คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : Chapter 10 : เริ่มอีกครั้ง
Chapter
Ten
เริ่มอีกครั้ง
หลังจากที่ทุกคนพูดคุย หารือกันเสร็จแล้ว ก็เริ่มภารกิจต่อ
“เสร็จเรียบร้อย” รินพูดน้ำเสียงดีใจ อุปกรณ์ที่รินและอลิซช่วยกันทำนั่นคือ ตัวถ่วงเวลาประตู ลักษณะมันคล้ายกับโซ่คล้องกัน และมีเล็กแหลมอีกด้านหนึ่งที่ยึดกับชั้นวางรองเท้า ส่วนตรงปลายก็ยึดพนังด้านบนไว้มันทำหน้าที่เวลาที่ ประตูด้านนอกจะพังเข้ามา และชั่นวางรองเท้าจะล้มลงไป ก็จะมีเหล็กที่ยือหยุ่นนี้ คอยดึงให้มันกลับมาที่เดิม
แต่ถ้าเหล็กหลุด ชั้นวางรองเท้าก็จะล้มลงเลย แต่ก็ถือว่าช่วยได้ สามารถถ่วงเวลาได้ประมาณครึ่ง
ชั่วโมง
“โอเคดีมาก....เซอร์ซีห้องพักครู ห้องควบคุม ห้องวิทยุสื่อสารอยู่ชั้นไหน?” ริกถามหนูน้อยที่กำลังกอดตุ๊กตากระต่าย
“อ่อ...ชั้นสามค่ะ ห้องแรกจะเป็นห้องน้ำ ห้องที่สองห้องควบคุม ห้องที่สี่ที่ห้าจะเป็นห้องพักครูแล้วก็ห้องวิทยุสื่อสาร”
“โอเค....เคลียร์ตึกพร้อมกับเขายึดห้องพักครูให้ได้” ทุกคนพยักหน้าก่อนที่จะเข้ามาใกล้กันอย่างอัตโนมัติ
“คุ้มกันคนเจ็บ...หนูซี แล้วห้องพยาบาลล่ะ” ริกยังถามต่อ
“ก็ห้องที่หก ห้องสุดท้าย”
“ไปทางด้านขวาของตึก ใช้ห้องพยาบาลก่อน ระวังหลังด้วย สายตาสอดส่องหาผู้รอดชีวิต” ริกกล่าว
ก่อนที่จะเดินนำหน้าไปอย่างระมัดระวัง
F2
กริ้ชชชชชชช!
“ช่วยด้วย....ช่วยด้วย” เสียงเด็กสาวผมแกะคนหนึ่งกระโจนออกมาจากห้องเก็บของ
“ระวัง” ริกบอกเด็กสาวแต่เธอไม่มีท่าทีจะฟังเพราะความตกใจ ไวรัสซีระดับกลางลักษณะคล้ายคนแต่มีปุ่มตามตัวคาดว่าน่าจะวิวัฒนาการร่วมกันกับฝุ่นช็อก
“กริ๊ดดดดดดด!!” เสียงเด็กสาวร้องเมื่อปุ่มนั้นกระโดนมาอยู่บนหัวของเธอและสูบเลือดจากตัวเธอจนหมดสิ้น มิเชลหันหน้าหนี เซอร์ซีมองไวรัสซีนั้นก่อนที่จะยิงใส่ที่หัวอย่างจังและร่างนั้นก็แนบนิ่งไป
“น่าสงสารเธอ...” มิเชลพูดขึ้นมาพร้อมกับหันไปทางโด แล้วโดก็กอดมิเชลพื่อปลอบขวัญ เซอร์ซีมองร่างไร้เลือดฝาดนั้น พร้อกมับย่อตัวลง เธอดึงกิ๊บติดหัวลายดอกไม้สีแดง วางลงตรงหญิงสาว
“ฉันคิดว่ามันเหมาะกับเธอ...แฟรี่” เธอวางลงและหันไปทางอื่น เร็นเดินมาตบบ่าเธอก่อนที่จะดึงความสนใจ
“ผมรู้ว่ามันยากที่จะทำใจยอมรับ...หนูเซอร์ซี-แต่เราจะต้องมีชีวิตต่อไป แทนในส่วนคนสำคัญที่ไม่ได้ใช้มัน” เซอร์ซียิ้มจางๆ
“หนูไม่เป็นหรอกค่ะ....ไปกันได้แล้ว”
“โอ้ววว...พระเจ้า” รินอุทานทำให้ทุกคนหันควับไป หน้าต่างที่อยู่ข้างบันได มีไวรัสซีระดับกลางอีกตัว ลักษณะคล้ายพืชมีน้ำเมือกที่เป็นกรดอยู่ และมีเถาวัลย์ที่ยืดยาวได้ มันโยนเถาวัลย์ออกมาหมายจะรัดตัวริน แต่เวลเฟอร์ที่อยู่ข้างหลังพลักรินออกไป รินวิ่งเข้ามาจับมือไว้แน่น
“ไม่นะ.....ใครก็ได้ช่วยเวลที” รินพยายามดึงสุดชีวิตแต่ก็ไม่เป็นผล เวลเฟอร์ส่ายหน้า ทุกคนเล็งไปที่เถาวัลย์น่าเกลียดและยิงมันแต่ดูท่าจะไม่เป็นผล โดวิ่งเข้าไปแบบไม่คิดชีวิตพร้อมกับฟันที่เถาวัลย์ แต่มันแข็งเหลือเกิน มิเชลพยายามดึงตัวรินเอาไว้ แต่แรงที่ว่ามิเชลมากแล้ว ยังไม่เท่าไวรัสซีชนิดนี้ มันพันรอบตัวเวลในไม่ช้า
เวลยิ้มให้เพื่อนทุกคนก่อนที่จะพูดประโยคสั่งลา...สั้นๆ ออกมา
“มาไกลได้แค่นี้เหรอ.....อย่าลืมฉันล่ะ...ริน” ทันใดนั้นร่างของเธอก็ตกลงไป
“ม้ายยยยยยยยยย!!” รินกรีดร้องสุดเสียงเมื่อเถาวัลย์นั้นดึงเวลเฟอร์ล่วงหล่นจากหน้าต่าง
“มะ...ไม่จริง” อลิซพูดขึ้น
“แรงมหาศาล-ความเร็วแบบนี้” อลิซยังคงพูดต่อเรียกความสนใจจากเพื่อนๆ
“มันต้องเป็นเศษเสี้ยวของเมนหลักแน่ๆ...เมนหลักอาจจะขยายสาขามาที่นี่ ลองนึกสภาพดูสิ ถ้าเรายังหาตัวเมนรองไม่ได้ มีหวังเจ้าตัวเถาวัลย์คลุมหมดทั้งโรงเรียนแน่” ทุกคนเงียบฟัง *(เมนหลักอาจจอยู่ไกล-เมนรองคือตัวที่มาประจำอยู่ที่โรงเรียน)
“รินไม่ต้องเสียใจนะ...ฉันรู้ว่ามะ..” เร็นโดนตัดบทเพราะรินลุกขึ้นพร้อมกับเช็ดปืน
“ฉันไม่เสียใจหรอก...ไปกันเถอะ” พอพูดจบน้ำตาสองหยดก็ไหลออกมา จากตาสองข้าง และเหมือนกับว่าไม่มีทีท่าของมันอีก
“ฉันเข้าใจเธอนะเวล..หลับให้สบาย” รินโยนผ้าเช็ดหน้าสีน้ำเงินที่เวลให้เธอตอน เป็นเพื่อนกันใหม่ๆ ตอนนี้บรรยากาศเงียบมาก
“.....ทำไม เราผ่านอะไรมาด้วยกันหลายอย่าง เด็กดื้อ ฉันไม่มีอะไรให้เธอ นอกจากความเชื่อมั่นในตัวเธอ วันนี้เธอได้พิสูจน์แล้ว ว่าเธอไม่ใช่เด็กอีกต่อไป....หลับให้สบาย” ริกพูดยาว มิเชลหันหน้าหนีอีกครั้ง ทุกคนดูเศร้าและเสียใจมาก เวลคือเพื่อนคนสำคัญของพวกเรา ทุกคนคิดอย่างงั้น
ภาพเด็กสาวเรือนผมสีฟ้า เถียงแองจีล่าหัวชนฝา ภาพหญิงสาวที่เล็งไรเฟิลแม่นกว่าใครๆ ภาพของเด็กสาวดื้อจอมแก่น และอีกมากมาย เข้าจู่โจมรินจากภายใน
“....ขอบคุณมากเพื่อนรัก” รินพึมพัมกับตัวเอง ก่อนที่จะหันมาที่ทุกคนแล้วยิ้มออกมา
“ไปกันเถอะ” สิ้นเสียงรินทุกคนก็ยังคงเดินหน้าต่อไป โดยที่ไม่ลืมหญิงสาวเรือนผมสีฟ้าหัวดื้อคนนั้นเลย….
ตึก....ตึก
“สะ...เสียงอะไรน่ะ” เร็นพูดพร้อมกับมองไปห้องเก็บของ ที่เด็กสาวกระโจนออกมา เร็นเดินเข้าไปใกล้ก่อนที่จะเอาหูแนบกับประตูห้อง ได้ยินเสียงเบาๆแทบจะจับคำไม่ได้ออกมา
“เชย์ ฉันจะออกไปดูด้านนอก มันเกิดอะไรขึ้น แฟรี่ล่ะ ทำไมมีเสียงปืน”
“ไม่ได้นะ ถ้าพี่เป็นอะไรขึ้นมาล่ะ! ฟังฉันก่อน” เด็กหนุ่มคนหนึ่งเปิดประตูออกมาพร้อกมับความตะลึง และเด็กสาวลักษณะคล้ายกันก็กอดแขนเขาอยู่ คาดไม่ผิดน่าจะเป็นแฝดคนละฝา
“พะ...พวกคุณ แฟรี่ล่ะ” เด็กหนุ่มกล่าว
“เรย์....เสียใจด้วยนะ แฟรี่เพื่อนของนายตายแล้ว” เซอร์ซีพูดช้าๆ
“มะ...ไม่จริง แล้วทำไม เซอร์ซีมาอยู่กับพวกทหารล่ะ” เรย์พูดตะกุกตะกัก
“เรื่องมันยาว....ไปกับพวกฉันเถอะ พวกเขาจะดูแลพวกเราเอง” เซอร์ซีพูด เรย์หันไปทางเชย์เด็กสาวอีกคน เธอพยักหน้าให้พี่ชาย
“ได้....ฝากตัวนะครับ ผมเรย์ น้องสาวชื่อเชย์” ทุกคนพยักหน้ารับ
“เด็กๆ ครับพี่ขออะไรหน่อยได้มั้ย” โดเดินเข้าไปพร้อกมับมีดเดินป่า
“จะทำอะไรค่ะ” โดยิ้มก่อนที่ยกแขนของเชย์ขึ้นมา และใช้ปลายมีดสะกิดที่นิ้วโป้ง
“เจ็บมั้ย?” โดถาม เด็กชายส่ายหัว
“ตรวจสอบสินะ” อลิซกล่าวสั้นๆ ก่อนที่โดจะนำแผ่นบางๆ ใสๆ จากกระเป๋ามาทาบบน ปลายมีด
“เขาไม่ได้ติดเชื้อ” โดบอกพร้อกมับลูบหัวเด็กสองคน
“ไปกันเถอะ ตรงนี้ถ้าจะไม่ปลอดภัย” มาเรียพูดก่อนมที่จะเดินไปหาเด็กสองคน
“ไม่ต้องกลัวนะ”
“ค่ะ” เด็กสาวตอบเสียงใส
“..........” เด็กหนุ่มไม่พูดอะไรเพียงพยักหน้า สงสัยเขาคงช็อกกับการตายของเพื่อน มาเรียคิด มันยากจริงๆ สำหรับเด็กมอปลายที่จะทำใจได้ ถ้าเปรียบเทียบกับหนูซีแล้ว เธอเก่งมากเลยทีเดียว
“ห้องวิทยาศาสตร์-ห้องเคมีนี่น้า” เชย์พูดขึ้นดึงความสนใจจากทุกคน
“ลองเข้าไปดูมั้ย?” อลิซพูดขึ้น ทุกคนเดินเข้าไปช้าๆ และพบชายหนุ่มที่หลบอยู่หลังตู้อุปกรณ์วิทยาศาสตร์
“คะ....คุณค่ะ” มาเรียเดินไปสะกิดชายหนุ่มที่กำลังคดตัวอยู่ซอกหลืบหลังตู้อุปกรณ์
“อะ...เอิ่ม พระเจ้าผมรอดแล้ว” ชายหนุ่มเรือนผมสีบลอนเขียวสวมแว่นร้องดังขึ้น
“เงียบไว้ไอ้แว่น....” อลิซกล่าว ไม่ทันสิ้นเสียงก็มีฝูงไวรัสซีระดับต่ำเป็นอีกาประมาณยี่สิบตัวโจมตีกระจกเข้ามา
“พระเจ้า.....หนีเร็ว” มิเชลพูดพร้อมกับเอาตู้อุปกรณ์ดันเอาไว้
“เคลื่อนย้ายออกจากที่นี่” ริกเสริม
“ครูค่ะ...ไม่เป็นไรใช่มั้ยคะ” เซอร์ซีพูด
“ไม่เป็นไรครับ...สบายมาก” ทุกคนต่างวิ่งออกมาอย่างรวดเร็ว
“แล้วพวกเราจะไปไหนกัน” คิมถามทุกคนที่ล้อมพวกเขาอยู่
“ก็ห้องพยาบาล....มีคนบาดเจ็บ” ริกพูดโดยที่ไม่ได้หันหลังมา
“เอ่อ....ให้ผมช่วยมั้ย?”
“ครูเขา...เก่งเรื่องสมุนไพรมากเลยนะคะ” เชย์ชี้ไปที่คิม
“งั้นมูฟไปที่ห้องพยาบาลก่อน....แล้วค่อยเริ่มเลยนะครับ บอกก่อนเลยว่า สมุนไพรอาจแค่ช่วยลดอัตราการแพร่เชื้อแต่ไม่ได้ยับยั้งเหมือนแอนตี้ไวรัสนะครับ” ทุกคนหันควับไปที่คิม
“คุณรู้เรื่องไวรัสด้วยเหรอ” โดถามพร้อมกับกระตุกแว่น
“นิดหน่อย” คิมหยักไหล่
“คุณเป็นใคร?” รินถามเสียงเศร้าๆ
“ฉั้นรู้จักเค้า.....” อลิซพูดดึงความสนใจจากทุกคน
“เค้า...เป็นลูกชายของมิล” สิ้นเสียงทุกคนตาแทบทะลัก แต่ที่ดูจะตกใจที่สุดก็คงเป็น ริกกับโด
“โลกกลมไปนะ” โดกล่าว
“ไปกันเถอะ....โลกกลมไม่กลมมันก็ไม่เห็นเป็นไร” ริกพูดก่อนที่ทุกคนจะเดินตามไป
F3
ณ ห้องพยาบาล
“นั่งก่อนนะครับ...คนเจ็บ แต่คนที่มีเชื้อไวรัส มีแค่คนเดียวใช่มั้ย” มิเชลยกมือ
“อะ...โอเค เริ่มกันเริ่มครับ คุณโด” โดยิ้มไปที่มิเชล
“ช่วยกันเอาของมาตันประตูหน่อย หน้าต่างด้วย เราคงต้องอยู่นี้สักพัก” ริกกล่าวก่อนที่ทุกคนจะเอาตู้ เอาของต่างๆ มากกั้นประตูไว้....
อ่าวววววววววววววว.... ว่าจะเขียนให้ได้เยอะกว่านี้ แต่ขอโรลก่อน ส่วนเรื่องคนที่ได้รางวัล ครบแล้ว แต่รอตอนหน้า จะรู้ว่าใครจะได้อะไร อ่อ ภาระหน้าที่ในการรักษามอบ ให้โด และคิม ..... บาย อยากหาของมั้ย เชิญ อยากจะบอกว่า บอสที่นี้เป็นไวรัสพืช แล้วในห้องเคมี มีไอเท็มพิเศษ ที่ต้องใช้ปราบบอส คิดเอง และต้องใช้ของจากห้องพยาบาลด้วย หิหิ คอยดูล่ะกัน หาของไม่ได้ จัดการรองบอสมิได้นะครับ
ของที่ได้รับ
-ตอนที่หนูเซอร์ซีสำรวจ เจอมีดทำครัวยี่ห้อดัง คมมากมาย
ของที่เสียไป
-เวลเฟอร์ (ไว้อาลัย) รอมาสมัครได้นะครับ ภาคสอง ถ้าไม่อยากมาก็ไม่เป็นไร กระซิกๆ ขอโทษด้วยนะครับ คงไม่ว่ากัน
-แฟรี่ (ตูไม่เด่นนนนน)
-กระสุนเซอร์ซีหนึ่งนัด
-เศษเหล็กทั้งหมดของริน
-กระสุนของทุกคนอย่างล่ะนิด
ความคิดเห็น