ตอนที่ 24 : ตอนที่ 24
"จะว่าไปต้องถูกพันธนาการให้กางแขนไว้แบบนั้นรู้เมื้อยบ้างหรือเปล่าครับ"
ราเซ็ตสึเดินมายืนบนคานโซเคียคุและก้มถามลูเคียโดยยังไม่คิดจะปลดสิ่งที่พันธนาการตัวเธอออก ทางหญิงสาวที่ได้ยินคำถามก็มุ่ยหน้า เรื่องแบบนี้เจ้าบ้านี่ก็น่าจะรู้อยู่แล้วจะถามทำไม
เห็นหญิงสาวไม่ตอบชายหนุ่มก็แบบเซ็งไม่น้อย แม่สาวจอมเฮี้ยวไร้อารมณ์ขันเสียแล้ว แบบนี้แกล้งไปก็คงไม่สนุก สะบัดดาบในมือคานโซเคียคุที่อัดแน่นไปด้วยพลังวิญญาณก็ถูกทำลายไปส่วนหนึ่งในชั่วพริบตา เขาเดินเหยียบอากาศไปอุ้มร่างหญิงสาวที่หลุดจากพันธนาการ
"แล้วเจ้าจะทำยังไงต่อ ต่อให้เจ้าช่วยข้าได้แล้วพวกเราจะหลบหนีไปอยู่ที่ไหนได้ ?"
"อยู่ที่นี่นั่นแหละครับ อันที่จริงคำสั่งประหารของคุณเป็นเพียงคำสั่งเท็จ เพราะปราชญ์ทั้ง 40 รวมถึง 6 ตุลาการต่างก็เสียชีวิตไปตั้งนานแล้ว"
"มะ หมายความว่ายังไง"
"ก็หมายความว่ามีกบฏตัวจริง พยายามสร้างเรื่องวุ่นวายอยู่เบื้องหลังยังไงละครับ เอาเถอะคงอีกสักพักที่เขาจะเผยตัว และเป้าหมายก็คือคุจิกิ ลูเคีย คุณนั่นแหละครับ"
ชายหนุ่มหย่อนก้นนั่งลงบนคานโซเคียคุที่เหลืออยู่เพียงเศษเสี้ยวและค่อยๆวางร่างเล็กของหญิงสาวไว้ข้างๆ แม้หญิงสาวจะอยากถาม แต่สายตาของเธอในตอนนี้กำลังตกไปอยู่ที่การต่อสู้ของอิจิโกะและหัวหน้าเบียคุยะ
"เจ้าเข้าไปช่วยอิจิโกะหน่อยได้หรือเปล่า ?"
"อย่ากังวลนักเลย คุณคุโรซากิในตอนนี้แตกต่างจากที่คุณคิดโดยสิ้นเชิง สิ่งที่คุณควรสนใจในตอนนี้ก็คือคุณจะมอบอะไรให้ผมเป็นรางวัลต่างหาก นี่ผมอุส่ายอมเป็นกบฏผู้ชั่วร้ายเชียวนะครับ"
"...อ่อได้สิ เดี๋ยวข้าจะมอบรางวัลสุดพิเศษให้เจ้าทันที"
ปั้งงงง
เสียงเงียบลงฝ่าเท้าก็ทาบเข้าที่ใบหน้าของชายหนุ่มแบบทันที นี่แหละคือรางวัลสุดพิเศษของเธอที่ได้มอบให้อีกฝ่าย สายตาใช้มองไปยังร่างของชายหนุ่มที่พุ่งดิ่งลงไปถึงข้างล่างและเผยรอยยิ้มทันที
ตู้มมมม!
เสียงกระแทกเรียกความสนใจของทุกคนทันที กระทั่งหัวหน้าเบียคุยะและอิจิโกะที่กำลังซัดกันนัวยังหยุดกันชั่วขณะหนึ่ง ไม่นานพวกเขาก็เห็นชายหนุ่มที่คุ้นเคยกำลังลุกขึ้นสีหน้าของอีกฝ่ายคล้ายจะหัวเราะหรือร้องไห้ก็ไม่อาจทราบได้
"คุณคุจิกิ นี่ถ้าผมเป็นคนธรรมดา เมื่อกี้นี้ผมตายหองเลยนะครับ"
"ข้ารู้ว่าเจ้าหนังหนา ตกลงไปด้วยความสูงแค่นี้ยังไม่ระคายผิวหนังเจ้าเลยด้วยซ้ำ"
"โอ้ยมันเจ็บในกระดองใจ คุณนี่ใจร้ายจริงๆ"
กล่าวโดยปัดฝุ่นผงตามเสื้อผ้า ถ้าไม่นับรอยเท้าบนหน้าตามร่างกายของเขาก็แทบไม่มีบาดแผลให้เห็น สายตามองไปที่อิจิโกและเบียคุยะก็แบมือเชิญให้ทั้งสองต่อสู้ต่อไป
"เอาเลยครับ เชิญต่อสู้ได้ตามสบาย"
ก็เอ็งเล่นดิ่งลงมาขัดจังหวะกันแบบนี้ใจที่จะสู้เมื่อครู่ก็หายไปแทบจะหมดอยู่แล้ว ทั้งสองมองจิกมาที่ราเซ็ตสึอยู่ครู่หนึ่งและเริ่มกลับไปโรมรันฟันแทงกันต่อจะว่าไปเจ้าอิจิโกะเนี่ยนับว่าเป็นอัจฉริยะตัวจริงเลย น่าเสียดายที่สุดท้ายก็ยังเทียบประสบการณ์กับเบียคุยะไม่ได้
ตามต้นฉบับเหมือนจะชนะ แต่อันที่จริงตอนนั้นเบียคุยะมีใจสู้ไม่เต็มร้อย ใจหนึ่งก็อยากช่วยลูเคียที่เป็นน้องสาว แต่เนื่องจากคำว่ากฏและตระกูลมันค้ำคอ เขาเคยแหกกฏเพื่อภรรยาที่รักไปแล้วและสัญญาว่าจะไม่แหกกฏอีก นี่ทำให้เบียคุยะต้องเลือกที่จะเมินเฉยต่อน้องสาว จึงทำให้เบียคุยะพ่ายแพ้ ลองให้สู้กันแบบกายพร้อมใจพร้อมดูสิ อิจิโกะในตอนนี้มิอาจเทียบชั้นกับเบียคุยะได้เลย
ราเซ็ตสึขึ้นไปรับลูเคียจากคานโซเคียคุและให้อีกฝ่ายได้ชมการต่อสู้ระหว่างพี่ชายและเพื่อนหนุ่ม ทั้งสองสู้สิ่งที่ตนเองเชื่อมั่น คนหนึ่งสู้กับกฏของโซลโซไซตี้เพื่อช่วยเหลือเพื่อนคนสำคัญ อีกคนต่อสู้เพื่อปกป้องเซเรย์เทย์แม้จะต้องสละสิ่งสำคัญสุดท้ายของภรรยาไปก็ตาม
"ทำไมเจ้าถึงยุโยงให้ทั้งสองสู้กันราเซ็ตสึ ?"
"ไม่เลย การต่อสู้ของพวกเขาทั้งสองในตอนนี้มันไม่ได้ทำเพื่อช่วยเหลือคุณเท่านั้น แต่เพื่อการเปลี่ยนแปลงของโซลโซไซตี้ คนหนึ่งพยายามจะรักษากฏ ส่วนอีกคนพยายามทำลายกฏ..."
"..."
ลูเคียมองการต่อสู้ที่เพิ่มความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เบียคุยะเปิดเผยบังไคเซ็มบงซากุระ คาเงโยชิ(เงาหาญซากุระพันดอก)เล่นงานอิจิโกะจนอ่วมไปทั้งตัว และภาพต่อมาก็ทำให้ลูเคียและทุกคนที่นี่ต่างก็อึ้งไปตามๆกันก็คือเข้าหมอนี่ก็ใช้บังไคได้เช่นกัน
'แม้จะเป็นเพียงของปลอม แต่ก็ยังนับว่าสุดยอดจริงๆ'
ดาบฟันวิญญาณของอิจิโกะเป็นเพียงของปลอมที่ถูกแทรกซึมด้วยพลังควินซี่จากทางสายเลือดฝั่งแม่ พลังควินซี่แท้จริงแล้วไม่ได้เป็นตัวช่วยอิจิโกะเลยด้วยซ้ำ มันเป็นตัวระงับความแข็งแกร่งที่แท้จริงของอิจิโกะเสียมากกว่า
แค่พลังจากสายเลือดขุนนางตระกูลชิบะก็ทำให้อิจิโกะมีแรงดันวิญญาณที่มากกว่าใคร แถมยังมีไวท์ฮอลโลว์ ที่ถูกสร้างโดยไอเซ็นที่ใช้ชีวิตยมทูตนับร้อยในการสร้างมันขึ้นมาทำให้ฮอลโลว์ตนนั้นมีความแข็งแกร่งและความสามารถของยมทูต
สุดท้ายผลการดวลของทั้งคู่ก็จบลง ผู้ชนะก็คืออิจิโกะ แม้อาจจะไม่ยุติธรรมในเรื่องที่เจ้าไวท์ออกมาอาละวาดชั่วครู่หนึ่ง แต่ความพ่ายแพ้ก็ถือว่าเป็นความพ่ายแพ้ เบียคุยะจากไปพร้อมกับเร็นจิที่มีความรู้สึกผิดบนใบหน้า หลังทั้งคู่จากไปทางอิจิโกะที่ฝืนยืนมานานมนที่สุดก็ล้มลง
"ท่านพี่..."
ภารในสิ่งที่คนแต่ละคนต้องแบกรับมันแตกกัน ทางหัวหน้าเบียคุยะก็มีตระกูลของเขาและยมทูตภายในเซเรย์เทย์ทั้งหมด เรื่องนี้ลูเคียเข้าใจดี เธอเข้าใจตั้งแต่แรกแล้ว ทางราเซ็ตสึจ้องมองที่ลูเคียผู้กำลังเศร้าและหันไปสนใจกลุ่มคนที่มาใหม่พวกเขาคือเพื่อนของลูเคียนำโดยอิชิดะ อุริว ซาโดะ ยาสึโทระ อิโนะอุเอะ โอริฮิเมะและสุดท้ายชิบะ กันจู
"ไม่ไปหาพวกเขาหน่อยหรอครับ พวกเขาฝ่าฟันมาเพื่อคุณเลยนะ"
"อื้ม ขอบใจเจ้ามากจริงๆ ราเซ็ตสึ"
"อ่อครับ"
เห็นลูเคียเดินไปหาพวกอิจิโกะเขาก็ยิ้มเล็กน้อย ในขณะที่กำลังสนใจลูเคียที่กำลังพูดคุยกับพวกอิจิโกะ เสียงทักทายแสนคุ้นเคยก็ดังมาขัดจังหวะเขาไว้เสียก่อน
"เอ๋~ราจัง มาอยู่ที่นี่นี่เอง!"
"เป็นยังไงมายังไงครับเนี่ยรองหัวหน้ายาจิรุ"
"ฉันมาช่วยพวกอิจินะ"
ราเซ็ตสึพยักหน้า แต่ไม่นานดวงตาที่สงบก็แหลมคมอย่างฉับพลัน เสียงปรบมือดังขึ้นมาไม่ไกลจากจุดที่พวกเขาอยู่ ชายสามคนที่สวมฮาโอริสีขาวค่อยๆเดินย่างกายเข้ามาอย่างสงบ นำทีมโดยชายผมน้ำตาลสวมแว่นกรอบดำที่กำลังปรบมือด้วยรอยยิ้ม
"อย่างที่คาดคิดเอาไว้ เธอเป็นตัวตนที่เป็นปัญหากับแผนการของฉันมากที่สุด ตอนแรกฉันก็ไม่ค่อยเอะใจเท่าไหร่ จนกระทั่งอุโนะฮานะ เร็ทสึบอกว่าเป็นเธอเองที่ขอให้คุณอุโนะฮาระเข้าตรวจสอบวังกลาง 46 ห้อง"
"งั้นหรอครับแต่ผมก็พอจะเดาได้อยู่แล้วละครับว่าคุณต้องมาที่นี่ หัวหน้าไอเซ็น"
"คงจะรู้ถึงเรื่องนั้นอยู่แล้วสินะ ก็ดีจงทิ้งคุจิกิลูเคียเอาไว้ แล้วถอยไปซะ"
ชึบ
"เห็นทีว่าคงจะไม่ได้นะครับ หัวหน้าไอเซ็น"
ดาบที่เอวถูกชักออกมา ดวงตาของชายหนุ่มที่เคยแหลมคมดุจคมดาบกลับแสดงความเจ้าเล่ห์ดุจจิ้งจอกแทน ทางไอเซ็นเองก็ยังคงยิ้มสายตาหันไปมองที่ลูเคียซึ่งปัจจุบันมีอิจิโกะฝืนตัวลุกขึ้นมากันเอาไว้
ในขณะนั้นเองก็มีเสียงของฮิซาเนะผู้ส่งข้อความการกบฏของไอเซ็นและพรรคพวกส่งเข้ามาในหัวของพวกเขา แน่นอนว่าข้อความเหล่านี้ทั้งเหล่ารองหัวหน้าและเหล่าหัวหน้าหน่วยต่างก็รับข้อความดังกล่าวกันทุกคน
'ระบบการดำเนินการของที่นี่ช้าเกินไปไหม สนิ่มขึ้นกันแล้วหรือยังไง'
ราเซ็ตสึถอนหายใจ กว่าจะแจ้งเรื่องราวทั้งหมดได้ กว่าพวกหัวหน้าจะมารวมตัวก็คงใช้เวลานานเกินไป จนถึงเวลานั้นไอเซ็นคงเตรียมพร้อมและหลบหนีไปอย่างง่ายดาย แต่นั่นคือกรณีที่ไม่มีราเซ็ตสึอยู่!
"ว่ายังไงนะ ?"
"ขอปฏิเสธครับ ใครจะกล้าส่งสาวน้อยแสนน่ารักให้กับกลุ่มชายฉกรรจ์ที่ไม่น่าไว้วางใจละครับ"
ได้ยินคำตอบงินเตรียมจะชักดาบออกมา ทว่าไอเซ็นกลับห้ามเอาไว้เสียก่อน เจ้าตัวย่างเท้าก้าวเข้ามาอย่างช้าๆ ทางราเซ็ตสึเองก็ไม่หวั่นไหวและก้าวเท้าเดินไปหาไอเซ็นด้วยเช่นกัน
"ถ้าอย่างนั้นขอชมความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเธอหน่อยก็แล้วกันคุโรกิ ราเซ็ตสึ"
ได้ยินคำพูดของไอเซ็น เท้าที่ก้าวเดินของชายหนุ่มก็หยุดลงโดยพลัน ที่ริมฝีปากของเขาฉีกยิ้มออกมา จิตสังหารอันบริสุทธิ์แผ่ขยายออกมาอย่างบ้าคลั่งก่อตัวให้เห็นภาพของยักษ์สีดำ
"ก็ได้อยู่หรอกแต่อย่าตายก่อนที่จะได้ดูมันละครับหัวหน้าไอเซ็น"
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ก็ดีครับ ค้างดีครับ ขอบคุณครับ
ดับเบิ้ลชิไคจะเอาออกมาใช้ให้เห็นไหมน้ารอดูว่าคุโรกิจัดการดักฟายอย่างไอเช็นยังไง?
ไม่รู้ทำไมฉากดีโอกับโจทาโร่พุดขึ้นมาในหัว
.
.
.
.
.
ค้าง
เพราะค้าง
แค่ค้าง
ค้างโว้ยยย