ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กระจก

    ลำดับตอนที่ #4 : ขวัญข้าว

    • อัปเดตล่าสุด 14 พ.ย. 48


    บทที่ 4    ขวัญข้าว-เภตรา    



        นิวัติรู้ทางไปบ้านก่องแก้ว ที่จริงเขารู้จักแม่ของก่องแก้วมาก่อนนานแล้ว ตั้งแต่สมัยวัยรุ่นริมีแฟน หญิงสาววัยแก่กว่าเขาไม่เท่าไร ที่เข้ามาเตือนว่าให้ใจเย็น ให้ระวัง อย่าเข้าไปใกล้น้ำ แต่เขาไม่สนใจ วัยคะนอง ใจเร็ว ทำให้เขาเสียแฟนสาวไปใต้สายน้ำ



        เภตราไม่ใช่แค่แฟน เป็นเพื่อน เป็นคู่หู เขามีรอยบาดลึกในใจ  ต้นเหตุของการตายของเภตรา ถึงใครๆ จะบอกว่ามันเป็นอุบัติเหตุ เรือล่มกลางแม่น้ำเจ้าพระยา  แต่ถ้าไม่ทะเลาะกัน ถ้าเขาไม่ไปสีหญิงใหม่ ก็แค่เธอสวย น่าลอง ไม่ใช่เขาจะเลิกลาเสียหน่อย  



        ถ้าวันนั้นไม่มีเรื่อง เขาลงจากเรือเมื่อระลึกถึงคำเตือนของหญิงแปลกหน้า เภตราก็คงจะลงมากับเขา ไม่รั้นไป



        หลังการตายของเภตรา เขามาที่ริมน้ำอีก รอคอย ใครสักคนที่จะเข้ามาบอกเขาว่าควรทำเช่นไร เหมือนที่มีใครมาเตือนให้เขาระวังน้ำ เขาเจอหญิงสาวคนเดิม



        “รักเธอมากไหม” หญิงสาวคนนั้นถาม



        “ผมไม่รู้” เขาสับสน รัก เสียใจ หรือรับผิดชอบ



        “อยากเจอเธอไหม”



        “พี่เจอแพทหรือ เขายังไม่ตายใช่ไหม”



        หญิงสาวหลับตาลง แล้วส่ายหน้า



        “เธอทำให้เขาผิดหวังมากนะ” เธอดุเขาเบาๆ



        “เวลาเป็นของมีค่ามาก เวลาไม่เคยรอใคร เธอเป็นคนโชคดีนะ ที่มีโอกาสอีกครั้ง เมื่อเวลามาถึงอีกครั้ง ตอนนั้นพี่หวังว่าเธอคงจะตัดสินใจได้”



        เขาเพียรแวะเวียนไปถาม แต่ได้เรื่องอื่นๆ กลับมา ตรรกะ ปรัชญา หรือธรรมชาติวิทยา ที่เขาได้ ครั้งหนึ่งคุณย่า แม่ย่าของหญิงสาวที่เตือนเขา พาเขาไปดูกระจกโบราณในห้องของท่าน



        “มองกระจกแล้วเห็นอะไร คุณ แต่ไม่ใช่ มันเป็นแค่เงา”



        เมื่อไปเรียนต่อต่างประเทศ เขาก็ห่างหายไป แต่ประสบการณ์ในช่วงนั้น หล่อหลอมให้เขามองได้หลายแง่มุม มองโลกกว้างขึ้น พิจารณาเหตุการณ์นั้น ทบทวนไปมา ไม่รู้ซิ เขากับเภตรา อาจรู้ตัวว่าเป็นเพียงเพื่อน หรือรู้ใจจนกลายมาเป็นความรักจริงๆ  เขาไม่รู้  



        เขาก็มีเพื่อนหญิงอีกหลายคน  จีบสาวอีกหลายราย แต่มันก็ยังมีช่องว่างเล็กๆ อยู่ในใจ รอเวลาที่จะมา เมื่อนั้น เขาต้องพร้อมที่จะตัดสินใจ เขาได้รับคำเตือนแล้ว ว่าเวลาไม่เคยรอใคร เขาโชคดีที่ได้โอกาสครั้งที่สอง มันพัฒนานิสัยเขาให้กลายเป็นนักธุรกิจที่สามารถ



        สิบแปดปี สิบแปดปี เวลาผ่านไป สิบแปดปี ที่เขาได้โอกาสนั้นมาอีกครั้ง

        สิบแปดปีที่มีเวลาคิดทบทวน  สิบแปดปีกับประสบการณ์ชีวิตทุกทาง



        เขาได้เลือกแล้ว ในสาวน้อยนามขวัญข้าว ที่ประกาศใส่หน้าครั้งแรกที่เจอว่า



        “เธอฆ่าฉัน” แล้วก็เป็นลมล้มไปต่อหน้า



        สาบาลได้เลย ว่าดวงหน้านั้น ถ้าเภตรามีชีวิตต่อมา นั่นคือเภตราแน่นอน



        เหมือนมีอะไรมากระแทก ไม่ใช่ความสำนึกผิด ไม่ใช่เพราะเขาคิดเรื่องนี้มาหลายปี มันเป็นความรู้สึกถึงอีกครึ่งหนึ่งของชีวิตที่หายไป



        “ยังคิดถึงคุณย่าอยู่อีกไหม”



        “ก็คิดถึงบ้างค่ะ”



        ก่องแก้วสงสัยว่าเขาถามทำไม รู้จักคุณย่าของเธอหรือ วันแรกที่เจอหน้าเขา นิวัติมาเป็นวิทยากรพิเศษ พวกเธอสาวๆ พากันไปดูหนุ่มโสด หล่อ ฉลาดกัน ขวัญข้าวมาช้า มาถึงตอนเขาเลิกกันแล้ว



        “ไหนๆ สุดหล่อ”



        เจ้าหล่อนถามสอดส่ายสายตามองหา  ลากแขนเพื่อนไปเข้ากลุ่มมุง ที่ล้อมรอบวิทยากรพิเศษอยู่  พอเห็นหน้าชัดเท่านั้น  ขวัญข้าวชี้หน้าตะโกนใส่ แล้วก็พับไป ช่วงกำลังตะลึงเธอก็เห็นกาญจนาเทวี



        “ถามซิว่ารักไหม”



        “รัก รักแก้วหรือ” เธอถามกลับ ดีนะที่ถามในใจ



        “บ้าซิ เพื่อนแก้วนะ”



        “อ้อ” ก่องแก้วพยักหน้า ก่อนทำตามประสงค์ของกาญจนาเทวี



        “คุณรักเธอไหม” เธอโพล่งถามออกไป



        “รัก” หนุ่มหล่อตอบทันที ตวัดสายตามองมาอย่างสงสัย ช้อนตัวขวัญข้าวขึ้น



        “ห้องพยาบาลอยู่ไหน”



        ก่องแก้วรีบนำไป ระหว่างทางก็ฟังเรื่องราวจากกาญจนาเทวี ทำให้เธอถึงบางอ้อ และไม่ตกใจเลยเมื่อเห็นกริยาถนอมนักที่เขาแสดงต่อขวัญข้าว ใจเย็นต่อถ้อยคำสารพัดของขวัญข้าวเมื่อเธอได้สติ คำที่ก่องแก้วต้องตาโต คิดว่ากลับบ้านจะเอาอะไรล้างหูให้สะอาดดี หลังจากขวัญข้าวหยุดด้วยความเหนื่อย เขาก็พูดอย่างสุภาพ



        “แพท ถ้าแพทเชื่อผม วันนี้เราก็จะยังอยู่ด้วยกัน แต่เวลามันผ่านมาแล้ว เด็กคนนี้ไม่ใช่ตัวแทน อย่าบังคับเขาให้เป็นแพท”



        “ใคร แพท”



        ขวัญข้าวย้อน ก่องแก้วต้องปิดปากหัวเราะ



        “บ้าซิ”



        “แล้วคุณ ด่าผม” ชายหนุ่มเซ่อไปเลย



        “คุณฆ่าฉัน คุณจับฉันกดน้ำ”



        “ผมนี่นะ”



        “ฉันจมน้ำ ฉันเห็นหน้าคุณ คุณก็ต้องฆ่าฉันนะซิ”  



        เพื่อนเธอเถียงลั่น อย่างคนไม่เคยแพ้ใคร



        “ขวัญ เธอยังไม่ตายนะ” ก่องแก้วแย้ง



        “งั้นชาติก่อนเขาฆ่าฉันนะแก้ว ฉันฝันมาตลอดเลย หรือจะในอนาคต”



        ขวัญข้าวคว้ามือเพื่อนเขย่า    



        “แก้วต้องเป็นพยานนะ ถ้าขวัญตาย”



        “ฟังแก้วนะขวัญ  แก้วว่าคงไม่ใช่อย่างที่ขวัญเข้าใจ ฟังเขาสักนิดไหม”



        “ไม่”



        คนเอาแต่ใจตัว เคยยังไงก็ยังนั้น  ก่องแก้วถอนหายใจ



        “สาบาล เราสาบาล ขวัญก็รู้ว่าแก้วไม่เคยพูดโกหก เรื่องมันแล้วไปแล้ว ให้มันจบ”



        “มันจบใช่ไหม” ขวัญข้าวหันมาถาม



        “ขวัญจะไม่ฝันอีกแล้วใช่ไหม”



        ก่องแก้วไม่แน่ใจนัก แต่เทพของเธอพยักหน้า



        “ใช่”



        นั่นล่ะเพื่อนเธอถึงหันไปหาอีกฝ่าย



        “ถ้าคืนนี้ฉันไม่ฝัน ฉันจะไม่ฟ้องคุณว่าคุณฆ่าฉัน”



        “คุณจะฆ่าฉัน”



        ขวัญข้าวเปลี่ยนคำพูดใหม่ ตวัดตาค้อน เมื่อเห็นแววยิ้มในตาคม



        ล่วงเลยมาหลายเดือนแล้วเธอก็เห็นหน้าแฟนของขวัญข้าว หนุ่มที่มารับมาส่งประจำนิวัติ



        “คุณนิวัติรู้จักคุณย่าหรือค่ะ”



        “เคยไปคุยด้วยบ่อยๆ ตอนวัยรุ่นอายุน้อยกว่าแก้วตอนนี้ ท่านให้ข้อคิดอะไรหลายอย่าง กระจกบานนั้นยังอยู่ดีใช่ไหม”



        “คุณเคยเห็นกระจกด้วย” ก่องแก้ว หันไปซัก อย่างสนใจ



        “ท่านให้ผมมอง ตอนที่สับสน แล้วถามว่าเห็นอะไร ผม หรืออะไร หรือเงา”



        ก่องแก้วตาโต ชักสงสัยตัวเองบ้างแล้ว ถ้าเธอไม่เคยเห็นกาญจนาเทวีที่อื่น นอกจากในกระจก เธอต้องว่าตัวเองบ้าแน่เลย



        “แล้วคุณเห็นอะไรคะ” ก่องแก้วเรียบเคียงอย่างอดไม่ได้



        “ผมเห็นตัวเอง”



        นิวัติตอบ อมยิ้มนิดๆ อย่างนึกขำ คุณย่าของก่องแก้วทำให้เขาถามตัวเองทุกครั้งที่มองกระจก ว่าเขาเห็นอะไร



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×