ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    You are mine เธอเป็นของฉัน รู้ไหม

    ลำดับตอนที่ #6 : 004 หลบหนีด้วยใจสลาย

    • อัปเดตล่าสุด 23 มี.ค. 53


    ๐๐๔ หลบหนีด้วยใจสลาย
     
           ตึ๊ง เสียงการมาถึงของลิฟต์ไม่ได้ทำให้ สุพนักงานทำความสะอาดชั้นบริหารสะดุ้งได้อีกแล้ว เพราะคนที่เธอกลัวไม่มีทีท่าว่าจะจำเธอได้เลย
     
           “ขอโทษจ้ะ โต๊ะคุณนนท์ คุณปุณยนนท์อยู่ไหน”
     
    สุธีราหันขวับก่อนอ้าปากค้าง เมื่อเห็นหน้าหญิงสาวที่เอ่ยปากได้ชัด
     
    คุณแอ้ม
     
    แฟนสาวของปุณยนนท์ ชายหนุ่มหางานทำระหว่างรอแฟนสาวเรียนจบ อรนภาเรียนช้ากว่าสองปี
     
    “เอ หรือ คุณนนท์ไม่ได้อยู่ชั้นนี้ อุตสาห์ถามมาแล้วนะ ว่าเข้ามาทำงานที่นี่แล้ว”
    อรนภาพูดกับตัวเองแก้เขิน เมื่อเห็นเด็กทำความสะอาดอ้าปากค้างมองหน้าเธอตะลึงอยู่
     
    “อยู่ค่ะ” สุธีรารีบบอก “แต่คุณนนท์ไปอยู่นะคะ”
     
    “ไม่เป็นไรจ้ะ”
     
    สุธีราได้แต่ยิ้มแหยๆ ตอบรอยยิ้มหวาน รีบเดินนำไปทางห้องของชายหนุ่ม จริงๆ เธอไม่ควรพาหญิงสาวไปที่โต๊ะของชายหนุ่มเลยทีเดียว ควรจะพาไปนั่งที่ห้องรับแขกก่อนแล้วให้เขาพาไปที่โต๊ะทำงานของเขาเอง แต่ในเมื่อแขกสาวคนนี้เป็นแฟนของเขาเอง สุธีราจึงคิดว่าน่าจะอนุโลมไปได้
     
    พอเดินกลับไปถึงบริเวณหน้าลิฟต์ก็พบคุณสุรีย์ศรียืนรออยู่
    “ใครมาหาคุณนนท์หรือ”
     
    “เออ”
     
    สุรีย์ศรีตีหน้าดุใส่ “คุณนันเรียก คราวหลังพาไปรอที่ห้องรับแขกนะ ยายสุ”
     
    “ค่ะ” สุธีราก้มหน้างุดๆ พอถึงหน้าห้องคุณนันทนา ชำเลืองมองป้ายผู้อำนวยการ เคาะเบาๆ ก่อนเปิดเข้าไป
     
    “พาใครไปห้องคุณนนท์”
     
    “คุณแอ้มค่ะ” สุธีราตอบอุบอิบ ยังก้มหน้าไม่กล้าเงยหน้าขึ้นสบตา
     
    “ใครนะ” นันทนาเลิกคิ้ว “เวลาฉันพูดด้วยเงยหน้ามองฉัน”
     
    สุธีราสะดุ้ง
     
    มองฉัน...มองแต่ฉัน
     
    ดวงตากลมโต เงยมองคุณนันทนาทันทีที่โดนสั่งเสียงดุ นันทนาถอนหายใจเมื่อเห็นแววตระหนกฉายชัดในดวงตากลมหวานเหมือนตาลูกกวางน้อย
     
    “ยายแอ้มหรือ”
     
    “ค่ะ” สุธีราอ้อมแอ้มตอบ
     
    “ทีหลัง ต่อให้เป็นแอ้ม ก็ต้องพาไปรอที่ห้องรับแขก คุณนนท์ไม่อยู่ใช่ไหม”
     
    “ค่ะ”
     
    หญิงสาวที่เอาแต่ก้มหน้าเรียกเสียงถอนหายใจได้อีกครั้ง
     
    “ไปเอาน้ำมารับแขก เดี๋ยวฉันจะไปคุยกับแอ้มเอง แล้วเมื่อไรคุณนนท์จะกลับล่ะ”
     
    “คงบ่ายค่ะ มีนัดลูกค้าแต่เช้า จริงๆ จะเข้ามาก่อนเที่ยง”
     
    เสียงใสรายงานแสดงว่าหญิงสาวยังใส่ใจกับเรื่องของปุณยนนท์อย่างสม่ำเสมอ
     
     
           “หนูแอ้ม”
     
           อรนภารีบวางตุ๊กตาหันมายกมือทำความเคารพผู้อาวุโสกว่าทันที
     
    “สวัสดีค่ะ คุณป้า ตายแล้ว แอ้มลืมไปเลยว่านนท์ไม่อยู่ คุณป้าคุณลุงก็อยู่นี่”
     
    “คุณลุงอยู่โรงงานจ้ะ มาไปคุยกับป้าที่ห้องป้าดีกว่า คราวหน้ามาจะได้ไม่เคว้ง ถ้าตานนท์ไม่อยู่”
     
    “ค่ะ” อรนภายิ้มหวาน คว้ากระเป๋าเดินตามคุณนันทนาไป
     
    สุธีรานำเครื่องดื่มเข้าเสิร์ฟให้อรนภา หญิงสาวยิ้มหวานขอบใจ มองพนักงานทำความสะอาดก้มหน้าก้มตาเดินออกไป หลังจากปากกระตุกเหมือนจะยิ้มตอบแวบหนึ่ง
     
    “ยายหลิ..สุแกชงกาแฟอร่อยนะ”
    นันทนารีบชวนให้ชิมเครื่องดื่มที่ถูกยกมาให้เธอก็ยกกาแฟขึ้นจิบ เหมือนจะบอกว่าอร่อยจริงๆ เมื่อเห็นกิริยามองตามหลังร่างเล็กไปอย่างสงสัย อรนภาหันมายิ้มหวานให้นันทนายกกาแฟขึ้นจิบตามคำชวน ทำตาโตอย่างน่ารัก
     
    “โอ้ อร่อยจริงๆ ด้วยซิ ถ้าแอ้มจะประมูลซื้อตัวไปชงกาแฟให้ที่บริษัทคุณพ่อนี่ คุณป้าว่ายายหลีสุจะไปไหมคะ รับรองว่าที่โน่นมีหนุ่มๆ หล่อ มากกว่าที่นี่”
    หญิงสาวยิ้มกว้างจนตาหยี
    “ตั้งแต่แอ้มเดินขึ้นมาเจอสาวๆ มากกว่าหนุ่ม แถมสวยๆ หุ่นดี มิน่า พักนี้แอ้มเลยไม่ค่อยเจอนนท์เลย”
     
    “ป้ากลัวว่าพอเจอคุณพ่อของหนูแอ้มแล้วจะไม่ได้มองหนุ่มๆ คนอื่นเลยนะซิจ๊ะ หรือว่าไง”
    ผู้สูงวัยกว่าเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม อรนภาหัวเราะเบาๆ กิตติศัพท์ความเจ้าชู้ของคุณพ่อเธอลือกระฉ่อน แต่ในความเป็นจริงแล้ว หลังจากที่คุณแม่เธอเสียชีวิตเมื่อสองปีก่อน ท่านก็ยังไม่มีใครใหม่ ไม่เลี้ยงหนูๆ ที่ไหน เลิกหมด แต่อาจจะยังเลิกปากหวานกับสาวๆ ไม่ได้ ท่านบอกเธอว่าของสำคัญ กว่าจะรู้ว่าสำคัญก็เมื่อสูญเสียมันไปแล้ว แล้วท่านก็ถามอ้อมๆ ถึงปุณยนนท์
     
    คุณนนท์เป็นคนสำคัญ แต่เขาไม่ใช่คนที่ใช่สำหรับเธอ และเธอก็ไม่ใช่คนที่ใช่สำหรับเขา เราต่างรู้ดีหลังจากที่ได้ใช้ชีวิตร่วมกันมาช่วงหนึ่ง เธอไม่ได้จะเป็นจะตายเมื่อไม่มีเขา และเขาไม่กระเทือนเลยด้วยซ้ำเมื่อไม่มีเธอ เธอรู้ว่าเขามีคนสำคัญของเขาแล้ว แต่เธอยังหาคนคนนั้นสำหรับเธอไม่พบ
     
    “โธ่คุณป้าขา ตั้งแต่คุณแม่เสียท่านก็เลิกหมดแล้วค่ะ”
     
    “น่าจะเลิกตั้งแต่คุณแอ๊วยังอยู่ นี่ให้เธอตามราวีจนหมดแรง” นันทนาทำเสียงปลงๆ อรนภาหัวเราะกิ๊ก
     
    “สงสัย พอไม่มีคุณแม่ตาม เลยไม่สนุก”
     
    “หาคนใหม่ให้ตามซิจ๊ะ”
    นันทนายังเย้าอย่างถือสนิททั้งตัวคนพ่อและตัวลูกเอง
    “นี่นัดตานนท์เอาไว้หรือเปล่า ป้าโทรตามให้นะ เขาว่าจะเข้ามา แต่อาจจะเถลไถลไปไหนก็ได้”
     
    “ไม่ต้องค่า” อรนภาห้ามเสียงหลง “แอ้มเอารถมาทำเลยแวะมาหานนท์น่ะค่ะ”
     
    “อ้าว” นันทนาร้องได้เท่านั้น กึ่งหนึ่งเสียใจที่สองหนุ่มสาวไม่หวนกลับมาสานสัมพันธ์ให้กระชับมั่นกว่าเดิม แต่อีกใจก็อดแอบดีใจแทนหลานสาวนอกไส้ไม่ได้ว่าอาจจะไม่หัวใจสลายอีกครั้ง
          
     
           พอเห็นรอยยิ้มหวานขอบใจจากอรนภาหัวใจที่เคยคิดว่ามันจะไม่เจ็บปวดอีกแล้วก็บิดเร้า หัวตาร้อนน้ำตาปริ่มต้องหลบหน้าคนอื่นออกไปนั่งแอบร้องไห้ที่บันไดทางขึ้น ไม่ค่อยมีคนใช้บันไดเพราะต่างขึ้นลงกันโดยใช้ลิฟต์กันหมด
     
    หากแฟนสาวของปุณยนนท์จะเป็นหญิงสาวที่ร้ายกาจ ขี้อิจฉาชอบรักแกคนที่อ่อนแอกว่า เธอจะไม่เจ็บปวดหัวใจที่อาจเอื้อมแอบรักชายหนุ่ม แต่อรนภาเอ็นดูเธออย่างน้องสาวไม่เคยล้อเลียนว่าเธอเป็นยายกระปุก เด็กที่ไม่มีใครเอาอย่างเพื่อนสาวร้ายๆ คนอื่นๆ ของปุณยนนท์ ช่วยปกป้องเธอจากการโลมเลียมของเพื่อนชายห่ามๆ บางคนของชายหนุ่มด้วยซ้ำไป เธอจะทรยศทำเหมือนลอบแทงข้างหลังหญิงสาวแสนดีคนนี้ได้อย่างไร แต่การหักห้ามใจตัวเอง ได้เห็นความสนิทสนมรักใคร่ของคู่รักก็เหมือนเอามีดแทงตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า ยิ่งเมื่อเขาไปเรียนต่อด้วยกันภาพความสนิทสนม รูปคู่แสนหวานที่ถูกส่งกลับมา เพื่อนสาวบ้างคนกลับจากไปเรียนบ้าง ไปเที่ยวบ้างแวะมากราบคุณนันทนา มาเล่าถึงความหวานของคนคู่นั้น บ้างคนที่ไม่ร้ายก็มองเธออย่างสมเพท คนที่ร้ายก็พูดให้เจ็บใจ ผู้หญิงคนไหนก็มองออกว่าเธอหลงใหลเขา เด็กโง่ที่แอบหลงรักเจ้าชาย มีแต่ในเทพนิยายเท่านั้นที่เจ้าชายจะหันมามองเด็กรับใช้ ในความเป็นจริงไม่มีหรอก เจ้าหญิงเท่านั้นถึงคู่ควรกับเจ้าชาย
          
    กว่าจะรู้ว่าไม่มีหนทาง กว่าจะรู้ว่าฝันไม่มีทางเป็นจริง กว่าจะทำใจได้ สุธีราต้องอาศัยความเด็ดเดี่ยวกว่าทุกครั้งที่ขอออกไปใช้ชีวิตตามลำพัง
     
    “จะให้ฉันบอกพี่นนท์ว่ายังไง”
    นันทนาถามเสียงหลงเมื่อหลานนอกไส้อย่างเธอกล้าเข้าไปขอออกไปใช้ชีวิตตามลำพัง ท่านยังเมตตาพยายามเชื่อมโยงเธอกับลูกชายคนเดียวเอาไว้ พี่นนท์ พี่นนท์ที่ไม่เคยยอมรับน้องสาวอย่างเธอนะหรือ ไม่รับยังเกลียด ไม่เคยเว้นที่จะฝากคำถากถางมาทุกครั้งที่รู้ผลการเรียนของเธอ ใช่ซิ เธอไม่ได้ฉลาดเพียบพร้อม อย่างเจ้าหญิงตัวจริงของเขา ถึงเวลาที่เธอจะตื่นจากความฝัน ไปผจญความจริงของชีวิต ยิ่งไปเร็วเท่าไร เธออาจจะค้นหาตัวตนจริงๆ ของเธอได้เร็วเท่านั้น เธอต้องมีคุณค่าซิ ต้องต้องมีอะไรสำคัญสำหรับใครบ้างคน ไม่เช่นนั้นเธอจะเกิดมาทำไมในโลกนี้
     
    “บอกว่า หลินไม่รักดีหนีออกจากบ้านก็ได้ค่ะ”
     
    หน้าเล็กสะบัดไปตามแรงมือของคนที่สูงวัยกว่า
    “ถือว่าฉันไม่ได้ยินที่แกพูดนะยายหลิน”
     
    “ขอให้หลินไปเถอะค่ะ หลินอยู่ไม่ได้จริงๆ”
    สุธีราก้มลงกราบขอร้อง อยู่ที่นี่ เธอจะได้ยินข่าวของเขา ได้เห็นสิ่งของของเขา อยู่ในความอุปการะของเขา คุณนนท์ไม่ต้องชดเชยให้หลินหรอกค่ะ ไม่ต้องส่งเงินมาให้เป็นค่าเล่าเรียน ค่าเสื้อผ้าค่าอะไรต่ออะไรของหลินอีก ได้โปรด อย่าทำเหมือนคุณนนท์รู้สึกผิด ทำเหมือนเดิมว่าไม่มีหลิน อยู่ในบ้านเหมือนตอนที่หลินเป็นเด็กยังดีเสียกว่า
     
    “แล้วแกจะไปไหน”
    นันทนาเสียงอ่อนลง อดเห็นใจเด็กกำพร้าไม่ได้ ปุณยนนท์ส่งเงินมาเป็นค่าเล่าเรียน ค่าเรียนพิเศษ ค่ากิจกรรมต่างๆ ที่เขาแนบรายละเอียดมา ถ้าเธอไม่รู้ไม่สงสัยถึงเบื้องหลังคงอดยินดีไม่ได้ที่เขารักเอ็นดูน้องสาว นี่เขาทำอะไรชดเชยให้อย่างนั้นหรือ จะเลี้ยง จะปั้นให้สุธีราเป็นคุณหนูผู้เพียบพร้อม แต่เขาก็ยังเหน็บมาว่า ลูกเป็ดขี้เหร่อย่างไรก็โตมาเป็นเป็ด ไม่ได้ฟลุ๊กโตมาเป็นหงส์ได้หรอก พอเธอบอกว่า ถ้าอย่างนั้นจะไปสนใจอะไร เขาก็ตอบมาเหมือนไม่ใส่ใจว่า ยังไงสุธีราก็เป็นหลานแม่ ไหนๆ จะเลี้ยงแล้วก็เลี้ยงให้ดีๆ อย่าให้ใครมาว่าได้แล้วกัน โถ...พ่อลูกชาย  คิดว่าแม่ตาบอด สมองฝ่อ ไม่เห็นอะไร คิดอะไรไม่เป็นหรือยังไง
     
    “หลินจะออกไปหางานทำค่ะ หลินสัญญาค่ะว่าหลินจะไม่ทิ้งการเรียน” สุธีราก้มลงกราบอีกครั้ง
     
    “ได้ แต่แกต้องเขียนจดหมายถึงฉันทุกอาทิตย์ มีอะไรต้องมาบอก แกหาให้พอแค่ค่ากินเถอะ ฉันจะออกค่าที่พักให้ ค่าเรียนพี่นนท์เขาก็ส่งเงินมาให้ทุกเดือนอยู่แล้ว”
     
    “เอ่อ…”
     
    สีหน้าลังเลของเด็กสาวทำให้สำทับซ้ำ
     
    “อย่าเรื่องมาก ถ้าฉันเห็นแกเอาตัวรอดได้จริงๆ ก็จะตามใจแก ไม่ยุ่งไม่วุ่นวายกับแกอีกแล้ว แกคิดว่าฉันอยากจะยุ่งเรื่องแกอีกหรือไงยายหลิน”
     
    ถ้อยคำของนันทนายิ่งกว่ามีดกรีดลงกลางใจ ใช่ซิ คุณป้าต้องการให้เธออยู่ห่างไกลจากลูกชายท่าน แต่ท่านก็ยังรักหน้าตาตัวเอง หากทอดทิ้งไม่ดูดำดูดีเธอ คนอื่นๆ จะว่าเอาได้
     
    นันทนาส่งแม่บ้านไปช่วยดูที่อยู่ใหม่ของสุธีราก่อนจะวางใจให้หญิงสาวออกไปใช้ชีวิตอยู่ตามลำพัง เธอเห็นการเติบโตและความเข้มแข็งของหญิงสาวที่ค่อยๆ มีเพิ่มขึ้น จนมาพบว่าสุธีรามาทำงานกับบริษัทรับทำความสะอาดให้บริษัทของเธอและลงเรียนมหาวิทยาลัยเปิดไปด้วย ผลการเรียนที่เธอส่งมาให้อย่างสม่ำเสมอเป็นที่น่าพอใจ การที่สุธีราตัดสินใจออกจากบ้าน เป็นการตัดสินใจที่ถูกที่สุดของสุธีราแล้ว นันทนาคิดเช่นนั้น
     
    ส่วนพ่อลูกชายตัวดีนะหรือ เขาบอกแค่ว่า เด็กไม่รักดี จะไปไหนก็ไป เขาเชื่อจริงๆ ใช่ไหมว่าสุธีราใจแตกหนีออกจากบ้าน ตอนนี้ที่ลูกชายยอมเข้ามาทำงานที่บริษัทขณะที่สุธีราถูกเรียกขึ้นมาทำงานที่ชั้นบริหาร มันอาจจะเป็นโชคชะตาจริงๆ ก็ได้
     
    ปุณยนนท์มองไปทางลิฟต์ที่เห็นคนออเต็ม ก่อนจะเลี่ยงเงียบๆ เดินขึ้นบันไดไป เป็นครั้งแรกที่เขายอมรับกับตัวเองว่าเขาต้องการเลี่ยงอรนภา ไม่ต้องการพบหน้าเธอโดยเฉพาะเมื่อมีสุธีราอยู่ใกล้ๆ ชายหนุ่มถอนหายใจเมื่อเลี้ยวขั้นพัก อีกช่วงเดียวก็จะถึงชั้นที่ทำงานแล้ว ทำไมบันไดไม่ยาวกว่านี้นะ เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น ชายหนุ่มล้างกระเป๋าหยิบขึ้นมา แล้วก็สบกับดวงตาคู่โต ดวงหน้ารูปหัวใจที่เปื้อนไปด้วยน้ำตา
     
    “ปุณยนนท์ครับ”
     
    “แอ้มนะคะ จะกลับแล้ว รถเสร็จแล้ว แอ้มแวะมาหาที่บริษัท คราวหน้าคงต้องโทรนัดก่อนใช่ไหมนี่”
     
    “ก็น่าจะนะ” ชายหนุ่มตอบเรียบๆ
    “ได้ ไปล่ะนะ วันหลังจะโทรมาก่อนแล้วกัน” อรนภาส่งเสียงมาอย่างร่าเริง ก่อนจะกดวางสาย
     
    ปุณยนนท์สอดโทรศัพท์ลงในกระเป๋ากางเกง ตั้งแต่สบตาโตเหมือนตากวางคู่นั้น เขาไม่ได้คลาดสายตาไปไหนอีกเลย และดวงตาคู่นั้นก็จับจ้องมองเขาไม่คลาดสายตาเช่นกัน แววตัดพ้อ ต่อว่า น้อยใจ ฉายชัด ใช่ มองฉัน มองแต่ฉันเท่านั้น
     
    ผ้าเช็ดหน้าผู้ชายผืนใหญ่ถูกทิ้งลงบนตัก มือใหญ่ยีผมบนหัวเล็กๆ นั่นก่อนเดินเลยขึ้นไป ทิ้งให้หญิงสาวที่คิดว่าตัวเองเข้มแข็งแล้ว ร้องไห้อีกรอบเหมือนเด็กสาวตัวอ้วนกลมคนเก่า
     
    ….
    นานแสนนานจะมาที
    มาอีกตอนแล้วค่ะ
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×