คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Half soul 2
“เอเลนหลบ!”ชายหนุ่มตะโกน ก่อนที่จะคว้าร่างเล็กเข้ามาอยู่ในอ้อมแขน เสียงรถบรรทุกที่บดขยี้กำแพงดังลั่น เศษกระจกจำนวนมากมายกระเด็นออกมาจากรถบรรทุกราวกับห่าฝนที่สาดใส่หน้าต่างยามดึกอย่างเกรี้ยวกราด รีไวกระชับอ้อมแขนแน่นขึ้น กดศีรษะของเด็กน้อยซบอกตัวเอง เพื่อปกป้องเขาจากเศษกระจกที่แหลมคมเหล่านั้น
ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก เร็วจนรีไวไม่ทันได้ปกป้องตัวเอง
เศษกระจกที่แหลมคมปานใบมีดที่ถูกออกแบบเพื่อใช้ปราบไททัน เสียบเข้าที่ดวงตาซ้าย แขนและขาของรีไวอย่างแม่นยำ ภาพเหล่านี้ถูกสะท้อนในดวงตาสองสีที่เบิกกว้างของเอเลน เด็กน้อยกรีดร้องออกมาสุดเสียงอย่างน่าเวทนา
“พี่รีไว!!!!”
ย้อนเวลากลับไป 3 ชั่วโมงก่อนหน้านี้
ที่นี้คือโรงเรียนของพี่ชายสินะ เอเลนในวัย 8 ขวบพึมพำ ดวงตามองโรงเรียนใหญ่โตอย่างตื่นตาตื่นใจ เด็กชายเอเลนดึงฮูดสีเทาลงมา เพื่อปกป้องดวงตาของเขาจากแดดยามเที่ยงอันแสนเจิดจ้า เส้นผมสีกาแฟเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อแนบไปกับผิวกายสีน้ำผึ้งซึ่งต่างกับผิวขาวซีดของรีไวโดยสิ้นเชิง ในมือเล็กมีกล่องข้าวซึ่งถูกพี่ชายบังเกิดเหล้าลืมไว้ที่บ้าน ด้วยว่านางคาร่า แอ็กเกอร์แมนกังวลว่าลูกชายของนางจะเสียชีวิตจากการขาดสารอาหาร
เพราะเหตุนั้นหน้าที่เด็กส่งข้าวจึงถูกโยนมาให้เด็กชายผู้ยังไม่เปิดเทอมไปโดยปริยาย
หลังจากเจรจาขอเข้าไปเอาส่งของให้พี่ชายตนสำเร็จ เอเลนก็ได้มายืนอยู่บนระเบียงยาวสะอาดสะอ้านไร้ซึ่งผู้คน เพราะตอนนี้ยังไม่พักเที่ยง แต่ถึงกระนั้นเข็มนาฬิกาก็ชี้บอกว่าใกล้ได้เวลาพักเต็มแก่แล้ว เสียงรองเท้าเดินในอาคารของผู้มาเยือนตัวน้อยดังก้องอย่างแผ่วเบาในทางเดินแห่งนี้ ดวงตาของเด็กน้อยกวาดมองไปทั่วเพื่อหาห้อง3-B ห้องที่รีไวอยู่
แต่อนิจจาเด็กชายชื่อจริงอักษรย่อ อ. นามสกุลอักษรย่อ ย. กลับหาห้อง3-Bไม่เจอ
ไม่เป็นไรเพื่อพี่ชาย สู้ๆ! น้องชายดีเด่น(?)ให้กำลังใจตัวเองก่อนก้าวเดินต่อไปด้วยหัวใจอันแสนมุ่งมั่น(?)
.
.
.
.
.
.
“อ๊ะ เจอแล้ว!”เอเลนร้องอย่างดีใจเมื่อเห็นห้องBปรากฏหลังจากเดินหาจนขาลาก เห็นภาพระเบียงซ้ำซากจนความตื่นเต้นเหือดหาย ขึ้นลงบันไดนับสิบขั้นมาเนิ่นนาน จนกริ่งตีบอกเวลาว่าเข้าสู่ช่วงพักกลางวัน
เด็กชายวัย 8 ขวบ ผู้สวมฮูดสีเทาและมีเหงื่อโทรมเคาะประตูเลื่อนอย่างไม่ลังเล
ในชั้นมัธยมต้นปีที่3นี้ มีความจริงอย่างหนึ่งเกี่ยวกับร่างสูงโปร่ง(เนื่องจากการโด็บนมอย่างหนักในชาตินี้)และห้อง3-Bที่ร่างเล็กไม่เคยได้รับรู้
ตำนานแห่งนักเลง ผู้แข็งแกร่งที่สุดในแผนกม.ต้น(อาจจะรวมทั้งโรงเรียน)และห้อง3-B ห้องเรียนที่มั่วสุมเหล่านักเรียนทั้งหลายที่ชื่นชอบการสร้างแต่ปัญหาให้แก่คณะอาจารย์ปวดเศียรเวียนกล้ายิ่งว่ากินข้าว 3 มื้อ
สถานการณ์ปัจจุบันภายในห้อง : รีไวหนึ่งในสามหัวโจกหายตัวไปตั้งแต่คาบแรก นักเรียนที่เหลือกว่าสิบชีวิตนั่งทำกิจกรรมของตนไป เสียงเคาะประตูดังขึ้น
ฮันจิ สิ่งมีชีวิตสวมแว่นไม่สามารถระบุเพศได้ว่าเป็นหญิงหรือชาย ย่างสามขุมมาเปิดประตู มองซ้ายมองขวามองลงล่าง เขาเลิกคิ้วอย่างแปลกใจเมื่อเห็นเด็กชายที่น่าจะเรียนอยู่ชั้นประถมคนหนึ่ง ถือกล่องข้าว ยืนอยู่หน้าห้องปละยังจ้องมาที่ฮันจิแบบเรียกว่าแทบไม่กระพริบตา ฮันจิ โซเอะไม่รอปฏิกิริยาตอบโต้จากเอเลน เขาคว้าเด้กชายจนตัวลอย กระเตงร่างเล็กเข้าห้องเรียนโดยไม่ลืมที่จะปิดประตูเลื่อน
พร้อมกันนั้นสายตาของคนทั้งห้องก็จับจ้องมา
เอเลนกระชับฮูดของตนแน่น เพื่อหลบซ่อนตัวเองจากสายตาที่จ้องมาที่เขาราวกับนักล่าที่กำลังจ้องเหยื่อของมัน โดยที่คนที่กำลังพาเขาเข้ามาในห้องไม่ได้สังเกตถึงสายตาพวกนั้นเลยแม้แต่น้อย ฮันจิกวาดหนังสือ การบ้าน เครื่องเขียน อะไรต่อมิอะไรลงจากโต๊ะและวางร่างเล็กไว้แทน ตรงหน้าผู้ชายผมสีทอง ดวงตาสีฟ้าท่าทางดูใจดีคนหนึ่ง ในมือของเขาถือกล่องน้ำผลไม้และสีหน้าของเขาก็บ่งบอกถึงความระอาเต็มที
“ไปเอาเด็กผู้ชายจากไหนมาน่ะ”ชายหนุ่มพูดเสียงเอื่อยเล็กน้อย
“หน้าประตูไงล่ะ! เอลวิน! โคตรโชคดีเลยล่ะ! วันนี้จับโชตะได้ตั้ง 1 EA” ฮันจิตะโกนอย่างเริงร่า แม้ประโยคที่พูดมาจะเต็มไปด้วยศัพท์ประหลาดๆที่เด็กชายไม่เคยได้ยิน มนุษย์แว่นก็กอดตัวร่างเล็กเสียแน่น
“เฮ้อ....” เอลวินถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย เอ่ยถามเด็กชายตรงหน้าด้วยน้ำเสียงใจดี หนุ่มน้อยเธอมาหาใครงั้นหรอ?
“มะ....มาหาพี่ชายของผมครับ”เอเลนตอบอย่างตะกุกตะกักนิดหน่อย เพราะกำลังใช้มือข้างเดียวพยายามดันฮันจิที่กำลังนัวเนียตนอยู่อย่างเอาเป็นเอาตายไปไกลๆ
“พี่ชาย?”ขณะที่เอลวินหนึ่งในสามหัวโจกของห้องกำลังจะอ้าปากตอบ อยู่ๆเขาก็ชะงักไป ดวงตาสีฟ้าครามของชายหนุ่มเบิกกว้างอย่างประหลาดใจ แต่มันก็แค่ชั่วพริบตา เพราะเมื่อเอเลนมองอีกทีเอลวิน สมิทก็ทำหน้าเหมือนผู้ใหญ่ใจดีเช่นเดิม
“ฮันจิระวังหลังล่ะ” เอ่ยเตือนด้วยความหวังดี แล้วก็ดูดน้ำผลไม้ในมือต่อไป
“ห๊...”ฮันจิยังไม่ทันพูดหรืออุทานจบ รองเท้าสำหรับเดินในอาคารของรีไวก็ประทับลงบนใบหน้า แรงถีบส่งให้มนุษย์สวมแว่นจิตป่วนผู้นี้ปลิวไปตามแรง ปล่อยมือจากเด็กชาย กลิ้งหลุนๆไปชนกำแพงเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทุกคนในห้องมองมนุษย์แว่นผู้นี้ด้วยสีหน้าประมาณว่า ดูแล้วเจ็บแทนจริงๆ
รีไว แอ็กเกอร์แมนสาวเท้าก้าวเข้าไปใกล้ฮันจิ ก่อนจะกระทืบคนตรงหน้าไปทีนึง
“แกคิดจะทำอะไรกับเอเลนน่ะหา?”น้ำเสียงของรีไวในตอนนี้ฟังดูเหี้ยมเกรียมและเย็นเหยียบไปถึงกระดูก เพราะมันเป็นเสียงแบบเดียวกับตอนที่เขายังคงเป็น‘มนุษย์ที่แข็งแกร่งที่สุด’และกำลังคาดโทษลูกน้องใต้บัญชา
“ฟุฟุฟุฟุ....”ฮันจิหัวเราะอย่างไม่สะทกสะท้าน“โชตะนั่นชื่อเอเลนเองหรอกหรอเนี่ย ชื่อน่ารักจังน้า.”
บรรยากาศมาคุแผ่ซ่านจนเด็กชายที่อยู่ในหัวข้อสนทนาแอบตัวสั่น ไม่เห็นพี่ชายเป็นแบบนี้เลย น่ากลัวจัง....
“แล้ว....ผู้แข็งแกร่งที่สุดในแผนกม.ต้นอย่างนายเกี่ยวข้องอะไรกับเด็กคนนั้นล่ะ?”ดวงตาสีน้ำตาลหรี่ ลง“ปกตินายไม่ใช่คนที่ช่วยใครเอาง่ายๆแบบนี้? รี-ไว-แอ็ก-เกอร์-แมน”
ถึงฮันจิจะเพี้ยนแต่ก็ไม่ได้โง่ รีไวรู้ดีถึงความฉลาดและความสามารถในการวางแผนกลยุทธ์ของฮันจิ โซเอะนั้นมันน่าหวาดหลัวเพียงไร เพราะภาพความทรงจำในตอนที่สหายคนนี้กำลังทำการวางแผนพลิกชะตากรรมของทีมสำรวจฝังลึกอยู่ในความทรงจำ 2000 ปีของชายหนุ่ม
แล้วถามจริงใครเถอะ มันจะลืมสหายร่วมรบของตนไปได้ง่ายๆกันบ้าง?
“เพราะว่า...”ก่อนที่จะได้ตอบคำถามหรือทำอะไรมากกว่านั้น ชายหนุ่มก็สัมผัสได้ถึงแรงดึงเล็กๆที่ชายกางเกงของตน เอเลนนั่นเอง....
“พี่ชาย.....อย่าทำไปมันมากกว่านี้เลยนะฮะ ผมแค่เอากล้องข้าวมาให้พี่ชายเอง เดียวก็กลับแล้วล่ะฮะ ไม่ต้องห่วงหรอก...พี่คนที่สวมแว่นคนนั้นไม่ได้ทำอะไรผมซะหน่อย...”
ผู้แข็งแกร่งที่สุดในแผนกม.ต้นย่อตัวลง ปลดดึงฮูดสีเทาของเด็กชายลง เผยให้เห็นใบหน้าจิ้มลิ้ม เส้นผมสีกาแฟที่ยุ่งฟูเพราะถูกพี่ชายของตนขยี้เมื่อครู่ ดวงตากลมโตสองสีสดใสเหมือนลูกแมวพันธุ์ฮ็อดอายและผิวสีน้ำผึ้งแบบเด็กสุขภาพคนหนึ่ง สองหัวโจกที่เหลือและนักเรียนห้อง3-Bต่างพร้อมใจกันเบิกตากว้าง ตกตะลึงและอุทานออกมาอย่างพร้อมเพรียงเหมือนนัดกันไว้ เมื่อสมองประมวลผลถึงคำพูดที่เอเลนพูดออกมาเมื่อครู่
“พี่ชายเรอะ! ไม่จริงน่า! เด็กหน้าตาน่ารักแบบนี้นะเรอะ! จะมีพี่ชาย****อย่างรีไว น่ะ!”
ซึ่งก็ทำให้เส้นเลือดตรงขมับของรีไวปูดโปนได้อย่างดี.....
“เอ้า..เอเลนแนะนำตัวหน่อยสิ”ชายหนุ่มผู้เป็นตำนานของโรงเรียนกล่าวน้ำเสียงเรียบนิ่ง มือของเขาคีบอาหารเข้าปากไปไม่หยุด ดูท่าคงจะหิวมากจริงๆ
“อะ...เอ่อ ผมชื่อเอเลน เยเกอร์ครับ เป็นน้องชายแท้ๆของพี่รีไวครับ แล้ว...เอ่อ...ที่นามสกุลไม่เหมือนพี่นี่ เพราะผมใช้นามสกุลของพ่อครับ อายุ 8 ขวบ ยินดีที่ได้รู้จักครับ”ร่างเล็กโค้งให้กับเหล่านักเรียนอย่างสุภาพ ท่าทางแบบเด็กชายไร้เดียงสา อ่อนต่อโลก เรียกความคะแนนความเอ็นดูจากนักเรียนห้อง3-Bได้โข
“ยินดีที่ได้รู้จักนะเอเลนคุง ผมชื่ออาร์มิน”เด็กหนุ่มผมสีทองมัดรวบไปข้างหลังครึ่งหัวกล่าว“อ่า....ว่าแต่สนใจจะไปกินขนมกับผมหลังเลิกเรียนไหมครับ? เดียวผมเลี้ยงเอ....”
“เอเลนนายยังไม่ได้กินข้าวเที่ยงใช่ไหม?”คุณพี่ชายเก็บกล่องอันว่างเปล่าลงกระเป๋า
“อะ..ยังครับ”
“โอเค....งั้นเดียวพี่พาไปกิน”พูดจบรีไวก็อุ้มร่างเล็กขึ้นมา คว้ากระเป๋านักเรียนของตนและเดินออกจากห้องเรียนไปเสียดื้อๆ
“เดียวสิ....ผมยังพูดไม่จบเลยนะ โธ่.....”
และในระหว่างที่รีไวพาเอเลนกลับมาจากร้านอาหารและกำลังเดินจูงมือกันผ่านทางแยกเล็กๆในซอย ในยามบ่ายอันแสนสงบสุขวันหนึ่ง
รถบรรทุกคันหนึ่งก็แล่นมาด้วยความเร็วสูง พุ่งตรงมายังพวกเขาทั้งสองและอุบัติเหตุก็เกิดขึ้น
*************************
เสียงไซเรนรถพยาบาลดังบาดหู ไม่ว่าเมื่อไรหรือจะอีกสักกี่ชาติรีไวก็ไม่เคยรับเสียงของมันได้สักที
“พี่! พี่รีไวตาของพี่!” ดวงตาของเด็กชายรื้นด้วยน้ำตา ใบหน้าน่ารักบิดเบี้ยวด้วยความโศกเศร้าระคนตกใจ เปื้อนฝุ่นและเต็มไปด้วยน้ำตาสีใสที่ไหลเป็นทาง หากแต่ไร้รอยขีดข่วนใดๆ รีไวยิ้ม ในที่สุดเขาก็สามารถปกป้องเอเลนไว้ได้แล้ว
มือใหญ่ขยี้เส้นผมนุ่มของเอเลนกล่าวปลอบโยนว่าไม่เป็นไรนะ พี่ไม่เป็นไร ก่อนถูกส่งขึ้นรถพยาบาลไป
ความคิดเห็น