ตอนที่ 44 : ตอนที่ 44
"ข้าไม่อยากจะเสวนากับคนเยี่ยงเจ้านักหรอกนะ ซาราคิ เค็มปาจิ"
"แกอยากถูกฉันฟันทิ้งหรือไงคุจิกิ ?"
"ก็ย่อมได้ แต่คนชั้นต่ำเยี่ยงเจ้าคงไม่สามารถแตะข้าได้แม้แต่ปลายก้อย"
ราเซ็ตสึและอุโนฮานะรองหัวหน้าอิซาเนะ นักสู้อันดับเจ็ดสังกัดหน่วยที่ 4 ฮานะทาโร่และนักสู่อันดับสามสังกัดหน่วยที่ 5 อิจิโนเสะที่เดินกำลังตามหัวหน้าทั้งสอง มองสองหัวหน้าคุจิกิและหัวหน้าซาราคิซึ่งกำลังถกเถียงกันตั้งแต่ตอนเข้าประตูเซ็นไกมงจนถึงฮูเอโกมุนโด้ได้แต่เดินตามด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่ายจนกระทั่งอุโนะฮานะเริ่มทนไม่ไหว
"แทนที่พวกคุณทั้งสองจะมาเถียงกันแบบนี้ สู้เอาเวลาไปช่วยเหลือพวกคุณคุโรซากิที่กำลังตกอยู่ในอันตรายไม่ดีกว่าหรอคะ ?"
"..."
ราวกับสองหัวหน้าไม่ได้ยิน ทั้งคู่ปลดปล่อยแรงดันวิญญาณพร้อมปะทะกันได้ทุกเมื่อ อุโนะฮานะถอนหายใจตอนนีัเธอรู้สึกเหนื่อยและหันไปพูดคุยกับราเซ็ตสึ โดยเธอได้ขอแยกตัวไปช่วยเหลือคนอื่นก่อน ส่วนทางเขาเองก็ไม่รู้จะทำยังไงเช่นกัน
"อิจิโนเสะตามคุณอุโนะฮานะไปเถอะครับ"
"ครับท่านหัวหน้า"
ฟึบ
หลังอิจิโนะเสะจากไปด้วยก้าวพริบตา ราเซ็ตสึก็เริ่มกวาดตามองโดยรอบเพื่อค้นหาแรงดันวิญญาณของพวกลูเคีย ไม่นานเขาก็เผยรอยยิ้มเมื่อสัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายยังอยู่ดี แม้แรงดันวิญญาณจะตกหล่นไปบ้างแต่ดูเหมือนจะไม่ได้รับบาดเจ็บเหมือนต้นฉบับ
'ค่อยโล่งหน่อยดูเหมือนบทกระสอบทรายของที่รักจะหายไปแล้วสินะ ที่เหลือก็แค่..."
มองไปที่สองหัวหน้าที่ยังคงถกเถียงกันไม่เลิก แถมยังพร้อมจะสู้กันได้ทุกเมื่อ ถ้ามัวแต่รอสองคนนี้ ต่อให้มีเวลาทั้งวันเขาก็คงไม่ได้ไปช่วยเหลือพวกอิจิโกะสักที ไม่สิกว่าจะไปถึงอีกฝ่ายคงม้วยก่อนพอดี
'จะว่าไปสองคนนี้ก็มีนิสัยที่ต่างกันคนละขั้ว ทว่ามีสิ่งหนึ่งที่ทั้งสองมีเหมือนกัน นั่นก็คือชื่นชอบการต่อสู้'
"คุณคุจิกิ คุณเคมปาจิ ถ้าพวกคุณยังชักช้าพวกเอสปาด้า เอสคิวโด้ในลาส์นอเช่ผมคงต้องขอไปสู้กับพวกมันก่อนส่วนพวกคุณจะยืนทะเลาะกันต่อก็เชิญตามสบาย บางทีหลังพวกคุณหยุดทะเลาะกันผมคงเก็บกวาดพวกมันทั้งไปหมดแล้วก็ได้นะครับ"
ราเซ็ตสึกล่าวยั่วยุทั้งสองและใช้ก้าวพริบตาจากไปทันที ไม่นานนักเสียงตวาดบ่นของซาราคิก็ดังตามหลังเขามา พร้อมก็มีเสียงที่นุ่มนวลดุจขุนนางชั้นสูงตามมาแบบไม่มีใครยอมใคร สายตนเหล่มองไปที่ด้านหลังก็พบว่ามีสองหัวหน้ากำลังใช้ก้าวพริบตาตามเขามา
ชายหนุ่มเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ เป็นอย่างที่คิดแม้ท่านพี่เขยจะโตเป็นผู้ใหญ่มากยิ่งขึ้น สงบเสงี่ยมมากยิ่งขึ้น แต่ความใจร้อนของอีกฝ่ายก็ยังไม่ได้หายไปนี่คือนิสัยที่แท้จริงของเขา ส่วนทางหัวหน้าซาราคิก็เป็นธรรมดาของเขาละนะ ไอ้นิสัยเสมอต้นเสมอปลายนี่ ตอนนี้เขามีแผนแล้ว
"เอาแบบนี้แล้วกัน พวกเราทั้งสามมาแข่งกันว่าใครจะจัดการกับพวกอารันคาร์ในลาส์นอเช่ได้มากกว่า คนที่แพ้ได้อันดับสุดท้ายจะต้องร้องตะโกนต่อหน้าลูกน้องในหน่วยของตนเองว่า ข้าแพ้ ข้ามันอ่อนหัด"
แบบนี้ดีไหมครับ"
"ปากกล้าดีนี่คุโรกิ ราเซ็ตสึ ก็ย่อมได้ แล้วอย่ามาร้องไห้ฟูมฟายทีหลังเสียละ !"
เบียคุยะชายรูปงามที่เต็มไปด้วยความสุขุมเริ่มเผยให้เห็นนัยน์ตาคมกริบดุจดั่งคมดาบที่พร้อมฟาดฟันศัตรู แต่ข้างในดวงตากับแฝงไว้ด้วยความทะนงตน ความตื่นเต้นที่แม้เจ้าตัวจะพยายามปกปิดมันยังไงก็ปิดไม่มิด
"เอาแบบนั้นก็ได้ แต่ถ้ามาขวางทางฉัน ต่อให้เป็นพวกแกฉันก็จะฟันทิ้งแบบไม่ลังเลเลย!"
ทางหัวหน้าซาราคิเองก็ดูเหมือนจะตื่นเต้นไม่แพ้กันแต่จะเผยความบ้าคลั่งออกมาเสียมากกว่า จะได้เจอคนเก่งๆทั้งที แถมได้มาแข่งขันกับเจ้าสองคนนี้อีก งานนี้มันน่าสนุกกว่าที่คิดไว้
"ถ้าอย่างนั้นก็แยกกันตรงเลยแล้วกันนะครับ แล้วมาดูกันว่าใครกันแน่ที่จัดการศัตรูได้มากกว่าและใครกันแน่ที่ต้องร้องไห้ขี้มูกโป่งในภายหลัง เริ่มได้!"
ร่างทั้งสามพุ่งแยกตัวออกจากกันดุจดาวหาง ราเซ็ตสึรีบเดินทางไปหาพวกอิจิโกะเป็นอันดับแรกเพราะการต่อสู้ที่นั่นมันน่าสนุกกว่า ทางหัวหน้าซาราคิที่ถูกแย่งเป้าหมายมุ่งหน้าไปยังจุดที่พวกเร็นจิอยู่แทน ทางหัวหน้าเบียคุยะเดินทางไปยังจุดที่ลูเคียอยู่ แม้ตัวราเซ็ตสึจะอยากไปทางนั้นแต่สุดท้ายเขาก็เปลี่ยนใจและปล่อยให้พี่เขยได้สร้างความประทับใจให้แก่น้องสาวบ้างก็ดี
ทางด้านพวกอิจิโกะที่สิ้นแรงจากการต่อสู้กับกริมจอว์กำลังถูกอารันคาร์สามตนลุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บหนัก ในขณะที่อารันคาร์ในร่างปลดปล่อยดาบที่ว่ากำลังจะปลิดชีพอิจิโกะ เสียงของชายหนุ่มฟังแล้วดูเหนื่อยหน่ายก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะไว้เสียก่อน
"เจอพวกคุณทีไร ทำไมต้องมาเห็นคุณอยู่ในสภาพนี้ทุกทีเลยละครับคุณคุโรซากิ"
"หนอยแกเป็น..."
อารันคาร์ร่างคล้ายหมียังกล่าวไม่ทันจบ ร่างของมันก็แยกออกจากกันเป็นสองซีก เลือดสาดกระจายตรงจุดที่มันยืนอยู่ โดยมีชายหนุ่มในชุดยมทูตทับด้วยฮาโอริยืนสะบัดดาบสาดคาบเลือดลงสู่พื้นทรายด้วยท่าทีสบายๆ
"ดอนปาเช่ หนอยแกเจ้ายมทูต"
อารันคาร์อีกตนหนึ่งพุ่งเข้ามาหาราเซ็ตสึ ชายหนุ่มถอนหายใจ ย่างเท้าเดินหน้าอย่างช้าๆ พอเข้าประชิดตัวดาบก็ถูกเหวี่ยงออกไปด้วยความเร็วที่ใครก็มองไม่เห็น วิช อารันคาร์ที่เข้ามาโจมตีเขาเมื่อครู่ก้าวเท้าไปสองถึงสามก้าวก่อนที่ช่วงท้องจะมีเส้นระนาบที่เนียนกริบ ร่างส่วนบนของมันแยกออกและล่วงหล่นลงสู่พื้นโดยไม่มีเลือดไหลออกมาสักหยุด
"คุณคุโรกิ นี่นาย ตัวจริงหรอเนี่ย?"
"ตัวจริงเสียงจริงเลยละผมน่ะ หรือว่าคุณคุโรซากิจะถูกอัดจนสติฟั่นเฟือนไปแล้วครับเนี่ย"
"มันจะมากเกินไปแล้ว อย่ามาเมินเฉยกันนะ!"
อารันคาร์ร่างครึ่งคนครึ่งหมูป่ายักษ์ที่กำลังใช้หมัดปลิดชีพอิจิโกะ ละความสนใจจากอิจิโกะและปล่อยหมัดของมันมาที่เขาแทน ตอนนี้ราเซ็ตสึไม่ได้มีความปราณีเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป ทันทีที่เขาเข้าประชิดตัวอได้ดาบสีดำในมือก็วาดตัดผ่าร่างของอีกฝ่ายเป็นสี่ส่วน
"ท่านนอยโทร่า อะ เหื้ออออ~~~~"
ร่างของอารันคาร์หมูป่าแยกออกเป็นสี่ส่วน ทำให้อารันคาร์ผู้เหลือตัวคนเดียวซึ่งชายร่างผอมกระหร่องถืออาวุธคล้ายจันทร์เสี้ยวสองอันติดกันกรีดร้องออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว เจ้าหมอนี่คือเอสปาด้าหมายเลข 5 นอยโทร่า จิลก้า
"เทสล่าาาา ! หนอยแน่แกมันเจ้าคนที่เด็ดหัวยามี่ในตอนนั้นสินะ"
"ถ้าใช่แล้วมันทำไมหรอครับ ?"
"มันก็ดีน่ะสิ เพราะฉันน่ะอยากเจอแก อยากฆ่าแกมานานแล้ว!"
"เดี๋ยวก่อนสิคุณคุโรกิ ไม่ใช่ว่าสิบหน่วยพิทักษ์วางมือจากเรื่องนี้ไปแล้วหรอกหรอ ?"
อิจิโกะอ้าปากถามด้วยความสงสัย ซึ่งราเซ็ตสึก็ไม่ได้ตอบแต่ใช้ก้าวพริบตารวบร่างที่สะบักสะบอมของอีกฝ่ายและเคลื่อนไหวไปหาอิโนะอุเอะโดยพาทั้งสองไปอยู่ยังจุดปลอดภัย
"เรื่องนี้เอาไว้ค่อยคุยกันนะครับ"
"เดี๋ยวก่อนค่ะคุณคุโรกิ ขอร้องละค่ะช่วยพาเนลจังมาที่นี่ด้วยได้หรือเปล่าคะ ?"
"เนลจัง ?"
"เด็กคนนั้นค่ะ"
ใช้สายตามองตามนิ้วที่อิโนะอุเอะชี้ไปชายหนุ่มก็พยักหน้าเพียงพริบตาเดียวเขาก็กลับมาพร้อมกับร่างน้อยๆของเด็กหญิงอารันคาร์ เขาส่งเด็กหญิงที่หมดสติให้อีกฝ่ายก่อนจะเคลื่อนที่กลับมาอยู่ตรงหน้าของนอยโทร่าด้วยเวลาเพียงหนึ่งลมหายใจ
"หนอยแก ในเวลาแบบนี้ยังมัวสนใจสวะอื่นอีกหรือไง จะหยามหน้ากันเกินไปแล้วไอ้ยมทูต!"
"หยามหรอครับ ไม่เลยเพราะคุณไม่ได้อยู่ในสายตาของผมตั้งแต่แรกแล้วต่างหาก"
"แกว่ายังไงนะ แกบอกว่าฉันนอยโทร่าคนนี้ไม่ได้อยู่ในสายตาของแกอย่างนั้นสินะ ?"
นอยโทร่าถามด้วยความโมโห แต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้สนใจ ราเซ็ตสึกวาดตามองโดยรอบก็พบว่าเจ้าไอเซ็นยังไม่ได้จากไป แถมพวกเอสปาด้าในระดับสี่ขึ้นไปก็ยังอยู่ที่ลาส์นอร์เช่ โดยเฉพาะไอ้กลุ่มแรงดันวิญญาณที่มากกว่ากลุ่มเอสปาด้า
'แรงดันวิญญาณนี่ของเอสคิวโด้สินะ น่าสนใจจริงๆ จะว่าไปยัยแก่นั่นไม่อยู่แฮะหรือจะไม่ร่วมสงครามไร้สาระนี่ ?'
"อย่าเมินกันนะโว้ยยย!!"
ดาบพิลึกในมือของนอยโทร่าฟาดฟันลงมาที่ราเซ็ตสึหมายสังหารเขาในดาบเดียว ทว่าชายหนุ่มกลับทำเพียงชูมือและใช้มันคว้าจับหยุดดาบพิลึกที่ฟาดลงมาอย่างง่ายดาย ตู้มมมม แรงปะทะของทั้งสองทำให้บริเวณโดยรอบเกิดแรงอัดอากาศแสนรุนแรงขึ้น นอยโทร่าที่เห็นว่าดาบของตนเองถูกหยุดไว้ด้วยมือข้างเดียวก็ช็อคในทันที
"เป็นไปไม่ได้ แกทำแบบนี้ได้ยังไงกัน ไม่มีทาง ฉันแข็งแกร่งที่สุด ฉันแข็งแกร่งที่สุดดดดด!"
"คุณนี่ น่ารำคาญจังเลยนะ"
เสียงเย็นเฉียบดังออกมาจากปากชายหนุ่ม ดาบดำที่อาบเร้นพลังวิญญญาณสีดำในมือของราเซ็ตสึถูกวาดออกไปอย่างไร้เรื่องราว คมดาบตัดผ่านลำคอของอีกฝ่ายอย่างง่ายดายราวกับหั่นเนย ดวงตาของนอยโทร่าเบิกกว้างหัวของมันลอยเคว้งอยู่บนอากาศก่อนจะล่วงหล่นกลิ้งลงมาอยู่แทบเท้าของราเซ็ตสึ
ฟู่ววววว เลือดพุ่งสาดออกมาจากร่างไร้ศีรษะ ร่างผอมแห้งไร้ชีวิตค่อยๆล้มลง นอนกระตุกไปมา ชายหนุ่มเหลือบมองศพของอีกฝ่ายก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่ายความแข็งแกร่งของฮิเอโร่ของเหล่าอารันคาร์บางราวกระดาษ มันเทียบกับเรย์น่าไม่ได้แม้แต่น้อย
"ดูท่าผมคงคาดหวังกับผิวฮิเอโร่ของพวกคุณเหล่าเอสปาด้ามากเกินไป โอ้ไม่สิผมคงจะเคยชินกับฮิเอโร่ของยัยแก่นั่นมากกว่า"
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

คุโรกิเคยได้ยินสุภาษิตว่าถ้าบ่นถึง 👻 แล้ว 👻 จะมาน้าาาเดี๋ยวเจ้แกจะโผล่มางานเข้าแน่นอนนะเออ......
บ่นออกเสียงปุ๊บ แหวกอากาสมาโผล่ตรงหน้าเลย.....
ผม:ยายแก่ละ//แอ๊ก!!!
เรย์น่า:ใครยายฟะเขาเรียกสวยตลอดกาลตังหาก