ลำดับตอนที่ #8
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : กอด จูบ โลม เล้า แล้ว ฮากลิ้ง II
II
ฮ่องเต้เสด็จเข้ามาหวังจะได้เชยชมหญิงงาม หากหญิงสาวที่ต้องพระประสงค์กลับนอนหลับพริ้ม บนแก้มนวลยังมีรอยยิ้มน้อยๆ เหมือนนางฝันดี ฝังจมูกลงสูดกลิ่นเนื้อนวลบนแก้มอิ่มหวังให้นางตื่น นางเพียงส่งเสียงกิ๊ก เหมือนจักกะจี้ บิดตัวหนี ก่อนจะซุกเข้าไปในเสื้อคลุมสีแดงสดหลับต่อ
ฉีเสิ่น นั่งลงบนเตียงข้างๆ ร่างบาง ไม่เห็นแม้ผิวในร่มผ้านางสักน้อย ไม่เห็นแม้สัดส่วนอันชวนใจ ทุกอย่างอยู่ภายใต้เสื้อคลุมสีแดง ข้าจะทำเช่นไร เชยชมนางทั้งๆที่นางยังหลับ ดวงหน้าคมส่ายไปมาปฏิเสธตนเอง ฮ่องเต้หนุ่มหลับตาส่งจิตเรียกหาอาจารย์
“อาจารย์ อาจารย์”
“อันใด”
เสือเฒ่าตวัดเสียงตอบลูกศิษย์ที่ทิ้งลายเอาไว้ให้อย่างหงุดหงิด ตามองนางพยัคฆ์น้อยที่เยื้องย่างส่ายสะโพกมาใกล้
“นางหลับ”
“หลับ...ก็ปลุกนางซิ” เสือเฒ่าบอกอย่างหงุดหงิด
นางหลับก็ปลุกนาง หรือข้าต้องบอกเจ้าอย่างละเอียดว่าต้องเริ่มปลุกนางที่ส่วนใด คิดอย่างรำคาญใจกับการรบกวนของลูกศิษย์ในเวลาที่ไม่สมควร แม่เสือน้อยลากหางมาใกล้ ก่อนสะบัดกลับตัวตรงหน้า ทิ้งกลิ่นหอมฉุนเฉียวให้หัวใจเฒ่าสั่นไหว ยังมิพอ หางยาวของนางยังแตะบนศีรษะก่อนลูบผ่านจมูกกระตุกกลับพ้นคมเขี้ยวของเสือเฒ่าพอดิบพอดี แม่เสือสาวเชิดหน้า ทิ้งสะโพกเดินนวยนาดจากไปช้าๆ
ร่างใหญ่โตของเสือโคร่งขาวขนาดใหญ่ขยับลุกขึ้น
“ข้ากำลังยุ่ง อะไรๆ ก็สอนเจ้าไปแล้ว หากคิดไม่ได้ ลองเริ่มจากบทที่หนึ่งก็แล้วกัน”
เท่านั้นก็ตัดการติดต่อ ร่างใหญ่โตย่างก้าวตามแม่เสือน้อยจอมยั่วไป บรรดาเสือหนุ่มที่ขยับจะตามแม่สาวน้อยแสนเร่าร้อนต่างพากันทิ้งกายลงนอนตามเดิม เมื่อร่างใหญ่โตสีขาวโผล่พ้นปากถ้ำ เสียงคำรามกระหึ่มของเสือขาวราวกับเป็นสัญญาณ แม่เสือน้อยที่เห็นว่าเยื้องย่างช้าๆ ตะกุยเท้า ยืดตัว ก่อนทะยานหนีอย่างรวดเร็ว เสือขาวรอจนร่างนางเสือเป็นเพียงจุดเล็กๆ ก่อนเริ่มการไล่ล่า ข้าหวังว่านางจะคุ้มค่าแก่การออกแรงของข้า เสือเฒ่ารำพึงเมื่อเร่งฝีเท้าจนเห็นหางแกว่งไกวของนางเสือ ข้าชักจะแก่เกินไปแล้ว
ปลุกนาง เริ่มจากบทที่หนึ่ง...จูบ
ปากขยับเป็นรอยยิ้ม จูบเจ้าได้ที่ใดไป๋อิง ดวงหน้าหลับแสนน่ารักของเจ้าที่ข้าได้เชยชิดเพียงนิดก็ถูกซุกแอบเข้าไว้ภายใต้ผ้าสีแดงแล้วเช่นนี้
เอ๊ะ ไม่ใช่ บทที่หนึ่ง คือ...กอด...มิใช่หรือ ทรงปลดเปลื้องชุดชั้นนอกออกเหลือเพียงชุดข้างในก่อนทอดกายลงข้างร่างน้อย โอบประคองร่างหอมเข้ามาในอ้อมกอด
อุ๊บ !!! แรงกระแทกเหมือนตีศอกเข้าเต็มท้องก่อนร่างนุ่มนิ่มจะขดอยู่ในอกราวแมวตัวน้อยๆ
ฉีเสิ่น รอจนแรงจุกเสียดค่อยๆ หายไป จึงค่อยๆ ดึงเสื้อคลุมสีแดงออก จากร่างบาง ผลิกร่างน้อยขึ้นมาบนตัวก่อนจะดึงส่วนที่นางนอนทับโยนลงจากเตียง
ร่างน้อยหากทรวดทรงที่นอนก่ายเกยอยู่บนร่างไม่ได้น้อยไปสักนิดมากกว่าที่คิดตอนที่เลือกนางมา ท่ามกลางนางงามนับร้อย มีเพียงนางเดียวที่มองเห็น รอยยิ้มขำขัน ดวงตาที่มองตรงไม่หลบเอียงอายเช่นนางอื่น ให้ทรงมองเห็นดวงตางามที่ไหวระริกด้วยอารมณ์สนุกสนาน ท่าทีกระชดกระช้อย ยามย่อกายลงตรงหน้า ริมฝีปากอิ่มแย้มเป็นร้อยยิ้มเหมือนนางจะขันตัวเองมากกว่าจะชม้ายตามาทอดเสน่ห์ให้พระองค์ ท่ามกลางสาวงามมากมาย มีเพียงนางที่โดดเด่น นางม้าตัวเปรียวที่ทะนงในตนเอง รักที่จะวิ่งโลดแล่นเพียงลำพัง ทรงประสงค์ม้าประเภทนี้ อยากฝึกนางม้าให้ยอมเพียงให้พระองค์ควบขี่ ยอมให้เพียงพระองค์เท่านั้นสัมผัส เฝ้ารอเพียงพระองค์ผู้เดียว
ร่างน้อยที่ทอดกายอยู่ข้างบน ขยับตัวหาท่าสบาย เรียวขางามแยกห่างขยับตัวทอดแขนอ่อนช้อยขึ้นโอบรอบศอ ใบหน้างามเกลือกกลิ้งกับอุระกว้างก่อนจะมาซบลงใต้หนุ กายหนุ่มร้อนฉ่า หากมิใช่เพราะเชิงชายที่เจนจัดเล็งเห็นว่านางบริสุทธิ์ปานน้ำค้าง คงจะเปลี่ยนความคิดว่านางนี้ผ่านการฝึกสอนมาเพื่อยั่วยวนโดยเฉพาะเสียแล้ว
โอบแขนรอบร่างนุ่ม ปัดไล้ผมยาวนิ่มให้พ้นผิวงาม หวงแหนผิวกายเนียนละเอียดแม้แต่ผมของเจ้าของร่างเอง ผิวงามเช่นนี้ นิ้วมือแตะลงกับต้นคอนุ่ม จุดบรรจบของเชือกเส้นน้อยที่ผูกเอี๊ยมชั้นใน ปลายนิ้วเรียวลูบไล้ลากไปตามเส้นเชือก ผิวนางนุ่มละมุมกว่าเชือกไหมเสียอีก น่าเสียดายที่ผิวงามๆ เช่นนี้ต้องถูกเสียดสีด้วยผ้าที่หยาบกับผิวนาง ทรงถอนหายใจด้วยความเสียดาย มือค่อยๆ ลูบผ่านลงไปตามโค้งกระดูกสันหลัง ร่างน้อยแอ่นขึ้นราวกับแมวยามถูกเจ้านายลูบไล้ ให้รางวัลร่างบางด้วยการลูบไล้หนักมือขึ้นอีกนิด ขยับนิ้วนวดเฟ้น หญิงสาวในอ้อมกอดส่งเสียงคราง นางขยับตัวเบียดมือ ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ หลับไปอีกครั้ง วันนี้คงเป็นวันที่หนักหนาสำหรับนาง หากนางไม่ตื่นคืนนี้คงเป็นคืนที่ยาวนานสำหรับพระองค์
มือเริ่มเลื่อนไล้ลงไปตามร่องแผ่นหลัง ผ่านปมเชือกอีกปมที่กลางหลังก่อนจะพบเชือกยึดเส้นสุดท้ายที่เอวกิ่ว ก่อนจะเป็นเอวกระโปรงบานผ้าเนื้อบางยามลูบผ่าน สัมผัสแทบไม่ผิดกับยามลูบไล้ผิวเปลือยบนแผ่นหลัง ปลายนิ้วซาบซ่านยิบๆ มือลูบย้อนกลับมาที่เอว ร่างน้อยยังไม่มีปฏิกิริยาใดนอกจากเสียงถอนหายใจน้อยๆ มือใหญ่ค่อยๆ ลูบไปตามเอวประโปรงเพื่อหาปมเชือกที่ยึดตัวกระโปรงไว้ คนที่แต่งตัวให้นางผูกเป็นเงื่อนเอาไว้ด้านหน้า ฮ่องเต้หนุ่มถอนหายใจ นางกำลังอยู่ในตำแหน่งที่ดีอยู่แล้วแท้ๆ ปมเชือกกลับไปอยู่ผิดที่
ค่อยๆ พลิกร่างนุ่มนิ่มลงข้างล่าง หญิงสาวส่งเสียงถอนหายใจยืดยาว ขยับตัวอีกเล็กน้อย นางก็นอนตะแคงเกือบนอนคว่ำ แล้วนิ่งสงบไปอีกครั้ง
ฉีเสิ่นขยับนอนแนบแผ่นหลังขาวนวลมือสอดรอบเอวบาง ลูบเลยไปหาเงื่อนกระโปรงก่อนคลายออกช้าๆ สะโพกกลมกลึงขยับเล็กน้อย ขอบกระโปรงเลื่อนลงมาค้างที่โค้งสะโพก ฮ่องเต้หนุ่มเลื่อนมือขึ้นตามหน้าท้องเนียน เลื่อนไปตามลายปักดอกไม้และนกฮวงเอ็งบนเอี๊ยมสีแดง ร่างน้อยกระถดถอยหลังเบียดเข้ามาสู่อ้อมอก มือใหญ่นวดคลึงตัวนกน้อยเบาๆ อกอิ่มเบื้องหลังตัวนกไหวสะท้านกับแรงบีบที่ไม่คุ้นเคย
ศอกหลังตีเข้าเต็มอกดังปึก ฮ่องเต้งอตัว ปล่อยมือจากเนื้อนุ่มนิ่มมากุมอกตัวเอง เรี่ยวแรงมหาศาลเกินร่างบอบบาง ปล้ำเสียดีไหม ชายหนุ่มคำรามตามสัญชาติญาณดิบ
การขยับตัวครั้งนี้ของหญิงสาว ทำให้เกระโปรงร่นลงไปอีก ปลายเชือกไหมสีแดงที่เอวหลุดออก เปิดลำตัวด้านข้างอวดผิวเนื้อขาวผ่อง
ฉีเสิ่นก้มลงประทับจูบลงบนเนื้อนวลที่เผยต่อสายตา ผิวเนื้ออ่อนขยับไหว ก่อนเจ้าของร่างที่ถูกลวนลามโดยไม่รู้ตัวจะสะดุ้งพรวด ถอยร่นไปแทบตกเตียง
ไอริสมือหนึ่งกุมเสื้อแนบไว้กับอก อีกมือดึงกระโปรงที่ไปค้างอยู่ตรงต้นขาเอาไว้ ชายกระโปรงส่วนที่เหลือถูกทับอยู่ใต้ร่างสูงที่นอนคว่ำหน้าทิ่มตรงนั้น
“เจ้า เจ้า”
ไอริสตวาด แล้วแทบพูดไม่ออก นางมาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร แล้ว ใครช่างบังอาจเข้ามาในห้องนอนของนางได้
ถึงเรื่องแบบนี้ในโลกปีศาจถือเป็นเรื่องปกติ เมื่อจากบ้านเข้าสู่โรงเรียน บางคนจับคู่อยู่ด้วยกันอย่างเปิดเผยหากยังไม่ได้ทำการผูกพัน เพราะชาวโลกปีศาจแท้ๆ ต่างมีบุตรยากเย็น ประเพณีที่รักษาตัวไว้รอคู่ครองจึงค่อยๆ ถูกละเลยและเลือนหายไป ต่างทดลองอยู่ด้วยกัน หากสามารถให้กำเนิดจึงแลกเปลี่ยนคำสาบาลกันก็มี หากแต่มีที่ยังยึดถือ หากเลือกจะกล่าวคำปฏิญาณแล้ว จะไม่ถอนคำมั่นที่ให้ไว้แก่กัน
สำหรับตัวนางเอง เพราะนางถูกคาดหมายให้ครองคู่กับผู้เป็นน้องชาย จึงไม่มีหนุ่มๆ ปีศาจตนไหนกล้าเข้ามาทาบทาม แล้วคนผู้นี้เป็นใคร ช่างบังอาจ
ชายที่รุกล้ำเข้ามาให้ห้องของานง ขยับตัวเงยหน้าขึ้น ไอริสอ้าปากค้าง ฮ่องเต้ เป็นไปได้อย่างไร
“ท่านเข้ามาในห้องนอนข้าได้อย่างไร”
“เจ้าต่างหากที่เข้ามาในห้องนอนข้า”
ฉีเสิ่นตอบ ขยับตัวลุกขึ้นนั่งให้สบายบนเตียง
ไอริสมองฮ่องเต้หนุ่มที่ถึงจะขยับตัวนั่งพิงตัวเตียง แต่ยังพาดขาเหยียบทับชายกระโปรงของนางเอาไว้ทำให้ไม่สามารถดึงกระโปรงขึ้นมาได้ และทำให้นางยังต้องกดสองมือไว้ต้องตำแหน่งเดิม หากนางไม่อยากจะโป๊
ฮึ่ม หากไม่กลัวตกใจเสกคาถาแป๊บเดียวนางก็ได้อยู่ในชุดใหม่เรียบร้อยแล้ว
ฮ่องเต้ทอดพระเนตรมองนางสนมที่ทรงเลือกให้ถวายตัวด้วยองค์เอง ภายใต้แสงเทียน ผิวขาวผุดผ่อง การตื่นขึ้นมาของนาง ลมหายใจหอบตกใจยิ่งทำให้กลิ่นหอมที่ผิวลอยออกมาเข้มข้นขึ้น กลิ่นที่ชวนให้มึนเมา กลิ่นน้ำหอมผสานกลิ่นกายของนาง ราตรีนี้ยังเยาว์นัก ยังมีเวลาอีกยาวนานที่จะชื่นชมสาวงามนางนี้
“ข้า...”
ไอริสจะส่งเสียงเถียง หากนางจะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นความจริงหรือไม่ เจ้าเฒ่าครึ่งชายครึ่งหญิงทำลับๆ ล่อๆ ให้นางนอนในวังหลวง หรือคิดจะส่งนางให้ฮ่องเต้รับประทานต่างอาหารว่าง ข้าไม่ใช่ของกินยามว่างนะ
ดวงตาวาวโรจน์ขึ้นของสาวน้อยยิ่งทำให้ประทับใจ
“ข้าเลือกเจ้ามาอยู่กับข้าในคืนนี้”
“ท่านเลือกข้า ท่านเป็นผู้ใด ถึงมีสิทธิเลือกข้า”
ไอริสยืดอกอย่างทะนงในศักดิ์ศรีของเจ้าหญิงแห่งเผ่าปีศาจ นางลืมไปว่าการทำเช่นนั้น ยิ่งเป็นการอวดโฉมโนมพรรณให้เห็นถนัดตายิ่งขึ้น และคนที่เห็นเพียงแต่ขยายรอยยิ้มกว้าง โดยไม่ได้ตักเตือนอะไรนาง
“ข้าคือโอรสสวรรค์ เป็นจักรพรรดิของโลกนี้”
“ข้าไม่ใช่คนของโลกนี้ เราเผ่าปีศาจไม่ร่วมทางกับสวรรค์มาเนิ่นนานแล้ว”
ฉีเสิ่นเลิกคิ้วสูง นางพูดถึงอะไร โลกปีศาจ โลกสวรรค์ หากดวงตาแจ่มใสบนดวงหน้าหวาน ยากจะตัดสินว่านางเป็นบ้า
“ข้าเป็นโอรสสวรรค์ เจ้าเป็นเจ้าหญิงเผ่าปีศาจ ไม่ดีหรือเรามาสานต่อสัมพันธ์กันอีกครั้ง”
“ข้าไม่อยาก”
นางสะบัดหน้าหนี พยายามดึงกระโปรงกลับมา ฉีเสิ่นขยับตัวให้นางดึงกระโปรงกลับไป ขยับไปรินเหล้ามงคลลงจอกมาส่งให้ น่าแปลกที่นางรับมาดื่มได้ราวกับน้ำเปล่า ปลายลิ้นเล็กๆ แลบเลียหยาดน้ำเมารสร้อนแรงเหมือนยังไม่หายอยาก
“เอาอีกหรือไม่”
เมื่อเห็นนางพยักหน้าอย่างกระตือรือร้น จึงรินให้อีกจอก และอีกจอก มองแก้มแดงปลั่งขึ้นทันใดราวผลท้อสุก
“หากเจ้าจะแต่งตัว”
ฉีเสิ่นเดินไปวางกาสุราที่มองลงทำมือบอกให้นางทำตัวตามสบาย เมื่อนางยังนั่งโอนเอนอยู่ตรงนั้นไม่ได้ขยับแต่งตัวให้เรียบร้อย
หน้าที่แดงอยู่แล้ว แดงจัดขึ้น
“ข้า ข้า แต่งตัวไม่เป็น”
ไอริสารภาพ นางมีเวทย์เปลี่ยนเสื้อผ้าเองได้ และชาวโลกปีศาจใช้เวทย์มนตร์ราวกับเป็นของธรรมดา
“อา มาข้าจะช่วย” ฮ่องเต้หนุ่มซ่อนยิ้ม
“ไม่เป็นไร” นางไม่ใช่จะไร้เดียงสานัก
“ท่านออกไปนอนที่อื่นได้หรือไม่”
“ทำไมเล่า เตียงนี้กว้างพอสำหรับเรา”
ชายหนุ่มถอดเสื้อออก กำลังยื่นมือไปที่เชือกผูกกางเกงเมื่อได้ยินเสียงร้องเบาๆ จากหญิงสาว เมื่อเงยหน้ามอง นางเอามือปิดหน้า ฮ่องเต้หนุ่มหัวเราะเบาๆ เปลื้องเสื้อผ้าจนเปลือยเปล่าเห็นร่างกำยำชัดเจน ก้าวขึ้นเตียงสอดกายลงใต้ผ้าห่ม
“เอาล่ะเจ้าลืมตาได้แล้ว”
ไอริสกางนิ้วห่าง ตรงหน้านางไม่มีบุรุษร่างงามเกือบเปลือยอวดหุ่นที่ทำเอาใจนางสั่นสะท้าน ค่อยถอนหายใจอย่างโล่งอก ทิ้งมือลง
ฉีเสิ่นลอบยิ้ม ยามลืมตัวนางทิ้งลงทั้งสองมือ มือที่ปิดตาและมือที่กดผ้าไว้กับอก สายเอี๊ยมที่ถูกกระตุกไว้หลวมทำให้ผ้าผืนแดงที่ปิดทรวงอกขาวค่อยๆ เลื่อนตัวลงมาปิดบังอกอวบงามได้เพียงหมิ่นเหม่
ฮ่องเต้หนุ่มพลิกตะแคงหันหลังให้เสีย ซ่อนรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของเสือที่อาจารย์เฒ่าฝากลายเอาไว้
ไอรีสมองไหล่กว้างที่ตะแคงหันหลังให้อย่างไม่แน่ใจนัก นางกั้นหายใจรออยู่นานเมื่อไม่เห็นฮ่องเต้หันหลังมา จึงค่อยๆ ทอดกายลงนอน ไม่กล้าขยับผูกเชือกให้แน่นหนากลัวว่าจะปลุกคนที่นอนนิ่งให้ตื่นขึ้นมาอีก ค่อยๆ ดึงชายผ้าผืนใหญ่มาคลุมร่าง
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น