ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ห้องรวมเรื่องสั้น

    ลำดับตอนที่ #9 : กอด จูบ โลม เล้า แล้ว ฮากลิ้ง III

    • อัปเดตล่าสุด 20 มิ.ย. 52


    III
     
    ฉีเสิ่นชำเลืองมองกระจกที่สะท้อนให้เห็นเสี้ยวหน้างาม เสียงลมหายใจที่ได้ยินสม่ำเสมอ หากนางขี้เซาจริง มันคงไม่อยากเท่าไรที่คืนนางจะได้ลิ้มลองนางงาม ฮ่องเต้หนุ่มค่อยๆ ขยับพลิกตัว ฟูกที่ยุบลงตามการเคลื่อนไหวทำให้ร่างที่อยู่อีกฟากของเตียงเลื่อนไหลตามความลื่นของผ้าแพรที่ปูมาชิดร่าง ชายหนุ่มซ่อมยิ้ม วางมือลงบนผิวนิ่มๆ นางยังนิ่งไม่โวยวายยังเบียดร่างเข้ามาหาความอบอุ่น มือใหญ่เลื่อนลงรอบเอวบางรั้งให้ร่างนุ่มเข้ามาแนบกว่าเดิม กระตุกเบาๆ เอี๊ยมตัวน้อยก็หลุดมาตามการดึงอย่างง่ายๆ ฉีเสิ่นแตะผ้าแดงกับจมูกเบาๆ กลิ่นหอมอวลด้วยกลิ่นเนื้อนางกระตุ้นเลือดลมร้อนฉ่า ซึ่งมันสร้างปฏิกิริยากับร่างกายที่แนบร่างนุ่มๆ นี่ด้วย
     
    มือเลื่อนลงเกาะกุมอกอิ่มใต้ผืนผ้า ขยับนวดคลึงเบาๆ ศอกแหลมถองกลับมาอีกครั้งแต่เมื่อโดนไปสองครั้งแล้ว ทำให้รู้ตัวล่วงหน้าชายหนุ่มเอี้ยวตัวหลบ เมื่อปลายศอกไม่โดนอะไร ร่างหญิงสาวที่เกร็งอย่างระแวงภัยก็อ่อนลง เสียงระบายลมหายใจออกมายาวๆ ขยับตัวหาที่สบายหลับต่อ
     
    ฉีเสิ่นยันตัวขึ้นชะโงกมองร่างที่เกือบจะนอนคว่ำแถมยังม้วนดึงผ้าห่มเอาเข้าไปกอดเสียอีก เผยแผ่นหลังเปลือยเปล่าขาวเนียนลงไปถึงโค้งสะโพก ด้วยความเห็นใจเจ้าผ้าผืนน้อยที่เกาะอยู่หมิ่นๆ มือหนาเลยช่วยดึงมันลงไปขาเรียวขาว ปลายเท้าอูมตวัดเตะกางเกงผ้าออกไปอย่างรำคาญ
     
    สายตาคมชื่นชมไปตามเรียวโค้งของร่างสตรี น้อยไปนิดบางส่วน มากไปหน่อยในบางส่วน แต่ไม่ทรงรังเกียจเลยที่มากไป
     
     
    โจกงกงถอดเสื้อตัวนอกออกเตรียมตัวจะนอน ซองจดหมายที่ร่วงออกมาจากอกเสื้อ เรียกรอยย่นขึ้นที่หัวคิ้วขาว ขันทีเฒ่าก้มลงเก็บจดหมายออกมาเปิดอ่าน เสียงทหารยามวังเคาะเกราะบอกว่าเวลา ล่วงเลยเที่ยงคืนแล้ว ป่านนี้ข้าวสารคงถูกหุงกลายเป็นข้าวสุก จดหมายฉบับนี้คงไม่สำคัญอะไร โจกงกงจ่อจดหมายเข้ากับเปลวเทียน ก่อนจะทิ้งลงในกระถางดินเผา มองจนไหม้กลายเป็นสีดำทั้งหมด รอยยิ้มอิ่มใจปรากฏบนริมฝีปากจีบย่นด้วยวัยชรา เท่านี้ นางจะได้อยู่ในวังเป็นที่โปรดปรานของโอรสสวรรค์และยามนั้น เขาที่เป็นคนส่งนางเข้าห้องหอจะไม่ได้รับปูนบำเหน็จความชอบบ้างเลยเชียวหรือ
     
     
    เสือเฒ่าสะดุ้งเฮือกราวถูกไฟเผาก้น นางเสือวัยขบเผาะ เอี้ยวคอมามองก่อนตวัดลิ้นเลียใบหน้าให้ เสือเฒ่าคำรามเบาๆ ใช้สองเท้าหน้ากดร่างนางให้นอนนิ่ง หนวดยาวกระดิกดุกดิก ก่อนจะคำรามดังลั่นออกมา 
    นางเสือสาวหดกายด้วยความสยองต่อเปลวไฟที่พ่นออกจากปากเสือเฒ่า ถึงจะอยู่ในเวลาสนด้ายเข้ารูเข็ม แต่หากไม่ไปในทันใด ถึงจะลาออกไม่เป็นทหารยามแล้ว อาจจะโดนราชาตามมาบี้เหมือนสิ่งไร้ค่าได้ง่ายๆ หากรู้ว่าองค์หญิงส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือแล้วเขาไม่ไปในทันที ผละจากนางด้วยความเสียดายยิ่ง นางเสือร้องคำรามอย่างขัดใจ เสือเฒ่าคำรามตอบอย่างขัดใจเช่นกัน
     
    “ข้าคงไปนาน เจ้าไปสรรหาหนุ่มๆ เรี่ยวแรงดีๆ มาเอาใจเจ้าเถอะ หากข้ากลับมาทัน เจ้าค่อยกลับมาหาข้า”
     
    เสือเฒ่าสะบัดกายหนีไม่สนใจการตะปบข่วนของแม่เสือสาว ตั้งจุดหมายก่อนสำรวมจิต ร่างเสือเฒ่าหายวับไปจากรังรักทันที
     
     
     
    ฉีเสิ่นแตะปลายนิ้วพรมลงบนผิวเต่งตึงบริเวณโค้งสะโพกเย้ายวนตา ยังไม่ทันจะลงเต็มฝ่ามือ ช่องอากาศที่แตกลั่นเปรี๊ยะทำให้ต้องหันไปคว้ากระชากดาบออกจากฝัก
     
    ทันทีที่เสือเฒ่าเห็นร่างบางเปล่าเปลือยบนเตียง มันคำรามลั่น ส่งเสียงขู่เจ้าลูกศิษย์คนโปรดให้ถอยห่างออกจากเตียง ตัวมันยืนขวางหน้าเตียง ส่งเสียงคำรามลั่นของเสือปลุกนางที่หลับใหลตื่นจากนิทรา
     
    “เจ้า นี่เจ้ากล้าล่วงเกินองค์หญิงของข้าหรือ”
    เสียงอาจารย์เสือเฒ่าคำรามลั่นแถมวันนี้มาในร่างเสือชวนให้สยอง ขนาดยืนสี่ขาสันหลังมันจะสูงเกือบเท่าชายร่างสูงอย่างเขา ฉีเสิ่นไม่กล้าละสายตาจะเขี้ยวเล็บแหลมคมขนาดยักษ์ตรงหน้า
     
    ร่างบางที่เพิ่งตื่น กอบผ้าห่มมาคลุมร่าง หวีดร้องยกเท้าถีบเจ้าเสือเฒ่าที่มาช้าอย่างสุดแรงโมโห ส่งสัญญาณเรียกไปตั้งเป็นนานทำไมเพิ่งมาช่วยนาง ปล่อยให้นางถูกล่วงล้ำ แถมยังไม่รู้สึกตัวเสียอีก
     
    ร่างใหญ่โตของเสือขนาดยักษ์กระเด็นไปปะทะฉากกั้นล้มระเนระนาด เสียงทหารองครักษ์วิ่งกรู
     
    “ไม่มีอะไร” ฉีเสิ่นรีบส่งเสียงออกไปก่อน
    “นางเมา พวกเจ้าออกไปให้ห่าง”
     
    เงาทหารเริ่มออกห่างห้องบรรทม อาจหัวหายได้ง่ายๆ หากเห็นร่างเปลือยของนางสนมสักแวบเดียว
     
    ฉีเสิ่นหันมามองแม่สาวน้อยนักบู๊อย่างถูกใจ เสือตัวใหญ่ยักษ์ถูกสาวน้อยร่างบอบบางที่เอาผ้าห่มคลุมตัวรุ่มร่ามไล่ถลุง โดยอาจารย์เสือเฒ่าไม่กล้าหลบหลีกเสียด้วย ท่ามกลางเสียงกรีดร้องต่อว่าที่เขาไม่เข้าใจ
     
    “ข้าเรียกท่านตั้งนานแล้วทำไมไม่มา ปล่อยให้ข้าเสียท่าฮ่องเต้”
     
    “ง่าองค์หญิง ข้ารีบมาแล้วน้า” เสือเฒ่าโอดครวญ
     
    “ไปเลยไป มาอะไรเอาปานนี้”
    หญิงสาวทั้งทุบตีผลักไสร่างใหญ่โตทั้งน้ำตา
     
    คำสั่งศักดิ์สิทธิ์มีหรือจะไม่รีบทำตาม ทั้งๆ ที่อยากปลอบโยนองค์หญิงที่พิทักษ์ปกป้องมาตั้งแต่ยังน้อย สิ่งเดียวที่ทำได้ เสือเฒ่าหันไปทางศิษย์เอก ส่งเสียงคำรามลั่นก็เรียกลายเสือคืนมาประดับบนร่างคืน ก่อนจะหายวับกลับไปรังรัก แม่เสือเร้าร้อนไม่ได้อยู่รอ นางคงไปหาเสือหนุ่มมาดับอารมณ์นาง แล้วตอนนี้เสือเฒ่าก็ไม่มีอารมณ์เสียแล้ว ร่างเปลือยขององค์หญิงยังติดตา ร่างใหญ่โตสั่นระริก โอ้องค์ราชา มันจะอยู่กับความหวาดระแวงว่าเมื่อไรองค์ราชาจะมาเด็ดชีพ ปลิดวิญญาณมันไป
     
    ฉีเสิ่นก้มลงประคองร่างบางไปนั่งที่เตียงจัดผ้าคลุมรอบร่างมิดชิดโอบไว้หลวมๆ ตบหลังเบาๆ ปลอบแม่สาวน้อยที่ร่ำไห้ไม่หยุด
     
    “เจ้าจะร้องไห้ไปทำไมคนเก่ง เสือตัวใหญ่ขนาดนั้นเจ้ายังไล่ไปได้”
     
    “ข้า...”
    ดวงหน้าหวานที่เงยมองแม้ขนตาจะชุมน้ำตา แป้ง ชาด เครื่องประทินผิวที่แต่งแต้มมาอย่างดี เละเปะเปื้อนใบหน้า แต่ในสายตาของเขาแล้ว นางยังงดงามอย่างยิ่ง นิ้วเรียวแตะลงบนริมฝีปากสั่นระริก ก่อนลุกไปบิดผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้า เหลือเพียงผิวแก้มใสระรวบกลิ่นหอมของเนื้อสาวแท้ๆ รินเหล้าส่งให้จนแก้มเริ่มแดงปลั่งอีกครั้ง นั่นล่ะ ฮ่องเต้หนุ่มถึงนั่งลงข้างๆนางอีกครั้ง พยักหน้าให้นางได้พูด
     
    “ข้า...”แก้มแดงๆ ยิ่งแดงขึ้น
    “ข้าไม่รู้ว่า”
     
    แค่แก้มแดงๆ ก็ทำให้ฮ่องเต้หนุ่มที่จัดเจนคาดเดาได้ว่านางจะพูดอะไร ฮาฮาฮา สวรรค์เข้าข้างข้าอีกแล้ว โน้มตัวลงใกล้จนร่างบางเอนนอนลงกับที่นอนนุ่มอีกครั้ง
     
    “เรามาทบทวนกัน”
     
     
    จบแล้ว
     
    แซวคนอื่นได้ เขียนเอง เขียนไม่ออกเสียอย่างนั้น
    นี่คือเรื่องการพบกันของ ท่านพ่อและท่านแม่ ของสาวโบตั๋น จากเรื่อง DEVIL&PEONY หัวใจของปิศาจ ค่ะ
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×