ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ปัจจุบัน 4 เกิดอะไรขึ้น
4. เกิดอะไรขึ้น?
บุษบาทิ้งปากกาในมือลง ไม่มีสมาธิจะทำงาน ไม่...อะไรสักอย่าง เมื่อเช้าลูกชายมาเคาะประตู บอกว่าจะไปทำงานแต่เช้า ไม่ทานอาหารเช้าด้วย เธอรู้ว่าเขาประท้วง
เมื่อวาน วันที่วิยะดารับปริญญา เธอไปถ่ายรูปกับเด็กสาวที่เธอพึงใจอยากได้มาเป็นลูกสะใภ้ และพบกับพ่อแม่ของฝ่ายหญิง รามและละเวง แน่ละที่รามจำเธอได้ แต่เขาก็ยังทำเฉยๆ เหมือนไม่คุ้นเคย แล้วยังพูดเรื่องงานแต่งงานของเด็กๆ ในงานเลี้ยงฉลองของลูกสาวตอนเย็น
“คงต้องรอสักพักมั้งคะพี่ราม น้องแขกเพิ่งจะจบ คงยังอยากจะทำงานก่อน แล้วงานการของตาหนุ่มกำลังขยาย รอสักปีสองปีดีกว่า”
วิยะดาไม่ได้น้อยใจในคำตอบเด็กสาวคนนั้นยังหันมายิ้มให้อย่างขอบคุณเสียอีก แต่บุตรชายของเธอซิ
“แม่ต้องรออะไรอีก ก็ดูมาตั้งหลายปีแล้วแต่งแล้วก็ทำงานได้” อุณรุธท้วงขึ้นกลางโต๊ะที่เลี้ยงกันเป็นการภายใน
“หนูแขกว่าไงลูก” เธอถามเด็กสาว น่าสงสารนัก ดูก็รู้ว่าวิยะดาชอบบุตรชายเธอไม่น้อย แต่เด็กทั้งคู่แต่งงานกันไม่ได้
“แขกอยากทำงานก่อนค่ะ” วิยะดาตอบ แอบยิ้มเย้ยใส่ชายหนุ่มที่เป็นความฝันของเธอ ให้รู้เสียบ้างว่าอย่ามามัดมือชก เธอยังมีคนเต็มใจจะช่วยแก้เชือกให้ นะ...พี่หนุ่ม
บุตรชายเธอซักไซ้เมื่อคืนว่าทำไม เธอบอกเขาได้คำเดียวเท่านั้น
“จะไม่มีการแต่งงานระหว่างอุณรุธกับวิยะดา เด็ดขาด”
^___^
วิยะดาไม่เข้าใจเลยว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้นรอบๆ ตัวเธอ อุณรุธหายหน้าไป บิดาเธอมีอาการครุ่นคิดเกือบตลอดเวลา และมารดาเธอไม่เคยหวงเธอ ตอนนี้ตามติดเธอยิ่งกว่าอะไร และที่แปลกที่สุด คุณป้ามารดาของอุณรุธ ท่านเหมือนจะไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานระหว่างเธอกับอุณรุธ ทำไม มันเกิดอะไรขึ้น การไม่เห็นด้วยของท่าน มันหมายถึง การไม่รีบเร่งแต่งงานไม่ใช่หรือ หรือว่า ท่านอยากได้คนอื่นเป็นลูกสะใภ้ หญิงสาวสั่นศีรษะ แต่คุณป้าท่านก็ยังเอ็นดูเธอเหมือนเคยนี่นา
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น วิยะดาเอื้อมมือไปรับ เสียงโต้ตอบกันนั้น ระหว่างมารดาเธอกับอุณรุธ เธอจำเสียงเขาได้ มารดาเธอปฏิเสธว่าเธอไม่อยู่
“แม่” เธอแทรกเสียงประท้วงลงไป
“น้องแขก” เสียงอุณรุธดีใจจนปิดไม่มิด หญิงสาวเผยยิ้มหวาน
“วางสายลง น้องแขก” ละเวงเสียงแข็งกับลูกสาว
“แม่” วิยะดาครางประท้องอีกครั้ง หากยอมวางโทรศัพท์ลงก่อนจะรีบตื๋อลงไปที่โทรศัพท์เครื่องข้างล่างที่มารดารับอยู่ ไม่ให้แอบฟังเธอก็จะไปยืนฟังข้างๆ ล่ะ
“คุณอาครับ นี่มันเรื่องอะไรกันครับ” อุณรุธถามตรงๆ อย่างไม่เข้าใจ
“วางสายลงคุณหนุ่ม ถ้าคุณรักน้องแขกจริง อย่ายุ่งกับน้องแขกอีก” ละเวงตอบเสียงเย็น
“ทำไมล่ะครับ”
คุณแม่ที่มีลูกสาวไม่สนใจน้ำเสียงนุ่มที่ออดอ้อนขอความเห็นใจ เธอได้แต่บอกตรงๆ ถึงที่มา
“ไปถามคุณแม่คุณซิ” ละเวงตอบ วางสายลงขณะเดียวกับที่ลูกสาวย่องมาถึงตัวพอดี เมื่อเห็นเธอวางสายแล้ว ก็ทำท่าย่องออกไป เธอได้แต่ส่ายหน้าอย่างเอ็นดู เลี้ยงมาไม่เคยดุลูกสาว ไม่เคยตี เป็นแก้วตาดวงใจ
เธอมีอะไรที่ไม่ชอบในตัวชายหนุ่ม ไม่มีเลย เธอก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ที่เริ่มจากวันรับปริญญาของวิยะดาบุษบาโทร.มาขอไม่ให้วิยะดาและอุณรุธติดต่อกันอีก เธอหมายตาหญิงอื่นไว้ให้อุณรุธแล้ว แม่ฝ่ายหญิงจะทำอะไรได้จะถามอะไรได้ในเมื่อผู้ใหญ่ทางฝ่ายชายมาพูดตรงๆ อย่างนี้ ถึงชายหนุ่มจะยอมขัดใจมารดา แต่เธอที่เป็นแม่ของฝ่ายหญิงคงจะยอมเช่นนั้นไม่ได้ เกิดอะไรขึ้น กับพี่สาวที่แสนดี ทำไมถึงเกิดไม่ต้องการวิยะดาเป็นลูกสะใภ้ ในตอนนี้ ในเมื่อก่อนหน้านี้ เธอเห็นแววเอ็นดูฉายชัด ทำไม ยังเป็นคำถามคาใจของเธอ ...เธอไม่กล้าบอกบุตรสาวหรือแม้แต่คุณท่าน ถึงเรื่องนี้
^___^
บุษบามองบุตรชายที่หิ้วกระเป๋าออกจากบ้าน รู้ว่าเขาจะทำอะไร หลังจากเจรจาขั้นแตกหักกันเมื่อคืน เขาโทรไปหาวิยะดา แต่ถูกผู้ใหญ่ทางโน้นขัดขวาง
“ผมขอเวลาแม่สักห้านาที ได้ไหมครับ” เขาเข้ามาบอกเมื่อคืน นานนักหนาแล้วที่เขาเคยมาขอเวลาอย่างนี้ และมันบ่งบอกให้เธอรู้ว่าเขาจริงจังกับเรื่องนี้
“ได้ แม่มีเวลาให้หนุ่มเสมอ” เธอบอกเขาอย่างอ่อนโยน รู้ว่าเวลาที่เธอพยายามหลีกเลี่ยงได้มาถึงแล้ว
“แม่ไม่ชอบน้องแขกตรงไหนครับ” อุณรุธถามตรงๆ
“ไม่มี” ท่านบอกสั้นๆ
“แล้วทำไมทางบ้านนั้นกีดกันผม ทำไมแม่ถึงห้ามเราติดต่อกัน” อุณรุธถามตรงๆ ไม่อ้อมค้อม
“สายเลือดเราใกล้กันเกินไป”
คำตอบที่ได้รับ ทำให้อุณรุธคิดตาม ใช่ละ ก็พ่อเขาราเมศร์กับรามพ่อของวิยะดาเป็นลูกพี่ลูกน้องที่ค่อนข้างใกล้ชิดกัน เพราะมีปู่คนเดียวกัน เขากับวิยะดาก็มีปู่ทวดคนเดียวกัน แต่ถ้าจะนับรุ่นก็ห่างกันมากนัก
“ครับ สายเลือดเราอาจจะมาจากคนๆเดียวกัน แต่เราก็ห่างกันมาหลายรุ่นแล้วนี่ครับ”
“แม่ไม่คิดอย่างนั้น หนุ่มก็รู้ใช่ไหมว่าพ่อ...แม่...” บุษบาพยายามลำดับความคิด “แม่มีหนุ่มก่อนมาแต่งงานกับพ่อของหนุ่ม”
“ฮะ” อุณรุธตามความคิดไม่ทัน เขาไม่ใช่ลูกของราเมศร์หรือยังไง ใช่ล่ะเขาเกิดนอกสมรส แต่เขาคิดเสมอว่าเขาเป็นลูกของราเมศร์
“แม่กับพ่อไม่เคยมีอะไรกัน” บุษบาไม่อยากทำร้ายจิตใจลูก แต่รู้ตั้งแต่ตอนนี้ยังดีกว่า
“สายเลือดใกล้กัน แม่หมายความว่า... แล้วทำไม” อุณรุธหน้าเผือดสีลง “เขาไม่รู้ เขาไม่คิดว่า...”
บุษบาถอนหายใจ เป็นคำตอบที่อุณรุธไม่อยากรับรู้
“ทำไมแม่ไม่บอกผมก่อนละ ทำไมแม่ปล่อยเวลาให้ผ่านมาจนป่านนี้ แม่ก็รู้ว่าผมรักน้องแขก ทำไมแม่ถึง... แม่อยากจะแก้แค้นหรือไงฮะ”
“ฟังแม่หน่อย” บุษบาออกปากขอร้อง
“ผมไม่ฟัง ผมฟังมาพอแล้ว” อุณรุธหุนหันออกจากห้อง เขาต้องไปให้ไกล ขอคิดเงียบๆ คนเดียว
“แม่ไม่รู้ว่าเขาเป็นลูกพี่ราม”
มือใหญ่ที่กำขอบประตูไว้ เกร็งจิกลงในเนื้อไม้แข็งๆ
“ลูกชายคนโตในแต่ละคนก็ใช้ชื่อรามทั้งนั้น พี่ราเมศร์ พี่ราม รามา พี่รามินทร์ ลุงหริ อาราม” เสียงเล่า เรื่อยๆของมารดาดังมา “เหมือนลูกชายคนที่สอง ลักษณ์”
ชายหนุ่มทรุดลงคุกเข่าอยู่ข้างประตู เขาไม่มีกำลังใจจะหันกลับไปมองมารดา
“พี่ราเมศร์กับพี่รามเขาแข่งกันอยู่ อายุใกล้กัน รูปงาม พี่ราเมศร์มีแม่เป็นแหม่ม คุณปู่ทวดไม่พอใจนัก ก็เลยหาคู่หมั้นไว้ให้ พี่รามก็จ้องเอาชนะ แม่เป็นคู่หมั้นของพี่ราเมศร์ พี่รามฉุดแม่ไปเพื่อเอาชนะ พี่ราเมศร์ไม่ตามไป กลับไปติดพันแฟนสาวพี่ราม แล้วก็เลิกกันไป แม่หนีพี่รามมาได้ พี่ราเมศร์ช่วยพาหนีไปเมืองนอก มันสะใจเขาดีที่ได้แกล้งพี่ราม แม่รู้ตัวว่าท้อง พี่ราเมศร์รับเป็นลูก แต่เขาไม่เคยเรียกร้องอะไรจากแม่”
อุณรุธพยายามกลั้นสะอื้น เขาบาปไหมที่ทำให้มารดาบังเกิดเกล้าต้องพูดเรื่องเล่านี้
“เห็นไหม พี่รามไม่ถามไถ่สักคำ ไม่ตามหา ไม่แม้แต่จะระแวง เขามั่นใจว่าพี่ราเมศร์คงไม่..ปล่อยแม่ให้ผ่านไป แล้วอุณรุธก็คงจะเป็นลูกของพี่ราเมศร์”
“แม่หมายความว่าผมเป็นพี่ชายของน้องแขก” ไม่อยากจะเอ่ยปากถาม แต่เขาต้องการคำรับรองให้มั่นใจ ไม่ใช่การปล่อยให้ตีความไปเอง
“ใช่” บุษบาตอบเสียงเบา แต่ดังยิ่งกว่าดังในโสตประสาทของอุณรุธ มองบุตรชายที่ลุกขึ้นมากอดเธอ เขาเข้าใจเธอเสมอยิ่งทำให้เธอเสียใจ
“ผมขอโทษฮะแม่ ผมขอโทษ”
เธอรู้ตั้งแต่วินาทีนั้น เธอได้ฆ่าบุตรชายเธอไปแล้ว แนวโน้มที่จะรักจริง ปักใจมั่นของตระกูลนี้เห็นได้ชัด รักแรง อาฆาตแรงเช่นกัน อย่างพี่ราม เขามีใครต่อใคร แต่เธอก็รู้ว่าเขารักชมพูนุชแฟนสาวที่ถูกราเมศร์ทิ้งไปมาก จนชมพูนุชถึงกับฆ่าตัวตาย เธอรู้ว่าชมพูนุชท้อง ราเมศร์บอกกับเธอตรงๆ ว่าเขาไม่แน่ใจว่าเป็นลูกใคร
เธออยู่กับเขาทั้งคู่ ทั้งราม และราเมศร์ นิสัยใจคอทำไมจะไม่รู้ ตรงและหยิ่งผยอง ราเมศร์ถือตัวนัก เขาจะไม่แตะของที่คนอื่นใช้ ใช่ล่ะ เขารับลูกของเธอเป็นลูกของเขา รักอุณรุธดั่งเลือดในอก แต่เขาไม่เคยแตะต้องเธอ เขาบอกเธอตรงๆ ด้วยซ้ำไป ว่าเขาไม่ใช้ของของคนอื่น แต่เขาก็เป็นคนมีเมตตา แต่รามไม่ใช่ ของที่เขาต้องการเขาจะฉกฉวยแย่งชิงมา พอเลิกสนใจก็โยนทิ้ง การที่เธอไม่รู้ข่าวการแต่งงานของราม ทำให้เธอแน่ใจว่ารามคงยังไม่เปลี่ยนแปลง เขายังคงเป็นคนที่เอาแต่ใจตัวเอง เธออยากจะรู้นักว่าวิยะดารู้ไหมว่าเธอเป็นลูกนอกสมรส
“แม่ขอโทษจริงๆ หนุ่ม แม่ไม่เคยรู้ว่าน้องแขกเป็นลูกของพี่ราม ถ้าแม่รู้ แม่คงจะห้ามหนุ่มแล้ว”
“ผมเข้าใจครับ”
อุณรุธเข้มแข็งเสมอ แต่เขาก็ต้องเจ็บปวดกับสิ่งที่ผู้ใหญ่กระทำ
“แม่รักอารามใช่ไหม” เขาเรียกอย่างที่เคยเรียก ยังทำใจยากถ้าจะคิดถึงในฐานะพ่อผู้ให้กำเนิด
“มันนานมากแล้วลูก จนแม่ไม่แน่ใจ” เธอตอบง่ายๆ นับแต่นี้อีกนาน กว่าที่เธอจะเจอลูกชายเธออีก เขาคงจะหายไป แต่ก็คงจะไม่ห่างไกลจากวิยะดา
อุณรุธสงสัยอยู่ว่าเขาบ้าไปหรือเปล่า ที่มาดักแอบดูสาวเอาตอนอายุสามสิบกว่าเข้าไปนี่ อยากไปให้ไกล ให้ห่าง แต่เขาก็ยังอยากจะรู้ว่าเธอเป็นยังไง หญิงสาวยังสดใสร่าเริง ดูเป็นสาวขึ้นในเสื้อผ้าสีสดใสที่ไม่ใช่ชุดนักศึกษาที่ชินตา เรียบร้อยขึ้น
กระจกข้างคนขับถูกเคาะเบาๆ เขาหันไปมอง แล้วอดทึ่งไม่ได้
“ของเล่นใหม่หรือฮุ้ง” เขาถามเพื่อนเก่าที่เด็กกว่า มองเสื้อหนังกางเกงหนังและมอเตอร์ไซด์สุดเท่
“ฮือ อยากลองขับดูบ้าง” เจ้าหล่อนพยักหน้าตอบง่ายๆ
“คันที่เท่าไรแล้ว” เขาถามเล่นๆ
รุ้งตะวันเป็นคนที่อยากรู้อยากเห็นมาก แล้วก็ต้องรู้ให้จริง อย่างรถคันนี้ ก็คงขับได้ก่อน จากนั้นก็จะรื้อ แล้วประกอบเข้าไปใหม่ พอถึงขั้นนั้น เจ้าหล่อนก็หมดความสนใจ และคนอย่างรุ้งตะวันก็มีเงินมากพอที่จะซื้อรถมารื้อเล่นสนองความต้องการของตัวเอง
“คันที่สอง” รุ้งตะวันยิ้มเขินๆ “ไม่ใช่ของเราหรอก ของที่รักนะ”
“ฮือม์ น่าสนใจมาก” อุณรุธยิ้มได้อย่างไม่ต้องฝืน “ใครล่ะ ที่ฝ่าดงบอร์ดี้การ์ดของเธอเข้าไปได้นะ”
“ฮึ” หญิงสาวทำเสียงขึ้นจมูก “เขาไม่โง่ฝ่าดงการ์ดเราหรอก เขาให้เราฝ่าออกไปหา”
คราวนี้ชายหนุ่มหัวเราะได้เต็มเสียง “เขาฉลาดจริงๆ ใครล่ะ”
“ไม่รู้ซิ” รุ้งตะวันถอนหายใจ อยากเอาชนะ แล้วก็กลายเป็นความพึ่งพิง พอใจ แต่มันอยู่ที่ว่าเขาจะสนใจเธอหรือเปล่านี่ซิ
“แล้วผมจะมีโอกาสเจอเขาไหม”
“ถ้าเขาตกลงแต่งงานกับเรานะ อุณรุธเป็นอะไรไป มาหาพี่แขก ทำไมไม่ไปหาล่ะ เราเห็นมาหลบอยู่ตรงนี้หลายวันแล้วนะ”
“อยากเห็นเฉยๆ” ชายหนุ่มตอบเรียบๆ แววตาหม่นลง
“ฮือม์” สาวน้อยจ้องสายตาสวยๆ มาที่เขา ตาสวยๆ ที่ใส ใสจนเหมือนกับกระจก สามารถที่จะมองทะลุไปถึงไหนๆ หรือสะท้อนภาพลึกๆในใจออกมา
“บางทีมันอาจจะไม่เป็นอย่างที่เห็นก็ได้” รุ้งตะวันพูดลอยๆ
“มันเรื่องอะไรของเธอ” ชายหนุ่มว่าตรงๆ ไม่อยากให้เพื่อนเก่าคนนี้มองลึกไปถึงไหนๆ
“ก็เธอเป็นเพื่อนของเรา” รุ้งตะวันหันมาตอบ ก่อนใส่หมวกกันน๊อก ขับรถออกไป
^___^
วิยะดามองโทรศัพท์อยู่นาน แล้วก็ตัดสินใจหยิบโทรศัพท์โทรไปหาอุณรุธ เขาไม่ได้โทรมาหากว่าเดือนแล้ว เธอแน่ใจว่าเขาไม่ได้โทรมา ไม่ใช่โทรมาแล้วถูกตัดสาย
“ค่ะ ขอสายคุณอุณรุธค่ะ” เธอบอกไป
“คุณแขกหรือคะ” ป้าแก้วยิ้มในหน้า ชอบคุณหนูคนนี้มากก็เธอออกน่ารัก แล้วยังเป็นคนที่คุณหนุ่มชอบอีก
“ค่า ป้าแก้วใช่ไหมคะ แขกจำเสียงได้เหมือนกันนะคะ” หญิงสาวกรอกเสียงหวาน ในเมื่อแม่เธอห้ามอุณรุธโทรมาหาเธอ เธอยังกลัวว่า ทางโน้น จะไม่ยินดีต้อนรับเธอด้วย
“แหม คุณแขกนี่” ป้าแก้วหัวเราะอย่างชอบใจ ก็น่ารักอย่างนี้ “คุณหนุ่มเธอไม่อยู่ค่ะ ป้าว่าคงจะไปเมืองนอกละมั่งคะ หายไปหลายวันแบบนี้ อยู่แต่แม่นายค่ะ”
“แขกคุยกับคุณป้าก็ได้ค่ะ ไม่ทราบท่านว่างไหม แขกไม่อยากกวน” หญิงสาวพูดอย่างเกรงใจ คุณป้างานยุ่งเธอก็ไม่อยากไปกวนใจท่าน
“เดี๋ยวนะคะ” ป้าแก้วปิดกระบอกพูด หันไปทางแม่นายที่นั่งที่โต๊ะทำงาน
“คุณแขกค่ะ”
บุษบาพยักหน้าให้ เอื้อมมือมารอรับสาย
“ท่านว่างค่ะ” ป้าแก้วบอก ส่งโทรศัพท์ให้นาย
“สวัสดีค่ะ” เสียงแจ้วๆ ที่ดังมาตามสายนั้น ชื่นใจนัก ถ้าไม่ใช่ลูกสาวของรามจะดีขนาดไหนนะ
“ไงลูก ป้ารอตั้งหลายวัน ไม่เห็นมาเอารางวัลที่เรียนจบเลย” เธอถามอย่างอารมณ์ดี ใช้ของล่อใจสาวน้อยให้แวะมาหา
“แหม แขกเขินนะคะคุณป้า แขกเรียนจบได้ แขกก็ดีใจแล้วค่ะ” หญิงสาวหัวเราะอายๆ ตาวิบวับเริ่มนึกถึงของรางวัลแล้ว คุณป้าจะให้อะไรเธอนะ ของฝากแต่ละอย่างที่ท่านสรรหามา น่ารักถูกใจทุกชิ้น
“เรียนจบได้เกรดสวยๆ อย่างนี้ ยังไม่น่าดีใจหรือลูก มาเยี่ยมป้าบ้างซิ ว่างไหม”
“ฮือม์ แขกกำลังทำงานกับคุณพ่อค่ะ ไม่ค่อยว่าง ไม่เป็นไรเดี๋ยวแขกจะโดดงาน” วิยะดาตัดสินใจ แอบไปหาหลังเลิกงานก็ได้
บุษบาหัวเราะขำเด็ก “อ้าวตอนทำงานจะโดดงานเสียแล้ว ทีตอนเรียนทำไมขยันเรียนแทนเพื่อนล่ะลูก ป้ายังนึกว่าหนูจะทำงานแทนคนอื่นๆ เขาเสียอีก”
“แหม คุณป้าน่ะ แซวแขกอยู่ได้” วิยะดาอายจนหน้าแดง ฮึมฮัมอยู่ในใจ มีเรื่องอะไรดีๆของเธอล่ะก็ คู่อริไม่เคยเลยที่จะไม่เอาไปเล่าให้คุณป้าฟัง แถมยังต่อหน้าต่อตาเธอ
รามอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าลงมา เห็นหญิงสาวคุยโทรศัพท์อยู่ เลิกคิ้วเป็นเชิงถาม
“คุณป้าแม่พี่หนุ่มค่ะ” หญิงสาวบอก
“เรียกพี่หนุ่มให้พี่เขาได้ยินหรือยังล่ะ” บุษบาถามปนหัวเราะ
“แขกยังไม่เจอเลย จะโทรมาขอบคุณอาจารย์ซะหน่อยที่ทั้งเคี่ยวทั้งคั้น แขกโก๊ดโกรธนะคะ สอบโหดมาก”
บุษบาลอบถอนหายใจ เขาหายไปจริงๆ “ก็ทำให้แขกเก่ง ฮือม์ ป้าว่าอาจารย์ทุกคนก็อย่างนี้ล่ะ ต้องทำให้ลูกศิษย์เก่งให้ได้”
“จบแล้ว พ่อขอคุยด้วยหน่อยนะ” รามบอกมา
ตามหาเจ้าหล่อนมานานแสนนาน เพิ่งจะรู้ว่ากลับไปอยู่กับพี่ราเมศร์ ไม่รู้หรือยังไงนะว่าเขาน่ะพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้เธออยู่กับเขา แม้จะคุกเข่าลงขอร้องก็ตาม ตอนนี้ก็ได้แต่หวังว่าความสัมพันธ์ระหว่างอุณรุธและวิยะดาจะพาความสัมพันธ์ให้กระชับดังเดิม
“คุณพ่อจะพูดด้วยค่ะ” วิยะดาส่งสายต่อให้บิดาก่อนบุษยาจะทันได้ปฏิเสธ
“สวัสดี”
บุษบาจำเสียงนุ่มๆ นี้ได้ “สวัสดีค่ะ”
“สบายดีหรือเปล่า”
“ค่ะ”
รามหัวเราะเบาๆ ถามคำตอบคำ น่าแปลกสำหรับสาวแสนงอนอย่างบุษบา แต่ตอนนี้เธออายุมากแล้ว ไม่ใช่สาวน้อยแสนงอนอย่างแต่ก่อน
“แขกไม่เห็นว่ามันจะน่าขันตรงไหน”
เอาล่ะ เจ้าหล่อนยังขี้โมโหเหมือนเดิม
“พี่หัวเราะเพราะดีใจ ไม่ใช่หัวเราะเยาะ” รามตอบ เขาใจเย็นขึ้นเยอะ “แขกยังโมโหง่ายเหมือนเดิม”
“ค่ะ” บุษบายอมรับนิสัยของตัวเอง“สงสัยแก้ยากเสียแล้ว”
“พี่มีเรื่องอยากจะคุยกับแขกมาก ออกมาคุยกันหน่อยได้ไหม” รามขอร้อง
ออกมาคุยได้ไหม พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกแล้ว คนอย่างรามมีถามด้วยว่าได้ไหม
“แขกไม่มีเรื่องจะคุยด้วย” บุษบาสะบัดเสียงใส่
“แขกน่าจะมีนะ” รามตอบ มองวิยะดาที่เดินไปนั่งอ่านหนังสือห่างออกไป
“ไม่มีค่ะ” บุษบาตอบเสียงเข้ม
“คุณน้อยบอกพี่ว่าแขกไม่พอใจในความสัมพันธ์ของตาหนุ่มกับน้องแขก” เขาตะล่อมถามเมื่อเห็นกิริยาหมางเม้นของสองแม่ลูกแล้วยิ่งละเวงคุมเข้มวิยะดาแทบจะเป็นเงาตามตัว พอทราบเรื่องเขาถึงพูดให้ละเวงผ่อนคลายความเข้มงวดลง เด็ก หนุ่มสาวเลือดร้อน ยิ่งห้ามยิ่งดันทุรัง จำไม่ได้หรือ ไม่อย่างนั้นวิยะดาจะได้มาโทรศัพท์ได้หรือ
แต่เรื่องที่บุษบาต้องการให้ตัดสัมพันธ์ของทั้งคู่นั้น น่าสนใจ ทำไม คำตอบที่เขาคิด มีไม่กี่ข้อ ที่ไม่ว่าจะข้อไหน เขาก็ถูกใจทั้งนั้น
“แขกพอใจในระดับพี่น้อง” บุษบาตอบ
“ทำไมล่ะ แขกก็ไม่ได้ขัดขวางตั้งแต่ต้นนี่ หรือเพราะเป็นลูกของพี่” รามถามล้อๆ
“ใช่ค่ะ” บุษบากระแทกเสียง คนเดียวจริงๆ ที่ยั่วเธอขึ้น
“ทำไมล่ะ แขกยังโกรธพี่อยู่หรือ ทำไมไม่ให้โอกาสเด็ก ยอมรับซิว่าแขกก็เห็นความเหมาะสมกันของเด็กสองคนนั่น”
ก็เห็นนะซิ ที่ไม่เห็นนะ คือพ่อของอีกฝ่ายว่าเป็นใครต่างหากล่ะ บุษบาถอนหายใจ รามไม่ได้ระแวงเลย
“แขกคุยกับลูกแล้ว หนุ่มเข้าใจ แขกคิดว่าไม่จำเป็นที่แขกจะต้องอธิบายกับพี่ราม สวัสดีค่ะ” เธอวางโทรศัพท์ลงทันที
“แม่แก้ว ปิดประตู ใครมาก็ไม่ต้องเปิดรับ” บุษบาร้องสั่งเหมือนคุณหนูเจ้าอารมณ์
“คุณขา คุณหนูทำอะไรให้คุณโกรธหรือคะ” แม่แก้วหันมาถามอย่างตกใจ
“อะไรนะ” บุษบาพยายามคิดตาม “เอ่อไม่ใช่น้องแขกหรอก จะค่ำแล้ว บ้านเราไม่มีใคร ปิดประตูไว้ดีกว่า”
แก้วมองเจ้านายอย่างสับสน เธอเป็นอะไรของเธอนะ บ้านก็เป็นประตูรีโมท ปิดไว้ประจำอยู่แล้ว
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น