ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [the last weapon-ศาตราวุธสุดท้าย]

    ลำดับตอนที่ #1 : The last weapon -บทนำ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 53
      0
      11 มิ.ย. 58


    [...The last weapon...]

    ตำนานแห่งศาตราวุธทั้ง4อันโด่งดัง...

    ศาตราวุธที่มีจิตวิญญาณเพียง4อันสุดท้ายที่พระผู้สร้างได้รังสรรค์ขึ้น...

    บัดนี้ ตำนานนั้นจะกลับมาเล่าขานอีกครั้ง...

    ...

    ...อันตำนานที่เคยเล่าขานนานนมจนลืมเลือน...
    ...หากถึงกาลและเวลาแล้ว...
    ...ก็ควรเริ่มต้น เล่าขาน กันอีกครา...

    ...



     
    บทนำ 1 : สัญญาณเตือนอันที่ 1
     
     
       ท่ามกลางเสียงรื่นเริง คึกคักจากเหล่าผู้คนมากมาย ที่มาเที่ยวยังงานเทศกาลฉลองวันเริ่มต้นปีศักราชใหม่ยามกลางคืน   
     
    ภายใต้ท้องฟ้าสีน้ำเงินเข้มที่ ณ ตอนนี้ถูกตกแต่งไปด้วยสีสันมากมายจากพลุที่ถูกยิงขึ้นด้วยเหล่าพนักงานผู้ดูแลสถานที่
     
    บ้านเมืองน้อยใหญ่ที่ค่อนข้างไร้ผู้คนเพราะส่วนใหญ่ต่างไปรวมตัวกันที่จัตุรัสใจกลางเมือง ยังมีร่างของเด็กคนหนึ่งกำลังวิ่งหนีกลุ่มชายฉกรรจ์ร่างใหญ่ที่วิ่งไล่หลังมา ร่างกายของเด็กคนที่ถูกวิ่งไล่มีสภาพเนื้อตัวมอมแมม ใบหน้าก็เลอะไปด้วยดิน ฝุ่นและขี้เถาจนไม่สามารถบอกเพศที่แท้จริงได้

     เสื้อผ้าที่สวมอยู่ก็เกิดจากเอาผ้าหลายๆชิ้นมาเย็บรวมกันอย่างลวกๆ ดูเก่าซะจนจะขาดอยู่ร่อมร่อ แต่ถึงสภาพภายนอกจะดูแย่ยังไงเด็กคนนี้ก็ยังดูอารมณ์ดีจนไม่น่าเชื่อว่ากำลังวิ่งหนีจากกลุ่มคนข้างหลังได้ 
     
    "หยุดเดี๋ยวนี้นะ นังตัวแสบ!"เสียงตะโกนจากชายร่างบึกบึนผู้หนึ่งที่กำลังวิ่งไล่ตามอยู่ดังขึ้น
     
    ยิ่งทำให้คนที่ถูกไล่ต้อนต้องเร่งสปีดความเร็วในการวิ่งขึ้นไปอีก ลัดเลาะไปยังซอยบ้านเมืองต่างๆอย่างว่องไวจนพอสบโอกาสที่พ้นจากสายตาของกลุ่มชายฉกรรจ์ก็รีบแทรกตัวเข้าไปยังตรอกๆเล็กที่ไว้สำหรับทิ้งขยะอย่างรวดเร็ว เสียงร้องเท้าที่ย่างกรายเข้ามาใกล้ทำให้'เด็กสาว' ที่พึ่งหยุดพักหายใจจากการวิ่งรีบขยับตัวแนบชิดกำแพงอย่างรวดเร็ว
     
    "ชิ! คลาดสายตาจนได้ หาดูให้ทั่ว ไม่ว่ายังไงข้าก็จะไม่ยอมให้นังนั้นลอยนวลต่อไปเด็ดขาด!"สิ้นเสียง ชายที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้ากลุ่มก็หันหลังกลับเดินไปยังที่ๆวิ่งมา ลูกน้องคนอื่นๆก็รีบวิ่งกระจายตัวไปค้นหาที่อื่นต่ออย่างรวดเร็ว เมื่อไร้วี่แววผู้คนอยู่แถวนี่แล้วเด็กสาวก็เป่าปากออกมาอย่างโล่งอก
     
    "ฟู่~ใครจะยอมให้จับตัวได้ง่ายๆกันล่ะ"ป้องปากกระซิบกับตัวเองพลางจะเลี้ยวตัวออกนอกตรอกเล็กๆนี่ไป
    แต่ยังไม่ทันได้ก้าวเดิน ประกายแสงสีเงินจากสิ่งที่อยู่ลึกเข้าไปข้างในตรอกก็ตกกระทบเข้ากับดวงตาสีม่วงใสของเธอ
     
    "อะไรนะ"เด็กสาวว่าพลางสาวเท้าเข้าไปใกล้ๆ 
     
    แล้วสิ่งที่ตกอยู่ตรงพื้นตรงนั้นเองก็คือ...
     
    .
     
    .
     
    .
     
    "มีดสั้นงั้นหรอ"




     
    บทนำ 2 : สัญญาณเตือนอันที่ 2

    ท่ามกลางท้องฟ้าสีดำหม่นพร่างพราวดาษดาด้วยดวงดาวนานัปล้านดวง

    ทั้งๆที่ความงดงามนี้ผู้คนมักจะออกมาเชยชม กันตลอดไม่ว่าจะดึกแค่ไหน แต่ทำไมก็ไม่อาจทราบได้

    ว่าเหตุใดวันนี้จึงไร้ผู้คนเลย...

    ความเงียบดำเนินเคียงคู่เวลาที่ผันผ่าน จวบจนจะถึงช่วงเช้าแล้ว ก็ยังไม่มีใครเลย

    ช่างน่าแปลกประหลาดที่ราวกับทุกสิ่งหยุดนิ่ง เหมือนกับรอคอยบางอย่างอยู่...

    ฉันพลัน! เงาของบางสิ่งก็ล่วงหล่นลงมาจากฟาดฟ้าสีครามที่มีดวงอาทิตย์เริ่มอวดโฉม

    ลักษณะของมันเรียวยาวเป็นสีดำ หากมองผ่านๆคงจะคิดว่ามันคือนตัวใหญ่

    แต่ทว่า...

    หากพิศมองดีๆ...

    มันคือ...
    .

    .

    .
    แส้สีดำเส้นหนึ่ง





    บทนำ 3 : สัญญาณเตือนอันที่ 3
     
    ......................





     
    บทนำ 4 : สัญญาณเตือนอันที่ 4

    ภายในของห้องเก่าๆทรุดโทรมห้องหนึ่งถูกประดับตกแต่งด้วยเครื่องเรือนที่ค่อนข้างหรูหราราคาแพงขัดกับสภาพห้องถ้ามองออกมาจากภายนอก โซฟาหุ้มหนังสัตว์ชั้นดีตั้งเด่นอยู่มุมห้องฝั่งขวาคู่กับโต๊ะน้ำชาเล็กๆที่มีกาน้ำกระเบื้องวางอยู่ 

    ฝั่งซ้ายเป็นโต๊ะวางอาวุธต่างๆ สังเกตได้ว่ามีทั้งน้ำยา สมุนไพรหรือของเตรียมเดินทางไกลด้วย กลางห้องมีเตียงไม้ผ้าลินินหลังหนึ่ง บนเตียงมีร่างของชายหนุ่มคนหนึ่งนอนทอดกายอย่างสงบอยู่ สีหน้าอ่อนโยนดุจเทวดามีรอยยิ้มเล็กๆที่มุมปากเหมือนผู้นอนหลับไปด้วยความสุข นิทราไปได้ไม่นาน

    แต่ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่าชายหนุ่มผู้นี้หลับไป3วันแล้ว...

    เงาร่างสีดำหนึ่งปรากฏขึ้นริมประตู หากแต่มิใช่เงาของมนุษย์ ลักษะเงานั้นเป็นโค้งราวงาช้าง ก่อนเจ้าของเงาจะก้าวเข้ามากระทบแสงไฟ สีดำส่องเป็นประกายยามไฟอาบไล้ลงบนตัวของสิ่งนั้น

    ชายหนุ่มเจ้าของเตียงครางๆเบา มิได้รับรู้เลยว่ามีผู้มาเยือน ชายหนุ่มพลิกตัวไปทางขวา ก่อนอิงหัวกับเรือนผมสีน้ำตาลซุกเข้าหาหมอน

    สิ่งนั้นลอยตัวเข้ามาใกล้ๆกับเตียงก่อนจะเอียงหัวเข้าแตะกับขมับของชายหนุ่ม

    "ไอ้หนุ่ม!!! ตื่นสิ! เฮ้ย คนเขาแบกเจ้ากลับมาบ้านเชียวนะ จะตื่นมาขอบคุณไม่ได้ หน่อยเรอะ !" สิ่งนั้นนั้นคำรามเบาและพลางพยายามจะปลุกชายหนุ่ม แต่ดูท่าจะไม่ได้ผล เมื่อชายหนุ่มทำเพียงยกแขนมาปัดไล่จนสิ่งนั้นกระเด็นลงพื้น ก่อนจะพลิกตัวหลบไปอีกทางทำเหมือนไม่มีสิ่งใดมารบกวน

    สิ่งนั้นลอยตัวสูงขั้นกว่าเดิม คลื่นความหงุดหงิดถูกแผ่ออกมาพร้อมคำสบถและคำโหยหวนเล็กน้อย แต่ในที่สุด สิ่งนั้นก็ควบคุมอารมณ์ได้ มันถอนหายใจ แล้วลอยกลับไปหาชายหนุ่มอีกรอบ คราวนี้มันเอียงหัวเข้าหาก่อนโหม่งเข้าไปเต็มๆแล้วตะโกนว่า

    "ตื่นซักทีเซ่!!ข้าขี้เกียจคอยนะโว้ย!"

    ได้ผล ชายหนุ่มเจ้าของเตียงกระเด้งตัวขึ้นมานั่งพร้อมทำตาปริบปรับ ขณะปรับสายตาให้เข้ากับสถานการ์ณตรงหน้า แต่ดูเหมือนขายหนุ่มก็จะไม่ได้รู้สึกตัวเอาเสียเลยว่ามีอะไรบางอย่างมาลอยอยู่ตรงหน้า เพราะเขาทำเพียบแค่ยกมือแตะหัวส่วนที่พึ่งโดนโหม่งไปก่อนขมวดคิ้วด้วยท่าทางสงสัยและหลังคงล้มแตะเตียงต่อไปแล้วถ้าผู้มาเยือนไม่ได้ตะโกนเรียกขึ้นก่อน

    "อยู่หน้าเจ้าเนี่ย!!!!"

    ชายหนุ่มถึงขั้นสะดุ้งลุกขึ้นมาตั้งหมัดเตรียมชกหน้าเจ้าของเสียงเลยทีเดียว แต่เมื่อสายตาปะทะปะฉะดะเข้ากับบางสิ่ง ริมฝีปากเรียวก็เผยอขึ้นช้าๆ การตั้งหมัดลดลงทันที ขณะที่นิ้วเรียวชี้ไปข้างหน้าด้วยความตกใจ

    .

    .

    .

    "เฮ้ยยยย!"ชายหนุ่มตะโกน"ธนู ผีพูดได้!!!!"




     
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×