ตอนที่ 5 : ตอนที่ 5
อุคิทาเกะได้พาราเซ็ตสึไปยังสำนักงานหน่วยที่ 13 ก่อนอื่นเขาต้องลงทะเบียนให้เสร็จเสียก่อนเพื่อรองรับการเป็นยมทูตของเขา สิ่งที่ราเซ็ตสึได้รับมาก็มีชุดกาฮามะสีดำ และเนื่องจากตัวเขามีซัมปาคุโต(ดาบฟันวิญญาณ)ไว้ในครอบครองอยู่แล้ว ทางสำนักงานจึงไม่ได้ส่งมอบของใหม่ให้
"เธอต้องการอะไรอีกหรือเปล่า ?"
"ผมอยากเรียนรู้เทคนิควิถีมารและเทคนิคโยกย้ายร่างในระดับที่สูงกว่า"
ได้ยินคำขอของชายหนุ่มอุคิทาเกะก็พยักหน้าเห็นด้วย เขาพร้อมสนับสนุนคนของตัวเองอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะชายหนุ่มตรงหน้าที่นับว่าเป็นสัตว์ประหลาดที่มีทั้งพรสวรรค์และพรแสวงในรอบหลายพันปี
"เรื่องนี้ อืมข้าสามารถแนะนำเธอได้อยู่บ้าง วันไหนที่ข้าไม่สะดวกก็ยังมีห้องสมุดรองรับเธอได้ หรือไม่ก็รอให้ข้าดำเนินเรื่องขอให้เธอไปศึกษาในหน่วยวิถีมารที่นั่นมีวิถีมารขั้นสูงเก็บไว้ แต่อาจจะต้องใช้เวลาอนุมัติสักหน่อย"
"ขอบคุณท่านมากครับท่านหัวหน้า"
"ดีไปกันเถอะข้าจะพาเธอชมสถานที่ก่อน"
จากนั้นอุคิทาเกะก็พาเขาไปชมพื้นที่โดยรอบของเซเรย์เทย์ แต่ด้วยความกว้างใหญ่ของมันต่อให้ใช้เวลาทั้งอาทิตย์ก็น่าจะชมได้ไม่หมดดังนั้นอุคิทาเกะจึงพาเขาไปยังสถานที่หลักๆก่อน แถมที่นี่ก็ค่อนข้างคล้ายเขาวงกตมากเกินไป
'ถ้าเราหลงทางเข้าสักวันคงไม่ใช่เรื่องแปลก'
เที่ยวชมสถานที่ต่างๆ แม้กระทั่งสำนักงานใหญ่ของ 13 หน่วยพิทักษ์หรือหน่วยที่หนึ่งของหัวหน้าใหญ่ เกนริวไซ ชิเงะคุนิ ยามาโมโตะและไปยังสำนักงานของหน่วยที่ 13 เพื่อชมสำนักงานภายใน หน่วยที่ 13 หรือหน่วยที่คอยดูแลและคุ้มกันภัยภายนอก ระบบงานส่วนใหญ่คือการเฝ้าระวังภัยในโลกมนุษย์
อุคิทาเกะเริ่มแนะนำงานส่วนใหญ่ของหน่วยที่ 13 ให้เขาฟัง พาชมสถานที่พักชั่วคราวสำหรับเขา แน่นอนว่าพอเขาหาที่อยู่อาศัยได้ก็คงต้องออกจากที่นี่ อย่างน้อยเขาก็อยากมีบ้านและครอบครัวน้อยๆ สักครั้ง มันเป็นความคาดหวังของเขาโลกก่อน เอาเถอะสิ่งที่ต้องทำเป็นอันดับแรกในตอนนี้ก็คือการเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตนเอง เรื่องอื่นหลังจากรอดชีวิตจากศึกใหญ่ในอนาคตไว้ค่อยคิดก็ยังไม่สาย
"ยินดีต้อนรับอีกครั้ง คุโรกิ ราเซ็ตสึ"
สิ้นเสียงอุคิทาเกะได้ไม่นานก็มีชายร่างเตี้ยและหญิงสาวร่างเล็กสองคนโผล่ออกมาจ้องมองสำรวจเขา ทั้งสามเขาเคยพบเห็นในอนิเมะมาก่อน ชายร่างเตี้ยมีชื่อว่าโคสึบากิ เซ็นทาโร่ ทางด้านหญิงสาวผมบลอนด์ส้มชื่อของเธอคือโคเท็ตสึ คิโยเนะ
ส่วนคนสุดท้ายเขาพบเห็นเธอในอนิเมะมากที่สุด และก็ชอบตัวละครนี้มากที่สุดด้วยเช่นกัน แม้จะผิดหวังที่เธอไปแต่งงานมีลูกกับเจ้าจิ๊กโก๋หัวแดงในตอนสุดท้ายของมังงะแต่ยังไงเธอก็ยังเป็นตัวละครที่เขาชอบมากอยู่ดี เธอก็คือคุจิกิ ลูเคีย กระสอบทรายอันดับหนึ่งของโลกเทพมรณะ
"มีอะไรกับข้าหรือเปล่า เจ้าน่ะ ?"
"โทษทีพอเห็นเธอแล้วบังเอิญคิดว่าถ้าเธอตัดผมให้สั้นเลยคางลงมาหน่อย เธอจะน่ารักขึ้นเป็นกองเลยละ"
"..."
หญิงสาวนามว่าลูเคียจ้องมองชายหนุ่มที่กล่าวด้วยสีหน้างุนงงเล็กน้อย เธอรวบผมที่ยาวถึงหลังและจ้องผมของตัวเองแบบอึนๆ เพราะเธอไม่เคยคิดเรื่องแบบนี้มาก่อน เพื่อให้สมกับใช้ชื่อตระกูคุจิกิ เธอเลยใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการฝึกฝน
ทางราเซ็ตสึที่ได้สติก็แปลกใจกับตัวเองดูเหมือนเขาจะสนใจลูเคียมากเกินไปจนต้องกล่าวแถจนสีข้างแทบถลอก ทว่าสิ่งที่เขากล่าวออกไปก็เป็นไปตามความชอบส่วนตัว หลังที่ลูเคียเข้ารับตำแหน่งเธอก็เปลี่ยนทรงผม ผมของเธอสั้นลงทำให้เธอดูน่ารักขึ้นเป็นกอง ภาคนั้นเป็นภาคเอ็กซ์คิวชั่น(ฟูลบริงเกอร์) เป็นภาคสุดท้ายในเวอร์ชั่นอนิเมะ
"แค่กๆ คุโรกิ ข้าคิดว่าเธอควรไปอาบน้ำอาบท่าเปลี่ยนชุดก่อนจะดีกว่า ส่วนเรื่องจีบหญิงหยอดสาวคงต้องขอให้เธอเพลาๆเอาไว้ก่อน"
"เข้าใจแล้วครับ ท่านหัวหน้า"
สีหน้าของชายหนุ่มยังคงปกติตั้งแต่ต้น ไม่มีความผันผวนทางอารมณ์เลยแม้แต่นิดเดียว เขาเดินไปยังสถานที่พักชั่วคราว โดยไม่สนการพูดคุยของคนอื่นๆ
หลังจากราเซ็ตสึเดินจากไปหญิงสาวนามคิโยเนะก็เดินมาหยอกล้อลูเคียทันที ทางลูเคียเองก็ทำไรไม่ถูกนัก แต่เธอก็ยังสงบและไม่คิดอะไรมากเกินไปให้รกสมอง เนื่องจากเหตุการณ์ในวันนั้นยังคงหลอกหลอนเธอ
"จะว่าไปท่านหัวหน้าอุคิทาเกะ ชายคนนั้นแข็งแกร่งหรือเปล่าครับ ?"
"เรื่องนั้นไว้รอให้เจ้าตัวทำธุระเสร็จค่อยให้เธอและคิโยเนะทดสอบเขาแล้วกันนะ เซ็นทาโร่"
"เข้าใจแล้ว..."
"ท่านหัวหน้าอุคิทาเกะขอให้ข้าเป็นคนทดสอบเขาเองได้หรือไม่ ?"
"คุณคุจิกิ ?"
ได้ยินเสียงกล่าวขัดเซ็นทาโร่ อุคิทาเกะก็แปลกใจไม่น้อยเลยทีเดียว เขาใช้มือกุมคางและคิดถึงความเป็นไปได้ ทว่าไม่นานก็ส่ายหัว ระดับของคุจิกิลูเคียยังห่างชั้นกับราเซ็ตสึมากเกิน แม้ลูเคียจะมีอายุมากกว่าทั้งยังได้รับการสอนเทคนิคในระดับที่สูงกว่า แต่ถ้าให้เทียบกับชายคนนั้นแล้วยังห่างไกล ทั้งประสบการณ์อันหลากหลายในเขตซาราคิ รากฐานการฝึกฝน ทั้งความเร็วการใช้ก้าวพริบตาที่อยู่ในระดับเทียบเท่าหัวหน้าหน่วยบางคน ไม่มีทางเลยที่ลูเคียจะเทียบชั้นได้
"ให้ดีที่สุดพวกเธอสามคน ควรเข้าไปพร้อมกัน"
"เอ๊ะ ชายคนนั้นแข็งแกร่งขนาดนั้นเลยหรอครับหัวหน้า"
"เดี๋ยวพวกเธอก็ได้รู้เอง"
ทั้งสี่รอกันเกือบครึ่งชั่วโมง ในที่สุดชายหนุ่มผมยาวถึงบ่าก็เดินออกมาในชุดใหม่ดูสะอาดตาขึ้นมาก ปกติตัวเขาก็มีหน้าตาที่ดูดีในระดับหนึ่งแต่ก็เป็นเพียงระดับกลางๆเท่านั้น
"อืมๆ ดูดีขึ้นเยอะเลย เอาละคุโรกิ ทั้งสามคนนี้อยากทดสอบฝีมือของเธอ คงไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม ?"
ราเซ็ตสึหันไปมองทั้งสามก่อนจะพยักหน้าตอบรับคำขอของอุคิทาเกะ เขามีแผนวัดระดับฝีมือของตัวเองอยู่เช่นกัน ไม่คิดเลยว่าทั้งสามจะช่วยมาประเคนถึงที่ มันจึงเป็นเรื่องที่ดีที่เขาสามารถใช้ทั้งสามในการคำนวนความสามารถของตัวเองในตอนนี้
ทั้งห้าไปยังลานกว้างด้านหลังสำนักงาน อุคิทาเกะเริ่มกล่าวเรื่องกฎในการต่อสู้ เรื่องแรกการต่อสู้นี้อนุญาติให้การกล่าวขานดาบได้ สองสามารถใช้วิถีมารได้ สามไม่อนุญาติให้มีเจตนาสังหาร และสี่ห้ามทำให้คู่ต่อสู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส
"มีใครคัดค้านไหม"
""""ไม่มีครับ/ค่ะ""""
"เอาละถ้าอย่างนั้นเริ่มการประลองได้"
"จงร่ายรำ โซเดะโนะ ชิรายูกิ"
สิ้นเสียงอุคิทาเกะคุจิกิ ลูเคียก็เปิดม่านกล่าวขานคำปลดปล่อยขั้นชิไคในทันที ใบดาบในมือกลายเป็นดาบสีขาวที่แสนงดงามดุจหิมะที่ล่วงหล่น ส่วนอีกสองคนก็ยกดาบขึ้นเพื่อเตรียมกล่าวขานชิไค
'เอาละแสดงฝีมือที่แท้จริงของเธอให้พวกเราเห็นหน่อย คุโรกิ ราเซ็ตสึ'
ในขณะที่อุคิทาเกะยังคาดหวังไม่จบ ร่างของชาบหนุ่มก็วูบหายมาอยู่ตรงหน้าของทั้งสามในชั่วพริบตา ทั้งสามเบิกตากว้างและเตรียมกระโดดถอยหลังเพื่อทิ้งระยะห่าง แต่มันช้าเกินไป
เริ่มต้นจากคิโยเนะ เขาส่งฝ่ามือแตะหน้าท้องและสร้างแรงอัดกระแทกด้วยแรงดันวิญญาณไปที่ช่องท้องของอีกฝ่ายจนขาลอยเหนือพื้น บิดตัวกลับมาและใช้ก้าวพริบตามาอยู่ตรงหน้าของเซ็นทาโร่พร้อมใช้ฝ่ามือกระแทกเข้าที่ใต้คางจนและหันไปสนใจคนสุดท้าย
ดวงตาของราเซ็ตสึเขาใช้มันจ้องมองไปที่คุจิกิ ลูเคีย หญิงสาวเหมือนได้เห็นภาพหลอนที่ด้านหลัง มันราวกับมีเงาสัตว์ร้ายขนาดยักษ์ปรากฏเหนือร่างของเขา ทำให้เธอที่กำลังเริ่มโจมตีหยุดชะงักไปคู่หนึ่ง
ราเซ็ตสึใช้โอกาศนั้นทันที ก้าวพริบตาถูกเปิดใช้อีกครั้ง ร่างของเขากระพริบเป็นภาพติดตามาอยู่ตรงหน้าของลูเคีย ฝ่ามือใหญ่อัดกระแทกไปที่มือของอีกฝ่ายจนเธอต้องปล่อยดาบในมือเนื่องจากอาการชาที่เธอได้รับ กว่าจะตอบสนองต่อสถานการณ์ได้ทัน ก็มีคนดาบมาจ่อคอเธอเสียแล้ว
'ชายคนนี้ แข็งแกร่งเกินไป'
กระบวนการต่อสู้ใช้เวลาไม่ถึงห้าวินาที เขาใช้เวลาจัดการเซ็นทาโร่และคิโยเนะเพียงหนึ่งวิเท่านั้น เวลาส่วนใหญ่ใช้ไปกับการจัดการกับลูเคียที่กล่าวขานคำปลดปล่อย เธอเป็นคนที่เขาต้องระวังเนื่องจากดาบฟันวิญญาณของเธอมันอันตราย
"ดูเหมือนว่าผมจะชนะนะครับ"
ว่าจบราเซ็ตสึก็เก็บดาบเข้าสู่ฝักและกลับไปยืนที่เก่า การต่อสู้ในครั้งนี้เขาแทบไม่ต้องใช้ความพยายามและพลัง นี่จึงทำให้เขาไม่ได้รู้ว่าระดับของตัวเองควรจะจัดไว้ในระดับไหน ช่างน่าเศร้านัก
ตอนนี้ทั้งสามได้สติกลับคืนมา ทุกคนไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก เทคนิคต่อสู้ด้วยร่างกายของราเซ็ตสึอยู่ในระดับมาสเตอร์ จึงสามารถควบคุมพละกำลังได้อย่างดีเยี่ยม
"สมแล้วละนะ"
อุคิทาเกะกล่าวชม ส่วนอีกสามคนที่หลุดออกจากภวังค์ได้ก็เริ่มเข้าใจในความแข็งแกร่งของอีกฝ่าย ด้วยระดับของชายคนนี้เพียงพอแล้วที่จะให้เขากลายเป็นนักสู้อันดับสองแห่งหน่วยที่ 13 หรือแม้กระทั่งรองหัวหน้าหน่วยที่ 13 คนใหม่ก็ยังได้
"ถ้าเมื่อครู่คุโรกิใช้ชิไคคงน่าเกรงขามกว่านี้"
"แม้จะอยากเถียงนายก็เถอะ แต่วันนี้ข้าเห็นด้วย ลูเคียละคิดว่าไง"
เซ็นทาโร่ลุกขึ้นมานั่งและกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้มแห้งๆ ทางคิโยเนะที่หายจุกก็กล่าวตอบรับเห็นด้วยก่อนจะหันไปถามลูเคีย ที่ปัจจุบันยังยืนนิ่งไม่ไหวติง หลังปรับตัวได้เธอก็กล่าวตอบและจ้องมองมาที่ราเซ็ตสึอย่างสงสัย
"ค่ะ เขาแข็งแกร่งมาก"
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

NTRลูเคียไปเลย ไม่อยากให้คู่กับเรนจิอ่าาา
เก่งเกิ๊นน