ตอนที่ 40 : ตอนที่ 40
ฮอลโลว์ต้นกำเนิดเป็นฮอลโลว์ที่มีพลังแฝงชนิดพิเศษคล้ายราชันย์วิญญาณที่มี พลังแห่งการดำลงอยู่ของโลก ซึ่งทางฮอลโลว์เองก็มีการดำลงอยู่เช่นกันจึงทำให้มันมีความแข็งแกร่งและตัวใหญ่เสียยิ่งกว่าเมนอสในยุคปัจจุบันหลายร้อยเท่า
ก่อนยุคแยกสามโลกเป็นเอกเทศเหมือนยุคปัจจุบัน ราชันย์วิญญาณกับ 5 ตระกูลขุนนางชั้นสูงยังต้องร่วมมือกันต่อสู้กับอีกฝ่ายเพื่อแย่งชิงการปกครองและแบ่งโลกออกเป็นสามช่วง แม้สุดท้ายจะได้รับชัยชนะ แต่ทั้งหกก็ได้รับบาดเจ็บหนัก ส่วนตนที่สองเขาไม่มีข้อมูลเพราะมันไม่มีในหนังสือห้องสมุด
'เจอแจ็คพอตเข้าให้แล้วสิ'
"ฮอลโลว์ต้นกำเนิดแบบคุณ ทำไมถึงยอมเป็นลูกน้องของไอเซ็นละครับ ?"
"เจ้ากำลังเข้าใจผิดแล้วยมทูต ข้าไม่ใช่ลูกสำหรับข้าชายคนนั้นก็เป็นคู่ค้าด้านธุรกิจก็เท่านั้น"
"ธุรกิจหรอ ธุรกิจอะไรกันครับ ?"
"ถามมากจังนะเจ้าน่ะ เอาละคุยกันมากพอแล้ว ช่วยทำให้ข้าตื่นเต้นกว่านี้ทีเถอะคุโรกิ ราเซ็ตสึ!"
มองหญิงสาวที่เต็มไปด้วยความต้องการที่จะต่อสู้ชายหนุ่มก็เกาหัวอย่างช่วยไม่ได้ สรุปแล้วยัยแก่ในยุคต้นกำเนิดก็แค่เบื่อหน่ายและอยากคลายเครียดด้วยการต่อสู้เองไม่ใช่หรอ
"ผมจะสู้ด้วยก็ได้ครับ แต่ก่อนที่พวกเราจะสู้กันต้องมีข้อแลกเปลี่ยนกันสักหน่อย"
"ก็ย่อมได้ว่ามาสิถึงข้อเสนอของเจ้า"
ราเซ็ตสึเกาหัวและกล่าวเสนอการต่อสู้โดยเขาจะปลดปล่อยบังไค ทางหญิงสาวตอบตกลงว่างว่าง่ายเขาจึงเริ่มถามถึงจำนวนอารันคาร์ในระดับวาสโทรเด้ที่ไอเซ็นรับเป็นลูกน้อง
หลังจากได้รับข้อมูลจากอีกฝ่ายเขาก็ต้องปวดหัว เนื่องจากปัจจุบันไอเซ็นมีเรย์น่าคอยช่วยเหลือทำการแลกเปลี่ยนในด้านธรุกิจ ทำให้ปัจจุบันในลาส์นอเช่มีอารันคาร์ที่ถูกสร้างจากวาสโทรเด้ ด้วยกันถึง 7 ตน
จากอารันคาร์ธรรมชาติที่มีอยู่แล้ว 2 ตน แน่นอนว่ากลุ่มเอสปาด้า(ดาบ) 10 อันดับแรกยังคงเดิมตามต้นฉบับ มีเพิ่มมาคือกลุ่มเอสคิวโด้(โล่) อีก 5 อันดับ สามอันดับแรกเป็นฮอลโลว์ที่เกิดจากวาสโทรเด้ ทั้งยังมีอารันคาร์ลูกกระจ๊อกอีกเกือบสามสิบตนในสังกัดของพวกเอสปาด้าและเอสคิวโด้
"เอาละข้าบอกข้อมูลแก่เจ้าหมดแล้ว ทีนี้จงปลดปล่อยบังไคจากดาบดำเล่มนั้นแล้วมาสู้กับข้า"
"เล่มนี้หรอครับ...เห็นทีคงจะไม่ได้"
"เจ้ากำลังผิดข้อตกลงใช่ไหม ?"
เห็นท่าทีไม่พอใจของอารันคาร์หญิงที่อายุไม่สาว ก็ไม่รู้จะทำเช่นไร เหตุผลที่เขาไม่อยากเปิดเผยสึคุโยะจังมันก็เรื่องหนึ่ง แต่ปัญหาหลักๆ ก็คือขั้นบังไคของเขา ตัวเขาในตอนนี้ยังควบคุมมันไม่ได้ พลังของดาบมีมากเกินไป ถ้าให้ใช้ก็คงเป็นบังไคในรูปแบบหนึ่งในสี่ส่วน ระดับมันก็อยู่ในระดับเดียวกับอาเมเทราสึในขั้นบังไคที่ยังไม่ได้ใช้รีเซอร์เรคชั่น ใช้ไปก็ไม่มีประโยชน์
"ขอโทษนะครับ แต่ยังไงก็ไม่ได้ครับ"
"รู้หรือเปล่าว่าข้าเกลียด พวกที่ชอบผิดข้อตกลงเป็นที่สุด ในเมื่อเจ้าเลือกที่จะผิดสัญญาก็อย่าหาว่าข้าใจร้ายเลยนะยมทูต"
คลื่นนนน~
ชายหนุ่มอยากจะร้องไห้ เมื่อเห็นอีกฝ่ายปลดปล่อยแรงดันวิญญาณที่แสนน่ากลัวออกมาข่มขู่ เขารีบปลดปล่อยบังไคและเข้าโรมรันต่อสู้กับอีกฝ่าย ในขณะที่ทั้งสองกำลังสู้กันอย่างไม่มีใครยอมใครจนสามวันผ่านไป
ที่โลกมนุษย์และโซลโซไซตี้ หลังจบศึกเบาท์ผู้กลืนวิญญาณได้เพียงไม่กี่วัน มันก็เริ่มเข้าปฐมบทเผชิญหน้าอารันคาร์ ฮินาโมริและอิจิโนเสะยังคงอยู่ที่โลกมนุษย์ร้านอุราฮาระโดยรอคอยการกลับมาของราเซ็ตสึ
อีกด้านคนรักของราเซ็ตสึ คุจิกิลูเคียปัจจุบันได้รับเลื่อนตำแหน่งเป็นรองหัวหน้าหน่วยที่ 13 คนใหม่อย่างเป็นทางการ ด้วยพลังของเธอในปัจจุบันและผลงานการสังหารเบาท์ไปหนึ่งตนทำให้เธอได้รับการเสนอชื่อจากหัวหน้าอุคิทาเกะ
แม้เธอจะเลื่อนตำแหน่ง แต่การหายตัวไปของราเซ็ตสึทำให้เธอสงบใจไม่ได้เลย แม้จะถามใครก็ไม่มีใครรู้ว่าคนรักของเธอหายไปไหน ไม่สิขนาดตัวเธอที่เป็นคนรักของเขายังไม่รู้แล้วคนอื่นจะมารู้ได้ยังไง
"กลับมาเมื่อไหร่ข้าจะอัดเจ้าให้เละเลยคอยดู"
และในขณะลูเคียหมายหัวราเซ็ตสึและเซเรย์เทย์ที่กำลังซ่อมแซมสำนักงานอาคารที่พัก จากศึกการต่อสู้กับพวกเบาท์ ในยามค่ำคืนช่วงที่อิจิโกะกำลังได้รับคำเชิญจากพวกฮิราโกะเข้ากลุ่มไวเซิร์ดเป็นในครั้งแรก
คุโรซากิ อิชชินพ่อของอิจิโกะก็ได้กลับมาเป็นยมทูตอย่างสมบูรณ์แม้วิชาดาบและพลังจะทื่อลงกว่าก่อน ทว่าระดับหัวหน้าหน่วยก็ยังคงเป็นหัวหน้าหน่วยอยู่ดี เขาได้พบกับศัตรูตัวฉกาจที่เป็นหนึ่งในผู้สังหารภรรยาของเขาแกรนฟิชเชอร์
การต่อสู้ไม่ได้หนักหน่วงเพราะมันจบในชั่วพริบตา อิชชินสังหารแกรนฟิชเชอร์และแก้แค้นให้มาซากิได้ในที่สุด อุราฮาระโผล่เข้ามาและพูดคุยกับอิชชินอย่างสนิทสนม แต่บทพูดคุยเริ่มตึงเครียดโดยเฉพาะเรื่องของไอเซ็น
"จะเอายังไงกันดี"
"คงต้องทำอะไรสักอย่างแหละครับ"
ครืดดดด
อุราฮาระและอิชชินต่างขมวดคิ้วทันที ทั้งสองหันไปมองที่ด้านหลังและพบว่าอากาศกำลังแตกตัวออกเป็นรอยฟัน ไม่นานก็มีบางสิ่งพุ่งดิ่งออกมาดั่งจรวดปะทะกับพื้นถนนจนเกิดเสียงดัง ตู้มมมม!
เสียงดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วทั้งบริเวณ ด้านในรอยแยกที่คล้ายฟันมีหญิงสาวถือหอกยาวราวคฑาวิเศษมีบาดแผลถลอกเล็กน้อยตามร่างกาย ผมสีกรีนไลท์มีเขาคล้ายสัตว์ร้ายใส่ชุดคล้ายยมทูตแต่เป็นสีขาว
เธอยืนมองสิ่งที่พุ่งลงไปชั่วครู่หนึ่ง ก่อนที่เธอจะตัดสินใจหันหลังเดินกลับไป รอยแยกค่อยๆเริ่มปิดตัวลงทำให้อุราฮาระและอิชชินโล่งใจ สัมผัสถึงแรงดันวิญญาณของหญิงสาวคนเมื่อครู่ น่ากลัวเกินกว่าที่คาดไว้เสียอีก
"อุราฮาระเมื่อกี้นี้มัน"
"ไม่น่าเชื่อ เขาทำสำเร็จได้ขนาดนั้นเลยหรอครับเนี่ย แต่จะว่าไปสิ่งที่พุ่งลงมาเมื่อกี้มันดูคุ้นๆนะครับ!!"
อุราฮาระว่าจบก็เดินไปดูยังจุดที่มีบางสิ่งพุ่งลงมา และสิ่งที่เขาเห็นก็คือร่างของชายหนุ่มผมขาวในชุดชิฮาคุโชสวมทับด้วยฮาโอริสีขาวที่ขาดจนสภาพยิ่งกว่าขอทาน ร่างที่ถูกอัดจนมอมแมมร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผลสาหัส แขนข้างซ้ายกับขาขวาถูกบิดเป็นเกลียว ดูแล้วน่าสงสารจับใจ
"เอ๋คุณคุโรกิ เป็นยังไงบ้างครับ!!"
"คุณอุราฮาระหรอครับ เฮ้ออ~โล่งอกนึกว่าจะไม่รอดซะแล้วยัยแก่อำมหิตนั่นน่ากลัวชะมัดเลย เอ๊ะ..."
'ไม่คิดเลยว่าเขาจะอยู่ที่นี่ด้วย...'
ราเซ็ตสึเหล่มองไปทางชายวัยกลางคนผมดำก็แอบสะดุ้งตกใจก่อนจะรีบหันหน้าหนีอีกฝ่ายแบบทันที โดยไม่ให้อีกฝ่ายได้สังเกตุเห็นใบหน้าของตัวเอง
"คุณคุโรกิ... อ่อ~จะว่าไปยัยแก่ที่ว่าคือคุณผู้หญิงอารันคาร์คนเมื่อครู่น่ะหรอครับ"
"คะ ครับเธอคนนั้นแหละ"
"เอาละก่อนอื่นไปทำแผลที่ร้านผมก่อนเถอะครับ แยกย้ายกันก่อนไว้เจอกันใหม่นะครับคุณอิชชิน"
ราเซ็ตสึพยักหน้าและรู้สึกขอบคุณอุราฮาระมากที่เปิดทางหนีทีไล่ให้เขา คงไม่ดีถ้าอิชชินจะเห็นเขา ตอนนี้เขาต้องทนกับบาดแผลไปก่อน การใช้อาเมเทราสึต่อสู้กับอีกฝ่ายที่ฮูเอโกมุนโด้ซึ่งไร้ดวงอาทิตย์ ทำให้เขาเป็นฝ่ายเสียเปรียบมาก ไม่มีจุดเพิ่มพลังด้วยแสง เสียการฟื้นฟูด้วยแสง
ทั้งนี้ตัวเขายังเสียแรงดันวิญญาณส่วนใหญ่ไปกับการต่อสู้ไร้สาระกับเรย์ตลอดสามวันเกือบสามคืน ปัจจุบันแค่เดินยังลำบาก ตัวเขาแทบจะไม่มีแรงเหลือแล้ว โชคยังดีที่ในการต่อสู้เขาสามารถบีบบังคับให้อีกฝ่ายใช้รีเซอร์เรคชั่นได้ ถึงสุดท้ายเรย์จะว่าเธอยังเหลือการปลดปล่อยอีกสองขั้นก็ตาม
อุราฮาระรีบเข้ามาพยุงราเซ็ตสึที่เต็มไปด้วยบาดแผล และพาเขารีบกลับไปที่ร้านเพื่อทำการรักษาอย่างเร่งด่วน ทันที่ที่มาถึงฮินาโมริและอิจิโนเสะที่เห็นสภาพชายหนุ่มที่บาดเจ็บสาหัสก็ถึงกับพูดไม่ออก ตลอดหลายวันที่ผ่านเขาไปทำอะไรกันแน่!
"ท่านหัวหน้าคะ..."
"ถอยออกไปก่อนครับ คุณคุโรกิต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน คุณเท็ตไซฝากเรื่องนี้ด้วยนะครับ"
"เข้าใจแล้ว เถ้าแก่"
ร่างใหญ่สวมผ้ากันเปื้อนสีน้ำเงินแบกร่างที่หมดสติของราเซ็ตสึเข้าไปในห้องและเริ่มทำการรักษาอย่างเร่งด่วน โดยมีฮินาโมริที่ค่อนข้างเชี่ยวชาญวิถีมารคอยเป็นลูกมือมีอิจิโนเสะ อุรูรุและจินตะคอยเตรียมอุปกรณ์
ตลอดทั้งคืนทุกคนวิ่งวุ่นเพื่อรักษาราเซ็ตสึจนถึงเช้าวันใหม่ อุราฮาระก็ยกร่างที่เต็มไปด้วยบาดแผลไปผึ่งแดดบนหลังคาของร้าน บาดแผลที่ชายหนุ่มได้รับเริ่มฟื้นสภาพด้วยความเร็วสูง แขนที่บิดเป็นเกลียวถูกจัดใหม่ด้วยเทคนิคของเท็ตไซ ที่เหลือก็แค่ฟื้นพลังวิญญาณ
ตั้งแต่เช้าจนถึงครึ่งวันชายหนุ่มผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก็กลับสู่สภาพไร้บาดแผลหลังได้สติ เขาก็ถอนการใช้บังไคที่กินแรงดันวิญญาณราวกับเทน้ำออก แม้จะหายแล้วแต่เรี่ยวแรงยังไม่ค่อยฟื้นเต็มที่ สิ่งที่เขาทำได้ก็คือกานนอนอาบแสงอาทิตย์เพื่อฟื้นพลังวิญญาณ
"ฟื้นแล้วหรอครับ อยากทานข้าวต้มร้อนๆ สักหน่อยไหมครับท่านหัวหน้า ?"
"โอ้ขอบใจนะอิจิโนเสะ"
คลื่นนนนนนน~
ดวงตาของราเซ็ตสึหรี่ลงทันที แรงดันวิญญาณอันบ้าคลังมากมายมหาศาลแผ่ออกมาจากจุดที่ไม่ไกลจากที่นี่ เขากลับมาได้ไม่ถึงวัน ก็ได้พบกับปฐมบทระหว่างยมทูตและไอเซ็นที่กำลังเริ่มต้นกันอย่างเป็นทางการ สีหน้าของชายหนุ่มค่อนข้างเซ็งแซ่
ตัวเขาพึ่งหลุดออกมาจากนรกของอารันคาร์ต้นกำเนิดแบบเรย์น่าได้ไม่ถึงวัน ยังต้องมาเจอกับอารันคาร์ของไอเซ็นอีกละลอก ดูก็รู้ว่านี่เป็นแผนของเจ้าหมอนั่นเพราะจุดที่เขาสัมผัสได้มีอารันคาร์ด้วยกันถึงสามตน
'ขอให้เอ็งตาย ให้โครตเง้าเอ็งตาย ไอเซ็น!!'
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ปลาหมอตายเพราะปากมันตายก็ยังอ้าปากเป็นเพราะว่าปากมันเสียคุโรกิอยากเป็นแบบปลาหมอหรือไงคร้าบ
ท่าเจ๊แกยังอยู่นี่คงปลดอีกขั้นลงมากระทืบพี่แกแล้วละ
ปล.เอ็งเป็นอุลตร้าแมนรึ ต้องชาร์จพลังด้วยแสงอาทิตย์นะ
เหมือนสามีโดนจับโยนออกจากบ้านเลย5555