ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : งานแต่งงานของคุณแม่
บทที่ 4 “งานแต่งงานของคุณแม่”
เยส ได้งานแล้ว กณิการ์แทบเต้นแท๊บหน้าบริษัท ว๊าวๆๆๆๆ เริ่มงานวันจันทร์ ถึงจะเป็นงานในบริษัทเล็กๆ แต่มันคืองาน และงานคือเงิน จบบริหารเอกการตลาด มาทำงานขาย ขายกระดาษ แต่ตัวเท่าลูกหมา เขาไม่ให้ออกไปขายหรอก เขาเก็บเธอเอาไว้ทำสต็อกที่บริษัท กรรม เรียนขาย มาทำบัญชีสินค้า
โชคดีที่ผู้จัดการเป็นรุ่นพี่เลยผ่านง่ายหน่อย แต่จะว่าใช้เส้นหรือเปล่านะ อีกตั้งสิบห้าวันจะสิ้นเดือน แต่อีกสองวันจะเป็นวันจันทร์แล้ว ว๊าว สาวตัวเล็กเดินแกมเต้นไปรอรถประจำทางที่ป้าย เอาแฟ้มปิดปากที่ยิ้มกว้างเดี๋ยวจะมีคนเข้าใจผิดว่าเธอบ้า เดี๋ยววันนี้ต้องกินมาม่าปิดท้ายเสียหน่อยแล้ว ไม่ใช่เหนื่อยปล่อยให้ มาม่า นอนรอจนอืดไปถึงเช้าอย่างทุกที
กณิการ์ต้มน้ำกดใส่มาม่า เดินไปอาบน้ำกลับมา เปิดชามดมกลิ่นหอมฉุยน่ากิน หยิบส้อมม้วนพันเส้นขึ้นมา ยังไม่ทันจะเอาเข้าปาก เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเสียก่อน เสียงเพลงเจ้าพ่อสายลับ เพลงประจำตัวเจ้ายอร์ช กณิการ์ถอนหายใจเฮือกวางส้อมลงอย่างเสียดาย ไม่ได้สนใจยอร์ชหรอก แต่คนอยู่เบื้องหลังนี่ซิ สาวฝ้ายน่ากลัวจริงๆ นะ
“กิ๊ฟกั๊บ”
“ฝ้ายจะคุยกับนาย” ยอร์ชบอกเสียงเข้ม จนน่าแปลกใจ
“กิ๊ฟ” เสียงสาวฝ้ายคลอสะอื้น
“จ๋า จ๋า ฝ้าย เกิดอะไรขึ้น ยอร์ชทำอะไรฝ้ายบอกกิ๊ฟมา”
“ยอร์ชไม่ยอมซื้อลูกให้ฝ้าย”
ถ้าตอนนี้ใครเป็นหน้าสาวกิ๊ฟจะเห็นเครื่องหมายคำถามเต็มหน้า
“อ่ะลูกเหรอ” เอ๋ ก็ ท้องอยู่ จะไปซื้อลูกที่ไหนมาอีกล่ะ
“ฮือ มันน่ารักมากเลยนะกิ๊ฟ สีช็อกโกแลต ตาแป๋ว มันเสียใจมากเลยอ่ะ ที่ยอร์ชไม่ยอมเอามันกลับบ้านด้วย ยอร์ชใจร้าย”
สลับกับเสียงสะอื้นฮักๆ ของสาวฝ้ายที่กิ๊ฟไม่รู้ว่าเพื่อนรักอยู่ในอารมณ์ไหน เริ่มเข้าใจล่ะ ว่าที่อยากได้ต้องเป็นลูกหมา แต่สาวฝ้ายท้องอยู่ เลี้ยงหมามันไม่น่าจะดีเท่าไร แล้วไปเห็นหมาที่ไหน
“อ่ะจ้า ให้กิ๊ฟคุยกะยอร์ชหน่อยนะคะ นะ ฝ้าย กิ๊ฟจัดการให้น้า” กณิการ์บอกเพื่อนเสียงอ่อนเสียงหวาน มองชามมาม่าตาละห้อย อดอีกฉัน วันนี้พี่มาม่า
“กิ๊ฟ” เสียงเพื่อนหนุ่มบอกแววเบื่อหน่าย ชิชะ แต่งมาไม่ถึงปีทำเสียงเบื่อหน่ายเพื่อนฉันเรอะ เจ้ายอร์ช
“ฝ้ายไปเห็นหมาใคร” กณิการ์ถามตรงจุด
“หมาพี่โชค เขาไปได้หมามาจากเพื่อนคู่หนึ่ง มันคลอดพอดี”
“แล้วทำไมเอามาไม่ได้” กิ๊ฟถามเสียงเอาเรื่อง
ยอร์ชยักคิ้วให้ภรรยาที่เอากระดาษเนื้อนุ่มเช็ดน้ำตาที่ทั้งบีบทั้งเค้นเมื่อกี้ สาวเจ้ายิ้มหวานตอบ
“พี่โชคบอกว่าฝ้ายกำลังท้องอยู่ใกล้หมาไม่ดีต่อลูก”
“เหรอ กิ๊ฟก็ว่าอย่างนั้น” กณิการ์คลายเสียงเครียดลง
“มาหน่อยซิ อยู่บ้าน”
กณิการ์มองชามมาม่าตาละห้อยอีกครั้ง
“ฮือ รอเดี๋ยว” เธอบอก ก่อนตัดสาย
ยอร์ชวางโทรศัพท์เดินไปกอดภรรยาแรงๆ อย่างหมั่นเขี้ยว
“ทำให้ยอร์ชหึงนะ อ้อนเจ้ากิ๊ฟเกินไปแล้ว”
“น่า ไม่อยากให้พี่โชคแต่งกับกิ๊ฟเหรอ”
“ไม่อยาก เจ้ากิ๊ฟน่าจะได้คนที่ดีๆ กว่าพี่โชค”
แทนที่จะโกรธ ฝ้ายกลับหัวเราะ ใช่...ถ้าพี่โชคไม่ใช่พี่ชายของเธอนะ เธอไม่มีทางเชียร์แน่นอน
หญิงสาวจัดเสื้อผ้าสำรองใส่กระเป๋า ไปหาอย่างนี้ ไม่เคยพลาดล่ะ ถูกดึงให้นอนค้างประจำ
ยายคนติดเพื่อน เมื่อไรแกจะเลิกติดฉันเสียที ทั้งๆ ที่บ่นอย่างนั้น แต่เธอก็ไม่แน่ใจนักหรอกนะว่าที่เจ้าฝ้ายโทรมาเรียกนี่ จริงหรือแกล้ง แกล้งหรือจริง แต่เพื่อนกันน่ะ นิดๆ หน่อยๆ กิ๊ฟไม่ถือสา ขอกันกินมากกว่านี้ แล้วตอนนี้ เพื่อนสาวอยู่ในช่วงอ่อนไหว จะจริง...ไม่จริง ทำให้อารมณ์ดีไว้ก่อนดีกว่า อาบน้ำแต่งตัวออกมา หยิบกุญแจหยิบโทรศัพท์ที่ดังทันใจ
“เออ กำลังจะไปคุณแม่” สาวกิ๊ฟงึมงำก่อนมองหน้าจอ อ่ะ คุณแม่ตัวจริง
“ค่า กิ๊ฟค่ะแม่”
“จ้า เมื่อไรจะกลับบ้านแม่สาคิดถึง” เสียงคุณแม่ตัวจริงบอกมาอ้างถึงแม่คนที่เลี้ยง ลูกสาวแยกเขี้ยวยิ้ม อ้างแม่สาน่ะซิ บอกว่าคิดถึงลูกสาวหน่อยไม่ได้หรือยังไงนะ
“กิ๊ฟได้งานแล้ว” เจ้าตัวเล่าแจ้งแถลงข่าว
“อ้าว งั้นก็มาไม่ได้นะซิ” เสียงคุณแม่เสียดาย จนสะกิดใจ
“มีอะไรเหรอคะ” กณิการ์ถามเสียงอ่อย
“แม่จะแต่งงาน”
“แต่งงาน” กณิการ์ร้องลั่น คุณแม่จะแต่งงาน ในวัยจะห้าสิบนี่นะ คุณแม่แต่งงานได้ไง!!! อยู่เป็นโสดมาตั้งนานไม่นึกถึงพ่อของลูกสาวตัวน้อยหรือไง สาวน้อย ร้องวุ่นวายในใจ ได้แต่อ้าปากค้างไม่มีเสียง
“ถ้าไม่ว่างก็ไม่เป็นไรลูก แต่ยังไงหนูหาเวลาว่างกลับบ้านสักวันสองวันได้ไหมลูก”น้ำเสียงคุณแม่จริงจัง จนกณิการ์ต้องเรียกสติตัวเองกลับมา
“ค่ะ อ่ะ แม่จะแต่งงานเมื่อไร”
“ปลายเดือนนี่ล่ะจ้า แต่แม่ว่าแม่จะย้ายตามคุณอุดม คุณอุดมเกษียณแล้วจะกลับบ้าน”
ลุงอุดม แสนหล่อนั่นนะหรือจะแต่งงานมาเป็นพ่อใหม่ของเธอ แล้ว ยังหล่อขนาดนั้นจะหกสิบ จะเกษียณแล้ว โธ่แม่นะแม่ จะแต่งงานใหม่อีกสักครั้ง เลือกหนุ่มเอ๊าะๆ ให้สาวๆ กรี๊ดหน่อยไม่ได้หรือยังไง ลูกสาวตัวน้อยได้แต่งึมงำในใจ
ซ้าย...แม่คุณเพื่อนรัก ขวา...คุณแม่จะแต่งงาน ตรงหน้า...วันจันทร์ทำงาน ข้างหลัง...ยังไม่มีอะไร มองซ้ายขวาหน้าหลังแล้ว เจ้ากิ๊ฟก็ต่อโทรศัพท์ขอเลื่อนไปทำงานต้นเดือน โทรไปหาเพื่อนรัก อันนี้ยากหน่อยกว่าจะเกลี่ยกล่อมให้เข้าใจว่าฉันจะกลับบ้าน โดยไม่ต้องบอกสาเหตุ แม่จะลุกมาแต่งงานใหม่นี่นะ น่าบอกตายล่ะ
กระเป๋าจัดเสร็จแล้วเหลือแต่ไปตีตั๋วรถ กณิการ์ถอดอุปกรณ์ไฟฟ้าออก ล็อกห้อง แวะบอกคุณป้าเจ้าของหอว่าจะกลับบ้านนะคะ
“แม่จ๋า” เจ้าตัวน้อยที่กระโดดลงจากรถสองแถววิ่งมาหานั้นไม่คิดว่าจะมาทันใจขนาดนี้
“คิดถึงจังเลย” เจ้าตัวโถมมากอดหมับ กรรเกราต้องทิ้งสายยางรดน้ำต้นไม้ลง
“คิดถึงแม่หรือแม่สากันแน่จ๊ะ” กรรเกราหัวเราะ
“แม่จิ แม่” เจ้าตัวเล็กกอดนัวเนียทั้งๆที่ไม่ปลดเป้ข้างหลังออก คุณแม่ได้แต่ถูกลูกสาวกอดเอาแน่นๆ
“แม่จะแต่งไปกะคนอื่นแล้ว ปล่อยลูกสาวน้อยๆ อยู่คนเดียว กิ๊ฟไม่รีบกอดๆ แม่ไว้ก่อน ก็กอดแม่ไม่ได้แล้ว”
กรรเกราหัวเราะ กระตุกผมลูกสาวให้เงยหน้าขึ้นมา
“ไป...เข้าบ้านไปล้างหน้าอาบน้ำกินข้าวแล้วค่อยมาคุยกันนะ ไปให้แม่สาแกปลื้มหน่อย ลูกกิ๊ฟ กลับมาแล้ว”
กณิการ์สะพายกระเป๋าเข้าบ้าน กินหนึ่งอิ่มแล้วหลับยาวมาตื่นเอาบ่ายแก่ๆ เจ้าตัวเล็ก ลืมตางัวเงียปัดผมพ้นหน้าได้ ก็ เจอคำสั่งเด็ดของคุณแม่
“เดี๋ยวอาบน้ำแต่งตัวสวยๆ นะ ลุงดมจะมารับไปกินข้าว”
ร่างเล็กๆ ทิ้งตัวตึง นอนต่อทันที กรรเกราหัวเราะ ยีผมลูกสาวเล่น
“ถ้าไม่ตื่นไปอาบน้ำแต่งตัว แม่จะให้แม่สามาลากตัวลงไป”
ลูกสาวแลบลิ้นตามหลัง พอแม่ลับกายพ้นประตู เจ้าของห้องก็ดีดร่างลงจากเตียงตะกุยตู้หาเสื้อผ้า กรรม มีแต่เอี๊ยม กระโปรงเอี๊ยม กางเกงเอี๊ยม เป็นเด็กๆ ทั้งนั้นเลย ไม่ใช่เธอริจะเป็นสาวหรอกนะแต่หลังจากเรียนจบ เจอคนมากหน้าหลายตา สาวน้อยอย่างเธอเลยต้องเรียนรู้การแต่งกายให้เหมาะสมไปโดยปริยาย ตะกุยๆ จนเจอกระโปรงเอี๊ยมทรงเอ ยาวไปครึ่งน่อง เอาล่ะ พอไหว เสื้อเชิ้ตสีขาวยอดนิยมที่ติดตู้เสื้อผ้าทุกใบ ฮือม์ เสื้อกล้ามสีเจ็บอีกตัว ใช้ได้ เรียงเสื้อผ้าไว้บนเตียง คว้าผ้าถุงมา ทำตัวขยุกขยิก กณิการ์ก็เอาเสื้อผ้าเก่าที่ถอด โยนใส่ตะกร้านุ่งผ้าถุงเข้าไปอาบน้ำได้
กณิการ์ยกมือไหว้ยิ้มกว้างให้ลุงอุดม ทำให้กรรเกราเบาใจไปได้ส่วนหนึ่งว่าลูกสาวไม่คัดค้านการแต่งงานครั้งนี้ ถ้าค้านเธอจะเปลี่ยนใจไหม คงไม่ล่ะ เธอรอจนลูกสาวเรียนจบแล้วนี่น่า แล้วนี่บอกว่าได้งานแล้ว ไม่น่าจะมีอะไรต้องเป็นห่วง กรรเกราขอตัวไปเข้าห้องน้ำเมื่อถึงร้านอาหาร ปล่อยหนุ่มสาวต่างวัยอยู่ด้วยกัน พร้อมเมนูรายการอาหารในมือ
“อยากกินอะไร”
อุดมถามสาวน้อยที่กำลังจะมาเป็นลูกเลี้ยง เขาเคยผ่านชีวิตแต่งงานมาแล้ว ภรรยาและบุตรชายเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ เขาไม่มีความคิดจะแต่งงานใหม่ จนย้ายมาประจำที่จังหวัดนี้ เจอสาวขายประกันอย่างกรรเกรา สาวเจ้าขอผัดผ่อนให้ลูกสาวเรียนจบก่อน เขาย้ายไปจังหวัดอื่น ก่อนกลับมาที่นี่เมื่อสามปีก่อน เขายังไม่มีใคร และเธอก็ยังไม่มีใครจึงได้มาสานสัมพันธ์กันอีกครั้ง
“อะไรอร่อยคะ” กณิการ์ถามแล้วยิ้มขำตัวเอง เธอน่ะคนจังหวัดนี้เองแท้ๆ แต่ไม่รู้เลยว่าอะไรอร่อย แต่ถ้าสมัยที่ยังเรียนอยู่ที่นี่ บอกมาเถอะ รู้หมด แต่ไม่อยู่มานาน แล้วร้านนี้เพิ่งเปิดใหม่ ยังไม่เคยมากินเลย
“สู้แม่สาไม่ได้หรอก” อุดมบอก “กินเผ็ดได้ไหม”
“ส.บ.ม.(สบายมาก) ค่ะ”
อุดมรับหน้าที่สั่งอาหาร เขาขอเบียร์ เย็นๆ ถามว่าที่ลูกเลี้ยง “เอาไหม” แม่หนูน้อยย่นจมูก ลูกสาวของกรรเกราคนนี้เคยเจอบ้างเมื่อเธอยังเรียนอยู่ที่นี่ เป็นเด็กดี เฮฮา ทำกิจกรรม ไม่เคยก่อเรื่องกวนเมือง แต่ตอนนี้ที่เขาจะขอให้เด็กสาวคนนี้ยกแม่ของเธอให้เขา ทำไมออกปากยากเหลือเกิน
“ลุงอยากแต่งงานกับคุณกรร” อุดมเริ่มตรงๆ มองเด็กสาวจิบน้ำอย่างกระหาย ดวงตาเรียวกวาดตามองโน่นมองนี่อย่างสนใจ
“ขอเลยค่ะ” เด็กสาวพยักหน้า ยิ้มตาหยี
หลังจากนั่งคิดมาในรถทั้งคืน แม่อยู่คนเดียวมาตั้งยี่สิบกว่าปี ทำมาหาเลี้ยงเธอมาจนโตขนาดนี้ รักษาตัวไม่ให้ใครมาว่าได้ว่าวางตัวไม่ดี ทำไมจะไม่รู้ว่าคุณแม่กรรเกราคนสวยมีหนุ่มๆ มาติดพันเท่าไร แต่แม่ไม่เคยวอกแวก ไม่เคยให้ใครมาวอแว ไม่เคยมีเรื่องฉาวโฉ่ให้ขายหน้า
ตอนนี้ คุณแม่ส่งเธอเรียนจนจบแล้ว ถ้าคุณแม่จะมีใครสักคนมาเป็นคู่คิด มาดูแลแม่บ้าง ทำไมต้องปฏิเสธ ลุงอุดมก็เคยเห็นมาตั้งนาน วางตัวเป็นผู้ใหญ่ใจดีกับเธอมาตลอด ไม่เคยวางตัวเหมือนจะมาเป็นพ่อเธออย่างหนุ่มใหญ่หลายๆ คนที่มาติดพันแม่ ลุงอุดมเป็นคนดีคนหนึ่ง วัดจากเสียงสรรเสริญมากกว่านินทา ในเมืองเล็กๆ อย่างนี้ เรื่องอะไรใช่ว่าจะปิดกันมิดที่ไหนเล่า
“ยกให้ลุงเหรอ” อุดมถามเย้า ไม่น่ามีอุปสรรค กรรเกราก็บอกแล้วว่า ลูกสาวของเธอคงไม่ขัดข้อง เด็กสาวย่นจมูกส่ายหน้าดิ๊กๆ
“กิ๊ฟยกให้ไม่ได้หรอกค่ะคุณลุง เดี๋ยวแม่ตีตายหาว่ากิ๊ฟลามปาม แต่นะคะ จะว่าไม่หวงแม่คงไม่ใช่ ถ้าแม่มีความสุข กิ๊ฟยังไงก็ได้ค่ะ” เด็กสาวพยักหน้ายืนยัน
อุดมยิ้มให้เด็กสาว เธอก็ยิ้มตอบ กรรเกรากลับมาพอดี เธอมองมาทางอุดมอย่างเป็นกังวล ก่อนหันไปทางบุตรสาว ก็เห็นยิ้มแย้มดีอยู่ อุดมยิ้มให้เด็กสาว กณิการ์เบิกตากว้างเมื่อเห็นแววยิ้มเจ้าเล่ห์
“คุณกรร ขอแนะนำ” อุดมโอบแขนรอบบ่าเด็กสาว
“น้องกิ๊ฟลูกสาวผม” อุดมแนะนำด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจ
กณิการ์ไม่รู้ว่าใครจะตกตะลึงมากกว่ากัน ระหว่างแม่กับลูกสาว เธอเขินจนต้องหัวเราะออกมา เสียงหัวเราะของเธอทำให้แม่หายตะลึง มองแม่ที่ตีแขนลุงอุดมเบาๆ แก้เขินเหมือนสาวๆ แหม เมื่อไรเธอจะทำแบบนี้เป็นบ้างนะ
“พี่ดมนี่”
“คุณพ่อจะหาแม่ให้กิ๊ฟหรือคะ”
เจ้ากิ๊ฟร่วมเล่นอย่างไม่ขัดเขิน แม่หันมาตีลูกสาวเพี๊ยะ ที่กณิการ์สงสัยว่าจะแรงกว่าตีแขนพ่อใหม่ของเธอ แหมแม่ ลำเอียงตั้งแต่ยังไม่แต่งงานเชียวนะ
ที่แม่เรียกเธอกลับบ้านนี่ด้วยเรื่องของสมบัติ แม่โอนบ้านและที่หลังที่อยู่นี่ให้เธอ ให้เธอรับมรดกของรายได้จากการเป็นตัวแทนประกันภัย แม่บอกว่าแม่จะเอาแม่สาไปด้วย เฮ้ย แม่สานี่ละที่ตัดใจยากที่สุด
จัดการเก็บสมบัติ เสื้อผ้าเก่าๆ ทั้งหลาย ขนไปบริจาค เก็บของที่ระลึกและที่ลืมไม่ได้รูปพ่อเธอจะเอาไปด้วย แล้วสมบัติทั้งหมดของเธอก็มีแค่สองกล่องพลาสติกลูกใหญ่ ประกาศให้เช่าบ้าน โชคดีที่ได้คนเช่าอย่างรวดเร็ว จากแผนเดิมที่แม่สาจะเฝ้าบ้านรอจนกว่าจะมีคนมาเช่าเป็นเก็บของย้ายลงใต้หมดทุกคน จะว่าทุกคนก็ไม่ได้นะ เพราะขนของลงมาบ้านของลุงอุดมก่อน ให้แม่สาอยู่บ้านจัดการทำความสะอาด แม่ก็ ขึ้นไปอยู่บ้านพักตำรวจกับลุงอุดม รอเวลาลุงเกษียณ
กณิการ์ขับรถกระบะของลุงอุดมขนสมบัติลงมากับแม่สา แวะที่หอเอากล่องสมบัติของเธอไปเก็บไว้ก่อน แม่มากับลุงอุดมในรถยนต์ของแม่แวะพาลุงอุดมไปทำความรู้จักกับญาติๆ ของพ่อ พร้อมบอกกล่าวถึงการแต่งงานใหม่ ประเพณีแปลกๆ ดีนะ ทั้งๆ ที่แม่รู้จักญาติฝ่ายพ่อน้อยเหลือเกิน เจอหน้าก็ตอนงานแต่งงานของแม่ครั้งก่อน ก็ ตั้งแต่เธอยังไม่เกิดนั่นล่ะมั่ง
ขนของลงที่หอเสร็จเธอก็ไปพบกับแม่ที่บ้านย่าเหมือน ลุงอุดมกับลุงใหญ่เป็นคอหนึ่งคอสองกันไปได้ อาจจะเพราะบ้านเดิมของลุงอุดมเป็นชาวสวนเหมือนกันก็ได้
“ย่าจ๋า กิ๊ฟมาแล้ว” กณิการ์เข้าไปกราบกับตักเหมือนเคย ย่าเหมือนจิ้มหน้าผากโหนกๆ
“ไง เจ้ากิ๊ฟ มีพ่อแล้วนะเรา”
หลานสาวตัวน้อยหัวเราะเงียบ ย่าเหมือนหันมาทางอดีตหลานสะใภ้ม่าย
“แม่กรรอย่าเป็นห่วงเจ้ากิ๊ฟเลยนะ ถ้ามีอะไรมาบ้านนี้ได้ ถึงน้าไม่อยู่ ลุงใหญ่เขาก็ยังอยู่ ญาติโยมยังมีหลายคน ไม่ต้องเป็นห่วง”
“กรร ฝากลูกด้วยนะคะ”
กณิการ์ทำตาโตล้อแม่ แม่...แม่...กิ๊ฟโตแล้วน้า ไม่ต้องเป็นห่วง
กินข้าวบ้านลุงใหญ่ได้ของฝากไปอีกหลายเข่ง กว่าจะไปถึงบ้านลุงอุดมก็บ่ายมากแล้ว เห็นฝุ่นในบ้านแล้ว แม้แต่คุณนายกรรเกรายังต้องหยิบผ้ามาคลุมผม ลงมือช่วยแม่สาปัดกวาด
อุดมหาอุปกรณ์ทำความสะอาดมาเพิ่ม เห็นภรรยาลงมือปัดกวาด หนุ่มใหญ่อดเอื้อมมือไปกุมมือบางๆ นุ่มนิ่ม คงไม่เคยทำงานบ้านมาเลย
“ผมขอโทษ น่าจะโทรให้ใครมาช่วยเก็บบ้านก่อน”
กรรเกราเงยหน้ายิ้มให้ “ไม่เป็นไรค่ะ รีบเร่งมือดีกว่าไม่อย่างนั้นคืนนี้ไม่มีที่นอนแน่”
“ไปนอนโรงแรมก่อนไหม” อุดมถาม
กรรเกรามองลูกสาวที่ลงมือกวาดไปก็ร้องเพลงหงุงหงิง ฟังรู้เรื่องมั่งไม่รู้เรื่องมั่ง
“ไม่เป็นไรค่ะ กรรอยากเริ่มต้นที่บ้าน บ้านที่เป็นบ้าน”
เธอพยักพเยิดไปทางอีกสองสาวต่างวัยที่ทำงานคู่กันไป เลื่อนเครื่องเรือน กวาดฝุ่น เอาผ้าถูลูบตาม
“ไปนอนโรงแรมก่อนไหมลูก”
ลูกสาวตัวน้อยหันมายิ้ม
“เด็กเด็ก แม่ เก็บแป๊บเดียว ช่วยๆ กัน คืนแรกกิ๊ฟว่าแม่นอนบ้านเอาฤกษ์เอาชัยดีกว่านา ไปนอนโรงแรมเดี๋ยวเป็นลาง ต้องนอนแต่โรงแรมหรอก”
“พูดอะไรอย่างนั้นลูกสาวฉัน” กรรเกราคราง อุดมหัวเราะ
“เอา เพื่อลางดี เร่งมือเข้า เดี๋ยวพ่อพาไปกินอาหารทะเลเจ้าอร่อย”
“เย้ เย้ เร็วๆ แม่สา มาเดี๋ยวกิ๊ฟหิ้วน้ำถังใหม่มาให้”
อุดมมองตามร่างเล็กๆ ที่เดินไปเปลี่ยนน้ำ ถ้าเป็นลูกผู้ชายจะดีขนาดไหนนะ
กณิการ์ซุกตัวนอนข้างๆ แม่สา วันนี้เหนื่อยจริงๆ แต่สนุก แม่แต่งงานแต่เช้ามีคนมาร่วมพิธีแค่เพื่อนสนิทของลุงอุดมและเพื่อนรักของแม่ ลุงอุดมให้กณิการ์เป็นคงส่งตัวแม่ หญิงสาวนึกขึ้นครั้งไหนก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ แม่แต่งชุดเรียบๆ สีฟ้าสีโปรดของแม่ ถือช่อกุหลาบแดงขาว แม่บอกว่าความรักของแม่ที่มีต่อลุงอุดมแทนได้ด้วยกุหลาบสองสี กุหลาบขาวและแดง หมายถึงเราสองคนเป็นหนึ่งเดียวกัน แม่บอกไปก็จับกุหลาบสองสีสลับกัน รองผ้ามัดออกมาเป็นช่อสวย กณิการ์ช่วยผูกริบบิ้นเป็นสายยาว ช่วยแม่สวมหมวกมีตาข่ายคลุมหน้าสั้นๆ ไม่เคยเห็นแม่สวย อย่างนี้มาก่อน ความอิ่มใจกระมังที่ทำให้แม่สวยเหลือเกิน
กณิการ์ชะโงกมองข้างประตูพอเห็นสัญญาณก็ควงแขนคุณแม่เดินไปตามทาง คุณพ่อใหม่ของเธอหันหลังให้ แต่ดวงตาอบอุ่นเมตตาของบาทหลวงผู้จะทำพิธีให้มองมาอย่างให้กำลังใจ เมื่อวานเธอตามแม่กับลุงอุดมมาแล้วรอบหนึ่ง มือแม่ที่เกาะกุมมือเธออยู่สั่นจนรู้สึกได้ กณิการ์แอบมอง ก่อนบีบมือให้กำลังใจ นี่ขนาดแม่เคยแต่งงานมาแล้ว มีลูกสาวตัวโตขนาดนี้แล้ว ยังตื่นเต้น ไม่อยากนึกถึงเจ้าสาวครั้งแรกเลย
คุณพ่อกล่าวถึงความศักดิ์สิทธิ์ของชีวิตคู่ ก่อนจะประกาศว่าจะมีใครคัดค้านการแต่งงานของหนุ่มสาวคู่นี้ไหม เมื่อไม่มีใครคัดค้านท่านก็กล่าวคำสาบาน แล้วลุงอุดมก็สวมแหวนให้แม่ ก่อนจะประกาศให้ทั้งคู่เป็นสามีภรรยากันภายในบ้านของพระเจ้า
หลังจากนั้นลุงอุดมพาไปเลี้ยงอาการเช้าที่ร้านกาแฟเล็กๆ แล้วเราก็ขับรถตามกันมานี่ไง
กณิการ์น้ำตาซึมอย่างซาบซึ้งกับคำสาบานของพ่อคนใหม่
“จะรัก ดูแล เธอตลอดไป”
จริงๆ นะ ขอแค่นี้เอง ให้มีคนดูแลแม่ของเธอ
อุดมยื่นกุญแจรถกระบะให้ลูกสาวตามกฎหมาย
“อะไรคะ” เจ้ากิ๊ฟกั๊บ วางเป้ มองกุญแจตรงหน้าอย่างสงสัย “จะให้กิ๊ฟออกไปซื้ออะไรคะ”
อุดมอมยิ้ม วันนี้กณิการ์จะกลับกรุงเทพ ต้องไปทำงานแล้ว เขายังลาได้อีกสามวัน
“รถคันนั้น ยกให้รับขวัญลูกสาวคนใหม่ จริงๆ จะซื้อรถเก๋งให้ แต่แม่เราเขาบอกว่าชอบเป็นสิงห์ปิกอัพ”
กณิการ์ค้อนแม่ที่ยืนยิ้มอยู่ตรงประตู หญิงสาวไหว้ขอบคุณ ก่อนรับกุญแจมา
“พ่อให้รถแล้วแม่ละคะ จ่ายค่าน้ำมันให้กิ๊ฟเปล่า”
กรรเกราหัวเราะลูกสาวน้อยที่เข้ามากอดอ้อน “ไหนว่าทำงานแล้วไม่ต้องแล้วมั่ง”
“แหมแม่ กว่าจะได้เงิน มันต้องทำงานก่อนนะซิ กว่าจะได้เงินตั้งสิ้นเดือน กิ๊ฟยิ่งตัวเล็กๆ อยู่นะจ๊ะแม่จ๋า”
กรรเกราหัวเราะ ยีผมนุ่มๆ นั้นเล่น เจ้าตัวเล็กขี้งก ได้ซองแต่งงานที่ไปเป็นเพื่อนเจ้าสาวมาหลายๆ งานนะ ได้มาเท่าไร ไม่พูดถึงบ้างเลย เธอหยิบซองที่เตรียมไว้ในกระเป๋าส่งให้
“เอาจ้า คุณลูก เงินขวัญถุงของพ่อกับแม่”
กรรณิการ์ยิ้มตาหยี รับซองมา จุ๊บแม่ที ไหว้ขอบคุณพ่อใหม่ ก่อนเข้าไปลาแม่สา ยามเมื่อขับรถออกมา บางอย่างบอกเธอว่า เธอกำลังเป็นส่วนเกินของครอบครัวที่ต้องเริ่มที่คนสองคน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น