ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [the last weapon-ศาตราวุธสุดท้าย]

    ลำดับตอนที่ #4 : The last weapon -ศาสตราวุธลำดับที่ 3

    • อัปเดตล่าสุด 11 มิ.ย. 58


    The last weapon : ศาสตราวุธลำดับที่ 3
     
    .....
     
    ........
     
    .............
     
    ................
     
    ....................
     
    ข้าไม่มีอะไรจะพูดกับเจ้าหรอกนะ
         
    .....
     
    ........
     
    .............
     
    ................
     
    ....................
     
    ถ้ารู้แล้วก็รีบๆออกไปซะสิ
     
    .....
     
    ........
     
    .............
     
    ................
     
    .........................
     
    ว่าไงนะ? ให้ข้าแนะนำตัว? ต้องพูดทุกคนหรอ? ชิ ยุ่งยากจริงๆ ท่านผู้สร้างคิดอะไรอยู่กันแน่นะ
     
    ก็ได้ ข้าชื่อ 'ปิสโตล่า' เป็นศาสตราวุธลำดับที่3จาก4ของเดอะ ลาส วีพอน (the last weapon-ศาสตราวุธสุดท้าย) ชื่อก็บอกอยู่ล้วว่าข้าเป็นปืน บอกยังไง? เจ้าไม่เคยเรียนภาษาสเปนรึ? Pistolaที่แปลว่าปืนพกน่ะ! ข้าไม่ใช่พวกมนุษยสัมพันธ์ดีนักหรอกนะ

    ตัวตนของข้าถือกำเนิดมาจากความโกรธและความเศร้า ข้าไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น ตอนที่ต้องเลือกผู้ที่จะมาเป็นเจ้าของน่ะ เป็นอะไรที่ยุ่งยากที่สุดเลย ข้าก็แค่เลือกคนที่คิดว่ามีชะตาต้องกันเท่านั้น

    เฮ้อ ทำไมข้าจะต้องลงมายังโลกแค่คนเดียวด้วยนะ แต่นั่นก็ไม่สำคัญอะไรหรอก ที่ข้ามีชีวิตอยู่ ก็เพราะยังไม่มีเหตุผลที่ดีพอที่จะต้องตายไงล่ะ แต่ใช้คำว่ามีชีวิตก็ไม่ถูกสักทีเดียว ก็ข้าเป็นปืนนี่นา
     
    ข้าถูกสร้างมาเป็นปืนที่มีขนาดยาว 208 mm. กว้าง 36 mm. สูง 137 mm. บาเรลยาว 122.5 mm. บรรจุกระสุน 20 นัด ใช้กระสุนแบบ FN 5.7×28mm ประเภทกึ่งอัตโนมัติ


    น้ำหนักตอนที่ไม่มีกระสุนอยู่ที่ ca. 620 g ถ้ามีกระสุนน้ำหนักจะอยู่ที่ ca. 760 g เฮ้อ ทำไมจะต้องให้ข้ามาบรรยายอะไรที่มันยุ่งยากแบบนี้ด้วยนะ สรุปแล้วข้าก็คือปืนแบบเดียวกับ FN Five seven นั่นแหละ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเหมือนสักทีเดียวหรอกนะ เพราะข้าไม่ใช่ปืนทั่วๆไปไงล่ะ

    ความจริงที่ตัวข้าถูกสลักลวดลายบางอย่างไว้ด้วย เหมือนจะเป็นรูปเทพธิดาแห่งสายฝนหรืออะไรนี่แหละ ข้าไม่ได้สนใจหรอก เจ้าของของข้าเองก็ไม่ได้สนใจเหมือนกัน
     
    อะไรนะ? ชื่อเจ้าของข้า? จะอยากรู้ไปทำไมกัน เจ้าของข้าชื่อ 'ไทรา อเวนเจอรีน' นางเป็นคนที่ไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น ตัดความรู้สึกตัวเองทิ้งไป เหลือไว้แต่ความโกรธกับความเศร้าเท่านั้น เหมือนกับข้านั่นแหละ

    แต่เด็กหญิงผมสีฟ้าที่มีนัยน์ตาเหยี่ยวคนนี้เก่งกาจมากทีเดียว ไม่มีอะไรผูกมัด ไม่ต้องการเพื่อน หรือแม้แต่คนรู้จัก แค่อาวุธคู่กายก็ทำให้นางมีชีวิตอยู่บนโลกอันแสนโหดร้ายนี่ได้แล้ว

    แล้วยังชอบพูดว่า "สายฝนจะนำทางข้าเอง" หึๆ ทำไมข้าถึงรู้สึกว่าตัวเองมีชะตาต้องกันกับคนๆนี้ได้นะ? แต่นั่นก็ทำให้ข้าตัดสินใจให้นาง'ยืม'พลังของข้า
     
    ข้ายังจำได้อยู่เลย ในวันแรกที่เราเจอกัน ตอนที่ข้าบอกนางว่า "ข้ามาเพื่อเป็นอาวุธของเจ้า" ไทราไม่มีท่าทีตกใจเลย (จากนี้ข้าจะขอเรียกชื่อไทราเลยแล้วกัน) แค่พูดว่า "งั้นหรอ" จากนั้นข้าก็กลายเป็นอาวุธคู่กายไปทันที
     
    ยังอยากจะรู้อะไรอีกล่ะ?! เจ้านี่น่ารำคาญจริงๆ พลังของข้าน่ะหรอ? ที่จริงข้ามีพลังที่ไว้ช่วยเหลือเจ้าของอยู่อย่างนึง มันเป็นพลังที่ค่อนข้างอันตรายทีเดียว 

    ถ้าเจ้าของข้าเกิดเจอเรื่องราวอะไรที่ทำให้รู้สึกโกรธหรือเศร้ามากๆล่ะก็ นางจะได้รับร่างๆหนึ่ง จะเรียกว่าแปลงร่างโดยอัตโนมัติก็ได้ เป็นร่างเด็กหญิงผมสีดำยาวหยักศก มีเคียวอันใหญ่หนึ่งอัน เหมือนกับของยมฑูตนั่นแหละ

    แล้วก็จะได้รับพลังมหาศาลที่ทำลายล้างทุกสิ่งทุกอย่างได้ แต่ถ้าอยู่ในร่างนี้แล้วล่ะก็จะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ใครที่เข้ามาขวางจะต้องถูกกำจัด ไม่มีแยกมิตรหรือศัตรู เพราะร่างนี้จะถูกขับเคลื่อนโดยพลังของความโกระและความเศร้าโดยสิ้นเชิง ดังนั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องดีนักเลยที่มีพลังแบบนี้อยู่

    แต่ข้าว่าบางครั้งอาจจะเป็นประโยชน์ก็ได้ ทำไมถึงเป็นร่างเด็กผู้หญิง? 

    เพราะข้าจะไม่เลือกเจ้าของที่เป็นผู้ชายน่ะสิ!
     
    ไม่เอาแล้ว ข้าเลิกคุยกับเจ้าแล้ว น่ารำคาญจริงๆ เล่นเอาเวลาพักของข้าหายไปหมดเลย ไม่ใช่ว่าข้าจะว่างนะ ถึงไทราจะเดินทางไปเรื่อยๆแต่ก็ใช่ว่านางจะว่างสักหน่อย
    "ปิสโตล่า" เห็นมั้ย ไทราเรียกข้าแล้ว "ขอข้าใช้กระสุนพิเศษหน่อยได้มั้ย"
     
    "จะไปต่อแล้วหรอ" ข้าถาม เป็นเพราะต้องมาเสียเวลาอธิบายเรื่องพวกนี้แท้ๆ เวลาพักของข้าเลยต้องหมดกัน!
     
    "มอนส์เตอร์ข้างหน้านี้ไม่ใช่พวกธรรมดา ถึงจะเป็นเจ้าก็เถอะ กระสุนธรรมดาทำอะไรมันไม่ได้แน่" ไทราหยิบข้าขึ้นมา เอากระสุนออกจากบาเรล จากนั้นนางก็บรรจุกระสุนเข้าไปใหม่ ไม่ใช่กระสุนแบบเดิม

    แต่เป็นกระสุนอานุภาพทำลายล้างพิเศษ และแน่นอน มันใช้ความโกรธกับความเศร้าของไทรามาเปลี่ยรเป็นลูกกระสุน และยังใช้พลังชีวิตของนางในการยิงแต่ละครั้งด้วย หรือที่เรียกว่า 'กระสุนความมืด'
     
    ตอนนี้ไทราเดินผ่านถ้ำแห่งหนึ่งเพื่อจะไปยังหมู่บ้านถัดไป มันเป็นถ้ำใต้ดินที่ดูอันตราย แต่นางก็ยังเลือกใช้ทางนี้ซึ่งเป็นทางลัด เพราะถ้าไม่ใช้เส้นทางนี้จะต้องอ้อมไปอีกไกลมาก
     
    ไทราเดินไปเรื่อยๆจนมาถึงกลางถ้ำภายในถ้ำเต็มไปด้วยหินงอกหินย้อย และยังมีซากสัตว์เล็กๆจำพวก หนู กระต่ายป่า อยู่รายทาง แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้นางหวั่นไหวเลยแม้แต่น้อย
     
    แปะ
     
    เสียงน้ำหยดลงบนพื้น
     
    แซกๆๆ
     
    ไทราหยุดเดิน
     
    แซกๆๆๆ
     
    "ตะขาบยักษ์น่ะ" ไทร่าเตรียมตัวยิงปืนเมื่อเห็นเจ้าสัตว์ร้ายเดินเข้ามาใกล้จากทุกทิศทาง
     
    "สี่ตัวเลยนะเนี่ย" ข้าคิดว่าตะขาบพวกนี้ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของไทราแน่ ถึงมันจะตัวใหญ่กว่านางสักสองสามเท่าก็เถอะ "จัดการตามสบายเลย"
     
    ไทราเล็งยิงจุดตายของตะขาบยักษ์ ทุกครั้งที่นางยิง อานุภาพทำลายล้างจะมากขึ้นเรื่อยๆ กระสุนไม่มีรูปร่าง แต่เป็นควันสีดำมืดแหวกผ่านอากาศไป เจ้าตะขาบยักษ์เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและพยายามจะจู่โจมไทรา

    แต่นางก็ยังยิงโดนแบบไม่พลาดสักนัด ถึงจะเป็นแบบนั้นมันแต่มันก็ไม่ตายง่ายๆ กว่าตัวแรกจะตาย ไทราก็หมดพลังไปมากแล้ว แต่ข้าก็เชื่อว่านางจะไม่เป็นอะไร
     
    แซกๆๆๆ
     
    ตะขาบยักษ์เดินเข้ามาใกล้ไทรามากขึ้นเรื่อยๆ
     
    เปรี้ยง!
     
    เสียงฟ้าผ่าดังขึ้น
     
    ซ่าาา
     
    ฝนเทลงมา ฟังจากเสียงแล้วคงจะตกหนักมากทีเดียว
     
    ‘ลัคกี้’ ข้าได้ยินเสียงไทรากระซิบเบาๆ อย่าเข้าใจผิดล่ะ นางไม่ได้ยิ้มเลย ข้าว่าข้าเองก็ยังไม่เคยเห็นรอยยิ้มของนางเลยด้วยซ้ำ ก็นางตัดรอยยิ้มของตัวเองไปแล้วนี่ ข้าว่านั่นก็เป็นทางที่ดีที่จะทำให้มีชีวิตอยู่บนโลกที่โหดร้ายนี่ได้นะ
     
    ไทราหลับตาลง
     

     
    ……
     
    ………
     
    ……...….
     
    แล้วเงียบไป
     
    ……...….
     
    ………
     
    ……
     
    แล้วทำท่าเหมือนเปลี่ยนลูกกระสุนอีกครั้ง พอนางลืมตาขึ้นก็มีสายน้ำพุ่งออกจากใต้จุดที่นางยืนอยู่ใส่เจ้าตะขาบสามตัวที่เหลือทันที ทำให้พวกมันได้รับบาดเจ็บ เพราะนั่นไม่ใช่น้ำธรรมดา แต่เป็นสายน้ำที่มีพลังโจมตีรุนแรงซึ่งเกิดจากพลังของไทราที่เหมือนจะก้ำกึ่งสื่อสารกับสายฝนได้

    และพลังของอาวุธธาตุน้ำอย่างข้า ตอนนี้นางรีบยิงปืนออกไปอย่างรวดเร็ว ลูกกระสุนคือความชื้นในอากาศที่ถูกข้าและไทราเปลี่ยนมันให้เป็นอาวุธชั้นยอด ความเร็วการยิงปืนและลูกกระสุนของนางนั้นรวดเร็วราวกับสายฝนเลยทีเดียว บวกกับฝีมือของเด็กสาวคนนี้แล้ว ทำให้เจ้าตะขาบพวกนั้นตายแทบจะในทันที
     
    ซ่าาา
     
    ตอนนี้มีเพียงเสียงของสายฝนเท่านั้น
     
    ซ่าาา
     
    “จบแล้วหรอ?” ข้าถามเบาๆ
     
    “ยัง นี่มันเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้นเองนะ” ไทราบรรจุกระสุนปืน
     
    เป็นอย่างที่นางพูด ทันใดนั้นก็มีตะขาบยักษ์ที่ตัวใหญ่กว่าพวกเมื่อกี้สองเท่าโผล่ออกมา
     
    “แแแฮ่” เจ้าตะขาบยักษ์ส่งเสียงร้อง แล้วมันก็ขับสารบางอย่างออกมาจากผิวหนัง
     
    พิษ?!” ไทราตกใจ นางเดินถอยหลังไปสองสามก้าว
     
    “แบบนี้ถ้าไม่รีบจัดการล่ะก็แย่แน่” ถึงข้าจะถูกสร้างมาจากความโกรธและความเศร้าแต่ข้าก็เป็นห่วงไทราเหมือนกัน ก็ข้าถูกสร้างขึ้นมาเพื่อปกป้องพวกมนุษย์นี่นา
     
    "ปิสโตล่า ขอใช้วิธียิงแบบพิเศษนะ" ไทราดูท่าทางเป็นกังวลมาก
     
    "ไหวแน่หรอ" ข้ารู้สึกว่านางจะเสียพลังจากการยิงก่อนหน้านี้ไปมากทีเดียว ทั้งๆที่ยังไม่ฟื้นพลังจากการต่อสู้ครั้งก่อนเลยแท้ๆ
     
    "ถ้าไม่รีบจัดการเจ้านี่ข้าอาจจะได้ตายจริงๆก็ได้" ไทราไม่สนใจแล้วว่าข้าจะว่ายังไง นางหันปากกระบอกปืนลงพื้น หลับตาลง แล้วร่ายคาถา "อากัว ยูเวียร์ ไอร่า!"
    นางลืมตาขึ้น ดวงตาสีน้ำทะเลกลายเป็นสีบลัดสโตน พร้อมกับร่างที่ใช้ความโกรธกับความเศร้าเป็นตัวขับเคลื่อนแทนพลังชีวิต

    บาเรลของข้าถูกบรรจุกระสุนด้วยกระสุนเงินที่ถูกเคลือบด้วยความโกรธกับความเศร้า และพลังทำลายล้างจากความชื้นในอากาศในเวลาเดียวกัน ไทรายิงปืนออกไปด้วยความเร็วปานสายฝน ทั้งยังหลบการโจมตีจากพิษของเจ้าตะขาบยักษ์ และโจมตีสวนกลับไปด้วยในเวลาเดียวกัน แต่มันก็ยังไม่ตายสักที ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปต้องแย่แน่ๆ เพราะร่างนี้ไทราดึงเอาพลังของข้ามาใช้ครึ่งหนึ่งด้วย

    ทำให้ตัวนางเองต้องเสียพลังไปมากเช่นเดียวกัน ถ้าเธอยังทนอยู่ในร่างนี้นานๆล่ะก็จะต้องแย่แน่ๆ
     
    ข้าพูดยังไม่ทันขาดคำ ไทราก็ชาร์จพลังยิงเพื่อเพิ่มความรุนแรงของกระสุนซะแล้ว "จะบ้ารึไง?! แบบนั้นมันต้องใช้พลังเพิ่มอีกนะ!" ข้าบ่นอย่างหัวเสีย แต่เพราะตัวเองอยู่ในสถานะที่ถูกดึงพลังไปใช้ครึ่งหนึ่งจึงไม่อาจะต่อต้านได้
     
    "ไม่อย่างนั้นก็ไม่ชนะสักทีน่ะสิ" ยังจะมาเถียงอีกนะ ข้ายังไม่อนุญาตให้ใช้ร่างนี้เลยด้วยซ้ำ!
     
    ปัง!
     
    ลูกกระสุนแบบโหลดของไทรายิงโดนจุดตายเจ้าตะขาบยักษ์ตายคาที่
     
    ฟู่~
     
    ควันสีขาวลอยขึ้นจากปากกระบอกของข้า
     
    ไทราหลับตาลงแล้วเอากระสุนปืนออก พอนางลืมตาขึ้น ดวงตาของนางก็กลับมาเป็นสีน้ำทะเลเหมือนเดิม
     
    "ไปกันต่อเถอะ" ไทราเก็บข้าลงในที่เก็บปืนตรงเข็มขัด ก้าวเท้าไปข้างหน้าสองสามก้าว แต่แล้วก็หยุด
     
    "อึก" นางทรุดลงไปกับพื้นแล้วใช้มือขวากุมหน้าอกตัวเอง
     
    "ไทรา?!" อาการแบบนี้ไม่น่าจะเป็นเพราะใช้พลังมากไปแน่ๆ หรือว่า...
     
    "โดนพิษ...เข้าแล้วสินะ..." ไทราหายใจถี่ มือขวายังคงจับข้าไว้แน่น แล้วล้มลงไปกับพื้น
     
    "ไทรา! ไทรา!" ข้าพยายามตะโกนเรียกแต่ก็ไม่มีเสียงใดๆตอบกลับมา โธ่เว้ย แบบนี้ข้ามองไม่เห็นและไม่ได้ยินเสียงข้างนอกเลย
     
    "ไม่ได้นะ! ลุกขึ้นมาสิ! ไทรา! ไทรา!"
     
    ไทรา!





     

    ความเงียบเข้าปกคลุมถ้ำนี้ได้ไม่นาน ข้าก็ได้ยินเสียงบางอย่าง เหมือนจะเป็นเสียงดินถล่ม แล้วก็เสียงคนคุยกัน
     
    หืม? ทำไมถึงมีคนอยู่ในที่แบบนี้ได้ แย่ล่ะสิ
     
    "ไทรา!" ข้าพยายามตะโกนเรียกนาง แต่เป็นเพราะข้าอยู่ในที่เก็บปืน เสีงของข้าจึงไม่สามารถเล็ดรอดออกไปได้

    ชิ ข้าช่วยอะไรไทราไม่ได้เลยหรอเนี่ย
     
    ทันใดนั้นข้าก็รู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่าง ที่เก็บปืนที่ข้าอยู่กำลังเคลื่อนไหว หรือว่าจะมีคนพาตัวไทราไป?!

     
     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×