ตอนที่ 12 : ตอนที่ 12
ลูเคียมองชายหนุ่มที่กำลังเดินจากไป ไปยังทิศที่มีเมนอสอยู่ แม้คำพูดของอีกฝ่ายจะยั่งโมโหของเธอไม่น้อย แต่เธอก็ยังคาดหวังว่าเขาจะปลอดภัยกลับมา
ด้านราเซ็ตสึหลังจากใช้ก้าวพริบตาไม่กี่ย่างก้าวก็มาถึงด้านหน้าของเมนอสกิลเลี่ยน จะว่าไปนี่เป็นครั้งแรกเลยที่เขาได้พบเจอมันด้วยตัวเองไม่ใช่มองมันผ่านหน้าจอหรือมองมันผ่านในกระดาษตำรา แรงดันวิญญาณของพวกมันสูงกว่าพวกฮอลโชว์ธรรมดาแบบทาบไม่ติด คงไม่แปลกเพราะพวกมันเกิดจากการรวมตัวของฮอลโลว์นับร้อยตน
"แต่สุดท้ายก็ยังเทียบชั้นกับแอดจูคัสไม่ได้"
ค่อนข้างน่าผิดหวังกิลเลี่ยนสองตัวไม่น่าจะเพียงพอให้เขาเพิ่มแรงดันวิญญาณเพื่อก้าวสู่ระดับใหม่ พวกมันในตอนนี้เป็นได้แค่เพียงก้อนเชื้อเพลิงสำรองในร่างกายของเขาเท่านั้น แม้ตัวเขาจะยังไม่เคยพบแอดจูคัส เขาก็พอคาดเดาได้หลังเห็นกิลเลี่ยนทั้งสอง
ดูท่าแล้วแอดจูคัสที่ว่าแข็งแกร่งมากจะมีประโยชน์กับเขาได้ไม่นานเท่าไหร่นัก สุดท้ายแล้วในปัจจุบันคงมีเพียงฮอลโลว์ระดับ วาสโทรเด้ ไม่ก็พวกอารันคาร์ในอนาคตที่เพียงพอจะให้เขาก้าวขึ้นสู่ระดับใหม่ที่เหนือกว่า
"พวกคุณสองตัวทำให้ผมเสียเวลาทำงานทำการไปโดยเปล่าประโยชน์จริงๆ เอาเถอะอย่างน้อยในวันนี้ผมก็ได้เดทกับลูเคียสองต่อสองแล้ว...ถึงเวลาที่ผมจะต้องตอบแทนพวกคุณ เอาเป็นมอบความตายที่ทรงเกียรติให้ก็น่าจะพอ"
ชึบ วิช!
ฟูมมมมม!!
ทันทีที่ราเซ็ตสึสะบัดฟันดาบที่อัดแน่นไปด้วยแรงดันวิญญาณไปทางเมนอสตนหนึ่งอย่างไม่แยแส คมดาบที่ถูกเหวี่ยงออกไปด้วยเรี่ยวแรงสูงสุดของชายหนุ่ม มันสร้างคลื่นดาบสีดำแสนอันตรายมีขนาดที่ใหญ่โตสูงเกินร้อยเมตร คลื่นดาบมุ่งหน้าไปทางเมนอสตัวหนึ่งด้วยความเร็วสูงและกลืนกินร่างของมันและสลายไปในเวลาต่อมา ทางร่างสูงนับร้อยเมตรที่ถูกคลื่นดาบเข้า ร่างของมันค่อยๆแยกออกและเริ่มสลายกลายเป็นอณูวิญญาณพุ่งตรงมาให้เขาดูดซับ
"อย่างที่คิด เจ้าพวกนี้ก็เป็นได้เพียงก้อนเชื้อเพลิงสำรอง แต่ถ้าฆ่าครบร้อยสองร้อยตัวน่าจะช่วยเหลือเราได้บ้าง"
กร๊าซซ
วี๊ดดดดด
เมนอสอีกตนหนึ่งหยุดนิ่งมันจ้องมองมาที่เขาก่อนจะเปิดปากออกแรงดันวิญญาณของมันก็พวยพุ่งสูงขึ้นวนชั่วพริบตาเดียว แสงสีแดงสดซึ่งมีขนาดใหญ่กว่า เข้มข้นกว่าการโจมตีเมื่อครู่กำลังถูกรวบรวมไว้ที่ปากของมัน
"เซโร่อีกแล้วหรอ บางทีมันก็น่าเบื่อเกินไปนะ"
กระดูกสัตว์ที่กระจัดกระจาย
หอแหลม ผลึกแดง กงล้อแห่งเหล็กกล้า
ขยับเป็นสายลม หยุดนิ่งเป็นเวหา
ปราสาทเดียวดาย ที่มีเพียงเสียงหอก
ิสิ้นเสียงการกล่าวบทขับขาน ที่ฝ่ามือของราเซ็ตสึก็มีลูกบอลสายฟ้าสีเหลืองทองก่อตัวขึ้นมาที่ใจกลางฝ่ามือ ร่างของเขากระพริบไปมาสร้างร่างมายาหลอกลวงทิ้งไว้ เขาโยกย้ายตนเองมาอยู่ที่ส่วนกลางลำตัวของเจ้าเมนอสร่างโย่ง สายฟ้าทรงกลมภายในมือเริ่มถูกบีบอัดและครอบคลุมเข้ากับฝ่ามือขวา เจ้าตัวนำฝ่ามือที่อาบเร้นไปสายฟ้า ฟาดแตะไปที่กลางตัวของเมนอสพร้อมกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
"วิถีทำลายที่ 63 ไรโคโฮ(Hadō 63 Raikoho)"
ฟึบ เปรี้ยงงงงงงงงงงง!
เสียงฟ้าผ่าดังราวท้องฟ้าที่กำลังจะถล่ม คลื่นสายฟ้าสีทองระเบิดออกกลายเป็นจันทราเสี้ยวขยายตัวกลืนกินร่างใหญ่ของเมนอสทั้งร่างและป่นทำลายร่างกายอันใหญ่โตของมันจนสลายหายไปในพริบตาเดียว
วิถีทำลายขั้นสูงนับว่าเป็นพลังทำลายที่มากเกินพอ ยิ่งถูกใช้โดยผู้มีแรงดันวิญญาณสูงความยิ่งใหญ่ของมันก็จะเพิ่มตามไปด้วย แต่ถ้าจะให้เทียบกับไอเซ็นแล้วละก็ ตัวเขาในตอนนี้ยังห่างชั้นกับอีกฝ่ายมากเกินไป
'ไอเซ็นไม่จำเป็นต้องใช้คำร่ายก็สามารถควบคุมไรโคโฮได้อย่างสมบูรณ์แบบ สุดท้ายแล้วตัวเราก็ยังต้องทำงานหนักต่อไปอยู่ดี!'
หลังจากสังหารเมนอสสองตนได้อย่างสมบูรณ์ แรงดันวิญญาณที่สูญเสียไปเพราะวิถีทำลายก็ฟื้นสภาพกลับมาอย่างสมบูรณ์แบบ ไม่สิต้องบอกว่าแรงดันวิญญาณของเขาขยับเพิ่มขึ้นมาอีกเล็กน้อย
เขาเลิกสนใจและมุ่งหน้ากลับหาลูเคียทันที ปัจจุบันเวลาในตอนนี้ก็ใกล้จะค่ำมืด คงไม่ดีนักที่จะปล่อยให้หญิงสาวแสนน่ารักอยู่ภายในป่าเพียงลำพัง ไม่นานเขาก็เคลื่อนย้ายมาถึงและก็พบหญิงสาวร่าวเล็กซึ่งกำลังยืนรออยู่ ชายหนุ่มหน้านิ่งไม่รีรอเดินอ้าแขนไปหาเธอ แต่หญิงสาวกับเมินเฉยเขาเสียนี่
"ใจร้ายจังเลยนะครับ ผมอุส่าพยายามแทบตาย น่าจะมีรางวัลปลอบใจผมสักเล็กน้อยก็ยังดี"
"จงใช้ผืนป่าและขุนเขาปลอบใจตัวเองไปเถอะเจ้าเซ่อ"
"ฟุฟุฟุ"
"หยุดทำเป็นเล่นก่อน ข้าได้ส่งรายงานเรื่องกำจัดกิลเลี่ยนผ่านผีเสื้อนรกไปแล้ว พวกเราจะเดินทางกลับกันเลยหรือเปล่า ?"
ราเซ็ตสึไม่ได้รีบตอบคำถามของลูเคีย แต่เขากลับใช้สายตากวาดมองโดยรอบไม่นานก็ส่ายหัว เขาชี้ให้ลูเคียมองไปทางรอยแยกบนท้องฟ้าที่แตกออกซึ่งอยู่ห่างจากที่นี่เพียงหนึ่งถึงสองกิโลเมตร
"คงจะกลับกันตอนนี้ไม่ได้หรอกครับ ก็อย่างที่เห็นถ้าไม่แก้ไขรอยแยกที่เมนอสสร้าง เดี๋ยวก็คงจะมีฮอลโลว์หลุดออกมาอีก"
"คืนนี้เจ้าคิดจะพักที่นี่หรือยังไง ?"
"ไม่หรอกครับ อีกเดี๋ยวผมจะรีบแก้ไขให้เสร็จในทันที"
ราเซ็ตสึอยากกลับไปนอนใต้ฟูกมากกว่านอนตามป่าเขา แม้เขาจะเคยนอนมาแล้วตลอดสี่ปีกว่า แต่มันก็ทรมาณร่างกายและจิตใจเสียเหลือเกิน ในช่วงที่เหนื่อยล้าเขาก็อยากนอนซุกภายใตฟูกและผ้านวมนุ่มๆบนเสื่อทาทามิ
หลังพูดคุยตกลงกับลูเคียเสร็จทั้งสองก็มุ่งหน้าไปยังรอยแยกบนท้องฟ้า การซ่อมแซมมันไม่จำเป็นต้องใช้เวลานานเท่าไหร่นัก เพียงเชี่ยวชาญการควบคุมแรงดันวิญญาณก็สามารถจัดการเรื่องพวกนี้ได้ไม่ยาก
แม้แต่ลูเคียเองก็สามารถทำได้เช่นกัน ทั้งสองช่วยกันทำให้ใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น รอยแยกบนท้องฟ้าเริ่มจางหายไปอย่างสมบูรณ์ ลูเคียดูเหนื่อยผิดกับชายหนุ่มที่ยังดูสบายไม่มีเหงือเลยสักหยด
"กลับกันเถอะครับ"
"ครั้งนี้ข้าขอ..."
พูดยังไม่ทันจบประโยคหญิงสาวก็ถูกรวบขึ้นมาในอ้อมแขน เขาส่งเธอขึ้นขี่หลังในทันที เธอย่นหน้าอย่างไม่พอใจและพยายามดิ้นให้หลุด น่าเสียดายที่เธอสู้แรงของอีกฝ่ายไม่ได้
"เจ้ากำลังเริ่มเอาเปรียบข้าอีกแล้วนะ!"
"ทั้งที่คุณเสียแรงดันวิญญาณไปมากกับการซ่อมรอยแยก ถ้าใช้ก้าวพริบตาด้วยตัวเองอีกสองสามวันก็คงไม่ถึงเซเรย์เทย์"
"แต่ดูเจ้าไม่เห็นเหนื่อยเลยนี่"
"นั่นก็เพราะมีคุณอยู่ด้วยกำลังใจเลยเต็มเปรี่ยมอยู่เสมอ โอ้ยยยๆ อย่ากัดผมสิครับ"
ลูเคียที่หมั้นใส้กับความกวนบาทาของชายหนุ่มก็ใช้ฟันงับเข้าที่ไหร่ของอีกฝ่ายเสียเลย เจ้าบ้านี่ไม่เคยมีสักครั้งที่จะพูดเรื่องปกติ ไม่นานเธอหายหมั่นเขี้ยวก็ปล่อย แต่ก็เล่นเอาราเซ็ตสึเจ็บไปอีกนาน
"คุณคุจิกินี่หัวรุนแรงจริงๆเลยนะครับ"
"อยากเพิ่มอีกสักแผลใช่ไหม เจ้าน่ะ"
ราเซ็ตสึไม่ได้กล่าวอะไรอีก แม่ตัวเล็กคนนี้ค่อนข้างเฮี้ยว ถ้าทำอะไรให้เธอไม่พอใจแล้วละก็ มีหวังได้เจ็บตัวเพิ่มแน่ และอีกอย่างตอนนี้เขากำลังแบกเธออยู่จึงไม่มีโอกาศหลบหลีกการโจมตีของเธอ แต่ว่าใจและปากของเขามันค่อนข้างคันดังนั้นจึงห้ามใจไม่ค่อยอยู่
"ทำไมเจ้าถึงเงียบไปละ ?"
"ผมไม่อยากเปลืองน้ำลายกับคุณคุจิกิสุดที่รักน่ะครับ"
"เจ้าเซ่อนี่เจ้าว่าไงนะ ลองพูดใหม่อีกทีสิ้ ใครเป็นที่รักของเจ้า แง้ม!!"
"โอ้ยย! บ้าไปแล้วคุณเป็นหมาหรือยังไงกัน อีกอย่างผมเป็นรองหัวหน้าของคุณนะครับ หัดให้เกียรติผมบ้างสักนิดเถอะ"
ได้ยินคำพูดของชายหนุ่มลูเคียก็ปล่อยฟันที่กัดหูของอีกฝ่าย เจ้าหมอนี่ดูจริงจังแต่ว่าเป็นรองหัวหน้าแล้วยังไง ในเมื่อข้าจะกัดข้าก็กัด งับ คราวนี้ลูเคียงับไปที่ต้นคอของอีกฝ่าย อันที่จริงเธอก็ไม่ได้กัดเขาแรงมากนักแต่เจ้าหมอนี่มันร้องซะโอเวอร์
"แบบนี้ไม่ดีเลยนะครับคุณคุจิกิผมเสียหายอย่างใหญ่หลวง ที่หมู่บ้านซึ่งผมจากมาชายหนุ่มที่ถูกหญิงสาวกัดจะถือว่าผิดผีหลบหลู่เกียรติบรรชนและต้องออกเรือนกับหญิงสาวผู้กัดนะครับ"
ชายหนุ่มหันไปกล่าวด้วยความเสียใจ ท่าทางจริงจังของเขาทำให้ลูเคียที่กำลังเมามันกับการกัดเจ้าชายไร้ยางอายถึงกับต้องหยุดครู่หนึ่งและถามด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยเชื่อเสียเท่าไหร่
"ที่เจ้าพูดมานั่นจริงหรอ ?"
"จริงสิครับ แต่ไม่เป็นไรในเมื่อเรากลายเป็นผัวเมียกันแล้วผมจะยอมคุณแต่โดยดี"
"ไหนลองบอกข้ามาทีสิ้ว่าหมูบ้านของเจ้าที่ว่ามานั่นตอนนี้มันอยู่ที่ไหน ?"
"..."
ราเซ็ตสึเหลือบไปเห็นใบหน้าโหดเหี้ยมของลูเคียก็เลือกที่จะไม่พูดเพราะอะไรอีก ตัวเขาเองก็มีคติประจำใจเช่นกัน คำสอนนี้ยังใช้ได้ทุกยุคทุกสมัยสำหรับพ่อบ้านใจกล้าที่ยังอยากมีชีวิตอยู่
จงโกหกเมื่อท่านยังทำได้
และจงซื่อสัตย์
หากท่านไม่มีปัญญาที่จะโกหก
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

จริงดั่งคำกล่าว. 555555
คำคมโดนใจวัยโจ๋มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
เหมือนมาจากประสบการณ์จริง
รอออออออ