ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รัก...ก็บอกให้รู้สักนิดซิ

    ลำดับตอนที่ #8 : คนนี้ ใช่เลย

    • อัปเดตล่าสุด 11 เม.ย. 49


    บทที่ 8 คนนี้ใช่เลย

     

                    สุราลัยเข้าเรียนเกษตร ที่เกษตรจนได้ แต่ช่องว่างระหว่างตัวเธอและจ๋อม ยังคงเท่าเดิม แต่กับมีคนหนึ่งก้าวเข้ามาใกล้มากขึ้น

     

              พี่จินต์มาธุระแถวนี้หรือคะ

     

                    สุราลัยทักอย่างยินดี จินต์ยิ้มตอบ ทำให้สุราลัยอดยิ้มด้วยไม่ได้ ยังไงๆ เธอก็ชอบรอยยิ้มของพี่จินต์ หน้าขาวๆ ฟันขาวๆ มีลักยิ้มสีชมพู เฮ้ย ชักเพ้อใหญ่แล้ว

     

              ครับ มาหาเพื่อนครับ น้อยล่ะ เรียนเสร็จแล้วหรือ

     

              เสร็จแล้วค่ะ น้อยกำลังจะกลับบ้านพอดี

     

                    เธออยู่กับพี่น้อง เพราะใกล้มหาวิทยาลัยมากกว่า แล้วบ้านพี่จินต์ก็อยู่แถวนั้น สุราลัยส่งยิ้มประจบเต็มที  การมีคนขับรถให้นั่งโดยเฉพาะคนที่ถูกใจ ย่อมดีกว่านั่งรถประจำทางกลับบ้านแน่นอน

     

                    จินต์มองรอยยิ้มหวานของสาวน้อยตรงหน้า ที่อะไรที่คิด ส่งออกมาทางสายตา ท่าทางหมด เจ้าหล่อนเป็นอย่างนี้กับเขาคนเดียว หรือกับใครๆ ก็เป็นอย่างนี้นะ เขายิ้มมากขึ้น

     

              พี่เสร็จธุระพอดีเหมือนกัน ไปกินข้าวกับพี่ไหม พี่เลี้ยง

     

              ด้วยความยินดีเชียวค่ะ สุราลัยโค้งรับ แล้วทำหน้าแหยๆ เมื่อนึกถึงนัดที่รับปากเอาไว้ได้

              น้อยนัดเพื่อนไว้

     

              ไม่เป็นไร พี่รับเลี้ยงแทนก็ได้ชายหนุ่มบอกยิ้มๆ

     

              ชอบล้อน้องเรื่อยเลย สุราลัยบ่นอุ๊บอิ๊บ

     

                    พี่จินต์ชอบทำหน้ายิ้มๆ เหมือนเธอทำอะไรตลกเรื่อยเลย ถามตรงๆ ก็แล้ว เขาก็ว่าเขายิ้มของเขาอย่างนี้  แต่มันไม่ใช่แค่ยิ้มของเขาอย่างนี้นะซิ  แต่ช่างมันเถอะ ให้เขาน่ารักกับเธอ ไม่ขัดใจ ตามใจก็พอแล้ว พี่นนท์เล่นแรงกว่านี้ยังไม่ว่ากัน ตอนนี้พี่นนท์ไปประจำที่ขอนแก่น บ่นว่าเหงาๆๆ ก็ไม่เห็นจะกลับบ้าน

     

              แต่ก็ได้ค่ะ สุราลัยโบกมือเรียกเพื่อนที่เดินมาพอดี

     

              ไปเหอะเธอเรียกเพื่อน หาเจ้ามือได้แล้ว

     

              เราไม่ไปด้วยแล้วล่ะ ชายหนุ่มผิวคล้ำตอบ

     

              ทำไมล่ะ เสียงสุราลัยคงแสดงอารมณ์กังขาออกมาได้อย่างชัดเจน

     

              นั่นซิ พี่เลี้ยงเอง จินต์ออกรับ มองเพื่อนหนุ่มนักศึกษาของสุราลัยยิ้มๆ รอยยิ้มที่สุราลัยกังขาเรื่อยว่า เขาขำอะไร

     

              เราจะไปดูหนังกับวี หญิงสาวท่าทางเปรี้ยวที่เดินมากับชายหนุ่มตอบแทน

              นายไปเถอะ ยืมตัววีไว้สักวันหนึ่ง

     

              แหม เลี้ยงหนังเราด้วยดิ สุราลัยร้อง

     

              นายไม่ไปเราไปเองก็ได้ ชุลีพรฉุดแขน วีรวัตรให้เดินตามมา

              ยืมตัววันนะ เจ้าใหญ่ แถมยังหันมาทำหน้าล้อๆ อีก

     

              แหม ท่าทางสุราลัยทำให้จินต์ต้องกลั้นยิ้ม

     

              เสียใจด้วยนะ พี่เข้ามาเลย...

     

              ไม่เป็นไรค่ะ ไปดีกว่า พี่จินต์เลี้ยงน้อยนะ

     

              เป็นไรไป แถมหนังอีกรอบด้วยนะ

     

              ขอบคุณค้า สุราลัยยิ้มร่า ออกเดินลิ่วๆ ไปพร้อมกับจินต์

     

                    ชุลีพรรอจนสุราลัยกับจินต์ลับสายตาไปแล้วจึงหันมามองคนที่ตนฉุดให้เดินมาด้วย อย่างเวทนาเต็มที นายวีรวัตรมันไปมุดอยู่รูไหนถึงไม่รู้ว่าพี่จินต์มาประกาศตีตราจองสุราลัยไว้แล้ว เขารู้กันตั้งแต่ยังไม่พ้นเทอมแรก

     

                    วีรวัตรมองหน้าเพื่อนสาวที่ฉุดเขามาแล้วอยู่ๆ ก็ทิ้งแขนฉับ อย่างงงๆ

     

              นายจะกลับก็กลับได้แล้ว ชุลีพรโบกมือให้

     

              มันเรื่องอะไรของนาย วีรวัตรถามอย่างไม่เข้าใจ

     

              นายไม่อยากไปกับคู่นั้นใช่ไหมล่ะ ถ้านายบอกแค่นั้นจ้างให้ใหญ่ก็ไม่เชื่อ นายอกหักหรือยังล่ะ

     

                    คำถามตรงๆ ของชุลีพรทำให้วีรวัตรอดยิ้มไม่ได้ แต่ก็จริง วีรวัตรไม่ปฏิเสธใจตนเองว่าชอบสุราลัยมากกว่าแค่เพื่อน และสุราลัยก็ดูเหมือนจะโอนเอนมาทางเขาไม่น้อย แต่เขาก็รู้สึกว่าไมตรีที่มีให้แค่ เพื่อน

     

              ยังไม่รู้ นายอ้างว่าไปดูหนังก็ต้องไปซิ เราเลี้ยงเองวีรวัตรบอกเพื่อนสาว

     

                    โชคมันคงจะช่วยกว่านั้นนะ ถ้าทั้งสองคู่ไม่ไปจ๊ะเอ๋กันที่โรงภาพยนตร์เดียวกัน

     

     

    ^_^

     

    จาก กระท่อมแม่มด

    ถึง ปราสาทกลางทะเลทราย

     

    จ๋อมจ๊ะ

     

                    นายเคยเห็นผู้ชายงอนๆ ไหม มันน่าตลกนะ

     

                    จ๋อมเมื่อไรเราจะหานายเจอเสียทีนะ เราสังหรณ์ว่านายจะอยู่ใกล้ๆตัวเราเสมอ แต่ตอนนี้สิ่งที่อยู่ใกล้เรามากที่สุดก็คือกระดาษเขียนถึงนายนี่ไงล่ะ คนที่อยู่ใกล้เราที่สุดคือพี่จินต์ นายช่วยตอบแทนเราหน่อยได้ไหมล่ะว่าความรักคืออะไร เราจะได้นำมาตอบพี่จินต์ เขาถามเราเมื่อกี้ว่า

     

              น้อยจะไปอยู่กับพี่ไหม

     

              อยู่ยังไงล่ะคะ เราถาม พี่จินต์ถอนหายใจเฮือกใหญ่

     

              งั้นเปลี่ยนคำถาม ชอบพี่บ้างไหม

     

              ชอบซิคะ ไม่งั้นน้อยคงไม่คบกับพี่จินต์นานอย่างนี้หรอก

     

              งั้นอีกคำถามซิ รักพี่ไหม

     

                    เราหัวเราะ

              พี่จินต์ถามรักแบบไหนล่ะฮะ

     

              ผู้ชายผู้หญิง ท่าทางพี่จินต์จะมีความกังวลว่าผิดหวังควบกับความหวัง

     

              น้อยตอบไม่ได้หรอก เพราะน้อยตอบก็เท่านั้นเอง

     

                    สีหน้าพี่จินต์เซียวเชียว เรานี่ไม่น่าแกล้งเขาเลย  แต่เราตอบเขาไม่ได้หรอก จนกว่าจะได้ยินคำตอบจากนาย เพราะเรารู้สึกว่านายจะเป็นส่วนหนึ่งของเรานะจ๋อม

     

              งั้นคำถามสุดท้าย น้อยจะไปอยู่ที่บ้านไร่กับพี่ไหม

     

              น้อยต้องถามแม่ พ่อ พี่ และ พี่ก่อน

     

              ท่านตกลงแล้วล่ะ เหลือแต่ตัวน้อยเอง

     

                    เราอายจังนะจ๋อม สงสัยหน้าเราจะเป็นสีแดงของมะเขือเทศแน่ๆ

              ไว้ให้น้อยรับปริญญาก่อนแล้วน้อยจะตอบ

                    คำตอบของเราทำให้พี่จินต์มีทีท่าคิดมาก

     

              ทำไมล่ะ

     

              พี่จินต์ถามเกินคำถามสุดท้ายแล้ว เราล้อ

              แต่น้อยจะตอบ น้อยถามเพื่อนว่าจะตกลงยังไง

     

              ก็น้อยไปอยู่กับพี่ ไม่ใช่เพื่อนน้อย

     

              น้อยทราบ แต่...คำโบราณว่าไว้ ความรักเหมือนโรคา บันดาลตาให้มืดมน น้อยเคยคิดว่าถ้าจะแต่งงานกับใครสักคน คงไม่ได้เกิดจากการหน้ามืดตามัว

     

                    เราเลยถูกพี่จินต์ใช้ม้วนกระดาษเคาะหัว

     

                    พี่จินต์คนนี้ไงล่ะจ๋อมที่เราเคยเล่าให้นายฟังว่าเขาไม่เคยชอบอ่านเรื่องของนายเลย

    นายช่วยตอบเราหน่อยซิ เราคงไม่ถูกเพื่อนหักหลังนะ อย่าให้เราตาบอดในเรื่องนี้เลย นายเคยว่าเรา โง่!  ซื่อ! เพราะงั้นนายต้องช่วยเราล่ะนะ

     

                    เวลานานแสนนานแล้วซิที่เราคบกะนายมา ถ้าเราตกลงกับพี่จินต์ เราคงหมดโอกาสพบนายแน่ๆ คงได้พบแต่ลายมือของนายเหมือนเดิม มาให้เราพบหน้านายจิ๊ดหนึ่งซิ แต่เราก็ไม่บังคับนายหรอกนะ เราไม่ชอบบังคับใคร เราคิดเสมอว่าทำด้วยความตั้งใจดีที่สุด

     

                    เราจะฝากพี่จินต์ทิ้งจดหมายให้เรา พี่จินต์เลยนั่งคอยเอา อยู่ใกล้ๆเรา

     

                    หลังจากเราปิดผนึกแล้วส่งให้พี่จินต์ เราจะภาวนาขอให้นายตอบเรา เราจะเขียนถึงนายอีกครั้งเมื่อเราได้ใบปริญญาที่ถือกันว่า ข้าแน่ แล้ว

     

                    จ๋อม ขอโทษ! เราคงจะไม่ได้ทำงานกับนายแน่เลย

     

                                                                                    ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองนายและครอบครัว

                                                                                                                    รักและรอคอยจ๊ะ

                                                                                                                                    น้อย

    ^_^

     

     

    จ๋อม ถึงน้องน้อย

    สวัสดีบัณฑิตใหม่

     

                    นายอยากพบเรามากเหรอ เรามาพบนายก็ได้ เพราะเราชักรู้สึกว่านายจะไม่ เชย!  ซื่อ! อย่างที่เราว่าเสียแล้ว คำถามของนายเราจะไม่ตอบหรอก เพราะนายย่อมรู้แก่ใจดี และเราไม่อยากโดนนายซ้อมหรือเช็ดน้ำตาของนาย เมื่อนายได้รู้ว่าเราคือใคร

     

                    สำหรับความรัก ฉันก็ตอบแกไม่ได้หรอก แต่อยากจะเตือนแกไว้หน่อยในฐานะเพื่อน

     

    เฟื่องแก้วมาลัยร้อยรัก.....................แจ้งประจักษ์รักจริง ยิ่งสิ่งไหน

    แต่จอมขวัญ ตรองก่อนเป็นไร........พี่จะให้หลักคิดพินิจใจ

    ความรักเปรียบหวานปานน้ำผึ้ง......ขมเปรียบซึ่งกับบอระเพ็ดได้

    อีกทั้งความห่วงหวงและอาลัย.........อีกกระวนกระวายด้วยขาดเธอ

    จอมใจเจ้ารู้สึกเช่นนั้นไหม..............ฤาเจ้าเพียงถูกใจเขาเช่นเพื่อนเกลอ

    คิดให้จงดี แล้วค่อยสนองคำเสนอ...ด้วยรักนะเออ ร้ายเกินจะถ่ายถอน

    ต้องอาศัยกาลเวลานับปีได้...............แต่มิอาจหักใจจากเจ้าสมร

    แต่จอมขวัญกัลยาอย่าอาทร..............คิดให้ถี่ถ้วนก่อนแล้วจึ่งค่อยตัดสินใจ

     

                    แต่สัญญากับเราได้ไหมล่ะว่าถ้านายต้องการคำตอบจากเราจริงๆ แล้วนายต้องมาทำงานกับเรา ฉันเคยเสียดายเวลามาก แต่ครั้งนี้เราไม่รู้สึกเสียดายเลยนะ ถึงแม้จดหมายของฉันจะสั้น แต่ฉันก็คิดมากก่อนจะเขียนถึงแก

     

                    แกชอบสีเหลืองมากใช่ไหมล่ะ งั้นฉันจะไปมอบช่อกุหลาบสีเหลืองช่อใหญ่ให้แกที่บ้านในวันที่แกรับปริญญา รอฉันนะ ฉันจะไปรับแกเอง แล้วแกก็เตรียมล้างตาดูฉันให้ละเอียดล่ะ

     

                                                                                                                                    จ๋อมคนที่กำลังคิดมาก

     

    ^_^

     

                    สุราลัยรับจดหมายมาด้วยความยินดี เฝ้าตั้งตารอให้ถึงวันนั้น

     

              พี่จะไปแล้ว จะไปยัง คนางค์ถาม

     

              ยังค่ะ พี่น้องกับพี่ชาติไปก่อนเถอะสุราลัยบอกพี่สาวและพี่เขย

     

              รีบไปนะคนางค์กำชับ แล้วถาม

              จินต์จะมารับหรือ

     

              ไม่ใช่คะ จ๋อม

     

              จ๋อมก็จินต์ไงคนางค์หยุดคุยอย่างสงสัย

     

              น้อยทราบค่ะว่าพี่จินต์ชื่อเล่นว่าจ๋อม แต่นี่น้อยหมายถึงจ๋อม Pen-friend เก่าแก่ของน้อยน่ะค่ะ

     

              งั้นหรือ สีหน้าของคนางค์มีแววขำ ที่สุราลัยไม่สังเกต

     

                    สุราลัยรอสักครู่ จินต์ก็โพล่เข้ามาพร้อมกุหลาบเหลืองช่อใหญ่ สุราลัยมองอย่างไม่แน่ใจก็คุยกันแล้วว่าเธอจะไปกับเพื่อน ถ้าเพื่อนไม่มาเธอจะไปเอง

     

              แกจะให้ฉันตอบแกหรือเปล่า

     

                    สำนวนแปลกๆ ของจินต์ แต่เป็นสำนวนที่คุ้นเคยของจ๋อม ทำให้สุราลัยหายงง ตาใสๆ เบิกกว้าง  ไม่เคยคิดจะเอาหนึ่งบวกหนึ่งมาเป็นสองเลยนะนี่ หญิงสาวถอนหายใจ

     

              ไม่ต้องตอบหรอก เราตัดสินใจได้แล้ว

     

              แกล้างตาคอยดูฉันหรือยังล่ะ จ๋อมถาม

     

                    แววตาพี่จินต์ไม่มีแววขำขันเหมือนเดิม สุราลัยตอบช้าๆ แต่หนักแน่น

              เรามองนายมาตั้งหลายปีแล้ว คงไม่ผิดหรอก

     

                    สุราลัยย่นจมูกให้ รับช่อกุหลาบเหลืองมา แล้วแตะแขนที่จินต์ส่งมาให้

     

    THE END

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×