ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ปัจจุบัน 5 จบ
4. How do we go to the end?
“แขกไปกินข้าวกับคุณป้าไหมลูก” รามถามวิยะดาหลังจากบรรจงวางโทรศัพท์ลง มองสีหน้าเด็กสาวที่จากระแวง แปลกใจ สงสัย จนดีใจ
“ไปค่ะ” แม่สาวน้อยวางหนังสือกระโดดลุกขึ้นทันทีเหมือนกลัวเขาจะเปลี่ยนใจ รามยิ้มอย่างเอ็นดูเมื่อเห็นหน้าใสๆ นั้นสลดลงเล็กน้อย เมื่อเหลือบเข้าไปมองในบ้าน
“ไปบอกแม่เขาไป๊ลูก”
“ค่ะ” หญิงสาววิ่งออกไปตามหามารดา
“แม่คะ...แม่ แม่ขา...แม่ แม่จ๋า...แม่”
ละเวงพยักหน้าให้ลูกมือฟังเสียงใสๆ นั่น “แม่ลูกนก จ้อได้ไม่หยุดปาก”
“แม่ค้า...แม่”
“จ้า คุณลูก” ละเวงตอบไป เมื่อเสียงทำท่าจะผ่านห้องที่เธอเตรียมอาหารไป
“แหม แขกคิดว่าแม่อาบน้ำอยู่เสียอีก”
“มีอะไรล่ะ เรียกแม่ลั่นบ้านอย่างนี้”
“คุณพ่อให้ชวนคุณแม่ ไปทานข้าวบ้านคุณป้าค่ะ”
“คุณป้าไหนละลูก” ละเวงถามลูกสาวไปมือก็ทำงานไป
“คุณป้าแม่พี่หนุ่มน่ะค่ะ” วิยะดาตอบ มองตาแป๋ว ละเวงมือไม้อ่อนรีบวางมีดลง ก่อนจะร่วงหล่นจากมือ
“คุณบุษบานั่นนะหรือ”
“ค่ะ” วิยะดาพยักหน้ายืนยัน
“เมื่อกี้ คุณพ่อท่านโทรคุยแล้ว”
ละเวงตัดสินใจทันที
“รอแม่เดี๋ยวนะคะ น้องแขก อ้อลูก ดูจัดกับข้าวไปสักสองสามอย่าง เย็นอย่างนี้แล้วคงจะเตรียมอะไรเพิ่มไม่ทัน หนูว่าบ้านนั้นมีกันไม่กี่คนไม่ใช่หรือลูก”
“ค่ะ แม่ไปแต่งตัวเถอะค่ะ แขกเตรียมของให้เอง”
ดวงหน้างามแอร่มที่ลงมา กดออดนั่น คุ้นหน้าคุ้นตาและรู้ด้วยว่าเป็นคนโปรดของคุณท่าน จะไม่เปิดประตูให้อย่างไร
“คุณป้าทานข้าวยังป้าแก้ว แขกจะมาทานด้วย”
หญิงสาวทักเสียงใส โบกมือให้บิดาขับรถเลยไปเลย ตัวเธอรอให้แม่แก้วปิดประตู แล้วคล้องแขนกับแม่แก้วเดินตามไปด้วยกัน
“คุณหนูมากับใครคะ” แม่แก้วมองตามหลังรถที่แล่นเข้าไปก่อน
“คุณพ่อกับคุณแม่น่ะ คุณป้าทานข้าวหรือยัง” วิยะดาถามซ้ำ
“ยังค่ะ ท่านยังไม่ออกจากห้องทำงานเลย”
“ฮือม์ ฮึม แขกเอากับข้าวมาด้วย อยู่กับคุณแม่แน่ะ ป้าแก้วตั้งโต๊ะเลยนะ แขกไปตามคุณป้าเอง” วิยะดาตัดสินใจ แล้วก็วิ่งขึ้นบันไดข้างไปชั้นบน เธอเดินเข้าเดินออกบ้านนี้จนทะลุปรุโปร่งแล้ว
“คุณป้าคะ” วิยะดาเคาะประตูเบาๆ
“น้องแขกเข้ามาซิลูก” บุษบาบอก ยืนนิ่งข้างหน้าต่างบานยาว มองรถที่เพิ่งหยุดลงหน้าตัวตึก ฉลาดมากนี่ ที่ใช้ลูกมาเป็นทัพหน้า
“คุณพ่อว่าคุณป้าเชิญมาทานข้าวด้วย” หญิงสาวพูดอ่อยๆ ขยาดสีหน้าเรียบเฉย
“จ๊ะ” บุษบาเกาะแขนหญิงสาวที่เดินมาใกล้
“พี่หนุ่มละคะ” หญิงสาวถามเบาๆ หน้าร้อนซู่ ก็มาบ้านเขาแล้ว ก็ต้องถามให้ครบคนนั่นล่ะ
“ไม่อยู่หรอก ไปธุระของเขาอีกหลายวันถึงจะกลับ”
“คุณป้าก็อยู่คนเดียวซิคะ แขกมาอยู่เป็นเพื่อนไหม”
บุษบาบีบแขนเรียวแน่นขึ้น ถ้าไม่ใช่ลูกของพี่รามจะดีแค่ไหนนะ
“ถ้าคุณพ่อคุณแม่ไม่ว่า ก็มาซิลูก” เธอตอบเด็กสาว
บุษบาไหว้ราม รับไหว้ละเวง
“ดิฉันเอาอาหารมาด้วย ให้ช่วยชิมกัน” ละเวงบอก
“ตาหนุ่มชมเสมอว่าคุณอาทำอาหารอร่อย”
“น้องแขกคงไม่คิดอย่างนั้นค่ะคุณพี่ ไม่อย่างนั้นคงไม่แวะมาทานข้าวที่นี่บ่อยๆ”
“เขามีเพื่อนเล่น” บุษบาตอบยิ้มๆ
หลังอาหารวิยะดาชวนรามลงไปดูต้นไม้ ไม้ดัดงามๆ ที่เธอเคยเล่าให้ท่านฟัง
“อยากทราบเหตุผลที่พี่ห้ามไม่ให้เด็กสองคนนี่แต่งงานกันไหมคะ”
บุษบาถาม เลือกน้ำผลไม้คั้นให้ละเวง
“ค่ะ” ละเวงรับคำ
มองตามสายตาอีกฝ่ายที่มองทะลุกระจกบานยาวออกไปที่สวนย่อม ไกลออกไป รามกับวิยะดาท่าทางถกกันอยู่ถึงลายดัดของต้นไม้ตรงหน้า เธอรู้ใจลูกสาวเห็นป่าวๆ ว่าไม่ไม่ ในใจนั้นผูกพันเกินจะห้ามเสียแล้ว ดีว่าวิยะดาไม่ใช่เด็กหุนหันเอาแต่ใจ การมาบ้านนี้วันนี้ เธอไม่คิดว่าวิยะดาจะไม่มีส่วน รามนั้นตามใจวิยะดา
“ตาหนุ่มเป็นลูกของพี่ราม”
“คะ?” ละเวงไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง
บุษบาหันมายิ้มนิดๆ ขมขื่น
“ตาหนุ่มเป็นลูกของพี่ราม” เธอย้ำอะไรมันจะต้องเกิดมันก็ต้องเกิด บอกสาเหตุเสีย จะได้ช่วยกันป้องกันทั้งสองฝ่าย
“พี่ไม่เคยทราบจนเจอพี่ราม ถ้ารู้ก่อนพี่คงจะห้ามลูกแล้ว”
ละเวงถอนหายใจ เธอทราบสาเหตุแล้ว ออกจะเห็นใจอยู่บ้าง ถ้าเธอเป็นบุษบาคงไม่แค่นิ่งตอบปฏิเสธการแต่งงาน เธอคงเป็นลม หรือเป็นบ้าไปแล้ว แต่สิ่งที่เห็น อาจจะไม่เป็นเช่นที่เห็น ดังนั้น
“คุณพี่คะ คุณพี่จำคุณหริรักษ์ได้ไหมคะ”
“หริรักษ์ ๆ หริรักษ์ลูกคุณลุงพรต ที่พ่อพี่รามเอามาเลี้ยงนะหรือ”
“ค่ะ”
ทำไมเธอจะจำไม่ได้ ก็เธอสนิทสนมกับทั้งตระกูล เป็นเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงกัน
“ดิฉันเป็นเมียพี่รักษ์ เขาก็ไม่ได้ดูแลอะไรนัก”
“พี่เข้าใจค่ะ” เธอปลอบใจ
ผู้ชายตระกูลนี้เจ้าชู้ทุกคน แม้แต่พ่อลูกชาย ตอนวัยคะนองนั่นก็ใช่ย่อย ดีที่ตอนนั้น พี่ราเมศร์รับมือได้
“พี่รักษ์ตาย ดิฉันไม่มีใคร คุณท่าน คุณรามนะคะให้ดิฉันมาอยู่ที่บ้าน ดูแลบ้านให้ท่าน ตอนพี่รักษ์เสีย ดิฉันท้องได้ห้าเดือนแล้ว”
บุษบาหน้ามืดวูบ ถ้าไม่ได้ละเวงรับไว้ เธอคงจะ...
“ใครอยู่แถวนี้ เร็วเข้า คุณเป็นลม” ละเวงร้องเต็มเสียง พยายามเหยียดร่างของบุษบาให้นอนสบายขึ้น สงสัยอยู่ทำไมคุณท่านถึงตั้งชื่อเล่นบุตรสาวว่าน้องแขก แล้วยังวิยะดา
“พี่ไม่เป็นไร” บุษบาหายใจลึกๆ น้ำตาซึม “พี่บอกหนุ่มแล้ว เขาหายไป”
“คุณพระช่วย” ละเวงรู้สึกเหมือนจะเป็นลม คิดถึงลูกตัวเองถ้ารู้ว่าคนที่ตนรักเป็นพี่ชายจะรู้สึกเช่นไร นี่ดีแต่ว่าไม่ใช่ ถึงใครๆ จะคิดอย่างนั้นก็ตาม
“คุณป้าเป็นอะไรคะ” วิยะดาแทบจะเรียกว่าถลาเข้ามา ก็มองมาเห็นอยู่ว่านั่งคุยกันอยู่ แล้วคุณป้าก็ล้มลง เธอวิ่งมาแบบเรียกว่าไม่ทันหายใจเชียว
“เป็นไงบ้าง” รามถามเรียบๆ ประคองให้ลุกขึ้น
ละเวงจับกระแสห่วงใยอาทรได้ดี คุณท่านไม่เคยห่วงใยอาทรใครเท่านี้ แม้แต่วิยะดา
“ลุกไหวไหม”
“ค่ะ” บุษบาน้ำตาซึมออกมา
“น้องแขกอยู่เป็นเพื่อนคุณป้า หยุดงานสักพัก พรุ่งนี้พ่อจะแวะเอาเสื้อผ้ามาให้”
“ค่ะ” วิยะดารับคำทันทีคู่อริเธอไม่อยู่อย่างนี้ เกิดอะไรขึ้นใครจะดูคุณป้า อย่างวันนี้ ดีนะที่บ้านเธอยกมากินข้าวด้วย ถ้าท่านอยู่คนเดียวจะเป็นยังไง
รามอุ้มร่างบางๆ ลอยขึ้น บุษบาแทบจะไม่ต่างจากเมื่อก่อนเลย นอกจากร่องรอยตามวัย “ไปนอนเลยก็แล้วกันนะ คงจะขึ้นบันไดเองไม่ไหวแล้ว น้องแขกคุณป้านอนห้องไหนลูก”
วิยะดารีบนำไป
“พักให้สบาย พรุ่งนี้พี่จะมา แล้วเราคอยพูดกัน”
“คุณน้อย” บุษบาเรียกเบาๆ ละเวงกุมมือบางๆ นั้นไว้ ก้มลงไปใกล้
“อย่าบอกพี่ราม เขาจะเอาลูกไปจากพี่”
“ค่ะ ดิฉันจะไม่บอก” ละเวงรับคำ ลูบมือบอบบางเบาๆ
“ตาหนุ่มกลับดึกไหม” รามถาม
“ไปธุระค่ะ อีกหลายวันถึงจะกลับ” แม่แก้วตอบแทนนาย
“น้องแขกกระซิบอะไรกับคุณ” รามไม่เสียเวลาเลย เขาถามทันทีที่เข้ามานั่งในรถด้วยกัน
“ไม่มีอะไรค่ะ ก็เพ้อธรรมดา”
ดวงตาคมตวัดมอง จ้องจับผิด “ทำไมเขาถึงเป็นลมได้
“ไม่ทราบค่ะ สัมภาษณ์แม่แก้ว เห็นว่าทำงานหนักมาก คุณพี่คงจะพักผ่อนไม่พอมั่งคะ” ละเวงรักษาสีหน้าให้เรียบ
รามถอนหายใจ ผู้หญิงสองคน คนหนึ่งผูกสมัครรักใคร่ เห็นมาแต่เล็กแต่น้อย คนหนึ่งเป็นเพื่อนเชย ปรนนิบัติรับใช้ คิดว่าจะหลอกเขาได้หรือ แล้วยังนิสัยหยิ่งจองหองของราเมศร์
อุณรุธ ทำไมเขาไม่คิดถึง ถึงพี่ราเมศร์จะนอกคอกยังไง ถ้าอุณรุธเป็นลูกชายเขาจริงๆ เขาคงจะตั้งชื่อที่มีความหมายถึงรามา มากกว่าจะตั้งชื่อว่าอุณรุธ ละครรำเรื่องเดียวที่ราเมศร์เคยดู ประมวลเหตุการณ์ทั้งหมด เขาก็รู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร
“เรื่องระหว่างเราคงต้องจบลงแค่นี้” รามมองนิ่ง
“ค่ะ” ละเวงรับคำเรียบๆ เจ็บปวดใจเหลือเกินนะถึงจะไม่รัก ก็มีความผูกพันกัน แต่นี่เจ้าของเขามาแล้ว ตัวสำรองจะอยู่ต่อได้อย่างไร
“เรื่องเรียบร้อยแล้วดิฉันจะไป”
“คุณน้อย” ถึงไม่รักก็มีความเอื้ออาทรกัน “ผมไม่ได้จะให้คุณน้อยไปไหน คุณน้อยก็ยังอยู่ที่นี่ ดูแลบ้าน เป็นคุณผู้หญิงของที่นี่ ส่วนน้องแขกผมจะพาเขาไปจากความวุ่นวาย ไปอยู่บ้านที่เขาควรจะอยู่มาตั้งนานแล้ว ธุรกิจการงานก็ให้น้องแขกกับตาหนุ่มทำ เขาดูแลได้”
“ไม่ทราบจะละลาบละล้วงเกินไปหรือเปล่าคะ คุณท่านจะพาคุณพี่เธอไปไหนคะ” ละเวงลังเลก่อนจะลองถาม
“กระท่อมบนดอย แล้วเราจะเชิญคุณน้อยไปเยี่ยมเรา ขอเวลาหน่อย” รามนิ่งไปครู่ก่อนจะตอบ
กระท่อมบนดอย กระท่อมที่คุณท่านมักจะไปพักเพียงลำพังเมื่อต้องการคิดหรือพักผ่อนเป็นการส่วนตัวนะหรือ คุณท่านกับคุณพี่บุษบาคงจะผูกพันกันมานานมาก
บุษบาสังเกตลมหายใจของคนนอนข้างๆ บางครั้งก็พยายามพลิกตัวให้เบาที่สุด
“นอนไม่หลับหรือลูกที่นอนแข็งไปหรือไง”
“เปล่าคะ” วิยะดาถอนหายใจเฮือก โล่งอกไปอย่างล่ะว่าเธอไม่ได้กวนให้ท่านตื่นและท่านดูจะอาการดีขึ้น เธอพลิกตัวกลับ
“พี่หนุ่มทราบไหมคะว่าคุณป้าไม่สบาย” วิยาดาถาม ตาใสแจ๋วมองมาอย่างเป็นห่วงเป็นใย
“ไม่รู้หรอก” บุษบามองหญิงสาวที่นอนข้างๆ ถ้าไม่ใช่ลูกของพี่ราม มีอะไรที่วิยะดาไม่เหมาะสมกับบุตรชายเธอ ไม่มี บุษบาเริ่มยิ้มได้ เอาล่ะที่นี้ก็ต้องตามอุณรุธให้พบ
“พรุ่งนี้ไปทำงานหรือจะอยู่เป็นเพื่อนป้าลูก”
“คุณพ่อเปิดไฟเขียวให้แล้วค่ะ” หญิงสาวตอบยิ้มขี้โกง คุยกันไปคุยกันมา จนหลับไปทั้งคู่
วิยะดาตื่นแต่เช้าลงไปใส่บาตรพร้อมๆคุณป้า ยืมชุดท่านใส่ก่อน ก็ตัวเท่าๆ กันนี่นาแล้วชุดท่านก็ไม่ใช่ผ้าถุง เสื้อคอกระเช้าที่ไหน กางเกงป้ายปักลาย กับเสื้อป้ายตัวสั้น ทันสมัยจะตาย
“อากาศเช้าๆ น่าสบายนะคะ”
“แสดงว่าไม่เคยตื่นเช้าเลยซิลูก” บุษบาเย้า มองรอยยิ้มเขินๆ อย่างเอ็นดู“พี่หนุ่มเขาตื่นเช้านะ ตื่นมาใส่บาตรกับป้าทุกวัน” เธอมองหญิงสาวอย่างวาดหวัง ในเมื่อไม่ใช่ลูกสาวของรามก็จะเป็นไรไป เมื่อเด็กทั้งคู่เหมาะสมกันออกอย่างนั้น
รามบอกให้คนขับรถจอดแอบข้างถนน เมื่อเหลือบไปเห็นเงาหลังคุ้นตา ไม่แน่ใจว่าใช่อุณรุธไหม ถ้าเป็นอุณรุธก็ไม่เคยที่จะแอบอยู่อย่างนี้
“หนุ่ม” เขาเดินเข้าไปใกล้ แล้วลองเรียกดู ไม่น่าจะผิดตัว ชายหนุ่มสะดุ้งทั้งตัว หันกลับมา แววตาแปลกไป คนผ่านโลกมามากอย่างเขาจับได้ทันที
“มาแอบอะไรอยู่ตรงนี้ มาหาใคร หรือมารอใคร”
อุณรุธยิ้มจืดๆ คนๆนี้หรือเป็นพ่อแท้ๆของเขา ก็ไม่ได้ติดใจอะไร เพราะพ่อที่เลี้ยงเขามาก็ให้ความรักเขาอย่างเปี่ยมล้น แต่ความคิดที่ว่าเขามีพ่อคนเดียวกับวิยะดานี่ซิ ทำเอาปวดใจ พาลจะเกลียดเอาง่ายๆ
“ติดใจกาแฟแถวๆ นี้ครับ”
รามอมยิ้ม รู้ว่าอุณรุธมาทำไม แอบดูสาวนะซิ แต่แปลก ทำไมต้องหลบ มีเหตุผลอะไร คำตอบนั้น เขาคิดว่าเขาต้องพอใจกับมันมากเชียวละ แต่มันคืออะไร
“น้องแขกไม่ได้มาทำงาน อยู่เป็นเพื่อนน้องแขก” รามหัวเราะขันคำพูดของตนเอง
“น้องแขกที่เป็นแม่ของหนุ่มนะ กับอาเคยเล่นกันมาแต่เด็กๆ เรียกเขาว่าน้องแขกจนติดปาก แม่เราไม่สบายแน่ะ เป็นลม เย็นนี้อาจะแวะไปเยี่ยม จะไปคุยเรื่องงานของน้องแขกกับหนุ่มยังไงล่ะ แล้วต่อไปก็ต้องเรียกอาว่าพ่อแล้วนะ” หนุ่มใหญ่ยิ้มให้
“ยังไงๆ ก็กลับบ้านไปดูแม่เขาบ้างนะ ไม่งั้นอาจะเอาเขาไปดูแลเอง” แล้วรามก็เดินเลยขึ้นตัวตึกไป ทิ้งให้อุณรุธ ยืนตัวแข็ง
เขาแน่ใจว่าเขาจับข่าวสารที่ถูกส่งมาให้ได้ดีเชียวล่ะ อุณรุธ เผ่นกลับบ้านทันที
....
จบ รักนั้นสวรรค์แกล้ง (หรือคนเขียนแกล้งก็ไม่รู้) ภาคปัจจุบัน
เขียนภาคอดีตเมื่อไรจะนำมาลงให้อ่านกัน
รักแล้ว...รอนานหน่อยนะคะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น