ตอนที่ 58 : ตอนที่ 58
ตู้มมมมมมมม!
เสียงระเบิดดังกึกก้องราเซ็ตสึรีบเคลื่อนที่ไปยังที่นั่นอย่างเร่งด่วน ทันทีที่มาถึงเขาก็เห็นงินนอนหมดสภาพอยู่ที่พื้นไม่ไกลจากจุดที่งินอยู่มีกลุ่มเพื่อนของอิจิโกะรวมอยู่ด้วย
"ดูเหมือนอิจิโกะจะออกมาแล้ว"
ราเซ็ตสึมาอยู่ข้างร่างของงินในชั่วพริบตาเสียงกรีดร้องแสนเวทนาคอยเพรียกหาแต่งินดังขึ้นมาแต่เขาก็ไม่ได้สนใจ ชักดาบสีขาวออกมาและและแทงไปที่หัวใจของอีกฝ่ายและปักคาไว้ทั้งๆ แบบนั้น
"หัวหน้าคุโรกิ ทำไมละ ทำไม"
"ไม่ใช่เวลาถามแล้วมัตสึโมโต้ รีบเอาเขาไปให้ไกลจากที่นี่ และอย่าเอาดาบออกถ้าไม่อยากให้เขาตาย"
รันงืคุเริมตั้งสติและสังเกตุเห็นการฟื้นฟูที่ร่างกายของงินแม้มันจะค่อนข้างช้า แต่เลือดตามบาดแผลก็เริ่มหยุดไหลแล้ว และในขณะที่หญิงสาวกำลังจากไปเสียงการคลื่นไหวก็ดังขึ้นมาจากด้านหลังของพวกเขา ตู้มมมม
"ขอบคุณมากเลยนะป๋า คุณอาเองก็ด้วย"
ราเซ็ตสึหันไปมองร่างที่โผล่ออกมา อีกฝ่ายก๋คืออิจิโกะ เขาจึงพยักหน้าให้อีกฝ่ายก่อนจะถอนหายใจ จะว่าไปแล้วเจ้าเด็กนี่มีพลังแฝงที่ยิ่งใหญ่จริงๆ สมแล้วที่มีพลังแฝงเร้นมากพอจะขึ้นเป็นราชันย์วิญญญาณคนใหม่ ไม่แปลกใจเลยที่ไอเซ็นจะสนใจ ไม่แปลกใจเฮียวซึบะจะอยากได้อิจิโกะในศึกสงครามเลือดพันปี
"ดูเหมือนพวกเธอสองอาหลานจะพัฒนาตัวเองอย่างผิดพลาดด้วยกันทั้งคู่"
แกร็ก เพล้งงง
"ใกล้จะถึงขีดจำกัดแล้วสินะ บังไคของเธอน่ะชิบะ อิซามุ"
ไอเซ็นที่วิวัฒนาการจากที่เคยเป็นคนสุขุมรอบครอบกลายเป็นคนพูดมาก พูดไม่หยุดปาก ทั้งอวดดี หยิ่งผยองเสียจนน่าหงุดหงิด นี่สินะคือผลของการที่มีพลังยิ่งใหญ่แต่มีหัวใจที่อ่อนแอ
"คุณอาฝากทุกคนที่นี่ด้วย ส่วนไอเซ็น ผมขอจัดการเอง"
"ก็ได้"
เปรี้ยงงงง
เสียวดั่งอัสนีบาตกัมนาต อิจิโกะพุ่งไปจับหน้าของไอเซ็นและลากอีกฝ่ายไปยังพื้นที่รกร้างซึ่งห่างไกลจากเมืองคาราคุระพอสมควร ราเซ็ตสึหันไปมองมัตสึโมโต้ที่ยังไม่จากไปก็พยักหน้าให้อีกฝ่ายก่อนจะย่างก้าวเดินไปที่หน้าเมืองและปรบมือเขาด้วยกัน
โดมโปร่งแสงสีทองก็เข้าปกคลุมเมืองคาราคุระทั่วทั้งหมดเมือง ด้วยพลังของเขาที่ผ่านการฝึกฝนในดันไกจนถึงปัจจุบันต่อให้เป็นไอเซ็นก็ต้องโจมตีถึงสามครั้งถึงจะทำลายเจ้านี่ได้ ซึ่งตามสถาการณ์ปัจจุบันแค่นี้ก็คงจะเพียงพอแล้ว
เขาทางเดินไปชมการต่อสู้ของอิจิโกะและไอเซ็น ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระดับทำลายล้างโลกได้อย่างง่ายดาย เพียงสะบัดดาบภูเขาก็ระเบิด เพียงปะทะดาบก็มากพอที่จะสร้างหลุมบ่อลึกจนไม่เห็นก้นบึ้ง
มีคมดาบที่หลุดออกมาจากการต่อสู้มาทางราเซ็ตสึอยู่บ้างแต่เขาก็พอป้องกันมันได้อย่างไม่ยากเย็น เขาไม่ได้เลือกที่จะเข้าไปยุ่งกับการต่อสู้ในครั้งนี้ ในเมื่ออิจิโกะเลือกที่จะเป็นผู้เสียสละไปแล้ว
เมื่อได้รับการถ่ายทอดเก็ตสึกะเท็นโชจากดาบฟันวิญญาณมาแล้ว ถึงต่อให้ไม่ใช้มันออกมาในการต่อสู้ แต่ผลลัพท์ก็ยังต้องสูญเสียพลังยมทูตไปอยู่ดี ดังนั้นการที่เขาจะออกไปขัดขวางการต่อสู้ของอีกฝ่าย ไม่ใช่การเสียสละของอิจิโกะจะสูญเปล่าหรอกหรอ
ฟู่มมมมมม
แรงดันวิญญาณสีดำสนิทแผ่ขยายเข้าปกคลุมร่างของอิจิโกะ ไม่นานร่างของชายที่กลายเป็นเก็ตสึกะเสียเองก็โผล่ออกมา ตอนนี้อิจิโกะเหนือมิติไปแบบสุดกู่ แม้แต่ตัวราเซ็ตสึในตอนนึ้เองก็ไม่สามารถสัมผัสถึงแรงดันวิญญาณของอิจิโกะได้
คลื่นดาบสีดำมืดตัดผ่านร่างของไอเซ็นที่กลายเป็นสัตว์ประหลาดอย่างสมบูรณ์ และสลายไปในเวลาต่อมา โดยทิ้งไว้เพียงรอยดาบราบเรียบที่ยาวเหยียดไกลกว่าหลายสิบกิโลเมตร
"จบสักทีไอ้การต่อสู้ที่ไร้ความหมายนี่"
ราเซ็ตสึถอนหายใจและกระโดดลงไปด้านล่างและเฝ้ามองไอเซ็นที่กำลังลุกขึ้นมาพร้อมเสียงหัวเราะอันบ้าคลั่ง ชายหนุ่มที่พึ่งลงมาเหยียบที่พื้นขมวดคิ้วหลังเห็นอีกฝ่ายยังไม่ถูกผนึกอย่างที่ควรจะเป็น
"นายแพ้แล้วคุโรซากิ อิจิโกะ ต้องขอบใจจริงๆที่ทำให้ฉันมาได้ไกลถึงขนาดนี้ โอ้อิซามุนี่หรอแรงดันวิญญาณที่แท้จริงของนาย ตอนนี้ฉันสัมผัสถึงมันได้แล้ว!!"
"พอได้แล้วไอเซ็น การต่อสู้นี้มันจบแล้ว"
"พอหรอ ไม่มันยังไม่เพียงพอ ลองดูนั่นสิชิบะ อิซามุบังไคของนายน่ะ ใกล้จะถึงขัดจำกัดเต็มทีแล้วนะ จากนี้ไปสองอาหลานจะขัดขวางฉันไม่ได้อีกต่อไป!"
แกร็ก เพล้ง
สิ้นคำกล่าวของไอเซ็นเสี้ยวจันทร์ที่ด้านหลังซึ่งเป็นส่วนสุดท้ายก็แตกสลายหายไปอย่างสมบูรณ์ ไอเซ็นที่กำลังเริ่มเยาะเย้ยสองอาหลานถึงกับขมวดคิ้วเป็นปม หลังไม่สามารถสัมผัสแรงดันวิญญาณของราเซ็ตสึได้อีก แรงดันวิญญาณของอีกฝ่ายมันหายไปราวกับไม่เคยมีอยู่ และนี่อาจจะเป็นการบ่งบอกว่าอีกฝ่ายคือตัวตนที่เหนือกว่าตัวเอง
"บ้าไปแล้ว เป็นไปไม่ได้ไม่มีทางที่ยมทูตอย่างนายจะอยู่เหนือผู้ที่ครอบครองโฮเงียคุอย่างฉันได้!!"
มองอีกไอเซ็นที่กำลังบ้าคลั่ง ลุ่มหลงในพลังของตนเองจนเสียสติ ราเซ็ตสึได้แต่ถอนหายใจ เหล่มองไปทางอิจิโกะที่ทรุดนั่งอยู่ที่พื้น ดูท่าแล้วหลานชายคนนี้จะเค้นทุกอย่างออกไปจนแทบหมด ดูเหมือนเป็นเขาเองที่ตัดสินใจผิดพลาดไม่คิดเลยว่าโฮเงียคุนี่จะพัฒนาไปอีกขั้นแบบนี้
"ช่วยไม่ได้ ในเมื่อคุณมาได้ขนาดนี้แล้ว ผมเองก็ควรจะแสดงให้คุณได้เห็นเป็นขวัญตา ถึงรูปลักษณ์ที่แท้จริงในขั้นบังไคของผม"
ท้องฟ้าในเมืองลูคอนที่เคยสว่างถูกความมืดมิดเข้าปกคลุม แสงจากดวงอาทิตย์หรือแม้แต่ดวงอาทิตย์เองก็ถูกความมืดมิดนี้กลืนกินไป และจุดศูนย์กลางแห่งความมืดมิดนิรันดร์กาลมาก็จากชายหนุ่มที่ถูกครอบคลุมไปด้วยควันสีดำ
"Tsukuyomi : Mugetsu Kokuangyō(เทวีราตรี : รัตติกาลอนันต์ที่ไร้ซึ่งดวงจันทร์)"
ความมืดที่เข้าปกคลุมร่างกายราเซ็ตสึสลายไปอิจิโกะเบิกตากว้างหลังได้เห็นร่างที่แท้จริงของราเซ็ตสึที่กำลังถือคันศรความมืดขนาดใหญ่ แม้จะเพียงแค่แวบเดียวก็ตาม นภาอันมืดมิดก็กลับคืนสู่สภาพเดิม
อิจิโกะเบนสายตามองที่ไอเซ็นก็จะพบว่าอีกฝ่ายถูกศรขนาดใหญ่ปักเข้าที่กลางอกกลุ้มก้อนความมืดกำลังกลืนกินอีกฝ่ายราวกับอสูรร้ายที่น่าหวาดผวาก่อนจะมีแสงสีชมพูจำนวนนับไม่ถ้วนผุดออกมาผนึกโดยที่อีกฝ่ายโดยไม่มีแรงต้านอีกต่อไป หันกลับมามองราเซ็ตสึอีกรอบเพื่อยืนยันความแน่ใจ
"เออคือคุณอา ร่าง..ของคุณ..."
"คิดว่าไงมันคล้ายกันไหมละครับ บังไคที่แท้จริงของผมกับเก็ตสึเท็นโชขั้นสุดท้ายของคุณ"
"ไม่ใช่เรื่องนั้น"
ราเซ็ตสึเอียงคอมองอย่างสงสัย แต่ไม่นานเขาก็เลิกสนใจหลังเห็นอุราฮาระเดินทางมาถึงที่นี่แล้ว เมื่ออุราฮาระมองไปที่ผนึกก็ถอนหายใจโล่งอก สายตาหันไปมองอิจิโกะผู้เสียสละด้วยสายตารู้สึกผิด ก่อนจะหันไปมองราเซ็ตสึเจ้าตัวก็รีบปิดปากและแอบหัวเราะออกมา
"มีอะไรน่าขำหรือยังไง คุณอุราฮาระ ?"
"ปะ ปล่าวครับ ไม่มีอะไร"
"[ ฮิฮิฮิ ไอ้เจ้าโง่เอ้ยบอกแล้วว่าอย่าใช้มันก็ไม่เชื่อข้า สมน้ำหน้า ]"
เสียงหัวเราะเล็กๆของสึคุโยะจังที่กลับสู่สภาพเดิมดังขึ้นมาในโสตประสาท ราเซ็ตสึชักรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี จะว่าไปแล้วไอ้ชุดที่เขาใส่มันก็ย้วยแปลกๆชอบกล ไม่นานเสียงกรีดร้องของราเซ็ตสึก็ดังลั่นหลังเห็นสภาพของตนเองในปัจจุบัน
"อีกแล้วหรอ เป็นแบบนี้อีกแล้วนี่มันอะไรอีก!!"
ร่างของชายหนุ่มคล้ายวัยยี่สิบปีกลายเป็นร่างของเด็กชั้นประถม แม้เสียงจะยังคงเดิมแต่ร่างกายของเขาหดตัวลงอย่างแท้จริง นอกจากร่างกายที่เปลี่ยนไป ก็ไม่มีอะไรบุปสลาย
"[ ทำใจให้ชินเสียเถอะนะ แต่ข้าคิดว่าเจ้าอยู่ในร่างนี้ก็ดีไปอีกแบบ ]"
'ดีที่ไหนละโว้ยยยย เอาคืนมาเอาร่างของผมคืนมาเดี๋ยวนี้เลย!!'
"[ เอาน่าอย่างน้อยเจ้าก็ยังดูมีอายุมากกว่าโทชิโร่ ]"
'นั่นคือคำปลอบใจแน่หรอ'
"เฮ้อ"
ราเซ็ตสึมองสภาพของตนเองก็ได้แต่ถอนหายใจ ตอนนี้เขารู้สึกอยากจะร้องไห้ขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ สัญญากับอิชชินเอาไว้ว่าจะไปเยี่ยมพวกหลานสาว ไหนจะเรื่องของลูเคีย อีก สิ้นหวังแบบสุดกู่ อุราฮาระที่พยายามกั้นขำแทบตายสูดลมหายใจและกล่าวปลอบอีกฝ่าย
"น่าจะเป็นผลกระทบ ใช้เวลาพักผ่อนสักระยะเดี๋ยวก็คงหายเอง อย่ากังวลนักเลย เอาแบบนี้ไหมครับถ้ามันไม่หายจริงๆ ไว้มาให้ผมตรวจสอบทีหลังก็ได้นะครับ"
ได้ยินคำพูดของอุราฮาระราเซ็ตสึก็แสดงสีหน้าให้เห็นถึงความหวังขึ้นมาบ้าง น้ำตาไหลรินอาบแก้มและรู้สึกซาบซึ้ง เขาไม่ใช่ฮิสึกายะโทชิโร่ที่ชื่นชอบร่างเด็กของตนแต่ไม่ชอบร่างผู้ใหญ่ของตัวเอง ดังนั้นเขาจึงคาดหวังกับการคืนสู่สภาพเดิมเป็นอย่างมาก
'สาธุขอให้สมพรปากเอ็งทีเถอะอุราฮาระ'
ไม่นานเท่าไหร่นักก็มียมทูตมายกสิ่งที่ใช้ผนึกร่างกายของไอเซ็นจากไป ราเซ็ตสึเฝ้ามองการเคลื่อนย้ายอยู่ตลอด มันเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่เขาไม่อาจกลายเป็นเพื่อนของอีกฝ่าย
'ถ้าได้มีนายเป็นเพื่อนมันจะดีแค่ไหนนะ ไอเซ็น'
โชตะอิซามุ
บังไครูปแบบแท้จริง(เกือบสมบูรณ์)
Tsukuyomi : Mugetsu Kokuangyō
(เทวีราตรี : รัตติกาลอนันต์ที่ไร้ซึ่งดวงจันทร์)
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

เห็นด้วยให้อิชามุกลายเป็นผู้หญิงไปเลยสิก็เพราะชึคุโยมิเป็นผู้หญิงนี่น้าา5555
โลลิสิ!!!!
ทำไมไม่เป็นโลลิ
ป.ล. มีตอนพิเศษแบบนี้สักตอนมั๊ยคะ