คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ตามหา
แล้วเธอไย ห่างไกล
แล้วเธอไย ห่างหาย
ปล่อยให้ฉัน เดียวดาย
สุขสมเป็น ร้าวราญ
บทที่ 5 ตามหา
เสียงเคาะประตูทำให้อ้อมอรุณต้องค่อยๆ แง้มประตูดู เธอไม่ได้นัดใคร และถ้าเป็นน้องเบลละก็ น้องเบลมีกุญแจ
ชายหนุ่มที่ยืนหน้าห้องนั้น เธอไม่รู้จัก เขาก็แต่งตัวสุภาพดี สูง เพรียว
“คุณอ๋อยใช่ไหมครับ ผมมาหาน้องเบล”
วายุส่งใบทะเบียนสมรสให้ แล้วรอคอย ตอนนี้เขาถือใบสมรสเหมือนใบเบิกทาง
อ้อมอรุณเปิดประตูให้
“เจ้าหน้าที่ข้างล่างให้คุณเดินเข้ามาดีๆ” อ้อมอรุณทำเสียงแปลกใจเต็มที่
ที่นี่มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีมาก ผู้อาศัยอยู่ทุกคนมีกุญแจผ่านตั้งแต่ประตูข้างล่าง ถ้าลืมจะมีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่าอยู่ที่นี่หรือเปล่า ยังมีสถานะเช่าอยู่ไหม ระบบบัญชีเป็นยังไง โดยไม่ได้เกี่ยวข้องกับยามเลย และเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ได้ผ่านการคัดเลือกมาอย่างดีแล้ว
ถ้าจะมาเช่าอยู่ใหม่ ก็ต้องมีผู้รับรองที่เชื่อถือได้ มีเจ้าหน้าที่พามาดูห้อง จะมาเดินดุ่มๆ เดี่ยวๆ อย่างนี้....
“บังเอิญผมรู้จักเจ้าของที่นี่”
อ้อมอรุณมองเขา รินน้ำมาวางไว้ให้ คุณพ่อเธอเป็นเจ้าของที่นี่ และเธอไม่รู้จักเขา
“ผมเคยพบคุณพ่อคุณ ท่านกรุณาโทรมาแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ผม” วายุอธิบาย มองไปรอบๆ ห้อง ไม่มีวิญญาณของรัตน์สุดาที่นี่
“มาพบดิฉัน?” อ้อมอรุณถามให้แน่ใจ พ่อเธอคงไม่ได้เริ่มแผนดูตัวหรอกนะ
“พบน้องเบลครับ” วายุยิ้ม
คุณ
“น้องเบลไม่อยู่หรือครับ”
“ไม่อยู่ค่ะ” เธอส่งทะเบียนสมรสคืน
“ขอแสดงความยินดีด้วยค่ะ ไม่ทราบว่าช้าไปหรือเปล่า”
“ไม่หรอกครับ” วายุมองใบทะเบียน
“น้องเบลจะกลับมาเมื่อไรครับ”
“ไม่ทราบค่ะ น้องเบลเขาทำงานอิสระ ถ่ายรูปงานนิตยสารเสร็จแล้ว อาจอยู่ต่อ หรือแยกตัวไปไหนๆ”
นางแบบสาวยกไหล่ ด้วยท่าทีเก๋ชวนมอง
“น่าแปลกนะคะ น้องเบลไม่บอกอ๋อยเลยว่าแต่งงานแล้ว”
เธอไม่พูดถึงล่ะ ว่าเจอหน้ากันไม่ถึงห้านาที โดยมีบุคคลที่สามอยู่ด้วย ซึ่งรัตน์สุดาก็คงไม่บอกข่าวที่เป็นเรื่องส่วนตัวต่อหน้าคนแปลกหน้า
“คงยังไม่คุ้นกับคำว่าแต่งงานมั่งครับ”
“น้องเบลไม่ใช่คนอย่างนั้นนะคะ การแต่งงานไม่ใช่เรื่องเสียหาย แล้วอ๋อยก็ยังสนิทกับน้องเบลมากด้วย ไม่ใช่เรื่องที่น่าจะปิดบังเลย”
“ผมไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับน้องเบลเลย” วายุสารภาพ
“แล้วคุณแต่งงานกับน้องเบล?”
อ้อมอรุณมองเขาด้วยความแปลกใจ ถ้าเขารู้จักพ่อเธอ เขาก็คงไม่ใช่คนสติไม่สมประกอบ ตอนนี้เธอคิดว่าเขาไม่เต็มเต็งนะ อ้อมอรุณไม่ค่อยจะเข้าใจความคิดความอ่านของชายหนุ่มตรงหน้านี่เลย
“ผมชอบเขา เรารู้จักกันสั้นมาก ถ้าพูดคำว่ารักก็คงจะว่าผมบ้าเกินไป แต่ผมคิดว่าผมรู้จักเขานะครับ แต่อาจไม่รู้เกี่ยวกับสภาพแวดล้อมของเขา”
“ตลก”
“มันหมดสมัยมองปุ๊บรักปั๊บแล้วนะคะ” อ้อมอรุณอยากหัวเราะ แต่รู้สึกพิศวง งง งวยก็ว่าได้ มากกว่า
“คงไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ” วายุยิ้มเขินๆ เขาเปลี่ยนเรื่อง
“น้องเบลไม่ถูกกับคุณแม่เลี้ยงหรือครับ ถึงออกจากบ้าน”
“คุณแม่เลี้ยง คุณแม่ของน้องเบลหรือคะ” อ้อมอรุณอมยิ้ม ขำในคำพูดเจ็บร้อนแทนของเขา
“ไม่หรอกค่ะ น้องเบลรักเคารพคุณแม่เท่ากับแม่แท้ๆของเขา เขาอยากออกมาใช้ชีวิตอิสระ ออกจากโรงเรียน ออกจากบ้านมาเริ่มต้นอาชีพตากล้อง อ๋อยเจอเขาเลยชวนมาอยู่ด้วย อ๋อยเป็นเพื่อนกับบลู พี่สาวน้องเบลน่ะค่ะ แต่น้องเบลเขาก็กลับบ้านเสมอนี่คะ อยู่ที่นี่เขาทำงานสะดวกกว่าเท่านั้นเอง”
“ไม่น่าจะใช่สาเหตุที่ต้องออกจากบ้านจากโรงเรียนเลยนะครับ”
“อ๋อยคิดว่า...” อ้อมอรุณ ทบทวนเรื่องของรัตน์สุดาที่เธอรู้
“...เพราะเขาคิดถึงแม่เขามากก็ได้ แม่แท้ๆของน้องเบลเป็นนางงามจังหวัด ท่านเสียเมื่อน้องเบลได้สักสิบขวบมั๊งคะ น้องเบลถึงได้กลับมาอยู่กับคุณพ่อทางนี้”
“น่าแปลกนะครับ” วายุพึมพำ
“ถ้าน้องเบลรักแม่มาก เธอก็ไม่น่าจะรักคุณแม่เลี้ยง”
“ทั้งน้องเบลทั้งแมรี่รักคุณแม่ค่ะ” อ้อมอรุณยืนยัน
“แม่รี่?”
“พี่ของน้องเบลน่ะค่ะ” อ้อมอรุณบอก
ทั้งคู่คุยกันอีกนานกว่าวายุจะยอมลากลับ
วายุจากไป เรียกว่าเก้าอี้ยังไม่ทันจะเย็น รัตน์สุดาก็เปิดประตูเข้ามา
“สามีเธอมา”
“ไหน” รัตน์สุดาถามเสียงเบา เหลียวซ้ายมองขวา เตรียมจะหลบ
อ้อมอรุณหัวเราะก๊าก
“เพิ่งไปได้สักสิบนาทีนี่เอง” อ้อมอรุณโคลงศีรษะ
“แม่หนูเอ๊ย เล่นอะไรกัน? ซ่อนหา”
“เปล๊า” รัตน์สุดาพยายามตีหน้าเฉย แล้วก็อดหัวเราะไม่ได้
“มาเล่าให้ฉันฟังดีๆ นะน้องเบล ไม่งั้นจะไม่ช่วยเหลืออะไรเลย”
“ก็ไม่แน่ว่าจะช่วยอะไรได้ ท่าทางอ๋อยเข้าข้างต้นเต็มที่เลยนี่”
“ก็เขาหล่อ” อ้อมอรุณบอก เหมือนนั่นจะเป็นเหตุผลที่เพียงพอแล้ว เธอมองเพื่อนรุ่นน้องที่นั่งที่โปรดอย่างแสนสบายใจ ไม่ทุกข์ร้อน
“เขาไม่ใช่คนเหลาะแหละนะ เขาแคร์น้องเบลมากเลยเชียวล่ะ”
“น้องเบลไม่แคร์เขานี่”รัตน์สุดายกไหล่
“ทำไมเราต้องดีกับคนที่ดีกับเราด้วยล่ะ อ๋อย เขาดีกับเรา เราอาจไม่ชอบเขานี่ ต้องถูกประนามว่าเป็นคนอกตัญญูเหรอ”
อ้อมอรุณอมยิ้ม ทั้งที่โกรธกรุ่นๆ ขึ้นมาในวาจาที่ออกจะไม่เคารพนั่นนัก ก็ไอ้คำออกกตัญญูของน้องเบลนะซิ เธอชอบพูดเร็วๆเป็น อ(อก)กตัญญูเสียเลย เป็นนิสัยที่ติดเสียแล้วเวลาพูดถึงผู้ใหญ่ที่น่าเคารพ
“แล้วทำไมแต่งงานกับเขาล่ะ เขาเอาทะเบียนมายื่นให้เลยนะ”
รัตน์สุดาย่นจมูก ไม่คิดว่าต้นจะตื้อเก่งขนาดนี้ เธอรู้แต่ว่าเขาเป็นคนจริงเท่านั้นเอง
“ก็เขาขอน้องเบลแต่งงานนี่”
“โอ๊ยต๊าย” เสียงอ้อมอรุณสูงปรี๊ด จนรัตน์สุดาสะดุ้ง
“ใจง่าย”
“อ้าว ก็เห็นความสำคัญของน้องเบล ขอให้น้องเบลแต่งกะเขา น้องเบลก็แต่งนะซิ”
แล้วเธอก็รีบตีหน้าเศร้า เพราะอ้อมอรุณย่างสามขุมเข้ามาใกล้ คว้าคอเสื้อดึงขึ้น
“เขาบังคับให้น้องเบลแต่งงานกะเขา ไม่งั้นเขาจะ...”
รัตน์สุดาหยุดพูดเมื่ออ้อมอรุณปล่อยมือ
“ไม่ชอบเขาหรือ”
“ชอบซี่ เขาน่ารักออก” รัตน์สุดายิ้ม
“แต่รักหรือเปล่าไม่รู้นะ น้องเบลจะอาบน้ำนอนแล้ว ตีสองรถจะมารับไปเขาล่ะ คราวนี้ ถ่ายกะหิน หิน ๆ ๆ เท่านั้น”
หญิงสาวเต้นออกไปตามจังหวะเพลง
“อย่าเพิ่งหนีซิ”
“เปล่าหนีนะ แต่ตอนนี้ น้องเบลไม่ว่างพอที่จะมาสนใจเรื่องแบบนี้หรอก”
อ้อมอรุณคันปากยิบๆ แต่ที่เธออยู่กับรัตน์สุดามาได้หลายๆ ปีนี้ ก็เพราะต่างเคารพในความเป็นส่วนตัวของกันและกัน
“คุณแม่โทรมา ถ้าว่างไปหาท่านด้วย”
“รับทราบ” รัตน์สุดาขานรับ หอบเสื้อผ้าเข้าห้องน้ำ
ความคิดเห็น