ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (Fiction SJ) Show How I Love U (Han/Min/Won/Bum)

    ลำดับตอนที่ #2 : Life1

    • อัปเดตล่าสุด 20 มี.ค. 53



    Life1

     

    เสียงกรี๊ดของเหล่าเอลฟ์ที่ส่งมาให้กำลังใจแก่ไอดอลของพวกเขา วงSuper Junior บอยแบนชื่อดังของเกาหลีที่ยืนยิ้มอย่างยินดีที่มีคนมาให้กำลังใจพวกเขาอย่างล้นหลาม ดวงตาของสมาชิกทุกคนเต็มไปด้วยหยาดน้ำตาที่คลออยู่เต็ม พวกเขาต่างโอบกอดกันอย่างดีใจกับรางวัลที่ได้มาจากเพลงดังในอัลบัม3 ‘Sory Sory’ และจะเป็นอย่างนี้ทุกครั้งที่ได้รางวัล

     

    ขอบคุณทุกคนครับ ของคุณเหล่าเอลฟ์ที่น่ารักที่ทำให้พวกเราได้มายืนอยู่ตรงนี้ และที่สำคัญคือขอบคุณสมาชิกทุกคนที่ทำให้เกิดสิ่งดีๆเหล่านี้...ขอบคุณจริงๆครับ...ลีดเดอร์ตาสวยกล่าวขอบคุณทุกคนที่ผลักดันให้พวกเขามีวันนี้ขึ้นมา ทั้งๆที่ตอนแรกSuper Junior เป็นเพียงProjectเล็กๆแค่นั้น พวกเขาต้องพยายามอย่างหนัก ต้องเสียน้ำตาไปมากมายกับหลายสิ่งหลายอย่าง อดทนกับAnti Fanclubที่คอยจ้องจะทำลายพวกเขา แต่สุดท้ายก็มีกำลังใจจากเหล่าเอลฟ์ที่น่ารัก

     

    ...เอลฟ์ที่คอยดูแลติดตามSuper Junior...

     

    ....เหล่าภูตตัวน้อยที่ก่อขึ้นมาตั้งแต่ตอนที่พึ่งเดบิวต์ใหม่ๆ...

     

    ....เอลฟ์อยู่ไม่ได้ถ้าขาดSuper Junior....

     

    ....แต่ขณะเดียวกัน Super Juniorเองก็ขาดเอลฟ์ไม่ได้เช่นกัน....

     

    คลื่นลูกโป่งสีฟ้าครามมากมายถูกปล่อยขึ้นไปบนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดาวระยิบระยับ ท้องฟ้าที่สวยงามราวกับเป็นพยานในมิตรภาพและความรักของเหล่าไอดอลและแฟนคลับที่จะคงอยู่ตลอดไป


    ขอบคุณมากจริงๆนะ ทุกคนกลับไปฉลองกันเถอะปาร์ค จองซูหรือลีทึกลีดเดอร์ของวงเอ่ยขึ้นมาอย่างยินดีพร้อมกับก้มหัวให้กับทุกคนอย่างจริงใจ 

     

    พี่ลีทึก พวกเราต่างหากที่ต้องบอกคำนั้นกับพี่ ถ้าไม่มีพี่...ก็คงจะไม่มีSuper Juniorหรอกนะ เสียงหวานใสของกระต่ายน้อยของวงดันขึ้นก่อนจะเดินเข้ามากอดคนเป็นพี่เบาๆ มือเรียวเองก็ลูบผมนุ่มของคนตัวเล็กกว่า

     

    ไม่ใช่เพราะพี่คนเดียวนะซองมิน ถ้าไม่มีทุกคนก็จะไม่มีSuper Juniorต่างหากล่ะซองมิน พยักหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงเห็นด้วย และวิ่งเข้าไปกอดเพื่อนรักอย่างลี ทงเฮและลี ฮยอกแจที่พึ่งเข้ามา ร่างทั้งสองที่ถูกกระต่ายน้อยกระโดดกอดอย่างไม่ทันตั้งตัวถึงกับล้มลงทันที

     

    เฮ้ย!ซองมินนายเป็นไรเนี่ย ลี ทงเฮถามอย่างตกใจเมื่อเห็นเพื่อนของตนทำตัวน่ารักผิดปกติ ในขณะที่ซองมินเองก็พองลมที่แก้มอย่างงอนๆ

     

    อ่า~ทงเฮ ฮยอกแจ แค่อยากกอดพวกนายแค่นั้นเองนะ ท่าทางแบบนั้นเรียกเสียงหัวเราะจากเพื่อนทั้งสองคนได้เป็นอย่างดี ...ยังไงกระต่ายน้อยที่ขี้อ้อนก็ยังเป็นกระต่ายน้อยที่ขี้อ้อนเหมือนเดิมนั่นแหละ....

     

    หัวเราะอะไรห๊ะ ไม่เห็นตลกเลย เสียงใสที่พูดขึ้นมาพร้อมกับการที่ยื่นมือไปยืดแก้มของฮยอกแจเล่น โดยที่มีลูกไล่อย่างทงเฮคอยสนับสนุน


     

    ...กระต่ายน้อยที่ร่าเริง....

     

    ...คนที่ทำให้ทุกคนยิ้มได้ไม่ว่าวันไหน...

     

    ....รอยยิ้มที่ทำให้โลกของSuper Juniorสดใสสว่างขึ้นมา....

     

    ....คนที่คอยปลอบสมาชิกเวลาที่เหนื่อยหรือท้อใจ...

     

    ....คนที่รับฟังทุกอย่างและให้คำแนะนำที่ดี...

     

    ....แต่...เวลาที่ซองมินมีเรื่องอะไรก็จะเก็บไว้เองคนเดียวภายใต้รอยยิ้มสดใส...

     

    ....และ...ออกไปร้องไห้เงียบๆอยู่คนเดียว....

     

    นี่แหละน้า~ชอบทำตัวให้คนอื่นหลงรักอยู่เรื่อยเลยทงเฮพึมพำเบาๆกับลีดเดอร์ที่ยืนยิ้มกับท่าทางของรุ่นน้องตัวยุ่งทั้งสองคน เสียงเปิดประตูของผู้เข้ามาใหม่เรียกความสนใจจากทั้งสี่คนได้เป็นอย่างดี

     

    ซีวอนอา~” ร่างเล็กผละออกจากไก่น้อยเพื่อนรักและโผเข้าไปกอดเจ้าชายของวง
     

     

    พี่ซองมิน...มีอะไรครับเสียงนุ่มหูถามคนที่เข้ามากอดตัวเองอย่างไม่มีสาเหตุ ทั้งๆที่ปกติพี่ชายคนนี้เป็นคนบอกให้เขาเลิกกอดตัวเองด้วยซ้ำ ดวงหน้าหวานซุกอยู่กับอกแกร่งอย่างออดอ้อนและไม่ได้ตอบคำถาม

     

     ....ใช่ว่าเขาจะรังเกียจพี่ชายหน้าหวานคนนี้...เพียงแต่กลัวว่าคนเป็นพี่จะได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นระรัวของเขาต่างหาก.... รู้ดีว่ากระต่ายน้อยไม่เคยคิดอะไรกับเขาเกินคำว่าพี่น้องเลยก็ตาม หรืออีกอย่างคือ...พี่ซองมินไม่เคยคิดกับใครเกินคำคำนี้เลยต่างหาก..ทำไมจะไม่รู้ว่ามีใครบ้างที่หลงรักพี่ตัวเล็กคนนี้เหมือนกับเขา...ไม่อยากเห็นแก่ตัว...ไม่อยากทะเลาะกับเพื่อนร่วมวง..

     

    ...แต่...งานนี้ใครดี..ก็คว้าหัวใจของสมาชิกเบอร์7ไปก็แล้วกันนะ....

     

    อือ..เปล่า แค่อยากกอดทุกคนดวงตากลมช้อนมามองคนตัวสูงอย่างสงสัย แต่มันกลับทำให้ซีวอนแทบจะกุมขมับเข้ากับนิสัยของพี่ชายที่ดูดีๆจะเด็กกว่าเขาด้วยซ้ำ  ลีทึกมองหน้าซีวอนที่ทำหน้าบอกบุญไม่รับก็หัวเราะขึ้นมาอีก

     

    ซองมินนี่นายจะกอดทุกคนจริงๆหรอเนี่ย หึหึ ไม่เอาน่ามานี่เร็วพี่จะพาไปกินไอศรีม ก่อนที่จะมีคนหวั่นไหวไปมากกว่านี้ ประโยคหลังก็เพียงพูดเบาๆก่อนจะหันไปยักคิ้วกับรุ่นน้องหน้าปลาและไก่ที่ยืนกุมท้องจากการหัวเราะสีหน้าของเจ้าชายที่ไม่ค่อยมีให้เห็นกันนัก เมื่อได้ยินว่าพี่ชายสุดที่รักจะพาไปกินของโปรด เจ้าตัวเล็กก็วิ่งดุกดิ๊กไปหาคนเป็นพี่ชายทันทีพร้อมกับเกาะแขนลีดเดอร์แน่น ปล่อยให้ซีวอนยืนเหวออยู่คนเดียวในห้อง

     

    ....นี่มันอะไรกัน....

     

    ...เขาโดนทิ้งหรอเนี่ย!....

     

    พี่ครับ รอผมด้วยขายาวๆวิ่งตามร่างของพี่ชายทั้ง4ออกไปยังรถบัสที่จอดรออยู่ข้างนอก เสียงหัวเราะใสๆของเจ้ากระต่ายน้อยสีชมพูที่ดังขึ้นมาอย่างมีความสุขกับสิ่งที่ตนกำลังจะทำในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า รถบัสของเหล่าลิงเคลื่อนตัวออกจากงานมอบรางวัลชื่อดังของเกาหลี  ซองมินนั่งลงข้างๆเด็กหนุ่มแก้มป่องที่ฟังเพลงอยู่อย่างไม่สนใจใคร ดวงตาคมเหลือบมองรุ่นพี่ตัวเล็กที่มานั่งข้างเขา

     

    ทำไมพี่มานั่งข้างผมล่ะครับ พี่ซองมิน คิบอมถามอย่างสงสัยในเมื่อปกติพี่ซองมินจะไปนั่งกับทงเฮหรือฮยอกแจเพื่อนสนิท แล้ววันนี้ทำไมพี่ชายคนนี้มานั่งกับเขาได้ล่ะ

     

    อือ คิบอมขอนอนหน่อยนะ ซองมินไม่ตอบคำถามแต่กลับเอนตัวไปซบกับไหล่แกร่งแทน ดวงตากลมโตค่อยๆปิดอย่างช้าๆบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเจ้าตัวเหนื่อยแค่ไหน คิบอมเก็บหูฟังแล้วหันมามองคนอายุมากกว่าเบาๆ...ขอเพียงเวลานี้เท่านั้น...ที่เขาจะได้อยู่ใกล้ๆกับคนที่เขาแอบรัก...

     

    ....ไม่ได้หวังว่าพี่จะหันมามองผม....

     

    ...แต่ขอให้ผมได้มองพี่อย่างนี้ตลอดไป...

     

    ....ไม่ได้หวังว่าพี่จะมารักผม....

     

    ....แต่ผมก็จะขอรักพี่ชายคนนี้ต่อ....

     

    ...ไม่ได้หวังว่าความฝันมันจะเป็นจริง....

     

    ...แต่คิม คิบอมก็จะยังขอฝันต่อไป....

     

    ...ฝันที่เขาสามารถทำอะไรก็ได้....ฝันที่เขามีความสุขกับพี่ชายหน้าหวานคนนี้...

     

     มือหนาเลื่อนไปกุมมือบางอย่างช้าๆราวกับว่าจะทำให้คนตรงหน้าบุบสลายไปกับแรงเพียงน้อยนิดนั่น  ภาพที่เห็นมันทำให้คนอีก2คนต้องเจ็บปวดกับสิ่งที่เห็น  เชว ซีวอนมองภาพนั้นอย่างเจ็บใจ ทั้งๆที่เขาน่าจะเป็นคนเดียวที่พี่ซองมินสนใจแท้ๆ แต่ทำไม...คนที่เขารักถึงได้ไปนอนซบกับคนอื่นได้ล่ะ? 

     

    ...รักมาก...รักจนไม่อยากให้คนอื่นได้ไปครอบครอง... ร่างสูงอีกคนกำมือแน่น ดวงตายังคงจับจ้องกับเด็กรุ่นน้องในวงตัวเล็กที่นั่งซบกับเด็กแก้มป่องอย่างเหนื่อยอ่อน ที่ตรงนั้นมันควรจะเป็นของเขาแท้ๆ ที่ๆซองมินควรจะซบลงมาได้คือไหล่ของเขาเท่านั้น แต่..ก็ได้เพียงแค่คิด...รู้ดีว่ากระต่ายน้อยคนนั้นไม่เคยคิดอะไรกับเขามากไปกว่าพี่ชายร่วมวง.. แต่ก็ยังหวังต่อไป....ความหวังที่เขาหวังไว้ว่าซักวันมันจะเป็นจริงขึ้นมา...

     

    ซองมินตื่น ถึงแล้วนะทงเฮเดินเข้ามาปลุกเพื่อนรักที่ยังคงนอนไม่รู้เรื่อง แต่เจ้าตัวก็เพียงแต่ขยับตัวถอยห่างอย่างรำคาญ ปลาน้อยของวงถอนหายใจเล็กน้อยกับนิสัยของเพื่อนก่อนจะหันไปมองคิบอมที่นั่งตัวแข็งเข้าไปใหญ่ เพราะตอนนี้หน้าหวานๆของซองมินซุกมาที่คอของเขาแล่วน่ะซิ ลมหายใจอุ่นๆที่รดต้นคออยู่นั้นมันทำให้เขาแทบจะบ้าตาย ทงเฮยิ้มอย่างนึกสนุก

     

    ....จัดการกันเองนะคิบอม ซองมิน....ฉันไม่รู้ด้วยแล้วน้า...

     

    คิบอมปลุกซองมินด้วยนะท่าทางจะหลับสบาย บอกซองมินไปว่าถ้าไม่รีบลงไปจะแย่งพุดดิ้งฟักทองให้หมดเลย ก่อนที่จะเดินลงไปพร้อมกับอาการที่กลั้นหัวเราะอย่างเต็มที่ ก็เขาอยากเห็นไอ้เด็กหน้าตายที่งานเข้าบ้างน่ะซิ สนุกดีออก ทิ้งไว้เหลือเพียง4คนบนรถที่ยังไม่ลงไป

     

    พี่ซองมินครับ...เดี๋ยวพุดดิ้งฟักทองหมดนะครับถ้าไม่รีบลงไปซีวอนฉวยโอกาสที่คิบอมมัวแต่นั่งนิ่งเข้าไปปลุกคนตัวเล็กอย่างถือสิทธิ์โดยมีสายตาของคิบอมที่มองมาอย่างไม่เข้าใจ ....นี่พี่เองก็เป็นเหมือนผมซินะ....

     

    อือ..อย่านะ!อย่ากินฟักทองชั้น~”ยังไม่ทันขาดคำซองมินก็เด้งตัวลุกขึ้นมาทันทีโดยไม่มองอย่างอื่น ในหัวคิดแต่เรื่องฟักทองของโปรดเท่านั้นแต่เมื่อมองไปรอบๆก็เจอกับใบหน้าของคนสามคนที่ยืนรออยู่ มือบางลูบหัวตัวเองแก้เขิน

     

    อ่า...โทษทีนะที่ช้า ไปกันเหอะพูดจบก็เดินลิ่วๆลงไปจากรถทิ้งให้คนสามคนจมอยู่ในห้วงความคิดของตนเอง

     

    ....นายจะไม่หันมามองพี่หน่อยหรอซองมิน...ทั้งๆที่พี่เอง...มองนายมานานแล้วนะ...

    ทั้งๆที่คิดแบบนี้ฮันเกิงก็ยังทำอะไรตามใจไม่ได้ อยากจะรั้งตัวเข้ามากอด อยากจะสัมผัสริมฝีปากนุ่มนั่น แต่...ก็ได้เพียงแค่คิด...ซองมิน..นายมีคนที่เป็นเจ้าของแล้วหรือยังนะ...ถ้ายัง..ให้พี่เป็นคนคนนั้นได้ไหม...

     

    ...พี่ซองมิน พี่น่ารักสำหรับผมเสมอ พี่คงไม่รู้ว่าน้องชายของพี่คนนี้คิดอะไรเกินเลยกับพี่...แต่...ขอให้ผมได้ดูแลพี่นะครับ แม้ว่าจะได้เพียงห่างๆก็ตาม....คิม คิบอมขอเป็นองค์รักษ์ให้เจ้าหญิงกระต่ายคนนี้ได้ไหมครับ...ขอเพียงแค่นี้...ไม่หวังจะเป็นเจ้าชายคนนั้น..คนที่โชคดีที่สุด...คนที่พี่ซองมินรัก...

     

    .....หลายคนอาจจะเห็นผมเป็นสุภาพบุรุษ...อาจจะเป็นเจ้าชายสำหรับหลายคน...แต่พี่รู้ไหม..ผมน่ะ...อยากจะเป็นเจ้าชายของพี่นะครับ ให้ผมได้ปกป้องดูแลพี่...ตลอดไป...สัญญาจากหัวใจที่มีแต่พี่คนเดียว...มือของผมทั้งสองข้างจะมีไว้ประคองและโอบกอดพี่ ดวงตาทั้งสองข้างจะมองเพียงลี ซองมินเท่านั้น...นี่ผมจะต้องรอพี่นานเท่าไหร่พี่ถึงจะรักผมซักที...

     

    ....ใช่ว่าผมอยากจะทำแบบนี้...ใช่ว่าอยากจะทำร้ายทุกคน...เพียงแต่...ขอแค่ตักตวงความสุขจากชีวิตตอนนี้ได้ไหม...ถ้าทุกคนรู้ว่าสักวันหนึ่งที่ผมจะจากทุกคนไป มันจะเป็นยังไง อย่าคาดหวังอะไรจากผมอีกเลยนะ เพราะผมไม่อยากจะเจ็บไปมากกว่านี้แล้ว...ขอโทษนะครับ ที่รับความรู้สึกไม่ได้ แต่...อยากให้รู้ว่า...รัก...รักที่ต้องเก็บไว้...ผมกลัวว่าถ้าคุณรู้...รู้ว่าผมเป็นอะไร...คุณจะไปจากผม แน่นอนว่าผมคงจะทนไม่ได้ถ้าเป็นอย่างนั้น...ผมขอโทษจริงๆ...ลี ซองมินคนนี้คงจะไม่หวังอะไรแล้ว ขอแค่มีความสุขกับทุกคน...จนกว่า..วันที่ผมจะจากไป...

     

    ร่างเล็กลงมาจากรถได้ก็จะวิ่งเข้าไปในร้านแต่เมื่อตั้งใจจะก้าวขาเข้าจริงๆขาสั้นๆนั่นกลับเซจนเกือบล้ม ซองมินกุมหัวตัวเองอย่างเหนื่อยอ่อน เขารู้แล้วว่าเขาลืมอะไร...ลืมยาโรคโลหิตจางไว้ที่หอพัก!

     

    ...ลี ซองมินคนนี้ที่ยิ้มแย้มตลอดเวลา...

     

    ...คนที่เต้นและร้องเพลงอย่างเต็มที่เมื่ออยู่บนเวที...

     

    ...แต่...จริงๆแล้วก็เป็นเพียงคนที่อ่อนแอคนหนึ่งเท่านั้น...

     

    ...ลี ซองมินเป็นโรคโลหิตจาง...

     

    ....โรคที่มันทำให้เขาไม่สามารถทำตามที่ใจอยากทำได้...

     

    ...เมื่อไหร่กันที่ความทรมานนี้จะหายไปนะ...

     

    เฮ้ย!ซองมิน..เสียงเรียกจากเพื่อนรักทั้งสองคนที่ออกมาดูเขาดังขึ้น ฮยอกแจและทงเฮวิ่งเข้ามาดูอาการของเพื่อนรักอย่างเป็นห่วง ทงเฮรีบควานหายาในกระเป๋าสีชมพูใบเล็ก แต่ก็ต้องพบกับความว่างเปล่า  ดวงตากลมมองมาทางซองมินอย่างตกใจ

     

    ซองมิน!นายไม่ได้เอายามาหรือไงห๊ะ!”

     

    อืม..ไม่เป็นไรหรอก..เอ๊ะ!” ยังไม่ทันขาดคำก็เซจนจะล้มอีกรอบดีที่ยังมีฮยอกแจคอยประคอง ทงเฮพ่นลมออกมาอย่างหงุดหงิด

     

    นี่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรแล้วยังจะขี้ลืมอีกนะ ทงเฮตำหนิเพื่อนรัก ...ถ้าไม่ห่วงก็ไม่เตือนหรอกนะซองมิน... ฮยอกแจเมื่อเห็นซองมินหน้าซีดลงก็รีบประคองซองมินไปนั่งที่ม้านั่งข้างหน้าร้าน

     

    นายไหวไหมซองมิน ถ้าไม่ไหวก็กลับไปก่อนเถอะนะลิงพันธุ์ไก่?เอ่ยอย่างเป็นห่วง นี่เขาจะทำอะไรเพื่อเพื่อนของเขาได้บ้าง

     

    ....ซองมิน...พวกเราเป็นห่วงนายมากนะ....

     

    ....เมื่อไหร่กัน...ที่นายจะบอกกับทุกคนซักที....

     

    ...บอกความจริงว่านายเป็นอะไร....

     

    ...ถ้าไม่งั้น...มันอาจจะสายไปก็ได้....

     


    อือ ไหวน่า ฮยอก เห็นไหมไม่เป็นไรแล้วไม่พดเปล่าซองมินก็ลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็วแต่มันกลับทำให้อีกสองคนแทบหัวใจวายตายแทนซะแล้ว เมื่อเห็นคนที่นั่งอยู่ดีๆก็ลุกพรวดขึ้นมาแบบนี้ ทงเฮหลังจากที่ทำใจได้แล้วก็หันมาจับตัวซองมินแล้วเขย่าแรงๆแทน

     


    ซองมินจะทำให้พวกเราหัวใจวายแทนหรือไงห๊ะ เดียวก็ล้มลงไปอีกหรอก!คอยดูนะ ถ้าล้มไปอีกจะไม่ช่วยเลย ถึงปากจะพูดไปแบบนั้นแต่จริงๆแล้วตนเองทำได้ตามที่พูดไหม....คำตอบคือไม่...

     

    ...ลี ทงเฮไม่ใช่คนที่จะเห็นคนอื่นเดือดร้อนหรือไม่สบายแล้วจะยืนเฉยได้...

     

    ...ยิ่งเป็นเพื่อนสนิทของตนด้วย..ยิ่งไม่มีทางปล่อยไว้เฉยๆแน่...

     

    ก่อนที่ริมฝีปากบางจะปรากฏรอยยิ้มขึ้นมาอีก ...เขารู้แล้วล่ะ..ว่าจะให้ใครมาดูแลซองมินแทนเขา...เพียงแต่...ต้องทดสอบ3คนนั้นก่อน...ดูซิว่าจะดูแลปกป้องเพื่อนเขาได้ไหม..แต่ถ้าไม่มีล่ะก็ เขาเองเนี่ยแหละที่จะดูแลเพื่อนหน้าหวานคนนี้เอง....

     

    ซองมิน นายมีคนที่ชอบหรือยังทงเฮโพล่งขึ้นมาเฉยๆหากแต่เรียกความสนใจของคนทั้งสามที่พึ่งลงมาจากรถได้เป็นอย่างดี แน่นอนว่ามันเข้าทางลี ทงเฮคนนี้เป๊ะ มือเรียวคว้าเอามือบางของคนที่ยืนอยู่ตรงหน้ามาวางไว้ตรงหน้าอก มุมปากกระตุกยิ้มเมื่อเห็นเป้าหมายทั้งสามสะดุ้งสุดตัว 

     

    เอ่อ...ทง..ทงเฮ..ฮยอกแจที่พูดไม่ออกแทนซองมิน นี่เพื่อนเขากินยามาผิดขวดหรือเปล่าเนี่ย แต่ก็เข้าใจแผนทันทีเมื่อเหลือบไปเห็นบุคคลไม่ได้รับเชิญด้านหลัง ไก่น้อยเองก็ยิ้มขึ้นมา


    ....น่าสนุกดีนี่ทงเฮ...

     

    ...เอาเป็นว่าขอร่วมด้วยคนละกันนะ...

     

    ฮือ?ถามอะไรน่ะทงเฮ..เอ่อ...ก็ไม่มีซิ นี่คือคนที่ปากบอกว่าไม่มีแต่หน้าแดง ดวงตาหวานดูหลุกหลิกจนคนมองอยู่แอบยิ้มกับเพื่อนอีกคน

     

    ....ปากแข็ง...ไม่ยอมรับความจริง...

     

    ...ชอบเขาก็ไม่บอกนะซองมิน...แต่สักวัน...ฉันจะทำให้นายพูดออกมาให้ได้เลย....

     

    แน่ใจ?”รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ยังคงอยู่บนใบหน้าสวยของปลาน้อยแห่งวงSuper Junior เรียกรอยแดงๆจากใบหน้าหวานได้เป็นอย่างดี ซองมินสะบัดมือออกแล้วพองลมที่แก้มเล็กน้อย

     

    เหอะ ดีกว่า ทงเฮพูดอะไรแปลกๆบอกไม่มีก็ไม่ซิน่า พูดจบก็หันหลังเดินจ้ำไปยังร้านข้างในทันที  ร่างทั้งสามที่แอบยืนฟังนั้นก็มีความคิดเดียวกันคือ

     

    ...คงต้องรีบคว้าหัวใจของกระต่ายน้อยมาซะแล้ว...


    ...ก่อนที่จะไม่มีคำว่าโอกาสสำหรับพวกเขาอีก....

     

    ถึงต่างคนจะมีอะไรหลายอย่างที่แตกต่างกัน ความคิด ความเข้มแข็ง แต่ตอนนี้...กลับมีความคิดเดียวกัน ความคิดที่จะคว้าหัวใจของตนเองมาครอง!

     

    .....ผมจะคอยปกป้องพี่เองพี่ซองมิน....

     

    ....กระต่ายน้อยของผม...เจ้าชายคนนี้จะคว้าหัวใจพี่มาให้ได้...

     

    ....คงต้องทำอะไรซักอย่างก่อนที่หัวใจของพี่จะลอยไปใช่ไหม ซองมิน...นายหันกลับมามองพี่ชายคนนี้บ้างเถอะ!....ก่อนที่พี่จะทำอะไรบ้าๆลงไป...


    ----------------------------

    *ชี้แจงนิดนึงนะคะ 
    โรคโลหิตจางเนี่ยจริงๆแล้วมันไม่ได้ร้ายแรงอะไรมากมายหรอกค่ะ
    แต่ว่าถ้าใครเป็นแล้วเนี่ย ยากที่จะหายเท่านั้นเอง ส่วนอาการของโรคจะแสดงก็ต่อเมื่อเหนื่อยมากๆ(แบบไม่ไหวแล้ว)
    ไรเตอร์ไม่เคยได้ยินนะคะว่าคนเป็นโรคนี้แล้วตายเพราะโลหิตจาง มีแต่คนที่อาการกำเริบแล้วล้มหัวฟาดพื้นแล้วเลือดไหลหมดตัวหรือไม่ก็เซจนตกน้ำจมน้ำตาย..หรือ..หน้ามืดกลางถนน!!(แต่ละอย่าง..เอิ่ม)

    ไรเตอร์รู้มาว่าซองมินเป็นโรคนี้น่ะค่ะ(ไม่แน่ใจได้ข้อมูลมาถูกไหม)ก็เลยเอาข้อมูลมาใส่ลงไปด้วย
    ส่วนยาที่จะให้คนเป็นโรคโลหิตจางกินเนี่ย จะเป็นพวกกระตุ้นเลือดให้เดิน(น่าจะเป็นอย่างนั้นนะคะ)
     แต่ถ้าไม่มียาเนี่ย นั่งพักซักแปบก็หาย(แต่ต้องพักจริงๆนะไม่ใช่ลุกขึ้นมาโดดโลดเต้นแล้วบอกว่าพักแล้ว)

    ป.ล.เนื่องจากที่รู้มาทั้งหมดเนี่ย เพราะเพื่อนสนิทไรเตอร์เป็น ต้องคอยดูแลมันไม่ให้อาการกำเริบก็แค่นั้น 
    และเท่าที่ผ่านมา2ปีกว่าๆ มันเคยกำเริบแค่ครั้งเดียวเท่านั้น!(วันนั้นวิ่งวุ่นเลยอ่ะ)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×