดึงออกอย่างลวก 

    ว่าด้วยหมอกโซ่นั้นไม่ใช่โซ่ธรรมดา แต่เป็นพลังยุทธขั้นสูงของเผ่าแมว คนที่สามารถใช้ได้ต้องเป็นผู้มีบารมี และได้รับการรับเลือกจากหมอกโซ่นั้น ๆ ซึ่งต้องเป็นเชื้อพระวงษ์ของราชาเท่านั้น

                    อีกข้างหนึ่ง ฟ้าทะเลพ่อของฟ้าธารกำลังถือมีดสั้นแบบเดียวกับลูกชาย แต่แปลกไปคือบนตัวมีดมีรอยสลักเป็นรูปโค้ง ๆ ของอะไรสักอย่างซึ่งมองไม่ถนัดนักเมื่อกำลังขยับเช่นนี้ คู่ต่อสู้ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็คือ แมวตาสีแดงน่ากลัว ร่างกายใหญ่โตเกือบเท่าหมาป่า วันนี้แหละ ข้าแม่ทัพเผ่าแมวจะเป็นคนฆ่าท่านด้วยมือของข้าเองแมวดำพูดขณะตวัดหมอกโซ่สีรัติกาลของตนไปยังฟ้าทะเล

                    ผู้นี้ก็คือแมวที่อยู่ในตาข่ายเมื่อไม่กี่ชั่วยามที่ผ่านมา ซึ่งตั้งข้อสงสัยว่าคงจะโดนกับดักง่าย ๆ แต่เป็นการวางอย่างพิถีพิถันของฟ้าธาร ซึ่งจำต้องมีการใส่พลังเพิ่มเติมให้กับตาข่ายเถาวัลย์นั้นโดยการปาหรือปักวัตถุสามเหลี่ยมของเผ่าหนูที่มีตกทอดมาช้านานเข้าไป เมื่อวัตถุสามเหลี่ยมเข้าใกล้ตาข่ายเถาวัลย์ดังกล่าวตาข่ายจะค่อย ๆ ดูดซึมพลังของวัตถุสามเหลี่ยมสีน้ำตาลเล็ก ๆ ที่เรียกว่า เหลี่ยมฟ้าจนสลายเป็นผุยผงจึงดูดเข้าไปในเนื้อตาข่าย พลังนี้เป็นพลังต้องห้ามหากไม่จำเป็นจริง ๆ ห้ามใช้อย่างเด็ดขาด เพราะอะไรไม่มีใครบอกได้

                    อ๊ากกกกเสียงร้องอย่างเจ็บปวดของฟ้าธารดังมาก้องเสียดแทงใจฟ้าทะเลจากทางซ้ายซึ่งฟ้าทะเลหันหน้าให้หน้าผา เขาไม่เสียสมาธิแต่อย่างใด แต่เมื่อลองเพ่งจิตไปสำรวจพลังชีวิตของลูกชายแล้วถึงกับตกใจเพราะมันร่อยหรอลงทุกที ในวินาทีที่เขามัวภวังค์กับพลังชีวิตลูกชาย แมวดำตรงหน้าถือโอกาสผลักหมอกโซ่สีดำมายังหน้าอกของฟ้าทะเลสุดแรงหวังจะคร่าชีวิตให้ได้ ฟ้าทะเลหลบฉาดใหญ่ มีดปลายหมอกโซ่ด้ามใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดตัวของหนูเฉือนเข้ากับแขนซ้ายแผลเก่า ผ้าพันแผลสีขาวที่ลูกชายบรรจงผูกให้ขาดเป็นเส้นพร้อมเลือดกระเซ็นเปรอะเต็มพื้น

                    ฟ้าทะเลไม่คอยช้า พุ่งหาแมวอย่างรวดเร็ว หมอกโซ่ที่เฉือนไปตวัดหาผู้ถือทำให้ฟ้าทะเลต้องกระโดดขึ้นเพื่อหลบคมมีด เขาหยิบเหลี่ยมฟ้า วัตถุสามเหลี่ยมสีน้ำตาลออกมาถือในมือซ้าย เขาโยนมีดสลับกับเหลี่ยมฟ้าเปลี่ยนมือสำหรับถือ วัตถุทั้งสองลิ่วสวนทางกันเป็นเส้นตรงเปรียบไร้แรงดึงดูด ตอนนี้มีดจากมือขวาไปอยู่บนมือซ้ายแล้ว ในขณะเดียวกันเหลี่ยมฟ้าสามอันอยู่ในมือขวาเตรียมพุ่งไปยังศตรู ไม่ทันได้ทำสิ่งใดหมอกโซ่ก็ตวัดมาอีกรอบคราวนี้มาพร้อมศรสายลมสีดำขลับเกือบสิบเส้น ฟ้าทะเลตาลุกวาว ใจเต้นระรัวเร็ว เพราะระยะไม่ถืงสามเก้าการหลบนั้นถือว่ายากเย็นแม้เข้าจะตัวเล็กก็ตามที แต่นี่ศรสายลมมาเป็นห่าเช่นนี้เห็นทีจะยากยิ่งกว่าการดับไฟด้วยการเป่าด้วยปากเสียอีก ในวินาทีเดียวกันนั้นเขาตัดสินใจพูดอะไรงึมงำบางอย่างออกมาแผ่วเบา สายพลังสีแดงสดเหมือนเลือดไหลมาตามแขนขวาที่มีขนปกคลุมเข้าไปสถิตในเหลี่ยมฟ้า ชั่วพริบตาที่หมอกโซ่ทมึนพุ่งมาถึงแค่เอื้อมพร้อมกับศรสายลมสีดำมะเมื่อม ฟ้าทะเลปาเหลี่ยมฟ้าออกไปทั้งสามอัน วัตถุของแมวดำตัวใหญ่ กับ ฟ้าทะเลหนูตัวเล็กปะทะกัน

                    ลมหวิวแรงทำเอาทั้งคู่กระเด็นออกจากรัศมีนั้น พื้นที่ตรงกลางเป็นหลุมลึกขนาดใหญ่ลวดลายที่เห็นในวงกลมสีดินขนาดเกือบเท่าชิงช้าสวรรค์นั้นแปลกตา ฟ้าทะเลพยายามพยุงร่างเล็กของตนขึ้น ขนสีน้ำตาลธรรมดานั้นบางส่วนหลุดหายไป เลือดสีแดงสดสดเผยออกมา เขาพยายามจับพลังชีวิตของลูกชายอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไร้วี่แววของพลังชีวิต เขาเพียงวิงวอนในใจว่าพลังของเขาเองที่ลดลงจนไม่สามารถจับพลังชีวิตของลูกชายได้ ได้แต่คิดในแง่ดีใว้ก่อน เมื่อเขายืนขึ้นจึงรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงมีวัตถุบางอย่างอยู่ในตัวของเขา เป็นศรพลังสีดำปักคาหน้าอกจนมิดด้ามทะลุไปยังแผ่นหลัง เขากระอักเลือดเสียออกมา

                    ฝ่ายแมวดำร่างใหญ่ไม่มีการบาดเจ็บแต่อย่างใด เขาตั้งใจจะเดินเข้ามาหาฟ้ทะเลที่สาหัสอยู่ไม่ไกลนัก แต่ตัวเองต้องเดินผ่านวงกลมที่ไม่สังเกต รู้ตัวอรกทีก็มายืนตรงกลางวงแล้ว ทันใดนั้นเองเลือดทั่วตัวของเขาก็เคลื่อนลงสู่เบื้องล่างไปยังภาพลายตาเหมือนสัญลักษณ์อะไรสักอย่าง เหมือนพลังชีวิตโดนดูดไปด้วย ในเสี้ยวของเสี้ยววินาทีนั้นนั่นเอง เหลี่ยมฟ้าซึ่งฟ้าทะเลปาไปสามอัน ทว่ามีแค่สองอันเท่านั้นที่ไปโดนเข้ากับสายพลังของแมวดำ ที่เหลืออีกหนึ่งอันจึงว่อนผ่านไป ที่จริงแล้วฟ้าทะเลตั้งใจเช่นนี้แหละ

                    เหลี่ยมฟ้าอยู่บนก้อนเมฆสูงเสียดฟ้า ไม่น่าเชื่อว่าจากแรงปาของหนูตัวเล็ก ๆ จะทำได้ขนาดนี้ เหตุผลเดียวง่าย ๆ หนูนามฟ้าธารนี้ไม่ธรรมดา เหลี่ยมฟ้าหมุนอย่างแรงจนทำให้เห็นเป็นวงกลมไปเลย ค่อย ๆ ตัดผ่านสายเมฆแหวกลงมา เบื้องล่างการต่อสู้ยังคงดำเนินไป เห็นได้ไม่ชัดนักว่าใครเป็นใคร แต่ที่แน่ ๆ ตอนนี้เหล่าค้างคาวนั้นได้บางตาลงแล้ว เหลือเพียงแมว หนู และนกเท่านั้นที่ยังเฉือนอีกฝ่ายกันอยู่

                    ความเร็วของเหลี่ยมฟ้าเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนได้ยินสียงหวีดหวิวของอากาศที่วัตถุสามเหลี่ยมนามเหลี่ยมฟ้านี้แหวกลงมา เกิดประกายสายลมรอบ ๆ เหลี่ยมฟ้า แต่ที่สะดุดุคือไอสีแดงเข้มที่คลุ้งจาง ๆ สลายไปข้างหลังตามแรงเมหันต์นั้นดูโหดร้าย และคาดว่ากำลังจะสังหารใครบางคนที่อยู่เบื้องล่าง พลันภาพเบื้องล่างที่มองจากข้างบนก็ใหญ่ขึ้น ใหญ่ขึ้น จนสามารถเห็นได้ชัดว่าที่ที่ดิ่งลงไปคือกลางวงภาพแปลกตาที่มีแมวสีดำยืนอยู่นิ่งไม่ขยับเปรียบมีอะไรตรึงเขาใว้

                    ฉึกกกกกกกกกกกกก !!! เสียงร้องโหยหวนของแมวดำดังก้องทั่วปัฐพีแห่งนี้ พลันเลือดสีแดงสดไหลออกจากบาดแผลลึกที่หลังคอจากการปักของเหลี่ยมฟ้า ไหลลงไปในวงภาพดังกล่าว ภาพซึ่งเคยเป็นสีดินบัดนี้ค่อย ๆ บรรเลงด้วยสีแดงของเลือดแม่ทัพเผ่าแมว สิ้นเสียงร้องก้องกังวานวาระสุดท้ายของแมวดำ ทุก ๆ อย่างในป่าแห่งนี้คลุ้งไปด้วยหมอกสีดำปนเลือด ทั้งท้องฟ้า เมฆหมอกสีดำสิ้น สายฟ้าคำรามลั่นแปลบ ยังคงทอสายเป็นสีเลือด หรือว่า นี่คือ การปลุกชีวิตของใครบางคนจากขุมใต้นรก

                    สติของฟ้าธารพร่าเลือน สิ่งสุดท้ายที่สัมผัสได้ดังขึ้น

    ลูกรัก ลูกเป็นเด็กดี ลูกต้องมีชีวิตต่อไปเสียงจริงใจซึ่งฟังแล้วเป็นเสียงผู้หญิงดังแว่วขึ้น.......... และจางจากไป

    ...........................................................................................................

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×