ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The miracle Piramid อัศจรรย์ปิรามิดแห่งรัก

    ลำดับตอนที่ #4 : ~อิฐก้อนที่4~o- ไม่ไว้ใจและคำสาป-o

    • อัปเดตล่าสุด 26 เม.ย. 51


    อิฐก้อนที่ 4 ไม่ไว้ใจและคำสาป
    ขณะที่บรรยากาศในเต็นท์กำลังอบอุ่นเป็นที่สุด ก็มีเสียงของ ชายกลางคนชาวอิยิปต์ ที่มีผิวสีทองแดงเกรียมแดด ดังขึ้นมาว่า แล้ว เจ้าหนูชื่ออะไรกันล่ะเขาถามขึ้นอย่างสงสัยและภาษที่ออกมานั้นก็ยังคงเป็นภาษาอังกฤษที่ใช้เป็นภาษากลางในคณะสำรวจ แต่ออกจะแปร่งๆเล็กน้อย ราโมสที่ไม่รู้ทำไมถึงฟังภาษานี่ออก รวมไปถึงภาษาไทยด้วยตอบด้วยน้ำเสียงที่ห้าวหาญและแสดงถึงความไม่ไว้วางใจคนพวกนี้ทันที ข้า ชื่อราโมส แล้วพวกเจ้าละเป็นใครกันชายชาวอิยิปต์ที่ชื่อ อัสวัลหัวเราะเล็กน้อบกับกริยาห้าวหาญของเจ้าหนูตรงหน้า ฉัน ชื่ออัสวัลเป็นไกด์ของที่นี่ส่วนคนอื่นๆก็เป็นนักสำรวจ พิระมิด ไม่เป็นไรหรอกน่า พวกเราไม่ทำอะไรหรอกน่าเจ้าหนูทั้งๆที่กล่าวออกมาอย่างนั้นแต่ดวงตาสีดำสนิทของเขากลับเป็นประกายด้วยความละโมบและจ้องไปที่สร้อยคอของเด็กชายที่ดูมีราคาไม่น้อย เพราะมีอัญมณีสีมรกต สดใสอยู่ตรงกลางและล้อมรอบด้วยทองคำที่มีค่ายิ่ง แต่ประกายตานั่นก็เพียงชั่ววูบก็หายไปกลับเป็นดวงตาสีดำสนิทเหมือนเดิม พร้อมกับหันไปแนะนำนักสำรวจคนอื่นๆ ที่นั่งอยู่ถัดไปร่วม 20กว่าคนได้
    ราโมสนั้นสังเกตเห็นด้วยตา ของอัสวัลที่เป็นประกายอย่างไม่ไว้ใจแต่ก็ต้องเงียบไว้ก่อน เพราะเขาอาจคิดไปเอง หลังจากการแนะนำตัวที่ยาวนานจบแล้ว และมันก็เลยเวลาการทำงานของพวกเขามามาก ภัทรจึงชวนทุกคนไปที่ พิระมิดเพื่อทำงานกันทันทีก่อนที่แสงของดวงอาทิตย์จะหมดลงเสียก่อน และทำให้การสำรวจยากขึ้นไปอีก ทุกคนจึงได้ฤกษ์ไปทำงานกันทันทีหลังจากเลยเวลามานานแสนนาน แต่นักสำรวจผู้หญิงทั้งแก่และสาวต่างก็ยังไม่ละไปจาก ราโมสได้ซะที เพราะ   ความน่ารักและดูมัอำนาจทำให้เป็นที่หลงใหลและน่าเอ็นดู แต่ความเอ็นดูนั้นก็ทำให้
    ราโมสแสนจะรำคาญใจและเบื่อ จนอยากจะไล่ป้าๆพวกนี้ออกไป แต่เพราะอยู่ต่อหน้าอาทิตยาทำให้เขาไม่อยากแสดงกริยาไร้มารยาทแบบนั้น ถึงเขาจะเคยทำที่วังบ่อยก็ตามที นี่! พวกคุณไปทำงานกันได้แล้ว ไม่ใช่เวลามาลวนลามเด็กนะ ภัทรที่กลับมา[ช่วย] พาพวกผู้หญิงออกไปทำงานนั้น เป็นเหมือนคนที่ช่วยชีวิตของเขา ทำให้เขาต้องหันไปมองอย่างขอบคุณ แต่ภัทรก็ไม่ได้สังเกตเห็น เมื่อทุกคนออกไปกันหมดแล้ว ภัทรก็หันกลับมาพูดกับเขาด้วยความเป็นห่วงว่าแล้วเธอล่ะเจ้าหนูอยากไปที่ไหนกันระหว่างที่รอพวกชั้นทำงาน”  ราโมสหันไปมองอาทิตยาแล้วถามเธอ ว่าอาทิตยาเจ้าจะไปไหนเหรอราโมส เรียกฉันว่าน้ายาเถอะจ๊ะส่วนภัทรนะ ให้เรียกเขาว่าน้าภัทรก็แล้วกันนะน้ายาตอบกลับมาและมองด้วยความขบขันกับการพูดการจาของเด็กคนนี้ที่ดูจะโบราณไม่เข้ากับยุคและตัวซักนิด แต่เธอก็ไม่ได้เอะใจอะไร แต่สามีของเธอนะไม่ใช่ถึงเขาจะสงสัยแต่ก็เก็บเอาไว้ในใจก่อนเพราะถึงถามไปก็คงตอบแบบไม่รู้เรื่องแหงๆ แต่นอกจากคำถามนี้แล้วมันก็ยังมีหลายคำถามที่ค้างคาใจอยู่ แต่ทุกคำถามและตัวของเจ้าหนูน้อยนี่มันบ่งชี้ชัด ว่าต้องไม่ใช่คนยุคนี้อย่างแน่นอนและอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับ พิระมิดที่เคยนอนสลบอยู่เป็นแน่แต่เพื่อความแน่ใจและอยากรู้ก็ต้องเข้าไปสำรวจซะหน่อยแล้ว ยางั้น เราเข้าไปสำรวจข้างในกันเถอะแล้วก็พาราโมสไปด้วยก็ได้นะ ถ้าเขาไม่วุ่นวาย” “ข้าไม่วุ่นวายกับเจ้าหรอกน่าราโมสตอบกลับมาอย่างฉุนเฉียวเล็กน้อย ชิเขาก็ไม่ได้ชอบไปวุ่นวายเรื่องของใครซะหน่อย ว่าแต่พวกเจ้าจะไปสำรวจที่ไหนกันเหรอ หรือว่าจะเป็นที่พิระมิดนั่น” “ก็ใช่นะสิ รีบไปกันเถอะทุกคนเขารอเราแล้วนะเมื่อบทสนทนาจบลงทั้งสามคนก็เดินออกไปนอกเต๊นท์รวมและเตรียมของที่จำเป็นเพื่อเข้าไปสำรวจข้างในสิ่งก่อสร้างที่มหัศจรรย์นั้น ทันที
    เมื่อเข้าไปข้างในพิระมิดนั้นก็ต้องสัมผัสกับอากาศที่อับชื้นและกลิ่นดินที่ใช้ในการสร้างแต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา คณะสำรวจต่างเดินเข้าไปลึกขึ้นเพื่อไปค้นหาความจริงที่หลับใหลมานาน 3,000กว่าปี ราโมสเมื่อเข้าไปข้างในนั้นก็รู้สึกว่าทางเดินในพิระมิดกลับคุ้นเคยอย่างน่าประหลาด และเมื่อยิ่งเดินลึกเข้าไปเรื่อยๆ ความแน่ใจก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น และเมื่อเดินทางมาถึงผนังที่มีลักษณะคล้ายประตูที่มีอักษร
    ฮีโรกริฟฟิน สลักอยู่เมื่อ ราโมสอ่านข้อความนั้นจบอย่างรวดเร็วแต่ทุกคนก็ต่างกำลังแกะความหมายของอักษรพวกนี้อย่างลำบาก อะไรกันขนาดคนที่เด็กกว่าเขายังอ่านได้แล้วนี่พวกเขาทำอะไรกันดูยุ่งยากซะจริง ข้อความที่สลักนั้นบอกว่า
     
    ผู้ใดล่วงล้ำ เข้ามายังเขตแดนเทพศักดิ์สิทธิ์ มันผู้นั้น จะไม่มีสิทธิ์รอดกลับไปจักต้องเป็นดั่งทาสของผู้เป็นนิรันด์ตราบชั่วกาลนาน
     
    หลังจากแปรอักษรออกมาเรียบร้อยคนที่ได้อ่านก็ต่างหน้าซีดเหงื่อตกกันเป็นแถว แต่ไม่รวมภัทรพลกับอาทิตยาที่ดูสนใจเป็นพิเศษและอยากเข้าไปข้างในด้วยความอยากรู้อยากเห็น พวกคณะสำรวจที่พอจะรวบรวมกำลังใจได้แล้ว ก็เดินลึกเข้าไปข้างในอีก แต่แล้ว!!!ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นเมื่อจู่ๆเพดานที่หินที่[น่าจะ]แข็งแรงก็กลับตกลงมาทับคณะเดินทางแยกเป็นสองกลุ่ม นั่นคือกลุ่มของภัทร ยาและราโมสที่เดินนำหน้ากับกลุ่มหลังพวกทีมคณะสำรวจทันที!!!
    หรือว่าคำสาปจะเริ่มแสดงฤทธิ์กับผู้ที่หาญกล้าซะแล้ว
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×