ตอนที่ 13 : ตอนที่ 13
กว่าจะถึงเซเรย์เทย์ก็ใช้เวลาจนถึงเช้า ราเซ็ตสึและลูเคียแยกกันทันที แน่นอนว่าตลอดทางชายหนุ่มก็ยั่วโมโหแม่สาวสุดเฮี้ยวอยู่ตลอดทำให้ตัวช่วงบนและคอของเขาในปัจจุบันมีแต่รอยกัดของอีกฝ่าย
"บางทีลูเคียก็โหดร้ายเกินไป เธอเล่นเราเลือดซิบเลยแฮะ"
เขาส่องกระจกมองต้นคอที่มีรอยช้ำเลือด แต่ก็ดีอยู่อย่างเพราะร่างกายของเขาได้สัมผัสถึงความนุ่มนิ่มของริมฝีปากของลูเคีย แม้จะได้สัมผัสแบบไม่ปกติเหมือนคนปกติก็เถอะแต่ก็ดีรู้สึกดีไปอีกแบบ
ชายหนุ่มถกยูกาตะปิดรอยกัดที่คอ ก่อนจะเดินเข้าไปยังห้องน้ำเพื่อชำระกายก่อนจะนอน เนื่องจากใช้เวลาเดินทางไปกลับหนึ่งวันเต็มๆ จึงค่อนข้างเหนื่อยล้าเขาจึงอยากจะพักและนอนหลับไปสักตื่น
ชายหนุ่มหลับไปกระทั่งบ่าย กระทั่งมีเสียงเคาะประตูที่หน้าบ้านชายหนุ่มถึงลุกขึ้นมาได้ในที่สุด เหล่มองบาดแผลตามร่างกายก็พบว่ารอยกัดหายไปหมดแล้ว และเขาก็ไม่ได้ดูแปลกใจเสียเท่าไหร่ เดินอ้าปากหาวไปเปิดประตูบ้านด้วยท่าทีสลึมสะลือ
"ขอโทษที่รบกวนนะคะรองหัวหน้าคุโรกิ ดิฉันสึโบคุระ ริน จากกองวิทยาการ คือว่าท่านหัวหน้าคุโรซึจิและทางกองวิทยาการของเราอยากทราบรายละเอียดเกี่ยวกับรอยแยกในเขตที่ 64 "
"ไม่เป็นอะไรครับ เอ้านี่ครับผมบรรจุข้อมูลทั้งหมดไว้แล้ว"
"ขอบคุณนะคะ ท่านรองหัวหน้าคุโรกิ"
"เหนื่อยหน่อยนะครับ คุณสึโบคุระ"
จากนั้นหญิงสาวร่างน้อยก็ขอตัวจากไปด้วยสีหน้าแปลกๆ ราเซ็ตสึเกาหัวและก้มมองสภาพตัวเองก็พบว่ายูกาตะที่เขาสวมใส่ร่นลงเผยให้เห็นแผงอกและหน้าท้องที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อที่เรียงรายกันอย่างสวยงาม
เขาถอนหายใจและปิดประตูบ้านเข้าไปอาบน้ำเตรียมกลับไปยังสำนักงานเพื่อเคลียงานส่วนใหญ่แทนหัวหน้าอุคิทาเกะที่เจ็บป่วยเรื้อรังจากโรคปอด หลังจากทำอะไรเสร็จเขาก็หาอะไรทานเล็กน้อยก่อนจะเดินทางไปยังสำนักงานหน่วยที่สิบสามซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านของเขาสักเท่าไหร่
"เหนื่อยหน่อยนะครับ"
"มาช้าเกินไปแล้วค่ะรองหัวหน้าคุโรกิ"
"ครับ ? มีอะไรเกิดขึ้นตอนที่ผมไม่อยู่หรือเปล่า"
"ไม่มีอะไรหรอกค่ะ เข้าห้องทำงานอีกเดี๋ยวรองหัวหน้าคุโรกิก็จะทราบเองค่ะ"
คิโยเนะยิ้มอย่างลึกลับและวิ่งยกเอกสารจากไปที่ห้องทำงานของเธอ ทางราเซ็ตสึก็สับสนสิครับ จู่ๆก็มาพูดให้สงสัยและวิ่งจากไปเสียดื้อๆ ได้แต่ส่ายหัวและเดินไปที่ห้องทำงานของตัวเองพอเปิดประตูออกเขาก็ถึงบางอ้อในทันที
ด้านหน้าของเขาคือกองเอกสารมากมายที่ค้างคามาอย่างยาวนาน ส่วนใหญ่จะเป็นเอกสารไม่เร่งด่วน พวกมันจึงถูกทิ้งไว้ในสำนักงาน พอเขาได้รับตำแหน่งหัวหน้ากองเอกสารจึงถูกขุดขึ้นด้วยมาสินะ ? ชายหนุ่มกุมขมับกว่าจะเคลียเจ้าพวกนี้เสร็จต้องใช้เวลาเท่านานไหร่
ถึงจะอยากบ่น แต่บ่นไปก็ได้แค่ระบายสุดท้ายงานก็ยังคงอยู่ อีกอย่างงานเกี่ยวกับเอกสารมันก็ไม่ได้ยากเย็น เอกสารส่วนใหญ่เป็นข้อมูลการพบฮอลโลว์ในอดีต และการปรับปรุงป้องกันภัยภายนอก มันจึงไม่ได้ถือว่ายากเย็นจากนั้นมหกรรมการทำงานของราเซ็ตสึก็เริ่มต้นขึ้น
และแล้วเวลาก็ผ่านไปสามเดือน นอกจากกลับไปอาบน้ำชำระกาย ชายหนุ่มไม่ได้ออกไปไหนนอกจากเคลียร์เอกสารในห้องที่ค้างคา เขาใช้เวลาส่วนใหญ่กับมันจนในที่สุดเอกสารทั้งหมดก็ถูกเคลียร์จนหมด ห้องทำงานที่สวยสง่ากลับคืนมาอีกครั้ง ทว่าใบหน้าของชายหนุ่มกลับโทรมดูอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด
"ง่วงจังน้า"
รินชาร้อนๆ จากกาลงสู่แก้วและนั่งจิบมันไปพลางก่อนจะนอนเอนหลังบนเก้าอี้อย่างขี้เกลียด แต่ว่าหลังจากนี้ไปเขาสามารถฝึกซ้อมและคิดค้นเทคนิคใหม่ๆได้ตามปกติแล้ว
ก็อก ก็อก ก็อก!
"ประตูไม่ได้ล็อคครับ"
สิ้นเสียงของราเซ็ตสึประตูก็ถูกเปิดออก ด้านหลังประตูมีหญิงสาวร่างเล็กยืนถือถาดอาหารอยู่ เธอเดินเข้ามาในห้องและวางถาดอาหารลงบนโต๊ะก่อนจะเดินไปนั่งลงบนโซฟาที่มุมห้อง
"คราวนี้ทำเองหรือซื้อมาหรอครับ คุณคุจิกิ ?"
"ถามมากเดี๋ยวก็ไม่ต้องกินมันซะเลยดีไหม"
ได้ยินคำตอบชายหนุ่มก็นั่งมองแกงกะหรี่ในถาดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะประนมมือหยิบช้อนขึ้นตักข้าวแกงใส่ปาก ทันทีที่ลิ้นได้รับรสชาติเขาก็ยิ้มขึ้นทันทีโดยไม่จำเป็นต้องให้อีกฝ่ายพูด เจ้านี่ไม่ได้ถูกซื้อมาอย่างแน่นอน แต่เป็นอาหารฝีมือของแม่สาวสุดเฮี้ยว
"วันนี้คุณก็ทำได้อร่อยเหมือนเดิมเลยนะครับ"
"กินเข้าไปเงียบๆ เถอะเจ้าเซ่อ"
หญิงสาวหยิบหนังสือมาอ่านแต่สายตาก็เหล่มองชายหนุ่มที่ทานอาหาร พอได้ยินคำพูดอีกฝ่ายเธอก็แอบยิ้มภายใต้หนังสือก่อนจะตีหน้าโหดบ่นใส่อีกฝ่าย เจ้าหมอนี่จะทำดีด้วยไม่ได้เด็ดขาดไม่งั้นเดี๋ยวได้พ่นคำพูดไร้สาระออกมาอีก
หลังราเซ็ตสึทานอาหารเสร็จลูเคียก็เดินไปยกถาดอาหารและรีบเปิดประตูเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้ชายหนุ่มยิ้มแห้งๆอย่างเซ็งแส้ อันที่จริงเขาจะก่อกวนอีกฝ่ายเสียหน่อยแต่ไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะรู้ทันและรีบเดินหนีออกจากห้องไปทันทีแบบนี้
"ไปสูดอากาศนอกหน่อยน่าจะดีกว่า"
แม้จะไม่ได้ฝึกฝนแต่ก็ใช่ว่าตลอดสามเดือนเขานั่งเคลียร์งานเฉยๆ ตลอดการทำงานเขาก็ยังดูดซับอณูวิญญาณโดยรอบเข้าสู่ร่างกายของตัวเอง ด้วยร่างกายที่ผิดแปลกนี้ทำให้หลังจากผ่านไปสามเดือนเขาก็มีแรงดันวิญญาณที่หนาแน่นยิ่งขึ้น
เดินออกมาจากสำนักงานเขาก็พบกลุ่มยมทูตที่กำลังตรวจตราโดยรอบอย่างขยันขันแข็ง ยามเห็นราเซ็ตสึพวกเขาก็ทักทายชายหนุ่มด้วยความเคารพ ทางเขาเองก็พยักให้ทุกคนก่อนจะเดินจากไป
ก้าวเท้าเดินไปเรื่อยจนกระทั่งถึงสถานที่แห่งหนึ่ง เขาเงยหน้ามองป้ายสำนักงานแล้วก็ยิ้มออกมาบางๆ เผลอตัวเดินมาที่นี่ซะแล้ว สำนักงานหน่วยที่ 11 ไม่รอช้าเขาเปิดประตูสำนักงานและเดินเข้าไปทันที
"ขออนุญาติครับ"
"โอ้คุโรกินี่เอง ลมอะไรพัดมาละนั่น"
คนที่กล่าวคือชายหัวล้านที่แสนคุ้นเคย ชายคนนี้คือนักสู้ลำดับที่ 3 มาดาราเมะ อิกคาคุ ชายผู้ซุกซ่อนพลังในระดับหัวหน้าหน่วยของตัวเองไว้เพื่อรอท้าทายหัวหน้าซาราคิ
"สวัสดีครับคุณอิกคาคุ หัวหน้าซาราคิอยู่หรือเปล่าครับ"
"หัวหน้าอยู่ด้านในว่าแต่นาย... เฮ้ย!!"
คลื่นนนนน!!
ได้ยินคำตอบราเซ็ตสึก็ไม่ต้องทำพิธีรีตองอะไรมากมาย ปลดปล่อยแรงดันวิญญาณภายในร่างกายออกมาทันที ชั่วพริบตาเดียวราวกับเซเรย์เทย์มีแรงโน้มถ่วงเพิ่มขึ้นแบบฉบับพลัน ยมทูตในหน่วยสิบเอ็ดส่วนใหญ่ต่างพากันคุกเข่าเกือบหายใจไม่ออก
ไม่นานชายร่างสูงคนหนึ่งก็เดินออกมาจากห้อง ในมือถือดาบและพาดมันไว้ที่ไหล่ ใบหน้ามีรอยยิ้มอย่างยินดีหลังเห็นใบหน้าของชายหนุ่ม
"ในที่สุดแกก็มาสักทีนะเจ้าหนู ฉันกำลังเบื่อๆอยู่พอดี"
"ครับขอโทษที่ให้รอพอดีผมติดงานเลยไม่มีเวลามาหาท่านหัวหน้าเลย"
"เรื่องไร้สาระฉันไม่สน แค่แกมาก็พอแล้ว"
คลื่นนนนน!!
ซาราคิปลดปล่อยแรงดันวิญญาณออกมาด้วยเช่นกัน ออร่าสีเหลืองทองพวยพุ่งออกมาจากร่างกายของอีกฝ่าย กลิ่นอายแห่งความบ้าคลั่งแผ่ขยายจนพื้นที่โดยรอบสั่นสะเทือน อิกคาคุที่ยังปกติดีรีบวิ่งมาเตือนซาราคิทันที
"จะสู้กันที่นี่ไม่ได้นะ ท่านหัวหน้า"
"ใครสนกัน และถ้าแกมาขวางเดี๋ยวฉันจะฆ่าแกก่อนเลย!"
ฟุบ
"ตายซะเจ้าหนู!"
ซาราคิพุ่งมาหาราเซ็ตสึทันที ดาบที่เต็มไปด้วยรอยบิ่นฟาดฟันเข้ามาทางเขาด้วยความเร็วสูง ทางชายหนุ่มที่เห็นแบบนั้นก็ไม่ได้รีรอ เขาปลดแรงดันวิญญาณพร้อมชักดาบออกมาและฟัดฟันไปที่อีกฝ่ายในทันที
"แต่ผมตายค่อนข้างยากนะครับหัวหน้าซาราคิ"
เคร้งงงงง ฟับ ตู้มมม!!
ทันทีที่ดาบของทั้งสองเข้าปะทะกัน มันเกิดคลื่นอันอัดกระแทก อัดแขนที่ถือดาบลอยขึ้นชูเหนือหัว ร่างของทั้งสองถอยหลังกันไปคนละก้าว พื้นไม้ตรงหน้าของเขากลายเป็นหลุมบ่อทันทีจากแรงปะทะของทั้งคู่
"แกแข็งแกร่งขึ้นอีกแล้วนี่หว่าเจ้าหนู!"
"คนเราถ้าไม่พัฒนา ต่อไปจะเอาชีวิตรอดในโลกที่โหดร้ายแห่งนี้ได้ยังไงละครับ!"
"พูดได้ดีนี่หว่า แกน่ะ!"
"หัวหน้า คุโรกิ..."
ได้ยินเสียงเรียกขัดจังหวะทั้งสองก็พาหันไปมองที่อิกคาคุทันที เจ้าตัวที่ก้มหน้าเงยหน้าขึ้นเผยให้เห็นรอยยิ้มที่บ้าคลั่งออกมาเช่นเดียวกัน เจ้าตัวชักดาบออกมาพร้อมปล่อยแรงดันวิญญาณออกมา
"เล่นสนุกกันแค่สองคนขี้โกงกันเกินไปแล้วนะ หัวหน้า คุโรกิ!"
"โอ้ยินดีต้อนรับครับ"
ราเซ็ตสึไม่กล่าวอะไรให้มากละความสนใจจากหัวหน้าซาราคิ เขาพุ่งไปหาอิกคาคุในชั่วพริบตาเดียว ย่อตัวลงชักดาบฟาดฟันไปที่อิกคาคุแบบหมายจะสังหารในทันที ทางอิกคาคุก้มมองและเผยรอยยิ้มบ้าคลั่งเขาเหวี่ยงดาบฟาดฟันลงไปที่ราเซ็ตสึด้วยเช่นกัน
ปัก ปั้งงง!!
"นะ นี่อัก!"
อิกคาคุเบิกตากว้างหลังเห็นว่าสิ่งที่เขาฟาดฟันเป็นเพียงเขาภาพติดตา กว่าจะรู้ตัวอีกฝ่ายก็ถูกฝ่ามืออัดเข้าที่ด้านหลัง คลื่นอัดกระแทกสีขาวอัดเข้าที่แผ่นหลังจนร่างของเจ้าตัวปลิวไปที่กำแพงสำนักงาน ตู้มมมม!
"แค่กๆ เร็วมาก สมแล้วที่มาเขตเดียวกับหัวหน้า"
อิกคาคุนั่งกระอักเลือดออกมา สายตามองไปยังชายหนุ่มที่กำลังฟาดหันกับหัวหน้าซาราคิอย่างบ้าคลั่ง แม้ตอนนี้เขาจะเจ็บปวดแต่เขาก็อยากต่อสู้อีก ใครใช้ให้การต่อสู้มันสนุกขนาดนี้กันละ เจ้าตัวลุกขึ้นและตะโกนสุดเสียงทันที
"เฮ้ ลืมกันแบบนี้ก็แย่สิ!"
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ตึกไม่มีเหลือ
มันก็บรรลัยละคร้าบบบบบบบบบ555555555ขอบคุณมาสำหรับตอนใหม่ครับ