ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    การรอคอยของนาฬิกาทราย(ภาค นางมารร้าย)

    ลำดับตอนที่ #3 : 3

    • อัปเดตล่าสุด 21 ม.ค. 55


    เช้าวันที่สองของการเรียนก็มาถึง ไม่สิ เป็นเช้าวันที่สองของสงครามจิตวิทยาของฉันมากกว่า เพราะนายเอกแท้ๆทำให้เมื่อวานต้องมานั่งกิน บะหมี่สำเร็จรูป!! ถึงแม้มันจะอร่อยขึ้นจากบรรยากาศดีๆของธรรมชาติก็ตาม เฮ้อ..แต่เอาเถอะ มาลองคิดๆดูแล้ว ถ้ารีบซื้ออาหารจากโรงอาหารแล้วยกมาทานที่โต๊ะก็ได้นี่นา แต่คงต้องรีบซื้อเร็วๆก่อนที่จะเจอนายเอกอีก

    " ตกลงจะได้ทานไหมลูก ยกช้อนค้างไว้แบบนั้นนานแล้วนะ " พ่อพูดพลางยกกาแฟขึ้นจิบ

    " อะ..เอ่อ ทานค่ะ ง่ำ!! " ฉันรีบเคี้ยวกลบเกลื่อน

    " เหม่ออะไรหรือลูก มีปัญหาอะไรที่มหาลัยหรือเปล่า " แม่เอามือแตะไหล่ฉันเบาๆ

    " ไม่มีอะไรหรอกค่ะ " ฉันหัวเราะแหะๆ แล้วตั้งหน้าตั้งตาทานข้าวต่อ

    นี่เราเป็นอะไรกันนะ นายเอกทำให้เราเป็นได้ถึงขนาดนี้เชียวหรือ เฮ้อ ถอนหายใจอีกหนึ่งเฮือก อีกหน่อยพอไม่ได้เจอแล้วก็คงจะลืมๆไปเองแหละ เมื่อคิดได้ดังนั้นก็สุขใจ อยากให้ถึงเวลาพักเร็วๆจังเลย

    " ป้ายมหาลัยค่า!! " กระเป๋ารถเมล์บอกผู้โดยสาร

    เฮ้ย!!ถึงมหาลัยแล้ว นี่ฉันเหม่อได้ถึงขนาดนี้เชียวหรือ รีบลุกก้าวไปตรงประตูทันที
    อ๊าย!! ทำไมถึงไม่รู้จักจอดให้มันตรงป้ายกันนะ ปกติก็ต้องเดินตากแดดอยู่แล้ว นี่ฉันเลยต้องเดินเพิ่มจนได้จนได้ แล้วถ้าเกิดน่องเรียวยาวของฉันเกิดโป่งขึ้นมาเหมือนนักกล้ามนะ อี๊ น่าเกลียดตายเลย แล้วอากาศเมืองไทยก็ร้อนอบอ้าวเสียเหลือเกิน ทำเอาผิวสาวขาวสวยของฉันเสียหมด

    เดินไปได้สองสามเมตรก็ถึงประตู อ้ะ!!ใครกันยืนพิงรั้วอยู่ตรงนั้น ไม่ได้ใส่ชุดนักศึกษาด้วย หรือว่าจะเป็นคนนอก แดดร้อนขนาดนี้ทนยืนอยู่ได้ยังไงกันนะ ฉันเดินเข้าไปใกล้คน ๆนั้นเรื่อยๆ

    " นาย!!..เอ่อ..เพื่อนของเอกไม่ใช่เหรอ!! "

    ฉันค่อนข้างตกใจทีเดียวที่เป็นคนที่รู้จัก เอ..ชื่ออะไรกันนะจำไม่ได้แล้ว ยืนตากแดดเหงื่อโชกทั้งตัวเลย แสดงว่ายืนมานานพอควรแล้ว

    " " เขาเงยหน้าขึ้นมามอง สีหน้าและแววตาไม่ต่างจากเมื่อวานเลย ยังคงบึ้งตึงราวกับไม่พอใจอะไรอยู่ หรือไม่พอใจที่ฉันเข้ามาทัก นายกล้าดียังไงยะ ถึงบังอาจไม่พอใจที่สาวสวยระดับน้องๆนางงามระดับโลกมาทักเนี่ย เป็นบุญของนายแล้วนะยะ จำใส่กะลาไว้ซะสิ เชอะ!

    " มายืนทำอะไรตรงนี้ แดดมันแรงมากเลยนะ ดูสิเหงื่อเปียกไปหมดแล้ว " ฉันเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าเขา มองเห็นเหงื่อของเขาหยดลงพื้นเลยทีเดียว

    " " เขายังคงเงียบ ก้มหน้าลงไปมองพื้นอย่างเดิม อ๊าย!!! นี่ที่บ้านนายไม่ได้สอนให้พูดรึไงยะ ยืนเป็นไม้ตีพริกอยู่ได้เนี่ย

    " เอ่อ..นาย..ชื่ออะไรนะ " ฉันตัดสินใจถามชื่อ อาจจะเสียมารยาทไปหน่อยแต่คงดีกว่ายืนคุยกับคนที่ไม่รู้จักชื่อกัน

    " บอย!! " เสียงแข็งราวกับตะคอกตอบกลับมา กรี๊ดดดดด!!! เสียงหล่อค่าาาาา (เอ๊ะ! ยัยคนนี้นี่ยังไง?:คนเขียน)

    " แหะๆ..ขอโทษนะ คราวนี้ไม่ลืมแล้วล่ะ แล้วตกลงมายืนทำอะไรตรงนี้ล่ะ "

    " รอคนอยู่น่ะ คิดว่าอีกสักพักก็คงมาแล้ว " บอยยกมือขึ้นปาดเหงื่อที่หน้าผาก น้ำเสียงเหมือนกำลังท้อแท้อยู่ ใครกันนะปล่อยให้หนุ่มหล่อคนนี้ต้องมายืนตากแดด ฉันล้วงมือลงไปในกระเป๋าถือ หยิบผ้าเช็ดหน้าสีชมพูอ่อนขึ้นมา อ่อยซะหน่อยดีกว่าเรา

    " เอ้า!!เอาไปเช็ดก่อน เหม็นเหงื่อขนาดนี้ เดี๋ยวคนที่นัดเค้าจะรังเกียจเอา "

    ฉันยื่นผ้าเช็ดหน้าให้บอย เขามองผ้าเช็ดหน้าสลับกับเงยหน้าขึ้นมองฉันอย่างลังเล

    " เอาไปเหอะน่า! ผืนนี้ 20 บาท ซื้อมาจากเปิดท้าย ไม่ใช่ของดีนักหรอก ไม่ต้องเกรงใจ "

    ฉันจับแขนของบอยขึ้นมาแล้วยัดผ้าเช็ดหน้าใส่มือเขา อุ๊ยต๊ายตาย! มือนุ่มกว่าที่คิดนะคะพ่อเสียงเท่ห์ขา

    " อ้อ! แล้วถ้าไม่ซักไม่ต้องเอามาคืนนะ ทางที่ดีไม่ต้องเอามาคืนเลยจะดีกว่า ขอตัวล่ะ "

    ฉันนี่ใจร้ายเกินไปหรือเปล่านะ นายบอยคนนี้ไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับชีวิตของฉันเหมือนนายเอกซะหน่อย ทำไมต้องพูดรุนแรงแบบนั้นก็ไม่รู้ แต่ก็ดีแล้วนี่นา จะได้ไม่อยากมาคุยกับฉัน

    " ขอบคุณ " บอยกำผ้าเช็ดหน้านั้นไว้แน่น ทั้งที่เป็นคำขอบคุณธรรมดาแต่ไม่รู้ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าเขากล่าวออกมาจากใจจริง

    ฉันยิ้มเล็กๆให้เขาแล้วเดินเข้ามหาลัยไป ไม่รู้ว่านายบอยจะต้องรออีกนานเท่าไหร่ แต่ฉันทนร้อนไม่ไหวแล้ว ขอไปนั่งรับลมเย็นใต้ต้นไม้ให้หายร้อนก่อนไปเรียนดีกว่า

    โครก!! เสียงท้องร้องดังขึ้นบอกเวลาเที่ยงตรง จ้าๆรู้แล้วว่าหิว ฉันก็หิวเหมือนกันนั่นแหละ แต่เหมือนเป็นความหิวที่รอคอยยังไงไม่รู้สิ เพราะวันนี้จะได้ทานอาหารอร่อยๆจากโรงอาหารท่ามกลางธรรมชาติอันสวยงามแล้ว โอ้ ภาพแห่งจินตนาการลอยขึ้นมาทำเอาอดยิ้มไม่ได้

    " เอ้า วันนี้พอแค่นี้ก่อน อย่าลืมทำตัวอย่างที่ให้ไปด้วยล่ะจะได้เข้าใจทฤษฎีมากยิ่งขึ้น " ประโยคที่รอคอยจากอาจารย์มาถึงแล้ว ฉันไม่รอช้ารีบเก็บข้าวของทันที เป้าหมายอยู่ที่โรงอาหารและโต๊ะ

    หน้าทางเข้าโรงอาหาร เหลียวซ้ายแลขวาเห็นว่าไม่มีนายเอกแน่แล้วก็รีบเดินเข้าไปดูร้านค้าทันที มีอะไรน่าทานบ้างนะ ว้าว! ข้าวผัดกุ้ง ก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋น ข้าวราดแกงร้อนๆ น่าทานไปหมดเลย แต่ติดใจข้าวผัดกุ้งนี่แหละ เป็นจานกระดาษซะด้วย ทานเสร็จจะได้ทิ้งเลยไม่ต้องยกมาเก็บที่โรงอาหารอีก ว่าแล้วก็เข้าไปต่อแถว

    โอ้!ใช่แล้ว ภาพอย่างนี้แหละ ตรงกับที่ฉันจินตนาการไว้ไม่ผิดเพี้ยน สายลมโชยอ่อนๆ ใบไม้ลอยพลิ้วตามลม เงาไม้ไหวเป็นระยะๆ ม้านั่งหินอ่อนที่เย็นสบาย ต้นศรีตรังคู่ใจ และอาหารแสนอร่อย ฮิฮิ วันนี้ที่รอคอยมาถึงแล้ว หลังจากยืนเป็นนางเอกมิวสิควีดีโออยู่พักใหญ่ก็ได้เวลานั่งลงรับประทานอาหารสักที ฉัน..ในสถานที่แห่งนี้..ฉันแต่เพียงผู้เดียว

    " ขอนั่งด้วยคนสิ " ครืน!! เสียงภาพในจินตนาการล่มสลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

    " นายอีกแล้วใช่ไหมเอก " ฉันพูดตอบโดยไม่ต้องหันหน้าไปดูด้วยซ้ำ ก็เสียงนี้น่ะฟังจนจำได้ขึ้นใจแล้ว เสียงของพ่อรูปหล่อที่ฉันจ้องจะจับคนนั้นไม่ผิดแน่ ฮุๆๆ

    " ปิ๊ง ป่อง!! ถูกต้องนะคร้าบ!! รู้ได้ยังไงกันเนี่ย " เสียงเดินย่ำใบไม้ของเอกอ้อมมาด้านหน้าของฉัน เขาวางจานข้าวราดแกงกับน้ำหนึ่งขวดลงบนโต๊ะแล้วนั่งลง

    " ไม่มีใครอยากจะยุ่งกับฉันนักหรอก มีแต่นายคนเดียวนี่แหละ " ฉันเอาช้อนเคาะกับจานดังแกรกๆแสดงถึงความไม่พอใจ

    " ฮ่าๆ ไม่ใช่ฉันคนเดียวหรอก แต่ว่าใครไม่รู้นะมองซ้ายมองขวาก่อนจะเข้าโรงอาหารน่ะ แถมซื้อเสร็จยังเดินฉิวออกจากโรงอาหารอีก คนเค้ามองกันทั้งโรงอาหารแล้วยังไม่รู้สึกตัวอีก จริงไหมบอย "

    บอยวางอาหารบนโต๊ะแล้วนั่งลงเช่นกัน กรี๊ดดดด!! ทำไมวันนี้ฉันแจ๊คพ๊อตอย่างนี้เนี่ย มีทั้งอาหารตา อาหารใจ พร้อมอาหารกระเพาะ? เลยเนี่ย อ๊าย!!! คุณแม่ปลื้มค่ะ

    " นี่พวกนายเป็นอะไรกันนะ!! ฉันไม่ใช่คนดีอะไรนักหรอก!! อย่ามายุ่งกับฉันได้ไหม ฉันอยากอยู่คนเดียว!! " ฉันก้มหน้า เอามือมากุมขมับอย่างปวดหัว

    " แกล้งพูดชัดๆ " บอยพูดสั้นๆประโยคเดียวทำเอาฉันอึ้ง เถียงไม่ออก ใช่แล้ว ฉันกำลังแกล้งพูด สิ่งที่ทำไปมันไม่ใช่ตัวฉันเลยสักนิด ฉันทำเพื่อปิดบังความอ่อนแอของตัวเอง ฉันทำเพื่อประชดความเจ็บปวดที่ได้รับ ความเจ็บปวดที่ต้องสูญเสียเพื่อนที่รักมากไปเพราะความเข้าใจผิด

    ความรู้สึกมันเอ่อล้นอยู่แล้ว ยิ่งมีคนมาพูดเหมือนว่ารับรู้เหตุการณ์และเข้าใจฉันแบบนี้ น้ำตามันก็คลอขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ

    " พวกเราไม่รู้หรอกนะว่าต้นข้าวไปเจอกับเรื่องอะไรมา แต่มันไม่ใช่สาเหตุสำหรับพวกเราที่จะเป็นเพื่อน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×