ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ++มาตามี++

    ลำดับตอนที่ #3 : 10

    • อัปเดตล่าสุด 21 เม.ย. 49


    ความเดิม

    ร่างสูงโผล่ขึ้นทางทิศเหนือ รวดเร็วลงน้ำหนักเท้าได้สม่ำเสมอกัน

     

    เคลื่อนที่ปานประจุไฟฟ้าแสงสีม่วงครอบคุมรอบกายเหมือนลูกไฟมหึมา

     

    แสงเริ่มจางเมื่อมาถึงหน้ากองไฟสีมรกต

     

    (เมตารัส) หญิงสาวรำพึง(ในใจเช่นเคยก็พูดไม่ได้นี่)
    ................................................................................................

    10

    เพียงไม่กี่นาทีเมื่อเมตารัสหยุดนิ่งข้างชายป่า เสียงร้องของสัตว์บางชนิดดังก้อง

     

    จากเสียงคาดว่าขนาดตัวคงไม่ธรรมดาแน่ หญิงสาวรู้สึกขนลุกชำเลืองมองรอบข้าง

     

    ยังพบกับความเงียบ ไม่มีผู้ใดขยับ ไม่มีผู้ใดส่งเสียง

     

    (โห นั่นมันตัวอะไรกัน) หญิงสาวมองตรงไปยังทิศเดียวกับที่เมตารัสโผล่ขึ้นมาเงาดำเคลื่อนที่ใกล้เข้ามา ขยายขนาดใหญ่ขึ้น

     

     เจ้าตัวนี้กว้างใหญ่ยังกะสนสิบคนโอบ

     

    สูงประมาณคลื่นซึนามิที่คนญี่ปุ่นตั้งชื่อ จะว่าเป็นคนก็ไม่เชิง หัวเป็นมังกรส่วนตัวเป็นสิงค์ แขนเป็นคน

     

    ขาเป็นนกแถมมีปีกอีกต่างหาก

     

     ลักษณะปีกคล้ายครีบปลามีสีน้ำเงินสด สภาพของเจ้านี่เหมือนภูเขาไฟที่กำลังจะระเบิดและที่แปลกสุดๆ

     

    "เจ้ารบกวนข้า" เจ้านี่ส่งน้ำเสียงดังกระหึม

     

    "ข้าใคร่อยากประลองกับท่าน"คนตรงช่องว่างเปิดปาก

     

    "เจ้ามีสิ่งใดมาแลก" เสียงก้องสั่นกระโสตประสาท

     

    "ลูกนิลเก้าก้อนแลกต่อโลหิตของท่าน" ตาดำมองตรงนิ่ง

     

    "ได้"

     

    จบคำร่างยักษ์เริ่มจู่โจมก่อน สายฟ้าพุ่งตรงไปเฟรากัส ชายหนุ่มพลิ้วร่างหลบเคลื่อนที่ราวกับหายตัวปรากฎยังเบื้องหลังคู่ต่อสู้

     

    บังคับลมรอบกายซาดซัดเข้าต่อกรลมหมุนวนเหมือนสว่านพุ่งเข้าหาเป้าหมาย หากอีกฝ่ายไม่สะกิดผิวแม้แต่น้อย ลูกไฟพุ่งออกจากปากใหญ่

     

    มุ่งไปยังชายหนุ่ม

     

    "น้ำแข็ง"ชายหนุ่มตะโกน

     

     น้ำแข็งนับสิบๆก้อนขนาดเท่าใบลานปะทะกับลูกไฟ เย็นเจอกับร้อนอนุภาพพอๆกันต่างระเบิดกลางอากาศ เศษน้ำแข็งปลิวเข้าไปยังวงพระจันทร์เสี้ยว

     

    ไม่มีผู้ใดหลบ ทุกคนนิ่ง

     

    (ตายแน่ หลบไม่พ้น) หญิงสาวคิด

     

    เศษน้ำแข็งผ่านเข้าไปยังวงพระจันทร์ เพียงข้ามเขตกลับแปรสภาพเหมือนวิญญาณสัมผัสจับต้องไม่ได้ ไม่เป็นอันตรายกับผู้ใด

     

    เมื่อผ่านพ้นวงพระจันทร์ จึงกลับสู่สภาพเดิม เป้าหมายคือต้นไม้ข้างชายป่า

     

    "ซวบ" เปลวไฟร้อนจากมือเมตารัสสลายน้ำแข็งลงในพริบตา ต้นไม้ไม่ได้รับแรงกระเทือนแม้แต่น้อย

     

    สองร่างยังคงผลัดกันรุกรับอย่างดุเดือด ทั้งที่ขนาดต่างกันอย่างเห็นได้ชัดแต่อีกฝ่ายกลับไม่เสียเปรียบ

     

    การประลองจบลงเมื่อเจ้าร่างยักษ์ถูกแสงสีแดงล็อกรอบขาและแขน

     

    เมื่อชายหนุ่มคลายแสงที่ล็อก เจ้ายักษ์จึงเริ่มทำตามข้อตกลง

     

    มือใหญ่ ใช้เล็บแหลมกรีดแขนของตน เลือดสีเขียวข้นไหลลงสู่พื้นและจับตัวกันเป็นกลุ่มก้อน

     

    เหมือนอัญมณีขนาดเท่ากำมือ

     

    "ตามข้อแลกเปลี่ยน" ตาแดงวาวฉาดชัดถึงความไม่สบอารมณ์

     

    ชายหนุ่มยกมือโบกเพียงครั้งเดียวก้อนอัญมณีสีเขียวปลิวเข้าสู่มือหนา

     

    เมื่อร่างยักษ์กางปีกบินจากไป พิธีกรรมจึงเริ่มต้นขึ้น

     

    เมตารัสถอยออกจากช่องว่างสลับให้เฟรากัสยืนประจำตำแหน่งแทน

     

    คนวงในเริ่มสวด วัตถุสีเหลืองสาดแสงเข้าสู่กองไฟ คนตรงช่องว่างบังคับวัตถุในมือพุ่งเข้าใจกลางของกองไฟ

     

    ไฟสีมรกตเปลี่ยนเป็นสีรุ้ง คนวงนอกจึงเริ่มสวด ก้อนหินขยับลอยขึ้นจากพื้น ย่อขนาดเล็กลง

     

    จนเท่ากับวัตถุสีเหลืองต่างกันเพียงแค่เป็นสีขาวบริสุทธิ์ กองไฟตรงกลางดับสนิทวัตถุสีเหลืองจางแสงลงจนสลายไม่เหลือแม้ผุยผง

     

    กลุ่มชนเคลื่อนที่ออกจากเขตพระจันทร์เสี้ยว ต่างมุ่งตรงไปยังวัตถุสีขาว

     

    "ลูกไสย" ใช้สำหรับขอพร" คนข้างกายอธิบาย

     

    (เมตารัส มาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่)

     

    "หนึ่งช่วงต้องมีพิธีหนึ่งครั้ง" ยังอธิบายต่อแม้คนข้างกายนิ่งเงียบ

     

    "จา เหตุใดเจ้าไม่เปิดปาก" น้ำเสียงตัดพ้อ

     

    หญิงสาวชี้ที่ปากของตัวเองจากนั้นยกมือท่าปางห้ามญาติแล้วโบกไปด้านซ้ายและขวา

     

    "เจ้าถูกสะกด" คนตรงหน้าเริ่มเข้าใจ

     

    "กลับ" เสียงห้วน สั้นดังมาก่อนตัว

     

    "ขอตัว" ลากแขนเช่นเคย คนเดิมไม่ใช่ใครที่ไหน(เจ้าเก่า)

    ****^^ *****^^

    อากาศยามมืดหนาวจัด แต่ไม่มีผลต่อคนลาก มือไม่ด้านชาตามสภาพอากาศ กุมมือน้อยแน่น

     

    จูงกลับกระโจม(แน่ใจว่าจูง- -")

     

    "ลาคา ไปได้" เสียงเรียบมีอำนาจ

     

    คนรับคำสั่งรีบปฏิบัติตามเพียงไม่ถึงนาที ไม่มีร่างของลาคาอยู่ในกระโจม

     

    (คลายมนต์ซักที) หญิงสาวคิด

     

    "ข้าอยากพัก" ขึ้นเตียงล้มตัวลงนอน

     

    "มา" หญิงสาวไม่อยากมีเรื่องจึงยอมตามใจโดยดี

     

    "ข้าชอบความเงียบ แต่ไม่ได้ยินเสียงเจ้าข้าคงหลับไม่ลง" นิ้วชี้สัมผัสลำคอหญิงสาวปลดมนต์สะกด

     

    "คุณรู้จักน้ำแข็งด้วยรึ" ประโยคแรกทำให้ชายหนุ่มสะอึก

     

    "ชาวมาตามีรู้จักน้ำแข็งหรือไง" น้ำเสียงจับผิด

     

    "มาตามีมีสิ่งที่เจ้ายังไม่รู้อีกมาก" ข่มด้วยน้ำเสียงไม่ให้ช่องโหว่ปริแยก

     

    "พักเถอะ เตรียมตัวรับโทษจากข้าในวันพรุ่ง" ชายหนุ่มพยายามเปลี่ยนเรื่อง

     

    หากไม่สำเร็จ หญิงสาวยังคงติดใจอยู่ดังเดิม ยอมไปก่อนไว้ค่อยหาคำตอบด้วยตัวเอง

     

    (ในแดนมาตามีไว้ใจใครได้บ้าง)ได้แต่คิดไม่มีคำตอบ

     

    อยากกลับบ้านป่านนี้ ฝน นิ่ม โบว์ จะเป็นอย่างไร ความคิดค่อยๆหมุนเวียน

     

    น้ำใสไหลลงร่องแก้ม ร้องจนเข้าสู่ห้วงนิทรา

     

     คนข้างกายลืมตาตื่นก้มลงมองร่างบางมือหนาซับความชื้นออกจากใบหน้า

     

    ตอนแรกความรู้สึกฉาบไปด้วยความเห็นใจแต่แล้วใบหน้ากลับขรึมเครียด

     

    ลากตนเองย้อนสู่อดีตเก่าก่อน

     

     

    "เฟรากัส แม่ต้องไป" น้ำเสียงอาลัยอาวรณ์ยิ่งนัก

     

    "ท่านแม่"

     

    "ไม่ ท่านแม่ ไม่" พยายามฉุดรั้งคนบนเตียง

     

    "ข้าจะไปตามท่านพ่อ" ร่างเล็กวิ่งไปที่ประตู

     

    "ไม่ อย่าไปอยู่กับแม่ " เสียงเรียกของมารดาทำให้รีบวิ่งมาข้างขอบเตียง

     

    "ท่านแม่" หยาดน้ำใสๆ ไหลเปื้อนดวงหน้า

     

    "ไม่ลูก อย่าอ่อนแอ ผู้เป็นใหญ่ ไร้สิ้นน้ำตา" คำสั่งสุดท้ายจากคนเป็นมารดา

     

    "ท่านแม่ อย่าไป" ร่างบนเตียงยิ้ม ก่อนค่อยสลายหายไป

     

     ภาพสุดท้ายในความทรงจำอันแสนเจ็บปวด

     

    นับแต่นั้นไม่มีน้ำตาจากร่างเล็กอีกเลยแม้จะเจ็บปวดเท่าใด น้ำตาไม่เคยไหล

     

    ชายหนุ่มกดทุกความรู้สึกสูญเสียไว้กับ

     

    ++++ผู้เป็นใหญ่ ไร้สิ้นน้ำตา++++

     

     

    แววตาเข้มเจ็บปวดขื่นขม อดีตที่ไม่อาจลบเลือนคอยหลอกหลอนทุกลมหายใจ

     

     ค่ำคืนนี้คงไม่ได้พัก

     

    หลับไม่ลง ลุกออกจากเตียงหากมือคนหลับกลับรั้งแขนเสื้อไว้แน่น

     

    แม้คนดึงก็ไม่รู้ตัว ความอบอุ่นจากปลายนิ้วส่งผ่านเรียกรอยยิ้มจากคนถูกดึง

     

    ล้มตัวลงกอดถนอมร่างในอ้อมแขน หลับสนิทตลอดคืน

     

    10

    เพียงไม่กี่นาทีเมื่อเมตารัสหยุดนิ่งข้างชายป่า เสียงร้องของสัตว์บางชนิดดังก้อง

     

    จากเสียงคาดว่าขนาดตัวคงไม่ธรรมดาแน่ หญิงสาวรู้สึกขนลุกชำเลืองมองรอบข้าง

     

    ยังพบกับความเงียบ ไม่มีผู้ใดขยับ ไม่มีผู้ใดส่งเสียง

     

    (โห นั่นมันตัวอะไรกัน) หญิงสาวมองตรงไปยังทิศเดียวกับที่เมตารัสโผล่ขึ้นมาเงาดำเคลื่อนที่ใกล้เข้ามา ขยายขนาดใหญ่ขึ้น

     

     เจ้าตัวนี้กว้างใหญ่ยังกะสนสิบคนโอบ

     

    สูงประมาณคลื่นซึนามิที่คนญี่ปุ่นตั้งชื่อ จะว่าเป็นคนก็ไม่เชิง หัวเป็นมังกรส่วนตัวเป็นสิงค์ แขนเป็นคน

     

    ขาเป็นนกแถมมีปีกอีกต่างหาก

     

     ลักษณะปีกคล้ายครีบปลามีสีน้ำเงินสด สภาพของเจ้านี่เหมือนภูเขาไฟที่กำลังจะระเบิดและที่แปลกสุดๆ

     

    "เจ้ารบกวนข้า" เจ้านี่ส่งน้ำเสียงดังกระหึม

     

    "ข้าใคร่อยากประลองกับท่าน"คนตรงช่องว่างเปิดปาก

     

    "เจ้ามีสิ่งใดมาแลก" เสียงก้องสั่นกระโสตประสาท

     

    "ลูกนิลเก้าก้อนแลกต่อโลหิตของท่าน" ตาดำมองตรงนิ่ง

     

    "ได้"

     

    จบคำร่างยักษ์เริ่มจู่โจมก่อน สายฟ้าพุ่งตรงไปเฟรากัส ชายหนุ่มพลิ้วร่างหลบเคลื่อนที่ราวกับหายตัวปรากฎยังเบื้องหลังคู่ต่อสู้

     

    บังคับลมรอบกายซาดซัดเข้าต่อกรลมหมุนวนเหมือนสว่านพุ่งเข้าหาเป้าหมาย หากอีกฝ่ายไม่สะกิดผิวแม้แต่น้อย ลูกไฟพุ่งออกจากปากใหญ่

     

    มุ่งไปยังชายหนุ่ม

     

    "น้ำแข็ง"ชายหนุ่มตะโกน

     

     น้ำแข็งนับสิบๆก้อนขนาดเท่าใบลานปะทะกับลูกไฟ เย็นเจอกับร้อนอนุภาพพอๆกันต่างระเบิดกลางอากาศ เศษน้ำแข็งปลิวเข้าไปยังวงพระจันทร์เสี้ยว

     

    ไม่มีผู้ใดหลบ ทุกคนนิ่ง

     

    (ตายแน่ หลบไม่พ้น) หญิงสาวคิด

     

    เศษน้ำแข็งผ่านเข้าไปยังวงพระจันทร์ เพียงข้ามเขตกลับแปรสภาพเหมือนวิญญาณสัมผัสจับต้องไม่ได้ ไม่เป็นอันตรายกับผู้ใด

     

    เมื่อผ่านพ้นวงพระจันทร์ จึงกลับสู่สภาพเดิม เป้าหมายคือต้นไม้ข้างชายป่า

     

    "ซวบ" เปลวไฟร้อนจากมือเมตารัสสลายน้ำแข็งลงในพริบตา ต้นไม้ไม่ได้รับแรงกระเทือนแม้แต่น้อย

     

    สองร่างยังคงผลัดกันรุกรับอย่างดุเดือด ทั้งที่ขนาดต่างกันอย่างเห็นได้ชัดแต่อีกฝ่ายกลับไม่เสียเปรียบ

     

    การประลองจบลงเมื่อเจ้าร่างยักษ์ถูกแสงสีแดงล็อกรอบขาและแขน

     

    เมื่อชายหนุ่มคลายแสงที่ล็อก เจ้ายักษ์จึงเริ่มทำตามข้อตกลง

     

    มือใหญ่ ใช้เล็บแหลมกรีดแขนของตน เลือดสีเขียวข้นไหลลงสู่พื้นและจับตัวกันเป็นกลุ่มก้อน

     

    เหมือนอัญมณีขนาดเท่ากำมือ

     

    "ตามข้อแลกเปลี่ยน" ตาแดงวาวฉาดชัดถึงความไม่สบอารมณ์

     

    ชายหนุ่มยกมือโบกเพียงครั้งเดียวก้อนอัญมณีสีเขียวปลิวเข้าสู่มือหนา

     

    เมื่อร่างยักษ์กางปีกบินจากไป พิธีกรรมจึงเริ่มต้นขึ้น

     

    เมตารัสถอยออกจากช่องว่างสลับให้เฟรากัสยืนประจำตำแหน่งแทน

     

    คนวงในเริ่มสวด วัตถุสีเหลืองสาดแสงเข้าสู่กองไฟ คนตรงช่องว่างบังคับวัตถุในมือพุ่งเข้าใจกลางของกองไฟ

     

    ไฟสีมรกตเปลี่ยนเป็นสีรุ้ง คนวงนอกจึงเริ่มสวด ก้อนหินขยับลอยขึ้นจากพื้น ย่อขนาดเล็กลง

     

    จนเท่ากับวัตถุสีเหลืองต่างกันเพียงแค่เป็นสีขาวบริสุทธิ์ กองไฟตรงกลางดับสนิทวัตถุสีเหลืองจางแสงลงจนสลายไม่เหลือแม้ผุยผง

     

    กลุ่มชนเคลื่อนที่ออกจากเขตพระจันทร์เสี้ยว ต่างมุ่งตรงไปยังวัตถุสีขาว

     

    "ลูกไสย" ใช้สำหรับขอพร" คนข้างกายอธิบาย

     

    (เมตารัส มาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่)

     

    "หนึ่งช่วงต้องมีพิธีหนึ่งครั้ง" ยังอธิบายต่อแม้คนข้างกายนิ่งเงียบ

     

    "จา เหตุใดเจ้าไม่เปิดปาก" น้ำเสียงตัดพ้อ

     

    หญิงสาวชี้ที่ปากของตัวเองจากนั้นยกมือท่าปางห้ามญาติแล้วโบกไปด้านซ้ายและขวา

     

    "เจ้าถูกสะกด" คนตรงหน้าเริ่มเข้าใจ

     

    "กลับ" เสียงห้วน สั้นดังมาก่อนตัว

     

    "ขอตัว" ลากแขนเช่นเคย คนเดิมไม่ใช่ใครที่ไหน(เจ้าเก่า)

    ****^^ *****^^

    อากาศยามมืดหนาวจัด แต่ไม่มีผลต่อคนลาก มือไม่ด้านชาตามสภาพอากาศ กุมมือน้อยแน่น

     

    จูงกลับกระโจม(แน่ใจว่าจูง- -")

     

    "ลาคา ไปได้" เสียงเรียบมีอำนาจ

     

    คนรับคำสั่งรีบปฏิบัติตามเพียงไม่ถึงนาที ไม่มีร่างของลาคาอยู่ในกระโจม

     

    (คลายมนต์ซักที) หญิงสาวคิด

     

    "ข้าอยากพัก" ขึ้นเตียงล้มตัวลงนอน

     

    "มา" หญิงสาวไม่อยากมีเรื่องจึงยอมตามใจโดยดี

     

    "ข้าชอบความเงียบ แต่ไม่ได้ยินเสียงเจ้าข้าคงหลับไม่ลง" นิ้วชี้สัมผัสลำคอหญิงสาวปลดมนต์สะกด

     

    "คุณรู้จักน้ำแข็งด้วยรึ" ประโยคแรกทำให้ชายหนุ่มสะอึก

     

    "ชาวมาตามีรู้จักน้ำแข็งหรือไง" น้ำเสียงจับผิด

     

    "มาตามีมีสิ่งที่เจ้ายังไม่รู้อีกมาก" ข่มด้วยน้ำเสียงไม่ให้ช่องโหว่ปริแยก

     

    "พักเถอะ เตรียมตัวรับโทษจากข้าในวันพรุ่ง" ชายหนุ่มพยายามเปลี่ยนเรื่อง

     

    หากไม่สำเร็จ หญิงสาวยังคงติดใจอยู่ดังเดิม ยอมไปก่อนไว้ค่อยหาคำตอบด้วยตัวเอง

     

    (ในแดนมาตามีไว้ใจใครได้บ้าง)ได้แต่คิดไม่มีคำตอบ

     

    อยากกลับบ้านป่านนี้ ฝน นิ่ม โบว์ จะเป็นอย่างไร ความคิดค่อยๆหมุนเวียน

     

    น้ำใสไหลลงร่องแก้ม ร้องจนเข้าสู่ห้วงนิทรา

     

     คนข้างกายลืมตาตื่นก้มลงมองร่างบางมือหนาซับความชื้นออกจากใบหน้า

     

    ตอนแรกความรู้สึกฉาบไปด้วยความเห็นใจแต่แล้วใบหน้ากลับขรึมเครียด

     

    ลากตนเองย้อนสู่อดีตเก่าก่อน

     

     

    "เฟรากัส แม่ต้องไป" น้ำเสียงอาลัยอาวรณ์ยิ่งนัก

     

    "ท่านแม่"

     

    "ไม่ ท่านแม่ ไม่" พยายามฉุดรั้งคนบนเตียง

     

    "ข้าจะไปตามท่านพ่อ" ร่างเล็กวิ่งไปที่ประตู

     

    "ไม่ อย่าไปอยู่กับแม่ " เสียงเรียกของมารดาทำให้รีบวิ่งมาข้างขอบเตียง

     

    "ท่านแม่" หยาดน้ำใสๆ ไหลเปื้อนดวงหน้า

     

    "ไม่ลูก อย่าอ่อนแอ ผู้เป็นใหญ่ ไร้สิ้นน้ำตา" คำสั่งสุดท้ายจากคนเป็นมารดา

     

    "ท่านแม่ อย่าไป" ร่างบนเตียงยิ้ม ก่อนค่อยสลายหายไป

     

     ภาพสุดท้ายในความทรงจำอันแสนเจ็บปวด

     

    นับแต่นั้นไม่มีน้ำตาจากร่างเล็กอีกเลยแม้จะเจ็บปวดเท่าใด น้ำตาไม่เคยไหล

     

    ชายหนุ่มกดทุกความรู้สึกสูญเสียไว้กับ

     

    ++++ผู้เป็นใหญ่ ไร้สิ้นน้ำตา++++

     

     

    แววตาเข้มเจ็บปวดขื่นขม อดีตที่ไม่อาจลบเลือนคอยหลอกหลอนทุกลมหายใจ

     

     ค่ำคืนนี้คงไม่ได้พัก

     

    หลับไม่ลง ลุกออกจากเตียงหากมือคนหลับกลับรั้งแขนเสื้อไว้แน่น

     

    แม้คนดึงก็ไม่รู้ตัว ความอบอุ่นจากปลายนิ้วส่งผ่านเรียกรอยยิ้มจากคนถูกดึง

     

    ล้มตัวลงกอดถนอมร่างในอ้อมแขน หลับสนิทตลอดคืน

     

    10

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×