ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ++มาตามี++

    ลำดับตอนที่ #4 : 11

    • อัปเดตล่าสุด 21 เม.ย. 49


    ความเดิม

     ค่ำคืนนี้คงไม่ได้พัก

     

    หลับไม่ลง ลุกออกจากเตียงหากมือคนหลับกลับรั้งแขนเสื้อไว้แน่น

     

    แม้คนดึงก็ไม่รู้ตัว ความอบอุ่นจากปลายนิ้วส่งผ่านเรียกรอยยิ้มจากคนถูกดึง

     

    ล้มตัวลงกอดถนอมร่างในอ้อมแขน หลับสนิทตลอดคืน
    .........................................................................................................


    11

    ความมืดคลืบคลานจากไปแสงสว่างเข้าแทนที่

     

    เปลือกตาขยับเปิดออก

     

    ข้างกายไร้สิ้นคนเคียงข้าง เหลือไว้เพียงร่องรอยยับบนผืนผ้า

     

    (วันนี้ทำอะไรดี) ความคิดแรก

     

    "นายหญิง" ลาคายืนคอยอยู่หน้าทางออกเตรียมพร้อมไป

     

    เล่นน้ำ(อาบน้ำ) ความจริงไม่เชิงว่าไปอาบเพียงแค่ไป

     

    ทำภาระกิจเล็กๆน้อยๆเท่านั้นเอง

     

                น้ำในลำธารเย็นจัดกว่าที่เคย หญิงสาวรีบทำภาระกิจยามเช้าให้เสร็จสิ้น เริ่มต้นใช้ขันที่ทำจากใบไม้ลักษณะ

     

    คล้ายใบบัวลาคาเรียกสันโตก วักน้ำจากสันโตกล้างหน้ามือซ้ายรับใบไม้ขนาดครึ่งฝามือจากลาคามาขัดฟัน ลาคาเคยบอกไว้

     

    เรียกว่าใบข่อยใช้ล้างฟันมาแต่เก่าก่อน เมื่ออมน้ำบ้วนปากก็เป็นอันจบภาระกิจ

     

    "ขอบใจจ๊ะ" รับผ้าจากลาคาซับบริเวณที่เปียก ตามจริงอยากอาบน้ำแต่ในมาตามีจะอาบน้ำกันเมื่อตะวันตรงหัว

     

    เพราะน้ำจะค่อนข้างอุ่นพอที่จะเล่น(อาบ)ได้ 

     

    ตาสว่างทำให้สมองปลอดโปร่งรู้แล้ววันนี้จะทำอะไร

     

    "ลาคา"คนถูกเรียกหันมาพร้อมรับฟัง

     

    "แดนดอกไม้อยู่ที่ไหน" ผ้าในมือของลาคาหล่นลงแทบเท้า

     

    "ท่านรู้จักแดนแห่งนี้จากผู้ใด" ลาคาถามรัวเร็ว เพิ่งความสงสัยแก่หญิงสาว

     

    "ทำไม" คิ้วขมวดวุ่น

     

    "นายหญิง โปรดบอก"สีหน้าและท่าทางเป็นเดือดเป็นร้อน

     

    "ท่านเมตารัสเคยพูดถึง" ต่อหน้าลาคาต้องเรียกท่าน

     

    หญิงสาวจำใจปด ต้องรักษาความลับของเจ้านก

     

    "จากท่านเมตารัส" ทวนย้อนว่าฟังไม่ผิด สีหน้าโล่งใจอย่างเห็นได้ชัด

     

    "ฉันบอกเธอแล้วลาคาถึงตาเธอบอกฉันบ้าง" ใช้ภาษาของตนเอง

     

                ลาคานิ่งไปครู่หนึ่งเหมือนกำลังทบทวนความทรงจำ

     

    "นานแสนนานก่อนเกิดมาตามี บนพื้นภพจารึกนามแดนดอกไม้ ทุกทิวาราตรีไร้สิ้นแสงสาดส่องจากเบื้องบน

     

    แสงสว่างเป็นแสงจากเบื้องล่าง ดอกไม้ส่องแสงแทนตะวัน แทน จันทรา หมู่สรรพพสัตว์เฝ้าอุ้มชูดอกไม้ต้านทาน

     

    ความมืดมิด คราหนึ่งแสงจากเบื้องบนทอดยาวมายังพื้นพิภพ เหล่าดอกไม้สิ้นแสงสลายหายไปตามสายลม

     

     แสงที่ทอดยาวแผ่กว้างเต็มแผ่นพื้น สิ้นแสงสิ่งที่กำเนิดคืนดินแดนมาตามี เส้นแสงบางเส้นแตกขึ้นสู่เบื้องบน เกิดตะวัน จันทรา

     

                ครบ20ช่วง เด็กสาวบ้านหนึ่งต้องเกิดนิมิต(ความฝัน)นางเล่าถึงแดนดอกไม้ วันพรุ่งไม่มีผู้ใดพบ

     

    ร่างของนาง ทุก20ช่วงเป็นเช่นนั้นทุกรอบ เจ้านายหญิงของมาตามีเกิดนิมิตขึ้น วันถัดมานางก็หายตัวไป ว่ากันว่า

     

    ผู้เห็นพระนางครั้งสุดท้ายคือบุตรชายของพระนาง"

     

    "ท่านเมตารัสเหรอ" ต่อหน้าพี่เลี้ยงต้องเรียกท่าน ลับหลังไม่เรียกเด็ดขาด

     

    "ผิด" เรียบและนิ่งเสมอในน้ำเสียง

     

    "ท่านเฟรากัส"

     

    ลาคาพยักหน้า และเพิ่มต่ออีกว่า

     

    "เรื่องที่ข้าเล่าอย่าบอกกับนายท่านเป็นอันขาด อย่าเล่าต่อ กล่าวถึง" ท่าทางลาคาดูร้อนลน

     

    "ได้ ฉันไม่บอกใคร" หญิงสาวรับปาก( แล้วเราจะหาแดนดอกไม้ได้ที่ไหนกัน

     

    ใช่ต้องไปที่ตัวตนเรื่อง เจ้านก)

     

     หญิงสาวขอลาคาเดินเที่ยว บอกลาคาไม่ให้ตามตอนแรกลาคาไม่ยอม

     

    แต่เมื่อเจอกับไม้นี้เข้า

     

    "ฉันจะไปหาท่านเฟรากัส" อ้างชื่อ

     

    ลาคาเลยยอมปล่อยไปแต่โดยดี

     

    ก้าว ซ้าย ขวา ซ้าย จนมาถึงหน้าต้นไม้ใหญ่ แปลกทำไมต้นหญ้ารอบโคนต้นไม้

     

    ถึงแห้งเป็นสีดำ จะว่าขาดน้ำก็ไม่ใช่เพราะทั่วบริเวณก็อุดมสมบูรณ์ดี

     

    "เจ้านก อยู่รึเปล่า" เงยหน้าตะโกนเรียก

     

    สายลมพัดผ่านระลอกแล้วระลอกเล่า เงียบ........

     

    ห่างออกไป หญ้าสีเขียวชอุ่มม้าสีดำกำลังเล็มรสหวาน ร่างหนานอนราบบนพื้นหญ้า

     

    "นายท่าน นางเรียกข้า" นกน้อยบอกนาย

     

    "ไปได้" ออกคำสั่ง

     

    "ครับ"

     

    เจ้าตกบ่วงพันธนาการแห่งจิตวิญญาณ ต้องดำรงอยู่ในมาตามีตราบนานเท่านาน

     

    หากผนึกไม่คลายเจ้าจะหมดสิ้นหนทางออกจากมาตามี รอยยิ้มสมใจฉาบบนริมฝีปาก

     

      11


    พรุ่งนี้จะมาลงต่อให้น๊า

    ขอบคุณคนอ่าน

    ขอเถอะความคิดเห็นอ่ะ ติเลยติได้เต็มๆเราชอบ

    ความมืดคลืบคลานจากไปแสงสว่างเข้าแทนที่

     

    เปลือกตาขยับเปิดออก

     

    ข้างกายไร้สิ้นคนเคียงข้าง เหลือไว้เพียงร่องรอยยับบนผืนผ้า

     

    (วันนี้ทำอะไรดี) ความคิดแรก

     

    "นายหญิง" ลาคายืนคอยอยู่หน้าทางออกเตรียมพร้อมไป

     

    เล่นน้ำ(อาบน้ำ) ความจริงไม่เชิงว่าไปอาบเพียงแค่ไป

     

    ทำภาระกิจเล็กๆน้อยๆเท่านั้นเอง

     

                น้ำในลำธารเย็นจัดกว่าที่เคย หญิงสาวรีบทำภาระกิจยามเช้าให้เสร็จสิ้น เริ่มต้นใช้ขันที่ทำจากใบไม้ลักษณะ

     

    คล้ายใบบัวลาคาเรียกสันโตก วักน้ำจากสันโตกล้างหน้ามือซ้ายรับใบไม้ขนาดครึ่งฝามือจากลาคามาขัดฟัน ลาคาเคยบอกไว้

     

    เรียกว่าใบข่อยใช้ล้างฟันมาแต่เก่าก่อน เมื่ออมน้ำบ้วนปากก็เป็นอันจบภาระกิจ

     

    "ขอบใจจ๊ะ" รับผ้าจากลาคาซับบริเวณที่เปียก ตามจริงอยากอาบน้ำแต่ในมาตามีจะอาบน้ำกันเมื่อตะวันตรงหัว

     

    เพราะน้ำจะค่อนข้างอุ่นพอที่จะเล่น(อาบ)ได้ 

     

    ตาสว่างทำให้สมองปลอดโปร่งรู้แล้ววันนี้จะทำอะไร

     

    "ลาคา"คนถูกเรียกหันมาพร้อมรับฟัง

     

    "แดนดอกไม้อยู่ที่ไหน" ผ้าในมือของลาคาหล่นลงแทบเท้า

     

    "ท่านรู้จักแดนแห่งนี้จากผู้ใด" ลาคาถามรัวเร็ว เพิ่งความสงสัยแก่หญิงสาว

     

    "ทำไม" คิ้วขมวดวุ่น

     

    "นายหญิง โปรดบอก"สีหน้าและท่าทางเป็นเดือดเป็นร้อน

     

    "ท่านเมตารัสเคยพูดถึง" ต่อหน้าลาคาต้องเรียกท่าน

     

    หญิงสาวจำใจปด ต้องรักษาความลับของเจ้านก

     

    "จากท่านเมตารัส" ทวนย้อนว่าฟังไม่ผิด สีหน้าโล่งใจอย่างเห็นได้ชัด

     

    "ฉันบอกเธอแล้วลาคาถึงตาเธอบอกฉันบ้าง" ใช้ภาษาของตนเอง

     

                ลาคานิ่งไปครู่หนึ่งเหมือนกำลังทบทวนความทรงจำ

     

    "นานแสนนานก่อนเกิดมาตามี บนพื้นภพจารึกนามแดนดอกไม้ ทุกทิวาราตรีไร้สิ้นแสงสาดส่องจากเบื้องบน

     

    แสงสว่างเป็นแสงจากเบื้องล่าง ดอกไม้ส่องแสงแทนตะวัน แทน จันทรา หมู่สรรพพสัตว์เฝ้าอุ้มชูดอกไม้ต้านทาน

     

    ความมืดมิด คราหนึ่งแสงจากเบื้องบนทอดยาวมายังพื้นพิภพ เหล่าดอกไม้สิ้นแสงสลายหายไปตามสายลม

     

     แสงที่ทอดยาวแผ่กว้างเต็มแผ่นพื้น สิ้นแสงสิ่งที่กำเนิดคืนดินแดนมาตามี เส้นแสงบางเส้นแตกขึ้นสู่เบื้องบน เกิดตะวัน จันทรา

     

                ครบ20ช่วง เด็กสาวบ้านหนึ่งต้องเกิดนิมิต(ความฝัน)นางเล่าถึงแดนดอกไม้ วันพรุ่งไม่มีผู้ใดพบ

     

    ร่างของนาง ทุก20ช่วงเป็นเช่นนั้นทุกรอบ เจ้านายหญิงของมาตามีเกิดนิมิตขึ้น วันถัดมานางก็หายตัวไป ว่ากันว่า

     

    ผู้เห็นพระนางครั้งสุดท้ายคือบุตรชายของพระนาง"

     

    "ท่านเมตารัสเหรอ" ต่อหน้าพี่เลี้ยงต้องเรียกท่าน ลับหลังไม่เรียกเด็ดขาด

     

    "ผิด" เรียบและนิ่งเสมอในน้ำเสียง

     

    "ท่านเฟรากัส"

     

    ลาคาพยักหน้า และเพิ่มต่ออีกว่า

     

    "เรื่องที่ข้าเล่าอย่าบอกกับนายท่านเป็นอันขาด อย่าเล่าต่อ กล่าวถึง" ท่าทางลาคาดูร้อนลน

     

    "ได้ ฉันไม่บอกใคร" หญิงสาวรับปาก( แล้วเราจะหาแดนดอกไม้ได้ที่ไหนกัน

     

    ใช่ต้องไปที่ตัวตนเรื่อง เจ้านก)

     

     หญิงสาวขอลาคาเดินเที่ยว บอกลาคาไม่ให้ตามตอนแรกลาคาไม่ยอม

     

    แต่เมื่อเจอกับไม้นี้เข้า

     

    "ฉันจะไปหาท่านเฟรากัส" อ้างชื่อ

     

    ลาคาเลยยอมปล่อยไปแต่โดยดี

     

    ก้าว ซ้าย ขวา ซ้าย จนมาถึงหน้าต้นไม้ใหญ่ แปลกทำไมต้นหญ้ารอบโคนต้นไม้

     

    ถึงแห้งเป็นสีดำ จะว่าขาดน้ำก็ไม่ใช่เพราะทั่วบริเวณก็อุดมสมบูรณ์ดี

     

    "เจ้านก อยู่รึเปล่า" เงยหน้าตะโกนเรียก

     

    สายลมพัดผ่านระลอกแล้วระลอกเล่า เงียบ........

     

    ห่างออกไป หญ้าสีเขียวชอุ่มม้าสีดำกำลังเล็มรสหวาน ร่างหนานอนราบบนพื้นหญ้า

     

    "นายท่าน นางเรียกข้า" นกน้อยบอกนาย

     

    "ไปได้" ออกคำสั่ง

     

    "ครับ"

     

    เจ้าตกบ่วงพันธนาการแห่งจิตวิญญาณ ต้องดำรงอยู่ในมาตามีตราบนานเท่านาน

     

    หากผนึกไม่คลายเจ้าจะหมดสิ้นหนทางออกจากมาตามี รอยยิ้มสมใจฉาบบนริมฝีปาก

     

      11


    พรุ่งนี้จะมาลงต่อให้น๊า

    ขอบคุณคนอ่าน

    ขอเถอะความคิดเห็นอ่ะ ติเลยติได้เต็มๆเราชอบ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×