ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฝันกลางสายหมอก

    ลำดับตอนที่ #3 : 003

    • อัปเดตล่าสุด 23 ส.ค. 51


     003
           “ดา ดาครับ”
     
    มาเรียกทำไม ไม่อยากตื่นเลย คอแห้งไม่อยากคุย ไม่อยากตอบ หญิงสาวพลิกตัวหนี อ่อนแรงเหลือเกินทำไมขยับไม่ได้อย่างใจ
     
    “ดา ลูกเป็นยังไงบ้าง” เสียงอ่อนโยนที่คุ้นหูเจนใจ ดารกาพยายามฝืนลืมตาตื่นขึ้นมาเพื่อให้เธอผู้นี้เบาใจ แต่วันนี้เปลือกตาเหมือนทำจากตะกั่วถ่วงหนักไม่ยอมเปิดขึ้นให้อย่างที่ใจสั่ง รู้สึกถึงมือสากที่ลูบไล้แขนให้อย่างแสนถนอม หญิงสาวพยายามขยับมือ มือสากๆ สอดเข้ามาในมืออ่อนแรงของเธอ
     
    “ตื่นแล้วหรือดา” เสียงนุ่มๆ ที่เจนใจ ก่อนมืออีกข้างจะถูกกุมในมือแข็ง นิ้วเรียวยาวที่เธอคุ้นในสัมผัส หญิงสาวพยายามขยับเปลือกตาอีกครั้ง แต่อ่อนแรงเหลือเกิน
     
    “ไม่เป็นไร นอนเถอะ ปลอดภัยแล้วนอนเถอะลูกนอนพักเสีย พ่อกับแม่อยู่นี่แล้ว รงค์ก็อยู่ด้วย” เสียงอ่อนๆ ปลอบโยน กล่อมให้หญิงสาวหลับไปอีกครั้ง
     
    ดารกาขอบคุณเพื่อนของดุรงค์ที่ขับรถมาส่งถึงบ้านด้วยความรู้สึกที่ดีกว่าเดิมเธอไม่ชอบดวงตาวาววับดูกรุ่มกริ่มเหมือนหนุ่มเจ้าชู้ของเพื่อนคนนี้ของเขาเลย ขณะที่ดุรงค์ขนสมบัติทั้งของเธอและของเขาลงไปกองไว้หน้าบ้าน
     
    “ไม่ลงมาก่อนล่ะ กินน้ำปัสสาวะก่อนซิ”
     
    ดารกาแอบยิ้มกับคำหยอกเย้าแบบผู้ชายๆ
     
    “กินจากท่อแกซิ” เพื่อนศอกกลับยิ้มๆ “ดูแลคุณดาดีๆ ล่ะ ไปตระเวนเช้ายันค่ำ ค่ำยันเช้ากับเพื่อนๆ ไม่ได้แล้วซิ เสียดาย...” สายตาที่มองมาทางเธอทำให้คำเสียดายของเขาฟังขัดหู
     
    ดุรงค์พยักหน้า โบกมือยิ้มให้รอให้เพื่อนออกรถ หากอีกฝ่ายก็จอดรถรอโบกมือให้เพื่อนเข้าบ้านให้เรียบร้อยก่อน ต่างฝ่ายไม่มีใครยอมใคร ดารกาเลยตัดสินใจไขกุญแจบ้าน พอดุรงค์ได้ยินเสียงไขกุญแจเขาเลยต้องหันมาช่วยหญิงสาวขนของ ได้ยินเสียงเพื่อนหัวเราะเบาๆ เกาะหน้าต่างรถดูด้วยความขบขัน จนชายหนุ่มปิดประตูลงแล้วนั่นล่ะ เจ้าของรถโฟว์วินจึงได้ดีดบุหรี่ในมือทิ้งออกรถไป ทิ้งไว้เพียงแสงไฟแดงๆ จากไฟท้าย
     
    ปิดประตูเรียบร้อย ชายหนุ่มก็หันมาจู้จี้
    “ขึ้นบ้านไปเช็ดตัวเลย เดี๋ยวเค้าเอายาขึ้นไปให้แล้วนอนซะ ถ้าพรุ่งนี้ไม่หายต้องลางานอีกวันเลยนะ”
     
    “อาบน้ำไม่ได้เหรอ น้ำร้อนก็มี” หญิงสาวส่งเสียงอ้อน
     
    “ไม่ได้”
    พ่อหนุ่มตัวใหญ่เท้าเอวสั่งแข็งขัน ดารกาก็ยอมถอยแต่โดยดี หิ้วเอากระเป๋าของเธอขึ้นมา
     
    “ไม่ต้อง” คนที่เพิ่งหันหลังให้หันขวับกลับมา ชี้นิ้วสั่งให้วางกระเป่าลง “เดี๋ยวเค้าจัดการเอง ตัวไปเช็ดตัว เปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อย เค้าขึ้นไปตัวเองต้องอยู่ในเตียงแล้วนะ”
     
    “ถ้ายังไม่อยู่ในเตียงตัวเองจะทำอะไรเค้า” หญิงสาวหันไปถามอย่างทะเล้น ชายหนุ่มเลิกคิ้วตอบ ดวงตาฉายแววเตือนกับการท้าทายนั้น
     
    “อย่างรู้ก็ลองซิจ๊ะ”
     
    ดารกาหัวเราะถ้อยคำเหมือนจะอ่อนหวานนั้น หญิงสาวรีบเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้ากระโดดขึ้นเตียงทันชายหนุ่มที่เปิดประตูหิ้วกระเป๋าเสื้อผ้าขึ้นมาให้พอดี
     
    “ขอบใจมากนะ ที่ตัวเองทิ้งภาพงามๆ ไปตามหาเค้า”
     
    หญิงสาวบอกขอบใจอีกครั้ง ตอนที่เธอแข็งแรงขึ้นเธอถามเขาว่า เธอมาที่โรงพยาบาลได้อย่างไร พ่อหนุ่มตัวโต กอดอกตอบอย่างมั่นใจในตัวเองมาก ว่าเขาแบกเธอลงมา
     
    ดุรงค์เล่าให้ฟังแกมต่อว่า ว่ารู้ตัวว่าไม่สบายทำไมไม่บอก ไปนอนสลบอยู่ในป่าได้ยังไง นี่ถ้าเขาจำเสื้อกันลมกันฝนตัวที่ใส่ไม่ได้เขาจะหาเธอเจอไหม แล้วเสื้อนะ ไปที่ขมุกขมัวแบบนี้เลือกสีเจ็บๆ หน่อยได้ไหม สีน้ำตาลคาดเขียวเอามาเข้าป่าจะใส่ชุดพรางหรือยังไง พ่อหนุ่มผมยาวบ่นๆๆ จนแม่เธอต้องออกตัวห้ามแทน
     
    “เค้าขอโทษ” หนุ่มตัวสูงก้าวมาใกล้ก้มลงจนแก้มชนแก้ม “เค้าขอโทษที่ดูแลตัวเองไม่ดี ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับดา เค้าจะไม่ยกโทษให้ตัวเองเลย”
     
    หญิงสาวยกมือขึ้นกุมข้างแก้มสากๆ ของชายหนุ่ม ลูบเบาๆ ให้ชายหนุ่มสบายใจ เธอรู้ว่าตามสายตาของครอบครัวเธอ ชายหนุ่มอารมณ์ศิลปินไม่มีอะไรที่เป็นหลักเป็นฐานพอที่จะฝากลูกสาวคนเดียวให้ดูแล ถึงรายได้ต่อปีของชายหนุ่มจะมากกว่ารายได้ข้าราชการประจำอย่างเธอ ทางครอบครัวเธอก็ยังมองว่าอาชีพเขาไม่มั่นคง เสี่ยงอันตราย ทั้งจากการทำงานและผู้หญิง
     
    ดาริกาอยากหัวเราะ ดุรงค์ไม่ใช่คนเจ้าชู้ แต่ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้จักผู้หญิง ที่จริงเขาแสนจะรู้ใจผู้หญิงเลยเชียวล่ะ
     
    “ตัวเองก็มาช่วยเค้านี่น่า ตัวเองเป็นอัศวินของเค้านะดุรงค์ เป็นอัศวินของเค้าเสมอ”
     
    “เค้าเสียใจนะที่ไม่ดูแลตัวเองให้ดี เค้าน่าจะรู้ว่าตัวเองไม่สบาย” น้ำเสียงชายหนุ่มยังไม่สบายใจ ดาริกาหัวเราะออกมา ขนาดตัวเธอเองยังไม่รู้เลย คนอื่นจะมารู้ได้ยังไง
     
    “งั้นตอนนี้ก็ดูแลเค้าแก้ตัวซิ” หญิงสาวยิ้มตาพราวยั่วๆ ดุรงค์มองไหล่นวลเนียนที่พ้นเสื้อคอกว้าง กลืนน้ำลายเมื่อต้องฝืนใจ
     
    “กินยา” ชายหนุ่มฝืนใจออกห่างส่งแก้วน้ำและยาที่ถือมาส่งให้ “กินยาแล้วนอนเสียนะ เค้าจะไปซักผ้า”
     
    “เค้าอยากได้กอดนี่” หญิงสาวบอกหลังจากกินยาอย่างว่าง่าย เธออยากกอดปลอบเขา ถึงจะเป็นผู้ชายที่ไม่ค่อยละเอียดอ่อนเท่าไร แต่ความเป็นศิลปินทำให้ดุรงค์เป็นคนอ่อนไหว ยิ่งเขาเห็นว่าเขาเป้นความผิดของเขาที่เธอไม่สบายมากอย่างนี้
     
    “ตัวเองไม่นอนกอด เค้านอนไม่หลับ”
     
    ดาริกาส่งสายตาอ้อนสุดฤทธิ์ ดุรงค์มองหน้าตายิ้มประจบของคนป่วยแล้วอดใจอ่อนปนหมั่นไส้ไม่ได้ คนอย่างดาริกาไม่มีอะไรลับลมคมนัยกับใครเขาได้เลย เห็นๆ อยู่ว่าตาปรือจะหลับอยู่แล้ว
     
    “เหม็นเหงื่อ นอนไปก่อนนะ” ดุรงค์เดินไปจุ๊บลงบนหน้าผากมน จัดหมอนห่มผ้าให้
     
    “เดี๋ยวเค้าไปเอากระเป๋าขึ้นมา อาบน้ำแล้วพ่อหมีจะมานอนกอดนะ อย่าบ่นว่าแบร์ฮัก อีกล่ะ” ดุรงค์ดักคอเอาไว้ก่อน เวลาเขาแกล้งกอดเธอแรงๆ ดาริกาชอบร้องว่าหลังหักแล้ว กล่าวหาว่าเขาใส่ท่าแบร์ฮักของมวยปล้ำแทนที่จะกอดเธอเฉยๆ
    “อยากได้กอด แบร์ฮักก็ได้ จะไม่บ่นเลย” ดาริกาสัญญา ปิดปากหาวเบาๆ ขยับตัวหาท่าสบาย “มากอดเค้าเร็วๆ นะ”
     
    ดุรงค์มองร่างบางๆ ที่นอนหลับไปภายในไม่กี่วินาที แววตาที่ทอดมองหญิงสาวอย่างเอ็นดูเปลี่ยนเป็นเข้มดุ จะกอด จะดูแลจะไม่ให้ห่างตา เขารู้สึกว่าถ้าไม่ทำอย่างนั้นอย่างนั้น หญิงสาวจะห่างหายไป จนเขาหาเธอไม่เจอ
     
    ครั้งหน้า หากเธอหายไปอีก เขากลัวว่าเขาจะหาเธอไม่เจออีกเลย
     
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×