ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : กอดจูบ โลมเล้า แล้วฮากลิ้ง I
กอด...จูบ...ลูบ...โลมเล้า...แล้ว...ฮากลิ้ง)
ตอนเสือไม่มีลาย หรือ เสือซ่อนลาย
I
ไอรีสมองดูแถวของนางงามที่ต่างค่อยๆ เยื้องกาย ชายตา ทิ้งผ้าเช็ดหน้า ยิ้มเอียงอาย ด้วยดวงตาเบิกโตสุดๆ เหตุใดทำไมต้องทำตัวให้ยุ่งยากเช่นนี้ด้วย ที่บ้านเมืองของนางหากบุรุษสตรีต้องใจกัน ต่างจูงมือกันออกไปสร้างบ้านใหม่ มิต้องให้มากเรื่องเช่นนี้ ยิ่งไม่มีทางที่ปีศาจสตรีนางใดมิใช่จำนวนมากมายปานนี้ มาทำท่าทางเช่นเดียวกัน เรียกความสนใจจากบุรุษ ราวกับต้นฟรีออนที่บ้านนาง ที่ยามงอกก็จะพุดขึ้นจากดินเรียงแถวตรงแน่ว แล้วก็โดนสาวใช้ของท่านแม่เด็ดมันขึ้นมาทำเป็นอาหาร
เมื่อไรพวกนางจะเดินกันเสร็จเสียทีนะ นางลองนับจำนวนสาวๆ ที่เดินวนไปวนมาจนนางจะเวียนหัวตายแล้ว
เพราะเหตุที่นางเวทย์อ่อนแอ ยังไม่สามารถร่ายเวทย์ที่จะต้องสอบได้ นางจึงต้องหาที่เงียบๆ เพื่อฝึกซ้อมการร่ายมนต์ ไม่ให้เป็นที่ขายหน้าไปถึงเสด็จพ่อของนางที่เป็นถึงราชาของโลกปีศาจ และเพื่อท่านแม่ของนาง ที่เป็นนางสนมชาวมนุษย์ ราชินีปีศาจที่เป็นเอกภรรยาของเสด็จพ่อเอ็นดูนางนัก ในเมื่อนางเป็นลูกอีกเพียงคนของท่านพ่อที่มีชีวิตเติบโตขึ้นมาได้จากบรรดานางสนมนับร้อยนับพัน พระนางหวังให้นางและโอรสของพระนางครองคู่กัน แต่นั่นยังอีกนานกว่าชาวปีศาจจะจับคู่กัน ก็ต่างมีอายุเกินร้อยปีกันไปแล้ว นางเพิ่งได้ ยี่สิบปีของโลกปีศาจ ขณะที่โอรส เพิ่งจะได้สิบปีเศษเท่านั้น หากมีฤทธิ์เดชร้ายกาจกว่านางตอนนี้
ลูกครึ่งปีศาจมนุษย์ตนอื่นๆ ต่างมีฤทธิ์และเรียนรู้เวทย์ได้รวดเร็วกว่าทั้งนั้น ดังนั้นนางจึงต้องแอบฝึกเป็นความลับ แล้วสถานที่ที่นางแอบไปซ้อมนั้น นางพบทางเชื่อมมาที่ตำหนักของจักรพรรดิจีน นางคิดว่าอาจจะมีสนมนางใดของจักรพรรดิองค์ก่อนๆ เป็นปีศาจก็เป็นได้ นางไม่สนใจหรอก เพราะนางได้ที่ฝึกซ้อมเวทย์โดยไม่มีผู้ใดจะมาแอบเห็นความขายหน้าของนาง แล้วดูซิ มนุษย์ผู้หญิงมากมายเหล่านี้มาแย่งที่ของนางเพียงเพราะหวังดึงดูดความสนใจของบุรุษเพียงผู้เดียว ช่างน่าสมเพศนัก
ไอรีสอยู่ในเครื่องแต่งกายเช่นชาวจีนทั่วๆ ไป หากนางเลือกเป็นเสื้อกางเกงเพื่อความสะกวดในการฝึกซ้อม เพื่อเวลาที่มีใครมาเห็นนางเข้า นางจะได้อ้างว่านางมาทำความสะอาดตำหนัก หญิงสาวนั่งเกยคางไว้บนเข่า มองแถวสาวงามที่เดินมาย่อกายชม้ายชายตามองตรงหน้านาง ก่อนจะค่อยๆ ผ่านไป แล้วไปเริ่มตั้งแถวใหม่อย่างหมดหวังว่าวันนี้นางจะได้ซ้อม
‘เอาล่ะ ในเมื่อข้าไม่ได้ฝึกเวทย์ของข้า ข้าก็ฝึกร่วมกับพวกนางแล้วกัน’
ร่างเด็กสาวในชุดเสื้อกางเกงที่โผล่แทรกเข้ามาในแถวนางงาม ที่ล้วนแล้วแต่นุ่งกระโปรงยาวบางกรุยกรายทำให้ขันทีที่ทำหน้าที่ควบคุมการฝึกซ้อมอ้าปากค้าง จะตะเพิดไล่นางออกไป บรรดาสาวงามที่ไอริสเบียดเพื่อหนีขันที ต่างพากันยิ้มหัวเราะรับช่วยกันห้อมล้อมนางเอาไว้ด้วยความเอ็นดู ทำให้ขันทีผู้ใหญ่ที่เข้ามาดูความเรียบร้อย ต้องโบกมือห้ามยอมในเด็กสาวแปลกหน้าเข้าร่วมการฝึกซ้อมด้วย พิศดูเห็นดวงหน้านั้นจิ้มลิ้มพริ้มเพรายิ้มแย้มกว้างโดยไม่มีความเกรงกลัวเสื้อผ้าถึงจะธรรมดาไปบ้าง แต่เป็นผ้าแพรเนื้อดี และยังกำไลหยกดำที่นางสวมไว้รอบสองข้อมือน้อยๆนั้นอีกเล่า
กว่าจะขึ้นมาเป็นขันทีผู้ใหญ่ได้ไม่ใช่ต้องมีความรู้ขยันทำงานยังต้องรู้จักหลบเลี่ยงเอาตัวรอดได้ด้วย หยกดำใช่จะหากันง่ายๆ ยิ่งเนื้อดำสนิทเปล่งประกายแวววาวเช่นนี้ นางอาจจะเป็นองค์หญิงเล็กๆ ของตำหนักใด หรือพระธิดาของท่านอ๋องใด ที่ตามเสด็จเข้ามาในวังหลวงก็ได้ เกิดนึกสนุกอยากมาเล่นด้วย เขาไม่อยากจะหัวหลุดจากบ่าเนื่องจากไปขัดใจคนใหญ่คนโต ในเมื่อนางอยากเล่นก็ให้นางเล่นไป ท่าทางกระชดกระช้อยเก้งๆก้างๆ ของนางเรียกเสียงหัวเราะและรอยยิ้มเอ็นดูจากบรรดานางงามทั้งหลายได้ พวกนางต่างสนุกที่จะสอนเด็กใหม่ให้วางท่า ก้าวเดิน เอียงตัว แย้มยิ้ม ชายตา ด้วยความสนุกสนาน
“เจ้าชื่ออะไร”
“พิงก์ ไอซ์พิงก์”
ไอริสตอบชื่อเล่นที่ท่านแม่ตั้งให้นางและบรรดาเพื่อนๆ ที่โรงเรียนเรียกขาน
“ไป๋อิง เจ้าชื่อไป๋อิงหรือ ข้าชื่อเฉ่าเอ๋อ เป็นคนยูนาน เจ้ามาจากที่ใด”
“แถวๆ นี้” ไอริส ตอบอึกอัก
ก่อนที่จะมีการซักถามกันไปมากกว่านี้ ก็มีเสียงขานดังก้องต่อๆ กันมา
“ฮ่องเต้เสด็จ...จจ....จ....”
ไอริสตะลึง ฮ่องเต้เสด็จมาถึงที่นี่เชียวหรือ นางไม่ได้สนใจบรรดานางงามที่ต่างสำรวจความงามของตนเอง ต่างรีบปรับปรุงรูปโฉมให้เรียกร้องความสนใจ บางนางดึงคอเสื้อให้ต่ำลงไปอีก บางนางหยิกแก้ม ขบริมฝีปากน้อยๆ ให้แดง ก่อนที่ลูกครึ่งปีศาจสาวจะหนีออกจากกลุ่มสาวงามเพื่อหลบออกไปจากห้อง นางก็ถูกสาวงามข้างกายพร้อมใจกันหนีบนางเอาไว้ เหล่านางงามพากันหัวเราะคิกคัก หมอบก้มศีรษะแตะพื้น ตามสัญญาณของขันที เพื่อรับเสด็จ
“ทรงพระเจริญหมื่นๆ ปี”
ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ไอริสอดเงยหน้าขึ้นแอบมองคนที่ถูกเรียกว่าฮ่องเต้ จักรพรรดิของจีนที่มีตำแหน่งเหมือนพ่อของนาง ราชาแห่งเผ่าพันธุ์ปีศาจ
ฮ่องเต้แต่งตัวด้วยชุดสีเหลืองเหมือนภาพวาดที่นางเห็นในตำหนัก แต่ไม่ได้วางท่าอยู่บนบัลลังก์หรือเก้าอี้ตัวใหญ่อย่างในภาพ ฮ่องเต้กลับนั่งอยู่บนขั้นบันไดตรงที่นางเคยนั่งมองสาวงามเดินกรีดกรายนั่นเอง พอเห็นฮ่องเต้กำลังจะหันมามองทางนี้นางก็รีบก้มหน้าลงตามเดิม
“ตามสบาย ตามสบาย ตอนนี้ข้าว่างพอดี พวกเจ้ากำลังทำอะไรกันอยู่ล่ะ ข้ากำลังจะออกไปเดินเล่นในอุทยาน ผ่านมาได้ยินเสียงพวกเจ้าหัวเราะน่าสนุกข้าเลยอยากเข้ามาร่วมสนุกด้วย”
ขันทีอาวุโสที่ควบคุมการฝึกซ้อมรีบน้อมศีรษะลงต่ำรายงาน
“หม่อมฉันกำลังอบรมสาวงามที่ถูกส่งมาจากตำบลต่างๆ เพื่อให้ฝ่าบาทคัดเลือกเป็นนางสนมพระเจ้าข้า”
“อ่ะ งั้นก็ดีนะซิ ข้าก็อยู่ตรงนี้ พวกนางก็อยู่ตรงนี้ ดูม้าป่าตามธรรมชาติย่อมหาม้าดีโดดเด่นได้ไม่ยาก หากผ่านการฝึกฝนมาแล้ว การเลือกก็ยิ่งยากเย็น”
ฮ่องเต้ชายตาดูบรรดาขันที
“ไว้พอเจ้าฝึกสอนเสร็จเป็นม้าใช้งานได้ ข้าจะเลือกอีกครั้งหนึ่ง ตอนนี้ ข้าอยากชมม้าป่า”
“กระหม่อม”
หัวหน้าขันทีก้มศีรษะรับพระบัญชา โบกมือให้ขันทีผู้น้อย ต้อนบรรดานางงามไปจัดแถวเตรียมเดินแบบที่ซักซ้อมมาตั้งแต่เช้าอีกครั้งหนึ่ง พร้อมกับพยายามดึงเอาไอริสออกจากแถวบรรดาหญิงงามทั้งหลายด้วย แต่ดูเหมือนพวกนางจะชมชอบสาวน้อยแก่นแก้วคนนี้จึงพากันเอาตัวเข้าบังบาง ดึงหลบไปทางโน้นทางนี้ไม่ให้ขันทีผู้น้อยจับตัวนางได้
ไอริสพยายามจะหลบออกห่างก็ถูกบรรดาสาวงามทั้งหลายฉุดดึงนางเอาไว้ จนนางต้องอยู่ร่วมในแถวยาวเหยียดนั้น ก้าวตามคนข้างหน้า ขยับซ้ายขวายิ้มตามการบอกของคนข้างๆ เมื่อนางต้องย่อกายต่อหน้าชายที่นั่งยิ้มๆ พยักหน้ารับการย่อคารวะของพวกนางอย่างนิ่มนวลนั้น นางอดมองสบตาฉลาดล้ำคู่นั้นไม่ได้
ราวกับสายฟ้าฟาด ร่างบางเอนเอียงราวกับจะล้มเหมือนแผ่นดินใต้พื้นเท้านางสั่นไหว
“ข้าเลือกนาง”
เสียงชายหนุ่มดังขึ้นอย่างไม่คาดฝัน แถวนางงามชะงักงัน ไอริสตื่นตะลึงเมื่อนางถูกดึงออกจากแถวมานั่งข้างๆ องค์ฮ่องเต้
“เจ้าชื่ออะไร”
เสียงถามข้างๆ ทำให้เธอหันไปมองหน้าฮ่องเต้ตรงๆ ท่าทางไม่เกรงกลัวใครของแม่ม้าป่าสาวนี่เองที่ทำให้พระองค์ถูกใจ
“ไอริส”
“อ้ายฉี”
เสียงฮ่องเต้หนุ่มทวนชื่อเธอ ไอริสส่ายหน้าอย่างรำคาญใจชื่อเธอเรียกง่ายจะตายไปทำไมเรียกไม่ได้
“ไป๋อิง”
ไอริสยอมใช้ชื่อที่บรรดาสาวงามเรียก น่าจะคุ้นปากคุ้นลิ้นฮ่องเต้ชาวจีนผู้นี้มากกว่า
“ตกลงเจ้าชื่ออะไรกันแน่ อ้ายฉี หรือไป๋อิง”
“นางชื่อไป๋อิงกระหม่อม”
ขันทีที่ดูแลบรรดาสาวงามรีบก้มตัวลงกราบทูล
“ไป๋อิง”
มือฮ่องเต้ยกขึ้นแตะข้างแก้มนุ่ม หญิงสาวเอนหลบแล้ว แต่ฮ่องเต้ยังมือไวกว่ามือใหญ่ประคองสองแก้มนุ่ม
“ข้าถูกใจเจ้าจริงๆ ไป๋อิง เจ้าสวยถูกใจข้า คืนนี้ข้าจะได้รู้ว่าเจ้ามีอะไรให้ข้าชื่นชมอีก”
รับสั่งเท่านั้น ฮ่องเต้ก็ลุกขึ้นยืนเสด็จออกไปโดยไม่สนใจบรรดาหญิงงามที่เหลือ ท่ามกลางเสียงขาน ฮ่องเต้เสด็จ
สาวๆ พากันกรูเข้ามาแสดงความยินดีกับสาวน้อยน่ารักที่คืนนี้จะได้ร่วมเรียงเคียงเขนยกับองค์ฮ่องเต้ ขันทีมองสาวงามที่แสดงความยินดีอย่างจริงใจ ก่อนลอบถอนหายใจช้าๆ อีกไม่นานอีกไม่นานเมื่อพวกนางเข้าสู่วังวนของอำนาจในวังหลวง ความยินดีจริงใจเช่นนี้จะไม่มีอีกแล้ว ขันทีผู้เฒ่าตบมือเบาๆ
“เห็นหรือไม่ พวกเจ้าช่างขี้เกียจนัก นางเพิ่งมาไม่นาน ก็สามารถทำให้โอรสสวรรค์ทอดพระเนตรเห็นนาง ส่วนพวกเจ้า”
ชายชราที่กรีดนิ้วชี้กราดเรียกรอยยิ้มขึ้นบนริมฝีปากอิ่ม ไอริสกล้ายิ้มกว้าง ในเมื่อนางเป็นผู้เดียวที่ยืนอยู่ด้านหลังของขันทีเฒ่า บรรดาสาวงามได้แต่ลอบส่งสายตาขำขันมาให้
“ยังมิรีบฝึกฝนอีก เอาตั้งแถว”
ขันทีผู้ควบคุมยกมือสูง ปรบเข้าหากันเพื่อเรียกความสนใจของบรรดานางงาม
เมื่อเห็นพวกนางต่างเข้าแถว เริ่มการเดินใหม่ ขันทีแซ่โจจึงหันมาทางหญิงสาวที่ฮ่องเต้เลือกนางให้เข้าไปปรนนิบัติพระองค์ในคืนนี้ แม่สาวคนนี้หาได้มีประวัติใดไม่ ขันทีอาวุโสมองดูกำไลหยกดำที่ข้อมือนางอีกครั้ง หากนางเป็นเชื้อพระวงศ์หรือทายาทเศรษฐีใด คงไม่มีปัญหา เมื่อครอบครัวนางได้ทราบว่าฮ่องเต้ทรงเลือกนางเป็นนางสนม แต่หากนางเป็นพระขนิษฐา หากเป็นเช่นนั้น
“เจ้าแซ่ใด”
“ข้า”
ไอริสหันมามองชายชราที่ท่าทางตุ้งติ้ง นางรู้ว่าพวกนี้เป็นบุรุษที่ถูกตัดความเป็นชายทิ้งเพื่อให้ดูแลควบคุมบรรดาสาวๆ ของฮ่องเต้ นางคือเจ้าหญิงไอริส ในความปกครองของราชาแห่งปีศาจ แซ่อย่างนั้นหรือ แซ่ที่คงหมายถึงตระกูลของนาง
“ข้าอยู่ในตระกูลดาร์ครา”
“ดา-คา ข้าไม่เคยได้ยินชื่อแซ่นี้มาก่อน”
ดวงตาชราหรี่มองแม่สาวน้อยอย่างระแวง
“เจ้ามิได้แซ่ไป๋ ชื่ออิง หรอกหรือ”
ดวงตากลมโตทอประกายสนุก นางเอียงคอน้อยๆ ท่าทางซุกซน
“เช่นนั้นก็ได้”
“เช่นนั้นก็ได้ เจ้าหมายความว่าเช่นไร ชื่อแซ่มิใช่ของล้อเล่น ข้าแซ่โจ ชื่อ จิ้งกัวะ เด็กๆ ในนี้เรียกข้าว่าโจกงกง ตามบัญชีรายชื่อ ไม่มีชื่อเจ้า เจ้ามาจากที่ใด”
“ข้าอยู่แถวๆ นี้ ข้าแอบเข้ามา”
กิริยาขบปากอิ่ม รวมทั้งดวงตาเอ่อคลอด้วยน้ำตาของนาง เรียกความสงสารจากกงกงได้มิน้อย คืนนี้ ต้องเตรียมตัวนางให้พร้อม หากมิสามารถสอบถามถึงประวัตินางได้ คนที่หัวขาดคนแรกคงเป็นเขา โจกงกงผู้นี้
“บ้านเจ้าอยู่ที่ใด พ่อแม่เจ้ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่”
“ยังมี”
โจกงกง สังเกตเห็นอาการขบปากอิ่มแดงของนางอีกครั้ง ที่บ้านของนางมีปัญหาใดหรือไม่
“ที่บ้านเจ้ายังมีใครอีก”
“ข้ายังมีน้องชายที่เกิดจากภรรยาคนแรกของพ่อข้า”
“อา...”
กงกงถอนหายใจยาว นางเป็นลูกของภรรยาน้อยของเศรษฐีนี่เอง นางจึงใส่กำไลราคาแพงหายากได้ หากแต่นางคงไม่ถูกชะตาภรรยาหลวงเท่าไร จึงหลบออกจากบ้านมา
“บ้านเจ้าอยู่ไกลหรือไม่”
“ไม่ไกลนัก โจกงกงขอข้ากลับบ้านได้หรือไม่ ท่านแม่คงเป็นห่วงข้าแน่ หากข้าไม่รีบกลับไป”
ไอรีสขอร้อง หากนางมิกลับไป ทางโรงเรียนแจ้งไปทางบ้าน ท่านพ่อให้คนมาตามหานาง จะมีสักกี่คนที่จะต้องโชคร้ายเพราะนาง
“ไม่ต้องร้อนใจ หากมารดาเจ้าทราบว่าเจ้าค้างคืนในวังหลวงนี่ คงไม่ห่วงเจ้าแล้ว ทหาร องครักษ์ออกมากมาย มิมีใครมาทำอะไรเจ้าได้แน่”
โจกงกง กล่อมให้นางยอมอยู่อีกสักคืน หากคืนนี้ไม่จัดการถวายตัวนางให้ฮ่องเต้ คงไม่แคล้วหัวหลุดออกจากบ่าเช่นกัน ความเป็นมาของนาง รอจนข้าวสารหุงเป็นข้าวสุก จัดสินสอดออกไปให้ทางบ้านของนางคงจะมิมีปัญหาอะไร ยิ่งนางมิใช่ลูกภรรยาหลวงเช่นนี้ ยังได้เข้ามาเป็นพระสนม จะมีบ้านใดกล้าขัดพระบัญชา
“หากเจ้ากังวล เขียนจดหมายสักฉบับ ข้าจะให้เด็กส่งไปที่บ้านเจ้าเอง”
ส่งไปที่บ้านข้า พวกท่านสามารถไปที่โลกปีศาจได้ด้วยหรือ แล้วนางจะเขียนไปที่ใด ปราสาทแห่งไฟ ที่พ่อข้าอยู่นะหรือ ไอริสยิ้มกว้างเมื่อนางนึกถึงคนผู้หนึ่งได้ เจ้าเสือเฒ่าผู้เคยเป็นผู้ดูแลความปลอดภัยในวัง เจ้าเสือเฒ่าจอมเจ้าชู้ยอมถอดลายเมื่อวัยชรา นางสนิทกับเสือเฒ่าเพราะยามนางเป็นเด็กชอบไปแอบตามที่ต่างๆ ให้เขาต้องคอยค้นหานาง นางกับเสือเฒ่าจึงผูกพันกันเป็นพิเศษ ยอมให้นางขี่หลังยามแข่งขันกับเด็กคนอื่นๆ เมื่อลาออกเพื่อไปใช้ชีวิตบั่นปลายอย่างสงบ เจ้าเสือเฒ่าวีวายีบอกนางว่าเขาจะมาอยู่ยังโลกมนุษย์เพราะเขามีศิษย์รักอยู่ที่นั่น นางจะส่งข่าวถึงเขาให้มาช่วยนาง
“ข้าจะเขียนจดหมาย ท่านเรียกเด็กมา ข้าจะสั่งเขาเอง”
โจกงกงยิ้ม พยักหน้าให้นางก่อนเดินออกจากห้องไปเรียกเด็กรับใช้ นางคิดหรือว่าเจ้าเด็กนั่นจะมิบอกเขาว่านางสั่งอะไรไป
ไอริสยื่นจดหมายให้ขันทีน้อย ดวงตากลมโตจ้องตาเรียวเล็กของเด็กน้อยสั่งให้ไปหาที่ลับตาเผาจดหมายฉบับนี้ทิ้งเสีย
โจกงกงดักรอถามขันทีน้อยอยู่ด้านนอก ถึงกับงันไปเมื่อได้รู้ว่านางขอให้ไปเผาจดหมายฉบับนี้ เขาขอดูจดหมาย มีเพียงลายเส้นขยุกขยิกอ่านไม่ออก โจกงกงพับจดหมายใส่ซอง โบกมือให้ขันทีน้อยไปได้
นางคงต้องหนีออกจากบ้านมาแน่ๆ ทำให้เขาโล่งอกไปได้เปราะหนึ่ง ว่าคงไม่มีใครในครอบครัวนางมาตามหานางในเร็ววัน หากนางได้เป็นที่โปรดปรานแล้ว ครอบครัวของนางคงจะยินดีต้อนรับนางกลับบ้านเอง หากนางไม่เป็นที่โปรดปราน ทรัพย์สินที่จะพระราชทานให้นาง คงพอให้นางใช้อย่างสบายไปตลอดชีวิต หรือหากว่าทรงลืม เขาโจกงกงผู้นี้จะเป็นหลักให้แก่เด็กน้อยไร้บ้านคนนี้เอง
ขันทีผู้เฒ่าเปิดประตูห้องออก ไอริสก็ดีดตัวลุกขึ้นยืนทันที
“ตามข้ามา ไป๋อิง”
“ข้าอยากกลับบ้าน โจกงกง”
ไอริสบอกขอร้องอีกครั้ง ก่อนเดินตามขันทีออกไป เขาไม่ยอมฟังนาง ไม่มีใครฟังนาง
“ค้างคืนในวังนี่สักคืน แล้วพรุ่งนี้ท่านก็กลับบ้านได้”
โจกงกง ปลอบใจ
“ข้าจะพาไปห้องของท่าน จะมีสาวใช้มาช่วยท่านอาบน้ำ แต่งตัว”
โจกงกง ปรายตามองชุดเสื้อกางเกงเรียบๆ ของนางอย่างไม่ชอบใจนัก
“หิวหรือไม่ ข้าจะให้ห้องเครื่องทำขนมอร่อยมาให้เจ้าชิม”
พูดถึงของกิน ท้องนางก็ร้องขึ้นมาทันที ไอริสหน้าแดง ขณะที่ขันทียิ้มน้อยๆ
“เดี๋ยวข้าจะให้เด็กๆ จัดของกินมาให้เจ้า เจ้าต้องใช้พลังงานอย่างมากในคืนนี้”
คืนนี้ ทำไม คนครึ่งชายครึ่งหญิงนี่ต้องเน้นแต่คืนนี้ ให้นางค้างในวังหลวง ไม่เป็นไรพอคนเผลอ นางจะแอบกลับไปที่ห้องโถงเล็ก ปากทางผ่านสู่โลกปีศาจก็ได้
การไม่เป็นอย่างที่ไอริสคิด นางหาเคยได้อยู่ตามลำพัง โจกงกงพานางมาที่ห้องเล็กๆ ก่อนจะเรียกสาวใช้มา จับนางอาบน้ำขัดตัว ก่อนแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าบางๆ จนนางยังอดอายตัวเองไม่ได้
“ข้าอยากได้ชุดแบบเดิม”
ไม่ว่านางเพียรพยายามร้องขอ หรืออธิบายอย่างไร พวกนางก็ต่างพากันยิ้ม หากไม่มีพวกนางอยู่ เพียงแค่เปลี่ยนชุดไฉนนางจะทำมิได้ ตอนนี้ก็ได้แต่นั่งถอนหายใจเมื่อไรเจ้าเสือเฒ่าจะมาช่วยนางออกจากสถานการณ์ยุ่งยากนี้เสียที นางจะได้กลับไปยังโลกปีศาจ กลับไปหลับบนเตียงนุ่มๆ ของนาง
นางได้สำรับอาหารมาลองชิมอาหารของมนุษย์ ต่างปรุงแต่งพอคำ มีกลิ่นหอมหวาน หลังจากกลืนลงคอไปแล้วยังทิ้งกลิ่นหอมเอาไว้ในปากจนอดดูดลิ้นเล่นไม่ได้
ตกค่ำโจกงกงก็เข้ามา นางได้สวมเสื้อคลุมที่คลุมไปถึงเรือนผมเดินตามโจกงกงไป เขาบอกว่าจะพานางไปห้องนอน หญิงสาวถอนหายใจ ยุ่งยากพอๆ กับที่โลกปีศาจเลยทีเดียว เต็มไปด้วยพิธีการมากมาย
ห้องนอนที่โจกงกงพาไปก็ลึกลับพอๆ กับที่โลกปีศาจ นางยังจำได้ เมื่อนางติดตามท่านพ่อไปเยี่ยมเยือนปราสาทของขุนนางที่อยู่แดนไกล
นางถูกส่งต่อให้กงกงอีกคนที่พานางเดินผ่านห้องโถงกว้าง ผ่านประตูถึงสามบาน ก่อนที่นางจะถูกส่งเข้าไปห้องนอน เตียงไม้คลุมด้วยม่านบางๆ ไอริสปิดปากหาวเบาๆ ล้มลงนอนทั้งเสื้อคลุมที่เอามาใช้ต่างผ้าห่ม อากาศที่นี่เย็นกว่าบ้านนางจริงๆ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น