ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Sodium~* [Na]

    ลำดับตอนที่ #1 : Sodium~* [Na]

    • อัปเดตล่าสุด 27 ธ.ค. 49


    Sodium~* [Na]


    ผงสีขาวละเอียดที่ถูกกองไว้ในห้องสุญญากาศซึ่งอากาศไม่สามารถผ่านเข้าไปได้ ถูกจัดเรียงไว้อย่างมีระเบียบ หลอดแก้วใสเล็กๆที่ตั้งเรียงอยู่เบื้องหน้า มองดูมั่นคงเพราะมีฐานวางอย่างแน่นหนา แคปซูลสีฟ้าขาวที่แยกไว้เป็นสองกองซึ่งเป็นส่วนฝาและส่วนที่สำหรับบรรจุยา วัตถุแข็งๆคล้ายๆก้อนหินสีขาวที่แช่อยู่ในน้ำมันพืชสีเหลืองใสจมอยู่เบื้องล่างของบีกเกอร์ขนาดใหญ่



    ร่างบางที่อยู่ในชุดสีขาวคล้ายลำลองของชุดนักบินอวกาศ ขาที่ลอยไม่ติดพื้นและถังออกซิเจนสำรองขนาดเบาที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ หน้ากากกันสารพิษพร้อมทั้งเครื่องกรองสารพิษที่เป็นอันตรายบดบังใบหน้าสวยที่ซ่อนยิ้มเย็นยะเยือกเอาไว้ นิ้วมือเรียวสวยที่มีถุงมือยางสีขาวไข่สวมทับอยู่หยิบจับอุปกรณ์ต่างๆในห้องอย่างคล่องแคล่ว



    ช้อนโลหะเล็กเรียวที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ ตรงปลายยาวประมาณครึ่งไม้บรรทัดสุดปลายเป็นเหล็กแหลมคมมีสีดำเนื่องจากถูกเผาจากเปลวไฟที่ระริกอยู่ในบริเวณที่มีออกซิเจนพอที่จะทำให้มันติดเพลิงได้ ช้อนตักกว้านตื้นๆไม่ลึกมากสามารถตักผงสีขาวได้ในปริมาณไม่มากนัก ปลายช้อนแหลมเรียวเหมือนปากเหยือกน้ำที่คอยตะกรองไม่ให้ผงหลุดจากปากที่ตื้นเขินนั้นได้



    มือเล็กตักวัตถุผงนั้นก่อนจะกรอกลงไปในแคปซูลสีฟ้าก่อนจะนำแคปซูลอีกฝั่งนึงมาปิดสนิท หากมองแต่เพียงผิวเผินแล้วใครๆก็คงจะเห็นว่าเป็นแค่ยาเม็ดเล็กๆ ซองยาสีใสบรรจุไปด้วยแคปซูลหลายเม็ดที่ถุงแนบสนิทกับยาเพราะอากาศไม่สามารถเข้าไปได้



    แก้วใสที่ใส่น้ำไว้เกือบเต็มแก้วสั่นเบาๆเมื่อปลายเหล็กร้อนฉ่าเคาะที่ปากแก้วเบาๆ ผงแปลกประหลาดเทลงในน้ำพรวดเดียวก่อนที่ไฟจะลุกพรึ่บขึ้นมา...........



    ---------------------------



    ตาสวยจ้องมองของที่อยู่ในมือก่อนจะแสยะยิ้มออกมาก่อนที่จะเป็นยิ้มร่าเริงเหมือนที่เคยเป็นมาเมื่อ 'บางคน' เดินผ่านมาด้วยความอยากรู้



    "ซึบาสะ นายถืออะไรอยู่ในมือหรอ" ทักกี้หรือฮิเดอากิ คุณพ่อเลี้ยงที่อายุอานามน้อยกว่าเขาด้วยซ้ำไป....แต่คุณแม่กลับหลงตาพ่อนี่หัวปักหัวปลำ



    ร่างบางยิ้มอย่างอ่อนโยนให้ "เปล่าฮะ..." ส่ายหน้าเบาๆ "ก็ผมเห็นว่าช่วงนี้ทักกี้ไม่ค่อยสบายเลยอยากจะเอายามาให้น่ะฮะ"



    คนที่ถูกเอ่ยถึงยิ้มจนหน้าบาน "ขอบคุณนะ....คุณอิมาอิ" ยื่นมือไปจับตัวซึบาสะก่อนกระซิบที่หูด้วยน้ำเสียงที่กดดันอีกฝ่ายพอสมควร "แล้วผมจะกิน....ให้คุณดู" บีบไหล่ซึบาสะแล้วผลักตัวออกอย่างแรงแล้วเดินออกห่างไปด้วยอารมณ์ครุกรุ่น



    ร่างบางหลับตาอย่างบอกอารมณ์ไม่ถูก มือเล็กกำยาที่ถือไว้แน่น เล็บมือที่จิกลงไปในเนื้อผ้าสัมผัสกับวัตถุบางอย่างที่อยู่ในกระเป๋ากางเกง......มือเล็กล้วงเข้าไปก่อนจะถือของแข็งนั้นไว้ในมือ ตัวสั่นระริกด้วยความรู้สึกที่ไม่ต่างจากทักกี้ที่เพิ่งเดินออกไปเมื่อครู่



    "......นายมันก็ไม่ซื่อเหมือนฉันน่ะแหละ ทากิซาว่า……"



    ถึงแม่จะแต่งงานกับทักกี้ก็จริง แต่เขายังวนไปวนมาอยู่ที่บ้านของพ่อและห้องทดลองเล็กๆของเขาที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะชุดป้องกันสารเคมีต่างๆหรือว่าอุปกรณ์หน้าตาแปลกประหลาดที่อยู่ในห้องนั้น ล้วนแล้วแต่ออกแบบมาจากเจ้าของห้องและอาจารย์ส่วนตัวหรือ 'ไอบะ มาซากิ'



    "ทำไมทำหน้าบุญไม่พอขนาดนั้นซึบะ" ไอบะที่เห็นหน้าเคร่งเครียดของลูกศิษย์ตัวเองก็อดที่จะถามขึ้นมาไม่ได้ตามภาษานักวิทย์สมองเฟื่อง แต่ความฉลาดเป็นกรดและทฤษฎีที่ตั้งขึ้นเองชั่วคราวก็ไม่แพ้ใครเหมือนกัน หากจะหาคนที่มาล้มเขา....ก็คงจะหนีไม่พ้นไอน์สไตน์



    "ถ้าจะคิดกำจัดคนแบบนั้น....อย่าใช้ลูกเล่นเดิมๆเพราะหมอนั่นน่ะฉลาดกว่าที่นายกับฉันจะคิดซะอีก" ไอบะบีบไหล่ซึบาสะแรงๆให้รู้สึกตัว หากเจ้านี่คิดจะทำอะไรแล้ว คงจะหมกมุ่นอยู่กับพวกนี้ไปจนกว่าจะสำเร็จล่ะ คงจะอยู่ห่างไม่ได้เพราะก็อดห่วงไม่ได้ว่าจะหมกมุ่นจนลืมสิ่งที่อยู่ใกล้ๆตัว



    ซึบาสกัดฟันนิ่ง ....อย่าใช้ลูกเล่นเดิมงั้นหรอ...ถ้าอย่างนั้นคงจะต้องประกาศตัวออกมาเป็นศัตรูกับหมอนี่ตรงๆซะแล้ว....



    "นี่....แล้วอย่าลืม.....ที่ฉันเคยพร่ำสอนนายมาน่ะ.....ระวังตัวด้วย"



    แต่สิ่งที่ได้ฟังเหมือนว่าเข้าหูซ้ายแล้วทะลุออกหูขวาอย่างง่ายดาย ....หากไม่ได้รับการป้องกันจากสารกันธาตุกัมมันตรังสีของไอบะแล้ว.....บางที....คนที่ถูกกำจัดน่าจะเป็นเขาด้วยซ้ำ



    "อ๊า! อาจารย์ ผมคิดออกแล้วล่ะ ขอบคุณนะครับ" พูดจบร่างบางก็วิ่งเข้าไปในห้องทดลองส่วนตัวเหมือนลมกรด ใจที่เต้นตึกตักแทบทนไม่ไหวเมื่อต้องผ่านกระบวนการทำความสะอาดที่แสนจะยุ่งเหยิง ก่อนที่จะใส่ชุดลำลองอวกาศถึงจะสามารถเข้าไปได้



    ของแข็งที่แช่ไว้ในน้ำใสสะอาดถูกคีมปากเหล็กกว้างคีบขึ้นมาก่อนจะวางไว้บนผืนผ้าสีขาวสะอาด ส่วนหนึ่งของวัตถุถูกตัดออกมาเป็นชิ้นบางๆก่อนที่ก้อนใหญ่จะนำไปไว้ในน้ำเหมือนเดิม เครื่องบดขนาดกลางนำแผ่นบางๆนั้นเข้าไปแล้วใช้กรรมวิธีบดจนมันละเอียดเป็นผงยิบ



    เศษผงกรอกใส่ถุงอย่างเรียบร้อย ซึบาสะยื่นมือเข้าไปหยิบถุงใส่สารนั้นมา ยิ้มเบาๆกับตัวเอง



    ...คนอย่างนาย ก็คงมัวกังวลเกี่ยวกับธาตุกัมมันตรังสีหรือไม่ก็...โซเดียมกระจอกๆ นายคงจะลืมแมงกานีสไปอย่างนึงล่ะสิ....



    "ซึบาสะ" เสียงที่ดังเข้ามาในหูฟังชัดแจ๋ว คนร่าเริงหันขวับไปหาต้นเสียง "นายคิดจะทำอะไรน่ะ" ไอบะขมวดคิ้วยุ่งเมื่อเห็นของที่อยู่ในมือซึบาสะ พลางส่ายหัวไปมา เจ้านี่จะใช้วิธีนี้....กะจะทรมานไปจนตายรึไงกัน



    คนที่ดูเครียดเมื่อกี๊หายวับไปกับตา สีหน้าและแววตาทโมนเหมือนเด็กที่ได้ของเล่นใหม่ "แหม อาจารย์ก็รู้นี่....แล้วมาแกล้งทำเป็นไม่รู้" ซึบาสะลอยเข้าไปกอดไอบะแต่โดนมือหนาผลักไล่ออก



    "นี่ นาย....ระวังด้วยนะ จะทำคนอื่นเขา แต่ระวังจะเป็นเองเถอะ"



    ซึบาสะยิ้มระรื่น...ก็เขาวางแผนเรียบร้อยแล้วนี่หน่า...คนที่จะเป็นอะไรก็คงจะมีแต่ทักกี้เท่านั้นน่ะแหละ คนอื่นๆต้องไม่เป็นอะไรแน่ๆ ถ้าจะวางแผนรบแล้ว หาช่องโหว่ศัตรูให้เจอ...ก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับกุนซืออย่างซึบาสะหรอก นอกจากจะเป็นกุนซือแล้วขอเป็นแม่ทัพออกรบเองด้วย คงจะมันส์แน่...ก็รบกับทหารเลวนี่ ไม่สนุกได้ไง



    --------------------------------------



    มือที่สวมถุงมือสีขาวจับขวดยาดมสีเงินก่อนจะกรอกผงประหลาดใส่ลงไปอย่างระมัดระวัง ...หกไปล่ะเสียดายแย่เลย...



    แมงกานีสเข้มข้น 95% ฉันขอให้นาย...มีความสุขกับมันแล้วกันทากิซาว่า....



    "เอ่อ...ป้าครับ" ร่างบางถือขวดยาดมออกมา ทำหน้าตาใสซื่อพลางเรียกคนรับใช้มา "ผมฝากนี่ไปให้ทักกี้หน่อยนะฮะ...." ยื่นให้กับคนที่เรียก "แต่อย่าบอกเค้านะครับ ว่าผมเป็นคนเจอ..."



    เห็นสีหน้าและแววตาของซึบาสะดูหมองลงทันตา "ทำไมล่ะคะ?"



    ซึบาสะยิ้มแห้งๆให้ "เดี๋ยวเค้าก็หาว่าผมไปขโมยของเค้ามาแหละครับ..." น้ำตาที่คลอหน่วยทำท่าว่าจะไหลออกมา "เค้าไม่ค่อยจะชอบผมอยู่ด้วยน่ะฮะ รบกวนป้าได้นะครับ" ก้มหน้าไม่สบตาคนสูงวัยกว่า



    "โธ่...คุณซึบาสะ ออกจะเป็นคนดี...เดี๋ยวป้าจะเอาไปให้แล้วกันค่ะ"



    ร่างบางยิ้มเศร้าๆแล้วก็กล่าวขอบคุณพอเป็นพิธี....ตาชะเง้อมองตามหลังหญิงชราที่เดินไปอย่างคิดว่าเขาตั้งใจจะร้องไห้จริงๆ...ต่อให้ตาย คนอย่างทักกี้ก็ไม่มีค่าพอที่เขาจะร้องไห้ให้ เฮอะ! ช่วยไม่ได้นะ พอดีว่าฉันเป็นคนดีมากกว่านายน่ะทักกี้...



    "ป้าครับ อาหารเช้าทักกี้ผมขอทำได้มั๊ยครับ" ซึบาสะทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยมเข้าไปหาแม่ครัวที่กำลังทำอาหารเช้าของทักกี้



    แม่ครัวเอียงคอสงสัย "คะ? คุณซึบาสะ..." พูดค้างไว้ก่อนที่จะอมยิ้ม "อยากทำตัวเป็นลูกที่ดีของคุณทากิซาว่าใช่มั๊ยล่ะคะ..." ร่างบางทำท่าเขินอายเล็กน้อย



    "ได้ค่ะ แล้วป้าจะออกไปทำอย่างอื่นแล้วกัน"



    ซึบาสะยิ้มกับตัวเองอย่างเยือกเย็น...ทักกี้ ถ้านายคิดว่าคนอย่างนายจะมีทางสงบสุขล่ะก็...คิดผิดถนัดเลย มือสวยล้วงไปหยิบถุงยาที่อยู่ในกระเป๋าขึ้นมา 'บริวเวอร์ยีสต์' ขนาดที่เข้มข้นกว่าตามตลาดทั่วไป อาหารเสริมที่ผู้คนนิยมไม่ตางจากแคลเซี่ยมเม็ด...มันคงจะทำให้นายทรมานไปจนตายเลยล่ะ



    "ซึบะ" เสียงของไอบะที่ดังมาจากข้างหลังทำให้ซึบาสะต้องละมือจากข้าวต้มที่ผสมบริวเวอร์ยีสต์ในปริมาณมากกว่า 5 มิลลิกรัม "อย่าบอกนะว่าซิลีเนียม" เอาคางแหลมๆไปเกยบนไหล่ลูกศิษย์ "นายจะทำอะไรอย่าคิดว่าแพทย์เค้าชันสูตรศพไม่ได้นะ"



    ร่างบางหันมายิ้มจนตาปิด "แต่ครั้งนี้ ชันสูตรไม่ได้แน่ๆ...ผมรับรอง"



    ทักกี้...อย่าคิดว่าโลกนี้มทีแค่นายคนเดียวที่คุมทุกอย่างได้ ฉันคนนึงแหละ...จะทำให้นายดับเอง ด้วยน้ำมือของฉันนี่แหละ...สักวันนะ สักวัน



    'นักธุรกิจหนุ่ม ฮิเดอากิ ทากิซาว่า เป็นโรคร้ายแรง ไม่สามารถรักษาได้'

    ----------------------------

    "ฉันมองนายผิดไปจริงๆซึบาสะ...."



    ในใจที่รุ่มร้อนของทักกี้คิดได้เพียงแค่นี้ เขาคงจะประเมินคนคนนี้ผิดไป...อย่างใหญ่หลวง เส้นผมสีทองที่เคยอยู่บนศีรษะเริ่มร่วงทีละนิด



    "ทักกี้ฮะ ผมว่าเรามากินข้าวดีกว่านะฮะ" ร่างบางยิ้มระรื่น ข้างๆมีไอบะยืนกอดอกทำหน้าบึ้งตึงอยู่ ถึงเขาจะไม่ค่อยพอใจนักที่ซึบาสะเอาใจใส่ทักกี้มากเกินไป แต่ก็อดจะสงสารทักกี้ไม่ได้ที่มีสภาพเป็นแบบนี้



    น้ำตาสายเล็กๆไหลรินลงมาจากตาคู่สวยของคนที่นั่งอยู่บนวีลแชร์ โดยมีไอบะคอยเข็นให้เพราะไม่ไว้ใจซึบาสะเท่าไร มือที่ไร้เรี่ยวแรง คล้ายพยายามจะบีบอาร์มที่แขนเท้าไว้อยู่ เล็บที่เคยสวยถูกสารเคมีกัดกร่อนจนเหลือเพียงนิ้วเพียวๆ ต้องใส่ถุงมือเพื่อกันกระแทกและสารปลอมปนต่างๆ



    ไหล่สั่นเทิ้มจนเป็นแรงสะอื้นของทักกี้ทำให้ซึบาสะหันไปมองแล้วก็ยิ้มให้แบบซื่อๆ มือเล็กลูบหมวกไหมพรมสีเนื้ออ่อนๆ "เป็นอะไรไปครับทากิซาว่า ผมจะพาคุณไปทานอาหารที่คุณชอบไง"



    คุณหมอนักวิทย์ฯหลับตาลงเบาๆ บางครั้งสิ่งที่เด็กคนนี้ทำ เขาก็คิดว่ามันเกินไป แต่คงจะห้ามไม่ได้หรอก หากคนคนนี้คิดจะทำอะไรแล้ว ทั้งๆที่เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของผู้ชายคนนี้เลย ไม่ใช่สักนิด...



    "ยิ้มก่อนสิฮะ เดี๋ยวผมจะพาไปกิน"



    ทักกี้หัวเราะออกมาท่ามกลางรอยยิ้มที่แสนซื่อของซึบาสะ...มีเพียงแค่เอาไว้บังหน้าเท่านั้น รอยยิ้มชั่วร้าย เยือกเย็นราวกับปีศาจถูกซ่อนอยู่ภายใน คงจะมีแต่อาจารย์ของเขาล่ะที่รับรู้



    ยิ่งรอยยิ้มของทักกี้แล้ว...เป็นเพราะเขามีความสุขจริงๆ....หรือไม่สามารถควบคุมตัวเองได้กันแน่



    "อาจารย์ไม่ต้องกังวลไปหรอกครับ..." บีบไหล่ไอบะเบาๆแล้วเดินลงไปข้างล่างโดยไม่ทันระวัง ทักกี้ที่เห็นว่าซึบาสะเหมือนจะเดินหนีตนไปโถมตัวเข้าใส่จากด้านหลัง



    ร่างบางหันมามองหน้าทักกี้สายตาดุดันก่อนจะกลิ้งหลุนๆตกจากบันไดพร้อมทักกี้และวีลแชร์ ไอบะค้างกับการกระทำของทักกี้....แล้วนี่เขาต้องการจะตามซึบาสะไปจริงๆ...หรือ...จงใจกันแน่



    ที่วางแขนของวีลแชร์หล่นและกระแทกลงบนท้ายทอยของทักกี้ที่หัวกระแทกกับพื้นจนสลบลงไป ซึบาสะที่พอจะควบคุมตัวเองได้ใช้แขนหนุนหัวต่างหมอนกันระบบประสาทถูกกระทบกระเทือน ร่างบางหลับตาปี๋



    ....ความจริง ฉันควรจะฆ่านายให้ตายเลยใช่มั๊ย ทักกี้....



    "ซึบาสะ นายเป็นยังไงมั่ง" ไอบะถลาเข้ามาช้อนหัวร่างบางเอาไว้



    ซึบาสะถอนหายใจเฮือก อย่างน้อยเขาก็ไม่เป็นอะไรมาก....ก็คงจะแค่ถลอกนิดหน่อย "เปล่าๆ ไปดูไอ้บ้านั่นเถอะ มันตายรึยัง" กัดฟันกรอด...ถ้านายยังไม่ตาย ฉันจะทรมานนายให้มากกว่านี้ ทักกี้...



    คุณหมอจำเป็นช้อนร่างทักกี้ที่สลบไสลอยู่ขึ้นมาวางบนตัก นิ้วชี้อังปลายจมูกตรวจสอบว่ายังหายใจดีอยู่เหมือนเดิม "เค้าแค่สลบไปเฉยๆ เดี๋ยวฉันจะปฐมพยาบาลเค้าเองแล้วกัน"



    "Shit!!!!" ซึบะสบถออกมาอย่างหัวเสีย "เฮอะ! ดี สลบอยู่ ผมจะทำให้หมอนี่ทรมานมากกว่านี้อีก คอยดู" สะบัดหน้าหนีออกไป ทำสำออยเข้าซะนะทักกี้ นายไม่มีทางชนะฉันหรอก ไม่ว่านายจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม!!!!



    ไอบะมองหน้าที่สลบของทักกี้ด้วยความรู้สึกสงสารระคนเห็นใจ ยิ่งมองหน้าคนคนนี้ ยิ่งรู้สึกผิด...ผิดที่ไม่ยอมบอกความจริงกับซึบาสะ ผิดที่....เห็นแก่ตัวเกินไป



    ------------------



    เสียงระงมร้องจ้าของเด็กชายที่ไม่รู้ประสีประสาท่ามกลางเพลิงไฟที่ลุกลามไปทั่วบริเวณบ้านที่สร้างด้วยไม้เตี้ยๆสองหลัง



    "พี่ชาย พี่ชาย" น้ำตาที่เอ่อล้นเมื่อพ่อและแม่ลากตนออกมาแต่กลับไร้ร่างของพี่ชาย "แม่ฮะ ผมจะไปหาพี่ชาย ผมจะไปหาพี่ชาย"



    ชาวบ้านที่มามุงดูช่วยกันสาดน้ำใส่บ้านที่เปลวไฟสีแดงโชติช่วงลามเลีย กลิ่นเหม็นไม้เริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ ควันสีเทาขุ่นครุขึ้นมาเรื่อยๆ



    พ่อใช้น้ำราดตัวเองจนเปียกแล้วฝ่าควันไฟเข้าไปในบ้าน เสียงร้องไห้โหวกเหวกของเด็กตัวน้อยยังคงดังอยู่ เปลวไฟที่มีความร้อนสูงส่งผลให้เด็กชายและแม่เหงื่อออกท่วมตัว แต่ตอนนี้จิตใจของเขากลับเย็นลงเรื่อยๆ...พี่ชาย พี่ชาย



    เพลิงสงบลงแล้ว ชาวบ้านทุกคนต่างนั่งลงอย่างหมดความหวังเมื่อผู้นำตระกูลเดินออกมาอย่างไร้เรี่ยวแรง มือที่คอยโอบอุ้มเด็กชายทั้งสองคน บัดนี้ไม่มีแม้แต่ร่างหรือเงาของผู้เป็นพี่แม้แต่น้อย น้ำตาลูกผู้ชายไหลทะลักออกมาท่ามกลางความเศร้าสลดของทุกๆคน



    ไม่ต้องบอก...ก็คงจะรู้ดีว่า...ไม่รอดแน่ๆ



    หัวใจที่แตกสลายเหมือนจะถูกฉีกขาดตั้งแต่ตอนนั้น ความเจ็บปวดที่อยู่ข้างใน ไม่มียาแขนงใดมารักษาเยียวยา เสียงสะอื้นของผู้เป็นแม่ทำให้เขาเงยหน้าขึ้นมาดู คุณแม่ที่เข้มแข็งของเขาร้องไห้ออกมา มองไปที่พ่อ คุณพ่อก็ร้องไห้ เกิดอะไรขึ้นกับพี่ชาย?



    เท้าเล็กเดินกระท่อนกระแท่นไปหาพ่อที่หน้าบ้าน "คุณพ่อครับ อย่าร้องไห้เลยนะ พี่ชายบอกว่าลูกผู้ชายต้องไม่ร้องไห้...." แตะไหล่พ่อเบาๆ น้ำตาแห่งความเสียใจไหลทะลักลงมาอีกครั้ง "พะ...พี่ชายบอกว่า ฮึก...เราต้องเข้มแข็งฮะ ไม่ว่าจะเจออะไรเราก็ต้องเข้มแข็ง อย่าอ่อนแอเด็ดขาด...ฮึก"



    มือหนาคว้าตัวลูกชายคนเล็กเข้ามากอดไว้ในอ้อมอก



    ...........พ่อครับ ผมอยากให้พ่อรักน้องมากๆนะครับ ผมอยากให้พ่อกอดน้องมั่ง พ่อต้องดูแลน้องดีๆนะครับ...ผมรักพ่อ...........



    คำพูดของลูกชายคนโตในวันที่โรงเรียนจัดงานกีฬาสีขึ้นมาดังก้องอยู่ในหัวของเขา ซึโยชิ...พ่อกอดน้องแล้วนะลูก พ่อรักน้องนะลูก...



    การสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ เปลวไฟสีแดงที่ยังคงติดตรึงทุกๆแววตา เสียงร้องไห้และน้ำตาในเหตุการณ์วันนั้น ยังไม่มีใครคิดลืม....และไม่มีใครจะลืมตลอดกาล....



    "ซึบาสะ"




    ----------------------




    "ซึบาสะ..." เสียงเรียกของหญิงวัยกลางคนที่จะเข้าสู่วัยชราในอีกไม่กี่ปี แต่ความงดงามบนใบหน้ายังไม่แปรเปลี่ยนไปเลย "ทักกี้เป็นยังไงบ้างห๊ะ?"



    "ก็ไม่ได้เป็นอะไรมากฮะ ผมขอตัวนะ" ซึบาสะที่เพิ่งออกจากห้องทดลองถือขวดสีน้ำตาลใสซ่อนไว้ด้านหลังก่อนจะค้อมตัวและเดินผ่านผู้เป็นมารดาออกไป



    ความรู้สึกเหมือนตอนเด็กๆ แต่ครั้งนี้มันต่างออกไป คนคนนี้ไม่ใช่พี่ชายของเขา หนำซ้ำคนคนนี้ยังเป็นคนที่ทำให้พี่ชายต้องจากไป...จากไปในที่ที่ไกลแสนไกล



    ความรู้สึกที่ถูกทอดทิ้ง ไม่มีใครสนใจ....มันกำลังกลับมาหาเขาอีกครั้งใช่มั๊ย แม่ที่คอยสนใจแต่ทักกี้ พ่อที่มัวสนใจเกี่ยวกับงานวิจัยชิ้นใหม่ ไม่มีอีกแล้ว...ไม่มีมือที่จะคอยลูบผมเวลาเหงา ไม่มีมือที่กอดเวลาเขาหนาว แต่ไม่เป็นไร! เขาจะเข้มแข็ง ก็แค่เรื่องแค่นี้



    ซึบาสะหยุดนิ่งหน้าห้องทักกี้ ความผิดครั้งนั้นมันร้ายแรงเกินกว่าที่คนอย่างเขาจะรับได้ เขาจะทำให้คนในตระกูลทากิซาว่าได้รับบทเรียนที่เขาได้รับ บทเรียนที่เจ็บ...และยากที่จะลืม



    สร้อยคอที่มีป้ายตระกูลทากิซาว่าแขวนอยู่ห้อยลงมาตอกย้ำจิตใจของซึบาสะ วันนั้น...ทางท้ายครัวที่เป็นเหตุให้เกิดเพลิงไหม้ครั้งนั้น ป้ายนี่ตกอยู่ ถึงแม้ว่าจะมีสีดำเป็นตอตะโกแต่ก็พอจะอ่านออกว่ามาจากตระกูลทากิซาว่าแน่นอน.....



    มือเรียวเคาะประตูก่อนจะเปิดเข้าไป เปลือกตาที่ปิดสนิทของทักกี้ที่หลับพริ้มอยู่ มือหนาของไอบะที่กำลังเช็ดตัวให้คนที่นอนสลบอยู่ไม่ได้ทำให้ซึบาสะพอใจเท่าไรนัก



    "ซึบาสะ" ไอบะเรียกเสียงเบาหวิว...มันน่ากลัวเกินไปสำหรับคนคนนี้ "พอเถอะ" ไม่ยอมมองหน้าคนที่พูดด้วย แต่กลับจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาของทักกี้ "เขาเจ็บปวดพอแล้วนะ"



    "อาจารย์...." ซึบาสะมองไม่วางตา มันเกิดอะไรขึ้นอีก....มันเกิดอะไร!!!???



    "อาจารย์ไม่รู้หรอก....ว่าการสูญเสียคนที่รักไปมันรู้สึกยังไง ต่อให้ผมตาย เกิดใหม่ไม่ว่าจะกี่ชาติ ผมจะต้องล้างตระกูลนี้ให้สิ้นซาก!!!" ดวงตาแข็งกร้าวฉายแววปวดร้าว



    ไอบะเม้มปากสนิท "ทำไมนายไม่รู้จักให้อภัยล่ะ ทักกี้เขาผิดหรอ? คนที่ผิดคือทักกี้หรอ? ทักกี้คือคนที่ทำทุกเรื่องงั้นหรอ?" ไม่เคยตวาดสักครั้ง อาจจะเป็นครั้งแรก...และครั้งสุดท้ายในชีวิตของเขาด้วยซ้ำ



    "....อาจารย์" ไม่นะ...ซึบาสะนายจะต้องไม่ร้องไห้เด็ดขาด ทั้งๆที่คิดว่าไอบะจะอยู่ข้างเดียวกันแท้ๆ แต่ทำไมล่ะ...แม้แต่อาจารย์ที่อยู่กับเขามากว่า 20 ปียังอยู่ข้างทักกี้เลย "ฮะ...ผมรู้แล้ว"



    ว่าง่ายเกินไป....ร่างบางยอมรับคำอย่างสงบก่อนจะถอนตัวออกไปจากห้องนอนของทักกี้



    "ซึบาสะ" ไอบะอยากจะวิ่งตามไปพูดกับเด็กคนนี้ให้รู้เรื่อง คงจะน้อยใจ....แต่เขาก็ทิ้งทักกี้ในเวลาแบบนี้ไม่ได้ อาการของใครกันนะที่จะหนักกว่ากัน



    ไอบะไม่มีทางรู้...และจะไม่มีวันรู้อีกเลย...



    น้ำตาที่ไหลลงมาเป็นสาย ร่างสั่นสะท้าน....นานแค่ไหนแล้ว ที่เขาไม่ได้ร้องไห้แบบนี้ นานแค่ไหนแล้ว....ที่ไม่เคยมีความรู้สึกว่าตัวเองอยู่คนเดียว



    แม้แต่คนที่รักมากที่สุดยังหักหลังได้ คิดว่าเป็นอาจารย์ เป็นเพื่อนเล่น เมื่อก่อนที่เคยเหงา ที่เคยนั่งอยู่คนเดียว ก็มีไอบะคอยเข้ามา...แต่ทำไม? ตอนนี้จะเข้ามาทำไมกัน!! ไอบะ คุณจะทำให้ผมต้องมานั่งร้องไห้ทำไมกัน ความจริง คุณน่าจะทิ้งให้ผมอยู่คนเดียว ปล่อยไว้อย่างงั้นแหละ จิตใจผมมันจะได้ชาและตายไปเลยไง มาทำให้ผมมีความรู้สึกทำไม



    ขวดยาสีน้ำตาลใสถูกเปิดฝาออก เข็มฉีดยาเรียวดูดน้ำสีขาวขุ่นขึ้นมาตามแรงดึง




    ....เวลานายอยากจะร้องไห้ก็ร้องออกมาสิ อย่าเก็บเอาไว้ แล้วก็อย่าร้องไห้คนเดียวด้วย....


    ....อย่ามาทำหน้าเหงาน่า มานี่ เดี๋ยวฉันจะสอนอะไรสนุกๆ....


    ...เฮ้ ซึบาสะ ตั้งใจเรียนหน่อยเซ่!!! พรรค์นั้นน่ะเดี๋ยวจะสอนนอกเวลาก็ได้....


    ....เอ้า ทำหน้าอย่างงั้นให้ตายไปเลยนะ อย่ายิ้มนะ...ถ้ายิ้มล่ะโดนแน่....


    ....เหงาใช่ม๊า มานี่ เดี๋ยวฉันจะกอดนายก็ได้....



    ใช่...เขาเหงา คำพูดที่พลั่งพลูออกจากปากไอบะในเวลาแรกที่เจอกันย้อนสู่สมองอีกครั้ง คำพูดที่แสนดี คำพูดที่ให้กำลังใจ....อยากฟังอีกครั้ง อยากฟังจังเลย



    ปลายแหลมของเข็มที่ถูกเจาะเข้าไปในใต้ผิวหนัง ยาเริ่มไหลตามแรงฉีด



    ร่างบางหลับตาพริ้ม น้ำตาที่ไหลออกมาจากหางตาราวกับเจ้าหญิงนิทราที่ร้องไห้ ยาเริ่มแพร่กระจายตามเส้นเลือด...ปฏิกิริยาตอบสนองอย่างรวดเร็วของร่างกาย



    ร่างเล็กกระตุกอย่างรุนแรงก่อนจะปล่อยเข็มให้หลุดจากมือ



    เป๊าะ!



    เข็มบางที่หักลง ปลายเย็นๆของเข็มปักคาอยู่บนข้อมือเล็ก ฟัดที่ขบกัดกันจนสนิทเกิดเสียงกรอดๆขึ้นมา...เขาแพ้แล้ว เขาแพ้ทักกี้แล้ว....ทักกี้ได้ทุกอย่างไป...จริงๆ



    น้ำตาไหลลงมาอีกครั้ง หัวใจที่เต้นแรงขึ้นจนปวดไปหมด มือที่กำแน่นจนเล็บยาวจิกลบเนื้อ น้ำสีแดงซึมออกมาตามผิวหนังเล็กน้อย บีบไปหมดแล้ว....หัวใจที่บีบตัวรุนแรง ลำคอที่ตีบตัน



    ร่างบางดิ้นพล่านทั่วบริเวณ........



    ก่อนที่จะ.....สงบลง.......อย่างไม่มีวันกลับมาอีกเลย



    เปลือกตาปิดสนิท ขนตาที่เป็นแพสวยมีหยดน้ำเกาะอยู่พริ้ม.....ราวกับเจ้าหญิงนินทรา แต่ไม่ว่าจะมีเจ้าชายที่ไหนมาจุมพิต....เจ้าหญิงก็คงจะไม่มีวันกลับมา...ตลอดไป



    งานศพครั้งยิ่งใหญ่ของตระกูลอิมาอิ....ครั้งที่สอง ผู้เป็นแม่ดวงตาบอบช้ำ ผู้เป็นพ่อหน้าตาโทรมไม่แพ้กัน หากจะมีแต่อีกคนที่อาการไม่แพ้ทั้งสองคนเลย



    ....ไอบะ มาซากิ....



    "หนวกหูน่า อย่ามายุ่งกับเด็กอย่างผมเลย"



    ไอบะยิ้มบางๆให้กับโลงศพที่มีร่างของเจ้าของคำพูดนั้น คำพูดแรกที่ออกแนวกวนประสาท เจ้าของคำพูดที่เขาไปเซ้าซี้มา....และเป็นคนที่เขาทำผิดด้วย มากที่สุด



    "ฮิเดอากิ ทากิซาว่า ทายาทเจ้าของธุรกิจพันล้านกลับมาครองตำแหน่งอีกครั้ง"



    ตั้งแต่วันนั้น....ตั้งแต่การจากไปของซึบาสะ ทักกี้กลับมีทุกอย่าง ไม่ว่าจะเส้นผมหรือแม้แต่เล็บ ทุกๆอย่าง ทักกี้รู้มาโดยตลอด....แต่ก็แกล้งทำเป็นตบตาเท่านั้น ....ซึบาสะโดนหลอก ซึบาสะแพ้....และเขาเป็นคนที่ทำให้ซึบาสะแพ้อย่างไร้คราบ



    เขาผิด....เขาสมควรที่จะได้รับกรรมที่เขาก่อขึ้นมา



    รอยยิ้มเย้ยหยันของทักกี้ในงานศพของซึบาสะ มีเพียงแต่อาจารย์ของเจ้าของงานเท่านั้นที่มองออก รอยยิ้มที่เยือกเย็น รอยยิ้มของปีศาจชัดๆ



    ไอบะหัวเราะแค่นๆให้กับตัวเอง.....เขามองคนผิดไปจริงๆ



    ดวงตาหนาปิดสนิท มือหนาสองข้างกุมกันเองอยู่บนเตียงนอนสีขาวบริสุทธิ์ ยาในแคปซูลสีฟ้าถูกกรอกเข้าปากก่อนจะกินน้ำตามเข้าไป



    ซึบาสะ....ฉันขอโทษ



    ดวงตาลืมโพลงขึ้นมาก่อนที่จะปิดลงอีกครั้ง....ความปวดร้าวที่อยู่ภายในกระเพาะอาหาร ไฟที่แผดเผาอวัยวะภายใน....แต่กลับไม่มีความรู้สึกเจ็บปวด....ตลอดกาล



    ป้ายสีขาวที่ปิดผนึกอยู่หน้าซองสีใสๆเขียนว่า....



    …Sodium…



    - - - The End - - -
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×