ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เพื่อนเจ้าสาว

    ลำดับตอนที่ #3 : เพื่อนเก่าแต่งงาน

    • อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 50


    บทที่ 2 เพื่อนเก่าแต่งาน
     
    อย่าเห็นว่าฉันว่างงานแล้วใครๆ จะมาชวนไปไหนมาไหนได้นะ แต่ว่า…
     
    กิ๊ฟ” เสียงตามสายนี้ ฟังคุ้นๆ หู
     
    จ้า ใครล่ะ” กณิการ์ถามกลับไป ไม่รอทายให้เสียเวลา เธอรอหน้าห้องสัมภาษณ์เข้าทำงาน ยกมือปิดปากพูดโทรศัพท์ย่องๆ ออกไปคุยนอกห้อง มีสายตาเจ้าหน้าที่มองตามมาอย่างตำหนิ
     
    กา จ้ะ กรรณิการ์”
     
    อุ้ยคิดถึง เป็นยังไงบ้าง” กิ๊ฟหยอดเสียงหวาน
     
    กา หรือเจ้ากรรณิการ์คนนี้เป็นเพื่อนสนิทเรียนกันมาตั้งแต่ประถม มาแยกกันตอนเข้ามหาวิทยาลัยนี่เอง เวลาเธอกลับบ้านที่ต่างจังหวัดก็ไม่ค่อยได้เจอกันนัก เพราะกลับช่วงไม่ตรงกันเลย จะมีที่จำได้ก็ครั้งสุดท้ายเมื่อเลี้ยงฉลองการสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้นั่นล่ะ กี่ปีมาแล้ว
     
    แม่ให้เบอร์มือถือ กา มา นี่ กลับมาบ้านไหม ได้งานหรือยัง”
    ยัง กำลังรอสัมภาษณ์อยู่”
    เหรอ ไงรีบกลับบ้านนะ กาจะแต่งงาน”
     
    หา!!!”
     
    กณิการ์ทำมือขอโทษเมื่อเจ้าหน้าที่ออกมาเคาะกระจกเตือน
     
    กาจ๋า เดี๋ยวกิ๊ฟโทรหานะ”
     
    กรรณิการ์หัวเราะมาตามสาย 
    กิ๊ฟจ๋า กาว่ากิ๊ฟไม่มีอนาคตกับบริษัทนั้นแล้วล่ะ รีบนั่งรถกลับบ้านมาเร้ว” เพื่อนสาววางสายพร้อมเสียงหัวเราะ
     
    กณิการ์กลับเข้าไปต่อแถวเข้าสอบสัมภาษณ์ต่อ ด้วยใจตุ๋มๆต่อมๆ ทำใจกับคะแนนสอบข้อเขียนที่เธอทำได้ไม่ดีนัก
     
    คุณกณิการ์” เสียงเจ้าหน้าที่เรียก
     
    อา...ถึงคิวเสียที กณิการ์รวบแฟ้มในมือให้เข้าที่เดินไปนั่งประจำที่รอสัมภาษณ์ เจ้าหน้าที่ส่งแฟ้มประวัติชุดหนึ่งของเธอคืนให้สำหรับไปยื่นในห้องสอบ สายตาที่เลื่อนมองช่องคะแนนที่ถูกกรอก ก่อนตวัดมามองอย่างเห็นใจทำให้กณิการ์ต้องยิ้มแหยๆ ตอบ มันก็ต้องสอบได้คะแนนไม่ดีอยู่แล้ว เธอเข้าห้องสอบช้าเกือบครึ่งชั่วโมง ดีเท่าไรแล้วที่เขายอมให้เธอเข้าสอบ
     
    ต้องโทษใครดีล่ะ เจ้ายอร์ชกลับจากฮันนิมูนแสนหวานแล้วมานึกนึกเพื่อนที่เป็นทั้งเพื่อนเจ้าบ่าวและเจ้าสาวคนนี้ได้ เลยมาลากไปเอาของฝาก พร้อมเลี้ยงข้าว แถมด้วยลากไปนอนคุยกะสาวฝ้ายที่เหม็นเบื่อสามี ทั้งๆ ที่เพิ่งแต่งงาน
     
    กณิการ์แอบถามเพื่อนว่าท้องหรือเปล่า ยังโดนสาวฝ้ายตุ้บเอาตุ้บใหญ่ เจ้าหล่อนโวยลั่นว่าเธอเป็นเจ้าสาวพรหมจารีนะยะ
     
    แหม ก็ใครจะไปว่าอะไรล่ะ แต่เจ้าหล่อนลืมไปหรือเปล่าว่านี่น่ะมันหลังแต่งงานได้เดือนกว่าๆ แล้ว หรือตอนนี้เธอยังจะเป็นเจ้าสาวพรหมจารีล่ะ
     
    เช้ากว่าคุณยอร์ชจะมาส่ง กว่าเธอจะแต่งตัวนั่งรถประจำทางมาที่บริษัทนัดสอบข้อเขียนและสัมภาษณ์ก็อย่างที่เห็น สายไปครึ่งชั่วโมง
     
    ยอร์ชบอกให้ไปทำที่บริษัทของพ่อยอร์ชพร้อมยอร์ชก็ได้ แต่เรื่องอะไรล่ะ มีเด็กหัดใหม่คนเดียว คุณพ่อก็คงปวดหัวจะแย่แล้วไม่ต้องเอาเธอไปทะเลาะกับเจ้ายอร์ชสลับฉากหรอก
     
    โอ้ พระเจ้ายอร์ช ไม่เคยช่วยเธอเลย...กณิการ์ร้องเป็นรอบที่กี่ล้านแล้วจำไม่ได้ ตั้งแต่รู้จักพ่อเจ้าประคุณยอร์ชมา
     
    เสียงประตูเปิดปิด กณิการ์ลืมตา แตะผมม้าดูว่าปิดหน้าผากเรียบร้อยดี ก่อนชำเลืองมองเจ้าหน้าที่ ที่ยังนิ่งเฉย
     
    กณิการ์ขยับ ขยุกขยิก จับผมม้า จนเธอว่ามันคงมันแผล็บไปแล้วล่ะ เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่เรียกเธอเข้าไป แล้วก็ เหลือเธอคนเดียวแล้วนะ
     
    เออ...” พอตัดสินใจหันไปถาม โทรศัพท์เจ้ากรรมบนโต๊ะก็ดังขึ้นเสียก่อน
     
    ค่ะ เหลือ หนึ่งคนค่ะ ค่ะ”
    ก่อนเจ้าหน้าที่จะหันมาบอกกณิการ์ด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
    เข้าไปได้แล้ว ทำไมตอนที่อีกคนออกมาไม่เข้าไป”
     
    อ้าว ความผิดฉันเรอะ ก็ในเมื่อเห็นคุณเธอต้องขานชื่อก่อนอีกครั้งนี่นา...ในเมื่อไม่ใช่ถิ่นของเธอ กณิการ์เลยก้มหน้าก้มตาเคาะประตูเดินเข้าห้องสอบสัมภาษณ์ไป
     
    มองแวบ...สองคน...สอบสัมภาษณ์สองคนเชียว หญิงสาวยกมือไหว้ก่อน วางใบสมัครลงบนโต๊ะ ก่อนนั่งลงอย่างเรียบร้อย หนึ่งในสองที่นั่งหลังโต๊ะ หยิบใบสมัครที่เธอวางไปอ่าน หญิงสาวชำเลืองมอง ก่อนหันมาทางอีกคนที่เริ่มป้อนคำถาม
     
     
    โชคชัยมาธุระแถวนี้เลยแวะมาชวนเพื่อนรุ่นน้องไปกินข้าวกลางวันด้วยกัน ตอนที่เขาเดินเข้ามาก็เห็นเด็กคนนี้นั่งรออยู่ ยังลังเลว่าสอบสัมภาษณ์เสร็จหรือยัง เลยออกปากถามไปว่าเห็นอีกคนหน้าห้องเมื่อรุ่นน้องขยับตัวจะตามเขาออกมา พอรู้ว่าเหลืออีกคนเดียว เขาขอตัวจะไปรอข้างนอกก่อนแต่เจ้าของห้องบอกว่าไม่เป็นไร เผื่อพี่โชคจะได้เลขาสาวๆ ไปทำงานให้ชื่นตาชื่นใจ
     
    พอเด็กสาวเข้ามานั่งตรงหน้าเห็นชัดๆ รู้สึกคุ้นๆ หน้าเลยถือวิสาสะหยิบใบสมัครมาเปิดอ่าน กณิการ์ อ่านว่า กัน-นิ-กา หรือเปล่า ดอกกรรณิการ์นี่นะ มองสาวน้อยที่นั่งตรงหน้า คงใช่ล่ะ ดอกเล็กๆ ตัวเล็กๆ อ่านไล่ไปเรื่อยถึงวุฒิการศึกษา เอ๊ะจบที่เดียวกับน้องสาวเขาด้วย มิน่า หน้าตาคุ้นๆ คงเป็นเพื่อนๆ ของเจ้าน้องตัวดีที่เจอในงานแต่งงานเป็นแน่ 
     
    เจ้าฝ้ายรีบฉวยโอกาสที่เขาไปอบรมที่ต่างประเทศหกเดือน จัดการเกลี่ยกล่อมพ่อแม่ให้รีบยกให้แฟนหนุ่ม เขาก็วางใจว่าช่วงที่เขาไม่อยู่น้องสอบไฟนอล เอากับเจ้าฝ้ายซิ แต่งงานจนได้ ทำไมรักกันมาสามปีแปดเดือน ทำไมต้องรีบแต่ง เขายังทิ้งแฟนสาวที่รักกันมาสิบปีเก้าเดือนได้เลย ดีนะที่กลับมาทันวันแต่งงาน
     
    เห็นชื่อ เห็นหน้า ยังไงก็นึกไม่ออกว่าเคยเห้นที่ไหน เลยเปิดกลับไปอ่านประวัติส่วนตัวอีกครั้ง
     
    กิ๊ฟ” โชคชัยลองเรียกชื่อเล่น
     
    กั๊บ” กณิการ์เผลอขานอย่างเคยชิน ก่อนหน้าแดงก่ำเมื่อได้ยินเสียงห้าวๆสองเสียงหัวเราะประสานกัน
     
    เพื่อนน้องสาวฉัน” โชคชัยประกาศจำสาวน้อยคนนี้ได้แล้ว
     
    อ้าวทำไมไม่บอกว่าเป็นเพื่อนน้องฝ้าย”
     
    คราวนี้เป็นทีของกณิการ์ที่ทำหน้าเหรอหรา
    อ้าว ทำไมต้องบอกด้วย” กวนมา ก็กวนไป
     
    โชคชัยกอดอก เอามือปิดรอยยิ้มของแนวปากเอาไว้ เขานึกออกแล้ว แม่สาวตัวเล็กที่ได้ดอกไม้เจ้าสาวนี่เอง สายตาที่ขว้างค้อนมาที่เขา แม่หนูน้อยคงจำเขาได้แล้วล่ะมั้ง
     
    กณิการ์ค้อนขวับ พี่ชายสาวฝ้ายหรือนั่น ขาวหน้าตาดีพอกันกับสาวฝ้าย เพิ่งจะเห็นหน้าชัดๆ วันนี้เองนอกจากรูปถ่ายเต็มบ้านที่มองมั่งไม่มองมั่ง พี่ชายคนโตคนเดียวที่ห่างฝ้ายหลายปี ร่วมทุนกับเพื่อน ทำธุรกิจของตนเอง เห็นฝ้ายว่าเจ้าชู้หวงน้องสาวมาก คงไม่มากเท่าไรล่ะ ก็สาวฝ้ายย้ายไปอยู่บ้านเจ้ายอร์ชแล้วนี่
     
    ถึงอยากจะตอกกลับที่ทำให้เธอโดนหัวเราะเยาะก็อดขอบคุณไม่ได้ที่วันนั้นทำให้เธอรอดกองทัพส้นเข็มมาได้ พอยกเธอพ้นทาง เขาก็เอาตัวไปขวางไว้ ได้ยินสาวๆ กรี๊ด คุณโชค พี่โชค สาวกิ๊ฟเลยได้แต่พึมพำขอบคุณกับหลังเสื้อนอกสีฟ้าเข้มๆ ก่อนจะไปรวมกลุ่มกับเพื่อนๆ ที่กิ๊วก๊าวกับช่อดอกไม้เจ้าสาวในมือของเธอ
     
           “ที่นี่ไม่มีเส้นนะ” สันติเย้า ชำเลืองมองเพื่อน โชคชัยยักไหล่เหมือนกับจะบอกว่าตามสบาย
     
           กณิการ์ยกมือทำความเคารพ เตรียมลุก
    อ้าวจะไปไหน” โชคชัยเรียกเมื่อเห็นสาวตัวเล็กไหว้ปั๊บลุกปุ๊บ
    ก็ไม่ใช้เส้น งั้นก็กลับแล้ว”
     
    โชคชัยหัวเราะ กวักมือเรียกให้นั่งลง โบกใบสมัครในมือให้ดู
    ถึงใช้เส้นคะแนนสอบแบบนี้ก็ไม่ไหวหรอก” ชายหนุ่มตำหนิตามตรงมองสีหน้ายอมรับของสาวน้อยด้วยความรู้สึกที่ดีกว่าเดิม เสียงจึงอ่อนลงไปด้วย “รู้ตัวใช่ไหม”
     
    ค่ะ” กณิการ์ก้มหน้ายอมรับแต่โดยดี สิ่งที่เรียนมา กับข้อสอบเข้าทำงานไม่เหมือนกันเลย เธอยังไม่มีประสบการณ์ในการแก้ปัญหาที่กว้างพอ
     
    ถ้าอยากใช้เส้นไปที่บริษัทนะ บอกว่าตำแหน่งเลขาของพี่ แล้วพี่จะสอนงานให้”
    โชคชัยส่งนามบัตรให้ มองเพื่อนน้องสาวเก็บใส่แฟ้มด้วยท่าทางไม่สนใจ ก่อนหันไปมองเพื่อนยิ้มๆ
    แล้วมาสมัครที่นี่ใหม่แบบไม่ต้องใช้เส้น เอาหัวเป็นประกัน กะอีข้อสอบห่วย ๆ แบบนี้ต้องเต็ม”
     
    กณิการ์อดยิ้มกว้างไม่ได้ มองท่าทีผู้ชายที่สัมภาษณ์เธอ เปลี่ยนจากท่าทางเป็นงานเป็นการ มาเป็นท่าทีเป็นกันเอง เขายิ้มพยักหน้ากับเธอเหมือนเธอเป็นคนที่รู้จักสนิทสนมมานาน
     
    เดี๋ยวผมติวให้เอง แล้วไปสอบเข้าบริษัทซังกะบ๊วยของพี่โชคดูซิว่าข้อสอบมันจะหินกว่าตรงไหน”
     
    เธอมองสองหนุ่มที่ผลัดกัน บลั๊ปก่อนเอ่ยแทรกอย่างกล้าๆกลัวๆ
    เอ่อแสดงว่าไม่ผ่านใช่ไหมคะ”
     
    ใช่” สองเสียงประสานกันหนักแน่น โชคชัยมองกิริยาคอตกอย่างขันๆ
    ไปสมัครที่บริษัทพี่น่ะ อย่างที่บอกลงไปเลยว่าตำแหน่งเลขา” ชายหนุ่มย้ำอีกครั้ง
     
    กณิการ์ยิ้มตอบรอยยิ้มของสองหนุ่ม ทำความเคารพอีกครั้งก่อนขยับตัวลุก
     
    อ้าวไปไหน ไปกินข้าวด้วยกันก่อน”โชคชัยชวน “แล้วจะไปไหน พี่จะไปส่ง”
     
    ไม่กวนแล้วค่ะ พอดีทางบ้านโทรมา กิ๊ฟจะรีบไปเก็บของกลับบ้าน”
     
    มีเรื่องด่วนไหม”โชคชัยขยับตัว
    ถ้ามีเรื่องด่วน กินข้าวกับเพื่อนรอได้ พ่อแม่เล่าเรื่องเพื่อนสาวที่มาช่วยงานเต็มที่คนนี้อย่างเอ็นดู ถ้ามีเรื่องด่วนแล้วเขาละเลย คงไม่ดีนัก
     
    ไม่มีอะไรมากค่ะ บอกว่าเรียนจบแล้ว กลับบ้านเสียที เดี๋ยวจะเป็นวันหยุดติดกันแล้ว กิ๊ฟเลยจะรีบกลับก่อนไม่มีรถน่ะค่ะ”
     
    คราวนี้ไม่มีเสียงทักท้วง
     
     
    หลังสอบเสร็จ มีเรื่องงานแต่งของสาวฝ้ายกับหนุ่มยอร์ช แล้วก็ถูกเรียกสอบสัมภาษณ์ตามกันมา เลยไม่ได้กลับบ้านเสียที กณิการ์จับของจำเป็นยัดใส่เป้มองนาฬิกา เอาน่า กว่าจะไปขึ้นรถ กว่ารถจะไปถึงบ้าน คงเช้าพอดี
     
    กณิการ์สัญญากับตัวเองในใจ กลับมาร่อนใบสมัครอีกครั้ง ต้องไปจับสาวฝ้ายมาซักเสียก่อน ว่าเจ้าหล่อนไม่มีเส้นสายที่ไหนมั่ง มาทำเอาเพื่อนขายหน้าได้ไง  ลาคุณป้าเจ้าของหอ บอกกล่าวว่ายังไม่ได้ออกจากหอนะคะคุณป้า...หนูจะกลับบ้าน
     
    แม่ตื่นมาใส่บาตรเช้าตามเคย กณิการ์พนมมือรับพรพระ
     
    อ้าว กลับมาบ้านแล้ว” พระที่อยู่ท้ายขบวนทัก นี่ก็ญาติๆ กัน เด็กๆ วิ่งไล่กันอยู่ ทำไมมาบวชเสียล่ะ ถ้าไม่เอ่ยปากทักก่อนล่ะก็นะ ไม่มีทางจำได้แน่ๆ
     
    ค่ะ หลวงพี่บวชตั้งกะเมื่อไร ทำไมกิ๊ฟไม่รู้ จะได้รีบชิงกลับมาถือหมอน”
    กณิการ์ถามอย่างสงสัย ถึงจะไม่กลับบ้านก็ใช่ว่าจะไม่รู้เรื่องทางบ้านเสียเมื่อไร
     
    หลวงลุงหัวขบวนทำเสียงกระแอม หลวงพี่เลยต้องรีบจ้ำตามไป คุณแม่กรรเกราแหนบแขนลูกสาวคนเดียวเบาๆ
     
    ไปถามอย่างนั้นได้อย่างไรเจ้ากิ๊ฟ เป็นสาวเป็นนาง”
     
    อ้าวแม่ ก็ พี่ปุ๊เคยบอกว่าถ้าป้าแกเสียแล้วจะให้กิ๊ฟถือหมอนแทนญาติผู้ใหญ่นี่ มาบวชแล้วไม่บอกกิ๊ฟได้ไง” สาวกิ๊ฟเถียงอย่างลูกตัวอย่าง
     
    พ่อปุ๊บวชแล้วก็จะเบียด” คุณแม่กรรเกราบอกเท่านั้น ก็ต้องหยุด เพราะหลวงพ่อเดินจีวรเหลืองใกล้เข้ามา
     
    พอท่านให้พรเสร็จ ก็หันมาทางหญิงสาวที่เห็นมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย
    อ้าวอีหนูกิ๊ฟกลับมาแล้ว เมื่อไรจะจบล่ะ แม่แกเหนื่อยแล้วนา”
     
    จบแล้วหลวงพ่อ” สาวตัวน้อยบอกอย่างงอนหน่อยๆ
     
    เออๆ จบแล้วก็ดี ได้งานหรือยังล่ะ”
     
    ยังค่ะหลวงพ่อ หลวงพ่อให้คาถาเป่าพ้วง เขารับกิ๊ฟหน่อยซิ” เจ้าหล่อนตอบยิ้มอย่างคนหน้าเป็น
     
    หลวงพ่อหัวเราะหึหึ เดินบิณฑบาตต่อ ปล่อยให้คุณแม่กรรเกราแหนบลูกสาวอีกที
     
    แม่อ่ะ อะไรคะลูกสาวกลับบ้านไม่คิดถึงหรือไง หยิกเอาหยิกเอา”
     
    คิดถึงจ้า” คุณแม่แหนบด้วยความหมั่นไส้อีกที ก่อนชี้ไปที่ถาดข้าว
    ยกถาดไปเก็บ แม่สาทำของรอลูกกิ๊ฟกลับบ้านทุกวัน จนไม่มีของสดเก็บไว้ในตู้เย็นแล้วมั้ง”
     
    กณิการ์ยิ้มกว้าง เมื่อคิดถึงแม่สา ญาติห่างๆ ของแม่ที่เลี้ยงเธอมาตั้งแต่เกิด ถ้าไม่มีแม่สาคอยเลี้ยง คุณแม่กรรเกราคงออกไปทำงานนอกบ้านได้อย่างไม่สบายใจเท่าไรนักหรอก พอเธอคลอดได้ไม่เท่าไร คุณพ่อก็เสียด้วยอุบัติเหตุ ตอนนี้คุณแม่เป็นนักขายประกันมือทองไปแล้ว ดีแต่ท่านไม่บังคับให้เธอออกมาทำอย่างเดียวกันด้วย
     
    เดี๋ยวแม่ออกไปไหนไหมค่ะ” หนูกิ๊ฟคลอเคลีย คงออกไปล่ะคุณแม่แต่งตัวสวย
     
    ลูกค้าแม่เปิดร้านใหม่ ไปกับแม่ไหม”
    คุณแม่กรรเกราถามไปอย่างนั้น ตั้งแต่เล็กจนโต ลูกสาวตัวน้อยติดแม่สา ติดเล่นคลุกดินคลุกโคลน ไม่ยอมแต่งตัวสวยออกไปไหนกับคุณแม่หรอก จนเพื่อนร่วมงานพากันคิดว่าเธอเป็นสาวโสดไม่มีภาระเสียอย่างนั้น แม่ลูกสาวกิ๊ฟส่ายหน้าหวือ
     
    กิ๊ฟจะไปอ้อนแม่สา” กณิการ์เขย่งตัวหอมแก้มแม่ ก่อนคว้าถาดข้าวเข้าบ้าน ทำไมน้า เธอถึงไม่สูงเหมือนพ่อเหมือนแม่ มาเตี้ยได้ใคร แม่สาคนเลี้ยงหรือยังไงนะ
     
    กณิการ์วางถาดข้าวไว้ในครัว พนมมือไหว้แปะกับบ่าสาวร่างท้วม ก่อนกางแขนกอดแน่นๆ อย่างหมั่นเขี้ยว
     
    กิ๊ฟกลับมาแล้ว กิ๊ฟกลับมาแล้ว”
     
    จุ๊ๆๆ อย่ามากวนตอนแม่สาอยู่หน้าเตาซิน้องกิ๊ฟ เดี๋ยวก็โดนของร้อนลวกหรอก”
     
    เจ้าค่ะ” กณิการ์วางเป้ไว้กับเก้าอี้ข้างตัว เปิดตู้เย็น ตู้กับข้าวหาของมาบริการตัวเอง
     
    หิ๊ว หิวอ่ะ แม่สา อยู่กรุงเทพ กิ๊ฟกินแต่มาม่า บางทีเหนื๋อยเหนื่อยกลับมาก็ไม่ได้กิน”
     
    กลับมาอยู่บ้านซิ” แม่สาหันมาบอกอย่างเอ็นดู กณิการ์ย่นจมูก โทรศัพท์ในกระเป๋าส่งเสียงกริ๊งกร๊างต้องคว้าขึ้นมากดปุ่มรับสาย
     
    กิ๊ฟกั๊บ”
     
    กิ๊ฟ นี่กานะ” เสียงหวานตอบมาตามสาย ก่อนหัวเราะกิ๊กกั๊ก “จีบหลวงพี่เหรอ เจ้ากิ๊ฟ”
     
    (อะ)ไร จีบหลวงพี่” กณิการ์ทำเสียงน่าเกลียด อย่างที่เพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กเท่านั้นที่จะทนกันได้ 
     
    วันนี้นายตื่นมาใส่บาตรเหรอ”
     
    อ๋อ แน่นอน” เสียงหวานตอบมาอย่างมั่นใจ ด้วยน้ำเสียงที่ไม่แพ้กัน
     
    มาคุยกันซิ กา แม่สากำลังทำของชอบของกิ๊ฟ” กณิการ์ สูดจมูก กลิ่นไข่ทอดชะอมหอมกระตุ้นน้ำย่อย “แม่สาจ๋า มีน้ำพริกกะปิไหม”
     
    มีซิ มีพริกลูกโดดด้วยนะ” แม่สาหมายถึงพริกสดเม็ดเล็กๆ
     
    อูยๆๆๆๆ” เสียงหวานๆ จากปลายสายอีกข้างร้องมาก่อนสูดปากอย่างน้ำลายสอ
     
    กิ๊ฟจ๋า บอกแม่สาหุงข้าวหม้อใหม่เลยนะ กาจะปิดบ้านแล้ววิ่งไปเดี๋ยวนี้แล้ว”
     
    กณิการ์หัวเราะยกใหญ่ หลังเก็บโทรศัพท์แล้ว
     
    เดี๋ยวกา จะมากินข้าวด้วยจ้า” กณิการ์บอกก่อน จัดโต๊ะรอเพื่อนสาวที่ไม่เกินสิบนาที น่าจะวิ่งมาถึง พร้อมหิวซก
     
    บ้านกรรณิการ์กับบ้านเธอไม่ใกล้ แล้วก็ไม่ไกลกัน เดินช้าๆ ก็ประมาณสิบนาทีถึง วิ่งคงสักห้านาที ถ้ามอเตอร์ไซด์หรือจักรยานเร็วกว่านั้น
     
    แม่สาจ๋า ทำน้ำพริกกะปิ ไม่นึกถึงกาเลย” เสียงหวานเจื้อยแจ้วมาก่อนเป็นของกำนัล เจ้าหล่อนดับเครื่องจักรยานยนต์หิ้วถุงใส่กล่องพลาสติกที่คงเป็นกับข้าวมาด้วย
     
    กาเจอคุณแม่หน้าบ้านพอดี”กรรณิการ์บอกเพื่อน ช่วยถ่ายกับข้าวลงจานชาม
     
    อ๋อ นายใส่อะไรให้หลวงพี่ล่ะ” กณิการ์ย่นจมูกเมื่อเห็น ส้มตำ “ส้มตำ นายใส่แต่เช้าให้ฉันแต่เช้านี่นะ”
     
    อ้าวก็หลวงพี่อยาก” กรรณิการ์ยักคิ้วแผล็บ
     
    น้องกาจะแต่งงานกับเจ้าปุ๊ไง น้องกิ๊ฟ” แม่สาบอก ยกจานไข่มาตั้งบนโต๊ะ พร้อมๆ กับ กณิการ์ตักข้าวใส่จานสามจานเสร็จพอดีเหมือนกัน
     
    นายจะแต่งงานกับพี่ปุ๊เหรอ” กณิการ์ถามอย่างทึ่งจัด
     
    เมื่อสมัยที่เป็นเด็กๆ เจ้ากาถูกพี่ปุ๊แกล้งจนร้องไห้บ่อยๆ ถ้าเห็นพี่ปุ๊เล่นกับเธออยู่ เจ้ากาจะรีบปั่นจักรยานกลับบ้านทันที ถ้าหนีไม่ทัน พี่ปุ๊จับจักรยานได้ จะได้ปั่นอยู่ตรงนั้นไม่ได้ไปไหน เพระพี่ปุ๊ไม่ยอมปล่อยท้ายจักรยาน ร้องไห้ได้ยินไปสามบ้านแปดบ้าน
     
    อุ้ย เขาเลิกแกล้งกันแล้วจ้า ตอนนี้เจ้าปุ๊ซิถูกน้องกาแกล้ง” แม่สาเปิดเผยความลับ
    กณิการ์มองหน้าเพื่อนที่ยักคิ้วอีกที
          
    พี่ปุ๊เป็นพี่คณะกาไง แกล้งน้องรหัสได้ไง” เจ้าตัวร้ายยักคิ้วอีกที
     
    กณิการ์พยักหน้าหงึก  “พี่ปุ๊นี่น้า ไม่มีสาวๆ สวยๆ หรือไง หรือไม่มีฝีมือมาเอาน้องรหัส”
     
    ไอ้กิ๊ฟ”
     
    แม่สารีบห้ามทัพ ก่อนสองสาวจะถึงขั้นลงมือลงไม้ คนที่แพ้มีหวังเป็นสาวตัวน้อยที่เธอรักเหมือนลูก
     
    กิ๊ฟเอ๊ย ไปกวนเขาน่ะ ดูหรือเปล่าว่าตัวเราน่ะเท่าลูกหมา”
     
    อ้าว แม่สา” กณิการ์หน้าเหวอ ขณะที่กรรณิการ์หัวเราะชอบใจ
     
    เดี๋ยวกาปรับเองแม่สา ให้เจ้ากิ๊ฟช่วยงานแต่งของกากับพี่ปุ๊”
     
    กณิการ์ถอนหายใจเฮือก อะไรกันนี่ เพิ่งช่วยงานเจ้าฝ้ายไปยังไม่หายเมาคนเมางาน เจ้ากาจะแต่งงานอีกแล้ว
     
    จะแต่งเมื่อไรล่ะกา แต่นะ...กิ๊ฟว่าอย่าเพิ่งเลยนะ หลวงพี่ยังอยู่ในผ้าเหลือง การีบเตรียมงาน เดี๋ยวเขาว่าเอานะว่ากาสึกพระ”
     
    ไอ้กิ๊ฟ”
     
    แม่สาเอื้อมมือมาแหนบสาวน้อยข้างตัว แต่ก็อดยิ้มกว้างไม่ได้
     
    อาทิตย์หน้าเจ้าปุ๊ก็จะสึกแล้ว” แม่สาบอก “พ่อปุ๊สอบได้ทุนไปเรียนเลยจะรีบแต่ง”
     
    อ้าวเรียนเก่งเหมือนกันนี่” กณิการ์งึมงำด้วยความอิจฉา เธอกว่าจะเรียนจบได้ ไม่รู้บนเจ้าที่ไปกี่รอบ
     
    กิ๊ฟว่าอย่าเพิ่งแต่งเลย แต่งไปแล้วพี่ปุ๊ควงแหม่มผมทองกลับมา นายเสียเปรียบนะกา”
     
    ฉันก็ได้ทุนเฟ้ย” กรรณิการ์ค้อนเพื่อนอย่างหมั่นไส้
     
    อ้าว” กณิการ์ร้องได้แค่นั้น แล้วก็ก้มลงงึมงำกับชามข้าวต่อ “เออ...คนมันเก่ง”
     
    ทั้งกรรณิการ์ทั้งแม่สาอดหัวเราะไม่ได้
     
    บ้านเจ้าปุ๊ก็ไม่เหลือใครแล้ว มีแต่คุณตาคนเดียว น้องกายิ่งเหลือตัวคนเดียว คงไม่ได้ทำอะไรใหญ่โต”
     
    ฮือม์ แล้วไงล่ะ พอกา ไปเมืองนอกกับพี่ปุ๊ คุณตาอยู่คนเดียวเหรอ” กณิการ์ถาม
     
    เห็นว่าจะไปอยู่กับคุณน้าที่ต่างจังหวัดน่ะ”
     
    ฮือม์” การสนทนาในวงข้าวเปลี่ยนเป็นเรื่องของสาวกิ๊ฟที่กรุงเทพบ้าง ที่เจ้าตัวเล่าแจ้งแถลงไขถึงการไม่ได้กลับบ้าน เนื่องจาก เพื่อนสนิทของเธอแต่งงาน และสงสัยว่ากำลังจะมีน้อง
     
    ท้องก่อนแต่งหรือ”
     
    ดู เจ้ากา ช่างคิดได้ สาวกิ๊ฟค้อนเพื่อนขวับใหญ่ที่คงไม่เหมือนค้อนเท่าไร เพราะทั้งกรรณิการ์และแม่สาพากันหัวเราะก๊าก
     
    มันแต่งมาจะสองเดือนแล้ว” สาวกิ๊ฟตวัดเสียง “เจ้ายอร์ชหรือจะกล้าหือ ฝ้ายดุยิ่งกว่าเสือ”
     
    ฝ้ายเพื่อนกิ๊ฟที่สวยๆ ใช่ป่ะ” กรรณิการ์ถาม
     
    ช่วงที่ไปเรียนมหาวิทยาลัย หลังพ่อแม่เสียชีวิต เวลากลับบ้าน บางครั้งเธอก็มานอนที่บ้านนี้แทน ที่บ้านโน้นไม่มีใครแล้ว คุณแม่ของกณิการ์กับแม่สา เห็นว่าหญิงสาวตัวคนเดียวอยู่บ้านมันอันตรายเลยออกปากให้กรรณิการ์มานอนที่บ้านนี้ ห้องก็ห้องเพื่อนซี้เจ้ากิ๊ฟนั่นไง
     
    เข้าออกห้องเจ้ากิ๊ฟเหมือนห้องตัวเอง แถมยังมาใช้บ่อยกว่าเจ้าของห้องที่นานๆ กลับมาทีด้วย รูปเพื่อนๆ ของกณิการ์ที่ไปเที่ยวมีอยู่หลายเล่ม ว่างๆ ก็ดูไปเรื่อย จำเพื่อนสาวของกณิการ์ที่สวยมากๆ สวยจนน่าส่งประกวด
     
    ช่าย สวยที่สุด ดุมากๆ” กณิการ์ยกนิ้วโป้งประกอบ
     
    ดีจัง”
     
    ดีจัง...ดีตรงไหน ดุเหรอ” กณิการ์ลูบแขนปรอยๆ ยังนึกถึงอิทธิฤทธิ์ฝ่ามือเจ้าแม่ฝ้ายได้อยู่เลย
     
    ดีตรงที่กิ๊ฟเคยเป็นเพื่อนเจ้าสาวแล้วไง” กรรณิการ์ชะโงกข้ามโต๊ะกินข้าวมามอง ตาสวยคมแวววาวอย่างไม่น่าไว้ใจ
     
    เดี๋ยวกากับพี่ปุ๊ต้องเข้ากรุงเทพทำเรื่องติดต่อไปเรียนต่อ แล้วกิ๊ฟก็ไปเตรียมเรื่องการแต่งงานของเรา”
     
    โอ้ พระเจ้ายอร์ช นายไม่ช่วยฉันเลย สาวกิ๊ฟได้แต่ร้องในใจ
     
     
     
    กณิการ์โบกมือให้เพื่อนรับคำเป็นรอบที่ห้าร้อยได้ ว่าก่อนสี่โมงเย็นจะกลับมาพบกันที่นี่
     
    น่า...กิ๊ฟเป็นเด็กกรุงเทพมาหลายปีแล้วไม่หลงหรอก”
     
    ไม่ได้กลัวกิ๊ฟหลง กากลัวกากะพี่ปุ๊หลงต่างหาก” สาวตาคมโบกมือให้
     
    อย่าลืมมารับเด็กบ้านนอกกลับบ้านด้วยล่ะ”
     
    กณิการ์แลบลิ้นตามหลังอย่างไม่นึกถึงวัย ก่อนก้มลงมองตัวเองขำๆ เสื้อผ้าที่บ้านมีแต่ชุดสมัยที่ใส่ตอนวัยละอ่อนที่มีกางเกงเอี๊ยม กระโปรงเอี๊ยมเป็นส่วนใหญ่  วันนี้เลยใส่กางเกงยีนเอี๊ยมกับเสื้อยืดแขนกุด มีเสื้อยีนผูกรอบเอว ใส่กันหนาวมาในรถพอถึง กทม.ร้อนตับแลบเหมือนเคย
     
    เอาล่ะ ถึงเวลาปฏิบัติหน้าที่แล้ว ตั้งแต่ตอนที่รู้ว่าเพื่อนเก่าจะแต่งงานแถมโยนการเตรียมงานมาที่เธอ เพราะกรรณิการ์ต้องเตรียมตัวหลายเรื่องทั้งติดต่อราชการ หาที่อยู่ทางโน้น และยังญาติผู้ใหญ่ที่เหลือ บ้านช่องจะทำยังไง กณิการ์เลยเต็มใจช่วยเพื่อน
     
    กณิการ์สำรวจตลาดในบ้านเกิดมาแล้วว่าอะไรราคาเท่าไร ต้องใช้อะไรบ้าง หญิงสาวยิ้มกว้าง พี่ปุ๊สึกเมื่อวันก่อน เดินตามหลวงพ่อเป็นลูกศิษย์วัดอีกวัน แล้วเย็นก็ชวนกันนั่งรถมาเมืองหลวงถึงเช้าพอดี  หญิงสาวชูมือเหยียดเหนือศีรษะเชียร์ตัวเองอย่างไม่สนใจคนมองก่อนกระโดดขึ้นรถประจำทางที่หมายตาเอาไว้
     
    เดินสำเพ็งอีกครั้งหาของชำร่วยแต่งงานให้คนอื่น แต่ครั้งนี้ด้วยความมั่นใจ ฮาฮาฮาจะไม่มั่นใจได้อย่างไร เจ้ากา สั่งมาเสร็จสรรพว่าอยากได้อะไร หน้าที่ของเธอคือหาที่ราคาต่ำที่สุด
     
    งานแต่งงานแบบเรียบง่าย เลี้ยงพระตักบาตรเช้า เลี้ยงคนไปถึงเที่ยง จัดเก็บ เรื่องกับข้าวกับปลา แม่สา อาสารับจัดเตรียมให้   สิ่งที่สาวกิ๊ฟต้องดูแลคือ ของชำร่วย ชุดแต่งงาน และการ์ดเชิญ อ้อ และดูแลงานเลี้ยง เธอกับกรรณิการ์ไปดูฤกษ์ยามตั้งแต่พี่ปุ๊ยังไม่สึก เจ้ากาไม่สนใจคำเปรยๆ ของเธอเลยว่า...สึกพระ
     
    มุดซอกนั้นออกซอยนี้ กณิการ์ก็ได้ของชำร่วยตามใบสั่งของเพื่อน ทั้งคู่เลือกถุงเงินถุงทอง เรื่องการ์ดแต่งงาน ที่บ้านคิดราคาแพงกว่านิดหน่อย เมื่อไม่ต้องสั่งเยอะ อุดหนุนบ้านเกิดแล้วกันออกมาถนนใหญ่กำลังจะหาแหล่งของกิน โทรศัพท์ก็ดังขึ้นเสียงก่อน เสียงเรียกเข้าที่ไม่ได้ยินมานาน นาน...สักเจ็ดวัน
     
    กิ๊ฟกั๊บ” กณิการ์รายงานตัว
     
    อยู่ไหน” เสียงที่ตอบมา เสียงห้าว คุ้นหู
     
    สำเพ็ง” สาวตัวเล็กตอบอย่างเซ็งๆ เดี๋ยวๆ ต้องจิกให้ไปหา ทำไม๊ ทำไมต้องแพ้ดวงเจ้าสองคนนี้ด้วย สองคนไหนนะหรือ ก็สาวฝ้ายกับหนุ่มยอร์ชนะซิ
     
    ไปทำอะไรสำเพ็ง”
     
    มาซื้อถุงเงินถุงทอง” กณิการ์เผลอตอบ
     
    วาว” ตามด้วยเสียงผิวปากเปี้ยวอย่างถูกใจ “กิ๊ฟจะแต่งงาน กิ๊ฟจะแต่งงาน”
     
    ไอ” ยังไม่ทันจะอ้าปาก เพื่อนหนุ่มก็สวนมาเสียก่อน
     
    มากินข้าวกัน” เสียงหนุ่มยอร์ชบัญชามา “เอาแฟนมาให้ดูตัวด้วยล่ะ ฮาฮาฮา ถ้าไม่ผ่านพระเจ้ายอร์ชคนนี้ กิ๊ฟเอ๋ย นายไม่ได้แต่งแน่ๆ”
     
    เรื่องของฉันเกี่ยวอะไรกะนาย เจ้ายอร์ช”
     
    ยอร์ชไม่สนใจเสียงเขียวๆ ของเพื่อนสาว
    ฝ้ายเหมือนรู้เลยบอกให้ยอร์ชโทรหากิ๊ฟ มากินข้าวกันน้า” เพื่อนหนุ่มหยอดเสียงอ้อน
     
    นายกะฝ้ายอยู่ไหน” กณิการ์ถอนหายใจถามกลับ ยังไงก็ ต้องไปหาอยู่แล้ว เจ้ายอร์ชน่ะยังไงก็ได้ แต่สาวฝ้าย สาวกิ๊ฟคอหด
     
    ที่ทำงานฉันนะซิ” เสียงหนุ่มยอร์ชบอกมา “มานะ นะ”
     
    จ้า เดี๋ยวไป” กณิการ์ตอบ เธอจำที่ทำงานของเจ้ายอร์ชได้
     
    เปลี่ยนเป้าหมายจากหาร้านอาหารเป็นรถโดยสารแทน กำลังจะโบกแท็กซี่แต่รถประจำทางวิ่งเข้าป้ายพอดี ว่างมีที่นั่ง กณิการ์กระโดดขึ้นรถทันทีก่อนจะทันคิดอะไรทั้งสิ้น
     
    ก่อนจะบ่นอุบอิบกับอากาศร้อนจนถึงป้ายใกล้บริษัทเพื่อน กณิการ์กระโดดลงพร้อมเจ้าถุงของชำร่วยที่ถึงไม่มาก แต่ก็หนักพอดู
     
    กิ๊ฟ”
     
    กั๊บ”
    กณิการ์ขานตอบตามความเคยชินก่อนเหลียวมองหา ใครหว่าเรียก เรียกเธอหรือเปล่า สาวกิ๊ฟไม่แน่ใจนัก สายตาเรดาร์ของเธอจับหมับที่หนุ่มตัวสูงเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีเหลืองอ่อนยังเรียบกริบ ที่ตรงรี่เข้ามาหา สาวน้อยต้องแหงนคอมองสวนตะวัน ก็ถอยไม่ได้นี่น่า ถอยก็ถนน...เธอจะได้เป็นสาวตัวแบนต่อจากสาวตัวเล็ก
     
    กิ๊ฟ”
     
    อ่ะชัด ใครหว่า ไม่ใช่เจ้ายอร์ชแน่
     
    กั๊บ”
    ขานไปแล้วก็อดหน้าร้อนไม่ได้ นี่ขานตามความเคยชินอย่างเดียวเลยนะ ไม่ได้อยากดัดจริตเลย พอเขินก็อดดึงผมม้าเล่นไม่ได้ มันหายไปไหนหมด ก่อนจะนึกได้ว่าเข้าสำเพ็งร้อนมากเลยผูกจุกเอาไว้ กณิการ์หน้าแดงแจ๊ด รีบตะกุยเอายางมัดจุกน้ำพุออก โธ่ มันอะไรกันนักหนา เจ้ายอร์ช สาวกิ๊ฟคำรามโทษเพื่อนไว้ก่อน ถ้าไม่ใช่เพราะเพื่อนเรียกให้มากินข้าวด้วย เธอก็ไม่ต้องอับอายขายขี้หน้าอย่างนี้หรอก
     
    มาทำไมแถวนี้” โชคชัยก้มหน้าถามสาวไซด์จิ๋วที่วันนี้แต่งตัวกระชากวัยมาก ด้วยเสื้อยืดกางเกงเอี๊ยม แถมยังมัดผมข้างหน้าเป็นจุกไว้เสียอีก สาวเจ้าคงรู้ตัว เลยเอามือลูบๆ ดึงจุกออก ทำเอาหน้าเด็กลงไปอีก ชายหนุ่มยิ้มกว้าง
     
    กณิการ์ตาพร่าไปกับยิ้มกระชากหัวใจ โอ๊ยหัวใจหายไปกับรอยยิ้ม คนยิ้มได้อย่างนี้ ต้องเก็บไว้ในจอตู้อย่างเดียว ปล่อยออกมาเผ่นพล่านได้ยังไง แล้ว...นี่ใครกัน รู้จักเธอได้ยังไง หญิงสาวทบทวนความจำเร็วจี๋
     
    มาหาใครหรือ” โชคชัยถามซ้ำ ด้วยความที่อารมณ์ดี เสียงถามเลยยังเจือแววหัวเราะที่กณิการ์ต้องกลั้นเสียงกรี๊ดไว้สุดฤทธิ์ โอ๊ย เสียงอย่างนี้ ใจละลาย
     
    มาหายอร์ช” สาวน้อยตอบเหมือนละเมอ
     
    ยอร์ชแฟนฝ้ายน่ะหรือ”
     
    คิ้วขมวดฉับเหนือดวงตาคมที่พร่างพราวด้วยแววหัวเราะ มาหาน้องเขยเขา แล้วนี่เจ้าฝ้ายรู้หรือเปล่า ถึงจะมองว่าบริสุทธิ์ใจ แต่เรื่องอย่างนี้ไว้ใจไม่ได้ โชคชัยก้มมองสาวตรงหน้าอีกที สาวคนนี้ก็น่ารักออกอย่างนี้ เจ้าหนุ่มอ่อนหัดอย่างเจ้าน้องเขยของเขาจะไม่วอกแวกเลยเชียวหรือ
     
    ค่ะ”
     
    เมฆมาบังจันทร์อย่างฉับพลัน ทำให้กณิการ์นึกออกแล้ว นี่คุณพี่ชายของสาวฝ้ายนี่นา
     
    งั้นไปกัน” โชคชัยเอื้อมมือมาดึงถุงในมือไปช่วยถือ ตัวกระจิ๋วหลิวแล้วไม่ดูตัวเองมาหิ้วของที่ใหญ่เป็นครึ่งหนึ่งของตัว
     
    กิ๊ฟหิ้วเองได้” สาวกิ๊ฟได้แต่ร้อง ขณะที่ต้องสาวเท้าเกือบเป็นวิ่งตามหนุ่มที่ขายาวแล้วยังก้าวยาวอีกไปให้ทัน
     
    โชคชัยกดลิฟต์รอ สาวตัวเล็กวิ่งเข้ามาโดยอาศัยตัวเขาเป็นเบรก
     
    ขอโทษค่ะ กณิการ์บอกปนหอบ คนอะไร ขายาวแล้วเดินช้าหน่อยไม่ได้หรือไง
     
    ชั้นไหน” เสียงทุ้มๆ ถามมา สาวกิ๊ฟหมดแรงตอบ แต่ยังมีแรงเอื้อมเอานิ้วไปจิ้มชั้นที่ต้องการ
     
    โชคชัยมองสาวน้อยที่หอบแฮกๆ หมดแรงอยู่ข้างตัว อดโอบแขนรอบไหล่ประคองให้เดินออกไปด้วยกัน ไปได้สักสามก้าวเจ้าหล่อนก็สลัดแขนเขาออก
     
    กิ๊ฟเดินเองได้” ก่อนจะก้มหน้าก้มตาเดินอย่างไม่สนใจคนเดินตาม เหอะ จะกลัวหลงทำไม ขาก็ยาว เดินก็เร็ว
     
    กณิการ์เคาะประตูห้องที่จำได้ว่าห้องเจ้ายอร์ช หนึ่งโป๊กแล้วเปิดเข้าไปเลย
     
    ไหนหนุ่มหล่อ กิ๊ฟ” เสียงสาวฝ้ายกรี๊ดรับ กณิการ์ทำหน้าเหรอหรา
     
    อะไรหนุ่มไหน”
     
    ก่อนจะรีบขยับก้าวเข้าไปในห้อง เนื่องจากคนที่ตามหลังมาไม่ยอมหยุดรอ
     
    โชคชัยดันตัวสาวกะโปโลให้ก้าวเข้าไปในห้อง เขาได้ยินเสียงสาวๆ ดังมาจากในห้องฟังไม่ถนัดว่าเสียงใคร พ่อน้องเขยตัวแสบ มีสาวๆ มารออยู่ในห้องเชียวหรือ พอก้าวเข้ามา ไม่รู้ว่าคนที่เพิ่งเข้ามา หรือคนที่รออยู่ในห้องจะตกใจกว่ากัน
     
    พี่โชค”
    ยายฝ้าย”
    สองพี่น้องเรียกชื่ออีกฝ่ายแทบจะพร้อมๆ กัน
     
    พี่โชคอย่าบอกนะว่าคบเจ้ากิ๊ฟ”
    กิ๊ฟ เฮ้ย นายไปคบพี่โชคตั้งแต่เมื่อไร”
    เสียงสองสามีภรรยาแทบจะพูดออกมาพร้อมๆ กันอีกครั้ง
     
    โชคชัยกับกณิการ์มองหน้ากันอย่างไม่เข้าใจ
     
    กิ๊ฟไปซื้อของชำร่วยงานแต่งงานให้เพื่อนน่ะ เขาไปธุระ เดี๋ยวเย็นๆ จะกลับบ้านพร้อมกัน” กณิการ์อธิบาย มองสาวฝ้ายให้รางวัลคนปากโป้งหนึ่งทีด้วยความสะใจ
     
    เพื่อนหนุ่มหรือสาว” ฝ้ายหันมาซัก
     
    สาวซิ เพื่อนกิ๊ฟเขาแต่งงานกับรุ่นพี่น่ะ แล้วจะไปเรียนต่อด้วยกันเลย เขาไปทำเรื่องเรียนต่อ เลยให้กิ๊ฟมาจ่ายของแทน”
     
    หญิงสาวอธิบายชี้ไปที่ห่อของในมือพี่ชายสาวฝ้าย เจ้ายอร์ชรีบมารับถุงไปหาที่วาง
     
    ไปกินข้าวกัน ฉันรู้ว่านายหิวแล้ว” ยอร์ชคว้าคอเพื่อนออกเดิน ฝ้ายเดินมาควงแขนพี่ชายดึงให้เดินช้าลง
     
    มากับกิ๊ฟได้ยังไงคะ”
     
    โชคชัยมองน้องสาวอย่างขำๆ ที่จับตัวมาซักนี่ เพราะหวงเพื่อนหรือหวงพี่กันแน่
     
    จำได้ว่าเพื่อนฝ้าย เห็นถือของหนักเลยมาส่ง”
     
    ชายหนุ่มไม่สนใจสายตาค้นหาของน้องสาว
     
    จำกิ๊ฟได้” เจ้าหล่อนทำเสียงไม่เชื่อล้านเปอร์เซ็นต์ “จำได้ตรงไหนกัน เจอเจ้ากิ๊ฟหรือเปล่าฝ้ายยังสงสัย บอกมาดีๆ นะคะ ว่าไปรู้จักกันที่ไหน ยังไง”
     
    ชายหนุ่มหัวเราะ อย่างนี้แสดงว่าหวงเพื่อนไม่หวงพี่ชายล่ะซิ
     
    จำได้ตรงที่...”
    ชายหนุ่มหยอดเสียงหวานอย่างกวนโมโหน้องสาว ยั่วเจ้าฝ้ายเล่นก็สนุกดีให้รู้เสียบ้าง เวลาพี่ชายหวงน้องสาวแล้ว เจ้าฝ้ายกระบึงกระบอนว่า น้องโตแล้วน่ะเป็นยังไง
     
    สูงเท่าหัวใจพี่พอดี”
     
    สาวฝ้ายกลั้นเสียงกรี๊ดกับการอยากทุบพี่ชายไว้สุดฤทธิ์
    เพื่อนรักฝ้าย มาทำจีบทิ้งจีบขว้างไม่ได้นะ”
     
    โชคชัยหัวเราะเสียงเขียวๆ ของน้องสาว
    ห้ามพี่ได้หรือเจ้าฝ้าย แล้ว...” ชายหนุ่มทิ้งท้าย เมื่อสองคนที่เดินมาก่อนรออยู่ในลิฟต์ “ห้ามใจเพื่อนฝ้ายได้ไหม”
     
    สาวฝ้ายห้ามเสียงตัวเองได้แต่ห้ามมือไม่ได้ โชคชัยแกล้งเซเข้าหาสาวตัวเล็ก แล้วต้องงอตัวหลบศอกแหลมๆ ที่เจ้าตัวยกกัน ยอร์ชเอื้อมมือมาจับช่วยพยุงพี่ชายภรรยาเอาไว้
     
    ระวังกิ๊ฟ พี่โชคล้มทับ นายได้แบนติดลิฟต์ เรายังไม่อยากได้พรมลายใหม่”
     
    ฝ้าย สามีนายปากปีจอ” กณิการ์หันไปฟ้องทันควัน
     
    เราก็ไม่อยากได้…พรมลายเอี๊ยม”
     
    โชคชัยอมยิ้ม ฟังเด็กๆทะเลาะกัน ก่อนเลิกคิ้วเมื่อดวงตากลมโตมองมาที่เขาอย่างชั่งใจว่าเขาจะช่วยอะไรเธอได้ไหม
     
    กณิการ์สบตาดวงตาคมสวยเหมือนเพื่อนสาวที่ทวีประกายระยับ ก่อนหักห้ามใจตัวเอง ตอนนี้เธอโดนไปสองแล้ว ไม่ต้องมาตอกย้ำเป็นครั้งที่สามหรอก สาวตัวเล็กที่สุดเมินมองกระจกแทน นึกว่าจะพ้น...เธอเห็นสายตาสามคู่มองมาที่เธอเหมือนกัน มองอย่างสำรวจตรวจตรา อยากร้องตะโกนว่า ไม่มีอะไร ไม่มีอะไรโว้ย เจอกันตรงป้ายรถเมล์แล้วเขาจำได้ว่าฉันเป็นเพื่อนฝ้าย กำลังมาหานายนะยอร์ช เขาเลยช่วยหิ้วของมาส่งเท่านั้น...เท่านั้นเองจริงๆ
     
    ระหว่างเดินมาที่ลิฟต์ เจ้ายอร์ชซักไซ้เธอเหมือนประกอบอาชีพทนายความยังไงยังงั้น ไม่อยากมีเรื่องเลยตอบไปตรงๆ ตรงๆ ด้วยความจริงล้วนๆ แล้วมามองเหมือนฉันพูดโกหกได้ยังไง กณิการ์ถลึงตาใส่พระเจ้ายอร์ช ในกระจก เจ้าเพื่อนตัวดียิ้มกว้างก่อนก้มลงกระซิบกระซาบกับภรรยาสาวให้รู้สึกคันๆ ในอารมณ์ ไม่มีอะไร ไม่มีอะไรยังไงล่ะ ไม่มีอารายยยยย กณิการ์ตะโกนก้อง แต่แค่ในใจเท่านั้น
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×